Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 49 พบกันใหม่ (3)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 49 พบกันใหม่ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 49 พบกันใหม่ (3)

 

วันนั้นลุคและพรรคพวกก็ไม่ได้ออกจากแบรนดอน

 

ลุคกลับเข้าไปในโรงแรม และเริ่มคิดย้อนกลับไปถึงตอนที่คุยกับเจ้าหญิงเรย์น่า

 

“ท่านไม่สนใจตัวเอง เพราะท่านต้องการช่วยเหลือผู้คนของท่านมากกว่าอย่างนั้นหรอ”

 

ลุคจ้องมองไปที่รูปปั้นตรงจัตุรัสผ่านหน้าต่างของห้องพัก

 

นักบุญแบรนดอนที่มาหาเขาเมื่อ 500 ปีก่อน ก็เคยพูดคําเดียวกันกับเรย์น่า

 

ลุคดูค่อนข้างอารมณ์เสียเมื่อจ้องมองไปที่รูปปั้น โรเจอร์ส พร้อมกับฟิลิปกฌพยายามอย่างหนักที่จะเกลี้ยกล่อมเขา

 

“นายท่าน ท่านไม่ต้องพูดอะไรมากหรอก ท่านต้องปฏิเสธไป”

 

“ใช่ ข้าเองก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องของเจ้าหญิงเรย์น่า แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเราอาจจะต้องต่อสู้กับไอ้หมูตอนนั่นเลยนะ”

 

ทั้งสองนั้นเข้าใจถึงปัญหาที่เจ้าหญิงเรย์น่ากําลังเผชิญดี

 

แต่พวกเขาจะไม่ทําสงครามกับเคานต์โมนาร์ชเพื่อพวกเธอแน่นอน

 

นั่นก็เพราะพวกเขาเองก็มีคนของตัวเองต้องปกป้อง

 

“เราจะต้องทําสงครามอย่างนั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้วนายท่าน โปรดเลือกอย่างชาญฉลาดด้วย”

 

ลุคตัดสินใจในที่สุด สายตาของเขามองย้อนกลับไปมันเป็นการตัดสินใจที่ยากลําบากของเขา และเป็นการตัดสินใจที่เขาไม่สามารถย้อนกลับได้

 

“เราจะรับเจ้าหญิงและผู้ลี้ภัย”

 

“โอ้พระเจ้า!”

 

“ท่าน ท่านจะทําแบบนี้ไม่ได้”

 

ในการตัดสินใจของลุค ฟิลิปและโรเจอร์สต่างก็พยายามอย่างหนักที่จะเปลี่ยนความคิดของเขา

 

อย่างไรก็ตามหัวใจของลุคไม่เปลี่ยนแปลง

 

เป็นเพราะเรย์น่านั้นทําให้เขานึกถึงคาธาริน่ารึเปล่านะ?

 

จริงๆแล้วมันไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขามากเท่าไหร่แต่เหตุผลที่สําคัญประการหนึ่งที่ทําให้เขาตัดสินใจแบบนี้ก็เป็นเพราะ…

 

ย้อนไปเมื่อ 500 ปีก่อน นักบุญแบรนดอนคุกเข่าต่อหน้าเขาและขอร้องให้เขาช่วยชีวิตผู้คนและขอให้เขานําเอากองทัพแห่งความมืดกลับไป

 

ลุคลืมไปชั่วขณะ แต่ในเวลาต่อมาเขาจําขึ้นได้ว่าแบรนดอนนี่เองที่เป็นคนที่ช่วยชีวิตเขา ตอนที่วงเวทย์ของเขาถูกทําลาย

 

หลังจากที่เขาได้รับการรักษาเขาก็ยังอยู่ที่นั่นต่อ

 

มันมีครั้งหนึ่งที่ทหารรัจ้างของหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสนั้นมาเพื่อตามล่าเซย์ม่อน

 

“ท่านนักบุญ ท่านไม่อยากสู้กับเราหรอก”

 

“ข้าจะสู้ให้มากที่สุดเท่าที่ข้าจะทําได้”

 

” ท่านพูดอะไรนะ? ท่านคงจะบ้าไปแล้ว!”

 

“ชายคนนี้ขอให้ข้าช่วยเขา และข้าก็เลือกจะช่วยชายคนนี้ เพราะฉะนั้นข้าจะช่วยชายคนนี้จนถึงที่สุด!”

 

แบรนดอนนั้นไม่ได้มีการเรียกขานนามของพระเจ้าหรือหลักการความคิดอะไร

 

เขาระบุเพียงว่าผู้คนไม่จําเป็นต้องมีเหตุผลในการช่วยเหลือผู้อื่น

 

ลุคเองก็ไม่เข้าใจความเชื่อที่ดื้อรั้นของเขา

 

ท้ายที่สุด สิ่งที่สําคัญก็คือเซย์ม่อนสามารถมีชีวิตอยู่รอดมาได้ก็เป็นเพราะความเชื่อของเขาเช่นเดียวกัน

 

และ…

 

“ถ้าผู้คนให้ความสําคัญกับคนอื่นๆมากพอ พวกเขาก็จะไม่ต้องการเหตุผลในการช่วยชีวิตหรือช่วยเหลือผู้คน พวกเขาจะไม่เลือกปฏิบัติหรือปล่อยให้ใครตาย”

 

อย่างไรก็ตามโลกนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

 

ลุคถูกเลือกปฏิบัติ และคาธารีน่าก็เลือกที่จะตายเพื่อรักษาพรหมจรรย์ของเธอ

 

ลุคพยายามทําลายความไม่ยุติธรรมของโลก

 

เขาสาบานว่าจะกําจัดสัตว์ร้ายที่สิงสถิตอยู่ในหัวใจของเขาและมนุษย์คนอื่นๆ

 

“นั่นคือสาเหตุที่ข้ายอมทําสงครามกับสัตว์ร้ายเหล่านั้น…และดูเหมือนข้าเองก็จะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว”

 

ในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา เขาติดอยู่ในสถานล้างบาปเพียงเพนสะความไร้เดียงสาของรากันต์ ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นั่นนั้นมันทําให้เขาหลงลืมอุดมการณ์ไปและหลงเหลือเพียงแต่ความแค้นและความเกลียดชังเท่านั้น

 

เขาเก็บความเกลียดชังไว้ในใจและละเลยสิ่งที่มีค่าสําหรับเขา

 

“ขอบคุณแบรนดอน ต้องขอขอบคุณการได้พบท่านอีกครั้งที่ทําให้ข้าสามารถตัดสินใจได้ในที่สุด”

 

ลุคขอบคุณนักบุญที่จากไปเมื่อนานมาแล้ว

 

ในระหว่างนั้นการชักชวนของอัศวินทั้งสองก็ยังคงดําเนินต่อไป

 

“นายท่าน โปรดคิดถึงอนาคตด้วย!”

 

“ท่านแม่ทัพพูดถูก หลังจากการต่อสู้ไม่กี่ปี…”

 

ทันใดนั้นลุคก็ตะโกนใส่อัศวินทั้งสอง

 

” หยุด! พวกเจ้าคือดาบที่มีไว้เพื่อปกป้องรากันต์ แล้วเจ้าจะให้ข้าทําอย่างไรเมื่ออัศวินของข้าเอาแต่มุดหัวหนีเมื่อเกิดสงคราม?”

 

“แต่พลังของเรานั้นต่างกันเก….”

 

“เงียบซะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่อัศวินของรากันต์ต่อสู้โดยคํานึงถึงแต่พลัง! ถ้าพวกเจ้าจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความยุติธรรม พวกเจ้าก็ควรกล้าที่จะกระโดดลงไปในน้ำเดือดหรือแม้กระทั่งในรังมังกร!”

 

“แต่กระนั้น…”

 

“มันไม่ควรมีเหตุผลในการช่วยเหลือผู้อื่น! หากเจ้ายอมจํานนต่อความชั่วร้ายเหล่านั้น เจ้าจะยังกล้าเรียกตัวเองว่ามนุษย์อีกอย่างนั้นหรอ!”

 

เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากลุค โรเจอร์สก็ตกใจ

 

ความเชื่อดั้งเดิมที่เขาได้หลงลืมไปชั่วขณะ ได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง

 

ฟิลิปยังคงพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้โรเจอร์สได้รับคําสั่งของลุคอย่างเป็นทางการแล้ว

 

“ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนท่าน นายน้อย!”

 

” ท่านแม่ทัพ!”

 

ขณะที่ฟิลิปสะดุ้งตกใจโรเจอร์สก็ยิ้มขึ้นมา

 

“สงครามยังไม่ได้รับการยืนยันด้วยซ้ำ และพวกเราอัศวินต้องอาศัยอยู่บนพรมแดนแห่งความตาย หากนั่นเป็นความประสงค์ของพระเจ้า เราก็จะต่อสู้อย่างหนักเพื่อชนะ”

 

“โอ้ไม่ ท่านพูดถูก…”

 

ในที่สุดฟิลิปก็ยอมรับการตัดสินใจของลุค

 

ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ชอบเจ้าหญิงเรย์น่าและผู้ลี้ภัยที่น่าสงสารที่ถูกพาเข้ามา

 

ลุคเดินไปหาเรย์น่าและพรรคพวกของเธอและแบ่งปันความตั้งใจของเขา

 

“ท่านลอร์ด ข้าขอขอบคุณอย่างมาก”

 

“ข้าจะไม่ลืมพระคุณนี้ไปจนวันตาย”

 

“ไม่เป็นไร มีวิธีใดบ้างที่จะนําผู้ลี้ภัยจํานวนหนึ่งหมื่นคนมายังดินแดนของเรา”

 

เห็นได้ชัดว่าเคานต์โมนาร์ชจะไม่ยอมหยุดอยู่เฉยๆแน่

 

และแม้ว่าเขาจะยอมหยุด แต่พวกเขาก็ยังติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายผู้คนเหล่านี้อยู่ดี

 

“นั่นนั่น”

 

วิคเตอร์และพาเวลเกาแก้มด้วยสีหน้าอึดอัดใจ

 

พวกเขาขอความช่วยเหลือด้วยใจที่แน่วแน่ แต่พวกเขาไม่มีแผนว่าจะต้องทําอะไรในภายหลัง

 

อย่างไรก็ตามเรย์น่าก็ดูเหมือนจะคิดแผนไม่เหมือนสอง คนนั้น

 

เธอขอกระดาษหนึ่งแผ่นและเริ่มจดบันทึกแผนคร่าวๆ

 

“ข้าวางแผนที่จะย้ายคนที่เคลื่อนไหวลําบากที่สุดก่อน ข้าจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโดยการวางไว้บนแพที่ทําไว้ล่วงหน้า แม้ว่าเรือจะไม่สามารถเดินทางทางน้ำได้ แต่แพนั้นน่าจะสามารถใช้ได้อยู่”

 

เธออธิบายเกี่ยวกับการต่อแพของผู้คน จากนั้นก็ลากขึ้นฝั่งโดยใช้ม้าหรือรถพ่วงก็เพียงพอแล้วสําหรับการไปยังดินแดนของรากันต์

 

“อืมมันเป็นแผนที่ดีนะ แต่ที่เหลือล่ะ”

 

ด้วยผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนขนาดนี้ มันจึงไม่สามารถจะเดินทางไปได้หมดในคราวเดียว

 

และวิธีที่ดีที่สุดในการหลบหนีคือตอนกลางคืน

 

“ข้าคิดเกี่ยวกับการใช้เส้นทางผู้แสวงบุญจากโบสถ์เอลคาสเซิล แต่มันจะไม่มีประโยชน์หากเคานต์โมนาร์ชเข้ามาขัดขวาง ดังนั้นข้ารู้สึกว่ามันต้องเป็นเส้นทางที่เป็นเหมือนกับทางเข้าและออก”

 

โชคดีที่สลัมที่ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่นั้นอยู่บนกําแพงด้านนอกโดยรอบลาเมอร์

 

สิ่งที่พวกเขาต้องทําก็คือการหลบหนีออกไปในตอนกลางคืน

 

ทันทีที่พวกเขาขึ้นแพ พวกมันก็จะไม่สามารถวิ่งไล่ตามพวกเขาได้

 

ลุคพยักหน้าตามแผนของเรย์น่า

 

ในระหว่างนี้เขาสังเกตเห็นข้อเสียเปรียบที่ร้ายแรงของแผน

 

“แต่ไม่ใช่ว่าแผนนี้ยังต้องการเงินทุนในการสร้างแพอย่างนั้นหรอ?”

 

“เงิน…”

 

ในตอนแรกเจ้าหญิงเรย์น่าคิดจะเสนอแผนนี้กับมาร์ควิสเมร์เยอร์และจพได้สามารถขอเงินทุนจากเขาได้เลย

 

“ข้ายังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง หลังจากซื้อกิกันท์”

 

ลุคมอบเงิน 3,000 เปโซที่เหลืออยู่ให้กับเจ้าหญิงเรย์น่า

 

นั่นคือเงินที่เหลืออยู่จาก 210,000 เปโซที่เขาได้รับมาจากการเดิมพัน

 

“ขอบคุณท่านมาก ข้าควรจะตอบแทนพระคุณในครั้งนี้อย่างไรดี…”

 

ดวงตาของเรย์น่าตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา

 

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าลุคจะช่วยเธออย่างกระตือรือร้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาช่วยเธอมามากกว่า 2 แล้วด้วย

 

“เจ้าหญิงเป็นหัวหน้าของผู้ลี้ภัย โปรดอย่าร้องไห้ แต่จงนําทางพวกเขาอย่างปลอดภัย”

 

ลุคเช็ดน้ำตาของเธอขณะกล่าว

 

การกระทํานั้น ทําให้เรย์น่าหน้าแดงและก้มหน้าไป

 

“ข้าจะจําเอาไว้”

 

เรย์น่าซึ่งได้รับกําลังใจจากลุค ลูบแก้มของเธอเบาๆอย่างมีชีวิตชีวาและมัดผมที่ไหลลงมา

 

ฟิ้ว!

 

“ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกนั้นแน่นอน!”

 

ลุคตกใจมากเมื่อเขามองดูเธอ

 

ในขณะที่เรย์น่ากําลังมัดผมของเธอ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติอันมหาศาลจากเธอ

 

พลังงานได้ครอบงําลุคไปชั่วขณะ และจู่ๆมันก็หายไปราวกับสายลม

 

นั้นก็คือ..

 

“ท่านเป็นอะไรไปหรือเปล่า?”

 

“ฮะ? เมื่อกี้ท่านพูดอะไร”

 

“อ่าไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่าท่านเป็นอะไรไป…”

 

ลุคที่มึนงง ก็พึมพําคําตอบออกไป เมื่อเรย์น่าถามเขา 

 

หญิงงามที่รู้จักกันในนามเจ้าหญิงแห่งการข่มเหงดูเหมือนจะมีความลับที่ซ่อนอยู่ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกัน

 

ลุคไม่รู้ว่านั่นคืออะไร

 

อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามันไม่ใช่อะไรปกติแน่นอน

 

“ข้าอาจจะรู้ว่ามันคืออะไรเมื่อเวลาผ่านไป แต่ตอนนี้ข้าต้องขนย้ายผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก่อน”

 

ก่อนอื่นเขาต้องจัดการกับสิ่งเร่งด่วนเป็นอย่างแรก

 

ลุคและผู้คนทั้งหมดเริ่มพูดคุยและพัฒนารายละเอียดของแผนการสําหรับการอพยพ

ดู HENTAI ได้ที่ hanimeza.com

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 49 พบกันใหม่ (3)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 49 พบกันใหม่ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 49 พบกันใหม่ (3)

 

วันนั้นลุคและพรรคพวกก็ไม่ได้ออกจากแบรนดอน

 

ลุคกลับเข้าไปในโรงแรม และเริ่มคิดย้อนกลับไปถึงตอนที่คุยกับเจ้าหญิงเรย์น่า

 

“ท่านไม่สนใจตัวเอง เพราะท่านต้องการช่วยเหลือผู้คนของท่านมากกว่าอย่างนั้นหรอ”

 

ลุคจ้องมองไปที่รูปปั้นตรงจัตุรัสผ่านหน้าต่างของห้องพัก

 

นักบุญแบรนดอนที่มาหาเขาเมื่อ 500 ปีก่อน ก็เคยพูดคําเดียวกันกับเรย์น่า

 

ลุคดูค่อนข้างอารมณ์เสียเมื่อจ้องมองไปที่รูปปั้น โรเจอร์ส พร้อมกับฟิลิปกฌพยายามอย่างหนักที่จะเกลี้ยกล่อมเขา

 

“นายท่าน ท่านไม่ต้องพูดอะไรมากหรอก ท่านต้องปฏิเสธไป”

 

“ใช่ ข้าเองก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องของเจ้าหญิงเรย์น่า แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเราอาจจะต้องต่อสู้กับไอ้หมูตอนนั่นเลยนะ”

 

ทั้งสองนั้นเข้าใจถึงปัญหาที่เจ้าหญิงเรย์น่ากําลังเผชิญดี

 

แต่พวกเขาจะไม่ทําสงครามกับเคานต์โมนาร์ชเพื่อพวกเธอแน่นอน

 

นั่นก็เพราะพวกเขาเองก็มีคนของตัวเองต้องปกป้อง

 

“เราจะต้องทําสงครามอย่างนั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้วนายท่าน โปรดเลือกอย่างชาญฉลาดด้วย”

 

ลุคตัดสินใจในที่สุด สายตาของเขามองย้อนกลับไปมันเป็นการตัดสินใจที่ยากลําบากของเขา และเป็นการตัดสินใจที่เขาไม่สามารถย้อนกลับได้

 

“เราจะรับเจ้าหญิงและผู้ลี้ภัย”

 

“โอ้พระเจ้า!”

 

“ท่าน ท่านจะทําแบบนี้ไม่ได้”

 

ในการตัดสินใจของลุค ฟิลิปและโรเจอร์สต่างก็พยายามอย่างหนักที่จะเปลี่ยนความคิดของเขา

 

อย่างไรก็ตามหัวใจของลุคไม่เปลี่ยนแปลง

 

เป็นเพราะเรย์น่านั้นทําให้เขานึกถึงคาธาริน่ารึเปล่านะ?

 

จริงๆแล้วมันไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขามากเท่าไหร่แต่เหตุผลที่สําคัญประการหนึ่งที่ทําให้เขาตัดสินใจแบบนี้ก็เป็นเพราะ…

 

ย้อนไปเมื่อ 500 ปีก่อน นักบุญแบรนดอนคุกเข่าต่อหน้าเขาและขอร้องให้เขาช่วยชีวิตผู้คนและขอให้เขานําเอากองทัพแห่งความมืดกลับไป

 

ลุคลืมไปชั่วขณะ แต่ในเวลาต่อมาเขาจําขึ้นได้ว่าแบรนดอนนี่เองที่เป็นคนที่ช่วยชีวิตเขา ตอนที่วงเวทย์ของเขาถูกทําลาย

 

หลังจากที่เขาได้รับการรักษาเขาก็ยังอยู่ที่นั่นต่อ

 

มันมีครั้งหนึ่งที่ทหารรัจ้างของหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสนั้นมาเพื่อตามล่าเซย์ม่อน

 

“ท่านนักบุญ ท่านไม่อยากสู้กับเราหรอก”

 

“ข้าจะสู้ให้มากที่สุดเท่าที่ข้าจะทําได้”

 

” ท่านพูดอะไรนะ? ท่านคงจะบ้าไปแล้ว!”

 

“ชายคนนี้ขอให้ข้าช่วยเขา และข้าก็เลือกจะช่วยชายคนนี้ เพราะฉะนั้นข้าจะช่วยชายคนนี้จนถึงที่สุด!”

 

แบรนดอนนั้นไม่ได้มีการเรียกขานนามของพระเจ้าหรือหลักการความคิดอะไร

 

เขาระบุเพียงว่าผู้คนไม่จําเป็นต้องมีเหตุผลในการช่วยเหลือผู้อื่น

 

ลุคเองก็ไม่เข้าใจความเชื่อที่ดื้อรั้นของเขา

 

ท้ายที่สุด สิ่งที่สําคัญก็คือเซย์ม่อนสามารถมีชีวิตอยู่รอดมาได้ก็เป็นเพราะความเชื่อของเขาเช่นเดียวกัน

 

และ…

 

“ถ้าผู้คนให้ความสําคัญกับคนอื่นๆมากพอ พวกเขาก็จะไม่ต้องการเหตุผลในการช่วยชีวิตหรือช่วยเหลือผู้คน พวกเขาจะไม่เลือกปฏิบัติหรือปล่อยให้ใครตาย”

 

อย่างไรก็ตามโลกนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

 

ลุคถูกเลือกปฏิบัติ และคาธารีน่าก็เลือกที่จะตายเพื่อรักษาพรหมจรรย์ของเธอ

 

ลุคพยายามทําลายความไม่ยุติธรรมของโลก

 

เขาสาบานว่าจะกําจัดสัตว์ร้ายที่สิงสถิตอยู่ในหัวใจของเขาและมนุษย์คนอื่นๆ

 

“นั่นคือสาเหตุที่ข้ายอมทําสงครามกับสัตว์ร้ายเหล่านั้น…และดูเหมือนข้าเองก็จะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว”

 

ในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา เขาติดอยู่ในสถานล้างบาปเพียงเพนสะความไร้เดียงสาของรากันต์ ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นั่นนั้นมันทําให้เขาหลงลืมอุดมการณ์ไปและหลงเหลือเพียงแต่ความแค้นและความเกลียดชังเท่านั้น

 

เขาเก็บความเกลียดชังไว้ในใจและละเลยสิ่งที่มีค่าสําหรับเขา

 

“ขอบคุณแบรนดอน ต้องขอขอบคุณการได้พบท่านอีกครั้งที่ทําให้ข้าสามารถตัดสินใจได้ในที่สุด”

 

ลุคขอบคุณนักบุญที่จากไปเมื่อนานมาแล้ว

 

ในระหว่างนั้นการชักชวนของอัศวินทั้งสองก็ยังคงดําเนินต่อไป

 

“นายท่าน โปรดคิดถึงอนาคตด้วย!”

 

“ท่านแม่ทัพพูดถูก หลังจากการต่อสู้ไม่กี่ปี…”

 

ทันใดนั้นลุคก็ตะโกนใส่อัศวินทั้งสอง

 

” หยุด! พวกเจ้าคือดาบที่มีไว้เพื่อปกป้องรากันต์ แล้วเจ้าจะให้ข้าทําอย่างไรเมื่ออัศวินของข้าเอาแต่มุดหัวหนีเมื่อเกิดสงคราม?”

 

“แต่พลังของเรานั้นต่างกันเก….”

 

“เงียบซะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่อัศวินของรากันต์ต่อสู้โดยคํานึงถึงแต่พลัง! ถ้าพวกเจ้าจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความยุติธรรม พวกเจ้าก็ควรกล้าที่จะกระโดดลงไปในน้ำเดือดหรือแม้กระทั่งในรังมังกร!”

 

“แต่กระนั้น…”

 

“มันไม่ควรมีเหตุผลในการช่วยเหลือผู้อื่น! หากเจ้ายอมจํานนต่อความชั่วร้ายเหล่านั้น เจ้าจะยังกล้าเรียกตัวเองว่ามนุษย์อีกอย่างนั้นหรอ!”

 

เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากลุค โรเจอร์สก็ตกใจ

 

ความเชื่อดั้งเดิมที่เขาได้หลงลืมไปชั่วขณะ ได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง

 

ฟิลิปยังคงพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้โรเจอร์สได้รับคําสั่งของลุคอย่างเป็นทางการแล้ว

 

“ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนท่าน นายน้อย!”

 

” ท่านแม่ทัพ!”

 

ขณะที่ฟิลิปสะดุ้งตกใจโรเจอร์สก็ยิ้มขึ้นมา

 

“สงครามยังไม่ได้รับการยืนยันด้วยซ้ำ และพวกเราอัศวินต้องอาศัยอยู่บนพรมแดนแห่งความตาย หากนั่นเป็นความประสงค์ของพระเจ้า เราก็จะต่อสู้อย่างหนักเพื่อชนะ”

 

“โอ้ไม่ ท่านพูดถูก…”

 

ในที่สุดฟิลิปก็ยอมรับการตัดสินใจของลุค

 

ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ชอบเจ้าหญิงเรย์น่าและผู้ลี้ภัยที่น่าสงสารที่ถูกพาเข้ามา

 

ลุคเดินไปหาเรย์น่าและพรรคพวกของเธอและแบ่งปันความตั้งใจของเขา

 

“ท่านลอร์ด ข้าขอขอบคุณอย่างมาก”

 

“ข้าจะไม่ลืมพระคุณนี้ไปจนวันตาย”

 

“ไม่เป็นไร มีวิธีใดบ้างที่จะนําผู้ลี้ภัยจํานวนหนึ่งหมื่นคนมายังดินแดนของเรา”

 

เห็นได้ชัดว่าเคานต์โมนาร์ชจะไม่ยอมหยุดอยู่เฉยๆแน่

 

และแม้ว่าเขาจะยอมหยุด แต่พวกเขาก็ยังติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายผู้คนเหล่านี้อยู่ดี

 

“นั่นนั่น”

 

วิคเตอร์และพาเวลเกาแก้มด้วยสีหน้าอึดอัดใจ

 

พวกเขาขอความช่วยเหลือด้วยใจที่แน่วแน่ แต่พวกเขาไม่มีแผนว่าจะต้องทําอะไรในภายหลัง

 

อย่างไรก็ตามเรย์น่าก็ดูเหมือนจะคิดแผนไม่เหมือนสอง คนนั้น

 

เธอขอกระดาษหนึ่งแผ่นและเริ่มจดบันทึกแผนคร่าวๆ

 

“ข้าวางแผนที่จะย้ายคนที่เคลื่อนไหวลําบากที่สุดก่อน ข้าจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโดยการวางไว้บนแพที่ทําไว้ล่วงหน้า แม้ว่าเรือจะไม่สามารถเดินทางทางน้ำได้ แต่แพนั้นน่าจะสามารถใช้ได้อยู่”

 

เธออธิบายเกี่ยวกับการต่อแพของผู้คน จากนั้นก็ลากขึ้นฝั่งโดยใช้ม้าหรือรถพ่วงก็เพียงพอแล้วสําหรับการไปยังดินแดนของรากันต์

 

“อืมมันเป็นแผนที่ดีนะ แต่ที่เหลือล่ะ”

 

ด้วยผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนขนาดนี้ มันจึงไม่สามารถจะเดินทางไปได้หมดในคราวเดียว

 

และวิธีที่ดีที่สุดในการหลบหนีคือตอนกลางคืน

 

“ข้าคิดเกี่ยวกับการใช้เส้นทางผู้แสวงบุญจากโบสถ์เอลคาสเซิล แต่มันจะไม่มีประโยชน์หากเคานต์โมนาร์ชเข้ามาขัดขวาง ดังนั้นข้ารู้สึกว่ามันต้องเป็นเส้นทางที่เป็นเหมือนกับทางเข้าและออก”

 

โชคดีที่สลัมที่ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่นั้นอยู่บนกําแพงด้านนอกโดยรอบลาเมอร์

 

สิ่งที่พวกเขาต้องทําก็คือการหลบหนีออกไปในตอนกลางคืน

 

ทันทีที่พวกเขาขึ้นแพ พวกมันก็จะไม่สามารถวิ่งไล่ตามพวกเขาได้

 

ลุคพยักหน้าตามแผนของเรย์น่า

 

ในระหว่างนี้เขาสังเกตเห็นข้อเสียเปรียบที่ร้ายแรงของแผน

 

“แต่ไม่ใช่ว่าแผนนี้ยังต้องการเงินทุนในการสร้างแพอย่างนั้นหรอ?”

 

“เงิน…”

 

ในตอนแรกเจ้าหญิงเรย์น่าคิดจะเสนอแผนนี้กับมาร์ควิสเมร์เยอร์และจพได้สามารถขอเงินทุนจากเขาได้เลย

 

“ข้ายังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง หลังจากซื้อกิกันท์”

 

ลุคมอบเงิน 3,000 เปโซที่เหลืออยู่ให้กับเจ้าหญิงเรย์น่า

 

นั่นคือเงินที่เหลืออยู่จาก 210,000 เปโซที่เขาได้รับมาจากการเดิมพัน

 

“ขอบคุณท่านมาก ข้าควรจะตอบแทนพระคุณในครั้งนี้อย่างไรดี…”

 

ดวงตาของเรย์น่าตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา

 

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าลุคจะช่วยเธออย่างกระตือรือร้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาช่วยเธอมามากกว่า 2 แล้วด้วย

 

“เจ้าหญิงเป็นหัวหน้าของผู้ลี้ภัย โปรดอย่าร้องไห้ แต่จงนําทางพวกเขาอย่างปลอดภัย”

 

ลุคเช็ดน้ำตาของเธอขณะกล่าว

 

การกระทํานั้น ทําให้เรย์น่าหน้าแดงและก้มหน้าไป

 

“ข้าจะจําเอาไว้”

 

เรย์น่าซึ่งได้รับกําลังใจจากลุค ลูบแก้มของเธอเบาๆอย่างมีชีวิตชีวาและมัดผมที่ไหลลงมา

 

ฟิ้ว!

 

“ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกนั้นแน่นอน!”

 

ลุคตกใจมากเมื่อเขามองดูเธอ

 

ในขณะที่เรย์น่ากําลังมัดผมของเธอ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติอันมหาศาลจากเธอ

 

พลังงานได้ครอบงําลุคไปชั่วขณะ และจู่ๆมันก็หายไปราวกับสายลม

 

นั้นก็คือ..

 

“ท่านเป็นอะไรไปหรือเปล่า?”

 

“ฮะ? เมื่อกี้ท่านพูดอะไร”

 

“อ่าไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่าท่านเป็นอะไรไป…”

 

ลุคที่มึนงง ก็พึมพําคําตอบออกไป เมื่อเรย์น่าถามเขา 

 

หญิงงามที่รู้จักกันในนามเจ้าหญิงแห่งการข่มเหงดูเหมือนจะมีความลับที่ซ่อนอยู่ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกัน

 

ลุคไม่รู้ว่านั่นคืออะไร

 

อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามันไม่ใช่อะไรปกติแน่นอน

 

“ข้าอาจจะรู้ว่ามันคืออะไรเมื่อเวลาผ่านไป แต่ตอนนี้ข้าต้องขนย้ายผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก่อน”

 

ก่อนอื่นเขาต้องจัดการกับสิ่งเร่งด่วนเป็นอย่างแรก

 

ลุคและผู้คนทั้งหมดเริ่มพูดคุยและพัฒนารายละเอียดของแผนการสําหรับการอพยพ

ดู HENTAI ได้ที่ hanimeza.com

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+