Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ 1228 โรคระบาด

Now you are reading Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ Chapter 1228 โรคระบาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่  1228  โรคระบาด

ก่อนฝนดาวตกจะร่วงลงมา มีเสียงกระหึ่มกึกก้อง

 

ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงร่วงลงมากระแทกกับพื้น

กลุ่มดาวตกพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง

ห่อหุ้มร่างมังกรพิรุณ

รวมทั้งเย่ว์หยางที่ไม่สามารถดิ้นรนสู้กระแทกร่างกับพื้นพร้อมกัน

แรงเสียดสีของอุกกาบาตความเร็วสูงถูกเทพปีศาจเว่ยกวงเร่งเร้าให้เพิ่มมากขึ้นเกิดเป็นประกายไฟฟ้านับพันสายยาวตลอดทางเส้นทาง กลุ่มควันรูปดอกเห็ดม้วนตัวขึ้นท้องฟ้า แรงระเบิดแผ่กระจายกวาดไปทั่วพื้นโลก

แรงระเบิดส่งผลกระทบไกลเกินกว่ากฎสวรรค์จำกัดของขุนเขาเหนือขุนเขาจะรองรับได้ ไม่เพียงแต่ท้องฟ้าและพื้นโลกเท่านั้น แม้แต่มิติอวกาศก็แตกเปิด เกิดหลุมดำขนาดใหญ่และกลืนกินทุกอย่างเข้าไปข้างในหลุมดำ ไม่ต้องพูดถึงทุกอย่างในหลุมดำเท่านั้นแม้แต่แรงระเบิดที่อัดกระแทกลงมาจากท้องฟ้าก็ไม่สามารถหนีแรงดึงดูดของหลุมดำไปได้ ไม่ว่าจะเป็นประกายสายฟ้า อุกกาบาต ควันหนา หรือแม้กระทั่งเสียงระเบิดทั้งหมดหายเข้าไปภายในหลุมดำที่อยู่ระหว่างโลกและสวรรค์

เงียบสงัด

แต่โลกทั้งใบเหมือนพบจุดจบ

หลุมดำกราดเกรี้ยวเหมือนสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งดูดกินทุกอย่างเข้าไปในปากยักษ์ของมัน

ยกเว้นมังกรพิรุณเท่านั้นที่สามารถดิ้นรนหลบหลีกจากพลังทำลายล้างโลกอย่างสมบูรณ์ได้…. มังกรพิรุณบินวนไปโดยรอบเส้นทางดึงดูด ขณะต่อต้านแรงดึงดูดของหลุมดำพลางหลบหลีกหินศิลาขนาดมหึมาที่อยู่ดึงดูดผ่านเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้เย่ว์หยางนั้นเวียนหัวมาก ถ้าไม่ได้รับการคุ้มครองปกป้องจากมังกรพิรุณ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านรับพลังโจมตีที่ชั่วร้ายของร่างอวตารเทพปีศาจเว่ยกวง มีอุกกาบาตและมังกรพิรุณคอยกำจัดผลกระทบใหญ่ออกไป เย่ว์หยางยังคงรู้สึกว่าสมองว่างเปล่าอยู่เป็นเวลานาน ไม่สามารถฟื้นฟูสติขึ้นมาอย่างเต็มที่ได้

แน่นอนว่านั่นเป็นผลกระทบจากจิตสำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวง

เทพปีศาจเว่ยกวงใช้สำนึกเทพของนักสู้ระดับเทพ

สู้กับเย่ว์หยางตลอดเวลา

หลุมดำปรากฏเร็วและหายไปอย่างรวดเร็ว

กฎสวรรค์ขุนเขาเหนือขุนเขาแห่งหุบเขาโลกธาตุไม่ยอมให้การระเบิดครั้งนั้นพังทลายตัวมันอย่างเด็ดขาด หลุมดำหดตัวและหายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า ในที่สุดก็หายไปไม่เหลือร่องรอยราวกับว่าไม่เคยปรากฏมาก่อน

เห็นแต่พื้นโลกที่ถูกหลุมดำกลืนกินเข้าไปมีช่องว่างขนาดใหญ่ที่ดูน่าตกใจ

เทพปีศาจเว่ยกวงฟาดเย่ว์หยางและมังกรพิรุณด้วยพลังเทพและด้วยกำปั้นที่ไม่มีนิ้วโป้งอัดกระแทกลงกับพื้น

ขณะนั้นท้องฟ้าทรุดตัวลงพื้นแผ่นดินเว้าแหว่งหายยาวเกือบพันกิโลเมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ว่างโดยรอบพังทลายมีควันคุกรุ่น มังกรพิรุณกำลังดิ้นรนและมองเห็นได้เพียงแต่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเปลวเพลิง และจากโดนฟาดลงกับพื้น ในท้องฟ้าฝ่ามือพลังเทพที่นิ้วหัวแม่มือหายไปยังคงอยู่และกดอัดลงมาที่เย่ว์หยางและมังกรพิรุณ.. ภูเขาและแม่น้ำถูกป่นทลายเป็นผุยผง แต่วินาทีต่อมาก็กลับมารวมตัวภายใต้สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงกลายเป็นหินและภูเขาโคลน… มือยักษ์ของร่างอวตารกวาดเอาภูเขารอบๆ และกดลงบนหัวของเย่ว์หยางที่อยู่ในหลุมลึก

ไม่เพียงเท่านั้น

เทพปีศาจเว่ยกวงควบคุมมือทั้งสองของเขาบิดศีรษะร่างอวตาร

เขามีอีกแผนหนึ่งคือทิ้งศีรษะที่ถูกฝนดาวตกของกลุ่มดาวราชสีห์อัดกระแทกใส่ และให้ฝนดาวตกกลุ่มดาวราชสีห์ฝังเจ้านายของมัน มังกรพิรุณและเย่ว์หยางจะถูกฝังอยู่และผนึกไว้ที่ด้านล่าง

ครืนนนน ศีรษะร่างอวตารถูกบิดแยกออกจากร่าง

เทพปีศาจพบอย่างคาดไม่ถึงว่ากลุ่มดาวตกของดาวราชสีห์ไม่ได้อยู่บนหัวของร่างอวตาร

มันอยู่ในร่างยักษ์ที่เขาถอนดึงกลับมา ซึ่งหมายความว่าฝนดาวตกราชสีห์เป้าหมายโจมตีของฝนดาวตกก็คือสำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวง แทนที่จะเป็นร่างอวตารขนาดใหญ่เหลือเชื่อ ขณะที่เทพปีศาจเว่ยกวงตกตะลึง สายเกินกว่าที่เขาจะค้นพบว่าปราณกระบี่ได้ทำเครื่องหมายไว้ที่จิตสำนึกเทพของเขาได้อย่างไร ร่างของเขาถูกกระแทกลงทันทีร่างอวตารขนาดมหึมาที่ไม่มีหัวสูญเสียการควบคุมร่างสูงใหญ่หลายหมื่นเมตรพลันร่วงล้มลง

ท้องฟ้าทั่วขุนเขาเหนือขุนเขาพลันมืดมิดกะทันหัน

และถ้าปล่อยให้ร่างขนาดดวงดาวกระแทกลงมา ไม่รู้ว่าขุนเขาเหนือขุนเขาจะล่มสลายพังทลายหรือเปล่า

มังกรพิรุณเร็วกว่าเทพปีศาจเว่ยกวงเจาะทะลวงออกมาจากภูเขายักษ์โคลนที่เกิดจากพลังบีบอัดของปีศาจเว่ยกวง มันตอบโต้ภายใต้พลังเจตจำนงสูงสุดของเย่ว์หยาง

“เป็นเด็กหนุ่มโดดเด่นที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ข้านึกไม่ถึงเลยว่าหอทงเทียนจะมีเด็กยอดเยี่ยมเหมือนเสี่ยวจี ทั้งที่อายุยังน้อยก็ยังกล้าประลองต่อสู้กับเทพปีศาจเว่ยกวง ฮึ… จะฆ่าเด็กน่ารักอย่างเจ้าข้ายังลังเลใจอยู่บ้าง!  เราผู้เฒ่าอยากดูว่าเจ้าหล่อสง่างามขนาดไหน  หากทำให้เราผู้เฒ่าพอใจได้อาจจะขอให้เจ้าตำหนักผู้สูงสุดไว้ชีวิตเจ้าก็ได้ ทั้งจะยอมรับเจ้าไว้เป็นยามเฝ้าประตู!”  จิตสำนึกของเทพปีศาจเว่ยกวงส่งข้อความเข้ามาถึงใจของเย่ว์หยาง และในท่ามกลางความมึนงงอยู่ในทะเลความรู้ ความคิดของเขาเหมือนถูกคลื่นฟ้าผ่าระเบิดใส่

“ใครกัน?”  เย่ว์หยางตกใจ มันยากลำบากกับการรับมือเทพปีศาจเว่ยกวงพออยู่แล้ว ตอนนี้กลับมีปีศาจเฒ่าที่ไหนแทรกแซงเข้ามาอีก

“ออกมาจากหุ่นน้อยตัวนี้ให้เราผู้เฒ่าดู อย่ามัวเสียมารยาท ครอบครัวเจ้าไม่ได้สอนมารยาทให้เจ้าหรือ?”  มีเงาดำที่ไม่รู้ปรากฏออกมาจากไหน  สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงกับเย่ว์หยางกำลังต่อสู้กัน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันตกลงบนหัวของมังกรพิรุณทันที

มีแสงสีดำแปลกประหลาดยิงออกมา

เย่ว์หยางที่แต่เดิมผสานร่างกับมังกรพิรุณกระเด็นออกมาจากปากมังกรอย่างคาดไม่ถึง

มังกรพิรุณพอสูญเสียสำนึกของเย่ว์หยางคอยควบคุมก็ไม่ได้รับพลังสนับสนุนจากเย่ว์หยางก็ไม่สามารถต้านพลังกดดันของเทพปีศาจเว่ยกวง  นอกจากนี้ยังมีร่างเงาปริศนาที่ไม่รู้ว่าใช้วิธีใด  มังกรพิรุณ 108 กิโลเมตรตกลงไปบนพื้นหิน แม้พยายามดิ้นรนก็ยังหลบหนีไม่ได้

เย่ว์หยางไม่มีเวลาตอบโต้ก็พบว่าอสูรประหลาดเข้ามากัดเขา

หลังจากหลบพ้นอันตรายเขาตกใจเมื่อพบว่า

อสูรประหลาดกลับกลายเป็นฟันเลื่อยคู่หนึ่งที่กำลังอ้าปากใกล้เข้ามา

มันบินพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วราวอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้าและตกลงบนภูเขาข้างหน้า มันงับภูเขาหายไปเป็นคำๆ ร้ายกาจยิ่งกว่าหลุมดำ

มันคือตัวอะไรกัน?

แล้วมันมีรูปร่างเหมือนฟันปลอมได้อย่างไร?

และนอกจากนี้ อสูรศึกเช่นนี้วิวัฒนาการมาถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร?

เย่ว์หยางค้นไม่พบเจอเห็นผล และเงาร่างหนึ่งยิงแสงเขียวชั่วร้ายตรงมาที่ร่างของเย่ว์หยาง

“อันตราย” เย่ว์หยางไม่ได้ใช้พลังป้องกันการโจมตี แต่ใช้การเทเลพอร์ตผ่านมิติหลบห่างออกไปหมื่นเมตร แต่แสงเขียวไปปรากฏล่วงหน้าเย่ว์หยางอย่างผิดกฎธรรมชาติโดยมิอาจบอกได้

มีภูเขาด้านหลังถล่มครืนราวกับว่ามีมือเทพเจ้าทำลาย

เขาพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง

ราวกับว่ามีมือเทพผลักเขาจากด้านหลัง

ในขณะที่กลุ่มแสงสีเขียวโจมตีเย่ว์หยางก็ทำลายภูเขาพังทลายหลังจากเย่ว์หยางเปลี่ยนตำแหน่ง

ที่ด้านหน้าของเย่ว์หยาง ภูเขาที่สลับตำแหน่งกับเขากลายเป็นมีเชื้อโรคลามระบาด เย่ว์หยางกลัวแทบปัสสาวะราด ถ้าเขาถูกโรคลามใส่ เทพปีศาจเว่ยกวงคงตบเขาตายในคราวเดียว

นี่เป็นการโจมตีที่ชั่วร้ายอำมหิต!

เป็นแค่มนต์ดำ!

“เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ!  กล้าทำตัวไม่สุภาพต่อหน้าเราผู้เฒ่าเชียวหรือ?  ข้าคิดว่าเจ้าสามารถใช้พลังทำลายยอดเขาได้หลายลูก ที่แท้เด็กน้อยเจ้าเรียนรู้พลังดวงดาวได้นิดหน่อยเท่านั้น ดูซิว่าจะทำหยิ่งอะไรได้อีก!”  เงาดำสลายกลายเป็นกลุ่มแสงสีเขียวปรากฏบนพื้นนับหมื่น

“แย่แล้ว!”  เย่ว์หยางไม่กลัวสิ่งใดในโลกหรือสวรรค์ ไม่กลัวบาดแผล ความเจ็บปวด  แต่กลัวถูกเชื้อโรคลามระบาด

กลุ่มแสงสีเขียวลามระบาดอย่างนี้เขาจะซ่อนตัวได้อย่างไร?

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเทพปีศาจเว่ยกวงใช้พลังเทพกดดันเต็มที่และทั้งโลกเหมือนกับมีเหล็กถ่วงด้วยพลังเจตจำนงของเขา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเทเลพอร์ตได้อย่างง่ายดาย

เย่ว์หยางยิงระเบิดดวงดาวกระจายเปลวไฟเต็มฟ้า

แต่น่าเสียดาย….

เจ้าอสูรฟันปีศาจไม่รู้ว่าบินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ดาวระเบิดในท้องฟ้าถูกมันกลืนกินไปหมด

หากเย่ว์หยางซ่อนตัวไม่เร็วพอ เขาอาจถูกอสูรฟันปีศาจที่น่ารังเกียจกินลงไปก็ได้  ท้องฟ้าเต็มไปด้วยกลุ่มแสงสีเขียวที่ติดตามเย่ว์หยางโดยอัตโนมัติ  เย่ว์หยางไม่ได้กลัวแสงสีเขียวถ้ามันคือตัวแทนสภาพแวดล้อมสีเขียวงดงาม แต่นี่มันคือเชื้อโรคที่ร้ายกาจ

ปีศาจเฒ่านี่โผล่ออกมาจากไหนกัน?

มีความสัมพันธ์ใดกับเทพปีศาจเว่ยกวงและจีอู๋ลี่?

ขณะที่เย่ว์หยางรู้สึกว่าเวลานี้เขาจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ได้อย่างไร คนที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบเห็นในสถานการณ์เช่นนี้กับโผล่ออกมา

สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์

ไม่นะ

พูดให้ถูกก็คืออดีตเทพธิดาแห่งความโชคร้ายแพนดอราผู้รวมวิญญาณกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์!

ปกติแพนดอราจะไม่เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ของเย่ว์หยาง ไม่ว่าการต่อสู้นั้นจะรุนแรงเพียงไหน นางไม่อยากเข้ามาแทรกแซง  นางรู้สึกว่านี่จะเป็นผลกระทบต่อความก้าวหน้าเติบโตของเย่ว์หยาง  อย่างไรก็ตามวันนี้นางปรากฏตัวโดยมิคาดคิด และนางเต็มไปด้วยความโกรธ!

“นางแม่มดเฒ่าชั่วร้าย บังอาจขโมยพลังของพี่สาวข้า!”  แพนดอราปรากฏร่างที่ด้านข้างเย่ว์หยางและชี้นิ้วไปที่ร่างเงา

“อย่าเพิ่งโมโหเรื่องนี้ แก้ปัญหากลุ่มแสงเขียวเหล่านี้ก่อน… เจ้าคลี่คลายมันได้ไหม?” เย่ว์หยางรีบห้ามแพนดอราไม่ให้โมโห ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาด่าว่าคนอื่นไม่งั้นทั้งคู่จะกลายเป็นติดโรคระบาด  ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงสีเขียว ค่อยๆ เข้ามาใกล้จนทั้งสองแทบจะโดนแสงโรคระบาดใส่

“วิชาโรคระบาดแบบนี้ แต่แค่ไหนกันเชียว?”  แพนดอราดูถูกเหยียดหยาม คำรำพึงของนางทำให้เย่ว์หยางมีความสุข  แต่น่าเสียดาที่คำพูดต่อมาแทบทำให้เย่ว์หยางอยากฆ่าตัวตาย เพราะแพนดอราสับสนเอามือเกาหลังศีรษะ “วิธีแก้ปัญหาพลังโรคระบาดนั้นง่ายมาก แต่ข้านึกไม่ออก ความทรงจำตรงช่วงกลางมันขาดหายไป คงจะดีถ้าพี่สาวข้าอยู่ด้วย ไม่ว่าคลื่นพลังนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม!”

“ใครคือพี่สาวเจ้า?”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก และตอนนี้สายเกินกว่าจะเรียกพี่สาวของนางมาช่วยชีวิตนาง  ตอนนี้ต้องหาวิธีแก้ปัญหาก่อน

“พี่สาวข้าหรือ?”  สีหน้าของแพนดอรายิ่งดูสับสนมากขึ้น และผมของนางยุ่งเหยิงด้วยความหงุดหงิด  “ทำไมข้าถึงจำไม่ได้ว่าข้ายังมีพี่สาวอยู่?  ข้าอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือ?”

“เจ้าจงใจออกมากวนใจข้าหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางไม่รอให้นางพูด เขารู้ว่าสาวนางนี้ความทรงจำไม่ดี  และทั้งสองยังทำเรื่องไร้สาระกันอยู่!

“ไม่ ไม่ใช่ นายท่าน ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจออกมากวนใจท่าน!”  สาวใช้ผู้น่าสงสารได้รีบถือโอกาสออกจากทะเลจิตสำนึกพูดก่อนแพนดอราแสดงให้เห็นถึงความภักดีของนาง  “ข้าน้อยห่วงนายท่านดังนั้นจึงขอให้แพนดอราออกมาช่วย  ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”

“เฮ้ออ”  เย่ว์หยางรู้สึกสับสน  แพนดอราความทรงจำเสื่อมไม่หวังพึ่งอะไรได้ แต่สาวใช้น้อยออกมาร้องไห้สำนึกผิด เขาปวดหัวจริงๆ

กลุ่มแสงเขียวถูกนำมาโดยเจตจำนงของร่างเงา

และคลุมรอบตัวเย่ว์หยางและสาวใช้เอลฟ์

เป็นปริมาณนับหมื่นนับพันจุด

อย่าว่าแต่ป้องกันเลย แค่ต้องการจะหลบหนียังทำไม่ได้ สุดท้ายเย่ว์หยางกอดสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ตะโกน “เปิดประตูหน่อย ข้ามาเก็บค่าเช่า!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด