Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 55 การกลับมาของราชาปีศาจ

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 55 การกลับมาของราชาปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล

 

บทที่ 55 การกลับมาของราชาปีศาจ (1)

 

“ทุกคนจงมีกําลังใจ!”

 

“อีกไม่ไกลเราก็จะมาถึงแม่น้ําเนียร์ สิ่งที่เราต้องทําคือกําจัดทหารออกไปให้พ้นทาง!”

 

หลังจากผ่านไปมากกว่าหนึ่งวันผู้ลี้ภัยก็เริ่มเคลื่อนย้าย

 

สุขภาพของผู้ลี้ภัยซึ่งมีชีวิตที่ย่ําแย่มาเป็นเวลานานนั้นแย่ลงกว่าที่เรย์น่าคิดไว้มาก

 

ไม่ว่าเรย์น่าจะพยายามเข้าหาพวกเขาเพื่อให้กําลังใจมากแค่ไหน มันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นผล

 

“เจ้าหญิง ข้าว่ามันจะเป็นการดีที่เราจะหยุดพักสักหน่อย”

 

วิคเตอร์ซึ่งเฝ้าดูขบวนอยู่พูดด้วยสีหน้าแน่วแน่

 

อย่างไรก็ตามพาเวลต่อต้านมัน

“ไม่! อีกครึ่งวันค่อยพัก!”

 

“แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่ได้ถึงครึ่งวัน!”

 

“แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้ากองทัพของเคานต์จับได้”

 

“ข้าคิดว่าพวกเขาจะล้มลงก่อนที่จะถูกจับได้ซะอีก”

 

เรนะตัดสินใจในขณะที่อัศวินทั้งสองยังคงขัดแย้งกันกับความคิดเห็นของพวกเขา

 

“เราจะหยุดพักหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างนี้จงกินให้อิ่มท้องและนอนหลับให้เพียงพอ”

 

เมื่อคําสั่งของเธอจบลง เส้นเดินทัพก็หยุดลง

 

คนที่เหนื่อยล้าก็เอนหลังและนั่งลง คนที่หิวโหยก็เติมเต็มความหิวด้วยอาหารอะไรก็ตามที่พวกเขาหาได้

 

“เจ้าหญิงกินนี่สิ”

 

เรย์น่านั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน

 

เป็นเพราะพวกเขาพยายามกระตุ้นให้ผู้คนเคลื่อนไหวแทนที่จะใช้เวลาในการรับประทานอาหาร

 

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นชามซุปอุ่นๆที่พาเวลนํามาให้เธอจึงรู้สึกหิวขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตาม

 

“ท่านนํามันไปให้ผู้อื่นเถอะ”

 

“เจ้าหญิงเป็นจุดแข็งของประชาชน คนอื่นๆก็มีความสําคัญอย่างแน่นอน แต่มันจะเป็นเรื่องใหญ่หากเจ้าหญิงนั้นล้ม

ลง”

 

” ขอบคุณนะ”

 

แต่ในขณะที่เรย์น่ากําลังจะตักซุปขึ้นมาแผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน

ตุ๊ดดดดด!

 

“นี้! กองทัพที่เคานต์ส่งมา!”

 

“ทุกคนยืนขึ้น! เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”

 

วิกเตอร์และคนรับใช้คนอื่นๆ เริ่มตะโกนบอกผู้ลี้ภัยอย่าง

ร้อนรน

 

ผู้ลี้ภัยที่ลุกขึ้นเริ่มวิ่งหนี อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

 

ในที่สุดพวกเขาก็ถูกหน่วยทหารม้าแมงปปองล้อม

 

“ไอ้บ้าเอ้ย! อีกนิดเดียวเราก็จะถึงแม่น้ําอยู่แล้ว

 

“ถ้าเรามีเพียงพลังที่จะหยุดพวกมันได้ล่ะก็!”

 

ความรู้สึกสิ้นหวังและโกรธเกรี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าหญิง

 

เมื่อการล้อมเสร็จสิ้น ชายคนหนึ่งที่สวมหมวกหลากสีก็ก้าวไปข้างหน้า

 

มันก็คือหัวหน้าของหน่อยทหารม้าแมงปองไวเปอร์

 

“เจ้าหญิง ท่านรู้ไหมว่าการหลบหนีออกจากความเมตตาของท่านเคาต์โมนาร์ชมันน่าระอาเพียงใด!”

 

“ความเมตตาของท่านเคานต์? เจ้ากําลังพูดถึงอะไร?เคานต์เคยทําอะไรให้เราด้วยหรอ?”

 

วิคเตอร์ตะโกนแทนเรย์น่า

 

“เมื่อตอนที่พวกเจ้าเหล่าผู้ลี้ภัยมาซุกหัวนอนอยู่ในเมืองนั่นก็คือพระคุณที่ข้าพูดถึง!”

 

“หุบปาก! พูดอย่างกับเราได้พักฟรีเราจ่ายภาษีให้กับพวกเจ้าถึงสองเท่า และเวลามีปัญหาอะไรพวกเราก็มักจะถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานอีก”

 

แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับผู้ลี้ภัย

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าจะเป็นกลุ่มคนผู้ลี้ภัยจริงๆ พวกมันเห็นพวกเขาเป็นนักล้วงกระเป๋าและให้พวกเขาทํางานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สายตาของพวกเขาเย็นชาต่อผู้ลี้ภัยเสมอ

ไวเปอร์บีบจมูกของเขาขณะที่วิกเตอร์พูดถึงการเลือกปฏิบัติที่พวกเขาได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

“ห็นั่นไม่ใช่ปัญหาของข้า ฟังนะ เจ้าหญิงเรย์น่าถ้าท่านตามพวกเราไปอย่างโดยดี เราก็จะปล่อยคนของท่านไปอย่างไรก็ตามหากท่านเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเรามันก็อาจจะมีการนองเลือดของสัตว์ร้ายเกิดขึ้นที่นี่”

 

ไวเปอร์ได้รับคําสั่งจากเคานต์โมนาร์ชให้นําเจ้าหญิงกลับคืนมาโดยไม่ทําร้ายแม้แต่เส้นผมของเธอ

 

พวกเขาต้องการทําตามคําสั่ง แต่มีโอกาสที่เจ้าหญิงจะทําร้ายตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดออกไปก่อน

 

ทหารที่ขู่ด้วยมีดในมือ ทําให้ผู้ลี้ภัยที่หวาดกลัวเริ่มถอนตัวออกไป

 

“นี่มันหมายถึงอะไรกัน เอลคาสเซิล

 

เรย์น่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วถาม

 

หากนั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่รู้สึกสิ้นหวังและยอมรับมัน

 

ถ้าเธอเสียใจมันก็จะมีแค่อย่างเดียวนั่นก็คือเธอคงไม่สามารถไปพบกับลุคที่เธอชอบ

 

“อย่าเลยเจ้าหญิง!”

 

“เราจะเปิดเส้นทางให้ท่านเองและเจ้าหญิงก็จะได้หนี”

 

เรย์น่าพยายามเดินหน้าต่อไป แต่คนรับใช้ก็ต่อต้านมัน

 

อย่างไรก็ตามเรย์น่ายังคงยืนกราน

 

“ข้าเป็นราชวงศ์คนสุดท้ายของอาณาจักรโวลก้าข้าจะละทิ้งคนของข้าแล้วหนีไปได้อย่างไร”

 

ราชวงศ์โวลก้าไม่เคยละทิ้งผู้คน

 

แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่ความผิดพลาดก็จะไม่หายไป

 

แทนที่จะละทิ้งผู้คนของเธอ เรย์น่าคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะยอมสละตัวเองแล้วไปเป็นนางบําเรอของเคานต์โมนาร์ช

 

“เจ้าหญิง! โปรดกําจัดความคิดที่ไร้ความสามารถเหล่านั้นออกไปจากหัวของท่านด้วย!”

 

“เจ้าหญิง! ท่านจะไปไม่ได้นะ!”

 

หญิงชราและคนอื่นๆกําลังร้องไห้ทั้งน้ํา ตาและขอร้องให้เธอหยุด

 

“ถ้าข้าไปกับเจ้าโดยไม่ขัดขืน เจ้าจะปล่อยคนของข้าไปจริงๆใช่ไหม”

 

เธอมองไปที่ไวเปอร์

 

ไวเปอร์พยักหน้า

 

“แน่นอน ข้าจะไม่กล้าแตะต้องแม้แต่นิ้วของพวกเขาด้วยซ้ํา”

ไวเปอร์โกหกอย่างไร้ยางอาย

 

เรย์น่าซึ่งไม่รู้ถึงความชั่วร้ายของเขา จึงกลายเป็นตัวประกันของหน่วยทหารม้าแมงปองเพื่อช่วยคนของเธอ

 

เม่ได้ตัวเจ้าหญิงมาแล้ว ไวเปอร์ก็เริ่มแสดงสีที่แท้จริงของเขา

 

“เนื่องจากเจ้าหญิงปลอดภัยแล้ว จงฆ่าคนอื่นๆให้หมด! ท่านเคานต์บอกว่าเขาไม่ต้องการขยะเพิ่ม!”

 

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!”

 

“เขา.. เขาหลอกเรา!”

 

ขณะที่กองทหารก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับดาบดาบผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่ตกใจก็เริ่มกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก

 

เรย์น่าตะโกนใส่ไวเปอร์ที่ชั่วร้าย

 

“ไหนเจ้าบอกข้าว่าเจ้าจะปล่อยคนของข้าไปถ้าข้ามากับ

 

“คุคุคุ เจ้าเป็นเจ้าหญิงที่ไร้เดียงสาดสียจริง สัญญานั้นมีไว้เพื่อทําลาย”

 

ไวเปอร์ยิ้มกว้าง

 

“อ๊ะอ๊ะ! โอ้พระเจ้า! ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้จริงๆเหรอ!? ”

 

เมื่อระยะห่างระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าเริ่มแคบลงเท่าไหร่ น้ําตาตาของเจ้าหญิงเรย์น่าก็เริ่มไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น

 

ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเธอสาบานว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้คนของเธอ แต่เธอก็ทําผิดคําสาบานนั้นโดยไม่รู้ตัว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดหลังจากนั้นไม่นานเราจะได้ลิ้มรสเลือด!”

 

“ใครอยากเดิมพันบ้าง ว่าใครจะฆ่าได้มากที่สุด?”

 

กองทหารม้าแมงปองยกดาบขึ้นด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย

 

พวกเขาชี้ดาบไปที่ผู้ลี้ภัย

 

แต่แล้วในขณะนั้นเอง

 

ฮวาร์ก!?

 

เปลวไฟลุกโชนขึ้นระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัย

 

พวกมันเป็นเปลวไฟสีม่วงสว่างซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 55 การกลับมาของราชาปีศาจ

Now you are reading Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล Chapter 55 การกลับมาของราชาปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล

 

บทที่ 55 การกลับมาของราชาปีศาจ (1)

 

“ทุกคนจงมีกําลังใจ!”

 

“อีกไม่ไกลเราก็จะมาถึงแม่น้ําเนียร์ สิ่งที่เราต้องทําคือกําจัดทหารออกไปให้พ้นทาง!”

 

หลังจากผ่านไปมากกว่าหนึ่งวันผู้ลี้ภัยก็เริ่มเคลื่อนย้าย

 

สุขภาพของผู้ลี้ภัยซึ่งมีชีวิตที่ย่ําแย่มาเป็นเวลานานนั้นแย่ลงกว่าที่เรย์น่าคิดไว้มาก

 

ไม่ว่าเรย์น่าจะพยายามเข้าหาพวกเขาเพื่อให้กําลังใจมากแค่ไหน มันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นผล

 

“เจ้าหญิง ข้าว่ามันจะเป็นการดีที่เราจะหยุดพักสักหน่อย”

 

วิคเตอร์ซึ่งเฝ้าดูขบวนอยู่พูดด้วยสีหน้าแน่วแน่

 

อย่างไรก็ตามพาเวลต่อต้านมัน

“ไม่! อีกครึ่งวันค่อยพัก!”

 

“แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่ได้ถึงครึ่งวัน!”

 

“แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้ากองทัพของเคานต์จับได้”

 

“ข้าคิดว่าพวกเขาจะล้มลงก่อนที่จะถูกจับได้ซะอีก”

 

เรนะตัดสินใจในขณะที่อัศวินทั้งสองยังคงขัดแย้งกันกับความคิดเห็นของพวกเขา

 

“เราจะหยุดพักหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างนี้จงกินให้อิ่มท้องและนอนหลับให้เพียงพอ”

 

เมื่อคําสั่งของเธอจบลง เส้นเดินทัพก็หยุดลง

 

คนที่เหนื่อยล้าก็เอนหลังและนั่งลง คนที่หิวโหยก็เติมเต็มความหิวด้วยอาหารอะไรก็ตามที่พวกเขาหาได้

 

“เจ้าหญิงกินนี่สิ”

 

เรย์น่านั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน

 

เป็นเพราะพวกเขาพยายามกระตุ้นให้ผู้คนเคลื่อนไหวแทนที่จะใช้เวลาในการรับประทานอาหาร

 

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นชามซุปอุ่นๆที่พาเวลนํามาให้เธอจึงรู้สึกหิวขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตาม

 

“ท่านนํามันไปให้ผู้อื่นเถอะ”

 

“เจ้าหญิงเป็นจุดแข็งของประชาชน คนอื่นๆก็มีความสําคัญอย่างแน่นอน แต่มันจะเป็นเรื่องใหญ่หากเจ้าหญิงนั้นล้ม

ลง”

 

” ขอบคุณนะ”

 

แต่ในขณะที่เรย์น่ากําลังจะตักซุปขึ้นมาแผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน

ตุ๊ดดดดด!

 

“นี้! กองทัพที่เคานต์ส่งมา!”

 

“ทุกคนยืนขึ้น! เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”

 

วิกเตอร์และคนรับใช้คนอื่นๆ เริ่มตะโกนบอกผู้ลี้ภัยอย่าง

ร้อนรน

 

ผู้ลี้ภัยที่ลุกขึ้นเริ่มวิ่งหนี อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

 

ในที่สุดพวกเขาก็ถูกหน่วยทหารม้าแมงปปองล้อม

 

“ไอ้บ้าเอ้ย! อีกนิดเดียวเราก็จะถึงแม่น้ําอยู่แล้ว

 

“ถ้าเรามีเพียงพลังที่จะหยุดพวกมันได้ล่ะก็!”

 

ความรู้สึกสิ้นหวังและโกรธเกรี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าหญิง

 

เมื่อการล้อมเสร็จสิ้น ชายคนหนึ่งที่สวมหมวกหลากสีก็ก้าวไปข้างหน้า

 

มันก็คือหัวหน้าของหน่อยทหารม้าแมงปองไวเปอร์

 

“เจ้าหญิง ท่านรู้ไหมว่าการหลบหนีออกจากความเมตตาของท่านเคาต์โมนาร์ชมันน่าระอาเพียงใด!”

 

“ความเมตตาของท่านเคานต์? เจ้ากําลังพูดถึงอะไร?เคานต์เคยทําอะไรให้เราด้วยหรอ?”

 

วิคเตอร์ตะโกนแทนเรย์น่า

 

“เมื่อตอนที่พวกเจ้าเหล่าผู้ลี้ภัยมาซุกหัวนอนอยู่ในเมืองนั่นก็คือพระคุณที่ข้าพูดถึง!”

 

“หุบปาก! พูดอย่างกับเราได้พักฟรีเราจ่ายภาษีให้กับพวกเจ้าถึงสองเท่า และเวลามีปัญหาอะไรพวกเราก็มักจะถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานอีก”

 

แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับผู้ลี้ภัย

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าจะเป็นกลุ่มคนผู้ลี้ภัยจริงๆ พวกมันเห็นพวกเขาเป็นนักล้วงกระเป๋าและให้พวกเขาทํางานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สายตาของพวกเขาเย็นชาต่อผู้ลี้ภัยเสมอ

ไวเปอร์บีบจมูกของเขาขณะที่วิกเตอร์พูดถึงการเลือกปฏิบัติที่พวกเขาได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

“ห็นั่นไม่ใช่ปัญหาของข้า ฟังนะ เจ้าหญิงเรย์น่าถ้าท่านตามพวกเราไปอย่างโดยดี เราก็จะปล่อยคนของท่านไปอย่างไรก็ตามหากท่านเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเรามันก็อาจจะมีการนองเลือดของสัตว์ร้ายเกิดขึ้นที่นี่”

 

ไวเปอร์ได้รับคําสั่งจากเคานต์โมนาร์ชให้นําเจ้าหญิงกลับคืนมาโดยไม่ทําร้ายแม้แต่เส้นผมของเธอ

 

พวกเขาต้องการทําตามคําสั่ง แต่มีโอกาสที่เจ้าหญิงจะทําร้ายตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดออกไปก่อน

 

ทหารที่ขู่ด้วยมีดในมือ ทําให้ผู้ลี้ภัยที่หวาดกลัวเริ่มถอนตัวออกไป

 

“นี่มันหมายถึงอะไรกัน เอลคาสเซิล

 

เรย์น่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วถาม

 

หากนั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่รู้สึกสิ้นหวังและยอมรับมัน

 

ถ้าเธอเสียใจมันก็จะมีแค่อย่างเดียวนั่นก็คือเธอคงไม่สามารถไปพบกับลุคที่เธอชอบ

 

“อย่าเลยเจ้าหญิง!”

 

“เราจะเปิดเส้นทางให้ท่านเองและเจ้าหญิงก็จะได้หนี”

 

เรย์น่าพยายามเดินหน้าต่อไป แต่คนรับใช้ก็ต่อต้านมัน

 

อย่างไรก็ตามเรย์น่ายังคงยืนกราน

 

“ข้าเป็นราชวงศ์คนสุดท้ายของอาณาจักรโวลก้าข้าจะละทิ้งคนของข้าแล้วหนีไปได้อย่างไร”

 

ราชวงศ์โวลก้าไม่เคยละทิ้งผู้คน

 

แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่ความผิดพลาดก็จะไม่หายไป

 

แทนที่จะละทิ้งผู้คนของเธอ เรย์น่าคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะยอมสละตัวเองแล้วไปเป็นนางบําเรอของเคานต์โมนาร์ช

 

“เจ้าหญิง! โปรดกําจัดความคิดที่ไร้ความสามารถเหล่านั้นออกไปจากหัวของท่านด้วย!”

 

“เจ้าหญิง! ท่านจะไปไม่ได้นะ!”

 

หญิงชราและคนอื่นๆกําลังร้องไห้ทั้งน้ํา ตาและขอร้องให้เธอหยุด

 

“ถ้าข้าไปกับเจ้าโดยไม่ขัดขืน เจ้าจะปล่อยคนของข้าไปจริงๆใช่ไหม”

 

เธอมองไปที่ไวเปอร์

 

ไวเปอร์พยักหน้า

 

“แน่นอน ข้าจะไม่กล้าแตะต้องแม้แต่นิ้วของพวกเขาด้วยซ้ํา”

ไวเปอร์โกหกอย่างไร้ยางอาย

 

เรย์น่าซึ่งไม่รู้ถึงความชั่วร้ายของเขา จึงกลายเป็นตัวประกันของหน่วยทหารม้าแมงปองเพื่อช่วยคนของเธอ

 

เม่ได้ตัวเจ้าหญิงมาแล้ว ไวเปอร์ก็เริ่มแสดงสีที่แท้จริงของเขา

 

“เนื่องจากเจ้าหญิงปลอดภัยแล้ว จงฆ่าคนอื่นๆให้หมด! ท่านเคานต์บอกว่าเขาไม่ต้องการขยะเพิ่ม!”

 

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!”

 

“เขา.. เขาหลอกเรา!”

 

ขณะที่กองทหารก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับดาบดาบผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่ตกใจก็เริ่มกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก

 

เรย์น่าตะโกนใส่ไวเปอร์ที่ชั่วร้าย

 

“ไหนเจ้าบอกข้าว่าเจ้าจะปล่อยคนของข้าไปถ้าข้ามากับ

 

“คุคุคุ เจ้าเป็นเจ้าหญิงที่ไร้เดียงสาดสียจริง สัญญานั้นมีไว้เพื่อทําลาย”

 

ไวเปอร์ยิ้มกว้าง

 

“อ๊ะอ๊ะ! โอ้พระเจ้า! ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้จริงๆเหรอ!? ”

 

เมื่อระยะห่างระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าเริ่มแคบลงเท่าไหร่ น้ําตาตาของเจ้าหญิงเรย์น่าก็เริ่มไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น

 

ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเธอสาบานว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้คนของเธอ แต่เธอก็ทําผิดคําสาบานนั้นโดยไม่รู้ตัว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดหลังจากนั้นไม่นานเราจะได้ลิ้มรสเลือด!”

 

“ใครอยากเดิมพันบ้าง ว่าใครจะฆ่าได้มากที่สุด?”

 

กองทหารม้าแมงปองยกดาบขึ้นด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย

 

พวกเขาชี้ดาบไปที่ผู้ลี้ภัย

 

แต่แล้วในขณะนั้นเอง

 

ฮวาร์ก!?

 

เปลวไฟลุกโชนขึ้นระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัย

 

พวกมันเป็นเปลวไฟสีม่วงสว่างซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+