Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 529

Now you are reading Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Chapter 529 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]

บทที่ 529 : ทุกคนออกไปให้หมด!

แขกคนอื่นๆที่อยู่ชั้นหกต่างก็พากันวิ่งออกมาจากห้องส่วนตัวกันหมด และห้องดูทะเลสาบที่หลิงหยุนนั่งรับประทานอาหารอยู่นั้นก็มีผู้คนออกันหนาแน่นอยู่หน้าประตู

ถึงแม้หลิงหยุนจะใช้กำปั้นชกไปที่ลำตัวของตำรวจเหล่านั้น แต่เขาก็ออกแรงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ใด แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเวลานี้ เพียงความแรงเท่านั้นก็สามารถส่งให้คนทั้งหกกระเด็นออกไปไกล แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ..

จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็นับว่าทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ภายในรัศมียี่สิบเมตรรอบตัวเขาล้วนถูกจิตหยั่งรู้มองเห็นหมด หลิงหยุนจึงรู้ดีว่าถังเทียนห่าวตอนนี้อยู่ด้านนอกภัตตาคารจิงฉู

ดังนั้น.. หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องรักษาหน้าของถังเทียนห่าว เพราะหากเขาทำร้ายร่างกายตำรวจพวกนี้จริงๆ เมื่อถังเทียนห่าวขึ้นมา ก็คงยากที่จะสู้หน้าคนอื่นๆได้

“นี่แก.. แกกล้าขัดขืนการจับกุม แล้วยังกล้าทำร้ายร่างกายตำรวจอีกเหรอ?!”

หัวหน้าจ้าวถูกร่างของตำรวจสองนายกระแทกจนล้มลงไป แต่ก็พบว่านอกจากก้นที่กระแทกกับพื้นแล้ว เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ส่วนใหนเลย หัวหน้าจ้าวดิ้นขลุกขลักและพยายามผลักร่างของตำรวจสองนายที่ทับอยู่ออก พร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าตะโกนใส่หลิงหยุน

ปฏิกิริยาแรกที่หัวหน้าจ้าวอยากจะทำก็คือการชักปืนออกมายิงใส่หลิงหยุน แต่เมื่อพบว่ามีฝูงชนมุงดูอยู่มากมาย เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ใช้อาวุธอย่างที่ใจต้องการ

และก็นับว่าโชคดีที่หัวหน้าจ้าวไม่ชักปืนยิงออกไป เพราะหากเขากล้ายิงปืนใส่หลิงหยุนจริงๆ หลิงหยุนคงไม่ลังเลที่จะฆ่าเขาอย่างแน่นอน

ตำแหน่งที่หลิงหยุนนั่งอยู่นั้นหันหน้าออกไปทางประตูพอดี เขาฉีกยิ้มให้กับหัวหน้าจ้าวแล้วตอบไปว่า

“ถ้าคุณอยากจะจับตัวผมก็เข้ามาได้เลย ผมจะนั่งกินอาหารรออยู่ตรงนี้ และกำปั้นของผมก็รอต้อนรับคุณอยู่ทุกเมื่อ..”

พูดจบ.. หลิงหยุนก็ไม่สนใจอะไรอีก แม้แต่เหตุการณ์ชุลมุนที่หน้าประตู เพราะนี่เป็นเวลาทานอาหารของเขา..

“สุดยอดจริงๆ ตั้งแต่ออกเดินทางท่องเที่ยวมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอะไรที่สุดยอดแบบนี้!”

“พ่อครับ.. พี่ตัวโตคนนั้นเก่งจัง! ผมอยากจะขอลายเซ็น แล้วโตขึ้นผมจะจัดการกับตำรวจแบบพี่เขาด้วย..”

“โอ้โห.. หมอนั่นโคตรโหดเลย! ขนาดตำรวจล้อมขนาดนี้ยังจะมีอารมณ์นั่งกินอยู่ได้? สงสัยจะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงแน่ๆเลย”

“วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตา..”

……………

ผู้คนที่มามุงดูอยู่หน้าห้องของหลิงหยุนนั้น ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวมาจากทั่วทุกสารทิศ รวมทั้งคนพื้นที่ด้วย และเมื่อได้เห็นความเก่งกาจของหลิงหยุน ทุกคนก็ได้แต่ร้องอุทานออกมาด้วยความชื่นชม

ภายในห้องดูทะเลสาบนั้น เหมี่ยวเสี่ยวเหมาและเสี่ยวเม่ยหนิงต่างก็นั่งกินอาหารกันเงียบๆ โดยเฉพาะเสี่ยวเม่ยหนิงที่สีหน้าดูเหมือนจะมีความสุขที่สุด

หลิงหยุนขยิบตาให้กับเสี่ยวเม่ยหนิงพร้อมกับใช้ปลายตะเกียบดันจานอาหารให้กับเธอ และพูดขึ้นว่า

“นี่หนิงน้อย.. กินนี่เร็วเข้า! อย่าเอาแต่นั่งยิ้ม..”

“ฮ่า.. ฮ่า..”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงหยุน เสี่ยวเม่ยหนิงก็ได้แต่หัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบายอกสบายใจพร้อมกับแอบกระซิบว่า

“โอ้โห.. กินไปด้วยชกตำรวจไปด้วย เหลือเชื่อจริงๆ!”

หลิงหยุนได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ “พูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นหนิงน้อย! เหมี่ยวเสี่ยวเหมา.. ผมว่าคุณต้องกำราบน้องสาวบ้างนะ! กลับบ้านไปอย่าลืมฟ้องท่านปู่เสี่ยวด้วยว่าหนิงน้อยทำวีรกรรมอะไรไว้บ้าง..?”

เหมี่ยวเสี่ยวเหมาที่แม้จะยังคงสงบนิ่งอยู่ได้ แต่ในครั้งนี้กลับอดรนทนต่อไปไม่ไหว จึงได้แต่ยกตะเกียบในมือชี้ไปทางหลิงหยุนพร้อมกับตอบไปว่า

“นายก็ไม่ได้ดีไปกว่าหนิงน้อยเลย.. รีบๆกินเร็วเข้า!”

“ผมอิ่มแล้ว.. กินเข้าไปเยอะมาก!”

ระหว่างที่คุยกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้น.. สายตาของหลิงหยุนก็จับจ้องอยู่ที่หน้าอกของเธออย่างเป็นจริงเป็นจัง และกำลังประเมินขนาดของมันอยู่ว่าอาจจะถึง 34D

“นี่.. นายกำลังมองอะไร?”

เหมี่ยวเสี่ยวเหมาสังเกตเห็นสายตาของหลิงหยุน ก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ..

“เอิ่ม.. ผมเห็นชุดที่คุณใส่อยู่สวยดี คุณซื้อมาจากที่ใหนเหรอ? ผมกำลังคิดว่าจะซื้อไปฝากหลิงยู่สักชุด..”

หลิงหยุนรีบปฏิเสธอ้อมๆ เพื่อปิดบังความคิดที่แท้จริงของตนเอง..

ที่ประตูหน้าห้องส่วนตัว ตำรวจทั้งห้านายและหัวหน้าจ้าวต่างก็กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ! ผู้คนที่มุงดูอยู่ต่างก็พากันตกใจและตะลึงกันไปหมด แต่ดูเหมือนความวุ่นวายโกลาหลเหล่านี้ จะไม่สามารถทำให้ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องสะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขายังคงนั่งกิน พูดคุย และหัวเราะกันอย่างสนุกสนานราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อย่าว่าแต่หลิงหยุนจะอยู่ที่นี่ด้วยเลย.. ต่อให้มีเพียงแค่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาอยู่ในห้องนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะตัวเธอเองก็มีวรยุทธเช่นเดียวกับหลิงหยุน!

ตอนนี้เหมี่ยวเสี่ยวเหมาอยู่ในระดับเริ่มต้นของขั้นโฮ่วเทียน-8 และหากจำเป็นต้องลงมือ เธอก็แค่ใช้หนอนกู่จัดการกับทุกคน ถึงตอนนั้นต่อให้เจ้าหน้าที่ทั้งหกคนที่กำลังคลุ้มคลั่งอยู่นี้ไปโรงพยาบาล แม้แต่หมอเองก็ยังยากที่จะตรวจพบว่าพวกเขาเจ็บป่วยด้วยสาเหตุอะไร?

………..

“อะไรกัน..? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

หลิวจินไล๋พร้อมกับรองผู้อำนวยการเขตอีกสองคน พากันเบียดฝูงชนขึ้นมาที่ชั้นหกของภัตตาคาร แต่เมื่อมาถึงกลับพบผู้ใต้บังคับบัญชาของตนทั้งหกคนอยู่ในสภาพแบบนั้น ในใจของเขาก็คิดขึ้นมาทันทีว่าครั้งนี้เขาคงต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่อีกแน่นอน

หลังจากทำความเข้าใจภาพโดยรวมของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้แล้ว ใบหน้าของหลิวจินไล๋ก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันทีพร้อมกับร้องตะโกนถามออกไป

“นี่มันอะไรกัน? กล้าขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจงั้นเหรอ?”

“แล้วยังกล้าทำร้ายตำรวจกลางวันแสกๆด้วย ช่างยะโสโอหังจนไม่เห็นกฏหมายอยู่ในสายตา!”

และความฝันของหลิวจินไล๋ก็ได้กลายเป็นเพียงแค่ความฝัน..!

เขาตั้งใจที่จะพาผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคง – ถังเทียนห่าว มาทานอาหารเพื่อกระชับความสัมพันธ์ แต่กลับต้องมาพบเจอกับปัญหามากมาย ในใจของเขาจึงทั้งโกรธ และเคียดแค้น

ลูกน้องในหน่วยงานของเขาถูกจับโยนออกไปกลางทะเลสาบ และตอนนี้ตำรวจอีกหลายนายยังถูกจับโยนออกมานอกห้อง หลิวจินไล๋ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใหน ครั้งนี้เขากำลังเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่มากจริงๆ!

เพราะเพียงแค่ได้เห็นฝีมือของอีกฝ่าย หลิวจินไล๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป!

แต่ในเมื่อรูปการณ์ออกมาเป็นเช่นนี้ หลิวจินไล๋ก็ทำได้เพียงแค่กัดฟัน เมื่อครู่จางเติงเกอเป็นฝ่ายทำผิดพลาดเอง แต่ตอนนี้คนผู้นี้ได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็สามารถที่จะใช้ข้อหานี้จับกุมตัวชายผู้นี้ได้!

หากปล่อยให้หลิงหยุนรับประทานอาหารเสร็จ แล้วเดินออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น หน้าตาของเขาคงต้องถูกทำลายลงจนไม่เหลืออะไรอย่างแน่นอน และคงต้องลาออกไปนอนกอดลูกเมียที่บ้านแทน!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลิวจินไล๋จึงเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในห้องดูทะเลสาบ ใจของเขาเต้นแรง และใบหน้าก็ซีดเผือด

‘เด็กนี่หน้าตาคุ้นๆ เหมือนกับเคยเจอที่ใหนมาก่อน?’

หลิวจินไล๋จ้องมองใบหน้าของหลิงหยุน และพยายามครุ่นคิดว่าเขาเคยพบเด็กหนุ่มคนนี้ที่ใหน? แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ออกเสียที!

หลิวจินไล๋ได้เคยพบหลิงหยุนมาก่อนจริง แต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และตอนนั้นหลิงหยุนเองก็ยังไม่ผอมเช่นนี้ หลิวจินไล๋เคยเห็นรูปของหลิงหยุนจากโทรศัพท์ของตำรวจคนอื่น

แต่ยิ่งคิดแล้วคิดไม่ออก.. หลิวจินไล๋กลับยิ่งรู้สึกกังวล เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับเหงื่อเย็นๆที่กำลังไหลท่วมตัว

และหากวันนี้เจ้านายของเขาเป็นหลัวจ้ง หลิวจินไล๋ก็คงจะทำอะไรได้ง่ายกว่านี้!

หลิวจินไล๋มองหน้าหลิงหยุนที่ยังคงนั่งกินอาหารอย่างสบายอกสบายใจ และไม่มีท่าทีสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย หลิวจินไล๋เองก็แอบคิดในใจเงียบๆว่า เขาเป็นถึงผู้อำนวยการเขต แต่เพราะเหตุใดเขาจึงรู้สึกหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าเข้าไปในห้อง!?

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน หลิวจินไล๋จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องดูทะเลสาบ..

หลิวจินไล๋พยายามที่จะเดินตัวตรงเข้าไปในห้องด้วยท่วงท่าที่น่าเกรงขาม แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด.. ต่อหน้าหลิงหยุนเขากลับไม่กล้าแม้แต่จะยืดตัวตรง!

“สวัสดีพ่อหนุ่ม.. ฉันเป็นผู้อำนวยการหน่วยงานรักษาความมั่นคงของเขตจิงฉี แซ่หลิว..”

แต่เมื่อคำพูดหลุดออกมาจากปากของหลิวจินไล๋ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้อง นักท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงรองผู้อำนวยการอีกสองคนก็ถึงกับมีสีหน้างุนงง!

หลิวจินไล๋เป็นถึงผู้อำนวยการหน่วยงานรักษาความมั่นคงของเขตจิงฉู ถึงแม้ตำแหน่งของเขาจะด้อยกว่าถังเทียนห่าว แต่ก็ไม่ได้ต่ำต้อยอะไรมากมาย แล้วเพราะเหตุใดวันนี้เขาจึงดูหวาดหวั่นเช่นนี้!

“หนิงน้อย.. รีบๆกินเร็วเข้า ยังต้องรีบกลับไปเรียนต่อ..”

หลิงหยุนไม่สนใจหลิวจินไล๋เลยแม้แต่น้อย แต่กลับเร่งให้เสี่ยวเม่ยหนิงรีบทานข้าวให้เสร็จเร็วๆ

‘นี่มันอะไรกัน?’

หลิวจินไล๋ที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูถึงกับนิ่งอึ้ง และงุนงงเมื่อเห็นหลิงหยุนทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ในใจของเขายังคงรู้สึกกล้าๆกลัวๆอย่างบอกไม่ถูก แม้จะรู้สึกโกรธมากแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมา

เมื่อเห็นหลิงหยุนไม่สนใจ.. หลิวจินไล๋จึงได้แต่เดินไปกระซิบถามจากสาวเสริฟหน้าตางดงามแทน

เมื่อเธอเห็นว่าหลิวจินไล๋เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง พนักงานเสริฟหญิงก็ไม่กล้าที่จะปิดบังเลยแม้แต่นิดเดียว และได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้หลิวจินไล๋ฟังอย่างละเอียด

พนักงานเสริฟสาวสวยบอกเล่าความจริงทุกอย่างโดยละเอียด แต่เพราะเธอเกลียดชังจางเติงเกอเป็นทุนเดิม และค่อนข้างเอนเอียงเข้าข้างหลิงหยุน จึงได้เล่าไปทำนองว่าหลิงหยุนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเลยแม้แต่นิดเดียว และจางเติงเกอเป็นฝ่ายผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังจัดการโยนความผิดทั้งหมดให้กับจางเติงเกอด้วย..

หลิงหยุนได้ยินแล้วก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก พร้อมกับคิดในใจว่าสาวสวยคนนี้ไม่เพียงหน้าตางดงาม แต่ยังฉลาดพูดอีกด้วย

หลังจากที่หลิวจินไล๋ได้ฟัง.. เขาก็นึกโกรธจางเติงเกอสุดขีด ‘ช่างโง่สิ้นดี! ในเมื่อมันยอมเปลี่ยนห้องให้แล้ว ยังไปมีเรื่องอีกทำไมกัน?’

หลิวจินไล๋โมโหที่จางเติงเกอช่างสร้างปัญหาให้กับตนเอง และทำให้เขาต้องเสียหน้าอย่างที่สุด!

เห็นได้ชัดว่าหลิงหยุนไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว  ‘ไม่แปลกที่มันจะกล้าทำร้ายพวกแก’

แต่เรื่องที่หลิงหยุนทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น หลิวจินไล๋จะไม่จัดการก็ไม่ได้ เพราะเป็นการขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“อ่อ.. ที่แท้เรื่องราวก็เป็นอย่างนี้นี่เอง! พ่อหนุ่ม.. ดูเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้จะโทษเธอไม่ได้! นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด.. เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น..”

หลิวจินไล๋เลือกที่จะตอบโต้อย่างชาญฉลาด เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนยังคงไม่พูดไม่จา เขาจึงพูดต่อว่า..

“แต่เรื่องที่เธอจับคนโยนลงไปด้านล่าง และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มันอุกอาจเกินไป ขอให้ตามเราไปที่สถานีตำรวจด้วย..”

น้ำเสียงของหลิวจินไล๋นั้นออกไปในทางอ้อนวอนมากกว่าจะเป็นการออกคำสั่ง..

ในสถานการณ์เช่นนี้หลิวจินไล๋ไม่สามารถทำอะไรได้มาก จะทำร้ายหลิงหยุนก็ไม่มีความสามารถพอ จะชักปืนออกมายิงก็ทำไม่ได้เพราะเจ้านายของเขาอยู่ด้านนอกภัตตาคาร หลิวจินไล๋จึงต้องหาช่องทางด้านกฎหมายจัดการกับเด็กหนุ่มแทน เขาไม่มีทางเลือกอื่น!

หลิงหยุนที่เพิ่งจะกินอาหารเสร็จพอดี ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมองหลิวจินไล๋พร้อมกับตอบไปว่า

“ผมไม่มีเวลา..”

“นี่..” หลิวจินไล๋ถึงกับพูดไม่ออก

………..

ทางด้านล่างของภัตตาคารนั้น.

หลังจากที่หลิวจินไล๋ขึ้นไปข้างบนแล้ว ถังเทียนห่าวก็หันไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่ถูกจับโยนลงมาสองสามคน ในขณะเดียวกันสายตาของเขาก็สอดส่ายไปตามที่จอดรถ

ถังเทียนห่าวซักถามถึงรูปลักษณ์ของคนที่ทำร้ายเขา  และจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่นั้น ต่างก็อธิบายรูปลักษณ์ออกมาได้ตรงกัน และนั่นทำให้ถังเทียนห่าวถึงกับใจเต้นแรง!

และถังเทียนห่าวก็มองเห็นรถแลนด์โรเวอร์สีเงินที่คุ้นตา และนั่นทำให้เขามั่นใจได้ทันที!

ถังเทียนห่าวไม่สนใจภาพพจน์ของหัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงอีก เขารีบวิ่งไปหามุมที่จะสามารถมองเห็นป้ายทะเบียนของรถแลนด์โรเวอร์คันนั้นได้..

ระหว่างที่กำลังส่องดูป้ายทะเบียนรถอยู่นั้น ถังเทียนห่าวก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของหลิวจินไล๋และจางเติงเกอ!

ถังเมิ่งขับรถแลนด์โรเวอร์ของหลิงหยุนกลับบ้านทุกวัน มีหรือที่ถังเทียนห่าวจะจำเลขทะเบียนไม่ได้!

หลังจากที่ถังเทียนห่าวมั่นใจแล้วว่าเป็นรถของหลิงหยุนแน่.. เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นหกของภัตตาคารจิงฉูทันทีพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาหลิวจินไล๋!

“หลิวจินไล๋.. ไม่ว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่.. ตอนนี้คุณกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดต้องรีบออกจากห้องนั้นทันที.. เดี๋ยวนี้!”

ถังเทียนห่าวแทบคลั่ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด