Elixir Supplier 580

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 580 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

580 แกะบ้าคลั่งในค่ำคืนสยองขวัญ

 

“มีตัวอื่นอยู่จริงๆเหรอ?” หวังเย้าถาม “มีอยู่เยอะไหม?”

 

ซานเซียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น มันก็ส่ายหน้า

 

“ช่างมันเถอะ ไว้พรุ่งนี้พาฉันไปดูทีนะ” หวังเย้าพูด

 

หวังเย้าได้เดินย่ำไปเกือบทุกซอกทุกมุมของเนินเขาหนานชานแล้ว แต่เขาก็ไม่พบเห็นว่ามีงูตัวอื่นอยู่เลย นอกจากเสี่ยวเฮย

 

กลางดึกคืนหนึ่ง ดวงตาของแกะเป็นประกายเล็กน้อย มันยืนจับจ้องไปที่กำแพงนิ่ง ศีรษะของมันส่ายไปมา มันก้าวเข้าไปสองก้าว อ้าปากขึ้น แล้วเริ่มกิน

 

มีเสียงแกร๊กๆดังขึ้นให้ได้ยิน

 

“นี่ ฟังสิ ได้ยินเสียงแปลกๆข้างนอกนั่นไหม?” หญิงคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนเตียงคังได้เอื้อมมือไปสะกิดสามีของเธอ ที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่

 

“ไม่นี่ ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย” ผู้เป็นสามีพูด

 

เขาดื่มเหล้าไปสองสามแก้วก่อนนอน เขาจึงนอนหลับไปอย่างง่ายดายและไม่อยากจะตื่นขึ้นมา

 

ภรรยาของเขาพยายามฟังเสียงอย่างตั้งใจ แล้วเธอก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากลานบ้านอีกครั้ง

 

“ฉันได้ยินเสียงจริงๆนะ” เธอพูด “ออกไปดูสักหน่อยเถอะนะ!”

 

“มันไม่มีอะไรหรอกน่า นอนได้แล้ว” ผู้เป็นสามีพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด

 

แคร๊ก! แคร๊ก! เสียงที่ดังอยู่ด้านนอกไม่ได้ดังมากนัก แต่มันก็ดังอย่างสม่ำเสม

 

หลังจากที่ผู้เป็นภรรยาล้มตัวลงนอน เธอก็กลับตัวไปมาอยู่หลายรอบ เธอไม่สามารถข่มตาลงได้ เพราะเสียงที่เธอได้ยิน ในที่สุด เธอก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวและเดินถือไฟฉ่ายออกไปดูด้านนอก

 

อะไรน่ะ? แล้วเธอก็กรีดร้องออกมา

 

ชายผู้เป็นสามีที่กำลังนอนอยู่ได้ลุกขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้องที่อยู่ๆก็ดังขึ้น เขารีบวิ่งออกไปด้านนอกโดยที่ไม่ทันได้สวมเสื้อคลุม “เกิดอะไรขึ้น?”

 

เมื่อเขาออกไปที่ลานบ้าน เขาก็เห็นภรรยาของเขาตัวสั่นเทา และไฟฉ่ายที่หล่นอยู่บนพื้น

 

“แกะ แกะ!” ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านและน้ำเสียงที่สั่นเทา

 

“เกิดอะไรขึ้นกับแกะ? มันหนีไปอีกแล้วเหรอ?” ชายคนนั้นหยิบไฟฉายขึ้นมาส่องดู “พระเจ้า มันเป็นอะไรไปน่ะ?”

 

แกะกำลังกัดกินกำแพงอยู่ มีเลือดติดอยู่ทั่วทั้งกำแพงและบนร่างของแกะ ฟันของแกะแข็งแรงก็จริง แต่มันก็แข็งไม่เท่าปูนซีเมนต์และก้อนหิน ฟันของมันเกิดการแตกหัก และเหงือกของมันก็ฉีกเป็นแผลกว้าง มีเลือดไหลออกมาจากปากของมันไม่หยุด ตัวแกะดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด และยังคงกัดกินกำแพงซีเมนต์ไม่หยุด ราวกับว่า มันคือหญ้าที่อร่อยที่สุดสำหรับมัน

 

แกะมันบ้าไปแล้ว! ผู้เป็นสามีกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องหมาบ้าและเคยเห็นหมาบ้ามาก่อน แต่เขาไม่เคยเห็นแกะบ้าแบบนี้มาก่อนเลย

 

แบ๊ๆๆ!

