King of Sport 113 รอบชิงชนะเลิศการยิงธนูประเภทบุคคลชาย

 

113 รอบชิงชนะเลิศการยิงธนูประเภทบุคคลชาย

 

ทาเคอุชิต่อสู้เหมือนหุ่นยนต์ เขาผลักดังเอี้ยนกลับไปโดยใช้หมัดดันไปข้างหน้า เขาออกหมัดอย่างสะเปะสะปะ ไม่มีความเฉียบคม

 

ทันใดนั้นถังเอี่ยนกระทั่งช้ายอย่างรวดเร็ว

 

ทาเคอุชิร่างกายสายไปมา เสี้ยววินาทีหลังจากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก

 

เสียงเชียร์ดังขึ้นอีกครั้งในสนาม

 

ฉินไห่หลงโบกมือด้วยความตื่นเต้น แม้ว่าเขาจะคาดหวังมานานแล้ว แต่ตอนนี้ถึงเอียนได้รับชัยชนะจริงๆเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีอัจฉริยะที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้

 

เสียงเชียร์ของผู้ชมยังคงดําเนินต่อไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ผู้ตัดสินชูมือของถังเอี้ยนเพื่อระบุว่าเขาเป็นผู้ชนะในรอบชิงชนะเลิศรุ่น 49 กก.ชาย

 

ถังเอี๋ยนคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 2 (มวยสากลเท่านั้น) ให้กับทีมมวยจีน

 

เสียงเชียร์ของผู้ชมยังคงดําเนินต่อไป

 

…..

 

เมื่อเขาก็กลับไปที่ห้องพักในโรงแรมหลังจากการเฉลิมฉลอง เขาก็เข้าสู่พื้นที่ของระบบและได้รับคะแนนเกียรติยศสองคะแนนจากเหรียญทองในครั้งนี้

 

เขายังมีอีกหนึ่งเหรียญทองที่เหลือให้คว้าจากเอเชียนเกมส์ครั้งนี้

 

การแข่งขันยิงธนูประเภทบุคคลชายรอบชิงชนะเลิศ

 

คู่ต่อสู้ของเขาคืออิมดงฮยอนอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้จากทีมเกาหลีใต้

 

หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวานซอยอนก็ไม่มารบกวนเขาอีก

 

คืนก่อนเกมถังเอี่ยนนอนอยู่บนเตียงคิดถึงอนาคตหลังจบเอเชียนเกมส์

 

ความนิยมของการชกมวยในประเทศจีนไม่ได้สูงมากนัก และยังมีข้อจํากัดสําหรับมวยสากลสมัครเล่นอีกด้วย

 

มีเพียงมวยสากลอาชีพเท่านั้นที่จะสามารถเป็นเครื่องทําเงินให้กับเขาได้

 

ถังเอี๋ยนเลือกที่จะเริ่มต้นอาชีพชกมวยจากทีมชาติเพราะถนนสายนี้เป็นเส้นทางที่ราบรื่นที่สุดสําหรับนักชกจีนที่จะก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพ ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือโจวซื่อหมิง

 

เขาจําเป็นต้องสร้างชื่อให้กับตัวเองรวมทั้งความสําเร็จอีกด้วย ดังนั้นอาชีพของเขาก็คือการเดินเรือที่ราบรื่น

 

ตอนนี้เขาได้รับรางวัลเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ เขาจะได้รับความนิยมในเอเชีย แต่ในระดับนานาชาติเขายังคงเป็นนักมวยที่ไร้ชื่อ

 

อีกสองปีจะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอนซึ่งจะทําให้เขาเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก

 

เขาต้องการแผนแผนการต่อสู้อย่างมืออาชีพ

 

เมื่อเทียบกับมวยสากลสมัครเล่นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดกับการชกมวยอาชีพคือจํานวนยกและการไม่สวมอุปกรณ์ป้อง

 

จากสี่ยกเปลี่ยนเป็นสูงถึง 12 ยก

 

เขากําลังมองหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายและความอดทนของเขา

 

ในบรรดาตัวละครที่เขาปลดล็อคได้ใต้จงเป็นตัวเลือกที่ดีที่

 

ไต้จงเป็นผู้บ่มเพาะวิถีเชียนของลัทธิเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถเดินทางด้วยความเร็วในระยะทางไกลได้โดยใส่เครื่องรางไว้ที่ขาเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความอดทนของเขาอาจไม่มีใครเทียบได้

 

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เขามองไปที่คะแนนเกียรติยศของเขา 7 คะแนน

 

จํานวนคะแนนที่จําเป็นในการปลดล็อกได้จงคือ 2 คะแนน

 

แต่ในขณะที่เขาเอื้อมมือไปปลดล็อกจิตใจของเขาก็สั่นไหวอีกครั้ง

 

เมื่อปลดได้จงแล้วเขาสามารถวิ่งระยะไกลได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ต้องเจอปัญหาเดิมอีกครั้ง การวิ่งระยะไกลไม่ใช่กีฬาที่สามารถทําเงินได้มากนัก

 

เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็ย้ายสายตาจากตัวละครของไต้จง

 

จางซุน!

 

จางซุนมีฉายาว่า “ประกายขาวในเกลียวคลื่น เนื่องจากทักษะการว่ายน้ำและการดําน้ำที่ทรงพลัง เขาว่ายน้ําได้ 7 วัน 7 คืน ความอดทนของเขามีอย่างเหลือล้น

 

นอกจากนี้การว่ายน้ํายังเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอลิมปิกโดยนักว่ายน้ำที่โด่งดังมักจะได้รับข้อเสนอข้อเสนอให้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ามากมาย สามารถทํา เงินได้อย่างมหาศาล

 

ปี 2011 เป็นปีที่มีความหมายมากสําหรับวงการว่ายน้ำของจีน

 

เนื่องจากในปีนี้มีอัจฉริยะนามว่าซุนหยางถือกําเนิดขึ้น หลังจากสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลก 2011 ที่เขาคว้าเหรียญทองในรายการว่ายฟรีสไตล์ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,500 เมตร โดยไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ได้

 

ถังเอี๋ยนจําได้ว่าเขาอ่านนิตยสาร Forbes China Celebrity List ปี 2017 รายได้ต่อปีของซุนหยางอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านหยวน (9 ล้านเหรียญสหรัฐ)

 

สิ่งนี้ทําให้หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น

 

” ปลดล็อกจางซุน”

 

ช่วงเวลาที่เขาปลดล็อกตัวละครใหม่ คะแนนเกียรติยศสามคะแนนหายไป มีคะแนนเกียรติยศเหลือเพียงสี่คะแนนเท่านั้น

 

แต่หลังจากปลดล็อคเขาเขาก็รู้สึกว่าเซลล์ในร่างกายของเขากําลังเปลี่ยนแปลงแปลกๆ

 

แม้ว่าจะยังคงยืนอยู่ในพื้นที่ของระบบ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศ

 

เขารู้ว่านี่เป็นเพียงการหลอนไปเองเท่านั้น แต่เขาก็รู้สึกอยากว่ายน้ำให้สดชื่นจริงๆ!

 

“เมื่อฉันเป็นซุปเปอร์สตาร์ตัวจริงเธอจะรู้สึกอย่างไรกันนะ ฮ่าๆๆ” ถังเอี๋ยนอดคิดถึงใบหน้าชวนหงุดหงิดของใครบางคนไม่ได้