Long Live The Hokage 24 : กระดิ่ง

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 24 : กระดิ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในหมู่บ้าน ตระกูลซารุโทบิ

เมื่อมาถึง มาซาฮิโกะ และ ฮาชิรามะ ก็ได้รับเชิญให้ไปที่ห้องประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรของพวกเขา และแน่นอนว่า มาซาฮิโกะ รู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก

พวกเขาคุยกันอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ไปถึงเรื่องกลยุทธ์การทำสงครามเสียที พวกเขายังคงพูดถึงแต่การแบ่งผลประโยชน์ที่จะได้หลังจบสงครามอย่างไม่จบไม่สิ้น

เดิมที มาซาฮิโกะ ก็ไม่ชอบฟังการถกเถียงของพวกเขาอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินออกไปด้านนอกเพื่อไปสูดอากาศบริสุทธิ์

หมู่บ้านของ ตระกูลซารุโทบิ ไม่ได้เล็กมาก แม้ว่ามันจะยังเทียบไม่ได้กับ หมู่บ้านตระกูลเซนจู แต่มันก็ไม่ได้เล็กไปกว่า หมู่บ้านตระกูลคางูยะ เลย

และเมื่อพูดถึง ดินแดนทางตะวันตกของแคว้นแห่งไฟ แล้ว ที่นั้นมีประชากรอาศัยอยู่น้อยมากเพราะพื้นที่บริเวณนั้นไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์สักเท่าไรนัก

“ก็ช่วยไม่ได้แหละนะ ก็ที่นี่มันอยู่ใกล้กับ แคว้นแห่งลม นี้น่า มันเลยทำให้พื้นที่แถวนี้เกือบจะกลายเป็นทะเลทรายไปสะหมด”

เมื่อเขาเดินคิดเรื่องเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทันใดนั้นเขาก็พบว่าตัวเองหลงทางอยู่ในเขตที่พักอาศัยที่ไหนสักแห่งแล้ว

ที่นี่เขาพบกับวัยรุ่น 2 คน ที่กำลังฝึกซ้อมกันอยู่

พวกเขามีอายุประมาณ 12 ปี ซึ่งเท่ากับอายุตอนที่ นารูโตะ จบการศึกษาจากโรงเรียนนินจา แต่พวกเขาเป็นนินจาระดับ โจนิน แล้ว

มาซาฮิโกะ มองดูพวกเขาและรู้สึกทั้งสับสนและโล่งใจ หากไม่ใช่เพราะระบบพิเศษและแต้มการเข้าร่วมของเขา ป่านนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะเท่ากับเด็กชายเหล่านี้ ในตอนที่เขาอายุ 49 ปีอย่างแน่นอน

“เด็ก ๆ ที่เป็นอนาคตของโลก…” มาซาฮิโกะ พึมพำกับตัวเอง

เมื่อได้ยินเสียงของ มาซาฮิโกะ เด็กทั้ง 2 ก็หยุดฝึกและมองมาที่ มาซาฮิโกะ ด้วยสีหน้าที่สับสน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่มีผมสีแดง

พวกเขาคนหนึ่งถามขึ้นมากด้วยความลังเลว่า “คุณลุงครับ…ผมเคยได้ยินคนพูดกันว่า คนของตระกูลอุซึมากิ จะมีผมสีแดง…ลุงเป็นคนของ ตระกูลอุซึมากิ เหรอครับ?”

เมื่อเด็กหนุ่มเรียก มาซาฮิโกะ ว่าลุง เขาก็รู้สึกดีใจและมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะแม้ว่าการได้อยู่กับเด็ก ๆ ตระกูลเซนจู จะทำให้เขารู้สึกดี แต่พวกเขาก็ชอบมองเขาว่าเขาเป็นคนแก่ และเรียกเขาว่า ปู่ อยู่เสมอ

“ตาเฉียบแหลมมาก เจ้าหนู!” มาซาฮิโกะ ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงยกย่องเด็กหนุ่มคนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเด็กคนนั้นรู้ว่าเขาเป็น อุซึมากิ หรือเพราะเด็กคนนั้นเรียกเขาว่าลุงกันแน่

เด็กชาย 2 คนมองหน้ากันและกัน และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไม มาซาฮิโกะ ถึงดูมีความสุขมากขนาดนั้น

จากนั้นเด็กชายอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า “คุณลุงครับ…ลุงมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”

“โอ้ เปล่า ๆ” มาซาฮิโกะ ยิ้มและพูดว่า “ฉันแค่มาเที่ยวเฉย ๆ…เอ้อเอางี้ดีไหม? ฉันจะช่วยพวกเธอฝึกเอง ฉันจะทำให้พวกเธอแข็งแกร่งขึ้น…ลองดูนี้…”

“กระสุนวงจักร!” มาซาฮิโกะ ใช้คาถาออกมาและกดมันลงกับพื้นจนทำให้เกิดเป็นฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว

“เห็นวิชานี้ไหม? ฉันจะสอนให้…แต่มีข้อแม้…พวกเธอต้องแย้งกระดิ่งนี้จากฉันไปให้ได้สะก่อน” มาซาฮิโกะ พูดขณะชูกระดิ่งขึ้นมาให้เด็กทั้ง 2 คนดู ด้วยท่าทางที่ ซุกซน

เด็กชายมองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะมองไปที่หลุมขนาดใหญ่ที่ กระสุนวงจักร ทิ้งไว้ และรู้สึกตื่นเต้น หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็หันกลับมามองที่ มาซาฮิโกะ และพูดออกมาพร้อมกันว่า “ผมจะแย่งกระดิ่งนั่นจากคุณ!”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงพวกเขาก็เริ่มทันที แต่พวกเขาก็ไม่ได้พุ่งเข้าหา มาซาฮิโกะ โดยตรง แต่พวกเขากลับปาระเบิดควันออกมาและกระโดดเข้าไปซ่อนตัวในพุ่มไม้แทน

ดูเหมือนว่าเด็ก ๆ ในยุคก่อนสงครามจะมีความแข็งแกร่งกว่าในยุคของ นารูโตะ แต่แม้แต่คนตาบอดก็สามารถบอกได้ว่า มาซาฮิโกะ คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาและเขารู้วิธีการเคลื่อนไหวของพวกเขา

และ มาซาฮิโกะ ก็ไม่ใช่ คาคาชิ เขาคือ อุซึมากิ นั้นทำให้เขาสามารถตรวจจับศัตรูได้ แม้ว่าพวกเขาจะใช้พุ่มไม้เหล่านี้เป็นเครื่องกำบัง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาซ่อนตัวจาก มาซาฮิโกะ ได้เลย

แต่เพื่อรักษาน้ำใจและความมุ่งมั่นของเด็ก ๆ เอาไว้ มาซาฮิโกะ จึงแกล้งมองไปรอบ ๆ เพื่อทำเป็นมองหาพวกเขา เขาแกล้งทำเป็นมองไปทางนู้นทีทางนี้ที มองขึ้นไปบนฟ้าบ้าง…เมื่อเด็ก ๆ เห็นเขามองไปบนฟ้า พวกเขาก็รู้สึกมึนงง พวกเขาได้แต่คิดว่า “เขาจะมองขึ้นไปบนฟ้าทำไม เราไม่ใช้นกสะหน่อย…”

มาซาฮิโกะ ยังคงหยอกล้อต่อไป

แน่นอนว่า เมื่อมองเห็นการกระทำที่น่าสมเพชของ มาซาฮิโกะ เด็กชายก็คิดว่าพวกเขากำลังจะชนะ พวกเขาย้ายจุดซ่อนไปเรื่อย ๆ โดยคิดว่าพวกเขากำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

พวกเขาเล่นซ่อนหาอยู่เป็นเวลาประมาณ 10 นาที

“เอาละ พอได้แล้ว เสียเวลาเปล่า ๆ…ฉันเป็นนินจาตรวจจับ พวกเธอซ่อนตัวจากฉันไม่ได้หรอก”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของ มาซาฮิโกะ พวกเขาก็กระโดดออกมาจากพุ่มไม้และมองไปที่ มาซาฮิโกะ เพื่อมองหาช่องโหว่เพื่อที่จะเข้าโจมตีทันที

“เคน!” เด็กคนหนึ่งตะโกนออกมา

“เอาล่ะนะ!…คาถาลม : คลื่นสุญญากาศ!” เด็กอีกคนหนึ่งใช้คาถานินจาออกมา

ทันใดนั้น อากาศแรงดันสูง หลายเส้นก็พุ่งออกมาจากปากของเขา แล้วตรงเข้าหา มาซาฮิโกะ

มาซาฮิโกะ ตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบกระโดดหลบทันที

แผนตอนแรกของเขาก็คือการฝึกสอนเด็ก ๆ ด้วยกระดิ่งอันเดียว แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับความรวมมือเป็นอย่างดีขนาดนี้!

และ มาซาฮิโกะ ก็รู้สึกอายเล็กน้อยที่เขาเกือบจะหลบการโจมตีเมื่อกี้ไม่ได้ แต่ถึงเขาจะหลบการโจมตีได้ แต่กระดิ่งของเขาก็ถูก อากาศแรงดันสูง ตัดเชือกจนขาดและกระเด็นออกไปจาก มาซาฮิโกะ

เมื่อเด็กคนหนึ่งเห็นว่า มาซาฮิโกะ หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เด็กคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “คุณลุง แล้วลุงคิดว่าลุงจะรับมือกับเราทั้ง 2 คนพร้อมกันได้ไหมครับ?!”

มาซาฮิโกะ รู้สึกอยากจะร้องไห้กับการตัดสินใจของเขา จากนั้น มาซาฮิโกะ ก็ยกนิ้วให้ทั้งคู่แล้วพูดว่า “เด็กน้อย เป็นคำถามที่ดี แต่ถ้าคิดจะหยุดฉัน…แล้วเพื่อนของเธอใช้คาถานินจาในตำนานได้รึเปล่าละ หนูน้อยเทน?”

“นั่นไม่จำเป็น! และผมก็ชื่อ ชิมูระ เคน…ไม่ใช่ เทน!”

“อ๊ะ ขอโทษ…ขอโทษ…ฉันจะไม่เรียกผิดเป็นครั้งที่ 2 แน่นอน…เอาล่ะ ในเมื่อพวกเธอเอากระดิ่งของฉันไปได้ ฉันก็จะสอนวิชานั้นให้ก็แล้วกัน” มาซาฮิโกะ ยิ้มออกมา

เคน หันไปหาเพื่อนของเขาแล้วพูดว่า “ซาสึเกะ! เราจะได้ฝึกวิชานั้นแล้ว!”

“โอ้…” มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะยิ้มและมองไปที่พวกเขา

เด็กชายมองหน้ากันและดูสับสน พวกเขาได้แต่คิดว่า ลุงคนนี้แปลกมาก

“น่าสนใจ…ช่างวิเศษมาก เคน กับ ยาสุเกะ…พวกเธอทำให้ฉันนึกถึงใครสักคน” มาซาฮิโกะ พูด

“ลุงอุซึมากิ! เราจะเริ่มฝึกกันได้หรือยัง?”

“ฮิฮิ…ฉันชื่อ อุซึมากิ มาซาฮิโกะ จำไว้ให้ดีละ…”

เด็กชายอีกคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายว่า “ผมไม่ได้ชื่อ ยาสุเกะ! ผมชื่อ ซารุโทบิ ซาสึเกะ ต่างหากละครับ!”

“เอาล่ะ ๆ พวกเธอช่วยให้ฉันพ้นจากความเบื่อหน่ายนี่สักที เพราะฉันอยากจะสอนวิชานินจาให้พวกเธอเต็มแก่แล้ว” มาซาฮิโกะ ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับชื่อของ ซารุโทบิ ซาสึเกะ เป็นอย่างมาก แต่เขาก็จำไม่ได้ว่ามันมาจากไหน

ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการสอนทั้งคู่เกี่ยวกับเทคนิคพื้นฐานของ กระสุนวงจักระ

เด็กชายเริ่มฝึกฝนและ มาซาฮิโกะ ก็เดินไปที่อื่น หลังจากเขาเดินคิดถึงชื่อที่เขาคุ้นเคยไปสักพักหนึ่งเขาก็จำได้ในที่สุด

“ใช่แล้ว! ซารุโทบิ ซาสึเกะ!” มาซาฮิโกะ พูดออกมาในทันที “เขาคือพ่อของ ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น…โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 นี่เอง!”

“เดี๋ยวก่อน! นี่ฉันเปลี่ยนประวัติศาสตร์อีกแล้วหรือเปล่าเนี่ย?! แล้วเด็กผู้ชายที่นามสกุล ชิมูระ…”

“อ๊ะ…ช่างมันก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง”

มาซาฮิโกะ คิดอยู่พักหนึ่ง แต่เขาก็ยักไหล่และพูดออกมาว่า “เฮ้อ…ช่างมันก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง”

“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็จะต้องอยู่ที่นั่นตอนที่ลูกหลานของพวกเขาเกิดมา แล้วปัญหาทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไขในตอนนั้นเอง…”

มาซาฮิโกะ เดินเล่นอยู่นานและเขาไม่พบสิ่งที่น่าสนใจอื่นเลย ดังนั้นเขาจึงกลับไปดูเด็กชาย 2 คน ที่กำลังฝึกวิชา กระสุนวงจักร อยู่

เมื่อ มาซาฮิโกะ มองดูพวกเขาฝึกวิชา กระสุนวงจักร เขาก็นึกถึงความทรงจำที่คุ้นเคยในตอนที่ นารูโตะ ฝึกวิชา กระสุนวงจักร ขึ้นมา

แต่ทันใดนั้น โทบิรามะ ก็เดินเข้ามาหาเขาและพูดว่า “ท่านปู่ ท่านพี่ประชุมเสร็จแล้วครับ พรุ่งนี้เราจะไปที่เหมือง และคุ้มกันที่นั่นจากการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้น…แต่ตอนนี้ ผู้นำตระกูลซารุโทบิ ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้ให้พวกเราแล้ว ท่านพี่ให้ผมมาตามท่านไปร่วมงานครับ”

“ดีเลย ฉันกำลังหิวอยู่พอดี” มาซาฮิโกะ ลูบท้องของเขาและยิ้ม

ถึงแม้ว่าเด็ก 2 คนนี้จะเป็น ซารุโทบิ ซาสึเกะ และ ชิมูระ เคน แต่สำหรับ มาซาฮิโกะ แล้ว…อาหารนั้นสำคัญกว่า!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด