Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี 48 เจ้าจะเป็นสายลับให้ข้าหรือ

Now you are reading Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี Chapter 48 เจ้าจะเป็นสายลับให้ข้าหรือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ใครจะคิดว่าดัชเชสจะมาขอร้องนางเช่นนี้ แต่นี่แหละมนุษย์ เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาที่อ่อนไหวที่สุด มนุษย์จะหวั่นไหวกับปัญหานั้นยิ่งกว่าใคร

เมื่ออยู่ต่อหน้าปัญหานั้น มนุษย์จะเข้าตาจน และอาจต้องขอความช่วยเหลือจากคนที่เคยมองว่าเป็นศัตรู

“โธ่ ดัชเชส ไม่จำเป็นต้องตอบแทนหรอกค่ะ ท่านก็รู้ว่าบ้านข้ามิได้ขัดสนอันใด” เปโตรนิยาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แต่จะให้ไหว้วานเฉยๆ …ข้าก็ละอายใจเป็นนะคะ”

“ถ้าดัชเชสพูดถึงขนาดนั้น เช่นนั้นในภายภาคหน้าท่านช่วยรับฟังคำขอร้องจากข้าสักข้อได้ไหมคะ ข้าขอเพียงเท่านั้น”

“แต่ว่า…แค่นั้นจะพอหรือคะ”

“พออยู่แล้วค่ะ ดัชเชส”

เปโตรนิยายิ้มอย่างอ่อนหวาน กุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น แต่ถึงกระนั้นนางก็แสดงความกังวลออกมาผ่านทางน้ำเสียง

“ทว่า ตัวข้าไร้ประสบการณ์ทั้งยังขาดความชำนาญ…เกรงว่าข้าจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับดัชเชสน่ะสิคะ”

“อย่างน้อยเลดี้ก็น่าจะทำได้ดีกว่าแม่นั่นล่ะค่ะ เพราะนางก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานพวกนี้เลยเช่นกัน เพราะฉะนั้นสู้ฝากฝังไว้กับเลดี้ซึ่งได้รับการอบรมจากตระกูลที่มีชื่อเสียงน่าจะทำให้ข้าเบาใจได้มากกว่า”

ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นถึงพี่สาวของจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน นั่นหมายความว่าต่อให้นางก่อปัญหาอะไรก็ยังมีโอกาสได้รับเงินชดเชย แน่นอนว่าเมื่อคำนึงถึงตำแหน่งของน้องสาวของนางแล้ว นางคงไม่ทำอะไรผิดพลาด ดัชเชสเอเฟรนีเองก็ไม่ใช่คนที่จะพูดจาส่งเดชโดยไม่คิดถึงผลได้ผลเสีย

“ต้องเป็นประสบการณ์ที่ดีแน่ๆ ค่ะ ดัชเชส แม้จะยังไร้ความสามารถแต่ข้าจะพยายามทำอย่างเต็มที่ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ เลดี้ คงไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ แต่อาจจะรำคาญใจกับ…เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ดัชเชส ขอเพียงมิใช่เรื่องใหญ่ ข้าก็น่าจะทำได้ค่ะ”

พูดจบ เปโตรนิยาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นั่ง สำหรับวันนี้ต่อให้อยู่ที่นี่นานกว่านี้ก็คงไม่ได้อะไร เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัว ดัชเชสเอเฟรนีก็ถามราวกับเสียดาย

“ตายจริง จะกลับแล้วหรือคะ อยู่ต่ออีกหน่อยสิคะ เลดี้”

“เห็นจะไม่ได้ค่ะ ดัชเชส ฝ่าบาทคงกำลังรอข้าอยู่ ข้าไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะออกมานานขนาดนี้ ฝ่าบาทอาจเป็นกังวลได้ อีกทั้งข้าต้องแวะไปที่บ้านสักครู่…”

“โธ่ เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้นะคะ”

ช่วงแรกเปโตรนิยาอาจรู้สึกอึดอัดและไม่สะดวกใจ แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นไม่มีความหมายอะไรแล้ว เพราะตอนนี้นางคือผู้รับหน้าที่ดูแลงานต่างๆ ในคฤหาสน์ดยุกเอเฟรนี แม้จะแค่ชั่วคราวก็ตาม และนั่นย่อมหมายความว่าดัชเชสเอเฟรนีมีไมตรีจิตต่อเปโตรนิยา ความจริงข้อนี้ทำให้เปโตรนิยาแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ตายจริง นางไม่รู้มาก่อนเลยว่าสามีภรรยาเอเฟรนีจะมีเจตนารมณ์ที่ต่างกันเช่นนี้

“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะคะ ดัชเชส ท่านเองก็พักผ่อนเถอะค่ะ ไหนจะต้องเตรียมตัวออกเดินทางอีก…”

“ละเอียดลออจริงๆ เลยค่ะ เลดี้ ขอบคุณนะคะ”

“ขอบคุณอะไรกันคะ ข้าแค่หวังให้ท่านเดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพเท่านั้นเองค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ…”

เปโตรนิยาบอกลาและเดินออกจากประตูไป ดัชเชสเอเฟรนียืนส่งเปโตรนิยาจนลับตา เปโตรนิยาเผยรอยยิ้มที่เก็บซ่อนไว้ออกมาทันทีที่นางเดินห่างออกมาพอสมควรและหันไปอีกทางแล้ว ตัวนางเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่ได้มาอย่างเหนือความคาดหมายนี้จะนำผลลัพธ์ใดมาให้

“ข้ากลับมาแล้ว ริซซี่”

“ท่านพี่”

แพทริเซียซึ่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะต้อนรับเปโตรนิยาด้วยความยินดี เปโตรนิยาเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติและเอ่ยปากเล่า

“มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะเลยล่ะ ริซซี่”

“รีบเล่ามาเลย ข้าสงสัยจะแย่แล้ว”

“ข่าวนี้ต้องสนองความสงสัยนั้นได้แน่นอน”

เปโตรนิยาหัวเราะคิกคักพร้อมกับนั่งลง แพทริเซียตั้งตารอให้พี่สาวของตนเปิดปากเล่า

“ระหว่างที่ดัชเชสเอเฟรนีไม่อยู่ ข้าจะเป็นผู้ดูแลคฤหาสน์ดยุกเอเฟรนี” เปโตรนิยาเริ่มเล่าจากบทสรุปก่อน

“…หา?”

แพทริเซียถามอย่างงุนงง นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะนี่ เปโตรนิยาจึงค่อยๆ อธิบายให้น้องสาวที่มีสีหน้าไม่เข้าใจฟัง

“ข้ารู้ ริซซี่ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ ตอนที่ข้าได้ฟังข้อเสนอนี้ข้าก็ตกใจเหมือนกัน”

“ได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ”

“ฟังนะ ดยุกเอเฟรนีมีอนุภรรยา อนุภรรยาคนนั้นมีลูกชายหนึ่งคน และดัชเชสก็เกลียดแม่ลูกคู่นั้นมาก”

เปโตรนิยาพึมพำว่า ‘มันก็แน่อยู่แล้วล่ะนะ’ ก่อนจะเล่าต่ออย่างใจเย็น “ดัชเชสเอเฟรนีกลัวว่าอนุภรรยาคนนั้นจะมาเลื่อยขาเก้าอี้ภรรยาหลวงของนางตอนที่นางไม่อยู่ แน่นอนว่าตำแหน่งดัชเชสนั้นสูงเกินกว่าที่อนุภรรยาคนหนึ่งจะอาจเอื้อม…แต่ท่าทางดยุกเอเฟรนีจะเอ็นดูนางผู้นั้นน่าดู”

จะบ้านนี้หรือบ้านนั้นก็มีปัญหาเรื่องอนุภรรยา ไม่สิ ควรเรียกว่าปัญหาของพวกผู้ชายหรือเปล่านะ แพทริเซียพยักหน้าเข้าใจ

“มิหนำซ้ำตอนนี้ลูกชายซึ่งเป็นผู้สืบทอดก็อยู่ในสภาพเป็นตายเท่ากัน นางย่อมต้องร้อนใจอยู่แล้ว”

“ถึงขนาดฝากเรื่องภายในบ้านให้คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างเจ้าเชียวหรือ? นั่นมันเกินไปหน่อยกระมัง”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อนั่นเป็นความคิดของเจ้าตัว”

“แล้วเจ้าก็ตอบตกลง?”

เปโตรนิยาพยักหน้าตอบคำถามของแพทริเซีย

“อืม ข้าจะทำ”

“ทำไมล่ะ”

แพทริเซียทำหน้ามุ่ยพลางถาม หากจะพูดกันตามตรง เปโตรนิยาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรับข้อเสนอของดัชเชสเอเฟรนี แม้แต่ดยุกเอเฟรนีสามีของนางก็ยังตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับจักรพรรดินีคนปัจจุบันอย่างตน ในสถานการณ์เช่นนี้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปญาติดีกับศัตรู ในเมื่อตนก็มีดยุกวีเธอร์ฟอร์ดอยู่แล้ว

เปโตรนิยาคล้ายอ่านใจแพทริเซียได้อย่างทะลุปรุโปร่ง นางพูดกับฝ่ายนั้นอย่างใจเย็น

“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร ริซซี่ ที่ข้ายอมรับข้อเสนอนี้ก็เพราะว่าแม้จะไม่รับ ข้าก็ไม่เสียอะไร แต่ถ้าข้ารับ บางทีอาจจะได้อะไรมาบ้าง”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ถ้าจะยืมคำพูดเจ้ามาใช้ก็คือที่นั่นเป็นรังของศัตรู ซึ่งข้าจะได้ไปดูแลที่นั่น เรื่องนี้เป็นธุระของนายหญิงของบ้าน ดังนั้นดยุกเอเฟรนีคงขัดอะไรไม่ได้ อีกอย่าง จะให้คนนอกมาดูแลหรือให้อนุภรรยาดูแลก็มีค่าเท่ากัน”

“คือ…หมายความว่าเจ้าจะเป็นสายลับให้ข้า?”

“เจ้าไม่รู้ว่าดยุกเอเฟรนีเกลียดพวกเราเพราะอะไรใช่ไหม”

เปโตรนิยาถามอย่างใจเย็นและแพทริเซียก็พยักหน้า เปโตรนิยาหัวเราะออกมา

“ข้าอาจได้รู้เรื่องนั้นก็ได้ ถ้าโชคดีน่ะนะ”

“ก็ดี จริงๆ แล้วข้าก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก” แพทริเซียกุมมือเปโตรนิยาไว้หลวมๆ “แต่ข้ากลัวว่าเจ้าจะลำบาก การดูแลคฤหาสน์ดยุกแม้จะแค่ชั่วคราวแต่ก็มิใช่เรื่องง่าย”

“ข้ารู้” เปโตรนิยายิ้มอย่างขมขื่น “แต่ข้าไม่เป็นไรจริงๆ”

“ประสบการณ์ก็ไม่มี”

“ก็บอกว่าไม่เป็นไรอย่างไรเล่า เจ้าอย่าห่วงเลย”

เปโตรนิยาตอบอย่างไม่ยี่หระ แพทริเซียรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีของอีกฝ่าย แต่นางก็ไม่ได้สนใจและเปลี่ยนเรื่องพูด

“อืม ที่จริงทางนี้ก็มีเรื่องเหมือนกัน”

เพียงระยะเวลาสั้นๆ ไยจึงเกิดเรื่องขึ้นมากมาย เปโตรนิยายิ้มน้อยๆ และพยักหน้าให้พูดต่อ แพทริเซียจึงเริ่มอธิบาย

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ได้ยินว่าโรสมอนด์จะไม่อยู่สักพักน่ะ”

“ไม่อยู่ในวังน่ะหรือ”

เปโตรนิยาถามอย่างสงสัยและแพทริเซียก็พยักหน้ารับ

“ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด แต่นางจะไปพบบารอนแดโรว์ นางวางแผนจะทำอะไรนะ”

“นั่นสิ…”

เปโตรนิยาพึมพำด้วยความสงสัย คราวนี้นางวางแผนอะไรไว้อีก? หากเป็นคนอื่นคงพอจะคิดได้ว่าเป็นเพียงการคิดถึงบิดามารดา แต่หลังจากถูกเล่นงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของโรสมอนด์ พวกนางก็ไม่อาจปล่อยผ่านได้ เปโตรนิยารู้สึกไม่สบอารมณ์กับสถานการณ์นี้นัก

“ในเมื่อไม่รู้สาเหตุ กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ พักนี้เจ้าอ่อนไหวง่ายนะ ริซซี่ ทำใจให้สบายหน่อยเถอะ” นางบอกแพทริเซีย

“ทำได้ยากยิ่ง นิล” แพทริเซียพูดด้วยน้ำเสียงอัดอั้น “บางครั้งข้าก็ฝันร้ายถึงเรื่องวันนั้น”

ครั้นได้ยินน้ำเสียงหม่นหมองของน้องสาว อารมณ์ของเปโตรนิยาก็พลอยดิ่งไปด้วย แต่แพทริเซียจะเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลก เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันถึงชีวิต จักรพรรดิลูซิโอซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดถึงกับหมดสติอยู่นาน เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์นั้นเป็นแผลใจที่รุนแรงที่สุดสำหรับแพทริเซีย เปโตรนิยากุมมือของอีกฝ่ายไว้แน่น

“ข้าควรจะช่วยแบ่งเบาภาระเจ้าแท้ๆ แต่ดูเหมือนข้าจะทำอะไรไม่ได้เลย ขอโทษนะ” นางว่า

“แค่มีเจ้าอยู่ก็เป็นกำลังให้ข้าได้มากแล้ว”

มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ท่านพี่ เพราะข้ามาที่นี่ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าอยากช่วยชีวิตเจ้าก็เท่านั้น เพราะฉะนั้น ท่านพี่ แม้สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยสู่ดีนัก แต่ข้าไม่เป็นไร เพราะข้ายังมีชีวิตอยู่และท่านพี่ก็ยังไม่ถูกกิโยตีนบั่นคอ พ่อแม่ของพวกเราเองก็ยังปลอดภัยดี

“บอกแล้วมิใช่หรือว่าอย่าคิดเช่นนั้น แต่โรสมอนด์ก็ไม่เคยทำอะไรโดยเปล่าประโยชน์สักครั้ง แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม” แพทริเซียกล่าว

“ข้ารู้”

อย่างไรก็ตาม โรสมอนด์คือตัวการที่ใหญ่ที่สุด หรือไม่ลูซิโอก็อาจจะเป็นสาเหตุ เปโตรนิยาก่นด่าในใจก่อนจะพูดกับแพทริเซีย

“เอาเป็นว่าวันนี้เจ้าน่าจะเหนื่อยมากแล้ว สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

“สีหน้าไม่ดีเป็นประจำอยู่แล้ว”

แพทริเซียว่าพลางหัวเราะคิกคัก ที่จริงนี่ไม่ใช่เรื่องน่าขำเลย แต่จิตใจของนางในตอนนี้เพียงแค่อยากหัวเราะออกมา เปโตรนิยารับรู้ได้ถึงความรู้สึกของน้องสาวจึงพยายามข่มความสงสารไว้ในใจและจุมพิตที่หน้าผากของอีกฝ่าย

“เดี๋ยวข้าจะเข้าครัวไปทำช็อกโกแลตรสสตรอว์เบอร์รีที่เจ้าชอบ เย็นนี้กินแค่นั้นแล้วก็พักผ่อนสักหน่อยเถอะ” นางพูดเสียงเบาราวกับกระซิบ

“’โทษทีนะ ท่านพี่ แต่วันนี้คงไม่ได้”

แพทริเซียพูดกับเปโตรนิยาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเต็มที

“มีเอกสารที่ต้องส่งพรุ่งนี้เป็นตั้งเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ยังมีช็อกโกแลต”

***

โรสมอนด์สั่งให้ข้ารับใช้เก็บสัมภาระด้วยสีหน้าเรียบเฉย หญิงสาวยืนดูข้ารับใช้ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมข้าวของที่ตนจะต้องใช้ในหลายวันที่อยู่นอกวังพลางจมอยู่กับความคิดครู่หนึ่ง

จู่ๆ ข้าก็นึกสงสัยขึ้นมา หลังจากที่ข้าจากมาแล้วคนพวกนั้นอยู่กันอย่างไร บารอนจะเที่ยวคุยไปทั่วไหมว่าลูกสาวคนเดียวของเขากลายเป็นอนุภรรยาของฝ่าบาท โอ้ พระเจ้า ถ้ายังมีความละอายอยู่บ้างคงไม่ทำเช่นนั้นกระมัง

พวกไร้ยางอาย โรสมอนด์กัดฟันกรอด คลาราที่เห็นเช่นนั้นก็วิ่งแตกตื่นเข้ามาหา

“เลดี้โรสมอนด์ เป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ”

“…”

โรสมอนด์มองคลาราที่เข้ามาถามโดยไม่พูดอะไร คลาราเป็นนางกำนัลที่เป็นบุตรีตระกูลบารอนเช่นกัน แม้ว่าบิดาของพวกนางจะมีศักดิ์เสมอกัน แต่สถานะของนางกับอีกฝ่ายนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อโรสมอนด์นึกถึงความจริงข้อนั้น โทสะก็พวยพุ่งขึ้นมาในทันใด หากข้าเป็นแค่นางกำนัลระดับกลางเช่นนางก็คงจะดี หากมีชีวิตเช่นนั้นข้าก็คงมีความสุขไปแล้ว!

“ท่านโรสมอนด์?”

ครั้นได้ยินเสียงเรียกของคลารา ไฟโทสะของโรสมอนด์ก็ค่อยๆ มอดลง ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำเช่นนี้ไม่สมกับเป็นนางเลย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้านั่น เพราะบารอนแดโรว์ แค่คิดว่าในตัวนางมีสายเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง นางก็แทบจะหยิบมีดมาเฉือนเนื้อให้เลือดส่วนนั้นไหลออกไปให้หมด แม้ว่าทำเช่นนั้นแล้วนางจะต้องตายก็ตาม สำหรับนางแล้วเลือดของเขาทั้งสกปรกและน่าขยะแขยง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด