Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 469

Now you are reading Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Chapter 469 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]

บทที่ 469 : กลายร่าง (3)

“ทุกคนระวังตัวให้ดี..! อย่าเข้าไปใกล้กับปีศาจจิ้งจอกตนนั้น!”

ทาคุงาวะ ทาเคตากุไม่สนใจที่จะต่อปากต่อคำกับหลิงหยุน เขารีบร้องบอกเหล่านินจาที่รอดชีวิตให้ถอยห่างจากสุนัขจิ้งจอกตนนั้น

ตอนนี้.. ค่ายกลนวสังหารของหลิงหยุนได้ทำให้นินจามากกว่าสามสิบคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกสิบกว่าคนถึงแก่ความตาย และอีกสิบกว่าชีวิตก็ถูกฟ้าผ่าตาย ในเวลานี้จึงเหลือนินจาไม่ถึงห้าสิบคน!

“ท่านเองก็ระวังตัวให้ดีด้วย!” ยากิอุ ยูมะร้องบอกโทคุงาวะ ทาเคตากุ

ระหว่างที่เหล่านินจาต่างก็กำลังร้องตะโกนบอกกันอยู่นั้น ไป๋เสี่ยวเอ๋อก็วิ่งหลบอสุนีบาตที่ฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า นางวิ่งไปทางซ้ายทีทางขวาที และเหล่านินจาอีกสิบกว่าคนก็ถูกฟ้าผ่าตาย!

‘นินจางั้นรึ?’ หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่นึกเหยียดหยันอยู่ในใจ แววตาในเนตรหยินหยางของหลิงหยุนบ่งบอกว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะจัดการนินจาเหล่านั้นให้สิ้นซาก

ภายใต้เนตรหยินหยางของหลิงหยุนนั้น ยากที่ใครจะสามารถหลบพ้นสายตาของเขาได้ และด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วยิ่งกว่าไป๋เซียนเอ๋อ ประกอบกับพลังชี่ที่เต็มเปี่ยมในเวลานี้ กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของเขาจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปได้!

อย่าได้ถามหาความเมตตาปราณีจากหลิงหยุนในเวลานี้!

หลิงหยุนไม่รีบร้อนที่จะจู่โจมโทคุงาวะ ทาเคตากุ และยากิอุ ยูมะ เพราะเขายังไม่รู้ว่ากำลังภายในของคนทั้งคู่นั้นอยู่ในขั้นใหนกันแน่ และจะสามารถสังหารได้ง่ายดายหรือไม่ ?

แต่หลังจากที่หลิงหยุนได้สังหารนินจาไปมากกว่าสิบคนแล้ว โทคุงาวะ ทาเคตากุก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีก เพราะหากเขายังคงนิ่งเฉยอยู่ได้ เขาก็คงไม่ต่างจากผู้บัญชาการหัวหลักหัวตอ..

ทางด้านทหารอเมริกันที่มาพร้อมอาวุธครบมือนั้น บางส่วนที่อยู่บนเรือก็ถูกคลื่นซัดห่างออกไป บางคนก็จมลงไปในทะเลพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ และในเวลานี้ทหารอเมริกันที่รอดมาได้ก็มีเพียงไม่ถึงยี่สิบนาย ตอนนี้สายตาของพวกเขาที่จับจ้องไปในทิศทางเดียวกันนั้นล้วนเต็มไปด้วยความงุนงง!

“พวกเรารีบไปจัดการกับจอมยุทธชาวจีนนั่น แล้วก็รีบกลับกันดีกว่า!” โทคุงาวะ ทาเคตากุร้องบอกยากิอุ ยูมะ และทั้งคู่ก็วิ่งเข้าไปหาหลิงหยุน

แม้ทั้งคู่ต่างก็กระเหี้ยนกระหือที่จะปะทะกับหลิงหยุน แต่หลิงหยุนเองกลับยังไม่ต้องการ เขายังต้องการเล่นซ่อนแอบกับโทคุงาวะ และยากิอุไปก่อน ระหว่างนี้ก็ค่อยๆจัดการเอาชีวิตนักรบญี่ปุ่นคนอื่นๆ ไปก่อน

โทคุงาวะ ทาเคตากุ หันไปตะโกนสั่งเหล่านินจาที่อยู่ในระดับต่ำกว่าขั้นเซียงเทียนลงไปที่เหลืออยู่ราวยี่สิบคน “พวกเจ้าบุกเข้าไปพร้อมๆกัน ส่วนข้ากับยากิอุจะคอยคุ้มครองพวกเจ้าเอง!”

เหล่านินจาเดินเข้าไปหาหลิงหยุนด้วยท่าทางผยอง และเคียดแค้น ดูเหมือนว่าพวกมันต้องการจะเข้าไปแก้แค้นหลิงหยุนที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นต้องสูญเสียทหารกล้าไปหลายนาย

หลิงหยุนอาศัยจังหวะที่พวกมันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ใช้มังกรพรางร่างพุ่งเข้าไปจัดการกับนินจาทั้งห้าคนที่อยู่ด้านหน้า ทำให้นินจาที่พุ่งตามมาถึงกับชะงักทันที!

ผ้าคลุมหน้าสีดำของหลิงหยุนในเวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นสีแดง และกระบี่โลหิตแดนใต้หลังจากที่ได้ดื่มเลือดผู้คนไปมากมาย ใบมีดสีดำของมันจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ยิ่งนานก็ยิ่งดูเหมือนดวงตาปีศาจมากขึ้น

“ยังเหลืออีกสิบห้าคนสินะ..” หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองไปทางนินจาสิบห้าคนที่เข้าไปยืนรวมกัน

เสียงกรีดร้องของไป๋เซียนเอ๋อทั้งดังและดุดันขึ้นเรื่อยๆ และในเวลานี้นางก็ไม่สามารถกรีดร้องออกมาเยี่ยงมนุษย์ได้อีก แต่กลับเป็นเสียงเห่าหอนอย่างโหยหวนของสุนัขจิ้งจอกที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแทน หลิงหยุนได้ฟังก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดนี้ไว้ และหันไปสังหารนินจาญี่ปุ่นเพื่อไม่ให้ต้องคิดเรื่องของไป๋เซียนเอ๋อแทน

โทคุงาวะ ทาเคตากุสำรวจจำนวนนักรบที่เหลือ ตัวเขารวมทั้งยากิอุ ยูมะ และนินจาที่เหลือ รวมแล้วก็เหลือนักรบอยู่ทั้งหมดสิบห้าคน มีแปดคนอยู่ในขั้นเซียงเทียน-2 และมีห้าคนอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-1 ทั้งหมดใช้ภาษาญี่ปุ่นสื่อสารกัน และในตอนนี้สายตาของนินจาที่มองไปทางหลิงหยุนนั้น ต่างก็เต็มไปด้วยความตกใจ และหวาดผวา!

ก่อนที่เหล่านินจาทั้งหมดจะเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ พวกเขาต่างก็ได้รับข้อมูลว่าหลิงหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!

แม้แต่ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 ทั้งสองคนยังไม่สามารถต้านหลิงหยุนได้ และถูกเขาสังหารภายในพริบตา!

หลิงหยุนไม่ใส่ใจกับนักรบญี่ปุ่นมากนัก เขาแอบเดินลมปราณ และเคลื่อนพลังหยินหยางไปทั่วทั้งร่างกาย ในใจก็คิดว่าเขาควรจะต้องดื่มน้ำลายมังกรเพิ่มอีก เพราะได้ใช้มังกรพรางร่างขั้นสูงสุดไป ไม่เช่นนั้นคงยากที่จะไล่ล่ายอดฝีมือขั้นเซียงเทียนได้อย่างง่ายดาย และเพื่อสังหารนักรบญี่ปุ่นเหล่านี้ หลิงหยุนจำเป็นต้องใช้เพลงกระบี่พายุซึ่งต้องใช้พลังมาก!

หลังจากที่จัดการกับเหล่านินจาไปบางส่วนแล้ว ตอนนี้พลังชี่ในตัวหลิงหยุนก็เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว จากนี้ไปคงจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมากขึ้น เพราะเหลือแต่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง!

หลิงหยุนโคจรดารกะดายันไปทั่วทั้งร่าง และเดินวิชาพลังลับหยินหยางไปพร้อมๆกันด้วย เขาค่อยๆก้าวเดินลงมาจากเนินเขาเตี้ยๆ และพูดกับทหารอมริกันที่กำลังตกตะลึงด้วยภาษาอังกฤษ

“หากพวกเจ้าไม่อยากตาย ก็รีบวางอาวุธแล้วออกไปจากเกาะเตียวหยูเสีย และหากภายในห้านาทีพวกเจ้ายังไม่ออกไปจากที่นี่ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน!”

ระหว่างที่พูดนั้น หลิงหยุนก็ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือชูขึ้นเพื่อเป็นการข่มขู่!

แต่ดูเหมือนหนึ่งในทหารอเมริกันจะไม่เชื่อ และอยากทดสอบระเบิดชนิดใหม่ที่อยู่ในมือ แต่กลับถูกหัวหน้าที่อยู่ข้างกายห้ามไว้ก่อน!

แต่ถึงกระนั้น.. ท่าทางที่อยากลองดีของเขาก็ไม่สามารถหนีพ้นสายตาที่แหลมคมของหลิงหยุนได้ ตะปูยาวแปดนิ้วพุ่งเข้าใส่คิ้วของทหารเรือนายนั้นทันที ปากของเขาอ้าออกและกำลังจะกรีดร้องออกมา แต่ก็ล้มลงไปบนพื้นเสียก่อน..

“ยังเหลืออกีสี่นาที จะอยู่เล่นกับข้าที่นี่หรือจะรีบกลับไป พวกเจ้าตัดสินใจกันเอง!” หลิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียง แววตา และสีหน้าที่นิ่งเรียบ

เสียงทิ้งอาวุธดังขึ้นมา และหนึ่งในนั้นก็โยนอาวุธทิ้งพร้อมกับยกมือขึ้นร้องตะโกนว่า “พวกเรายอมแพ้.. และจะรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ กรุณาอย่าฆ่าพวกเราเลย!”

นี่คือความแตกต่างระหว่างทหารอเมริกันกับทหารญี่ปุ่น ในความคิดของชาวอเมริกัน ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และต้องมาก่อนเรื่องอื่นใด! อีกทั้งพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ เพราะขืนอยู่ต่อไป ก็เท่ากับว่าพวกเขาเอาชีวิตมาทิ้งโดยใช่เหตุ!

หลิงหยุนมองทหารอเมริกันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “กลับไปบอกผู้บัญชาการระดับสูงของพวกเจ้าด้วยว่า หากไม่ต้องการให้กองทัพอเมริกันต้องจมหายไปในทะเล ก็สั่งให้พวกที่เหลือกลับไปด้วย!”

หลิงหยุนรู้ดีว่าอสุนีบาตนี้ไม่ใช่ฟ้าผ่าธรรมดา มันรุนแรงและน่ากลัวอย่างยากที่จะจินตนาการได้ แม้กระทั่งอาวุธสงคราม หรือระเบิดมิซไซล์ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้!

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

เจ้าขาวปุยหอนออกมาอย่างโหยหวนครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่รู้ว่าจะต้องหนีไปทางใหนอีก เฮลิคอปเตอร์สองลำที่สามารถหนีพายุ และสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย แต่กลับถูกสายฟ้าอสุนีบาตผ่าลงจนระเบิดทั้งสองลำ!

และแล้วสายฟ้าที่ผ่าลงมาก็ค่อยๆเล็กลง กลุ่มเมฆมหึมาเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง และเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเข้มเป็นสีดำคล้ายน้ำหมึก อสุนีบาตชุดใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น!

ภาพที่หลิงหยุนเห็นนั้น.. ร่างของสุนัขจิ้งจอกบอบช้ำ และเกิดบาดแผลฉกรรจ์ไปทั่วทั้งตัว ขนนุ่มนวลสีขาวถูกฟ้าผ่าจนไหม้ เหลือเพียงผิวหนังไหม้เกรียมสีดำ สลับกับหนังสดๆสีแดง! ไม่รู้ว่ามันถูกฟ้าผ่าไปกี่ครั้ง ขนสีขาวของมันจึงได้กลายเป็นเถ้าไปหมด!

ด้วยบาดแผลที่เจ็บปวดสาหัสนี้ ทำให้ร่างของเจ้าขาวปุยถึงกับสั่นเทิ้ม ขี้เถ้าสีดำที่เกิดจากขนถูกไฟเผาลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว บนร่างของมันเหลือเพียงเนื้อสีแดงสดๆ พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า!

นี่คืออสุนีบาตของจริง แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่ชุดแรก แต่สุนัขจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางก็ยังยากที่จะทานทนได้!

“เซียนเอ๋อ.. ถ้าเจ้าเจ็บปวดมาก ใช้ยันต์บำบัดรักษา หลังจากที่แผลหายสนิทแล้ว ให้รีบใช้ยันต์เพชร และยันต์เกราะเพื่อป้องกันอสุนีบาตชุดต่อไป!”

หลิงหยุนร้องตะโกนบอกเจ้าขาวปุยที่มีอาการหวาดกลัวอสุนีบาตอยากมาก จนลืมเรื่องยันต์ที่เขาให้ไปเสียสนิท!

สีหน้าของเจ้าขาวปุยดูเจ็บปวดอย่างที่สุด และแววตาของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา มันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังจะมีอสุนีบาตที่ทั้งใหญ่ และมีอานุภาพรุนแรงกว่าครั้งแรกหลายเท่านัก!

แต่มันยังไม่ยอมแพ้!

หลิงหยุนค่อยรู้สึกโล่งอก และได้แต่คิดว่าเซียนเอ๋อมีนิสัยที่คล้ายกับเขามาก

“ดูเหมือนมันกำลังปกป้องปีศาจจิ้งจอกนั่น.. จัดการกับสุนัขจิ้งจอกนั่นซะ!”

เมื่อโทคุงาวะ ทาเคตากุเห็นหลิงหยุนพะว้าพะวังกับเจ้าขาวปุย เขาจึงมองเห็นจุดอ่อนของหลิงหยุน และรีบตะโกนสั่งให้ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 สี่คนให้เข้าไปจัดการกับเจ้าขาวปุย..

หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่พึมพำว่า “รนหาที่ตายชัดๆ!”

หลิงหยุนใช้มังกรพพรางร่างขั้นสูงสุด ร่างจริงเคลื่อนออกจากร่างลวงตา และไปปรากฏอยู่หน้านินจาทั้งสี่คน..

นินจาคนแรกถูกหลิงหยุนฟันตรงกลางขาดเป็นสองท่อน! คนที่สองถูกฟันขาดสะพายแล่ง! คนที่สามถูกกระบี่โลหิตแดนใต้ฟันหลายบาดแผลจนเลือดกระเซ็นไปทั่ว!

ส่วนคนสุดท้ายถูกหมัดปีศาจเถียนกังของหลิงหยุนชกเข้าที่หน้าอกตัดขั้วหัวใจทันที!

หลิงหยุนจัดการยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 ทั้งสี่คนภายในหนึ่งลมหายใจ ร่างของเขาในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยเลือดของศัตรู

หลิงหยุนเริ่มเหนื่อยและหมดแรง แต่ยังมีศัตรูเหลืออีกสิบเอ็ดคน ซึ่งในจำนวนนั้นมียอดฝืมือขั้นเซียงเทียน-2 สี่คน ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-1 ห้าคน และขั้นเซียงเทียน-3 อีกสองคน!

“นายท่าน!” เจ้าขาวปุยมองหลิงหยุนจากด้านหลังด้วยความรู้สึกกังวล

หลิงหยุนตอบกลับไปทันที “เจ้าไม่ต้องห่วงข้า! รีบฟื้นตัวให้เร็วที่สุด แล้วมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทดสอบ!”

โทคุงาวะดูมีความสุขอย่างมาก เขาตะโกนสั่งอีกครั้ง “มันมีแรงต้านทานได้อีกไม่นานหรอก!”

ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-1 ทั้งห้าคน ต่างก็ถือดาบยาวพุ่งเข้าหาหลิงหยุน! พวกมันล้วนไม่กลัวตาย และต่างก็ใช้วิชาสูงสุดของตนเองเข้าจู่โจมเขา!

ยอดฝีมือทั้งห้าคนพุ่งไปล้อมรอบหลิงหยุน ดาบเป็นประกายวูบวาบกระหน่ำฟันเข้าใส่หลิงหยุนพร้อมๆกัน ระหว่างที่เขาเอนหลังหลบดาบที่แทงเข้ามาทางด้านหน้า และฟันดาบของฝ่ายตรงข้ามหักนั้น แผ่นหลังของหลิงหยุนก็ถูกดาบฟันเข้าสองแผล!

ในเวลาเดียวกันนั้นเองกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุน ก็ฟันเข้าที่ลำคอของนินจาที่อยู่ตรงด้านหน้าทั้งสี่คน!

ชัวะ! ชัวะ! ชัวะ! ชัวะ!

เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมา และยอดฝีมือทั้งสี่ก็ถูกหลิงหยุนสังหาร ส่วนแผ่นหลังของเขาก็มีบาดแผลยาวเกือบสองฟุตถึงสองแห่ง!

ดาบที่ฟาดฟันใส่แผ่นหลังของหลิงหยุนทั้งสองครั้งนั้น มีการถ่ายเทพลังชี่ลงไปที่คมดาบเพื่อที่จะสังหารเขาอย่างเหี้ยมโหด แม้ว่าหลิงหยุนจะโคจรดารกะดายันไว้ทั่วร่างกายแล้ว ก็ยังถึงกับเป็นบาดแผลที่ค่อนข้างสาหัส!

หลิงหยุนไม่สนใจกับบาดแผลบนแผ่นหลัง เขาถือกระบี่โลหิตแดนใต้หันไปเผชิญหน้ากับนินจาที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และจัดการสังหารมันภายในดาบเดียว!

ตอนนี้ร่างของหลิงหยุนเปื้อนไปด้วยเลือด เขาทั้งเหนื่อยล้า และใช้กำลังไปมาก เขารีบเรียกยันต์บำบัดระดับสองออกมาติดไว้ที่แผ่นหลังทันที จากนั้นบาดแผลก็หายสนิทอย่างรวดเร็ว

ฮู่.. ฮู่.. ฮู่..

เสียงหลิงหยุนหายใจเข้าทางปากอย่างเหนื่อยหอบ เขากระชากเสื้อคลุม และผ้าคลุมหน้าออก พร้อมกับจ้องมองไปทางโทคุงาวะ ทาเคตากุ แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา

“ยังเหลืออีกหกคนสินะ..”

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

อสุนีบาตชุดที่สองเริ่มต้นขึ้น และสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ฟาดลงมาบนร่างของเจ้าขาวปุยทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด