Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ 1219

Now you are reading Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ Chapter 1219 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่  1219  ปั่นป่วน สมองไม่พอ!

วงเวทรูนโลหิตมีแต่นกนางนวลออกมาตัวเดียว

ทันใดนั้น

คนที่อยู่ในเหตุการณ์พากันเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร

 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดในสายตาทุกคน นกนางนวลที่อ่อนล้าพยายามกระพือปีกอย่างอ่อนแรง มันแข็งใจใช้เรี่ยวแรงอึดสุดท้ายบินขึ้นจากทะเลส่ายไปส่ายมายังฝั่ง ในที่สุดก็ตกลงบนชายหาดอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างน้อยๆ นอนอยู่บนหาดทราย ขนปีกเปียกและเปื้อนเม็ดทรายเปื้อนเลือดดูน่าสมเพช

โชคดีที่เจ้าตัวน้อยร่วงลงชายฝั่งได้ในที่สุดและรักษาชีวิตน้อยๆ ของมันไว้ได้

ถ้าอยู่ในทะเลต่อไปอาจจมทะเลตายด้วยแรงซัดของคลื่นลูกใหม่ก็ได้

“อะแฮ่มๆ!”  หลังจากงุนงงอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดหัวหน้าหัวสิงโตรีบกระแอมสองครั้งอย่างรวดเร็วและฝืนหัวเราะ  “เจ้านกตัวนี้อาจเป็นสัตว์เลี้ยงของหนึ่งในสิบราชา มันอยู่ที่นี่เพื่อให้คำแนะนำ  แค่กๆ ใช่แล้วต้องเป็นแบบนั้นแน่!”

เขาไม่กล้านึกภาพเลยว่า ถ้าองค์ประกอบบูชายัญเลือดวงเวทรูนไม่สมบูรณ์เพียงพอ  และกระแสหมุนวนในมิติจะส่งผลกระทบร้ายแรงกลืนกินราชาทั้งสิบ แม้จะไม่เป็นปัญหากับการเดินทางไปหอทงเทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการตอบสนองโดยสร้างวงเวทอักขระรูน อัตราความสำเร็จในการเทเลพอร์ตจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดการดูดกลืนในรอยแยกมิติเวลา และแอ่งวังวนดูดกลืนมิติเวลา แต่ด้วยอักขระรูนเลือดนี้ อย่างน้อยจะเพิ่มความมั่นใจในการผ่านสำเร็จได้ 70% ขึ้นไป ด้วยพลังนักรบระดับราชา โอกาสผ่านสำเร็จมากถึง 90%

ในเบื้องต้นนี้ ภารกิจที่ดีที่สุดก็คือขอให้ราชาทั้งสิบมาถึงโดยปลอดภัย

ภารกิจของเขาจึงจะสำเร็จ

เมื่อได้รับรางวัลความดีความชอบ

ต้องได้รับรางวัลใหญ่แน่นอน

แต่ตอนนี้เมื่อสร้างวงเวทอักขระรูนเลือดเสร็จกลับมีแค่นกนางนวลตัวหนึ่งโผล่ออกมาเท่านั้น เกิดอะไรขึ้น?

นักสู้ระดับหัวหน้าที่เข้าร่วมภารกิจครั้งนี้รู้สึกไม่ค่อยดี ราชาทั้งสิบไปอยู่ที่ไหน?  ถ้าราชาทั้งสิบถูกดูดหายเข้าไปในรอยแยกมิติเวลา  อย่างนั้นผลที่ตามมาคงเป็นหายนะสุดคาดคิด!  ภารกิจนี้ไม่เพียงแต่ไม่สำเร็จ เหนืออื่นใดผู้เข้าร่วมภารกิจนี้จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง!

หัวหน้าหัวสิงโตมองอย่างผิวเผินเหมือนไม่ได้คิดอะไร  แต่ในใจสั่นสะท้านเพียงแต่เขาฝืนแสดงสีหน้าร่าเริง  “ในการตอบสนองของวงเวทรูนโลหิตไม่ได้มีความรวดเร็วอย่างแน่นอน ในช่วงเวลาสองสามชั่วโมงราชาทั้งสิบคงยังผ่านมาไม่ได้  ข้าหมายถึงว่าการตอบสนองของวงเวทรูนโลหิตของเขาไม่ได้ล้มเหลว และยังคงมีผลต่อไป  คาดว่าสิบราชากำลังจะมาถึง  เราต้องอยู่ที่นี่ต่อไปนานกว่าสามชั่วโมง แค่กๆ  ข้าหมายถึงว่าวงเวทรูนโลหิตของเขาไม่ได้ผิดพลาดล้มเหลว ข้าว่าเจ้านกน้อยตัวนี้คงเป็นราชาส่งออกมาบอกเราว่าไม่ต้องกังวล  พวกเจ้าว่ายังไงบ้าง?”

“แต่เจ้านกน้อยตัวนี้….”  หัวหน้าหัวแรดไม่เข้าใจว่าทำไมมันถูกส่งออกมาในทันที? แม้ว่าราชาองค์หนึ่งอาจส่งมันมาได้ก็จริง แต่ไม่มีเหตุผลที่จะเร็วมากขนาดนี้!

“หรือว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่ราชาส่งออกมาสำรวจล่วงหน้าหรือไม่?”  หัวหน้าร่างผอมสูงเหมือนไม้เชื้อฟืนถามอย่างจริงจัง

“ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน”  หัวหน้าหัวสิงห์รีบยืนยันและเข้าควบคุมสถานการณ์ที่กำลังจะล่มสลายอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อมันเป็นนกอสูรที่ส่งออกมาสำรวจเส้นทางอย่างนั้น อย่างนั้นก็คงสามารถอธิบายได้ทันทีเมื่อมันเทเลพอร์ตกลับไป”  ในอีกด้านหนึ่งหัวหน้าผู้มีความสามารถกำลังปาดเหงื่อ เขาไม่ต้องการให้สิบราชาตายอย่างโชคร้ายในภารกิจของเขา บาปครั้งนี้ต่อให้มีสิบหัวก็ชดใช้ไม่หมด

“ข้าแน่ใจเต็มร้อยว่านกตัวนี้มาจากแดนสวรรค์ ไม่ใช่เจ้าของที่เป็นชาวหอทงเทียนเลี้ยงดูมัน   ข้าไม่เคยเห็นนกที่มีประกายตาเจิดจ้าอย่างนี้มาก่อน  หากมิใช่นกอสูรของราชา โลกจะมีสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดขนาดนี้ได้อย่างไร?  ในดินแดนทุรกันดารอย่างหอทงเทียนนี้ ไม่มีผลผลิตพิเศษควรค่าแก่การกล่าวขวัญ ยกเว้นขนมปังกับอันธพาล!”  คนที่เตี้ยที่สุดและมีกล้ามเนื้อแข็งแรงที่สุดเหมือนกับจะเป็นผู้นำกล้ามเนื้อเป็นก้อนเป็นมัดดูน่าสยดสยอง สหายผู้นี้โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกหัวเราะลั่นระบายความกลัวและความอึดอัดในหัวใจ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็อย่างที่ข้าบอก สิบราชาจะต้องมาถึงตามกำหนดแน่นอน”  หัวหน้าหัวแรดเห็นด้วยทันที

“แม้ว่ากำหนดการจะเลื่อนออกไป แต่สิบราชาจะปลอดภัยไร้อันตรายแน่นอน”  หัวหน้าหัวสิงห์ค่อยมีสีหน้าดีขึ้นอธิบายให้สหายร่วมงานฟัง  “เป็นไปได้ว่าราชาทั้งสิบมองเห็นความเป็นไปได้บางอย่าง พวกเขาจึงส่งนกอสูรออกมาชั่วคราวเพื่อเตือนเราไม่ต้องรอนาน เพราะพวกเขาอาจทำตามแผนใหม่”

“ถ้าอย่างนั้นเรายังจะรออะไรอยู่อีก?”  หัวหน้าผู้มีความสามารถคนกลางเช็ดเหงื่อที่หัวมองดูสหายเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“รอสักครู่”  หัวหน้าหัวสิงห์ยืนยัน  “ไม่ว่าราชาทั้งสิบจะมาตามกำหนดการหรือไม่ เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา  ถ้าหลังจากผ่านไปสามชั่วโมงสิบราชายังมาไม่ถึง  อย่างนั้นพวกเขาจะต้องปฏิบัติภารกิจใหม่และเราจะทำตามนกอสูรน้อยตัวนี้รอการเรียกหาและแจกจ่ายงานจากสิบราชาต่อไป

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ทำอย่างนี้ถูกต้องกว่า”  หัวหน้าหลายคนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ปรบมือสนับสนุน

ราชาจากแดนสวรรค์ตายเพราะข้อผิดพลาดในการเทเลพอร์ต

เรื่องแบบนี้

ไม่เพียงแต่ยากจะรับได้

แม้ว่าจะเสร็จแล้วก็ยังพูดไม่ได้

ความจริงทุกคนมีฉันทามติร่วมกันอย่างคลุมเครือ นั่นคือราชาทั้งสิบคนไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกถึงพลังรูนโลหิตชัดเจนหรือไม่ ไม่ว่าจะเริ่มแล้วหรือไม่ ผลลัพธ์อาจไม่ดีนัก  เนื่องจากการรบกวนการส่งสัญญาณของนกนางนวลน้อยตัวนี้ทำให้การเทเลพอร์ตของราชาทั้งสิบต้องล่าช้า การผ่านรอยแยกมิติเวลาอย่างปลอดภัยในช่วงที่มิติเวลาสับสน โอกาสประสบความสำเร็จในการมาโผล่ที่เกาะน้อยแห่งนี้มีเพียงน้อยนิดมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งในหมื่น

ความจริงนั้นโหดร้ายเหลือเกิน แต่จะต้องไม่พูดออกมา  มิฉะนั้นทุกคนจะไม่สามารถรักษาศีรษะไว้บนบ่าได้อีกต่อไป

นั่นคือสิบราชาแดนสวรรค์!

ในช่วงเริ่มต้นของการบุกรุกรานของชาวแดนสวรรค์ นักรบระดับราชาของแดนสวรรค์ยังมีไม่ถึงร้อย

ความผิดพลาดในการทำให้สิบราชาแดนสวรรค์ต้องตายไป ไม่มีใครสามารถแบกรับความผิดนี้ได้  แม้แค่หนึ่งในสิบราชากว่าจะได้มาก็ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรชีวิตมหาศาล  เฉพาะจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่ห่างไกลออกไป จนถึงประตูสวรรค์  เพื่อให้เวลากับการสรรหากองทัพ ราชาแต่ละคนจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการเทเลพอร์ตข้ามแดนโดยใช้แสงศักดิ์สิทธิ์นำทาง   ไม่ต้องพูดถึงทาสกว่าหมื่นคนที่ต้องเสียสละชีวิต…  คราวนี้ความผิดพลาดไม่เพียงแต่ฆ่าราชาเท่านั้น  แต่ยังทำให้สูญเสียทาสถึงล้านคน  สิ่งที่สำคัญก็คือความล้มเหลวนี้อาจก่อให้เกิดข้อเสียหายของสงครามในช่วงแรกและสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย

คนโง่จะไม่ยอมรับว่าข้อผิดพลาดร้ายแรงนี้เกิดขึ้นเพราะตนเอง

ตอนนี้พวกเขาพยายามมองหาเหตุผลที่เหมาะสมที่สุด

แสดงความเห็นแก่ตัวเอง

และต้องทำให้ได้

มิฉะนั้นคนในกลุ่มทั้งหมดมีแนวโน้มว่าจะพังทลายทันที  ทุกคนจะเข่นฆ่ากันเองและจากนั้นแยกย้ายกันหลบหนีไม่ยอมกลับไปแดนสวรรค์อีกเลย

“ราชาทั้งสิบจะมาถึงตามกำหนดอย่างแน่นอน!  อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น  เราต้องเสริมสร้างความเสียสละ!”  หัวหน้าหัวสิงห์ตัดสินใจสังหารทาสทั้งหมด  เหลือสหายอยู่เพียงไม่กี่คนและทุกคนจะรวมตัวสร้างข่าวลือ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมให้หาโอกาสแก้ตัวว่าถูกนักสู้หอทงเทียนโจมตีอย่างน่าทึ่ง หรือเหตุผลข้ออ้างอื่นที่ดีกว่าผิดพลาดเพราะเกิดจากนกนางนวลตัวหนึ่ง

“ไว้ชีวิตเราด้วย!”  พวกทาสทุกคนหวาดกลัวแทบปัสสาวะราด  พวกเขาคุกเข่าลงทุกคน

พวกเขาไม่ใช่คนโง่

รู้ว่าความผิดพลาดนี้หมายความว่ากระไร

ดูเหมือนเจ้านายเหล่านี้ทำให้สิบราชาต้องตายไป และพวกเขาต้องการฆ่าผู้คนอย่างแน่นอน

พวกหัวหน้าทั้งสองมองหน้ากันและกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเองเงียบๆ  พวกเขารู้สึกว่ามีทาสยังดีกว่าที่จะฆ่า  เพราะไม่มีทาสที่ภักดีอีกแล้ว เมื่อเทียบกับทาสที่ตายไปแล้ว

ขณะที่พวกเขากำลังจะกำจัดทาสแดนสวรรค์ที่น่าสงสารเหล่านี้ นกนางนวลที่ตัวเต็มไปด้วยโคลนสูดลมหายใจได้ในที่สุดและใช้ปีกประคองตัวยืนขึ้นโซซัดโซเซ แต่ในที่สุดมันก็หยุดนิ่งได้  สำหรับนกตัวน้อยที่พูดไม่ได้ตอนนี้ หัวหน้านักสู้แดนสวรรค์หลายคนรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขาผูกติดกับมัน

ถ้าราชาทั้งสิบมาถึงได้สำเร็จอย่างโชคดี อย่างนั้นพวกเขาคงมีความสุขเป็นธรรมดา

หากเหตุการณ์ไม่เกินเวลาที่กำหนด

อย่างนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องผลักดันความรับผิดชอบไปที่นักสู้หอทงเทียน  ต้องจับนกนางนวลตัวนี้ที่ไม่รู้ที่มาไว้ แล้วรายงานเบื้องสูงว่านี่คือการส่งสารของราชาองค์หนึ่งที่ถูกโจมตีในมิติทางผ่าน

“จับเจ้าตัวเล็กนี่ซะ”  หัวหน้าหัวสิงห์ส่งสัญญาณให้สหายเขาอย่าปล่อยนกน้อยช่วยชีวิตพวกเขาให้หนีไป  มิฉะนั้นทุกคนเป็นอันจบกัน

“จับมารดาเจ้าเถอะ!”

เสียงสตรีดังขึ้นจนทุกคนในกลุ่มตะลึงว่าใครเป็นคนพูด

ดูเหมือนจะเป็นนกนางนวลน้อยที่เกือบตายเป็นผู้พูดหรือเปล่า?   เจ้าตัวเล็กนี้พูดได้หรือ? อ๊ะ..ถ้ามันพูดได้อย่างนั้นทุกคนจบกัน  ไม่ว่ามันจะเป็นนกอสูรของสิบราชาหรือไม่ก็ตาม ตราบใดที่มันสามารถพูดได้ เมื่อถูกถามถึงเรื่องดังกล่าวข้างต้น  เรื่องต่างๆ จะชัดเจน จากนั้นความรับผิดชอบนี้จะไม่ถูกผลักดันออกไป สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือถ้ามันเป็นนกของราชาผู้ใดผู้หนึ่ง  แม้ว่าเจ้าของของมันจะประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณเพราะความผิดพลาดนี้  กลุ่มของเขาจะต้องตาย  และตายในเงื้อมมือของนักสู้ระดับราชาผู้โกรธกริ้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.. หัวหน้าหัวสิงห์และสหายมองดูหน้ากันเองสองสามครั้ง  และพบว่าทุกคนดูเหมือนคนตาย  เขาติดสินใจอย่างรวดเร็วโบกมือและชี้ไปที่นกนางนวลสายลมที่อ่อนแรงตัวนี้  “ฆ่านกนี้ให้ตาย ดีกว่าปล่อยให้มันมีชีวิต มีแต่นกตายเท่านั้นที่จะไม่พูดเรื่องไร้สาระ!”

“พวกเจ้านั่นแหละคือนกตาย เจ้าหัวส้อมงี่เง่า!”  อสูรนกนางนวลสายลมย้อนด่าหัวหน้าหัวสิงห์ทันควัน ทันใดนั้นมีคัมภีร์อัญเชิญเงินปรากฏขึ้นในอากาศและในท้องฟ้ามีโล่ม่านพลังกางขยาย ฮิปโปขาวตัวน้อยบินลงพื้นและวิ่งเข้ามาหานกนางนวลพลางสูดดม

“เฮ้, เจ้ามีคัมภีร์อัญเชิญด้วยหรือ? และยังเป็นคัมภีร์เงินด้วย!”  หัวหน้าหัวสิงห์และคนอื่นๆ งงงวยสงสัยว่ากำลังฝันไปหรือไม่  นกนางนวลน้อยมีคัมภีร์อัญเชิญชั้นเงิน สำหรับนักรบแดนสวรรค์นั้นไม่เคยเห็นคัมภีร์อัญเชิญมานานถึงร้อยๆ ปี!  ในแดนสวรรค์ มีนักรบเป็นล้านๆ คนที่ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ นึกไม่ถึงเลยว่านกตัวหนึ่งจะทำสัญญากับคัมภีร์ได้สำเร็จ

ฟ้าไม่ยุติธรรมเกินไปหรือเปล่า?

และคัมภีร์ภีร์อัญเชิญนี้ยังเป็นคัมภีร์เงิน  แม้แต่นักสู้ระดับราชาหลายคนก็ยังไม่มีสิ่งที่แสดงความก้าวหน้าขนาดนี้ แน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่แค่การอวดอ้าง

หัวหน้านักรบปราณฟ้าหลายคนเห็นแล้วอยากกระอักเลือดด้วยความอิจฉา

ขณะเดียวกันพวกเขารู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ

มีคัมภีร์อัญเชิญแล้วจะฆ่าได้อย่างไร?  ในพริบตามันสามารถหลบเข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญได้  อย่างนั้นเป้าหมายแรกนี้เล่า?

เมื่อพวกเขารู้สึกมึนงงมีแสงไฟอีกวับหนึ่งอยู่บนคัมภีร์เงิน และมีบุรุษหลายคนตัวคลุมไปด้วยเลือดและเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งยิ่งกว่าขอทานกระโดดออกมาจากความว่างเปล่า  และก่อนที่พวกเขาจะลงมายืนบนพื้น พวกเขาเห็นคนผอมโกรธเจ้าอ้วนที่ดูน่ารังเกียจอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าอ้วนถูกตบหน้าและกดลงพื้นโดยไม่พูดอะไร

พี่น้องฝาแฝดดูหน้าเหมือนกันรีบมาสมทบและทุบตีเจ้าอ้วนด้วย

เจ้าพวกนี้จะทำอะไรกัน?

หัวหน้านักสู้จากแดนสวรรค์หลายคนรู้สึกว่าความคิดของพวกเขาตามไม่ทัน!

พวกนี้เป็นใครกัน จู่ๆ มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?  ทำไมพวกเขาต้องทำร้ายกันเอง?  ถ้าคนเหล่านี้ผ่านช่องแยกมิติเวลามาได้โดยเทเลพอร์ตจากประตูสวรรค์ได้สำเร็จ  อย่างนั้นราชาทั้งสิบเล่า?  ราชาทั้งสิบไปอยู่ที่ไหน?

“ตีเขาเลย  เจ้าอ้วนบ้านี่ ข้าบอกแล้วว่าอย่าทะเลาะต่อสู้กันในช่องทางผ่านมิติ มันมีอันตรายอยู่แล้ว  ด้วยความแข็งแกร่งของเรา นับว่ายากจะผ่านไปได้ ทั้งที่ระมัดระวังแล้วก็ตาม  ข้าเกือบพบกับความตายแล้ว และข้ายังต้องทำการลอบโจมตีดังนั้นจึงต่อสู้ผ่านพ้นพื้นที่มิติทั้งหมดที่แทบจะพังทลายลง ถ้าไม่มีพลังบางอย่างนำทางพวกเราคงพินาศกันหมด…”   มีเท้าคู่หนึ่งยืนอยู่บนหาดทรายสูง หญิงสาวงดงามคนหนึ่งชี้หน้าเจ้าอ้วนไห่ตะโกนดุด่าอย่างโมโห

เด็กสาวคนนี้มาจากไหนกัน?

ทันใดนั้นหัวหน้านักสู้จากแดนสวรรค์ยืนมองตะลึง ตอนนี้ไม่ใช่มีแค่สตรีเปลือยเท้าเท่านั้น

ตอนนี้มีคนเพียงหกคนปรากฏตัวขึ้น คนอ้วน คนผอม พี่น้องฝาแฝดและบุรุษหนุ่มอีกสองคน  เมื่อทุกคนลงยืนบนพื้น พวกเขานั่งขัดสมาธิปรับลมหายใจทันที เมื่อทุกคนมองดูเห็นทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยบอบช้ำ  เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ยังคงรักษามาดนิ่งของสุภาพชนอยู่ได้ เด็กหนุ่มผู้สูงส่งนี้ดูเหมือนกับกุลบุตรจากตระกูลสูงส่ง

นอกจากทั้งหกคนนี้แล้วหญิงสาวสวยผู้มีปีกอยู่ด้านหลัง นางมาจากไหน?

“เฮ้, ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลย ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าเจ้าผู้นั้นซ่อนความแข็งแกร่งไว้ลึกล้ำเหลือเกิน!  ข้าคิดว่าทหารแดนสวรรค์ที่ถูกสังหารจำนวนมากไม่ใช่คนเลว  แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนที่ร้ายกาจระดับรองเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  ในความเป็นจริงข้าก็ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกโดยเจ้าผู้นั้น…  ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีใบหน้าที่สัตย์ซื่อถือมั่น และคาดไม่ถึงเลยว่าเขาพร้อมจะแปรพักตร์ลงมือ  และเขาก็มีความสามารถในการบิดเบือนมิติ   ข้าไม่ต้องการหาเรื่องตายจริงๆ  เจ้าคิดดู  ข้าอายุยังน้อย ยังหนุ่มแน่นและบริสุทธิ์ ยังไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิต แต่ว่าข้าถูกเขาหลอก!”  เจ้าอ้วนไห่ขอโทษหญิงสาวเท้าเปล่ามีปีก

“เจ้าให้ข้าพักก่อน!  ดีที่สุดรีบไปตายและรีบเกิดใหม่ซะ!”  สาวงามเท้าเปล่าใช้เท้าเตะเจ้าอ้วนตกน้ำ จนน้ำแหวกกระจาย

“เดี๋ยวก่อน  บอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”  หัวหน้านักสู้แดนสวรรค์หลายคนรู้สึกสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก

นี่มันสถานการณ์อะไร?

เรื่องเหลือเชื่อเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตพวกเขา  ทุกคนเพิ่งเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นครั้งแรก

พวกเขาสร้างวงเวทรูนโลหิตในเกาะน้อย ถ้ามีเวลามากขนาดนั้น พวกเขาจะทำอย่างนี้อีกได้อย่างไร?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด