Gourmet of Another World มาลิ้มรสอาหารที่ต่างโลก ตอนที่ 1 – 190 193

Now you are reading Gourmet of Another World มาลิ้มรสอาหารที่ต่างโลก ตอนที่ 1 – 190 Chapter 193 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 193 เจ้าขาวโยนเขาออกไป
เจ้ามู่เซิ้งสวมผ้าคลุมตัว เขาย่างเท้าก้าวเข้าเหยียบพื้นดินและหินในเมืองหลวง เขาเงยหน้ามุมปากของเขาก็เชิดขึ้นมา
เขาจากเมืองหลวงไปหลายเดือน เขาจำกลิ่นอายของที่นี่ได้ เขาอยู่ที่เมืองหลวงเป็นเวลานานมาก นานมากจนเขาคิดว่าเขาเป็นคนของเมืองหลวง
เสียงของถนนทั้งสองด้านยังดังเหมือนเดิม แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนยามรักษาการณืของเมืองหลวงเข็มงวดมาก ทุกคนต่างสวมชุดเกราะเห็นได้ทุกที่
บนถนนหลักของเมืองหลวง บนถนนก็มีคนท่าทางแปลกๆ ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างมากมาย คนพวกนี้มีกลิ่นอายที่มีแรงกดดันที่แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน เจ้ามู่เซิ้งรู้คนพวกนี้เข้ามาหาต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา ตอนนี้ข่าวแพร่กระจายออกไป ไม่เพียงแต่นักรบศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่เจ็ด จักรพรรดินักรบขั้นที่หก ราชันนักรบขั้นที่ห้าทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์ในเมืองหลวงของอาณาจักรสายลมแห่งแสงและพื้นที่ภายนอก
ตอนนี้ท่าทางของเจ้ามู่เซิ้งสนใจเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ตอนนี้อากาศกำลังดี สภาพในอากาศในเมืองหลวงกำลังดีก่อนที่ฝนจะตกลงมาเรื่อยๆ มีคนบางคนกวนปลาให้น้ำขุ่นใช่ไหม คนที่กล้าทำแบบนี้ยังจะกล้าหายใจออกมาหลังจากที่ทำเรื่องแบบนี้ใช่ไหม?
ทันใดนั้นเจ้ามู่เซิ้งที่ยืนอยู่ ก้หันไปมองร่างทั้งสามร่างที่อยู่ไกลออกไป
คนรอบๆ ต่างมองร่างทั้งสามร่างด้วยความอยากรู้อยากเห็นและแปลกใจ
“มนุษย์งู…………” เจ้ามู่เซิ่งพึมพำเบาๆ เผ่ามนุษย์งูที่อยู่ในบึงวิญญาณลวงตามาทำอะไรที่นี่ จากบึงวิญญาณลวงตามาที่นี่นั่นไกลมาก เผ่ามนุษย์งูมาที่นี่ไม่กลัวลำบากและเหนื่อยเปล่าหรือ? เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะมาเพาะต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา?
มนุษย์งูสามตน ทั้งสองตนมีสภาพที่น่าสมเพช ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด ช่วงล่างที่เป็นเกล็ดมีแผลฉกรรน่ากลัว
หญิงสาวมนุษย์งูแบกทั้งสองคนเอาไว้ ใบหน้าตื่นตระหนก นางแทบที่ยืนคนเดียวไม่ไหวในถนนแห่งนี้
น่าสนใจจริงๆ……มุมปากของเจ้ามู่เซิ้งยกขึ้น เขาเดินไปหามนุษย์งูทั้งสามตน
……
เขาพูดจายโสโอหังมากดังก้องในซอย มันดังเข้ามาในหูของบู่ฟง คนน่าเบื่อบังเอิญเข้ามาที่ร้านอีกแล้ว
มือเดียวทำลายร้าน……..ใครกันที่มาพูดเขาไม่กลัวเหรอ?
ลั่วสื่อเหนียงเดาะลิ้นด้วยความตกใจ นางเคยมีประสบการณ์ที่น่ากลัวกับร้านฟงฟงน้อย ใครกันที่กล้ามาพูดแบบนี้เขาแข็งแกร่งมากแค่ไหน?
บู่ฟงได้ยินคำพูดนี้ เขาเพียงแต่แปลกใจนิดๆ เขายังใจเย็นหยิบทาร์ตไข่ที่เจี๋ยนเอ้อทำ
กลิ่นหอมของทาร์ตไข่หอมโชยออกมา กลิ่นของมันหอมเข้ามาในรูจมูก ลักษณะของมันดูดีทีเดียว ลักษณะของมันเป็นไปตามที่บู่ฟงคาดหวังเอาไว้ในใจ
“เถ้าแก่บู่…..ตอนนี้มีคนบางคนจะมาทำลายร้านท่าน ท่านไม่สนใจเหรอ?” ลั่วสื่อเหนียงมองดูบู่ฟงที่ยังชิมทาร์ตไข่ไปเรื่อยๆ เขาไม่สนใจอะไรเห็นทีต้องทนพูดเตือนเขา
แม้ว่านางจะเป็นคนที่พูดจาไร้สาระออกมาแต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลกๆ แต่เถ้าแก่บู่ก็จะทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็น นี่เหมือนกับว่าไร้มารยาทไม่ใช่เหรอ
……
เสียงฝีเท้าคนหลายคนเดินออกมา มีเงาของคนหลายคนก้าวเข้ามาในร้าน
คนพวกนี้สวมชุดแบบเดียวกัน แรงกดดันน่ากลัวมาก หัวหน้าของพวกเขามีใบหน้าน่าเกลียดและมองมาอย่างโหดร้าย
“โอ๊ะ ร้านเล็กๆ นี้เป็นร้านพิเศษ……..ใครเป็นเสี่ยวเอ้อออกมาหาข้า” ใบหน้าที่น่าเกลียดตะโกนออกมาอย่างโหดเหี้ยมและก้าวร้าว
แต่……ในร้านช่างเงียบสงบ ไม่มีใครออกมาสนใจชายคนนี้
เขารู้สึกว่ามีฝูงกาบินออกมาจากหัว เขารู้สึกอึดอัด
ทันใดนั้นชายคนนั้นก็กระตุกคิ้ว เขาดึงมีดออกมาฟาดลงบนพื้น เสียงเหล็กที่อยู่ในมือก็ฟาดดังออกมา ประกายไฟก็พุ่งออกมาทั่ว
“แม่เอ๊ย หูหนวกเหรอไง? รู้ไว้ซะพ่อเป็นโจรคนเจ็ดของสิบสามโจรเมืองโม่ก่อนที่จะทำให้ข้าเหลืออดแล้วร้านนี้จะหายไป พ่อจะทำให้ร้านนี้เหลือแต่ซาก” ชายคนนั้นตะโกนออกมาแล้วเชิดคอขึ้น
ลมพัดมาอย่างรุนแรงแต่ไม่มีใครตอบอะไร
มีเพียงหมาดำตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าประตูกางอุ้งเท้าออกมาเลีย มันเหลือบตามองครั้งหนึ่งแล้วกลับไปนอนต่อ…….
“ไร้สาระ ทำไมไม่มีใครสนใจข้า” ตอนนี้สายตาของหัวหน้าโจรคนที่เจ็ดเต็มไปด้วยความโกรธ เขาคว้าดาบ แล้วหยิบดาบขนาดใหญ่เข้าไปในร้าน
ด้านหลังเขามีกลุ่มนักเลงกลุ่มใหญ่พวกมันเป็นหมาล่าเนื้อกับนายคนที่เจ็ดของมัน นี่เป็นประสบการณ์ที่พวกมันได้รับตลอด
บู่ฟงกำลังกัดทาร์ตไข่ชิ้นเนียมนุ่ม เมื่อเขาลองชิม รสชาติของนมก็เต็มช่องปาก กลิ่นหอมของไข่กระจายออกมาทั่วในตอนที่เขาเคี้ยวกลิ่นหอมก็กระจายออกมา
“เถ้าแก่ร้านอยู่ไหน? แม่มันกล้าไม่สนใจพ่อด้วยเหรอ”
หัวหน้าโจรคนที่เจ็ดก้าวเข้าไปในร้านแล้วคำรามออกมา
ทุกคนที่เข้าไปในร้านก็แปลกใจ พวกเขากระพริบตาฉากที่อยู่ในร้านค่อนข้างอึดอัด
บู่ฟงกัดทาร์ตไข่อีกครั้ง เขากินมันแล้วพยักหน้า เขาบอกว่าคราวนี้เจี๋ยนเอ้อทำทาร์ตไข่ตามที่เขาต้องการได้ นางใช้เวลาศึกษาการทำหนึ่งเดือน นี่แสดงให้เห็นถึงความรักความเอาใจใส่ของเจี๋ยนเอ้อในการทำทาร์ตไข่
เขาหายใจเข้าไปเบาๆ ก่อนที่จะมองเจี๋ยนเอ๋อ แล้วพูดออกมาเบาๆว่า “รสชาติดี ถึงจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้ข้าพอใจ ข้าจะบอกวิธีการทำทาร์ตไข่ที่เจ้าสนใจให้”
“สวัสดี ………ไอ้หน้าขาวเจ้าไม่รู้เหรอว่าพ่อมาทำอะไรอยู่ที่นี่?” หัวหน้าโจรคนที่เจ็ดโบกมือแล้วลมแรงพัดไปทางบู่ฟง
สิบสามโจรเมืองโม่ มีระดับการฝึกฝนที่น่ากลัว แต่ละคนล้วนเป็นจักรพรรดินักรบขั้นที่เจ็ด พวกเขาผูกขาดและปกครองเมืองโม่อย่างกดขี่ข่มเหง สิบสามพี่น้องเข้ามาเมืองหลวงเพื่อต้องการต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา
หากมีต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา พวกเขาสิบสามพี่น้องก็ก้าวขึ้นสู่นักรบศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่เจ็ด เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสิบสามพี่น้องก็จะมีอำนาจสูงสุดในเมืองโม่ เมื่อตอนนั้นใครไม่เห็นด้วยพวกเขาจะทำลายล้างอาณาจักรสายลมแห่งแสง
บู่ฟงวางทาร์ตไข่บนมือลง สายตาของเขามองไปที่หัวหน้าโจรคนที่เจ็ดอย่างใจเย็น
“หากจะสั่งอาหารดูที่เมนูที่อยู่ข้างงหลัง” บู่ฟงพูดออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใดๆ หัวหน้าโจรคนที่เจ็ดตัวแข็งไปด้วยความตกตะลึงทันที ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเขามองบู่ฟงเหมือนกับว่ามองคนโง่
“เจ้าหนุ่มเจ้าล้อเล่น เจ้าไม่กลัวเหรอ? บิดาผู้นี้จะปรากฏตัวมากินอาหารเหรอ? ฮะฮะ พ่อมาเอาต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา เจ้าอย่ามาแกล้งโง่พูดกับบิดาคนนี้เลย” หัวหน้าโจรคนที่เจ็ดจ้องมองมาอย่างโหดร้ายเหมือนกับดวงตาของปีศาจ
หน้าตาของเขาน่าเกลียดน่ากลัว เจี๋ยนเอ้อที่อยู่ข้างหลังบู่ฟงหน้าก็ซีด
ลั่วสื่อเหนียงขดริมฝีปากแล้วปลอบเจี๋ยนเอ้อ นางสาปแช่งเจ้าบ้าหัวหน้าโจรคนที่เจ็ด……
ตอนนี้สีหน้าของบู่ฟงแปลกใจ เดือนนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนบางคนมายืนอยู่ตรงหน้าเขาบอกว่าจะมาเอาต้นไม้ห้าเส้นทางพุทธิปัญญา……….ดูเหมือนว่าเดือนที่เงียบสงบเริ่มจะมีพายุระเบิดออกมาแล้ว
แต่เมื่อ………บู่ฟงเหลือบไปมองหัวหน้าโจรคนที่เจ็ด เขาก็พบว่าเขาเป็นเพียงแค่จักรพรรดินักรบขั้นที่หก ไม่ใช่นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่มาตามหา
“ไม่สั่งอาหารก็ออกไป”
บู่ฟงขี้เกียจจะพูดอย่างอื่น เขาหันหลังไปเพื่อที่จะเข้าไปในห้องครัว
ไม่สั่งอาหารก็ออกไป? โอ? ไอ้หน้าขาวมันกล้าสร้างความวุ่นวายกับนายท่านเจ็ด วันก่อนเจ้าแก่หลิวเผชิญหน้ากันกับสิบสามพี่น้อง เขาถูกสิบสามพี่น้องรุมกันทำร้าย เจ้าหน้าขาวนี่……..มันกำลังแสวงหาความตายเหรอ?
ใบหน้านายท่านน่าเกลียดและทำท่าทางน่ากลัว เขาเอามือใหญ่จะจับไปที่บู่ฟง
สำหรับคนบ้าที่ดีแต่พูด หากไม่ได้ตีเขาคงไม่ได้ พลังงานที่แท้จริงแพร่กระจายออกมารอบตัวเขา
“ต่อหน้าข้ายังกล้าเย็นชากับนายท่านเจ็ด แสวงหาความตายจริงๆ”
ลั่วสื่อเหนียงเห็นนายท่านคนที่เจ็ดเริ่มลงมือ นางคิดจะโต้กลับแต่นางยังไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานที่แท้จริง ทันใดนั้นก็มีลมพัดมาอย่างรุนแรง
ปัง
กรงเล็บของนายท่านเจ็ด ถูกหุ่นยนต์ตัวใหญ่หยุดเอาไว้
บู่ฟงหยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับมามอง ก่อนจะพูดเบาๆว่า “เจ้าขาวโยนเขาออกไป”
เจ้าขาวท้องกลมป๋องที่พุ่งเข้ามาช่วย ตาหุ่นยนต์ของมันเป็นสีแดง น้ำเสียงจักรกลของมันก็พูดออกมาว่า ” เจ้าคนสร้างปัญหาเจ้าจะต้องถูกเปลื้องผ้าเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่น”
“นายท่านเจ็ดถูกผีหยุดเอาไว้? ไอ้เจ้ากลมๆนี่เป็นหุ่นเชิดเหรอ?”
“ข้าจะขุดย่าเจ้าขึ้นมา พ่อเจ้าต้องตาย”
ตาของนายเจ็ดเบิกกว้างออกมาอย่างดุร้าย ใบหน้าของเขาโกรธมาก ทันใดนั้นเขาชกไปที่หัว หมัดรุนแรงก็กระแทกโดนหัวของเจ้าขาว
ตึง เสียงต่อสู้กันดังออกมากลางร้านอย่างชัดเจน……….
ร่างของนายเจ็ดสั่นไหวทันที ผิวของเขาซีด ภายใต้ดวงตาและใบหน้าที่ก้าวร้าวนั้นน้ำแทบที่จะไหลออกมา (สำนวนจีนอยากร้องไห้) เขารู้สึกถึงอันตราย
เมื่อเห็นมีช่องว่างเขาก็หมุนตัวไปฟันก้อนเหล็กที่เป็นส่วนหัวทันที ใบมีดก็ยุบโหว่ออกมาเป็นช่องว่างทันที….
หัวของเจ้าขาวกลมน่ารักไม่ได้ถูกยุบหรือแตกสลายมันมีสภาพเหมือนเดิมเหมือนกับเป็นมาก่อน
“เจ้าคนก่อกวนจะต้องถูกเปลื้องผ้าเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆ ” หุ่นยนต์เจ้าขาวพูดออกมา ตาของมันแดงฉานมองไปที่หน้าของหัวหน้าโจรคนที่เจ็ด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด