Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ 1217

Now you are reading Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ Chapter 1217 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่  1217  ต้องการเล่น

เย่ว์หยางกลับมาอย่างอ่อนใจ

ทุกคนมองดูเขา

 

แม้แต่เย่ว์หวี่ยังรู้สึกแปลก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายใจเปิด อย่างนั้นหลายอย่างก็ควรทำได้สำเร็จ  เขากลับมาได้อย่างไร?

อู๋เหินผู้รอบคอบพบว่าริมฝีปากของเด็กหนุ่มผิดปกติเล็กน้อย เหมือนกับว่าถูกกัด  ทุกคนเป็นอันเข้าใจได้ทันที สาเหตุเป็นเช่นนี้นั่นเอง!  จุ้ยมาวอี้ยกนิ้วให้เย่ว์หยาง  ยกย่องการกระทำที่ไม่หวั่นเกรงและกล้าหาญของเย่ว์หยาง หญิงสาวอย่างเทวีเสรีภาพยากนักจะจูบได้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตรวจพบอาการก้าวร้าวเหิมเกริมนั้นได้ นางค้อนด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าจะไม่ได้ดังหวัง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นนางถ้าไม่ทุบเขาเสียบ้างก็คงเป็นเรื่องแปลก

“พักก่อนเถอะ!”  เย่ว์หวี่ปลอบใจน้องชายที่รีบออกไปด้านประตูหลัง จากนั้นนางยิ้มหวาน ตราบใดที่ทำได้สำเร็จก็ไม่ต้องรีบกลับไป คาดว่าเทวีเสรีภาพพบว่ามีคนมากมายที่แอบฟังอยู่ นางใบหน้าบอบบางจึงไล่เขาให้ออกไป!

“ตุ้บ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแกล้งทำเป็นยืนอ่านหนังสือและเดินเอาหนังสือชนศีรษะเย่ว์หยาง

“แม่เสือสาว!  เจ้าจะทำอะไร?”  เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อ

ตอนนี้เขาพบว่าแม่สาวนี้ทำไม่ถูก ปกตินางไม่ค่อยอ่านหนังสือ นางไม่รู้หรือว่าเสวี่ยอู๋เสียอ่านอย่างไร?

ปรากฏว่านางต้องการใช้หนังสือนี้ตีตัวเขา นี่เป็นความคิดแบบไหน?  นี่ทำกันเกินไปแล้ว ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้สามีด้วยวิธีที่แข็งกร้าวแบบนี้หมายความว่าไง?

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเตรียมอธิบาย แต่นางชะงักไว้เล็กน้อย “ข้าเพิ่งจะอ่านหนังสือ และเห็นหนังสือเขียนอธิบายเรื่องความสุข การหัวเราะอย่างโง่เขลาแล้วรู้สึกไม่พอใจ  คนงี่เง่าเขียนคำที่น่ารังเกียจนี้ออกมาได้ยังไง….”

หมดกันแค่เขาตะโกนใส่อิงหลัว ทำให้แม่เสือสาวนี่ได้ยินไปด้วย

เย่ว์หยางปาดเหงื่อ

แต่ถ้านางต้องการจะคัดค้านให้จน นางพูดได้โดยตรง ทำไมต้องเสแสร้งแกล้งใช้หนังสือ?

เด็กหนุ่มผู้มีผิวหน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองรีบปรับอารมณ์ อย่างรวดเร็วใช้กลยุทธ์อีกโลกหนึ่งเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาทันที  “เฮ้, แล้วเจ้าต้องทุบตีคนด้วยหรือ ถ้าเจ้าไม่พอใจ!”

“เมื่อครู่นี้ข้าทุบตีคนหรือ?”  แม่เสือสาวไม่เพียงแต่ป่าเถื่อน บางครั้งก็แกล้งหาเรื่องด้วย แน่นอนนางชอบทำเช่นนี้กับเย่ว์หยาง

“ดูเหมือนว่า..”  จุ้ยมาวอี้เหมือนกับให้ท้ายสามีหนุ่มน้อยของนางบ้างเล็กน้อย แต่คนอื่นไม่ช่วยเลย

“เหรอ?”  แม่เสือสาวตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่มีทางที่เจ้าจะขอโทษใครหรอก เจ้ามีเหตุผลกับเขาด้วยหรือ?”  เย่ว์หยางรู้สึกอึดอัด

“เจ้าต้องการเหตุผลในการทุบตีคนไหม?”  แม่เสือสาวใช้ตาเสือของนางจ้องมองความต้องการของเด็กหนุ่มข้ามโลกได้ทั้งหมด

“ไม่ต้องก็ได้มั้ง?” เย่ว์หยางชักหวั่นเกรงก้มหน้าแล้วใช้สองนิ้วแตะหน้าถามอย่างอ่อนแรง

“เจ้าจำเป็นต้องทำด้วยหรือ?”  แม่เสือสาวภูมิใจมากที่ข่มตัวลามกใหญ่ในบ้านได้  เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนาง ยกเว้นสาวหิมะไม่มีใครในบ้านที่สร้างแรงกดดันได้มากเท่านาง  นางดูหมิ่นเหยียดหยามคนที่เอาแต่ดูโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่น่ารังเกียจเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวลามกใหญ่นี่ก่อขึ้น   “ทุบตีเป็นเรื่องง่ายๆ อยู่แล้ว!”  ถ้าไม่ใช่เพราะนางรู้สึกว่าภาพพจน์จะดูไม่ดี นางคงหัวเราะไปแล้ว

“ดี” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็ลงมือทันที เขาจับตัวองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ไม่ทันป้องกันตัวคุกเข่าและเงื้อมือตีก้นนางสามครั้ง

เย่ว์หวี่และอู๋เหินเห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึง

เรื่องอะไรกันนี่?

วันนี้เจ้าเด็กนี่ไปเอาขวัญเทียมฟ้ามาจากไหน?

กล้าลงมือกับแม่เสือสาวให้อับอายต่อหน้าทุกคนเชียวหรือ?

เหลือเชื่อเกินไปแล้ว ภาพแบบนี้พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ  จุ้ยมาวอี้ขยี้ตาอีกครั้งแต่นางก็ยังงงอยู่ดี

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถูกจับกดและตีก้นยังคงตะลึง นางไม่มีเวลาตั้งหลัก เมื่อนางหันกลับมาชักดาบเทพพยัคฆราชตั้งท่าเตรียมฟัน เย่ว์หยางว่องไวยิ่งกว่าจรวดหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา ทิ้งไว้แต่คำพูดล่องลอยในอากาศ  “เจ้าพูดเองนะว่าต้องการเล่นด้วย ข้าทำตามความปรารถนาของเจ้าอย่างเคร่งครัด!”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโกรธและอาย นางชูดาบเทพกวัดแกว่งอยู่ในอากาศด้วยความโมโห

นางกัดฟันกล่าว  “อย่าให้ข้าจับเจ้าได้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นเจ้าตาย!”

เย่ว์หวี่และอู๋เหินได้แต่แอบขำ

นางมักเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม่เสือสาวมักจะข่มเหงเย่ว์หยางที่มักจะพูดว่ามีเสือตัวหนึ่งอยู่ที่ท้ายเขา และตอนนี้กลับตรงกันข้าม กลายเป็นที่ท้ายภูเขาแม่เสือสาวถูกตีถูกกลั่นแกล้งกล่าวว่าเป็นการถือโอกาสแก้ลำ

“อะแฮ่ม.. เขาทำไม่ถูก  ข้าจะต้องว่ากล่าวตักเตือนเขา”  เย่ว์หวี่ฝืนใจกลั้นหัวเราะปลอบโยนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ตัวสั่น

“ไม่เป็นไร, ดูเหมือนจะทะเลาะกันไม่หนักเท่าใด!” จุ้ยมาวอี้ค่อนข้างให้ความสนใจ

“ไม่หนักอะไรกัน  เจ้าลองบ้างไหม!”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโมโห

ตีคงไม่หนักเท่าใด

แต่เรื่องอายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แอบตีลับๆ ก็น่าขายหน้าพออยู่แล้ว นี่เขากลับทำต่อหน้าทุกคน

จุ้ยมาวอี้ไม่โกรธ ได้แต่หัวเราะเสียงดัง “ข้าก็ตีกับเขาบ่อยอยู่เหมือนกัน และเขามักถือโอกาสหยอกเจ้าคืนอย่างนี้ เมื่อเจ้ายังเป็นเด็กน้อยข้ายังต้องคอยยั้งมือกลัวพลาดท่าตีเจ้าจนก้นบวม”  นางบอกเป็นนัยว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหยิ่งเกินไปและชอบหาเรื่องประจันหน้ากับเขาแทบทุกเรื่อง  นางไม่รู้ว่าการบอกใบ้ของนางจะได้ผลหรือไม่ แต่นางวิจารณ์ในเรื่องที่ควรวิจารณ์ สรรเสริญในเรื่องที่ควรสรรเสริญ  นางยืนกรานเมื่อแน่วแน่เป็นฝ่ายถูก แต่ว่าง่ายเมื่อถึงเวลาต้องเชื่อฟัง ไม่อาจเอาแต่คัดค้านอย่างเดียวได้ตลอดเวลา  ถ้าคนของเขาไม่เป็นทุกข์ ใครอื่นยังจะทำให้เขาทุกข์ใจได้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟังทีแรกอึ้งไปสักพัก จากนั้นนางอยากจะเถียง

แต่ความโกรธหายไปหมดแล้ว

นางเก็บดาบ

มองผิวเผินนางไม่ยอมแพ้ และลอบกำหมัดกัดฟัน  “เจ้าทำธุระของเจ้าก่อนเถอะ  คอยดูข้าจะต้องแก้มือให้ได้ ฮึ่ม..”

เมื่อเห็นแม่เสือสาวยอมรับความพ่ายแพ้ล่าถอย ทุกคนแอบดีใจ เย่ว์หยางลงมือตีก้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยไม่คาดคิด แต่ก็รู้ว่าคงจะแค่วันนี้ เพราะเขากับนางเกิดมาเป็นคู่กัดกัน หากไม่หาเรื่องทะเลาะกันสักวันคงจะไม่มีความสุข  การแสดงออกของทุกคนแตกต่างกัน บางทีอารมณ์ของนางก็เป็นแบบนี้!

พอองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแยกออกไป สาวงามโล่วฮัวรีบเข้ามากระซิบกับจุ้ยมาวอี้ทันที  “เจ้าตีกับเขาบ่อยๆ จริงหรือ?  หลังจากเขาตีเจ้าแล้ว มีอะไรพิเศษต่อหรือเปล่า?”

จุ้ยมาวอี้หน้าแดงโบกมือพัลวัล  “ไม่ไม่  อะแฮ่ม.. ถามพี่อู๋เหินเถอะ  นางเข้าใจดีที่สุด!”

“?????”  ทุกคนมองดูสุ่ยอู๋เหินอีกครั้ง

“ข้าไม่เข้าใจ ไม่ต้องมองข้าเลย!”  ครั้งนี้เป็นอู๋เหินบ้างที่อายนางได้แต่ส่ายหน้า  “เขาไม่เคยตีข้า คาดว่าอาหงและไห่หลานอาจจะมีบ้างสองสามครั้ง ที่สำคัญคือร่างกายพวกนางแข็งแรงกว่าทนกว่าข้า”

“เป็นอย่างนี้เองหรือ ข้าอยากลองบ้างเหมือนกัน แต่ข้าหวั่นเกรงเล็กน้อย…” โล่วฮัวคาดหวัง

“ความจริงไม่ได้เจ็บปวดอะไรนัก อะแฮ่ม.. เป็นเรื่องแปลกที่ข้าไม่สามารถพูดให้ชัดเจนได้ อย่ามองข้าอย่างนั้น ข้าไม่ได้ทำบ่อยๆ มันเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น!”  จุ้ยมาวอี้พูดขณะที่นางลูบบั้นท้ายตนเองโดยไม่รู้ตัว การสนทนาหัวข้อนี้เตือนให้นางนึกถึงความลับส่วนตัวบางอย่างที่ฝังลึกอยู่ในใจนางซึ่งไม่ควรให้คนอื่นรู้

“ข้าง่วงแล้ว” เย่ว์หวี่พูดไม่ออก  พวกนางเอาเรื่องความสุขในชีวิตรักมาคุยตรงนี้ได้อย่างไร?

ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่น่าอายเท่านั้น แต่เด็กๆ จะจำเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอีกด้วย

หลิวเย่นั่งอยู่ที่มุมห้อง เอามือทั้งสองปิดหน้า

นางอายเกินกว่าจะลืมตามองคนอื่น

เซี่ยอีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันนั่งก้มหน้า แต่ร่างกายเกร็ง ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อย  พวกนางทุกคนรู้สึกถึงความตึงเครียดภายในใจตนเอง แม้ว่าต่อมาภายหลังนางจะได้ยกย่องจากคนของเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์ให้เป็นสตรีมังกรศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนี้นางยังมีสัญญาว่าจะแต่งงานกับเย่ว์หยาง  แต่นางมีความสัมพันธ์แค่กอดจูบอยู่สองสามครั้ง ตอนนี้พอได้ยินคนอื่นพูดคุยถึงระดับทักษะความรักแล้ว ส่งผลกระทบต่อพวกนางมากจริงๆ

โชคดีที่เป่าเอ๋อไม่อยู่ตรงนั้น  มิฉะนั้นนางอาจใช้คำพูดที่สงสัยของนางทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัด

เย่ว์หยางตีก้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางคงไม่ค่อยรู้เรื่อง

ถ้าเขาไม่รีบเผ่นก่อน คงถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไล่ล่าแน่นอน

เขาชอบเผ่นหนีไปหาไห่หลานจักรพรรดินีสมุทรซึ่งมีคัมภีร์อัญเชิญ  ยิ่งกว่านั้นนางไม่ได้กลัวองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหมือนกับไป่ลู่และลี่เยี่ยนที่มักจะหลีกเลี่ยงไม่อยากมีปัญหากับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีสาวน้อยจากเผ่ามัจฉากลายพันธุ์รักษาร่างกายที่เสียหาย แม้ว่าจะฟื้นฟูร่างกายอยู่ที่นี่ถึงหกเดือนแล้ว ร่างของนางฟื้นฟูใกล้จะสมบูรณ์แล้ว แต่เนื่องจากการเลื่อนระดับพลังครั้งล่าสุด เย่ว์หยางคิดว่าสามารถรักษาฟื้นฟูร่างกายของเด็กสาวให้สมบูรณ์มากกว่าเดิม เขาตัดสินใจลองผสานร่างนางเสียก่อนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนใช้ร่างเทพผสานกับเทวีเสรีภาพ

“เจ้าตีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหรือ?”  เมื่อจักรพรรดินีสมุทรไห่หลานได้ยินข่าว นางรู้สึกประหลาดใจ

“ถ้าเจ้ากล้าก็ต้องตีเลย!”  เย่ว์หยางซ่อนตัวอยู่ในโลกคัมภีร์ของนาง แกล้งทำตัวเป็นวีรบุรุษ

“…..” ไห่หลานอยากหัวเราะเยาะเขาสองสามครา แต่จากนั้นคิดว่าสามีหนุ่มน้อยของนางยากนักจะมีวันที่น่าเกรงขาม นางจึงยิ้มให้เขาแทน  “เท่ไหม?  รู้สึกดีขึ้นหรือไม่? แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะเจ้าอารมณ์ แต่นางก็ไม่มั่นใจจะเอาชนะนางได้!   หลังจากตีนางได้ เขายังครึ้มอกครึ้มใจได้หรือ?”

“รู้สึกน่ะหรือ?”  เย่ว์หยางระลึกได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่เลว ร่างกายนางยืดหยุ่น แต่น่าเสียดายที่เวลานี้หงุดหงิดกังวลมากเกินไป ถ้ามีประสบการณ์ในรายละเอียดก็คงจะดีกว่า

“ถ้าเจ้าแก้ผ้าแม่เสือสาวได้คงต้องดีกว่านี้แน่!”  ไห่หลานตื่นเต้น

“เรื่องนั้นไว้คุยกันทีหลัง ตอนนี้ถอดชุดจักรพรรดินีสมุทรเจ้าก่อนแล้วลองตีดู!”  เมื่อเข้ามาใกล้ตัวนางเย่ว์หยางกระตือรือร้นเป็นธรรมดา  จักรพรรดินีสมุทรผู้นี้เป็นหญิงงามน่าลุ่มหลง ไม่ใช่คนตาย บางครั้งการสนองตอบก็ร้ายกาจ ไม่เพียงแต่มีการสนองตอบที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น  แต่นางยังยินดีทำให้บุรุษของนางพอใจในหลากหลายวิธีการ ถ้าเย่ว์หยางรับมือกับสาวๆ เป็นกลุ่มบางทีเขาอาจไม่กล้ารับมือกับนาง

“เจ้ายังสู้ไหวอีกหรือ?”  จักรพรรดินีสมุทรขอความเมตตา  ฟังน้ำเสียงของนางไม่มีทีท่าว่าจะปลดเสื้อผ้า เหมือนกับจะตัดสินใจว่าจะสนองตอบหรือไม่

“อืมมมม” และนี่ก็คือการตัดสินใจของตัวลามกใหญ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด