Elixir Supplier 683

Now you are reading Elixir Supplier Chapter 683 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

683 คนชั่วก็มีบทลงโทษสำหรับคนชั่ว

 

หวังเย้ายังไม่แน่ใจว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้ ความจริง ตัวเขาเองก็ยังไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือใคร

 

ภายในโรงพยาบาลห่ายชิว เฉาเหมิงและลูกน้องของเขากำลังอาเจียนออกมา หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะทานอาหารเสร็จ “แหวะ…”

 

“หมอ พวกเราเป็นอะไรกันแน่?” เฉาเหมิงรู้สึกกลัวมาก เขาไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดได้ และกลัวว่า ตัวเองจะไม่สามารถกินอะไรได้อีกตลอดไป

 

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า ที่โรงพยาบาลเหลียนชานรักษาเขาไม่ได้ก็เพราะที่นั่นเป็นแค่โรงพยาบาลเล็กๆ จึงอาจจะไม่มีความพร้อมในการรักษาและมีอุปกรณ์ไม่ครบถ้วน เขาเคยคิดว่า แพทย์ของโรงพยาบาลเหลียนชานอาจจะไม่เคยรักษาคนไข้ที่มีอาการแบบเขามาก่อน แต่หลังจากที่เขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลห่ายชิว อาการของเขากลับแย่ลงกว่าเดิม

 

นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทุกคนที่เจอเรื่องนี้กับตัวเองต่างก็ต้องรู้สึกตื่นตระหนกอย่างช่วยไม่ได้

 

โรงพยาบาลห่ายชิวมีความพร้อมมากกว่าโรงพยาบาลเหลียนชาน แต่แพทย์ของที่นี่กลับช่วยอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน

 

“ผมขอแนะนำให้คุณหยุดกินไปก่อนสักพักนะครับ” แพทย์พูด

 

“หมอ หัวหน้ากับเพื่อนของผมเป็นอะไรกันแน่?” หนึ่งในคนของแก็งค์ถาม

 

“ใช่ๆ พวกเขาเป็นอะไรกันน่ะหมอ?” อีกคนถาม

 

กลุ่มแก็งค์ของเฉาเหมิงที่ตามมาทีหลังได้มารวมตัวกันที่ห้องทำงานของแพทย์ ถึงอาชีพของพวกเขาจะไม่ปกติ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถอยู่แต่โรงพยาบาลทั้งวันแบบนี้ได้ แล้วพวกเขาก็ยังเป็นพวกขี้เกียจและไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ถูกต้อง ทำให้แม้แต่พ่อแม่ของตัวเองพวกเขาก็ยังไม่คิดจะดูแล ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของพวกเขาแบบพวกเฉาเหมิงเลย

 

“ผมคิดว่า พวกเขาเป็นอาหารเป็นพิษครับ” แพทย์พูด

 

“อาหารอะไรที่ทำให้อาการแย่ได้ขนาดนี้น่ะ?” หนึ่งในพวกเขาถาม

 

“ถึงผมจะบอกไป พวกคุณก็คงจะไม่เข้าใจอยู่ดี” แพทย์เริ่มรำคาญเฉาเหมิงและพักพวกของเขา

 

อาการของคนไข้ทรุดลงครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนที่พวกเขาทานไม่ได้ทานอะไร อาการของพวกเขาก็ไม่ถือว่าแย่มาก แต่เมื่อเริ่มทานอะไรเข้าไป แม้จะเป็นแค่โจ๊กธรรมดาๆก็สามารถทำให้พวกเขาอาเจียนไม่หยุดได้ ในฐานะแพทย์ผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง เขากลับไม่เคยเจอคนไข้อาการแบบนี้มาก่อนเลย แล้วคนที่มาคอยดูแลพวกเขายังทำตัวน่ารำคาญมากด้วย

 

เหล่าคนในแก็งค์มักจะทำเสียงดังน่ารำคาญ พวกเขาทั้งสูบบุหรี่, เล่นไพ่, และเล่นมือถือภายในห้องพักคนไข้ พวกเขาไม่ต่างจากกลุ่มคนเถื่อน ไม่มีใครในหมู่พวกเขาสนใจคำเตือนจากทางโรงพยาบาล และทำตัวเกรี้ยวกราดเมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือนพวกเขาให้เงียบ พวกเขายังลวนลามนางพยาบาลในแผนกอีกสองคนด้วย

 

หนึ่งในนางพยาบาลเป็นน้องสะใภ้ของนายแพทย์คนนี้ด้วย การที่พวกเขาลวนลามเธอก็เหมือนกับการตบหน้าเขา ดังนั้น แพทย์จึงยิ่งไม่พอใจพวกเขามากขึ้นไปอีก

 

“พวกเขามาจากที่ไหนกัน?” แพทย์พึมพำ

 

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่ไม่ชอบคนเหล่านี้ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลล้วนแล้วแต่ไม่มีใครชอบพวกเขาเลย

 

“นี่ เราจะทำยังไงต่อไปดี?” หนึ่งในคนในแก็งค์ถาม

 

“สาม ห้า” หนึ่งในพวกเขากำลังเล่นไพ่อยู่

 

“ฉันหวังว่า นี่จะไม่ใช่เรื่องกรรมตามทันอะไรพวกนี้นะ” อีกคนพูดขึ้นมา

 

“สาม เจ็ด” ชายร่างสูงพูด

 

“เหลวไหล คนอย่างเราสนใจเรื่องบาปกรรมกันด้วยเหรอไง?” ชายอีกคนพูด “ตองเอช”

 

“ใช่” ชายที่เตี้ยกว่าพูด “ลุกขึ้น! ขอฉันดูข้างหลังแกหน่อย”

 

“ดูสิ มันซ่อนไพ่เอาไว้ในกางเกงใน! ไอ้เลว” ชายร่างสูงพูด “เชี่ย! เราเป็นพวกเดียวกันนะเว้ย ช่วยซื่อสัตย์หน่อยไม่ได้เหรอไง? มาโกงไพ่กันแบบนี้มันไม่สวยเลยนะ”

 

“ฉันทำตามกฎของเราในทุกอย่างที่ฉันทำต่างหากล่ะ ฉันยึดมั่นในคำพูดของหัวหน้า” ชายร่างผอมพูด

 

“ต*แหล” ชายร่างเตี้ยพูด

 

พวกเขาสูบบุหรี่ในระหว่างที่เล่นไพ่กันด้วย

 

“คนพวกนี้เป็นใครกันน่ะ?” คนไข้และญาติคนไข้บางส่วนต่าวก็ไม่พอใจพวกเขา

 

คนในแก็งค์ส่งเสียงดังเอะอะทั้งวัน มันจึงกระทบกับคนไข้ที่พักรักษาตัวอยู่ห้องเดียวกันกับพวกเขาด้วย

 

“น่าจะให้พวกเขาออกจากโรงพยาบาลไปซะ” ญาติคนไข้รายหนึ่งพูดขึ้นมา

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้ามาภายในห้องที่พวกเขาอยู่ ครั้งนี้ พวกเขาพากันมาถึงห้าคนเพื่อเข้ามาจัดการกับพวกแก็งค์ของเฉาเหมิงโดยเฉพาะ ทั้งหมดเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลต่างก็ไม่มีใครอย่างจะเสี่ยงกับความปลอดภัยของตัวเอง พวกเขาจึงได้ไปพูดกับฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลเพื่อให้มาจัดการเรื่องนี้

 

“ขอโทษนะครับ พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้สูบบุหรี่หรือเล่นไพ่ในโรงพยาบาล” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูด

 

“โอ้ งั้นเหรอ? กลัวจังเล้ย!” พวกเขาแกล้งทำเป็นกลัว

 

“ฮาฮา!” คนในแก็งค์พากันหัวเราะ พวกเขาไม่ได้สนใจคำเตือนเลยสักนิด

 

“ตอนนี้ เชิญออกไปจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูด

 

“อะไร? นี่คิดจะเข้ามาทำร้ายพวกเราเหรอ?” หนึ่งในพวกเขาพูด

 

“นี่ ยามจะทำร้ายฉัน!” พวกคนในแก็งค์ส่งเสียงตะโกนโหวกเหวก

 

“จะตะโกนกันทำไม?” ชายหัวล้านร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา “นี่เป็นโรงพยาบาลนะ ไม่ใช่บ้าน ถ้าพวกแกอยากจะเล่นไพ่ ก็ออกไปเล่นที่อื่น”

 

“แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงได้กล้ามาสั่งให้พวกเราอกไป หา?” ชายร่างสูงในแก็งค์พูด

 

“ใช่ๆ” ชายร่างเตี้ยในแก็งค์พูด

 

คนในแก็งค์ทั้งสี่วางไพ่ลงและพากันลุกขึ้นยืน และพากันจับจ้องไปที่ชายหัวล้านร่างใหญ่ พวกเขามองไปที่ชายคนนั้นด้วยสายตาข่มขู่และพูดออกมาว่า “แน่จริงก็เข้ามา”

 

“พวกแกรอก่อนเถอะ” ชายหัวล้านร่างสูงใหญ่จบแล้วก็หมุนตัวเดินออกไป

 

“โถ่ ฉันละกลัวจริงๆ! อย่าให้ฉันรอนานล่ะ!” ชายร่างสูงในแก็งค์ตะโกนตามหลัง

 

คนในแก็งค์ก็พากันหันไปจัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อ พวกเขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มาจนเบื่อ และรู้ดีว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กล้าแตะต้องพวกเขาอย่างแน่นอน แต่หากอยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีไร้มารยาทเท่านี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมา พวกเขาก็จะร้องเรียนและยอมรับความผิดพลาด จากนั้นก็ทำเป็นเชื่อฟังกฎของโรงพยาบาลต่อหน้าพวกเขา แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินออกไปแล้ว พวกเขาก็จะกลับมาทำตัวโหวกเหวกและสร้างความรำคาญเหมือนเดิม

 

พวกเขาไม่ได้ทำเรื่องร้ายแรงอะไร เพียงแค่ไม่ทำตามกฎและสร้างความรำคาญเท่านั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลจึงทำอะไรพวกเขาไม่ได้

 

คนแบบพวกเขามักจะมีให้เห็นอยู่มากมาย พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่พวกเขาจะทำตัวน่ารำคาญจนทำให้คนรอบๆคลั่งเพราะพวกเขาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีวิธีที่ดีในการจัดการกับพวกเขา แต่สักวัน พวกเขาจะต้องได้รับผลจากการกระทำของตัวเองอย่างแน่นอน

 

คนทั้งสี่กลับไปเล่นไพ่กันต่อ แต่อยู่ๆก็มีกลุ่มคนจำนวนมากเข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้

 

หนึ่งในพวกเขาหันหน้าไปมองและเห็นชายหัวล้านร่างกายสูงใหญ่ พวกเขานึกสงสัยว่าชายคนนี้กลับมาอีกทำไม มันไม่ใช่แค่ชายหัวล้านเท่านั้นที่กลับมา แต่เขายังพาคนมาด้วยอีกหกคน และทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีร่างกายแข็งแรงกำยำกันทั้งนั้น

 

“พวกแกต้องการอะไร?” ชายร่างสูงถามด้วยท่าทีหวาดระแวง

 

“จัดการพวกมันซะ” ชายหัวล้านพูด

 

เพื่อนอีกหกของเขาเดินหน้าเข้าไปทุบตีคนทั้งสี่

 

“นี่ พวกกำลังจะทำอะไรน่ะ?” ชายร่างสูงในแก็งค์กรีดร้อง “นี่มันโรงพยาบาลนะ! ยาม! ยามโว้ย! หยุดพวกมันเซ่! ไม่งั้นเราจะร้องเรียนพวกแก!”

 

“โอ๊ย! อย่าชกหน้าฉัน!” ชายร่างผอมกรีดร้อง “ขอโทษ ฉันขอโทษ!”

 

เขาพยายามจะหนีออกมา แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางเอาไว้

 

“เฮ้ย ไอ้หนุ่มนี่!” ชายร่างผอมตะคอก

 

“มานี่!” ชายร่างกายกำยำที่เป็นเพื่อนของชายหัวล้านเดินเข้ามาคล้าผมของเขาเอาไว้และกดเขาลงกับพื้น เขาใช้เท้าเหยียบลงไปที่หน้าอกของชายร่างผอมราวกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง สำหรับชายร่างผอม มันราวกับว่า เขากำลังถูกปีศาจร้ายทรมานอยู่ “แกรู้สึกดีไหมล่ะ?”

 

“ฟังนะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าพวกแกอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ พวกแกต้องหุบปาก ถ้าไม่อย่างนั้น นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่พวกแกถูกทุบ” ชายหัวล้านพูด

 

เขาไม่ได้คิดจะเลี่ยงคนในแก็งค์พวกนี้ แต่เขาเดินออกไปในตอนนั้นก็เพื่อไปเรียกเพื่อนของเขามาช่วย คนฉลาดจะไม่สู้เมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ และเขาแค่คนเดียวก็สู้คนหมู่มากไม่ได้

 

“ได้ๆๆๆ” ชายร่างสูงในแก็งค์พูด

 

คนในแก็งค์ทั้งสี่น่วมไปทั้งตัว พวกเขามีรอยช้ำอยู่ทั่วหน้าและไม่กล้าพูดอะไรอีก ทุกคนตางพากันพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

 

“ได้ เราผิดเอง เราจะเงียบไม่ส่งเสียงดังกันอีก” ชายร่างสูงในแก็งค์พูด

 

ชายหัวล้านและเพื่อนของเขาจึงเดินออกไป

 

“เชี่ย! รอก่อนเถอะ! สักวันฉันจะเอาคืน” ชายร่างเตี้ยพูด “ไปหาว่าพวกมันเป็นใคร แล้วบ้านของพวกมันอยู่ไหนกันเถอะ”

 

“แกมัวทำอะไรกันอยู่? ไม่ใช่ว่าพวกแกเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหรอ ทำไมถึงปล่อยให้พวกมันตีเราอยู่ได้?” ชายร่างผอมถามขึ้นมา หลังจากที่ชายหัวล้านและเพื่อนของเขาจากไปแล้ว

 

“พวกแกไม่ทำงานตามหน้าที่ พวกแกไม่สมควรได้ใส่ชุดนี่และรับเงินด้วยซ้ำ” ชายร่างสูงในแก็งค์พูด

 

“กัปตันครับ! เราน่าจะสั่งสอนพวกเขาซักหน่อยนะครับ” หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูด เขารู้สึกโมโหมากจนเห็นเส้นเลือดปูดที่ขมับทั้งสองข้าง

 

“ไม่ อย่าทำอะไรโง่ๆ” กัปตันของเขาพูด “ไปกันเถอะ”

 

“เชี่ย ไอ้พวกไร้ประโยชน์ พวกมันสมควรเจอดีแล้ว” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูด “พวกมันพูดว่า พวกมันจะแก้แค้นผู้ชายหัวล้านคนนั้นใช่ไหม? ผมว่า เราน่าจะไปบอกเขาสักหน่อยนะครับ”

 

“เรื่องนี้ฉันเห็นด้วย” กัปตันพูด

 

ไม่นานก็เป็นเวลาเที่ยง

 

“ได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้วค่ะ” นางพยาบาลพูด

 

“หัวหน้าอยากกินอะไรดี?” ชายร่างสูงในแก็งค์ถาม

 

“แกโง่หรือว่าหูหนวกหา?” เฉาเหมิงถามด้วยความโมโห หลังจากที่ได้ยินคำถาม “แกไม่ได้ฟังที่หมอบอกเหรอไง? ตอนนี้ ฉันยังกินอะไรไม่ได้”

 

เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนอนอยู่บนเตียงและใส่สายน้ำเกลือ เขากินอะไรไม่ได้ เพราะเมื่อกินเข้าไปเขาก็จะอาเจียนออกมาไม่หยุด  ถ้าหากเขาเป็นมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กกล้า เขาก็คงต้องกินเหล็กเป็นอาหาร ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่กินอะไรเลย เขาไม่สามารถพึ่งพาสารอาหารจากน้ำเกลือไปตลอดได้ เขาเริ่มมีอาการมึนงงและอ่อนแอ เวลาจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เขาก็ต้องมีคนคอยช่วยอยู่ตลอด เขารู้สึกว่า ตัวเองเป็นเหมือนกับชายชราที่กำลังใกล้ตายยังไงยังงั้น

 

“อ้อๆ งั้นเราไปกินข้าวก่อนนะ” ชายร่างสูงในแก็งค์พูด

 

เขาและพักพวกอีกสามคนในแก็งค์ลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรทาน ทันทีที่เดินพ้นจากประตู พวกเขาก็เริ่มบ่นออกมา

 

“แม่ง! ทั้งๆที่นอนอยู่บนเตียงทำอะไรไม่ได้แท้ๆ ทำไมถึงเอาแต่ด่าพวกเราอยู่ได้?” หนึ่งในพวกเขาพูดขึ้นมา “เขาคิดว่า ตัวเองใหญ่มาจากไหนกัน?”

 

“ใช่ๆ” ชายร่างเตี้ยเห็นด้วย

 

“เลิกบ่นได้แล้ว เงินยังอยู่ในมือของเขานะ” ชายร่างสูงพูด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด