Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 656 : เหตุผล

Now you are reading Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Chapter 656 : เหตุผล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เธอ.. หรือว่าเธอรังเกียจที่ฉันผ่านการแต่งงานมาแล้ว?”

 

ซูปิงหยานลังเลใจอยู่นาน และในที่สุดจึงตัดสินใจถามหลิงหยุนออกไปแบบนั้น เพราะดู เหมือนจะไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่จะทําให้หลิงหยุนรังเกียจเธอได้

 

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “เรื่องพวกนี้จะคุยกันให้จบในวันนี้เท่านั้น. และวันหลังอย่า ได้พูดอีก!”

 

เพราะเสี่ยวเม่ยเม่ยเองก็ไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์เช่นกัน..

 

ในการฝึกตนของหลิงหยุนนั้น หากแม้แต่หญิงสาวบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์นั้น เขายังไม่ สามารถก้าวข้ามได้แล้วล่ะก็ คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่จะฝึกจนถึงขั้นกายทองคํา หรือแม้แต่ขันอมตะเลย

 

หลิงหยุนย้ำประโยคสุดท้ายด้วยน้ําเสียงจริงจัง! เมื่อซูปิงหยานได้ฟังเธอเองก็ถึงกับสั่นเพิ่มขึ้น มาทันที และน้ำตาก็ไหลพรากออกมาอาบแก้ม มันคือน้ําตาแห่งความสุข!

 

ซูปิงหยานพูดด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ “หลิงหยุน.. ฉันอายุสามสิบเอ็ดแล้ว ห่างกับเธอถึงสิบสามปี แล้วฉันก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้จริงๆนะเหรอ? เธอยอมรับได้ จริงๆงั้นเหรอ?”

 

หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับฉีกยิ้มจนเห็นลักยิ้มแก้มซ้าย และรอยยิ้มที่แสนมีเสน่ห์ของเขาก็ ทําให้ซูป่งหยานแทบอ่อนระทวย ตอนนี้เธอกําลังรู้สึกมีความสุขอย่างมาก..

 

“แต่อย่างที่บอก.. หลังจากถูกรถชน ความทรงจําในอดีตบางส่วนของผมก็ได้สูญหายไปด้วย ถ้ายังไงคุณช่วยเล่าเรื่องต่างๆในอดีตให้ผมฟังจะได้มั้ย?” หลิงหยุนโอบร่างของซูปิงหยานไว้ พร้อมกับขอให้เธอเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง

 

“เล่าก็ได้ แต่ไม่ต้องกอดฉันแน่นแบบนี้!”

 

ซูปิงหยานร้องบอกหลิงหยุนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา เธอเริ่มนึกถึง เรื่องราวในอดีตของหลิงหยุนพร้อมกับถามขึ้นว่า

 

“แล้วจะให้เริ่มเล่าตั้งแต่ตรงใหนดีล่ะ? แต่ตอนนั้นเธออ้วนมากเลยนะ น้ำหนักเกือบสองร้อยกิโลกรัมได้ล่ะมั้ง”

 

ซูปิงหยานต้องการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองระหว่างเธอกับหลิงหยุน จึงเริ่มต้นด้วยกา รหยอกล้อรูปร่างของเขาในอดีต แต่หลิงหยุนไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะนั่นไม่ใช่ตัวเขา! จึงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย

 

“เมื่อก่อนนี้เธอดูโดดเดี่ยวแล้วก็ว้าเหว่มากเลยรู้มั้ย? เธอเป็นคนเงียบขรึมมาก ไม่ชอบพูดคุย กับคนอื่น วันๆก็ไม่ค่อยทําอะไรนอกจากเล่นเกมส์ออนไลน์ อ่อ.. แต่ก็ยังทําเรื่องอื่นอยู่บ้าง! ทุกวัน เธอจะนั่งอ่านตําราทางการแพทย์แปลกๆ!”

 

“ตอนนั้นเธอเป็นเด็กผู้ชายที่อ่อนแอ แล้วก็ชอบคิดว่าตัวเองด้อยค่าอยู่ตลอดเวลา ทุกๆวันก็จะมีรอยฟกชําตามเนื้อตามตัวอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วน่าสงสารมาก..”

 

“ถึงเธอจะอ่อนแอ แต่ก็เป็นคนหัวดื้อมาก แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่เคยพบเจอใครที่ซื้อเหมือน เธอมาก่อนเลย! เธออาจจะถูกคนอื่นข่มเหงรังแกอยู่ตลอดเวลาก็จริง แต่เธอก็จะไม่ยอมให้ใครแตะ ต้องในจุดที่เธอไม่ยินยอมโดยเด็ดขาด..”

 

“ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร? หรือว่ามีพวกมากมายเท่าไหร่? ถ้าพวกมันกล้าแตะต้องในจุดที่ เธอไม่ยินยอมแล้วล่ะก็ เธอเองก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และกล้าที่จะลุกขึ้นสู้สุดใจเลยทีเดียว!”

 

“เธออาจจะดูเหมือนไม่สู้คน และยอมคน แต่นั่นเพราะเธอกําลังปกป้องน้องสาวของเธออยู่”

 

“ครั้งแรกที่เธอมาร้านอินเทอร์เน็ตของฉันนั้น เธอมาเพื่อหาข้อมูลทางการแพทย์ แต่เมื่อเห็น ว่าฉันประกาศหาพนักงานมาช่วยที่ร้าน เธอก็รีบมาสมัครทันที และบอกกับฉันว่าเธอต้องการเงิน ไปให้น้องสาวซื้ออุปกรณ์การเรียน แล้วก็เสื้อผ้าสวยๆ เธอดีกับน้องสาวมาก สําหรับฉัน.. ฉันคิดว่า เธอเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่ฉันเคยพบเห็นมา..”

 

“เธอทํางานหนักมาตลอด แต่ก็เต็มใจและยินดีที่จะทํางานหนัก..”

 

“ทุกๆอาทิตย์จะมีสาวน้อยหน้าตาสวยงามคนหนึ่งมาหาเธอที่ร้านอยู่เสมอ แต่เธอกลับไม่ ค่อยยอมให้สาวน้อยคนนั้นได้พบ และครั้งใหนที่สาวน้อยคนนั้นได้พบกับเธอ สาวน้อยคนนั้น ก็จะต้องร้องไห้กลับไปทุกครั้ง”

 

“จนกระทั่งในวันเปิดคลินิกสามัญชนของเธอ ฉันจึงได้รู้ว่าที่แท้สาวน้อยหน้าตาสวยงามคนนั้น ก็คือน้องสาวของเธอที่ชื่อหนิงหลิงยู่”

 

เมื่อฟังซูปิงหยานเล่ามาถึงตรงนี้ คิ้วของหลิงหยุนถึงกับขมวดพร้อมกับแอบคิดในใจว่า “ในใจของหลิงหยุนนั้นดูเหมือนจะมีเพียงหลิงยู่เท่านั้น!”

 

แล้วหลิงหยุนก็ถามขึ้นว่า “คุณซูครับ แล้วทําไมคุณถึงต้องดีกับผมมากมายขนาดนี้?”

 

เพราะเพียงแค่ต้องการนําเงินค่าจ้างไปให้หลิงหยุน ซูปิงหยานถึงกับไปหาเขาที่โรงเรียน ด้วยตัวเองหลายต่อหลายครั้ง และเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะรู้สึกว่าซูปิงหยานนั้นดีกับหลิงหยุนมาก มายเหลือเกิน

 

ซูปิงหยานถึงกับหน้าแดงก่ําในขณะที่ตอบไปว่า “เพราะฉันรู้ว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วก็ว้าเหว่ มากน่ะสิ! เพราะฉันเองก็ตัวคนเดียวและรู้สึกว้าเหว่เช่นกัน จึงเข้าใจความรู้สึกของเธอดี..”

 

แต่หลิงหยุนกลับถามยิ้มๆ “ไม่ใช่เพราะตกหลุมรักผมหรอกเหรอ?”

 

ซูปิงหยานยกกําปั้นขึ้นทุบหลิงหยุนสองสามครั้ง “นี่. ถ้ากล้าพูดจาไร้สาระกับฉันอีก ฉันจะฉีกปากเธอให้ดู!”

 

ผู้หญิงก็มักเป็นเช่นนี้ เมื่อครั้งที่หลิงหยุนยังอ้วนมากนั้น ซูปิงหยานกลับกล้าที่จะแสดงความ รักต่อเขา และนี่ทําให้หลิงหยุนรู้สึกว่าซูปิงหยานเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น เพราะเธอไม่ได้ตัดสิน คนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก

 

“เธอ.. เธอเองก็เคยนอนบนเตียงนี้ด้วยนะ” ซูปิงหยานเล่าเสียงเบา และใบหน้าก็เริ่มแดงก่ํา

 

“แต่คิดไม่ถึงว่าพอเธอกลับมาครั้งนี้ จะกลายเป็นชายหนุ่มรูปหล่อได้ขนาดนี้ แล้วครั้งนี้แท นที่จะถูกจ้าวเผิงเฟยซ้อมเหมือนครั้งก่อน แต่เธอกลับซ้อมมันจนน่วมไปเลย!”

 

“สําหรับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟของฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก! เพราะฉันก็พบเจอเหตุการณ์แบ บนี้มาตลอดสามปี แต่ได้เห็นเธอแก้แค้นจ้าวเผิงเฟยนั่นทําให้ฉันดีใจมากกว่าซะอีก หลิงหยุน.. ไม่ น่าเชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้!”

 

เมื่อพูดจบ ใบหน้างดงามของซูปิงหยานก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที แววตาของเธอดุดันบ่ง บอกว่าเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายที่กําลังพลุ่งพล่าน

 

“คุณซูครับ อยากดูผมเล่นกลมั้ย?”

 

หลิงหยุนจ้องมองใบหน้างดงามของซูปิงหยาน พร้อมกับกําลังคิดว่าหากเธอสวมใส่เครื่องประดับก็คงจะดูงดงามไม่น้อยเลยทีเดียว!

 

หลิงหยุนไม่พูดอะไรมาก เขากํามือไว้จากนั้นก็แบออกต่อหน้าซูปิงหยาน แหวนวงหนึ่งก็ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือของหลิงหยุน

 

และแน่นอนว่ามันเป็นแหวนที่ทําจากหยกจักรพรรดิ ภายใต้แสงไฟจึงเปล่งประกายสีเขียวระยิบระยับสวยงาม และน่าดึงดูดอย่างมาก

 

“สวยจัง!” ซูปิงหยานร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

 

หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย แล้ววางแหวนลงไปในฝ่ามือของซูปิงหยาน จากนั้นจึงกํามืออีกครั้ง และ เมื่อแบออกก็ปรากฏกําไลทําจากหยกจักรพรรดิขึ้นในมือ

 

และตามมาด้วยสร้อยคอ ต่างหู และชิ้นสุดท้ายก็คือไข่มุกราตรีขนาดเท่าดวงตามังกร!

 

“นี่ นี่เธอให้ฉันเหรอ?!” หลังจากที่หายจากอาการตกตะลึงอยู่นาน ซูปิงหยานก็รู้ว่าตนเองไม่ ได้ฝันไป จึงรีบร้องถามออกไป

 

หลิงหยุนยิ้มสดใสพร้อมกับตอบไปว่า “ถือซะว่าเป็นของขวัญปลอบใจให้กับเหตุการณ์น่าตกใจที่ร้านก็แล้วกัน! ของขวัญเล็กน้อยแค่นี้ยังนับว่าน้อยไปในเมื่อคุณเองก็เป็นภรรยาของหลิงห ยุน..”

 

ซูปิงหยานต้องการจะปฏิเสธ แต่คําพูดของหลิงหยุนกลับทําให้เธอถึงกับสั่นเทิ้มไปทั้งร่างจนไม่ อยากจะปฏิเสธจึงพูดออกไปว่า

 

“ขี้ตู.. ใครเป็นภรรยาของเธอ?” ซูปิงหยานถามยิ้มๆ

 

หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “ถ้าไม่เป็นภรรยาของผม คุณมาอยู่ในอ้อมกอดของ ผมทําไมกัน?”

 

หลังจากที่ทุบกําปั้นเล็กๆลงบนแผ่นอกของหลิงหยุนแล้ว ซูปิงหยานก็พูดขึ้นว่า “หลิงหยุน.. ตั้งแต่ที่ฉันได้เห็นเธอในวันเปิดคลินิก ฉันก็รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดาๆอีกต่อไปแล้วหญิงสาวที่ ชื่นชอบเธอก็ล้วนแล้วแต่มีภูมิหลังและครอบครัวที่ดี พวกเธอต่างที่เหมาะสมที่จะเป็นภรรยาของเธอมากกว่านั้น สําหรับฉันแล้วเพียงแค่ได้เป็นผู้หญิงของเธอ เพียงแค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ..”

 

“ฉันเองก็ไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไร แล้วก็ไม่ต้องการทําตัวติดกับเธออยู่ตลอดเวลาด้วย ถ้าเธอมีเวลาว่างก็แวะมาหาฉันบ้าง แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ..”

 

“ในเมื่อเธอเป็นคนมอบแหวนนี้ให้กับฉัน เธอก็ควรที่จะสวมให้ฉันด้วยตัวเอง..” ซูปิงหยานเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับชี้ไปที่แหวนจักรพรรดิ

 

“ได้ๆ ผมใส่ให้คุณทั้งชุดเลยดีมั้ย” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับหยิบแหวนหยกขึ้นมาพร้อมกับถามว่า “จะให้สวมนิ้วใหนดีล่ะ?”

 

“ทําไมโง่แบบนี้นะ? ก็ต้องนิ้วนางข้างซ้ายสิ” ซูปิงหยางร้องบอกเอียงอาย

 

หลิงหยุนจับมือข้างซ้ายของซูปิงหยานขึ้นมาสวมแสวนให้พร้อมกับพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “นิ้วของคุณสวยงามจริงๆ”

 

“ตอนนี้ฉันก็เป็นผู้หญิงของเธอแล้วนะ แล้วก็จะอยู่กับเธอไม่หนีไปใหน?” ซูปิงหยานมอง แหวนสีเขียวเปล่งประกายในมือพร้อมกับร้องบอกหลิงหยุน

 

ทั้งสองคนใช้เวลาร่วมกัน และแทบไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้

 

แต่หลิงหยุนกลับคิดว่ามันยังเร็วเกินไป ตอนนี้สมนไพรชีฉียของเขากําลังเติบโตเต็มวัย เขาเองก็ใกล้ที่จะเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-9 แล้ว จึงต้องเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นพลังชีจึงต้องอดทนต่อเรื่อง แบบนี้

 

“นี่พ่อคนเจ้าชู้ ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้ว ยังจะรออะไรอยู่ล่ะ?”

ตอนนี้ซูปิงหยานกําลังอารมณ์พลุ่งพล่าน ดวงตาของเธอเป็นประกาย น้ำเสียงที่พูดก็ช่างเย้ายวน

 

“คุณซู.. วันนี้ คือวันนี้ผมไม่สะดวก..” หลิงหยุนบอกไปตามความจริง

 

“เธอพูดอะไรกัน! ที่นี่มีเพียงแค่เราสองคน จะไม่สะดวกได้ยังไงกัน?” ซูปิงหยานกระวนกระ วายใจอยากจะเข้าหอกับหลิงหยุนเต็มที่

 

“คุณซู.. คุณคงยังไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมถูกรถชน ผมได้เริ่มฝึกกําลังภายใน และตอนนี้ก็ไม่สามารถมีอะไรกับคุณได้!”

 

หลิงหยุนไม่ได้โกหกหลอกหลวง ตอนนี้เขากําลังฝึกวิชาพลังหยางพิสุทธิ์ ดังนั้นในระยะเวลา สิบกว่าวันนี้ อย่าว่าแต่แตะต้องซูปิงหยานเลย แม้แต่หลินเมิ่งหาน หรือว่าเหยาสู่เขาก็ทําอะไรไม่ ได้ เขาคงไม่ยอมใจอ่อนแตะต้องซูปิงหยานแน่ ไม่เช่นนั้นความพยายามที่ผ่านมาทั้งห มดของเขาคงต้องสูญเปล่า

 

“อะไรนะ ?!”

 

ซูปิงหยานได้ฟังคําตอบของหลิงหยุนก็ถึงกับโล่งอก เธอยิ้มพร้อมกับแกล้งหยอกเย้าหลิงหยุน

 

“นี่พ่อคนเจ้าชู้ ถ้าเธอฝึกวิชาตลอดชีวิต แล้วฉันจะทํายังไงล่ะ?”

 

หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ “ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ไว้ผมฝึกเสร็จจะมาหาคุณเป็นคนแรก เลย..”

 

ซูปิงหยานหน้าแดง แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มรสความสุขจากชายชาตรี เลย เพราะสามีของเธอนั้นไม่เพียงแค่อายุสั้น แต่อย่างอื่นก็สั้นไปด้วย!

 

ซูปิงหยานนั้นรู้ว่าครั้งแรกของผู้หญิงนั้น จะต้องมีเลือดพรหมจรรย์ออกมาด้วย แต่ครั้ง แรกของเธอกลับไม่มี และนี่เป็นเรื่องที่เธอเองก็ไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย

 

แต่ซูปิงหยานอาจจะไม่รู้ว่า.. ที่เธอไม่มีเลือดไหลออกมาในครั้งแรกนั้น เป็นเพราะเยื่อพรหมจรรย์ไม่ขาด แล้วจะมีเลือดพรหมจรรย์ไหลออกมาได้อย่างไรกัน?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 656 : เหตุผล

Now you are reading Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Chapter 656 : เหตุผล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เธอ.. หรือว่าเธอรังเกียจที่ฉันผ่านการแต่งงานมาแล้ว?”

 

ซูปิงหยานลังเลใจอยู่นาน และในที่สุดจึงตัดสินใจถามหลิงหยุนออกไปแบบนั้น เพราะดู เหมือนจะไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่จะทําให้หลิงหยุนรังเกียจเธอได้

 

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “เรื่องพวกนี้จะคุยกันให้จบในวันนี้เท่านั้น. และวันหลังอย่า ได้พูดอีก!”

 

เพราะเสี่ยวเม่ยเม่ยเองก็ไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์เช่นกัน..

 

ในการฝึกตนของหลิงหยุนนั้น หากแม้แต่หญิงสาวบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์นั้น เขายังไม่ สามารถก้าวข้ามได้แล้วล่ะก็ คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่จะฝึกจนถึงขั้นกายทองคํา หรือแม้แต่ขันอมตะเลย

 

หลิงหยุนย้ำประโยคสุดท้ายด้วยน้ําเสียงจริงจัง! เมื่อซูปิงหยานได้ฟังเธอเองก็ถึงกับสั่นเพิ่มขึ้น มาทันที และน้ำตาก็ไหลพรากออกมาอาบแก้ม มันคือน้ําตาแห่งความสุข!

 

ซูปิงหยานพูดด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ “หลิงหยุน.. ฉันอายุสามสิบเอ็ดแล้ว ห่างกับเธอถึงสิบสามปี แล้วฉันก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้จริงๆนะเหรอ? เธอยอมรับได้ จริงๆงั้นเหรอ?”

 

หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับฉีกยิ้มจนเห็นลักยิ้มแก้มซ้าย และรอยยิ้มที่แสนมีเสน่ห์ของเขาก็ ทําให้ซูป่งหยานแทบอ่อนระทวย ตอนนี้เธอกําลังรู้สึกมีความสุขอย่างมาก..

 

“แต่อย่างที่บอก.. หลังจากถูกรถชน ความทรงจําในอดีตบางส่วนของผมก็ได้สูญหายไปด้วย ถ้ายังไงคุณช่วยเล่าเรื่องต่างๆในอดีตให้ผมฟังจะได้มั้ย?” หลิงหยุนโอบร่างของซูปิงหยานไว้ พร้อมกับขอให้เธอเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง

 

“เล่าก็ได้ แต่ไม่ต้องกอดฉันแน่นแบบนี้!”

 

ซูปิงหยานร้องบอกหลิงหยุนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา เธอเริ่มนึกถึง เรื่องราวในอดีตของหลิงหยุนพร้อมกับถามขึ้นว่า

 

“แล้วจะให้เริ่มเล่าตั้งแต่ตรงใหนดีล่ะ? แต่ตอนนั้นเธออ้วนมากเลยนะ น้ำหนักเกือบสองร้อยกิโลกรัมได้ล่ะมั้ง”

 

ซูปิงหยานต้องการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองระหว่างเธอกับหลิงหยุน จึงเริ่มต้นด้วยกา รหยอกล้อรูปร่างของเขาในอดีต แต่หลิงหยุนไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะนั่นไม่ใช่ตัวเขา! จึงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย

 

“เมื่อก่อนนี้เธอดูโดดเดี่ยวแล้วก็ว้าเหว่มากเลยรู้มั้ย? เธอเป็นคนเงียบขรึมมาก ไม่ชอบพูดคุย กับคนอื่น วันๆก็ไม่ค่อยทําอะไรนอกจากเล่นเกมส์ออนไลน์ อ่อ.. แต่ก็ยังทําเรื่องอื่นอยู่บ้าง! ทุกวัน เธอจะนั่งอ่านตําราทางการแพทย์แปลกๆ!”

 

“ตอนนั้นเธอเป็นเด็กผู้ชายที่อ่อนแอ แล้วก็ชอบคิดว่าตัวเองด้อยค่าอยู่ตลอดเวลา ทุกๆวันก็จะมีรอยฟกชําตามเนื้อตามตัวอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วน่าสงสารมาก..”

 

“ถึงเธอจะอ่อนแอ แต่ก็เป็นคนหัวดื้อมาก แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่เคยพบเจอใครที่ซื้อเหมือน เธอมาก่อนเลย! เธออาจจะถูกคนอื่นข่มเหงรังแกอยู่ตลอดเวลาก็จริง แต่เธอก็จะไม่ยอมให้ใครแตะ ต้องในจุดที่เธอไม่ยินยอมโดยเด็ดขาด..”

 

“ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร? หรือว่ามีพวกมากมายเท่าไหร่? ถ้าพวกมันกล้าแตะต้องในจุดที่ เธอไม่ยินยอมแล้วล่ะก็ เธอเองก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และกล้าที่จะลุกขึ้นสู้สุดใจเลยทีเดียว!”

 

“เธออาจจะดูเหมือนไม่สู้คน และยอมคน แต่นั่นเพราะเธอกําลังปกป้องน้องสาวของเธออยู่”

 

“ครั้งแรกที่เธอมาร้านอินเทอร์เน็ตของฉันนั้น เธอมาเพื่อหาข้อมูลทางการแพทย์ แต่เมื่อเห็น ว่าฉันประกาศหาพนักงานมาช่วยที่ร้าน เธอก็รีบมาสมัครทันที และบอกกับฉันว่าเธอต้องการเงิน ไปให้น้องสาวซื้ออุปกรณ์การเรียน แล้วก็เสื้อผ้าสวยๆ เธอดีกับน้องสาวมาก สําหรับฉัน.. ฉันคิดว่า เธอเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่ฉันเคยพบเห็นมา..”

 

“เธอทํางานหนักมาตลอด แต่ก็เต็มใจและยินดีที่จะทํางานหนัก..”

 

“ทุกๆอาทิตย์จะมีสาวน้อยหน้าตาสวยงามคนหนึ่งมาหาเธอที่ร้านอยู่เสมอ แต่เธอกลับไม่ ค่อยยอมให้สาวน้อยคนนั้นได้พบ และครั้งใหนที่สาวน้อยคนนั้นได้พบกับเธอ สาวน้อยคนนั้น ก็จะต้องร้องไห้กลับไปทุกครั้ง”

 

“จนกระทั่งในวันเปิดคลินิกสามัญชนของเธอ ฉันจึงได้รู้ว่าที่แท้สาวน้อยหน้าตาสวยงามคนนั้น ก็คือน้องสาวของเธอที่ชื่อหนิงหลิงยู่”

 

เมื่อฟังซูปิงหยานเล่ามาถึงตรงนี้ คิ้วของหลิงหยุนถึงกับขมวดพร้อมกับแอบคิดในใจว่า “ในใจของหลิงหยุนนั้นดูเหมือนจะมีเพียงหลิงยู่เท่านั้น!”

 

แล้วหลิงหยุนก็ถามขึ้นว่า “คุณซูครับ แล้วทําไมคุณถึงต้องดีกับผมมากมายขนาดนี้?”

 

เพราะเพียงแค่ต้องการนําเงินค่าจ้างไปให้หลิงหยุน ซูปิงหยานถึงกับไปหาเขาที่โรงเรียน ด้วยตัวเองหลายต่อหลายครั้ง และเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะรู้สึกว่าซูปิงหยานนั้นดีกับหลิงหยุนมาก มายเหลือเกิน

 

ซูปิงหยานถึงกับหน้าแดงก่ําในขณะที่ตอบไปว่า “เพราะฉันรู้ว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วก็ว้าเหว่ มากน่ะสิ! เพราะฉันเองก็ตัวคนเดียวและรู้สึกว้าเหว่เช่นกัน จึงเข้าใจความรู้สึกของเธอดี..”

 

แต่หลิงหยุนกลับถามยิ้มๆ “ไม่ใช่เพราะตกหลุมรักผมหรอกเหรอ?”

 

ซูปิงหยานยกกําปั้นขึ้นทุบหลิงหยุนสองสามครั้ง “นี่. ถ้ากล้าพูดจาไร้สาระกับฉันอีก ฉันจะฉีกปากเธอให้ดู!”

 

ผู้หญิงก็มักเป็นเช่นนี้ เมื่อครั้งที่หลิงหยุนยังอ้วนมากนั้น ซูปิงหยานกลับกล้าที่จะแสดงความ รักต่อเขา และนี่ทําให้หลิงหยุนรู้สึกว่าซูปิงหยานเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น เพราะเธอไม่ได้ตัดสิน คนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก

 

“เธอ.. เธอเองก็เคยนอนบนเตียงนี้ด้วยนะ” ซูปิงหยานเล่าเสียงเบา และใบหน้าก็เริ่มแดงก่ํา

 

“แต่คิดไม่ถึงว่าพอเธอกลับมาครั้งนี้ จะกลายเป็นชายหนุ่มรูปหล่อได้ขนาดนี้ แล้วครั้งนี้แท นที่จะถูกจ้าวเผิงเฟยซ้อมเหมือนครั้งก่อน แต่เธอกลับซ้อมมันจนน่วมไปเลย!”

 

“สําหรับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟของฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก! เพราะฉันก็พบเจอเหตุการณ์แบ บนี้มาตลอดสามปี แต่ได้เห็นเธอแก้แค้นจ้าวเผิงเฟยนั่นทําให้ฉันดีใจมากกว่าซะอีก หลิงหยุน.. ไม่ น่าเชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้!”

 

เมื่อพูดจบ ใบหน้างดงามของซูปิงหยานก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที แววตาของเธอดุดันบ่ง บอกว่าเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายที่กําลังพลุ่งพล่าน

 

“คุณซูครับ อยากดูผมเล่นกลมั้ย?”

 

หลิงหยุนจ้องมองใบหน้างดงามของซูปิงหยาน พร้อมกับกําลังคิดว่าหากเธอสวมใส่เครื่องประดับก็คงจะดูงดงามไม่น้อยเลยทีเดียว!

 

หลิงหยุนไม่พูดอะไรมาก เขากํามือไว้จากนั้นก็แบออกต่อหน้าซูปิงหยาน แหวนวงหนึ่งก็ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือของหลิงหยุน

 

และแน่นอนว่ามันเป็นแหวนที่ทําจากหยกจักรพรรดิ ภายใต้แสงไฟจึงเปล่งประกายสีเขียวระยิบระยับสวยงาม และน่าดึงดูดอย่างมาก

 

“สวยจัง!” ซูปิงหยานร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

 

หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย แล้ววางแหวนลงไปในฝ่ามือของซูปิงหยาน จากนั้นจึงกํามืออีกครั้ง และ เมื่อแบออกก็ปรากฏกําไลทําจากหยกจักรพรรดิขึ้นในมือ

 

และตามมาด้วยสร้อยคอ ต่างหู และชิ้นสุดท้ายก็คือไข่มุกราตรีขนาดเท่าดวงตามังกร!

 

“นี่ นี่เธอให้ฉันเหรอ?!” หลังจากที่หายจากอาการตกตะลึงอยู่นาน ซูปิงหยานก็รู้ว่าตนเองไม่ ได้ฝันไป จึงรีบร้องถามออกไป

 

หลิงหยุนยิ้มสดใสพร้อมกับตอบไปว่า “ถือซะว่าเป็นของขวัญปลอบใจให้กับเหตุการณ์น่าตกใจที่ร้านก็แล้วกัน! ของขวัญเล็กน้อยแค่นี้ยังนับว่าน้อยไปในเมื่อคุณเองก็เป็นภรรยาของหลิงห ยุน..”

 

ซูปิงหยานต้องการจะปฏิเสธ แต่คําพูดของหลิงหยุนกลับทําให้เธอถึงกับสั่นเทิ้มไปทั้งร่างจนไม่ อยากจะปฏิเสธจึงพูดออกไปว่า

 

“ขี้ตู.. ใครเป็นภรรยาของเธอ?” ซูปิงหยานถามยิ้มๆ

 

หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “ถ้าไม่เป็นภรรยาของผม คุณมาอยู่ในอ้อมกอดของ ผมทําไมกัน?”

 

หลังจากที่ทุบกําปั้นเล็กๆลงบนแผ่นอกของหลิงหยุนแล้ว ซูปิงหยานก็พูดขึ้นว่า “หลิงหยุน.. ตั้งแต่ที่ฉันได้เห็นเธอในวันเปิดคลินิก ฉันก็รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดาๆอีกต่อไปแล้วหญิงสาวที่ ชื่นชอบเธอก็ล้วนแล้วแต่มีภูมิหลังและครอบครัวที่ดี พวกเธอต่างที่เหมาะสมที่จะเป็นภรรยาของเธอมากกว่านั้น สําหรับฉันแล้วเพียงแค่ได้เป็นผู้หญิงของเธอ เพียงแค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ..”

 

“ฉันเองก็ไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไร แล้วก็ไม่ต้องการทําตัวติดกับเธออยู่ตลอดเวลาด้วย ถ้าเธอมีเวลาว่างก็แวะมาหาฉันบ้าง แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ..”

 

“ในเมื่อเธอเป็นคนมอบแหวนนี้ให้กับฉัน เธอก็ควรที่จะสวมให้ฉันด้วยตัวเอง..” ซูปิงหยานเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับชี้ไปที่แหวนจักรพรรดิ

 

“ได้ๆ ผมใส่ให้คุณทั้งชุดเลยดีมั้ย” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับหยิบแหวนหยกขึ้นมาพร้อมกับถามว่า “จะให้สวมนิ้วใหนดีล่ะ?”

 

“ทําไมโง่แบบนี้นะ? ก็ต้องนิ้วนางข้างซ้ายสิ” ซูปิงหยางร้องบอกเอียงอาย

 

หลิงหยุนจับมือข้างซ้ายของซูปิงหยานขึ้นมาสวมแสวนให้พร้อมกับพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “นิ้วของคุณสวยงามจริงๆ”

 

“ตอนนี้ฉันก็เป็นผู้หญิงของเธอแล้วนะ แล้วก็จะอยู่กับเธอไม่หนีไปใหน?” ซูปิงหยานมอง แหวนสีเขียวเปล่งประกายในมือพร้อมกับร้องบอกหลิงหยุน

 

ทั้งสองคนใช้เวลาร่วมกัน และแทบไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้

 

แต่หลิงหยุนกลับคิดว่ามันยังเร็วเกินไป ตอนนี้สมนไพรชีฉียของเขากําลังเติบโตเต็มวัย เขาเองก็ใกล้ที่จะเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-9 แล้ว จึงต้องเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นพลังชีจึงต้องอดทนต่อเรื่อง แบบนี้

 

“นี่พ่อคนเจ้าชู้ ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้ว ยังจะรออะไรอยู่ล่ะ?”

ตอนนี้ซูปิงหยานกําลังอารมณ์พลุ่งพล่าน ดวงตาของเธอเป็นประกาย น้ำเสียงที่พูดก็ช่างเย้ายวน

 

“คุณซู.. วันนี้ คือวันนี้ผมไม่สะดวก..” หลิงหยุนบอกไปตามความจริง

 

“เธอพูดอะไรกัน! ที่นี่มีเพียงแค่เราสองคน จะไม่สะดวกได้ยังไงกัน?” ซูปิงหยานกระวนกระ วายใจอยากจะเข้าหอกับหลิงหยุนเต็มที่

 

“คุณซู.. คุณคงยังไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมถูกรถชน ผมได้เริ่มฝึกกําลังภายใน และตอนนี้ก็ไม่สามารถมีอะไรกับคุณได้!”

 

หลิงหยุนไม่ได้โกหกหลอกหลวง ตอนนี้เขากําลังฝึกวิชาพลังหยางพิสุทธิ์ ดังนั้นในระยะเวลา สิบกว่าวันนี้ อย่าว่าแต่แตะต้องซูปิงหยานเลย แม้แต่หลินเมิ่งหาน หรือว่าเหยาสู่เขาก็ทําอะไรไม่ ได้ เขาคงไม่ยอมใจอ่อนแตะต้องซูปิงหยานแน่ ไม่เช่นนั้นความพยายามที่ผ่านมาทั้งห มดของเขาคงต้องสูญเปล่า

 

“อะไรนะ ?!”

 

ซูปิงหยานได้ฟังคําตอบของหลิงหยุนก็ถึงกับโล่งอก เธอยิ้มพร้อมกับแกล้งหยอกเย้าหลิงหยุน

 

“นี่พ่อคนเจ้าชู้ ถ้าเธอฝึกวิชาตลอดชีวิต แล้วฉันจะทํายังไงล่ะ?”

 

หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ “ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ไว้ผมฝึกเสร็จจะมาหาคุณเป็นคนแรก เลย..”

 

ซูปิงหยานหน้าแดง แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มรสความสุขจากชายชาตรี เลย เพราะสามีของเธอนั้นไม่เพียงแค่อายุสั้น แต่อย่างอื่นก็สั้นไปด้วย!

 

ซูปิงหยานนั้นรู้ว่าครั้งแรกของผู้หญิงนั้น จะต้องมีเลือดพรหมจรรย์ออกมาด้วย แต่ครั้ง แรกของเธอกลับไม่มี และนี่เป็นเรื่องที่เธอเองก็ไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย

 

แต่ซูปิงหยานอาจจะไม่รู้ว่า.. ที่เธอไม่มีเลือดไหลออกมาในครั้งแรกนั้น เป็นเพราะเยื่อพรหมจรรย์ไม่ขาด แล้วจะมีเลือดพรหมจรรย์ไหลออกมาได้อย่างไรกัน?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+