 

เมื่อรับรู้ได้ถึงแสงไฟที่ส่องมา แกะก็หยุดกินกำแพง มันหันหัวไปหาแสงและจับจ้องไปที่สองสามีภรรยา ปากของมันเต็มไปด้วยเลือด มันแลบลิ้นออกมาและกลืนกินเลือดเนื้อของมันเอง

 

แบ๊ๆๆ!

 

สายลมพัดผ่านเข้ามา ร่างทั้งร่างของพวกเขาสั่นสะท้าน

 

“เราจะทำยังไงกันดี?” ผู้เป็นภรรยารู้สึกหวาดกลัว เมื่อเธอเดินออกมาและได้เห็นภาพตรงหน้า เธอก็แทบจะฉี่ราดกางเกงตัวเอง “ฆ่ามันดีไหม?”

 

“อะไรนะ? โอ้ รออยู่นี่ก่อนนะ” ผู้เป็นสามีรีบเดินไปหยิบเสียมขึ้นมา

 

แกะยืนนิ่งและมองมาที่พวกเขาเงียบๆ เลือดยังคงไหลออกมาจากปากของมันไม่หยุด มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก

 

ผู้เป็นสามีเดินเข้าไปหาแกะ หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยกเสียมขึ้นมาและทุบไปที่แกะอย่างแรง

 

เคร้ง! เกิดเสียงทุบที่รุนแรงดังขึ้นในค่ำคืนที่มืดมิด

 

แกะส่ายหัวไปมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

เคร้ง! เขาทุบไปที่หัวของมันอีกครั้ง แกะยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

 

แขนที่ถือเสียมเอาไว้มีอาการสั่นสะท้าน เขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกับการเดินไปในเวลากลางคืนแล้วเจอผีเข้า

 

ในที่สุด แกะก็ตายด้วยเสียมที่ทุบหัวของมันครั้งแล้วครั้งเล่า ที่น่าตกใจก็คือ มันไม่ได้ต่อสู้ดิ้นรนตั้งแต่ต้นจนจบ

 

ลมสายหนึ่งพัดผ่านเข้ามา ร่างของชายผู้เป็นสามีสั่นเทาและมีเหงื่อเย็นไหลออกมา เขารู้สึกเย็นยะเยือกเมื่อมีลมพัดโดนตัว

 

“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?” ภรรยาของเขาทั้งตกใจและหวาดกลัว

 

“มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ กลับไปนอนเถอะ” เขาพูด

 

“ออกมาทั้งๆที่ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมแบบนี้ พี่รีบกลับเข้าไปในบ้านเถอะ” ภรรยาของเขาพูด

 

สองสามีภรรยาเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน ร่างของแกะที่ถูกฆ่าตายนอนอยู่ภายในคอก พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาเป็นทาง

 

หลังจากเดินกลับเข้ามาในบ้าน และเอนหลังนอนลงบนเตียงคังแล้ว สองสามีภรรยากลับไม่สามารถข่มตานอนหลับได้ เมื่อพวกเขาหลับตาลง ภาพของแกะที่มีเลือดกบปากและจับจ้องมายังพวกเขา พร้อมกับแลบลิ้นออกมาก็ปรากฏขึ้นมา

 

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?” ภรรยาของเขายังคงพูดพึมพำออกมาไม่รู้จบ “สองสามวันก่อน มันก็ยังดีดีอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”

 

“เฮ้อ เลิกพูดได้แล้ว” สามีของเธอพูดออกมาอย่างหมดความอดทน

 

ถึงแม้จะเข้ามาอยู่ในบ้านและนอนอยู่บนเตียงอุ่นๆแล้ว เขาก็ยังรู้สึกว่า ร่างกายและหัวใจของเขายังคงเย็นยะเยือกไม่หาย เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

 

“บางที ตอนที่มันอยู่ข้างนอก มันอาจจะไปกินอะไรแปลกๆเข้าก็ได้” เขาพยายามปลอบใจภรรยา รวมถึงตัวเขาเองด้วย

 

“ก็อาจจะ” ภรรยาของเขาพูด

 

วันต่อมา อากาศอุ่นสบาย ผู้เป็นสามีตื่นขึ้นมาแต่เช้าและเดินไปที่คอกแกะ เลือดแห้งกรังติดอยู่ตามพื้นและกำแพง ดวงตาของแกะยังคงเบิกกว้าง และส่องประกายแสงสีแดงเข้มออกมา

 

“มีอะไรเหรอ?” ภรรยาของเขาตามออกมา

 

“ฉันกำลังคิดอยู่ว่า เราจะทำยังไงกับแกะตัวนี้ดี” เขาพูด

 

“แล้วจะเอามันไปทำอะไรได้ล่ะ?” ภรรยาของเขาถาม

 

“เราเอาเนื้อของมันไปขายดีไหม?” ผู้เป็นสามีพูด

 

“บ้าไปแล้วหรือไง มันเป็นแกะบ้านะ” ภรรยาของเขาพูด “ถ้าเกิดมีคนกินเนื้อของมันเข้าไป แล้วป่วยขึ้นมาจะทำยังไง?”

 

“ถ้าอย่างนั้น ก็เอามันไปทิ้งแล้วกัน” เขาพูด “พอคิดถึงเงินที่ควรจะได้ มันก็น่าเสียดายจริงๆ”

 

“โยนมันทิ้งไปที่กองขยะข้างนอกเลยนะ” ภรรยาของเขาพูด

 

ผู้เป็นสามีแบกร่างแกะ แล้วเอาไปโยนทิ้งไว้ข้างนอก

 

“อะไรน่ะ?” มีชายคนหนึ่งที่เดินผ่านมาในตอนเช้า แล้วบังเอิญเห็นร่างของแกะตัวนั้นเข้า “แกะเหรอ?”

 

เขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา

 

“ใครเอามันมาทิ้งไว้ที่นี่กัน? เขาจะต้องโง่มากแน่ๆ!” ชายคนนั้นรีบกลับไปที่บ้านของเขาพร้อมกับร่างของแกะที่ตายแล้ว เขาไม่สนใจว่ามันจะสกปรกแม้แต่นิดเดียว

 

เขาเป็นชายโสดที่อายุมากแล้วในหมู่บ้าน เขามีอายุประมาณ 45 ปีและอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ภายในบ้านสองห้องหลังหนึ่ง เขาเป็นคนขี้เกียจและไม่คิดจะทำอะไรจริงๆจังๆ แต่เขากลับค่อนข้างมีฝีมือในการทำอาหารประเภทไก่และย่างกระต่าย

 

ร่างของแกะตัวนี้ มากพอที่จะทำให้เขาอิ่มไปได้หลายวัน เขารีบจัดการถลกหนังและเลาะกระดูกของมันออก

 

“เราเอาแกะไปทิ้งไว้ข้างนอกแบบนั้นดีแล้วใช่ไหม? ถ้าเกิดหมาในหมู่บ้านไปกินมันเข้า หมาจะกลายเป็นบ้าขึ้นมารึเปล่า?” ภรรยาของเขาไม่สามารถเลิกคิดเรื่องแกะตัวนั้นได้

 

“ทำไมจะต้องคิดมากเรื่องนี้ด้วย?” ผู้เป็นสามีถามขึ้นมาในขณะที่เขากำลังสูบบุหรี่อยู่ “เธอบอกว่าให้ฉันเอามันไปโยนทิ้ง แต่ตอนนี้กลับมากังวลเรื่องของมันอีก แล้วตอนนี้ เราจะต้องทำยังไงอีกล่ะ?”

 

เขาต้องตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และมันทำให้เขานอนหลับไม่สนิท เพราะเขาต้องทิ้งแกะที่ควรจะขายได้ในราคาหลายร้อยหยวนไป ตอนนี้ เขากำลังหงุดหงิดมาก

 

“ทำไมต้องตะคอกใส่ฉันด้วย?” ภรรยาของเขารู้สึกไม่พอใจ

 

“งั้นก็บอกมาสิ ว่าจะให้ฉันทำยังไง!” เขาสูดลมหายใจเข้าลึก

 

“ไปเอามันกลับมา แล้วเอาไปเผาหรือไม่ก็ฝังมันเถอะ” ภรรยาของเขาพูด

 

“ก็ได้” ผู้เป็นสามีโยนก้นบุหรี่ทิ้งไปที่พื้น แล้วเหยียบมันในตอนที่เขาก้าวเท้าเดิน เมื่อเขาเดินไปถึงกองขยะด้านนอก เขาก็พูดอะไรไม่ออก

 

เฮ้ย แกะหายไปไหนแล้วล่ะ?

 

เขากลับไปหาภรรยา “มันหายไปแล้ว”

 

“จะต้องมีคนเก็บมันไปแน่ๆ” ภรรยาของเขาพูด “หวังว่าคงจะไม่มีใครเอามันไปกินนะ”

 

เธอรู้ดีว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้มีคนตะกละและขี้เกียงสันหลังยาวอยู่มากแค่ไห

 

“แล้วเราควรจะทำยังไงกันดีล่ะ?” ผู้เป็นสามีเริ่มกังวลขึ้นมา หลังจากที่คิดดูสักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันจะไปขอใช้เครื่องกระจายเสียงของหมู่บ้าน แล้วประกาศให้ชาวบ้านรู้”

 

แล้วเขาก็เดินออกไปจากบ้าน เครื่องกระจายเสียงในหมู่บ้านที่เงียบมานาน ได้มีการทำงานอีกครั้ง

 

“ถึงลูกบ้านทุกคน หวังอีเชิงได้ฆ่าแกะตัวหนึ่งไป แล้วเอามันไปทิ้งที่กองขยะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เก็บแกะตัวนั้นไป อย่ากินมันเด็ดขาด แกะตัวนั้นตายเพราะกินหนูมีพิษเข้าไป!”

 

“เขากำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?” ชาวบ้านคนหนึ่งพูด

 

“แกะของอีเชิงตายเพราะไปกินหนูที่มีพิษเข้าไปน่ะสิ แล้วก็มีคนมาเก็บแกะตัวนั้นไปจากกองขยะ” ชาวบ้านอีกคนพูด

 

“ถ้าคนคนนั้นกินเข้าไปแล้วจะตายไหม?” ชาวบ้านที่ถามขึ้นมาคนแรกพูด

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ?” ชาวบ้านอีกคนพูด

 

ภายในห้องทรุดโทรมห้องหนึ่งในหมู่บ้าน ชายวัยประมาณ 40 คนหนึ่งที่สกปรกมอมแมมกำลังถือหม้อเอาไว้ใบหนึ่ง เขากำลังดื่มซุปเนื้อแกะเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย

 

“โอ้ รสชาติเยี่ยมจริง” ชายคนนั้นพูดกับตัวเอง “แกะตัวนี้ไม่เลวเลย ฉันน่าจะเอาบางส่วนของมันไปขาย แล้วเอาเงินไปซื้อเหล้ามาดื่ม”

 

อยู่ๆเครื่องกระจายเสียงของหมู่บ้านก็ดังขึ้นมา “ถึงลูกบ้านทุกคน โปรดฟังทางนี้”

 

“เขากำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?” ชายคนนั้นฟังอย่างตั้งใจ

 

แล้วเขาก็เผลอพ่นซุปที่เพิ่งดื่มเข้าไปออกมา หนูพิษเหรอ?

 

เขากินมันไปแล้วถึงสองถ้วย

 

“เดี๋ยวนะ ถ้ามันกินหนูพิษเข้าไปจริงๆ เลือดของมันก็น่าจะเป็นสีดำไม่ใช่เหรอ?” เขารู้สึกมึนงง เขาหันกลับไปมองดูหม้อใบใหญ่และเลียริมฝีปากของตัวเอง เขาเพิ่งจะพูดว่ามันอร่อยมาก แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

“ช่างมันเถอะ ฉันพอแล้ว ฉันจะเอาที่เหลือไปขายแทน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด