Elixir Supplier 648

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 648 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

648 ยอดฝีมือ ฝีมือสูงส่ง

 

“ยังจำเป็นอยู่เหรอ?” ชายหนุ่มอีกคนถาม

 

“ไปตรวจดูเถอะ” เพื่อนของเขาพูด

 

สุดท้าย พวกเขาก็พาเพื่อนของพวกเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลเหลียนชาน ทางโรงพยาบาลได้แนะนำให้ชายหนุ่มนอนดูอาการก่อน แต่พวกเขาได้ปฏิเสธไป เพราะต้องการไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านของพวกเขามากกว่า

 

“ฉันบอกแล้ว ว่ามันไร้ประโยชน์” หนึ่งในชายหนุ่มพูดขึ้นมา

 

“ไปกันเถอะ” เพื่อนของเขาพูด “มาคราวนี้เสียเที่ยวจริงๆ!”

 

ในหมู่บ้าน หวังเย้ายังคงคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นถูกแมลงที่อยู่บนเนินเขาซีชานกัด แต่อาการของเขากลับต่างออกไป หรือมันจะเป็นแมลงคนละแบบกัน?

 

ราตรีเริ่มโรยตัวลงมา ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยความมืด

 

 

เมืองเต๋า ชายสองคนซ่อนตัวอยู่ในความมืด

 

“พี่ ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกตินะ” หนึ่งในนั้นพูด

 

“ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็รับมือได้สบายอยู่แล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบน้ำเต้าออกมา “มาดูสมบัติของฉันสิ”

 

“อะไรเหรอ?” ชายหนุ่มคนแรกถาม

 

เขาดึงจุกที่อยู่บนน้ำเต้าออก ซูม! แมลงมีปีกนับไม่ถ้วนบินออกมา

 

ในวิลล่าที่อยู่ไม่ไกล อาจารย์กู่ยังคงเล่าเรื่องอยู่ “หุบเขาพันโอสถ…ถึงแม้ว่ามันจะมีคำว่า ‘โอสถ’อยู่ แต่พวกเขากลับมีชื่อเสียงในด้านแมลงพิษ ทักษะในการใช้พิษร้ายที่เหนือธรรมชาติและยากต่อการป้องกัน ทุกอย่างล้วนอยู่เหนือการคาดการณ์ของคนทั่วไป”

 

“อาจารย์สามารถจัดการกับมันได้ไหมครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม

 

“ฉันมีของที่เมื่อถูกเผาแล้ว มันก็จะสามารถใช้ต้านทานแมลงมีพิษได้ทุกชนิดอยู่” อาจารย์กู่พูด

 

ซูม! แมลงที่มีขนาดตัวพอๆกับยุงบินเข้ามาในบริเวณด้านนอกวิลล่า ตุบ! ตุบ! เหล่าชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ด้านนอก รวมถึงคนที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็พากันล้มหมดสติไป

 

“พวกมันมาแล้ว” ลุงหลินพูด

 

“คงต้องรบกวนอาจารย์แล้ว” ซุนเจิ้งหรงพูด

 

“ไม่มีปัญหา” อาจารย์กู่พูด

 

“ไปกันเถอะ” ซุนเจิ้งหรงพูด

 

ในความมืด ชายสองคนกระโดดเข้ามาในบริเวณวิลล่า

 

“วิลล่าใหญ่จังเลยนะ” หนึ่งในพวกเขาทอดถอนใจ

 

พวกเขาใช่เวลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหุบเขา ถึงแม้ว่า มันจะเป็นอาคารสองชั้นที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไม้ไผ่ มันก็เทียบกับวิลล่าสุดหรูแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี

 

“ความจริง บางครั้งฉันก็รู้สึกอิจฉาคนพวกนี้นะ” ชายคนนั้นพูดกลั้วหัวเราะ

 

“พี่ระวังตัวด้วย เขามันเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์” ชายอีกคนพูด

 

“อืม ฉันรู้” ชายคนแรกพูด แอ๊ด! ประตูถูกเปิด “ไป”

 

ซูม! แมลงมีปีกเพิ่มจำนวนขึ้น หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน แมลงเหล่านั้นก็เริ่มบินอย่างไร้ทิศทาง

 

“โอ้ ธูปไล่แมลงสินะ” ชายคนแรกพูดขึ้นมา เมื่อเขาได้กลิ่นที่ผิดปกติภายในห้อง “ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะได้มันมา บางทีเขาอาจจะรู้จักกับอาจารย์ที่มีฝีมือสักคนก็ได้นะ”

 

“อาจารย์ที่มีฝีมือเหรอ? จะมีความสามารถสักแค่ไหนกัน?” ชายอีกคนพูด “เราแยกกันลงมือดีไหม?”

 

“ไม่ เราควรลงมือด้วยกัน เวลาเกิดปัญหาอะไร เราก็จะสามารถช่วยเหลือกันได้” ชายคนแรกพูด “มีคนมา!”

 

ฟึบ! มีบางอย่างถูกจุดขึ้นในความมืด มันเป็นแสงสว่างวาบ

 

“ระเบิดแสง!” เพราะแสงที่สว่างจ้า ทำให้ทั้งสองไม่สามารถลืมตาได้

 

ฟุบ ฟุบ! มันเป็นเสียงของกระสุนดังลอดผ่านที่เก็บเสียง ชายทั้งสองถอยหลังพร้อมกับป้องกันศีรษะของตัวเองเอาไว้ พวกเขาถูกยิงด้วยลูกกระสุน

 

พวกเขาถอยออกไปจากห้องอย่างไม่ลังแล และหมุนตัวเพื่อจะหนีออกไป

 

มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คิดจะหนีอย่างงั้นเหรอ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”

 

ซุนเจิ้งหรงเตรียมการมาอย่างยาวนาน และเตรีนมทุกอย่างให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ได้

 

ในเมืองเต๋า เขาไม่ใช่แค่ชายที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้น แต่เขายังสามารถได้ของหลายๆอย่างมาและจัดการหลายๆเรื่องได้ แม้ว่ามันอาจจะผิดกฎหมายหรืออยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดก็ตามที

 

แหขนาดใหญ่ร่วงลงมาและปกคลุมตัวชายทั้งสอง กระสุนถูกยิงออกมาจากทุกทิศทางอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีหน้าไม้ยิงออกมาด้วยเช่นกัน อาวุธแทบทุกชนิดถูกนำออกมาใช้ เหลือก็แต่ระเบิดมือเท่านั้น ซุนเจิ้งหรงมีมันอยู่ แต่เขาก็ไม่คิดจะเอามันออกมาใช้ นอกจากว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ

 

ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมการมาอย่างดีแล้ว แต่การจับพวกเขาเอาไว้ในแห่ก็ยังคงมีเรื่องเหนือความคาดหมายของเขาอยู่ดี ทั้งสองสามารถหลุดรอดจากแห่ที่เขาเตรียมเอาไว้ได้

 

เปรี๊ยะ! มีกระกายไฟสีฟ้าลั่นเปรี๊ยะ มันคือปืนไฟฟ้ากำลังสูง

 

“พี่ไปก่อนเลย” หนึ่งในพวกเขาพูด

 

บูม! อยู่ๆก็มีแสงสีเขียวส่องวาบพร้อมกับรสชาติพิศดารกระจายอยู่ในความมืด

 

“กลั้นลมหายใจเอาไว้ อย่าหายใจ มันเป็นควันพิษ!” มีคนตะโกนขึ้นมา

 

ผู้บุกรุกทั้งสองหนีออกไปด้านนอก

 

“กู่ชุนฉือ!” หนึ่งในชายสองคนตะโกนขึ้นมา เขารู้จักชายที่ให้ความช่วยเหลือซุนเจิ้งหรงอยู่ “รนหาที่ตาย!”

 

“เมี่ยวชิงเฟิง แกกล้าดียังไงถึงออกมาจากหมู่บ้าน!” อาจารย์กู่พูด

 

“เฮ้ย ซุนเจิ้งหรง อย่าคิดว่าแกมีมันช่วยแล้วจะปลอดภัยล่ะ แล้วเราจะกลับมาใหม่” เมี่ยวชิงเฟิงพูด

 

ชายทั้งสองหายไปในความมืด

 

หลังจากนั้นไม่นาน รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคันก็ขับกระจายออกไปพร้อมกับเปิดเสียงไซเรนดังลั่น พวกเขาทำการค้นหาไปทั่วเมืองเต๋า รวมไปถึงคนต่างชาติและรถที่ขับข้ามเขตแดนด้วย

 

“อาจารย์รู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม

 

“มันยิ่งกว่ารู้จักซะอีก” กู่ชุนฉือพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เขามีชื่อว่า เมี่ยวชิงเฟิง เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของหุบเขาพันโอสถ เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาออกมาจากหมู่บ้าน เขาได้ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก ตอนนั้น ฉันก็ได้ประมือกับเขาด้วย”

 

คำพูดฟังดูธรรมดาสามัญ แต่ซุนเจิ้งหรงรู้สึกได้ว่า คำพูดของเขาที่บอกเล่าว่ามีการต่อสู้นั้น ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พูดเลย เงื่อนผูกรัดแน่นขึ้น “อาจารย์เป็นกังฟูไหมครับ?”

 

“ไม่” กู่ชุนฉือขมวดคิ้ว

 

ถึงแม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญเรื่องยา และเข้าใจในเรื่องของการแก้พิษและกำจัดแมลงพิษ แต่เขาก็ไม่ได้เก่งเรื่อง และทำให้เขาต้องกลายเป็นภาระ จนทำให้เพื่อนสองคนที่ปกป้องเขาต้องตายไป และคนที่ฆ่าพวกเขาก็คือ เมี่ยวชิงเฟิง คนนี้นี่เอง

 

กู่ชุนฉือต้องการมอบความตายให้กับชายคนนี้มานานแล้ว หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้นขึ้น เขาก็เดินทางไปที่หุบเขาพันโอสถและคอยสังเกตการณ์อยู่ในที่ไกลๆ เขายังไปสอบถามเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นด้วย ถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดูธรรมดา แต่สิ่งที่เขาได้ยินมากลับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกอย่างมาก เคยมียอดฝีมือพยายามเข้าไปท้าทายพวกเขา แต่แล้ว คนเหล่านั้นก็สิ้นลมโดยที่ยังไม่ทันได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว เราจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด” กู่ชุนฉือพูด “ถ้าเขากลับไปที่หมู่บ้าน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการกับเขา”

 

“ครับ” ซุนเจิ้งหรงพยักหน้า ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามีเรื่องกับเขา จะไม่มีทางอยู่ดีมีสุขอย่างเด็ดขาด “เพิ่มรางวัลให้พวกใต้ดินอีกเท่าหนึ่ง”

 

นั่นก็หมายความว่า รางวัลได้เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านหยวน มันมากพอที่จะทำให้ใครหลายๆคนสามารถมีชีวิตที่ดีได้เลย 99% ของประชากรในประเทศนี้ไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้ได้ในตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา

 

เมื่อข่าวกระจายออกไป กองกำลังใต้ดินของเมืองเต๋าก็เกิดบ้าคลั่งขึ้น มันได้กลายเป็นพายุรุนแรงอย่างรวดเร็ว

 

“ประธานซุน ช่วงนี้ เมืองเต๋าไม่ค่อยจะสงบสักเท่าไหร่เลยนะ” อธิบดีซวีพูด

 

“ครับ มีการลอบสังหารผมถึงสองครั้งแล้ว” ซุนเจิ้งหรงพูด “ผมสงสัยว่า ท่านพอจะมีความคิดดีดีบ้างไหมครับ”

 

อธิบดีไม่ได้พูดอะไร

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด