I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด

Now you are reading I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class Chapter 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด

 

หลังจากสัญญาว่าจะกินข้าวกลางวันกันคนสามคนต่อหน้าทุกคนในชั้นเรียน เวลานั้นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ในช่วงเช้าของการเรียนการสอนภายในโรงเรียนจะมีทั้งหมด 4 คาบ โดยเริ่มจากคาบโฮมรูมในช่วงเช้า ปกติผมจะรู้สึกว่ามันนานมากกว่าจะถึงเวลาพักกลางวัน มีเพียงแค่วันนี้ที่ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปอย่างรวดเร็วและช่วงเวลาพักกลางวันก็มาถึงในชั่วพริบตา

 

เขาว่ากันว่ากระแสของเวลานั้นคงที่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมคิดว่าบางทีอาจจะมีใครสักคนที่กำลังใช้พลังข้ามกาลเวลาอยู่ก็เป็นได้?

 

“อืม~~ ในที่สุดช่วงเช้าก็จบสักที ฉันรู้สึกว่ามันนานกว่าปกตินะ…นี่ อุมิ เธอว่างั้นมั้ย?”

 

“ไม่เลย สำหรับฉันรู้สึกตรงกันข้ามเลยล่ะ…”

 

ดูเหมือนว่าทั้งผมและอาซานางิจะรู้สึกแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนอาซานางิจะกำลังคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

 

ในขณะที่นักเรียนของห้องอื่นทยอยออกจากห้องเรียนพร้อมกันในช่วงพักเที่ยง แต่ว่าห้องของผม นักเรียนคนอื่นๆยังคงอยู่ในห้องเพื่อสังเกตการณ์พวกเรา

 

“นี่มมันอะไรกัน…พวกเราก็แค่ไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นเองนะ…แล้วก็…นีน่าเก็บโทรศัพท์ของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

“อึ๊ก!…เฮะๆๆ”

 

ทันที่ที่อาซานางิเรียกนิตตะซังที่นั่งอยู่ด้านหลัง โทรศัพท์ก็ร่วงออกจากแขนเสื้อของเธอและตกลงไปที่พื้น

 

เป็นคนที่ตื่นตัวและไม่เปิดโอกาสเลยสักนิด

 

ก็อย่างที่อาซานางิพูด การไล่ตามเรามันสนุกตรงไหน? ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตขนาดนั้นสักหน่อย

 

“อะฮะฮะ…แบบนี้สงสัยเราจะนั่งกินในห้องเรียนไม่ได้แน่…ถึงข้างนอกอากาศจะเย็นนิดหน่อย แต่ฉันว่าวันนี้เราออกกินข้างนอกกันดีไหม?”

 

“ก็ดีนะ แค่เราหาที่นั่งที่แดดส่องถึง แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว…นี่ มาเอะฮาระคุง แบบนี้นายโอเคไหม?”

 

“อืม ตามนั้นเลย”

 

ดังนั้นเราทั้งสามคนจึงเดินออกจากห้องเรียนและทำการมองหาสถานที่ดีๆที่เหมาะกับการนั่งกินข้าวกลางวัน

 

“นี่อุมิ เราควรไปที่ไหนดีล่ะ? ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เพราะปกติฉันมักจะกินข้าวในห้องเรียนหรือไม่ก็ที่โรงอาหารน่ะ”

 

“อืม~ ถ้าคิดตามปกติก็คงต้องไปนั่งกินที่บริเวณสนามหญ้าของโรงเรียนล่ะนะ แต่ที่นั่นคนน่าจะเยอะ แต่ถ้าเราไม่สนใจเรื่องนั้นมันก็พอได้อยู่นะ…มาเอะฮาระ นายว่าไง?”

 

ถึงที่สนามหญ้าคนจะเยอะแต่ก็คงไม่เยอะจนเกินไป แต่ยังไงก็ตามม้านั่งคนน่าจะจองจนเต็มหมดแล้ว แต่ก็น่าจะยังพอมีที่ว่างๆเหลือให้เราพอจะนั่งได้

 

ดังนั้นถ้าพวกเธอบอกว่าไม่เป็นไร ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

‘นี่ ผู้หญิงสองคนนั้น ใช่ที่คนดังๆที่อยู่ปีหนึ่งหรือเปล่า?’

 

‘น่าจะใช่นะ น่ารักทั้งคู่เลย โดยเฉพาะเด็กผมบลอนด์คนนั้น’

 

‘แล้วไอคนมืดมนที่เดินตามหลังพวกเธออยู่นั่นใครน่ะ? ทำไมหมอนั้นถึงเดินตามพวกเธอ พวกโรคจิต?’

 

แค่เดินไปตามทางเดิน ก็มีเรื่องแบบนี้เข้ามาเรื่อยๆ

 

ถ้าพวกเธออยู่กันแค่สอง คนอื่นอาจจะพูดแค่『น่ารักจัง น่ารักมาก』แต่…เนื่องจากมีผมอยู่ด้วย มันจึงมีคำพูดแย่ๆมากมายที่ถูกโยนเข้าใส่ตัวผมแถมมาด้วย ดังนั้น…ทั้งอาซานางิและอามามิซังน่าจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

 

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าพวกเรากินข้าวกลางวันกันที่นี่…มันอาจจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่

 

“เอ่อ..คือว่า มันจะดีกว่าไหมถ้าพวกเราไป…”

 

“หืม?”

 

“ว่าไง?”

 

ผมเรียกพวกเธอที่กำลังคุยกันในขณะที่พวกเราเดินใกล้จะถึงบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน

 

ในช่วงนี้ผมมักจะกินข้าวกลางวันที่ห้องเรียนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงความสามารถพิเศษของผมเท่าไหร่ แต่ว่า…ตอนนี้น่าจะถึงเวลาที่ผมจะต้องแสดงพลังของมันออกมาแล้วสินะ…ความสามารถพิเศษในการค้นหาโอเอซิสภายในโรงเรียนยังไงล่ะ…

(TL:オアシス โอเอซิส)

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

“ว้าว~ จริงหรอเนี่ย แม้จะเป็นสถานที่แบบนี้ แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย”

 

“มีแดดส่อง ถึงจะไม่มีโต๊ะ แต่ก็ยังมีม้านั่ง…แน่นอนว่าตรงตามเงื่อนไข”

 

“ถูกต้อง…ถือว่าโชคดี ที่วันนี้ไม่มีคนอื่น”

 

ในบรรดาสถานที่แนะนำที่ผมเคยใช้ในอดีต ผมเลือก「พื้นที่สูบบุหรี่สำหรับอาจารย์และเจ้าหน้าที่」มาเป็นที่กินข้าวของพวกเรา ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของบริเวณโรงเรียน ถัดจากอาคารที่บรรดาเจ้าหน้าที่และอาจารย์ทั้งหลายทำงานอยู่

 

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับบรรดาอาจารย์ผู้ที่ชื่นชอบการสูบบุหรี่ในช่วงเวลาพักกลางวัน แต่เนื่องจากกระแสสังคมในปัจจุบันได้มีการออกกฏห้ามสูบบุหรี่ในทุกพื้นที่ของอาคาร สุดท้ายแล้วก็ส่งผลให้ที่แห่งนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า…มันถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล

 

ผมทำความสะอาดม้านั่งที่สกปรกและหยิบพวกก้นบุหรี่ออกไปเพื่อที่พวกเราจะสามารถนั่งได้…เมื่อเทียบกับที่บริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน ที่นี่อาจจะแคบกว่าและก็มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด แต่ก็ยังถือว่าพอใช้งานได้อยู่บ้างและอีกอย่างก็คือการที่ได้อยู่ห่างจากความวุ่นวายในช่วงเวลาพักกลางวัน

 

เป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับผมที่จะได้อยู่คนเดียว

 

“ขอโทษนะ ผมคิดออกแค่ที่นี่น่ะ…มันไม่ค่อยดีใช่ไหม?”

 

“ไม่ใช่อย่างนั้น! ที่นี่โอเคเลย ขอบคุณนะมากิคุง แล้วก็…อุมิ รีบขอบคุณด้วยสิ”

 

“ทำไมรู้สึกเหมือนถูกยูแย่งบทพูดกันนะ…เอาเถอะ ขอบคุณนะ มาเอะฮาระคุง”

 

ดูเหมือนทั้งสองคนจะชอบที่นี่นะ ผมนั่งลงข้างๆพวกเธอบนม้านั่ง ก่อนจะเปิดกล่องอาหารกลางวันออกทันที

 

“อ๊ะ ไข่เจียวของมากิคุงดูน่าอร่อยจัง ขอแลกกับไส้กรอกของฉันได้ไหม?”

 

“เอาสิ แต่ผมเป็นคนทำเองนะ ดังนั้นมันอาจไม่ค่อยถูกปากเธอเท่าไหร่”

 

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…ว่าแต่…มากิคุงทำข้าวกล่องมาเองหรอ?”

 

“ก็…บางครั้งน่ะ ช่วงตอนที่แม่ยุ่งๆ”

 

อามามิซังดูจะแปลกใจที่ผมสามารถทำข้าวกล่องได้…แต่ความจริงมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น…มีของเหลือบางส่วนจากอาหารเย็นของเมื่อวาน เพิ่มผักที่เตรียมเอาไว้อีกนิดหน่อย แล้วก็…ถ้าผมยอมตื่นเช้าขึ้นอีกนิดก็จะพอมีเวลาทำไข่เจียวด้วย

 

ผมอาศัยอยู่ตามลำพังกับแม่แค่สองคน บางครั้งแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา ดังนั้นผมจึงช่วยเธอทำงานบ้านบ้างในบางครั้ง

 

“ฉันควรทำยังไงดีอุมิ พวกเราเป็นผู้หญิงนะ แต่ความเป็นกุลสตรีของเราสู้มากิคุงไม่ได้…”

 

“อย่าถามฉัน…ฉันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ด้วยซ้ำ”

 

อาซานางิมองมาที่ผมครู่หนึ่ง เธอดูเหมือนมีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับผม แต่น่าเสียดายที่เรายังคุยกันตอนนี้ไม่ได้

 

“อุหว่า~ ไข่เจียวนี่อร่อยมาก…หวานและเค็มกำลังดีแถมเข้ากันได้ดีกับข้าวด้วย”

 

“เอาจริงๆนะ…มาเอะฮาระคุง ขอฉันลองด้วยได้ไหม?”

 

“ได้สิ”

 

ในขณะที่เธอเอาไข่เจียวเข้าปาก อาซานางิก็ทำตาโต

 

“…เป็นไง?”

 

“…ไม่ยุติธรรม”

 

จริงๆมันทำค่อนข้างง่ายนะ เพียงแค่ใส่น้ำตาลเล็กน้อย พร้อมกับเติมซอสขาวที่มีจำหน่ายทั่วไปแค่นั้นเอง…ผมรู้สึกดีใจที่พวกเธอทั้งคู่ชอบมัน

 

แต่ผมยังสงสัยว่า「ไม่ยุติธรรม」ที่อาซานางิพูดนั้นหมายถึงอะไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม…ผมจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกันนะ

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

ปล. โอเคครับ ยืนยันแล้วว่านางเอกของเรื่องนี้ก็คือ มากิคุงนั่นเอง~~~~

 

ปล2. เสาร์-อาทิตย์ผมออกต่างจังหวัด อาจจะไม่ได้ลง หรือลงวันละตอนนะครับ (อาทิตย์ที่แล้วก็พูดแบบนี้ สุดท้ายก็ลงวันละ 2 ตอนอยู่ดี)

 

ปล3. ในอีก 1-2 ตอน จะเป็นตอนที่ผมค่อนข้างชอบ (ความชอบส่วนบุคคล) รออ่านกันได้เลยครับ

 

สุดท้ายฝากเพจด้วยนะครับ ถึงจะทำไม่ค่อยเป็น และไม่รู้ว่าจะอัพอะไรก็ตาม (ฮา) 

Durimtok Channel | Facebook

ขอบคุณที่ติดตามครับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด

Now you are reading I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class Chapter 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 25: พรสวรรค์ที่ไม่คาดคิด

 

หลังจากสัญญาว่าจะกินข้าวกลางวันกันคนสามคนต่อหน้าทุกคนในชั้นเรียน เวลานั้นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ในช่วงเช้าของการเรียนการสอนภายในโรงเรียนจะมีทั้งหมด 4 คาบ โดยเริ่มจากคาบโฮมรูมในช่วงเช้า ปกติผมจะรู้สึกว่ามันนานมากกว่าจะถึงเวลาพักกลางวัน มีเพียงแค่วันนี้ที่ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปอย่างรวดเร็วและช่วงเวลาพักกลางวันก็มาถึงในชั่วพริบตา

 

เขาว่ากันว่ากระแสของเวลานั้นคงที่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมคิดว่าบางทีอาจจะมีใครสักคนที่กำลังใช้พลังข้ามกาลเวลาอยู่ก็เป็นได้?

 

“อืม~~ ในที่สุดช่วงเช้าก็จบสักที ฉันรู้สึกว่ามันนานกว่าปกตินะ…นี่ อุมิ เธอว่างั้นมั้ย?”

 

“ไม่เลย สำหรับฉันรู้สึกตรงกันข้ามเลยล่ะ…”

 

ดูเหมือนว่าทั้งผมและอาซานางิจะรู้สึกแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนอาซานางิจะกำลังคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

 

ในขณะที่นักเรียนของห้องอื่นทยอยออกจากห้องเรียนพร้อมกันในช่วงพักเที่ยง แต่ว่าห้องของผม นักเรียนคนอื่นๆยังคงอยู่ในห้องเพื่อสังเกตการณ์พวกเรา

 

“นี่มมันอะไรกัน…พวกเราก็แค่ไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นเองนะ…แล้วก็…นีน่าเก็บโทรศัพท์ของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

“อึ๊ก!…เฮะๆๆ”

 

ทันที่ที่อาซานางิเรียกนิตตะซังที่นั่งอยู่ด้านหลัง โทรศัพท์ก็ร่วงออกจากแขนเสื้อของเธอและตกลงไปที่พื้น

 

เป็นคนที่ตื่นตัวและไม่เปิดโอกาสเลยสักนิด

 

ก็อย่างที่อาซานางิพูด การไล่ตามเรามันสนุกตรงไหน? ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตขนาดนั้นสักหน่อย

 

“อะฮะฮะ…แบบนี้สงสัยเราจะนั่งกินในห้องเรียนไม่ได้แน่…ถึงข้างนอกอากาศจะเย็นนิดหน่อย แต่ฉันว่าวันนี้เราออกกินข้างนอกกันดีไหม?”

 

“ก็ดีนะ แค่เราหาที่นั่งที่แดดส่องถึง แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว…นี่ มาเอะฮาระคุง แบบนี้นายโอเคไหม?”

 

“อืม ตามนั้นเลย”

 

ดังนั้นเราทั้งสามคนจึงเดินออกจากห้องเรียนและทำการมองหาสถานที่ดีๆที่เหมาะกับการนั่งกินข้าวกลางวัน

 

“นี่อุมิ เราควรไปที่ไหนดีล่ะ? ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เพราะปกติฉันมักจะกินข้าวในห้องเรียนหรือไม่ก็ที่โรงอาหารน่ะ”

 

“อืม~ ถ้าคิดตามปกติก็คงต้องไปนั่งกินที่บริเวณสนามหญ้าของโรงเรียนล่ะนะ แต่ที่นั่นคนน่าจะเยอะ แต่ถ้าเราไม่สนใจเรื่องนั้นมันก็พอได้อยู่นะ…มาเอะฮาระ นายว่าไง?”

 

ถึงที่สนามหญ้าคนจะเยอะแต่ก็คงไม่เยอะจนเกินไป แต่ยังไงก็ตามม้านั่งคนน่าจะจองจนเต็มหมดแล้ว แต่ก็น่าจะยังพอมีที่ว่างๆเหลือให้เราพอจะนั่งได้

 

ดังนั้นถ้าพวกเธอบอกว่าไม่เป็นไร ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

‘นี่ ผู้หญิงสองคนนั้น ใช่ที่คนดังๆที่อยู่ปีหนึ่งหรือเปล่า?’

 

‘น่าจะใช่นะ น่ารักทั้งคู่เลย โดยเฉพาะเด็กผมบลอนด์คนนั้น’

 

‘แล้วไอคนมืดมนที่เดินตามหลังพวกเธออยู่นั่นใครน่ะ? ทำไมหมอนั้นถึงเดินตามพวกเธอ พวกโรคจิต?’

 

แค่เดินไปตามทางเดิน ก็มีเรื่องแบบนี้เข้ามาเรื่อยๆ

 

ถ้าพวกเธออยู่กันแค่สอง คนอื่นอาจจะพูดแค่『น่ารักจัง น่ารักมาก』แต่…เนื่องจากมีผมอยู่ด้วย มันจึงมีคำพูดแย่ๆมากมายที่ถูกโยนเข้าใส่ตัวผมแถมมาด้วย ดังนั้น…ทั้งอาซานางิและอามามิซังน่าจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

 

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าพวกเรากินข้าวกลางวันกันที่นี่…มันอาจจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่

 

“เอ่อ..คือว่า มันจะดีกว่าไหมถ้าพวกเราไป…”

 

“หืม?”

 

“ว่าไง?”

 

ผมเรียกพวกเธอที่กำลังคุยกันในขณะที่พวกเราเดินใกล้จะถึงบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน

 

ในช่วงนี้ผมมักจะกินข้าวกลางวันที่ห้องเรียนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงความสามารถพิเศษของผมเท่าไหร่ แต่ว่า…ตอนนี้น่าจะถึงเวลาที่ผมจะต้องแสดงพลังของมันออกมาแล้วสินะ…ความสามารถพิเศษในการค้นหาโอเอซิสภายในโรงเรียนยังไงล่ะ…

(TL:オアシス โอเอซิส)

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

“ว้าว~ จริงหรอเนี่ย แม้จะเป็นสถานที่แบบนี้ แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย”

 

“มีแดดส่อง ถึงจะไม่มีโต๊ะ แต่ก็ยังมีม้านั่ง…แน่นอนว่าตรงตามเงื่อนไข”

 

“ถูกต้อง…ถือว่าโชคดี ที่วันนี้ไม่มีคนอื่น”

 

ในบรรดาสถานที่แนะนำที่ผมเคยใช้ในอดีต ผมเลือก「พื้นที่สูบบุหรี่สำหรับอาจารย์และเจ้าหน้าที่」มาเป็นที่กินข้าวของพวกเรา ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของบริเวณโรงเรียน ถัดจากอาคารที่บรรดาเจ้าหน้าที่และอาจารย์ทั้งหลายทำงานอยู่

 

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับบรรดาอาจารย์ผู้ที่ชื่นชอบการสูบบุหรี่ในช่วงเวลาพักกลางวัน แต่เนื่องจากกระแสสังคมในปัจจุบันได้มีการออกกฏห้ามสูบบุหรี่ในทุกพื้นที่ของอาคาร สุดท้ายแล้วก็ส่งผลให้ที่แห่งนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า…มันถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล

 

ผมทำความสะอาดม้านั่งที่สกปรกและหยิบพวกก้นบุหรี่ออกไปเพื่อที่พวกเราจะสามารถนั่งได้…เมื่อเทียบกับที่บริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน ที่นี่อาจจะแคบกว่าและก็มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด แต่ก็ยังถือว่าพอใช้งานได้อยู่บ้างและอีกอย่างก็คือการที่ได้อยู่ห่างจากความวุ่นวายในช่วงเวลาพักกลางวัน

 

เป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับผมที่จะได้อยู่คนเดียว

 

“ขอโทษนะ ผมคิดออกแค่ที่นี่น่ะ…มันไม่ค่อยดีใช่ไหม?”

 

“ไม่ใช่อย่างนั้น! ที่นี่โอเคเลย ขอบคุณนะมากิคุง แล้วก็…อุมิ รีบขอบคุณด้วยสิ”

 

“ทำไมรู้สึกเหมือนถูกยูแย่งบทพูดกันนะ…เอาเถอะ ขอบคุณนะ มาเอะฮาระคุง”

 

ดูเหมือนทั้งสองคนจะชอบที่นี่นะ ผมนั่งลงข้างๆพวกเธอบนม้านั่ง ก่อนจะเปิดกล่องอาหารกลางวันออกทันที

 

“อ๊ะ ไข่เจียวของมากิคุงดูน่าอร่อยจัง ขอแลกกับไส้กรอกของฉันได้ไหม?”

 

“เอาสิ แต่ผมเป็นคนทำเองนะ ดังนั้นมันอาจไม่ค่อยถูกปากเธอเท่าไหร่”

 

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…ว่าแต่…มากิคุงทำข้าวกล่องมาเองหรอ?”

 

“ก็…บางครั้งน่ะ ช่วงตอนที่แม่ยุ่งๆ”

 

อามามิซังดูจะแปลกใจที่ผมสามารถทำข้าวกล่องได้…แต่ความจริงมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น…มีของเหลือบางส่วนจากอาหารเย็นของเมื่อวาน เพิ่มผักที่เตรียมเอาไว้อีกนิดหน่อย แล้วก็…ถ้าผมยอมตื่นเช้าขึ้นอีกนิดก็จะพอมีเวลาทำไข่เจียวด้วย

 

ผมอาศัยอยู่ตามลำพังกับแม่แค่สองคน บางครั้งแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา ดังนั้นผมจึงช่วยเธอทำงานบ้านบ้างในบางครั้ง

 

“ฉันควรทำยังไงดีอุมิ พวกเราเป็นผู้หญิงนะ แต่ความเป็นกุลสตรีของเราสู้มากิคุงไม่ได้…”

 

“อย่าถามฉัน…ฉันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ด้วยซ้ำ”

 

อาซานางิมองมาที่ผมครู่หนึ่ง เธอดูเหมือนมีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับผม แต่น่าเสียดายที่เรายังคุยกันตอนนี้ไม่ได้

 

“อุหว่า~ ไข่เจียวนี่อร่อยมาก…หวานและเค็มกำลังดีแถมเข้ากันได้ดีกับข้าวด้วย”

 

“เอาจริงๆนะ…มาเอะฮาระคุง ขอฉันลองด้วยได้ไหม?”

 

“ได้สิ”

 

ในขณะที่เธอเอาไข่เจียวเข้าปาก อาซานางิก็ทำตาโต

 

“…เป็นไง?”

 

“…ไม่ยุติธรรม”

 

จริงๆมันทำค่อนข้างง่ายนะ เพียงแค่ใส่น้ำตาลเล็กน้อย พร้อมกับเติมซอสขาวที่มีจำหน่ายทั่วไปแค่นั้นเอง…ผมรู้สึกดีใจที่พวกเธอทั้งคู่ชอบมัน

 

แต่ผมยังสงสัยว่า「ไม่ยุติธรรม」ที่อาซานางิพูดนั้นหมายถึงอะไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม…ผมจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกันนะ

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

ปล. โอเคครับ ยืนยันแล้วว่านางเอกของเรื่องนี้ก็คือ มากิคุงนั่นเอง~~~~

 

ปล2. เสาร์-อาทิตย์ผมออกต่างจังหวัด อาจจะไม่ได้ลง หรือลงวันละตอนนะครับ (อาทิตย์ที่แล้วก็พูดแบบนี้ สุดท้ายก็ลงวันละ 2 ตอนอยู่ดี)

 

ปล3. ในอีก 1-2 ตอน จะเป็นตอนที่ผมค่อนข้างชอบ (ความชอบส่วนบุคคล) รออ่านกันได้เลยครับ

 

สุดท้ายฝากเพจด้วยนะครับ ถึงจะทำไม่ค่อยเป็น และไม่รู้ว่าจะอัพอะไรก็ตาม (ฮา) 

Durimtok Channel | Facebook

ขอบคุณที่ติดตามครับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+