Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 50 พบกันใหม่ (4)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 50 พบกันใหม่ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 50 พบกันใหม่ (4)

 

โว่ง!

 

ตรงพื้นที่ที่บิดเบี้ยว มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวจากที่นั่น 

 

พ่อมดที่สวมเสื้อคลุมสีน้ําตาลฝังดอกลิลลี่ เขาดูภาคภูมิใจมากเมื่อเห็นหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสสาขาแบรนดอน 

 

“เป็นเวลานานมากแล้วสินะที่ข้ามาที่นี่”

 

ความทรงจําเก่าๆที่เขาสร้างขึ้นเมื่อทศวรรษที่แล้ว เริ่มผุดเข้ามาในความคิดของเขา

 

“เจ้า เจ้าเป็นใคร!”

 

“เจ้ารู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน !?”

 

เมื่อรู้สึกถึงการไหลเวียนของมานาอย่างกะทันหัน เหล่าพอมดจึงนําทหารรับจ้างตรงมาที่ใจกลางสวนของสาขา 

 

พวกเขารู้สึกได้ว่ามีคนบุกเข้ามาในสาขาของพวกเขา และจะพยายามวางเพลิงอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาประหลาดใจที่เห็นเสื้อผ้าที่ผู้บุกรุกใส่

 

“สัญลักษณ์ดอกลิลลี่? และยังมีถึง 7.”

 

“ผะ

 

ผู้อาวุโส!”

 

ทุกคนรีบวางอาวุธลงอย่างเร่งรีบ

 

เสื้อคลุมลายดอกลิลลี่เจ็ดดอก มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้อาวุโสเจ็ดซึ่งเป็นผู้มีอํานาจสูงสุดรองจาก ผู้นําของหอคอย และรองผู้นํา ในหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัส

 

“ชื่อของข้าคือ ปิแอร์ ออร์ทรานด์ ข้าเป็นสมาชิกของสภาและข้ามาที่นี่เพื่อพบกับผู้จัดการสาขา”

 

ในไม่ช้าพวกพ่อมดของสาขาก็พาเขาไปยังอาคารที่สวยงามซึ่งอยู่ตรงกลางของสาขา

 

โอ้พระเจ้าช่วย นั่นมันปิแอร์ ออร์ทรานด์!”

 

“พวกเราตายแน่!”

 

ปิแอร์คือหนึ่งในผู้อาวุโสในสภาเป็นผู้ดูแลหอคอยเวทมนตร์

 

และเมื่อเขามาเยี่ยมชมโดยไม่ได้นัดหมายอะไร นั่นก็หมายถึงชะตาชีวิตของพวกเขาได้ขาดแล้ว

 

มันไม่เคยมีสาขาไหนที่สามารถทนได้จนถึงจบ

 

“เป็นเพราะการลอบวางเพลิงงั้นหรอ? แต่เรายังไม่ได้รายงานไปที่สํานักงานใหญ่เลยนี่ เขาจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”

 

“นี่มันแย่จริงๆ ผู้จัดการสาขาก็คงจะรู้สึกแย่เหมือนกัน….

 

หลังจากนั้นไม่นานเมื่อพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องของผู้จัดการสาขาและพ่อมดที่นําทางมาก็พูดว่า

 

“ที่นี่แหละครับ ท่านผู้อาวุโส”

 

เมื่อปิแอร์เปิดประตู กลิ่นแอลกอฮอล์ที่รุนแรงก็ปะทะเข้ากับจมูกของเขา

 

ขณะที่ปิแอร์บีบจมูก ชายที่กําลังเมาอยู่ก็ตะโกนว่า

 

“อาราย? เมิงเป็นครายวะ?” ”

 

ชายที่กําลังเมาคนนั้นก็คือเจมสันผู้จัดการสาขาซึ่งไม่รู้ว่าผู้ อาวุโสได้มาถึงสาขาของตนแล้ว

 

ไม่ แม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับปิแอร์ เขาก็คงทําเช่นเดียวกัน 

 

แรงจูงใจทั้งหมดของเขาร่วงหล่นลงสู่พื้น หลังจากสูญเสียเครื่องมือในการแก้แค้นอัลเบิร์ตและหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทส

 

ปิแอร์มองไปที่เจมสัน จากนั้นก็หันไปยังพ่อมดที่พาเขามาและพูดว่า

 

“ไปให้พ้น อย่าให้ใครเข้ามาในห้องนี้”

 

“อ๊ะ รับทราบ

 

พ่อมดเหล่านั้นไม่มีเจตนาที่จะขัดขืนคําสั่งของผู้อาวุโสและรีบออกไปจากสถานที่นั้นในทันที

 

เมื่อในห้องเหลือแค่พวกเขาสองคน ปิแอร์ก็ล็อคประตูและเข้าไปหาเจมสัน

 

เขาพูดกับเจมสันที่เอาแต่ดื่ม

 

“เกิดอะไรขึ้นกับพิมพ์เขียวแอทลาส?”

 

“อะไร? เอ่อเจ้า .. !”

 

ในช่วงเวลาหนึ่งแอลกอฮอล์ทั้งหมดที่เจมสันดื่มก็ดูเหมือนจะถูกล้างออกไป เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสพูด

 

เขาลุกลี้ลุกลนจนตกจากเก้าอี้และพยายามจะกลับขึ้นมา 

 

ปิแอร์กล่าวขณะมองไปที่เขาด้วยความเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา

 

“เจ้าไม่รู้สินะว่าข้าเป็นคนคุมเรื่องนี้ ข้ารู้ว่าเจ้าคุยกับใครไปบ้างถึงเรื่องพิมพ์เขียว ข้าก็แค่อยากจะยืนดูเฉยๆว่ามันมีพวกหนอนบ่อนไส้สักแค่ไหน”

 

และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้จัดการฆ่าหนอนบ่อนไส้จนครบทุกตัว เว้นก็แต่เจมสันจากสาขาแบรนดอน

 

“เอาล่ะ พิมพ์เขียวอยู่ไหน”

 

“ใคร เมิงเป็นใคร”

 

เมื่อได้ยินคําถามจากเจมสัน ปิแอร์ก็ค่อนข้างอารมณ์เสีย

 

“เจ้ากําลังพูดถึงอะไร”

 

“ข้าก็คือผู้อาวุโสปิแอร์ไงล่ะ หึๆถึงคลื่นเวทย์มนตร์ของเขาจะเย็นเฉียบ แต่ก็ไม่ทิ้งตึงเหมือนของเจ้า”

 

ปิแอร์หรือชายที่มีรูปร่างหน้าตานั้นยิ้ม

 

“เจ้าอาจเป็นอัจฉริยะในสมัยของอัลเบิร์ต แต่ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่ใช่แล้ว”

 

“เมิงว่าไงอะไรนะ”

 

มันไม่เคยมีใครที่กล้าจะพูดชื่อของอัลเบิร์ตโดยไม่ให้เกียรติ

เจมสันเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขา อย่างไรก็ตามความกลัวเริ่มทําให้ร่างกายของเขาแข็งที่อ

 

“ถ้าเจ้าตัดสินใจที่จะไม่พูดกับข้า งั้นเจ้าก็เป็นคนบังคับให้ข้าต้องมองหามันเองนะ”

 

“อึก!”

 

ทันใดนั้นใบหน้าของปิแอร์ก็หายไปและกะโหลกศีรษะที่เปล่งประกายก็ปรากฏขึ้นแทน

 

ละลิช?”

 

เมื่อเจมสันกําลังจะถอยหนี เขาก็ถูกลากเข้าไปหามือของลิ

 

เขาพยายามจะตอบโต้กลับโดยใช้เวทมนตร์ของตัวเอง แต่ลิชนนั้นมีอํานาจเหนือกว่า ในที่สุดเจมสันจึงถูกบังคับให้คุกเข่าลงใกล้ๆกับลิช

 

“อ้ากก!”

 

เมื่อพลังงานสีดําพุ่งออกมาจากมือของลิช เจมสันก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน 

 

ราวกับว่ามีเข็มนับร้อยนับพันแทงทะลุศีรษะของเขา ความเจ็บปวดที่คมเหมือนมีดกําลังพยายามที่จะตัดศีรษะของเขาให้เปิดออก

 

ไม่ว่าความเจ็บปวดนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม ลิชก็พยายามเข้าไปในความทรงจําของเจมสันด้วยเวทมนตร์แห่งความมืดและเขาก็ได้พบบางสิ่ง

 

“ไม่! นั่นคือกระสุนแห่งความมืด”

 

ลิชนั้นรู้จักกับเวทมนตร์ที่ผู้บุกรุกใช้กับเจมสัน

 

แม้ว่ามันจะแตกต่างกันในเรื่องของสี แต่มันก็เป็นกระสุนแห่งความมืดแน่นอน

 

“ผู้บุกรุกเป็นพ่อมดอย่างนั้นหรอ?”

 

แม้ว่าเขาจะอยากรู้มากกว่านี้ แต่ความทรงจําของเจมสันก็จบลงที่นั่น

 

หลังจากนั้นไม่นาน ลิชก็เห็นภาพห้องสมุดถูกไฟไหม้จากด้านใน แต่มันก็ยังไม่ทราบที่อยู่ของพิมพ์เขียว

 

ลิชจึงได้พิจาณาอย่างแน่วแน่ว่าผู้บุกรุกได้นําเอาพิมพ์เขียวไป เพราะมันไม่มีทางที่ใครจะทิ้งของล้ําค่าเช่นนี้ให้ถูกเผาอยู่ในกองไฟ

 

“มันคือพวกดาร์มูนของสาธารณรัฐโวลก้าใช่หรือไม่?พวกเขาเป็นพวกเดียวที่มีเวทมนตร์แบบนี้นอกเหนือจากข้า…

 

ลิชนั้นรู้ความลับมากมายที่ยังไม่มีใครโลกรู้

 

หนึ่งในนั้นคือหอคอยแห่งความมืด ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนักเวทแห่งสาธารณรัฐโวลก้า

 

มันมีไม่กี่คนบนโลกเท่านั้นที่รู้ว่าดาร์คมุนนั้นเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการก่อตั้งและกิจการของสาธารณ

 

และหากไม่ใช่เพราะดาร์คมูน สาธารณรัฐโวลก้าก็คงจะถูกทําลายไปนานแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเข่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้ความลับของกันและกัน เพราะฉะนั้นพวกทั้งคู่จึงเลือกที่จะไม่พูดมันออกมาและสั่งให้ตยของพวกเขาที่รู้เรื่องนี้ห้ามพูดถึงมัน ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถูกจับไปขัง

 

นอกจากนี้การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองยังเป็นผลดีสําหรับหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสอีกด้วย

 

ดังนั้นมันจึงไม่จําเป็นต้องทําลายฝ่ายตรงข้าม …

 

“การพยายามเอียงเครื่องชั่งไปด้านใดด้านหนึ่งนั้นไม่ดีเลยมันน่ารําคาญ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะต้องขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปรับพิมพ์เขียวซะหน่อยแล้ว”

 

ลิชตัดสินใจที่จะปลดปล่อยเจมสัน

 

แน่นอนว่างานยังไม่เสร็จ แต่หัวของเขาเต็มไปด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด

 

นั่นหมายความว่ามันจะช่วยให้ลิชสามารถควบคุมเขาได้เขาจะได้เห็นได้ยินทุกอย่างที่เจมสันทํา

 

“มาดูกันว่าผู้ชายคนนี้พยายามติดต่อใครในหกอคอยอีกบ้าง และใครอีกที่กําลังมองหาเทคโนโลยีล่าสุดในหอคอยของ

เรา”

 

“อื้อหือ…เกิดอะไรขึ้น?”

 

“สบายดีไหมผู้จัดการ”

 

“ผู้อาวุโสปิแอร์?”

 

แตกต่างจากเมื่อก่อน ตอนนี้เจมสันเชื่อว่าลิชคือปิแอร์

 

เพราะหนอนในหัวของเขาทําให้มันดูเป็นอย่างนั้น

 

“เจ้าต้องทํางานด้วยตัวเองมากขนาดนี้เพราะห้องสมุดถูกไฟไหม้อย่างนั้นหรอ? จงทํางานหนักและเข้มแข็งต่อไป” 

 

“เอ่อ ข้าขอโทษ”

 

หลังจากเสร็จธุระกับเจมสัน ลิชก็ออกจากแบรนดอนและมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อไปยังสาธารณรัฐโวลก้าเพื่อกู้คืนพิมพ์เขียวของกิกันท์คลาสฮีโร่รุ่นล่าสุด

 

ลิขมุ่งหน้าต่อไปโดยที่ไม่หยุดคิดซักวินาทีเดียว ว่าเขากําลังเดินไปผิดทาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 50 พบกันใหม่ (4)

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 50 พบกันใหม่ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 50 พบกันใหม่ (4)

 

โว่ง!

 

ตรงพื้นที่ที่บิดเบี้ยว มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวจากที่นั่น 

 

พ่อมดที่สวมเสื้อคลุมสีน้ําตาลฝังดอกลิลลี่ เขาดูภาคภูมิใจมากเมื่อเห็นหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสสาขาแบรนดอน 

 

“เป็นเวลานานมากแล้วสินะที่ข้ามาที่นี่”

 

ความทรงจําเก่าๆที่เขาสร้างขึ้นเมื่อทศวรรษที่แล้ว เริ่มผุดเข้ามาในความคิดของเขา

 

“เจ้า เจ้าเป็นใคร!”

 

“เจ้ารู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน !?”

 

เมื่อรู้สึกถึงการไหลเวียนของมานาอย่างกะทันหัน เหล่าพอมดจึงนําทหารรับจ้างตรงมาที่ใจกลางสวนของสาขา 

 

พวกเขารู้สึกได้ว่ามีคนบุกเข้ามาในสาขาของพวกเขา และจะพยายามวางเพลิงอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาประหลาดใจที่เห็นเสื้อผ้าที่ผู้บุกรุกใส่

 

“สัญลักษณ์ดอกลิลลี่? และยังมีถึง 7.”

 

“ผะ

 

ผู้อาวุโส!”

 

ทุกคนรีบวางอาวุธลงอย่างเร่งรีบ

 

เสื้อคลุมลายดอกลิลลี่เจ็ดดอก มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้อาวุโสเจ็ดซึ่งเป็นผู้มีอํานาจสูงสุดรองจาก ผู้นําของหอคอย และรองผู้นํา ในหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัส

 

“ชื่อของข้าคือ ปิแอร์ ออร์ทรานด์ ข้าเป็นสมาชิกของสภาและข้ามาที่นี่เพื่อพบกับผู้จัดการสาขา”

 

ในไม่ช้าพวกพ่อมดของสาขาก็พาเขาไปยังอาคารที่สวยงามซึ่งอยู่ตรงกลางของสาขา

 

โอ้พระเจ้าช่วย นั่นมันปิแอร์ ออร์ทรานด์!”

 

“พวกเราตายแน่!”

 

ปิแอร์คือหนึ่งในผู้อาวุโสในสภาเป็นผู้ดูแลหอคอยเวทมนตร์

 

และเมื่อเขามาเยี่ยมชมโดยไม่ได้นัดหมายอะไร นั่นก็หมายถึงชะตาชีวิตของพวกเขาได้ขาดแล้ว

 

มันไม่เคยมีสาขาไหนที่สามารถทนได้จนถึงจบ

 

“เป็นเพราะการลอบวางเพลิงงั้นหรอ? แต่เรายังไม่ได้รายงานไปที่สํานักงานใหญ่เลยนี่ เขาจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”

 

“นี่มันแย่จริงๆ ผู้จัดการสาขาก็คงจะรู้สึกแย่เหมือนกัน….

 

หลังจากนั้นไม่นานเมื่อพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องของผู้จัดการสาขาและพ่อมดที่นําทางมาก็พูดว่า

 

“ที่นี่แหละครับ ท่านผู้อาวุโส”

 

เมื่อปิแอร์เปิดประตู กลิ่นแอลกอฮอล์ที่รุนแรงก็ปะทะเข้ากับจมูกของเขา

 

ขณะที่ปิแอร์บีบจมูก ชายที่กําลังเมาอยู่ก็ตะโกนว่า

 

“อาราย? เมิงเป็นครายวะ?” ”

 

ชายที่กําลังเมาคนนั้นก็คือเจมสันผู้จัดการสาขาซึ่งไม่รู้ว่าผู้ อาวุโสได้มาถึงสาขาของตนแล้ว

 

ไม่ แม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับปิแอร์ เขาก็คงทําเช่นเดียวกัน 

 

แรงจูงใจทั้งหมดของเขาร่วงหล่นลงสู่พื้น หลังจากสูญเสียเครื่องมือในการแก้แค้นอัลเบิร์ตและหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทส

 

ปิแอร์มองไปที่เจมสัน จากนั้นก็หันไปยังพ่อมดที่พาเขามาและพูดว่า

 

“ไปให้พ้น อย่าให้ใครเข้ามาในห้องนี้”

 

“อ๊ะ รับทราบ

 

พ่อมดเหล่านั้นไม่มีเจตนาที่จะขัดขืนคําสั่งของผู้อาวุโสและรีบออกไปจากสถานที่นั้นในทันที

 

เมื่อในห้องเหลือแค่พวกเขาสองคน ปิแอร์ก็ล็อคประตูและเข้าไปหาเจมสัน

 

เขาพูดกับเจมสันที่เอาแต่ดื่ม

 

“เกิดอะไรขึ้นกับพิมพ์เขียวแอทลาส?”

 

“อะไร? เอ่อเจ้า .. !”

 

ในช่วงเวลาหนึ่งแอลกอฮอล์ทั้งหมดที่เจมสันดื่มก็ดูเหมือนจะถูกล้างออกไป เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสพูด

 

เขาลุกลี้ลุกลนจนตกจากเก้าอี้และพยายามจะกลับขึ้นมา 

 

ปิแอร์กล่าวขณะมองไปที่เขาด้วยความเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา

 

“เจ้าไม่รู้สินะว่าข้าเป็นคนคุมเรื่องนี้ ข้ารู้ว่าเจ้าคุยกับใครไปบ้างถึงเรื่องพิมพ์เขียว ข้าก็แค่อยากจะยืนดูเฉยๆว่ามันมีพวกหนอนบ่อนไส้สักแค่ไหน”

 

และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้จัดการฆ่าหนอนบ่อนไส้จนครบทุกตัว เว้นก็แต่เจมสันจากสาขาแบรนดอน

 

“เอาล่ะ พิมพ์เขียวอยู่ไหน”

 

“ใคร เมิงเป็นใคร”

 

เมื่อได้ยินคําถามจากเจมสัน ปิแอร์ก็ค่อนข้างอารมณ์เสีย

 

“เจ้ากําลังพูดถึงอะไร”

 

“ข้าก็คือผู้อาวุโสปิแอร์ไงล่ะ หึๆถึงคลื่นเวทย์มนตร์ของเขาจะเย็นเฉียบ แต่ก็ไม่ทิ้งตึงเหมือนของเจ้า”

 

ปิแอร์หรือชายที่มีรูปร่างหน้าตานั้นยิ้ม

 

“เจ้าอาจเป็นอัจฉริยะในสมัยของอัลเบิร์ต แต่ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่ใช่แล้ว”

 

“เมิงว่าไงอะไรนะ”

 

มันไม่เคยมีใครที่กล้าจะพูดชื่อของอัลเบิร์ตโดยไม่ให้เกียรติ

เจมสันเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขา อย่างไรก็ตามความกลัวเริ่มทําให้ร่างกายของเขาแข็งที่อ

 

“ถ้าเจ้าตัดสินใจที่จะไม่พูดกับข้า งั้นเจ้าก็เป็นคนบังคับให้ข้าต้องมองหามันเองนะ”

 

“อึก!”

 

ทันใดนั้นใบหน้าของปิแอร์ก็หายไปและกะโหลกศีรษะที่เปล่งประกายก็ปรากฏขึ้นแทน

 

ละลิช?”

 

เมื่อเจมสันกําลังจะถอยหนี เขาก็ถูกลากเข้าไปหามือของลิ

 

เขาพยายามจะตอบโต้กลับโดยใช้เวทมนตร์ของตัวเอง แต่ลิชนนั้นมีอํานาจเหนือกว่า ในที่สุดเจมสันจึงถูกบังคับให้คุกเข่าลงใกล้ๆกับลิช

 

“อ้ากก!”

 

เมื่อพลังงานสีดําพุ่งออกมาจากมือของลิช เจมสันก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน 

 

ราวกับว่ามีเข็มนับร้อยนับพันแทงทะลุศีรษะของเขา ความเจ็บปวดที่คมเหมือนมีดกําลังพยายามที่จะตัดศีรษะของเขาให้เปิดออก

 

ไม่ว่าความเจ็บปวดนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม ลิชก็พยายามเข้าไปในความทรงจําของเจมสันด้วยเวทมนตร์แห่งความมืดและเขาก็ได้พบบางสิ่ง

 

“ไม่! นั่นคือกระสุนแห่งความมืด”

 

ลิชนั้นรู้จักกับเวทมนตร์ที่ผู้บุกรุกใช้กับเจมสัน

 

แม้ว่ามันจะแตกต่างกันในเรื่องของสี แต่มันก็เป็นกระสุนแห่งความมืดแน่นอน

 

“ผู้บุกรุกเป็นพ่อมดอย่างนั้นหรอ?”

 

แม้ว่าเขาจะอยากรู้มากกว่านี้ แต่ความทรงจําของเจมสันก็จบลงที่นั่น

 

หลังจากนั้นไม่นาน ลิชก็เห็นภาพห้องสมุดถูกไฟไหม้จากด้านใน แต่มันก็ยังไม่ทราบที่อยู่ของพิมพ์เขียว

 

ลิชจึงได้พิจาณาอย่างแน่วแน่ว่าผู้บุกรุกได้นําเอาพิมพ์เขียวไป เพราะมันไม่มีทางที่ใครจะทิ้งของล้ําค่าเช่นนี้ให้ถูกเผาอยู่ในกองไฟ

 

“มันคือพวกดาร์มูนของสาธารณรัฐโวลก้าใช่หรือไม่?พวกเขาเป็นพวกเดียวที่มีเวทมนตร์แบบนี้นอกเหนือจากข้า…

 

ลิชนั้นรู้ความลับมากมายที่ยังไม่มีใครโลกรู้

 

หนึ่งในนั้นคือหอคอยแห่งความมืด ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนักเวทแห่งสาธารณรัฐโวลก้า

 

มันมีไม่กี่คนบนโลกเท่านั้นที่รู้ว่าดาร์คมุนนั้นเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการก่อตั้งและกิจการของสาธารณ

 

และหากไม่ใช่เพราะดาร์คมูน สาธารณรัฐโวลก้าก็คงจะถูกทําลายไปนานแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเข่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้ความลับของกันและกัน เพราะฉะนั้นพวกทั้งคู่จึงเลือกที่จะไม่พูดมันออกมาและสั่งให้ตยของพวกเขาที่รู้เรื่องนี้ห้ามพูดถึงมัน ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถูกจับไปขัง

 

นอกจากนี้การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองยังเป็นผลดีสําหรับหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสอีกด้วย

 

ดังนั้นมันจึงไม่จําเป็นต้องทําลายฝ่ายตรงข้าม …

 

“การพยายามเอียงเครื่องชั่งไปด้านใดด้านหนึ่งนั้นไม่ดีเลยมันน่ารําคาญ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะต้องขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปรับพิมพ์เขียวซะหน่อยแล้ว”

 

ลิชตัดสินใจที่จะปลดปล่อยเจมสัน

 

แน่นอนว่างานยังไม่เสร็จ แต่หัวของเขาเต็มไปด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด

 

นั่นหมายความว่ามันจะช่วยให้ลิชสามารถควบคุมเขาได้เขาจะได้เห็นได้ยินทุกอย่างที่เจมสันทํา

 

“มาดูกันว่าผู้ชายคนนี้พยายามติดต่อใครในหกอคอยอีกบ้าง และใครอีกที่กําลังมองหาเทคโนโลยีล่าสุดในหอคอยของ

เรา”

 

“อื้อหือ…เกิดอะไรขึ้น?”

 

“สบายดีไหมผู้จัดการ”

 

“ผู้อาวุโสปิแอร์?”

 

แตกต่างจากเมื่อก่อน ตอนนี้เจมสันเชื่อว่าลิชคือปิแอร์

 

เพราะหนอนในหัวของเขาทําให้มันดูเป็นอย่างนั้น

 

“เจ้าต้องทํางานด้วยตัวเองมากขนาดนี้เพราะห้องสมุดถูกไฟไหม้อย่างนั้นหรอ? จงทํางานหนักและเข้มแข็งต่อไป” 

 

“เอ่อ ข้าขอโทษ”

 

หลังจากเสร็จธุระกับเจมสัน ลิชก็ออกจากแบรนดอนและมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อไปยังสาธารณรัฐโวลก้าเพื่อกู้คืนพิมพ์เขียวของกิกันท์คลาสฮีโร่รุ่นล่าสุด

 

ลิขมุ่งหน้าต่อไปโดยที่ไม่หยุดคิดซักวินาทีเดียว ว่าเขากําลังเดินไปผิดทาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+