I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class 42 – ปกติที่ไม่ปกติ

Now you are reading I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class Chapter 42 - ปกติที่ไม่ปกติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 42 – ปกติที่ไม่ปกติ

 

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ ผมใช้เวลาในวันหยุดที่เหลือทำงานอยู่ที่บ้าน…และแล้วสัปดาห์ใหม่ก็มาถึง

 

ผมตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อที่จะไปโรงเรียนเร็วกว่าปกติ

 

ผมทำการปรับแต่งรูปภาพต้นแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่การถ่ายเอกสารภาพต้นแบบและส่งต่อให้กับทุกคนในชั้นเรียน แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็จะสามารถเริ่มลงมือสร้างชิ้นงานกันได้ในทันที

 

ผมยืมเครื่องถ่ายเอกสารของโรงเรียนและทำการถ่ายเอกสารให้พอกับจำนวนคนในห้อง ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียน

 

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ ผมคิดว่าบางทีอาซานางิอาจจะไม่มาโรงเรียนในวันนี้ แต่พอผมไปถึงห้องเรียน ผมก็สังเกตเห็นอาซานางิที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอเหมือนกับทุกวัน

 

…และแน่นอนว่าอามามิซังก็อยู่กับเธอด้วย

 

“โอ้ มากิคุง อรุณสวัสดิ์~”

 

“อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง…แล้วก็อาซานางิซังด้วยนะ”

 

“อือ ขอบคุณนะ”

 

ผมค่อนข้างรู้สึกประหม่าเพราะนี่เป็นการทักทายกันครั้งแรกหลังจากที่แยกกับอาซานางิตั้งแต่วันศุกร์…แต่อาซานางิก็ตอบรับคำทักทายของผมเหมือนกับปกติ

 

เธอทำตัวปกติราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

 

“เอานี้ ภาพต้นแบบที่ผมทำการแก้ไขเสร็จแล้ว…ผมใส่จำนวนกระป๋องเปล่าแต่ละสีที่ต้องใช้เอาไว้ด้วย พวกเธอลองเช็คดูหน่อยสิ…ถ้ามีตรงไหนผิดหรือสงสัยก็ถามมาได้เลยนะ”

 

“โอ้~ เยี่ยมไปเลย มันดูเหมือนรูปศิลปะของจริงเลยล่ะ…ฉันอยากเห็นแล้วสิว่าตอนที่ทำเสร็จมันจะหน้าตาออกมาเป็นยังไง? แล้วเธอคิดว่าไง อุมิ?”

 

“ก็เพราะรูปต้นฉบับมันสวยเกินไปน่ะสิ…ขนาดที่ว่า ถึงพวกเราไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรเลยก็ยังใช้ได้ล่ะนะ…อ๊ะ เดี๋ยวฉันเอาไปแจกทุกคนให้นะ”

 

“…งั้นก็รบกวนด้วยนะ”

 

“รับทราบ”

 

เธอยิ้มหลังจากพูดแบบนั้น…ผมค่อนข้างแปลกใจ ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ดูเหมือนอาซานางิในเวลาปกติ

 

รวมถึงวิธีการที่เธอพูดคุยตอบโต้กับอามามิซังเองก็เหมือนกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนด้วย

 

บางทีพวกเธออาจจะได้ทำการขอโทษและปรับความเข้าใจกันไปแล้วก็ได้ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา…ผมอยากจะถาม แต่ผมไม่สามารถถามต่อหน้าทุกคนในชั้นเรียนได้

 

ถามไปทางข้อความเหมือนทุกทีก็แล้วกัน…ในขณะที่ผมกำลังคิดแบบนั้น โทรศัพท์ของผมก็สั่น

 

น่าจะเป็นอาซานางิ…ในตอนที่ผมมองไปที่หน้าจอ รูปไอค่อนโปรไฟล์ที่ไม่คุ้นตาก็ปรากฏขึ้นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของผม

 

ชื่อของไอค่อนที่เป็นรูปกระต่ายน่ารักๆก็คือ「อามามิ」

 

ผมเกือบจะหลุดเสียงอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ แต่ก็สามารถยับยั้งมันได้ทัน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นและมองไปทางอามามิซังที่กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน

 

ใช่แล้ว คนที่ส่งข้อความมาหาผมก็คืออามามิซัง…ไม่ใช่อาซานางิ

 

ในขณะนี้อาซานางิกำลังเตรียมการสำหรับคาบโฮมรูมในช่วงเช้าอยู่ เธอไม่ได้แม้แต่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยซ้ำ

 

[ อามามิ ] : มากิคุง ขอโทษที่ส่งข้อความมากะทันหันนะ

[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซัง อย่ามองมาทางนี้ เดี๋ยวทุกคนจะจับได้

[ อามามิ ] : อ๊ะ ขอโทษ

[ อามามิ ] : โอเค คราวนี้น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : แล้วเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?

[ อามามิ ] : อะ-เอ่อคือ…เกี่ยวกับอุมิน่ะ มากิคุง หลังจากวันนั้น นายได้คุยกับอุมิบ้างหรือเปล่า?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย…แล้วอามามิซังล่ะ?

[ อามามิ ] : ฉันก็ไม่ได้คุยกับเธอเลย…ตอนวันหยุดที่ผ่านมา ฉันยังรู้สึกอึดอัดอยู่นิดหน่อย ก็เลยคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะคุยกับอุมิน่ะ

[ อามามิ ] : แต่ว่า…หลังจากวันนั้น อุมิก็โทรมาหาฉันแล้วบอกให้ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ

[ อามามิ ] : ฉันเลยคิดว่าบางทีมากิคุงได้คุยอะไรสักอย่างกับอุมิหรือเปล่านะ

[ มาเอะฮาระ ] : อาซานางิพูดว่ายังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนวันศุกร์งั้นเหรอ?

[ อามามิ ] : อืม ฉันขอโทษจริงๆเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอช่วยลืมมันไปทีนะ…บอกมาแบบนี้น่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : แบบนี้เองสินะ

 

พูดอีกอย่างก็คือ…อาซานางิกำลังพยายามที่จะซ่อนทุกอย่างไว้ที่ใต้พรม แล้วก็ทำเป็นเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น

 

คำพูด…เมื่อได้พูดออกไปแล้ว เราก็จะไม่สามารถเรียกมันคืนกลับมาได้อีกตลอดกาล

 

หากเราบอกให้ใครก็ตามสักคนหนึ่งให้ช่วยลืมสิ่งที่เราพูดไป…และถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะพยายามลืมมันไปตามที่เราบอกแล้วก็ตาม แต่ตราบใดที่คนๆนั้นยังมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องที่เราพูดอยู่ หากมีสิ่งใดไปกระตุ้นมันขึ้นมา…คนๆนั้นก็จะจำเรื่องที่เราเคยพูดไว้ได้อยู่ดี…ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็ตาม  

 

และนั่นก็คือทางที่อาซานางิเลือกที่จะใช้ในการแก้ปัญหา

 

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมต้องคุยกับอาซานางิ เพื่อโน้มน้าวให้เธอจัดการทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เพื่อที่พวกเธอจะสามารถก้าวเดินต่อไปได้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ตาม

 

อาซานางิ อุมิ…เพื่อนสนิทของผมที่อยู่ด้วยกันมาโดยตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา…เธอต้องมามีเรื่องวุ่นวายเพราะความเห็นแก่ตัวของผม…ผมไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรื่องมันดำเนินไปในแนวทางแบบนี้ได้โดยเด็ดขาด…

 

[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซัง ฝากเรื่องนี้ให้ผมเป็นคนจัดการได้หรือเปล่า?

[ อามามิ ] : อืม ถึงฉันจะเป็นคนไปคุยเอง…อุมิก็อาจจะไม่ยอมฟังก็ได้ ดังนั้นได้โปรดช่วยพูดกับเธอให้หน่อยนะ

[ มาเอะฮาระ ] : ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวตอนเลิกเรียนผมจะรายงานอีกทีนะ

 

ผมเลิกส่งข้อความกับอามามิซัง และส่งข้อความหาอาซานางิทันที

 

[ มาเอะฮาระ ] : นี่ อาซานางิ

[ มาเอะฮาระ ] : อาซานางิอยู่หรือเปล่า?

[ มาเอะฮาระ ] : ทำไมถึงทำเป็นเมินล่ะ

 

อาซานางิน่าจะรู้ตัวว่าผมส่งข้อความไป แต่ไม่ว่าผมจะรอนานขนาดไหน ผมก็ไม่ได้รับข้อความตอบกลับมาจากอาซานางิเลย

 

เมื่อมองผ่านๆ อาซานางิอาจจะดูเหมือนปกติ แต่สำหรับผมและอามามิซังแล้ว การที่เธอทำตัวปกติหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้นั่นแหละคือเรื่องที่แปลก

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

หลังจากนั้น โฮมรูมช่วงเช้าก็ผ่านไป และยิ่งในช่วงคาบวิชาแรกในช่วงเช้า ปฏิกิริยาของอาซานางิที่มีต่อผมก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

“อุมิ คาบต่อไป…”

 

“เคมีน่ะ แล้วพวกเราก็ต้องย้ายไปเรียนที่ห้องแล็บด้วย…เห็นว่าจะมีการทดลองน่ะ…เอาล่ะ รีบไปกันได้แล้ว”

 

“ค่~า อ๊ะ เข้าใจแล้วๆ หยุดตีได้แล้ว~”

 

เวลาที่อามามิซัง หรือนิตตะซัง คุยกับเธอ เธอยังคงตอบ หรือพูดคุยเรื่องไร้สาระกันและยังยิ้มให้กันได้เหมือนปกติ แต่กับผม…เธอกลับทำเป็นไม่สนใจแล้วแสร้งทำเป็นตั้งใจเรียน

 

ทั้งๆที่คู่ขัดแย้งคืออาซานางิกับอามามิซังแท้ๆ แต่บรรยากาศของพวกเธอทั้งสองคนกลับดูไม่อึดอัดเท่ากับบรรยากาศของผมกับอาซานางิ…ผมได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

 

หรือผมเผลอไปทำอะไรอาซานางิไว้หรือเปล่านะ?

 

[ อามามิ ] : มากิคุง นายโดนอุมิเมินงั้นเหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : …ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ

[ อามามิ ] : โอ้ว…

[ อามามิ ] : ฉันคุยกับเธอให้ดีไหม?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่เป็นไร ขอผมลองพยายามอีกหน่อยนะ

[ อามามิ ] : เอาแบบนั้นหรอ?…แต่ถ้าไม่ไหวก็บอกฉันได้นะ

[ มาเอะฮาระ ] : รับทราบครับ

 

ถ้าเธอไม่ยอมตอบข้อความ…งั้นก็ต้องหาจังหวะเข้าไปคุยตรงๆ

 

โชคดีที่ผมกับอาซานางิเป็นคณะกรรมการทั้งคู่ ดังนั้นถ้าผมทำเป็นเรียกอาซานางิเพื่อไปคุยเรื่องงาน คนอื่นๆในห้องก็น่าจะไม่ติดใจสงสัยอะไร

 

(ถึงจะไม่อยากทำแบบนี้…แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ)

 

ดังนั้น ผมจึงเดินไปหาอาซานางิที่กำลังยืนอยู่ตรงใจกลางกลุ่มของอามามิซัง

 

“เอ่อ…อาซานางิซัง ผมขอคุยเกี่ยวกับเรื่องงานวัฒนธรรมหน่อย…”

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ พอดีฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการที่ห้องพักครูนิดหน่อยน่ะ พวกเธอล่วงหน้าไปก่อนได้เลยนะ”

 

“อ๊ะ อาซานางิซัง รอเดี๋ยว…”

 

“มาเอะฮาระคุง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวัฒนธรรม เอาไว้คุยกันตอนทำงานช่วงหลังเลิกเรียนดีกว่านะ”

 

ทั้งๆทีผมต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามาคุยกับเธอใจกลางกลุ่มของอามามิซัง ที่มีนิตตะซัง กับ เซกิคุงอยู่ด้วย…แต่ทันทีที่ผมเปิดปาก อาซานางิก็หนีผมไป ก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปในทันที

 

“โอ้ว เหมือนนายจะโดนปฏิเสธแล้วล่ะ…กรรมการกิจกรรมคุง”

 

“ถ้านายตั้งเป้าว่าจะจีบอาซานางิล่ะก็…ผมแนะนำให้นายยอมแพ้ดีกว่านะ ถึงเธอจะดูเฟรนลี่แบบนั้น แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ตั้งการ์ดสูงมากเลยล่ะ”

 

นิตตะซังกับเซกิคุงตบไหล่ให้กำลังใจผม…เหมือนกำลังบอกว่าไม่เป็นไรนะ

 

และนี่คือเหตุผลที่ผมไม่อยากจะทำแบบนี้…ให้ตายสิ…ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยแฮะ

 

“โธ่…อุมินี่ละก็…ทั้งๆที่มากิคุงพยายามจะคุยด้วยขนาดนี้แล้วนะ”

 

“? ยูชิน เธอกำลังจะไปไหนน่ะ?”

 

“อืม ก็กำลังจะไปที่ห้องแล็บเคมีน่ะสิ…อุมินี่ไม่ไหวจริงๆ ดันหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ไปผิดแบบนี้ซะได้”

 

“……”

 

…ยัยบ้านั่น

 

กำลังพยายามทำให้ผมอารมณ์เสียอยู่สินะ…นอกจากจะพยายามหลบหน้าแล้วยังไม่ยอมคุยด้วยสินะ…แล้วก็ไม่ยอมที่จะบอกเหตุผลด้วยสินะ

 

“อา…ให้ตายสิ…ชอบสร้างความลำบากให้ซะจริงนะ….”

 

“? มากิคุง?”

 

“อามามิซัง หนังสือเรียนเล่มนั้น ขอผมเป็นคนเอาไปส่งให้เธอเองได้ไหม?”

 

ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจเกี่ยวกับการปกปิดความลับไร้สาระอะไรนั่นอีกแล้ว…ทุกอย่างเป็นความผิดของยัยอาซานางิจอมงี่เง่านั่นเพียงคนเดียว

 

เอาหนังสือเรียนนี่มาเป็นตัวประกันไว้ก่อนก็แล้วกัน….ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม…วันนี้ ผมต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องให้ได้…

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

ปล. แปลยากแปลกๆอีกแล้วครับทั่นผู้โชม โดยเฉพาะชื่อตอนที่มาเป็นแบบเก็ตสึโนวากันเลยทีเดียว(ฮา)

ปล2. ตอนนี้เช็คคำผิดแล้วครับ แต่ถ้ามีหลุดก็แจ้งไว้ในคอมเม้นได้นะครับ เดี๋ยวผมจะกลับมาแก้ให้

ปล3. กำลังแปลอีกตอน แต่ไม่ได้เน้นมากนะครับ ดูเมะไปแปลไป วันนี้อาจไม่เสร็จ ไม่ต้องรอกันนะครับ

 

ขอบคุณที่ติดตามครับ

Durimtok Channel

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class 42 – ปกติที่ไม่ปกติ

Now you are reading I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class Chapter 42 - ปกติที่ไม่ปกติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 42 – ปกติที่ไม่ปกติ

 

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ ผมใช้เวลาในวันหยุดที่เหลือทำงานอยู่ที่บ้าน…และแล้วสัปดาห์ใหม่ก็มาถึง

 

ผมตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อที่จะไปโรงเรียนเร็วกว่าปกติ

 

ผมทำการปรับแต่งรูปภาพต้นแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่การถ่ายเอกสารภาพต้นแบบและส่งต่อให้กับทุกคนในชั้นเรียน แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็จะสามารถเริ่มลงมือสร้างชิ้นงานกันได้ในทันที

 

ผมยืมเครื่องถ่ายเอกสารของโรงเรียนและทำการถ่ายเอกสารให้พอกับจำนวนคนในห้อง ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียน

 

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ ผมคิดว่าบางทีอาซานางิอาจจะไม่มาโรงเรียนในวันนี้ แต่พอผมไปถึงห้องเรียน ผมก็สังเกตเห็นอาซานางิที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอเหมือนกับทุกวัน

 

…และแน่นอนว่าอามามิซังก็อยู่กับเธอด้วย

 

“โอ้ มากิคุง อรุณสวัสดิ์~”

 

“อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง…แล้วก็อาซานางิซังด้วยนะ”

 

“อือ ขอบคุณนะ”

 

ผมค่อนข้างรู้สึกประหม่าเพราะนี่เป็นการทักทายกันครั้งแรกหลังจากที่แยกกับอาซานางิตั้งแต่วันศุกร์…แต่อาซานางิก็ตอบรับคำทักทายของผมเหมือนกับปกติ

 

เธอทำตัวปกติราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

 

“เอานี้ ภาพต้นแบบที่ผมทำการแก้ไขเสร็จแล้ว…ผมใส่จำนวนกระป๋องเปล่าแต่ละสีที่ต้องใช้เอาไว้ด้วย พวกเธอลองเช็คดูหน่อยสิ…ถ้ามีตรงไหนผิดหรือสงสัยก็ถามมาได้เลยนะ”

 

“โอ้~ เยี่ยมไปเลย มันดูเหมือนรูปศิลปะของจริงเลยล่ะ…ฉันอยากเห็นแล้วสิว่าตอนที่ทำเสร็จมันจะหน้าตาออกมาเป็นยังไง? แล้วเธอคิดว่าไง อุมิ?”

 

“ก็เพราะรูปต้นฉบับมันสวยเกินไปน่ะสิ…ขนาดที่ว่า ถึงพวกเราไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรเลยก็ยังใช้ได้ล่ะนะ…อ๊ะ เดี๋ยวฉันเอาไปแจกทุกคนให้นะ”

 

“…งั้นก็รบกวนด้วยนะ”

 

“รับทราบ”

 

เธอยิ้มหลังจากพูดแบบนั้น…ผมค่อนข้างแปลกใจ ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ดูเหมือนอาซานางิในเวลาปกติ

 

รวมถึงวิธีการที่เธอพูดคุยตอบโต้กับอามามิซังเองก็เหมือนกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนด้วย

 

บางทีพวกเธออาจจะได้ทำการขอโทษและปรับความเข้าใจกันไปแล้วก็ได้ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา…ผมอยากจะถาม แต่ผมไม่สามารถถามต่อหน้าทุกคนในชั้นเรียนได้

 

ถามไปทางข้อความเหมือนทุกทีก็แล้วกัน…ในขณะที่ผมกำลังคิดแบบนั้น โทรศัพท์ของผมก็สั่น

 

น่าจะเป็นอาซานางิ…ในตอนที่ผมมองไปที่หน้าจอ รูปไอค่อนโปรไฟล์ที่ไม่คุ้นตาก็ปรากฏขึ้นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของผม

 

ชื่อของไอค่อนที่เป็นรูปกระต่ายน่ารักๆก็คือ「อามามิ」

 

ผมเกือบจะหลุดเสียงอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ แต่ก็สามารถยับยั้งมันได้ทัน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นและมองไปทางอามามิซังที่กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน

 

ใช่แล้ว คนที่ส่งข้อความมาหาผมก็คืออามามิซัง…ไม่ใช่อาซานางิ

 

ในขณะนี้อาซานางิกำลังเตรียมการสำหรับคาบโฮมรูมในช่วงเช้าอยู่ เธอไม่ได้แม้แต่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยซ้ำ

 

[ อามามิ ] : มากิคุง ขอโทษที่ส่งข้อความมากะทันหันนะ

[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซัง อย่ามองมาทางนี้ เดี๋ยวทุกคนจะจับได้

[ อามามิ ] : อ๊ะ ขอโทษ

[ อามามิ ] : โอเค คราวนี้น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : แล้วเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?

[ อามามิ ] : อะ-เอ่อคือ…เกี่ยวกับอุมิน่ะ มากิคุง หลังจากวันนั้น นายได้คุยกับอุมิบ้างหรือเปล่า?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย…แล้วอามามิซังล่ะ?

[ อามามิ ] : ฉันก็ไม่ได้คุยกับเธอเลย…ตอนวันหยุดที่ผ่านมา ฉันยังรู้สึกอึดอัดอยู่นิดหน่อย ก็เลยคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะคุยกับอุมิน่ะ

[ อามามิ ] : แต่ว่า…หลังจากวันนั้น อุมิก็โทรมาหาฉันแล้วบอกให้ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ

[ อามามิ ] : ฉันเลยคิดว่าบางทีมากิคุงได้คุยอะไรสักอย่างกับอุมิหรือเปล่านะ

[ มาเอะฮาระ ] : อาซานางิพูดว่ายังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนวันศุกร์งั้นเหรอ?

[ อามามิ ] : อืม ฉันขอโทษจริงๆเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอช่วยลืมมันไปทีนะ…บอกมาแบบนี้น่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : แบบนี้เองสินะ

 

พูดอีกอย่างก็คือ…อาซานางิกำลังพยายามที่จะซ่อนทุกอย่างไว้ที่ใต้พรม แล้วก็ทำเป็นเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น

 

คำพูด…เมื่อได้พูดออกไปแล้ว เราก็จะไม่สามารถเรียกมันคืนกลับมาได้อีกตลอดกาล

 

หากเราบอกให้ใครก็ตามสักคนหนึ่งให้ช่วยลืมสิ่งที่เราพูดไป…และถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะพยายามลืมมันไปตามที่เราบอกแล้วก็ตาม แต่ตราบใดที่คนๆนั้นยังมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องที่เราพูดอยู่ หากมีสิ่งใดไปกระตุ้นมันขึ้นมา…คนๆนั้นก็จะจำเรื่องที่เราเคยพูดไว้ได้อยู่ดี…ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็ตาม  

 

และนั่นก็คือทางที่อาซานางิเลือกที่จะใช้ในการแก้ปัญหา

 

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมต้องคุยกับอาซานางิ เพื่อโน้มน้าวให้เธอจัดการทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เพื่อที่พวกเธอจะสามารถก้าวเดินต่อไปได้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ตาม

 

อาซานางิ อุมิ…เพื่อนสนิทของผมที่อยู่ด้วยกันมาโดยตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา…เธอต้องมามีเรื่องวุ่นวายเพราะความเห็นแก่ตัวของผม…ผมไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรื่องมันดำเนินไปในแนวทางแบบนี้ได้โดยเด็ดขาด…

 

[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซัง ฝากเรื่องนี้ให้ผมเป็นคนจัดการได้หรือเปล่า?

[ อามามิ ] : อืม ถึงฉันจะเป็นคนไปคุยเอง…อุมิก็อาจจะไม่ยอมฟังก็ได้ ดังนั้นได้โปรดช่วยพูดกับเธอให้หน่อยนะ

[ มาเอะฮาระ ] : ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวตอนเลิกเรียนผมจะรายงานอีกทีนะ

 

ผมเลิกส่งข้อความกับอามามิซัง และส่งข้อความหาอาซานางิทันที

 

[ มาเอะฮาระ ] : นี่ อาซานางิ

[ มาเอะฮาระ ] : อาซานางิอยู่หรือเปล่า?

[ มาเอะฮาระ ] : ทำไมถึงทำเป็นเมินล่ะ

 

อาซานางิน่าจะรู้ตัวว่าผมส่งข้อความไป แต่ไม่ว่าผมจะรอนานขนาดไหน ผมก็ไม่ได้รับข้อความตอบกลับมาจากอาซานางิเลย

 

เมื่อมองผ่านๆ อาซานางิอาจจะดูเหมือนปกติ แต่สำหรับผมและอามามิซังแล้ว การที่เธอทำตัวปกติหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้นั่นแหละคือเรื่องที่แปลก

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

หลังจากนั้น โฮมรูมช่วงเช้าก็ผ่านไป และยิ่งในช่วงคาบวิชาแรกในช่วงเช้า ปฏิกิริยาของอาซานางิที่มีต่อผมก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

“อุมิ คาบต่อไป…”

 

“เคมีน่ะ แล้วพวกเราก็ต้องย้ายไปเรียนที่ห้องแล็บด้วย…เห็นว่าจะมีการทดลองน่ะ…เอาล่ะ รีบไปกันได้แล้ว”

 

“ค่~า อ๊ะ เข้าใจแล้วๆ หยุดตีได้แล้ว~”

 

เวลาที่อามามิซัง หรือนิตตะซัง คุยกับเธอ เธอยังคงตอบ หรือพูดคุยเรื่องไร้สาระกันและยังยิ้มให้กันได้เหมือนปกติ แต่กับผม…เธอกลับทำเป็นไม่สนใจแล้วแสร้งทำเป็นตั้งใจเรียน

 

ทั้งๆที่คู่ขัดแย้งคืออาซานางิกับอามามิซังแท้ๆ แต่บรรยากาศของพวกเธอทั้งสองคนกลับดูไม่อึดอัดเท่ากับบรรยากาศของผมกับอาซานางิ…ผมได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

 

หรือผมเผลอไปทำอะไรอาซานางิไว้หรือเปล่านะ?

 

[ อามามิ ] : มากิคุง นายโดนอุมิเมินงั้นเหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : …ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ

[ อามามิ ] : โอ้ว…

[ อามามิ ] : ฉันคุยกับเธอให้ดีไหม?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่เป็นไร ขอผมลองพยายามอีกหน่อยนะ

[ อามามิ ] : เอาแบบนั้นหรอ?…แต่ถ้าไม่ไหวก็บอกฉันได้นะ

[ มาเอะฮาระ ] : รับทราบครับ

 

ถ้าเธอไม่ยอมตอบข้อความ…งั้นก็ต้องหาจังหวะเข้าไปคุยตรงๆ

 

โชคดีที่ผมกับอาซานางิเป็นคณะกรรมการทั้งคู่ ดังนั้นถ้าผมทำเป็นเรียกอาซานางิเพื่อไปคุยเรื่องงาน คนอื่นๆในห้องก็น่าจะไม่ติดใจสงสัยอะไร

 

(ถึงจะไม่อยากทำแบบนี้…แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ)

 

ดังนั้น ผมจึงเดินไปหาอาซานางิที่กำลังยืนอยู่ตรงใจกลางกลุ่มของอามามิซัง

 

“เอ่อ…อาซานางิซัง ผมขอคุยเกี่ยวกับเรื่องงานวัฒนธรรมหน่อย…”

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ พอดีฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการที่ห้องพักครูนิดหน่อยน่ะ พวกเธอล่วงหน้าไปก่อนได้เลยนะ”

 

“อ๊ะ อาซานางิซัง รอเดี๋ยว…”

 

“มาเอะฮาระคุง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวัฒนธรรม เอาไว้คุยกันตอนทำงานช่วงหลังเลิกเรียนดีกว่านะ”

 

ทั้งๆทีผมต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามาคุยกับเธอใจกลางกลุ่มของอามามิซัง ที่มีนิตตะซัง กับ เซกิคุงอยู่ด้วย…แต่ทันทีที่ผมเปิดปาก อาซานางิก็หนีผมไป ก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปในทันที

 

“โอ้ว เหมือนนายจะโดนปฏิเสธแล้วล่ะ…กรรมการกิจกรรมคุง”

 

“ถ้านายตั้งเป้าว่าจะจีบอาซานางิล่ะก็…ผมแนะนำให้นายยอมแพ้ดีกว่านะ ถึงเธอจะดูเฟรนลี่แบบนั้น แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ตั้งการ์ดสูงมากเลยล่ะ”

 

นิตตะซังกับเซกิคุงตบไหล่ให้กำลังใจผม…เหมือนกำลังบอกว่าไม่เป็นไรนะ

 

และนี่คือเหตุผลที่ผมไม่อยากจะทำแบบนี้…ให้ตายสิ…ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยแฮะ

 

“โธ่…อุมินี่ละก็…ทั้งๆที่มากิคุงพยายามจะคุยด้วยขนาดนี้แล้วนะ”

 

“? ยูชิน เธอกำลังจะไปไหนน่ะ?”

 

“อืม ก็กำลังจะไปที่ห้องแล็บเคมีน่ะสิ…อุมินี่ไม่ไหวจริงๆ ดันหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ไปผิดแบบนี้ซะได้”

 

“……”

 

…ยัยบ้านั่น

 

กำลังพยายามทำให้ผมอารมณ์เสียอยู่สินะ…นอกจากจะพยายามหลบหน้าแล้วยังไม่ยอมคุยด้วยสินะ…แล้วก็ไม่ยอมที่จะบอกเหตุผลด้วยสินะ

 

“อา…ให้ตายสิ…ชอบสร้างความลำบากให้ซะจริงนะ….”

 

“? มากิคุง?”

 

“อามามิซัง หนังสือเรียนเล่มนั้น ขอผมเป็นคนเอาไปส่งให้เธอเองได้ไหม?”

 

ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจเกี่ยวกับการปกปิดความลับไร้สาระอะไรนั่นอีกแล้ว…ทุกอย่างเป็นความผิดของยัยอาซานางิจอมงี่เง่านั่นเพียงคนเดียว

 

เอาหนังสือเรียนนี่มาเป็นตัวประกันไว้ก่อนก็แล้วกัน….ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม…วันนี้ ผมต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องให้ได้…

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

ปล. แปลยากแปลกๆอีกแล้วครับทั่นผู้โชม โดยเฉพาะชื่อตอนที่มาเป็นแบบเก็ตสึโนวากันเลยทีเดียว(ฮา)

ปล2. ตอนนี้เช็คคำผิดแล้วครับ แต่ถ้ามีหลุดก็แจ้งไว้ในคอมเม้นได้นะครับ เดี๋ยวผมจะกลับมาแก้ให้

ปล3. กำลังแปลอีกตอน แต่ไม่ได้เน้นมากนะครับ ดูเมะไปแปลไป วันนี้อาจไม่เสร็จ ไม่ต้องรอกันนะครับ

 

ขอบคุณที่ติดตามครับ

Durimtok Channel

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+