Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 17: วิกฤตของเรย์น่า (5)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 17: วิกฤตของเรย์น่า (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 17: วิกฤตของเรย์น่า (5)

“คนขับกิกันท์…ข้าขอเป็นคนนั้นได้ไหม”

เรย์น่าหันมองไปยังเจ้าของเสียงนั่น เขาเป็นเด็กชายดูเหมือนจะอายุประมาณ 17 ปี และเสื้อผ้าของเขาก็ดูค่อนข้างคุ้นเคย

“อ่า ท่านคือคนที่ช่วยเหลือเด็กๆเหล่านั้นเอาไว้เมื่อวานนี่”

“ให้ข้าได้แนะนำตัวเถอะ ข้าชื่อนามว่า ลุค แห่ง รากันต์”

ลุคแนะนำตัวกับพวกเขาด้วยความเคารพ

ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับครั้งแรกที่เขาได้พบกับคาทาริน่า

“ฉันไม่รู้สึกถึงพลังอย่างที่เคยรู้สึกเมื่อวานนี้เลย’

ลุคมองตรวจสอบเธออย่างใกล้ชิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เขารู้สึกเมื่อวานก่อน

หรือนั่นจะเป็นภาพลวงตา?

“ลุค แห่ง รากันต์? ท่านคือลอร์ดผู้สืบทอดของไวเทานต์รากันต์อย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ ถูกต้องแล้ว”

เมื่อได้รับคำตอบจากลุค ประกายแสงแห่งความหวังก็ส่องเข้ามาในดวงตาของเรย์น่า กลับกันวิคเตอร์และพาเวลต่างก็มองไปที่ลุคด้วยความสงสัย

“ข้าขอประทานโทษเป็นอย่างยิ่งที่ขัดจังหวะ แต่ท่านคือลุคแห่งรากันต์จริงๆเหรอ?”

“พวกข้าได้ยินมาว่าท่านประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่และได้หมดสติไปเมื่อไม่นานมานี้”

“นั่นเป็นความจริงแต่ข้าพึ่งฟื้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ข่าวเรื่องนี้จึงยังไม่ถูกแพร่ออกมา”

ลุคพูดขณะถูแหวนที่อยู่บนมือขวาของเขา ทันใดนั้นแหวนก็เริ่มมีประกายแสงส่องสว่างออกมา มันคือตราประจำตระกูลรากันต์

แหวนวงนี้ทำจากเหล็กที่ไม่ใช่เหล็กทั่วๆไป และมันเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับมอบมาจากราชวงศ์อิมพีเรียล มันจึงเป็นแหวนที่ไม่สามารถดัดแปลงหรือลอกเลียนแบบได้

และด้วยเหตุนั้นเรย์น่าและพรรคพวกจึงรู้ว่าลุคเป็นตัวจริง

“ขอท่านโปรดจงอภัยให้ข้าด้วย สำหรับความหยาบคายที่ข้าได้กระทำไป”

“ไม่ นั่นไม่เป็นไร”

ชายชราทั้งสองโค้งคำนับให้กับลุค  สาเหตุที่พวกเขาสงสัยในตัวตนของลุค ก็เป็นเพราะข่าวลือที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับลุคว่าเขากำลังนอนพักรักษาตัวอยู่

ในสถานการณ์นี้ พวกเขาจึงกลัวว่าเด็กชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดของเคานต์โมนาร์ช

มันอาจจะเป็นกลอุบายในการแสร้งทำเป็นช่วยเหลือพวกเขาที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และค่อยเฉลยตอนท้ายว่ามันเป็นแผนหลอกพวกเขา

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเราจะได้รับความช่วยเหลือจากลอร์ดแห่งรากันต์!’

ชายชราทั้งสองมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อในการกระทำของลุค เพราะแต่เดิมเมืองลาเมอร์นั้นถูกปกครองโดยตระกูลรากันต์และตระกูลลิเบียย่า

อย่างไรก็ตามดินแดนและเมืองจำนวนมากสูญหายไปในการก่อกบฏที่เกิดจาก คาร์โนแห่งบาร็อค ที่ต่อมาได้กลายเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิบาร็อค

ในเวลานั้นบรรพบุรุษของพวกเขาต้องส่งมอบที่ดินให้กับราชสำนักและนั่นเป็นเหตุให้ตระกูลต่างๆต้องโยกย้ายไปทำมาหากินที่อื่น

เมื่อนึกถึงความชั่วร้ายในอดีตที่ผ่านมาของพวกจักรวรรดิ์และขุนนาง มันจึงไม่แปลกอะไรที่ตระกูลรากันต์จะมาช่วยเหลือพวกเขาในครั้งนี้

นอกจากนี้พวกเขายังได้ยินมาว่าตระกูลรากันต์เป็นตระกูลขนาดเล็กแต่ก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“แต่ท่านจะเป็นคนขับกิกันท์ให้พวกเราเองเลยเหรอ?”

ลุคพยักหน้าเป็นการตอบกลับคำถามของเรย์น่า

“ใช่ เท่าที่ข้าได้ยินมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพวกท่านจะเริ่มจนมุมแล้วสินะ”

เจ้าหญิงเรย์น่าซึ่งมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับคาธาริน่าตอนนี้ก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับเธอเช่นกัน เพราะคาธาริน่าเลือกที่จะปฏิเสธการเป็นของเล่นของขุนนางลามกเหล่านั้น ตัวเลือกของเธอจึงมีเพียงความตายเท่านั้น

“แต่ตอนนี้มันจะต้องแตกต่างออกไป!’

เขาอยากช่วยเรย์น่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือความผูกพันของโชคชะตา แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ผลลัพธ์ต้องมาจบเหมือนเดิม

ลุคชี้ไปที่ฟิลิปที่อยู่ข้างหลังเขา

“ฟิลิปเป็นอัศวินผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนเตรียมทหารราชวงศ์แม้ว่ามันจะดูไม่น่าพอใจเท่าไหร่ก็ตาม”

ใบหน้าของเรย์น่าและชายชราทั้งสองเปลี่ยนไปพร้อมกัน

โรงเรียนเตรียมทหารราชวงศ์นั้นเป็นค่ายฝึกสอนอัศวินที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังมีการสอนขับกิกันท์อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่อายุเพียงแค่นี้ มันก็มีแนวโน้มว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทักษะของเขาอาจจะเทียบเท่ากับคนขับที่เก่งที่สุดของสนามประลองแห่งนี้

“บ้าจริง  สำหรับเรื่องนี้ … “

ฟิลิปที่ยืนอยู่ห่างๆเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินการประกาศชื่อของเขา

เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นประกายความหวังในดวงตาของลุคและพรรคพวกของเรย์น่า

 

“นายน้อย ข้าต้องขอโทษด้วย แต่ข้าไม่สามารถเอาชนะคนขับกิกันท์ของเคานต์โมนาร์ชได้ ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม”

“อะไรนะ?”

“เท่าที่ข้ารู้มา แคลนลิปปี้ที่ดำเนินการโดยเคานต์โมนาร์ชนั้น มีคนขับระดับผู้เชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนมาก และข้าก็ได้ยินมาว่าแม้แต่คนขับกิกันท์ที่เก่งที่สุดของสนามประลองแห่งนี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเท่านั้นยังไม่พอแม้แต่ในสนามประลองของราชวงศ์ก็หาคนที่จะสามารถทัดเทียมกับพวกเขาได้ยาก นอกจากนี้พวกเขายังมีกิกันท์ที่เรียกว่า “อะคิลลิส” ”

อะคิลลิสนั้นเป็นกิกันท์คลาสนักรบที่เปิดตัวเมื่อ 20 ปีก่อนโดยหอคอยเวทมนต์อัลติก้า ซึ่งเป็นโรงวิจัยเวทมนตร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของทวีป

อะคิลลิสยังได้รับการยกย่องว่ามีชุดเกราะที่คงกระพันและมั่นคงมันได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของกิกันท์คลาสนักรบ

“มันต่างจากกิกันท์ตัวนี้ไหม?”

“เมียร์นั้นมีอายุมากกว่า 50 ปี และแกนเครื่องยนต์เองก็จุพลังได้ไม่มากนักเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นตอนนี้มันจึงไม่ใด้จัดอยู่ในคลาสนักรบ”

 

กิกันท์นั้นถูกแบ่งออกเป็นสามคลาสตามพลังรบและประสิทธิภาพ

สำหรับ 1,000 ไฟท์ จะจัดเป็นคลาสนักรบ 2,000ไฟท์ เป็นคลาสอัศวินและ3,000 ไฟท์ เป็นคลาสฮีโร่

ไฟท์คือหน่วยที่แสดงถึงพลังของกิกันท์ มันมีที่มามาจาก “พลังการต่อสู้ของทหารชั้นยอดคนหนึ่ง” กล่าวอีกนัยหนึ่ง พลังรบของกิกันท์คลาสนักรบ 1 ตัวจะมีพลังรบเทียบเท่ากับกองทหารชั้นยอด 1,000นาย อย่างไรก็ตาม กิกันท์ที่มีการอายุการใช้งานเกิน 30 ถึง 100 ปีจะเริ่มมีประสิทธิภาพลดลงไปตามลำดับ

กิกันท์ทั้งหมดที่ถูกสร้างใหม่ล้วนได้รับการพัฒนา เพราะกำลังขับและการทำงานของเครื่องยนต์หลักล้วนลดลงเรื่อยๆไปเมื่อเวลาผ่านไป

“มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้กำลังประสิทธิภาพของกิกันท์ลดลง แต่เก้าในสิบส่วนมักเกิดจากการสิ้นอายุการใช้งานของแกนเครื่องยนต์ที่ฝังอยู่ในตัวกิกันท์ และนั่นก็อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกิกันท์ตัวนี้เช่นกัน”

พ่อมดที่เป็นคนดูแลเมียร์กล่าวพลางพยักหน้าให้ฟิลิป

ลุคมองไปที่เมียร์ เขาสังเกตเห็นถึงพลังงานของมานาของมันและด้วยความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์โกเลมที่เขามีและการทำงานของพ่อมดที่เขาไปนั่งดูมา มันจึงทำให้เขาเข้าใจสภาพของกิกันท์ตัวนี้

แม้ว่ามันจะอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษา แต่มันก็ยังคงดูดซับมานาจำนวนเล็กน้อยจากสิ่งรอบข้าง เหมือนกับคนที่หายใจเข้าออกขณะหลับ

แกนเครื่องยนต์ทำงานเหมือนหัวใจ แต่มานาที่รวมอยู่ในแกนกลางของเมียร์นั้นอ่อนแอกว่าของกิกันท์ตัวอื่นมากๆ

“มันเหมือนการเปรียบเทียบระหว่างคนแก่กับคนหนุ่ม”

นั่นคือสาเหตุที่มีหินวิเศษอยู่ตรงกลางของแกนหลักตามที่ฟิลิปได้กล่าวไว้

“จะใช้เวลานานไหมในการสังเคราห์แร่”

หินเวทมนต์แต่ละก้อนนั้นมีคลื่นมานาเป็นของตัวเอง

ดังนั้นวงเวทย์ที่สลักอยู่บนแกนเครื่องยนต์จึงต้องตรงกับคลื่นมานาที่หินเวทมนต์ปล่อยออกมา เพื่อให้กิกันท์สามารถดึงมานาออกมาได้อย่างเต็มที่ตามอายุการใช้งานของแกนเครื่องยนต์

ดังนั้นหินเวทมนต์และวงเวทย์จำนวนมากที่สลักอยู่บนเครื่องยนต์ จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เช่นกัน

หินเวทมนต์จะสามารถทำงานได้เฉพาะกับวงเวทย์เท่านั้น

 

พวกเขาจึงต้องสร้างวงเวทย์ที่มีความเข้ากันกับคลื่นมานาของ

หินเวทมนต์  และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเสร็จได้ในวันหรือสองวัน

“ถ้าอย่างนั้น…มันก็เหลือเพียงทางเดียว!’

มีสิ่งเดียวที่จะสามารถทำให้ใช้งานได้ เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้

และเมื่อลุคนึกถึงสิ่งนั้นเขาก็ยิ้มออกมา…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 17: วิกฤตของเรย์น่า (5)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 17: วิกฤตของเรย์น่า (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 17: วิกฤตของเรย์น่า (5)

“คนขับกิกันท์…ข้าขอเป็นคนนั้นได้ไหม”

เรย์น่าหันมองไปยังเจ้าของเสียงนั่น เขาเป็นเด็กชายดูเหมือนจะอายุประมาณ 17 ปี และเสื้อผ้าของเขาก็ดูค่อนข้างคุ้นเคย

“อ่า ท่านคือคนที่ช่วยเหลือเด็กๆเหล่านั้นเอาไว้เมื่อวานนี่”

“ให้ข้าได้แนะนำตัวเถอะ ข้าชื่อนามว่า ลุค แห่ง รากันต์”

ลุคแนะนำตัวกับพวกเขาด้วยความเคารพ

ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับครั้งแรกที่เขาได้พบกับคาทาริน่า

“ฉันไม่รู้สึกถึงพลังอย่างที่เคยรู้สึกเมื่อวานนี้เลย’

ลุคมองตรวจสอบเธออย่างใกล้ชิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เขารู้สึกเมื่อวานก่อน

หรือนั่นจะเป็นภาพลวงตา?

“ลุค แห่ง รากันต์? ท่านคือลอร์ดผู้สืบทอดของไวเทานต์รากันต์อย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ ถูกต้องแล้ว”

เมื่อได้รับคำตอบจากลุค ประกายแสงแห่งความหวังก็ส่องเข้ามาในดวงตาของเรย์น่า กลับกันวิคเตอร์และพาเวลต่างก็มองไปที่ลุคด้วยความสงสัย

“ข้าขอประทานโทษเป็นอย่างยิ่งที่ขัดจังหวะ แต่ท่านคือลุคแห่งรากันต์จริงๆเหรอ?”

“พวกข้าได้ยินมาว่าท่านประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่และได้หมดสติไปเมื่อไม่นานมานี้”

“นั่นเป็นความจริงแต่ข้าพึ่งฟื้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ข่าวเรื่องนี้จึงยังไม่ถูกแพร่ออกมา”

ลุคพูดขณะถูแหวนที่อยู่บนมือขวาของเขา ทันใดนั้นแหวนก็เริ่มมีประกายแสงส่องสว่างออกมา มันคือตราประจำตระกูลรากันต์

แหวนวงนี้ทำจากเหล็กที่ไม่ใช่เหล็กทั่วๆไป และมันเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับมอบมาจากราชวงศ์อิมพีเรียล มันจึงเป็นแหวนที่ไม่สามารถดัดแปลงหรือลอกเลียนแบบได้

และด้วยเหตุนั้นเรย์น่าและพรรคพวกจึงรู้ว่าลุคเป็นตัวจริง

“ขอท่านโปรดจงอภัยให้ข้าด้วย สำหรับความหยาบคายที่ข้าได้กระทำไป”

“ไม่ นั่นไม่เป็นไร”

ชายชราทั้งสองโค้งคำนับให้กับลุค  สาเหตุที่พวกเขาสงสัยในตัวตนของลุค ก็เป็นเพราะข่าวลือที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับลุคว่าเขากำลังนอนพักรักษาตัวอยู่

ในสถานการณ์นี้ พวกเขาจึงกลัวว่าเด็กชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดของเคานต์โมนาร์ช

มันอาจจะเป็นกลอุบายในการแสร้งทำเป็นช่วยเหลือพวกเขาที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และค่อยเฉลยตอนท้ายว่ามันเป็นแผนหลอกพวกเขา

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเราจะได้รับความช่วยเหลือจากลอร์ดแห่งรากันต์!’

ชายชราทั้งสองมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อในการกระทำของลุค เพราะแต่เดิมเมืองลาเมอร์นั้นถูกปกครองโดยตระกูลรากันต์และตระกูลลิเบียย่า

อย่างไรก็ตามดินแดนและเมืองจำนวนมากสูญหายไปในการก่อกบฏที่เกิดจาก คาร์โนแห่งบาร็อค ที่ต่อมาได้กลายเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิบาร็อค

ในเวลานั้นบรรพบุรุษของพวกเขาต้องส่งมอบที่ดินให้กับราชสำนักและนั่นเป็นเหตุให้ตระกูลต่างๆต้องโยกย้ายไปทำมาหากินที่อื่น

เมื่อนึกถึงความชั่วร้ายในอดีตที่ผ่านมาของพวกจักรวรรดิ์และขุนนาง มันจึงไม่แปลกอะไรที่ตระกูลรากันต์จะมาช่วยเหลือพวกเขาในครั้งนี้

นอกจากนี้พวกเขายังได้ยินมาว่าตระกูลรากันต์เป็นตระกูลขนาดเล็กแต่ก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“แต่ท่านจะเป็นคนขับกิกันท์ให้พวกเราเองเลยเหรอ?”

ลุคพยักหน้าเป็นการตอบกลับคำถามของเรย์น่า

“ใช่ เท่าที่ข้าได้ยินมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพวกท่านจะเริ่มจนมุมแล้วสินะ”

เจ้าหญิงเรย์น่าซึ่งมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับคาธาริน่าตอนนี้ก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับเธอเช่นกัน เพราะคาธาริน่าเลือกที่จะปฏิเสธการเป็นของเล่นของขุนนางลามกเหล่านั้น ตัวเลือกของเธอจึงมีเพียงความตายเท่านั้น

“แต่ตอนนี้มันจะต้องแตกต่างออกไป!’

เขาอยากช่วยเรย์น่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือความผูกพันของโชคชะตา แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ผลลัพธ์ต้องมาจบเหมือนเดิม

ลุคชี้ไปที่ฟิลิปที่อยู่ข้างหลังเขา

“ฟิลิปเป็นอัศวินผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนเตรียมทหารราชวงศ์แม้ว่ามันจะดูไม่น่าพอใจเท่าไหร่ก็ตาม”

ใบหน้าของเรย์น่าและชายชราทั้งสองเปลี่ยนไปพร้อมกัน

โรงเรียนเตรียมทหารราชวงศ์นั้นเป็นค่ายฝึกสอนอัศวินที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังมีการสอนขับกิกันท์อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่อายุเพียงแค่นี้ มันก็มีแนวโน้มว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทักษะของเขาอาจจะเทียบเท่ากับคนขับที่เก่งที่สุดของสนามประลองแห่งนี้

“บ้าจริง  สำหรับเรื่องนี้ … “

ฟิลิปที่ยืนอยู่ห่างๆเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินการประกาศชื่อของเขา

เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นประกายความหวังในดวงตาของลุคและพรรคพวกของเรย์น่า

 

“นายน้อย ข้าต้องขอโทษด้วย แต่ข้าไม่สามารถเอาชนะคนขับกิกันท์ของเคานต์โมนาร์ชได้ ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม”

“อะไรนะ?”

“เท่าที่ข้ารู้มา แคลนลิปปี้ที่ดำเนินการโดยเคานต์โมนาร์ชนั้น มีคนขับระดับผู้เชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนมาก และข้าก็ได้ยินมาว่าแม้แต่คนขับกิกันท์ที่เก่งที่สุดของสนามประลองแห่งนี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเท่านั้นยังไม่พอแม้แต่ในสนามประลองของราชวงศ์ก็หาคนที่จะสามารถทัดเทียมกับพวกเขาได้ยาก นอกจากนี้พวกเขายังมีกิกันท์ที่เรียกว่า “อะคิลลิส” ”

อะคิลลิสนั้นเป็นกิกันท์คลาสนักรบที่เปิดตัวเมื่อ 20 ปีก่อนโดยหอคอยเวทมนต์อัลติก้า ซึ่งเป็นโรงวิจัยเวทมนตร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของทวีป

อะคิลลิสยังได้รับการยกย่องว่ามีชุดเกราะที่คงกระพันและมั่นคงมันได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของกิกันท์คลาสนักรบ

“มันต่างจากกิกันท์ตัวนี้ไหม?”

“เมียร์นั้นมีอายุมากกว่า 50 ปี และแกนเครื่องยนต์เองก็จุพลังได้ไม่มากนักเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นตอนนี้มันจึงไม่ใด้จัดอยู่ในคลาสนักรบ”

 

กิกันท์นั้นถูกแบ่งออกเป็นสามคลาสตามพลังรบและประสิทธิภาพ

สำหรับ 1,000 ไฟท์ จะจัดเป็นคลาสนักรบ 2,000ไฟท์ เป็นคลาสอัศวินและ3,000 ไฟท์ เป็นคลาสฮีโร่

ไฟท์คือหน่วยที่แสดงถึงพลังของกิกันท์ มันมีที่มามาจาก “พลังการต่อสู้ของทหารชั้นยอดคนหนึ่ง” กล่าวอีกนัยหนึ่ง พลังรบของกิกันท์คลาสนักรบ 1 ตัวจะมีพลังรบเทียบเท่ากับกองทหารชั้นยอด 1,000นาย อย่างไรก็ตาม กิกันท์ที่มีการอายุการใช้งานเกิน 30 ถึง 100 ปีจะเริ่มมีประสิทธิภาพลดลงไปตามลำดับ

กิกันท์ทั้งหมดที่ถูกสร้างใหม่ล้วนได้รับการพัฒนา เพราะกำลังขับและการทำงานของเครื่องยนต์หลักล้วนลดลงเรื่อยๆไปเมื่อเวลาผ่านไป

“มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้กำลังประสิทธิภาพของกิกันท์ลดลง แต่เก้าในสิบส่วนมักเกิดจากการสิ้นอายุการใช้งานของแกนเครื่องยนต์ที่ฝังอยู่ในตัวกิกันท์ และนั่นก็อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกิกันท์ตัวนี้เช่นกัน”

พ่อมดที่เป็นคนดูแลเมียร์กล่าวพลางพยักหน้าให้ฟิลิป

ลุคมองไปที่เมียร์ เขาสังเกตเห็นถึงพลังงานของมานาของมันและด้วยความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์โกเลมที่เขามีและการทำงานของพ่อมดที่เขาไปนั่งดูมา มันจึงทำให้เขาเข้าใจสภาพของกิกันท์ตัวนี้

แม้ว่ามันจะอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษา แต่มันก็ยังคงดูดซับมานาจำนวนเล็กน้อยจากสิ่งรอบข้าง เหมือนกับคนที่หายใจเข้าออกขณะหลับ

แกนเครื่องยนต์ทำงานเหมือนหัวใจ แต่มานาที่รวมอยู่ในแกนกลางของเมียร์นั้นอ่อนแอกว่าของกิกันท์ตัวอื่นมากๆ

“มันเหมือนการเปรียบเทียบระหว่างคนแก่กับคนหนุ่ม”

นั่นคือสาเหตุที่มีหินวิเศษอยู่ตรงกลางของแกนหลักตามที่ฟิลิปได้กล่าวไว้

“จะใช้เวลานานไหมในการสังเคราห์แร่”

หินเวทมนต์แต่ละก้อนนั้นมีคลื่นมานาเป็นของตัวเอง

ดังนั้นวงเวทย์ที่สลักอยู่บนแกนเครื่องยนต์จึงต้องตรงกับคลื่นมานาที่หินเวทมนต์ปล่อยออกมา เพื่อให้กิกันท์สามารถดึงมานาออกมาได้อย่างเต็มที่ตามอายุการใช้งานของแกนเครื่องยนต์

ดังนั้นหินเวทมนต์และวงเวทย์จำนวนมากที่สลักอยู่บนเครื่องยนต์ จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เช่นกัน

หินเวทมนต์จะสามารถทำงานได้เฉพาะกับวงเวทย์เท่านั้น

 

พวกเขาจึงต้องสร้างวงเวทย์ที่มีความเข้ากันกับคลื่นมานาของ

หินเวทมนต์  และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเสร็จได้ในวันหรือสองวัน

“ถ้าอย่างนั้น…มันก็เหลือเพียงทางเดียว!’

มีสิ่งเดียวที่จะสามารถทำให้ใช้งานได้ เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้

และเมื่อลุคนึกถึงสิ่งนั้นเขาก็ยิ้มออกมา…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+