Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี 49 ข้าดูไม่น่าไว้ใจสินะคะ

Now you are reading Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี Chapter 49 ข้าดูไม่น่าไว้ใจสินะคะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”

“…ไม่เป็นไร”

เห็นโรสมอนด์ฝืนตอบเช่นนั้น สีหน้าของคลาราก็เต็มไปด้วยความสงสัย แต่สุดท้ายนางก็กลับไปทำงานต่อ โรสมอนด์นั่งโยกตัวช้าๆ บนเก้าอี้โยกที่ทำจากไม้ราคาแพงและใช้เวลาเรียบเรียงความคิดอยู่ครู่หนึ่ง

นางต้องออกจากวังหลายวัน ทั้งยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ โรสมอนด์จึงใช้ความคิดนานกว่าปกติ นางคิดไตร่ตรองอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะออกคำสั่งกับคลาราอย่างสุขุม

“คลารา”

“ค่ะ เลดี้โรสมอนด์”

“ไปหยิบกระดาษเขียนจดหมายมาที”

คลารารีบหยิบปากกากับกระดาษมาตามคำสั่ง ครั้นได้ปากกามา โรสมอนด์ก็จรดลงบนกระดาษเพื่อเขียนจดหมายถึงใครคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล การกระทำของนางทั้งดูจริงจังแต่ก็ดูสนุกสนานอยู่ในที

โรสมอนด์ใช้เวลาครู่ใหญ่ในการเขียนจดหมายจดเสร็จ นางพับจดหมายใส่ซองอย่างดีก่อนจะประทับตราประจำตัวลงไป และยื่นจดหมายนั้นให้คลารา

“บอกทางนั้นด้วยว่าอ่านจบให้เผาจดหมายทิ้งเหมือนทุกครั้ง” นางกำชับ

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ท่านโรสมอนด์ ข้าทำเช่นนั้นเสมอ”

คลารารับจดหมายมาด้วยความเคยชิน แม้โรสมอนด์ไม่ได้บอกว่าให้นำไปให้ใคร แต่คลาราก็รู้ได้เองว่าใครเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนี้ นางเก็บจดหมายลงในเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะเอ่ยถามผู้เป็นนาย

“ท่านโรสมอนด์ จดหมายนี้ให้นำส่งเมื่อไรดีคะ”

“ยิ่งเร็วยิ่งดี เป็นไปได้ก็อย่าให้ใครเห็น ปิดเป็นความลับ เข้าใจไหม”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ท่านโรสมอนด์ ข้าทำเช่นนั้นมาตลอด”

คลารายิ้มอย่างชั่วร้ายและพยักหน้า เมื่อเห็นดังนั้น โรสมอนด์จึงวางใจได้

หัวสมองที่ยุ่งเหยิงของโรสมอนด์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย คลาราเป็นคนเฉลียวฉลาด นางคงไม่ทำให้ตนต้องเป็นกังวล เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โรสมอนด์ก็อารมณ์ดีขึ้นและหัวเราะออกมาอย่างไม่มีเหตุผล

***

เมื่อยามเช้าของวันใหม่มาถึง โรสมอนด์ก็เดินทางออกจากเมืองหลวงทันทีตามแผนที่วางไว้ ระยะทางจากเมืองหลวงไปยังบารอนีแดโรว์[1]นั้นไกลพอสมควร ต่อให้นางเร่งเดินทางอย่างไรก็คงใช้เวลาสองถึงสามอาทิตย์กว่าจะกลับถึงพระราชวัง เมื่อแพทริเซียคิดว่าในช่วงสัปดาห์นั้นนางจะไม่ได้เห็นโรสมอนด์ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่นางก็รู้สึกเหมือนได้ถอนฟันที่ปวดออกไป และเมื่อคิดได้ดังนั้นแพทริเซียก็ต้องยอมรับว่าโรสมอนด์ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของนางจริงๆ

ลูซิโอไม่อาจอวยพรโรสมอนด์ที่กำลังจะไปพบบารอนแดโรว์ให้มีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้ เขาเพียงแต่อวยพรให้นางเดินทางปลอดภัย ลูซิโอออกไปส่งโรสมอนด์จากนั้นก็กลับไปที่ห้องทำงานและทำงานเหมือนกับทุกวัน เขานั่งลงที่โต๊ะก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเพื่อเซ็นชื่อลงในเอกสารที่คั่งค้าง

“อึก!”

ในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสจนต้องกำข้อมือเอาไว้ หัวหน้านางกำนัลที่อยู่ด้านนอกรีบเข้ามาในห้องทำงานเพราะได้ยินเสียงดัง

“ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นเพคะ!”

“ฮา…”

ลูซิโอสูดลมหายใจอย่างยากลำบาก

“วะ วันนี้…” เขาถามหัวหน้านางกำนัลอย่างตะกุกตะกัก

“เพคะ?”

“วันนี้วันที่เท่าไร”

“21 เดือน 7…อ๊ะ!”

หัวหน้านางกำนัลตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากที่อ้าค้างราวกับนางเพิ่งนึกขึ้นได้ ลูซิโอสบถ ‘บ้าเอ๊ย’ ก่อนจะใช้อีกมือหนึ่งบีบข้อมือที่ยังคงรู้สึกปวดอย่างแรง โธ่เว้ย ทำไมกัน…

“ไม่เคยปล่อยผ่านสักครั้งเลยนะ”

“…”

หัวหน้านางกำนัลตำหนักกลางไม่พูดอะไร สีหน้าของลูซิโอดูขมขื่นอย่างน่าใจหาย เขาโบกมือข้างที่ไม่ปวดเพื่อบอกให้หัวหน้านางกำนัลออกไป นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกจากห้องไปตามคำสั่ง

ความเจ็บปวดนั้นคงอยู่อย่างยาวนาน ความเจ็บปวดนั้นไม่เคยหายสนิท เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่เขาต้องร้องคร่ำครวญ เขาคิดว่าร่างกายนี้ช่างโหดร้ายกับเขาเสียจริง ร่างกายของเขาฉลาดและเจ้าเล่ห์เกินไป ลูซิโอหัวเราะออกมาด้วยความสมเพช

***

เปโตรนิยายิ้มอย่างอ่อนโยนขณะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ดยุกเอเฟรนี พ่อบ้านของคฤหาสน์จำนางได้ก็แสดงความเคารพอย่างนอบน้อมก่อนจะพานางเข้าไปด้านใน ครั้นดัชเชสเอเฟรนีเห็นเปโตรนิยาก็ต้อนรับอย่างยินดี

“มาแล้วหรือคะ เลดี้”

“ดัชเชส เดินทางวันนี้หรือคะ”

เปโตรนิยาถามด้วยน้ำเสียงเจือความเสียดาย ดัชเชสเอเฟรนีพยักหน้าตอบ

“ข้ารู้สึกผิดเหลือเกินค่ะ…เหมือนข้าสร้างภาระให้เลดี้อย่างไรอย่างนั้น”

“อย่ารู้สึกผิดเลยค่ะ ดัชเชส” เปโตรนิยาตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ดัชเชสสัญญาว่าจะฟังคำขอของข้าข้อหนึ่งใช่ไหมคะ”

“แน่นอนค่ะ เลดี้” ดัชเชสเอเฟรนีย้ำด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจเพื่อให้เปโตรนิยาคลายกังวล “ไม่ต้องห่วงนะคะ เลดี้ ข้าย่อมต้องคำนึงถึงความยากลำบากของเลดี้ในการรับหน้าที่นี้ ข้าจะรักษาสัญญาค่ะ”

“ข้าก็ไม่คิดว่าดัชเชสเป็นคนไม่รักษาคำพูดหรอกค่ะ หวังว่าดัชเชสจะเดินทางไกลโดยสวัสดิภาพและกลับมาพร้อมข่าวดีนะคะ”

“โอ้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เลดี้”

ดัชเชสเอเฟรนีกอดเปโตรนิยาไว้ด้วยสีหน้าปลื้มปิติราวกับว่าความรู้สึกในใจตีรื้นขึ้นมา แม้ในความเป็นจริงจะดูเหมือนดัชเชสอยู่ในอ้อมกอดของเปโตรนิยามากกว่าก็ตาม

“เรื่องสำคัญต่างๆ ข้าบอกพ่อบ้านไว้หมดแล้ว เขาเป็นคนเก่าคนแก่ ไว้ใจได้ค่ะ” ดัชเชสกล่าวเสริม

“ขอบคุณค่ะ ดัชเชส ออกเดินทางเถอะค่ะ ไม่ต้องกังวล”

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ เลดี้”

ในตอนนั้นเองพวกนางก็ได้ยินเสียงใครบางคนออกมาจากห้อง เปโตรนิยาหันไปมองทางต้นเสียง ใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในห้องรับแขก

“อา…”

คนผู้นั้นเป็นหญิงสาว นางมีผมสีแดงเข้มรับกับนัยน์ตาสีน้ำตาลแดงที่มองปราดเดียวก็รู้สึกได้ว่าช่างเป็นหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ เปโตรนิยารับรู้ได้ในทันทีว่านางคืออนุภรรยาของดยุกเอเฟรนีนั่นเอง

เปโตรนิยาสังเกตท่าทีของดัชเชสเอเฟรนี นางสะกดกลั้นอารมณ์จนตัวสั่นระริกด้วยไม่ต้องการให้เปโตรนิยาซึ่งเป็นอาคันตุกะพบเห็นภาพที่ไม่งาม แต่สำหรับเปโตรนิยาซึ่งเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างอยู่แล้วนั้นเพียงแต่คิดว่าดัชเชสเอเฟรนีคงจะเกลียดอนุภรรยามากจึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้

เปโตรนิยาชั่งใจว่าตนควรจะทักทายผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นอนุภรรยาของดยุกเอเฟรนีหรือไม่ สุดท้ายนางก็ตัดสินใจที่จะนิ่งเฉย ฐานันดรศักดิ์ของนางไม่ได้ต้อยต่ำ ดังนั้นต่อให้ทำเช่นนี้ก็คงไม่เสียหายอะไร เปโตรนิยานั่งนิ่งและคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดัชเชสเอเฟรนี นางควบคุมมือที่กำลังสั่นเบาๆ ให้หยุดสั่นอย่างเยือกเย็นและถามผู้มาใหม่

“แจนยูเอรี เจ้ามีธุระอะไร”

“ข้าเห็นว่ามีแขกน่ะค่ะ คุณพี่”

เมื่อถูกอีกฝ่ายเรียกว่า ‘คุณพี่’ สีหน้าของดัชเชสเอเฟรนีก็ดูแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด เปโตรนิยานั่งตัวเกร็ง นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุ

“ถึงอย่างนั้นก็มิใช่กงการอะไรของเจ้ามิใช่รึ” ดัชเชสเอเฟรนีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“คุณพี่นี่ล่ะก็ ข้าเพียงแต่คิดว่าตัวเองอาจจะช่วยอะไรได้” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ พูดกับดัชเชสเอเฟรนีอย่างนุ่มนวล “ตั้งแต่วันนี้คุณพี่จะไม่อยู่ที่คฤหาสน์นี่คะ ข้าเพียงแต่เป็นกังวล”

แม้นางจะพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่ก็เห็นได้ชัดว่านางจงใจพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อยั่วโทสะดัชเชสเอเฟรนี แม้แต่เปโตนิยายังรู้สึกได้ มีหรือที่คนเฉลียวฉลาดอย่างดัชเชสเอเฟรนีจะไม่รู้ นางข่มความโกรธและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ข้าจะฝากเรื่องสำคัญเช่นนี้ไว้กับเจ้าได้อย่างไร จริงไหม?”

“…”

“ดังนั้น ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ข้าตั้งใจจะฝากฝังกิจการงานต่างๆ ในตระกูลไว้กับเลดี้จากตระกูลมาร์ควิสที่มีประวัติยาวนาน ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเจ้าแล้วมิใช่รึ”

“บอกแล้วค่ะ คุณพี่”

แจนยูเอรียิ้มอย่างงดงามและมองมาที่เปโตรนิยา บนใบหน้าเรียบเฉยของเปโตรนิยาปรากฏรอยยิ้มเพียงชั่วประเดี๋ยว เป็นรอยยิ้มตามมารยาทที่ไม่กว้างเกินไปและไม่ดูบึ้งตึงเกินไป เมื่อเห็นดังนั้นอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

“แค่มองผ่านๆ ก็รู้สึกได้แล้วค่ะว่าเป็นคนจิตใจดี คงจะช่วยได้มากระหว่างที่คุณพี่ไม่อยู่”

“…ข้าก็คิดเช่นนั้น” ดัชเชสเอเฟรนีฝืนยิ้มพูดกับแจนยูเอรี “ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ เลดี้โกรเชสเตอร์จะดูแลเรื่องภายในบ้านทั้งหมด หวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือทำตามที่เลดี้สั่ง เพราะเจ้าก็นับเป็นสมาชิกในบ้านนี้เช่นกัน”

“…ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นค่ะ”

แจนยูเอรียิ้มอย่างว่าง่าย เปโตรนิยารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าช่วงสั้นๆ ที่ต้องอยู่ร่วมกับผู้หญิงคนนี้จะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ โชคดีที่ตนจะใช้เวลาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้จริงๆ น้อยมาก เพราะตั้งใจว่าจะดูแลเฉพาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นเท่านั้น

“ต้องออกเดินทางแล้วค่ะ ดัชเชส ขืนชักช้าจะสายเอาได้”

ครั้นได้ยินสาวใช้คนสนิทเอ่ยเร่ง ดัชเชสเอเฟรนีก็ลุกขึ้นอย่างเสียไม่ได้ นางกอดเปโตรนิยาเป็นครั้งสุดท้ายและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเทียบไม่ได้กับน้ำเสียงที่ใช้กับแจนยูเอรีเมื่อครู่

“ฝากด้วยนะคะ เลดี้ แต่คงไม่มีเรื่องใหญ่อะไรให้เลดี้ต้องคิดมากหรอกค่ะ”

เพราะพ่อบ้านเองอยู่ เปโตรนิยาพยักหน้ารับคำ

“ค่ะ ดัชเชส รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ ข้าไปก่อนนะคะ”

ดัชเชสเอเฟรนีกลับมาเป็นดัชเชสที่สุขุมคนเก่าและออกจากบ้านไป คนรับใช้ชายหญิงทั้งหมดรวมถึงแจนยูเอรีพากันออกไปส่ง แม้ดัชเชสเอเฟรนีจะแสดงท่าทีไม่แยแสแจนยูเอรีก็ตาม

เมื่อดัชเชสเอเฟรนีออกเดินทางไปแล้ว แจนยูเอรีก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเปโตรนิยา ฝ่ายเปโตรนิยาไม่ได้ประหม่าทั้งยังส่งยิ้มให้

“ดูจากที่คุณพี่ฝากเรื่องในบ้านไว้กับคนอื่นแทนที่จะเป็นข้า ข้าคงดูไม่น่าไว้ใจในสายคุณพี่สินะคะ” แจนยูเอรีกล่าว

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรคะ มาดาม” เปโตรนิยายิ้มอย่างงดงามและออกปากปกป้องดัชเชสเอเฟรนี “ดัชเชสอาจจะไม่อยากให้มาดามลำบากก็ได้นะคะ”

“เลดี้คิดเช่นนั้นจริงๆ หรือคะ”

“ไม่ทราบสิคะ ข้าเองก็มิอาจเดาใจผู้อื่นได้”

เปโตรนิยาจบประโยคอย่างคลุมเครือ

“เอาเป็นว่า ข้าเพียงแต่รับฟังคำขอจากดัชเชสเท่านั้น หากรู้ว่ามีมาดามอยู่ ข้าคงไม่ตกปากรับคำหรอกค่ะ”

แม้ว่าความจริงนางจะตอบตกลงเพราะรู้อยู่แล้วก็ตาม เปโตรนิยาแสร้งทำเป็นไม่รู้และพูดต่อ

“ไม่ต้องห่วงนะคะ มาดาม ข้าเพียงแต่ช่วยจัดการงานเล็กๆ น้อยๆ ตามที่ดัชเชสขอไว้เท่านั้น ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคนนอก ท่านดยุกคงไม่อยากให้คนนอกมารับรู้เรื่องราวภายในบ้าน และคงไม่ชอบให้คนนอกมาเข้าๆ ออกๆ บ้านเช่นนี้หรอกค่ะ”

“เลดี้ทั้งเฉลียวฉลาดและเพรียบพร้อมด้วยมารยาทจริงๆ ค่ะ”

“ชมเกินไปแล้วค่ะ”

เปโตรนิยาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองแจนยูเอรี แม้ตนจะไม่ได้ตัวเล็กแต่แจนยูเอรีก็สูงกว่า ปีนี้อายุของอีกฝ่ายน่าจะเข้าเลขสามแล้ว แต่ใบหน้าของนางหน้ายังดูอ่อนเยาว์ทีเดียว จะมองเป็นหญิงสาววัยยี่สิบก็ไม่เกินไป เปโตรนิยาที่รู้เรื่องราวในบ้านนี้ประมาณหนึ่งอดที่จะสงสารดัชเชสเอเฟรนีไม่ได้ ดยุกอะไรช่างไร้หัวคิดนัก

“เมื่อวานพ่อบ้านได้อธิบายเรื่องต่างๆ ในบ้านให้ข้าฟังบ้างแล้ว ข้าจะเข้ามาในยามที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ เพราะต่อให้ไม่มีข้า พ่อบ้านก็น่าจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว”

เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นเพียงการสวมบทบาทผู้จับตามองอย่างแท้จริง เรียกว่าเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ก็มิผิด ทั้งแจนยูเอรีและดัชเชสเอเฟรนีต่างก็รู้ดี

“พระจักรพรรดินีน่าจะกำลังรอข้าอยู่ เช่นนั้นคงต้องขอตัวก่อนนะคะ”

“เดินทางปลอดภัยค่ะ เลดี้ พ่อบ้าน ส่งแขกด้วย”

“…ขอรับ”

“…”

เปโตรนิยาขึ้นรถมาโดยไม่มีคำพูดไม่เอ่ยคำพูดใด ก่อนที่รถม้าจะออกตัว พ่อบ้านก็พูดกับนางเบาๆ

[1] บารอนี (Barony) คืออาณาเขตปกครองของบารอน ดังนั้น บารอนีแดโรว์ คือ อาณาเขตหรือดินแดนของบารอนแดโรว์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด