Long Live The Hokage 36

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 36 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การคัดเลือกยังคงดําเนินต่อไปตลอดทั้งเช้าของวันนั้นและในที่สุด มาซาฮิโกะ ก็คัดจนเหลือเด็กที่เข้ารอบเพียง 3 คนเท่านั้นจาก 11 คน เขามองดูเด็ก ๆ ที่เข้ารอบที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาและพยักหน้าด้วยความพอใจเล็กน้อย

 

ลูกศิษย์คนแรกคือเด็กหญิงอายุ 6 ขวบที่ร้องไห้ก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า ยูริโกะ ที่ มาซาฮิโกะ เลือกเธอก็เพราะเขาคิดว่าเธอความสามารถในการเรียนรู้สูง คุณสมบัติจักระของเธอเป็นธาตุลมและ ธาตุไฟ มันเป็นคุณสมบัติจักระที่เหมาะสมในการเรียนรู้วิชาของ มาซาฮิโกะ

 

ลูกศิษย์คนที่ 2 คือเด็กชายอายุ 8 ขวบ ชื่อ เคนชิโร่เด็กคนนี้มีความพยายามเป็นอย่างมาก มาซาฮิโกะ วางแผนที่จะสอนคาถาสายฟ้า และวิชากระบวนท่าให้เขา ซึ่งวิชากระบวนท่านั้นก็เป็นวิชากระบวนท่าลับเฉพาะของ โคโนฮะ ที่ไกใช้นั้นเอง

 

และลูกศิษย์คนสุดท้ายก็คือ นานาโกะ เด็กหญิงอายุ 11 ปี มาซาฮิโกะ ไม่คิดว่าเธอจะผ่านเข้ามาได้ แต่ นานาโกะ ที่ดูเหมือนจะรู้สึกประหม่าในตอนแรก เธอกลับสามารถตอบคําถามได้ถูกถึง 4 ข้อจาก 5 ข้อ ข้อเดียวที่เธอไม่สามารถตอบได้คําถามข้อสุดท้ายที่เป็นปัญหาเชา มาซาฮิโกะ วางแผนที่จะ สอนวิชาสะกด ให้เธอ เพราะ วิชาสะกด แตกต่างจากวิชานินจาอื่น ๆ มันต้องใช้ความสามารถทางสติปัญญาและจิตใจของผู้ใช้

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นทีม โคโนฮะ ที่มแรกก็ถือกําเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วสินะ!” มาซาฮิโกะ กําหมัดของเขาแล้วยกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“อะไรคือทีม โคโนฮะ ทีมแรกเหรอครับ ท่านปู่?” นานาโกะ ถามด้วยความมึนงง

 

“มีทีมที่ 2 ด้วยเหรอครับ ท่านปู่?” เคนชิโร่ถาม

 

“ท่านปู่มาซาฮิโกะ และ โคโนฮะ คืออะไรเหรอคะ?”ยูริโกะถาม

 

เมื่อเผชิญกับคําถามแบบนี้ มาซาฮิโกะ ก็เลือกที่จะเพิกเฉยต่อคําถามของเด็ก ๆ

 

“รู้แค่ว่าพวกเธอคือ ทีมแรกของโคโนฮะ ก็พอ แล้วในอนาคตพวกเธอจะเข้าใจเอง”

 

“ส่วนตอนนี้ ได้เวลาแล้วที่ฉันจะสอนคาถานินจาที่ทรงพลังให้พวกเธอ!”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เด็ก ๆ ทั้ง 3 คนก็ลืมคําถามก่อนหน้านี้ไปทันที และรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เรียน

 

“แต่ก่อนอื่น ฉันต้องรู้ก่อนว่าพวกเธอถนัดด้านไหนกันบ้างฉันจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะสอนอะไรต่อไป”

 

“หนูได้แค่วิชาพื้นฐานเองคะ ท่านปู่” ยูริโกะ ทําท่าเหมือนจะร้องไห้

 

วิชาพื้นฐาน หมายถึงความสามารถพื้นฐาน 3 อย่างที่นักเรียนนินจาที่ต้องมีนั้นก็คือ วิชาคาถาพื้นฐาน วิชากระบวนท่าพื้นฐาน และ วิชาลวงตาพื้นฐาน

 

“แค่นั้นก็ยอดเยี่ยมแล้ว ฉันจะสอนอย่างอื่นให้เธอก็แล้วกัน” มาซาฮิโกะ ผงกหัวและยิ้ม เขาคิดว่าถ้า นารูโตะ รู้ว่าเด็กผู้หญิงขี้แงคนนี้มีความเชี่ยวชาญในวิชาพื้นฐานตั้งแต่อายุ 6 ขวบเขาคงอยากจะฆ่าตัวตายแน่ ๆ…

 

“ผมทําวิชาพื้นฐานได้ แล้วก็ใช้คาถาสายฟ้าพื้นฐานได้ครับ” เคนชิโร่ ตอบอย่างภาคภูมิใจ

 

“ดีมาก คาถาสายฟ้า เหมือน ซาสึเกะ” มาซาฮิโกะพยักหน้า

 

มาซาฮิโกะ หันไปหา นานาโกะ

 

“แล้วเธอล่ะ?”

 

นานาโกะ ก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “หนูได้แค่วิชาพื้นฐานค่ะ”

 

มาซาฮิโกะ ยิ้มและไม่ดุเธอแต่อย่างใด

 

“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะสอนบางอย่างที่น่าสนใจให้พวกเธอ…”

 

มาซาฮิโกะ เหลือบมองไปที่เด็ก ๆ เล็กน้อยและเห็นว่าทั้ง 3 คน กําลังตั้งตารอสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “เทคนิคการใช้ดาวกระจาย!”

 

ทันใดนั้นเด็ก ๆ ก็แสดงใบหน้าที่มีนงงออกมาและเริ่มสงสัย ในสิ่งนี้ เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา

 

“มันจะเป็นบทเรียนแรกของพวกเธอ แล้วก็อย่าฝันที่จะได้เรียนวิชานินจาที่ยิ่งใหญ่ถ้าไม่ชํานาญวิชาพื้นฐาน!”

 

มาซาฮิโกะ นําหุ่นเล็งเป้าออกมา 3 ตัวแล้วพูดกับเด็กๆ ว่า “ดูให้ดี ถ้าพวกเธอทําแบบที่ฉันทําได้ฉันก็จะสอนอย่างอื่น

 

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว มาซาฮิโกะ ก็หยิบดาวกระจายออกมา 3 อัน แล้วถือไว้ในมือขวา จากนั้นก็ขว้างพวกมันออกไปพร้อมกัน ดาวกระจายทั้ง 3 อัน พุ่งตรงไปยังหุ่นเล็งเป้าและปักเข้ากลางลําตัวหุ่นเล็งเป้าอย่างแม่นยํา

 

“และฉันก็จะสอนพวกเธอไม่เหมือนกัน”

 

“ยูริโกะ ถ้าเธอผ่านการฝึกใช้ดาวกระจายนี้คือสิ่งที่ฉันจะ

สอนเธอ”

 

มาซาฮิโกะ พา ยูริโกะ เดินไปยังพื้นที่โล่งจากนั้นเขาก็ประ สานอินอย่างรวดเร็ว “มะเส็ง -> มะแม -> วอก -> กุน – มะเมีย -> ขาล , คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิงยักษ์!” 3600

ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็ปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาและขึ้นฟ้าไป

 

ยูริโกะ ทําหน้าตกใจ มาซาฮิโกะ จึงพูดว่า “ตอนนี้เธอยังทําลูกไฟแบบนี้ไม่ได้หรอก จักระเธอยังไม่พอ ฉันแค่อยากให้เธอจําลับดับอินนี้เอาไว้ มันต้องประสานอินถึง 6 ลําดับอินและฉันต้องการให้เธอทําทั้งหมดให้ได้ภายใน 2 วินาที แต่ตอนนี้ไปฝึกขว้างดาวกระจายได้ชํานาญก่อน เข้าใจไหม?”

 

ยูริโกะ พยักหน้า “ค่ะ ท่านปู่”

 

“เฮ้..ต่อไปนี้ให้เรียกฉันว่าอาจารย์ก็แล้วกันเข้าใจไหม? เอาละ กลับไปฝึกขว้างดาวกระจายได้แล้ว แล้วก็เรียกเคนชิโร่ มาหาฉันด้วย”

 

“ได้ค่ะ อาจารย์” ยูริโกะ พยักหน้าจากนั้นเธอก็เดินกลับไปและเรียก เคนชิโร่ ให้ไปหา มาซาฮิโกะ

 

“เคนิชิโร่ ความพยายามของเธอนั้นเยี่ยมมาก เหมาะกับการเรียนวิชากระบวนท่า มีวิชากระบวนท่ามากมายที่เธอสามารถเรียนรู้ได้ แต่ก่อนอื่นในตอนที่ฝึกขว้างดาวกระจายเธอต้องใส่ทุ่นถ่วงน้ําหนักทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าถ่วงน้ําหนักหรือกําไลถ่วงน้ําหนักก็ตาม มันจะทําให้เธอก้าวข้ามขีดจํากัดของตัวเองได้” มาซาฮิโกะ พูด “แล้วเดี๋ยวฉันจะไปที่โรงตีเหล็กเพื่อทําทุ่นถ่วงน้ําหนักให้เธอ”

 

“เข้าใจแล้วครับ อาจารย์” แต่หลังจากนั้น เคนชิโร่ ก็เงยหน้าขึ้นแล้วถาม มาซาฮิโกะ ว่า “แต่ อาจารย์การก้าวข้ามขีดจํากัด มันคืออะไรเหรอครับ?”

 

“การก้าวข้ามขีดจํากัดของตัวเอง เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย เป้าหมายหลักของการฝึกนี้อการผลักดันศักยภาพของเธอให้ไปได้สูงกว่าขีดความสามารถของเธอเอง เมื่อเธอถึงขีดจํากัดของเธอ เธอต้องทําลายมันด้วยการท้าทายที่สูงกว่าขีดจํากัดนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือต้องฝึกให้หนักขึ้นเรื่อย ๆ มันจะทําให้การฝึกของเธอเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้สุดกําลังเพื่อที่จะได้พัฒนาขึ้น พรสวรรค์ของเธอคือความเพียรพยายามและนั่นคือสิ่งที่จะทําให้เธอเป็นอัจฉริยะได้เช่นกัน!”

 

“นินจาผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเคยพูดเอาไว้ เธอจงจําไว้ให้ดี” มาซาฮิโกะ อธิบายอย่างจริงจัง

 

และนั่นคือคําพูดของ ไมโตะ ไก

 

เคนชิโร่ เหมือนจะเข้าใจและพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ อาจารย์!”

 

“โอเค กลับไปฝึกได้แล้ว แล้วก็เรียก นานาโกะมาหาฉันที่”

 

2 นาทีต่อมา นานาโกะ ก็เดินมาและยืนอยู่ตรงหน้าของ มาซาฮิโกะ

 

มาซาฮิโกะ มองไปที่เธอจากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่ความคิดเชิงตรรกะของเธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ คําถามของฉัน 5 ข้อ เธอตอบได้ถึง 4 ข้อ นับว่าเป็นความสามารถที่เยี่ยมมาก”

 

นานาโกะ ยิ้มอย่างเขินอาย “คําถาม 4 ข้อแรกเป็นคําถามเกี่ยวกับถังและน้ํา แล้วทุกวันหนูก็ต้องเอาน้ําใส้ถึงเพื่อทําความสะอาดบ้าน…”

“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว นั้นสินะเหตุผล” สีหน้าของ มาซาฮิโกะ เปลี่ยนไปและดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจ เขารู้สึกว่าที่ นานาโกะ ตอบคําถามได้ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอทําอยู่ประจํา แต่มาซาฮิโกะ ก็คิดว่าเขาควรจะให้โอกาสเธอได้พิสูจน์ตัวเองก่อน

 

“เอาล่ะ ไม่สําคัญว่าที่ผ่านมาจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธอ เป็นลูกศิษย์ของฉันแล้ว และในเมื่อทักษะด้านนินจาของเธอไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไร ดังนั้นเธอจึงต้องเรียนรู้ วิชาสะกดกับฉัน” มาซาฮิโกะ หยิบม้วนกระดาษออกมาแล้วพูดต่อว่า “นี่คือวิชาสะกด ของตระกูลเรา มันเป็นพื้นฐานและรากฐา นของวิชาสะกด เธอจะได้เรียนรู้และเริ่มฝึกมันหลังจากนี้”

 

“แต่ตอนนี้ กลับไปฝึกขว้างดาวกระจายได้ชํานาญก่อน”

 

มาซาฮิโกะ ให้คําแนะนํากับลูกศึกษาของเขาทีละคนจนครบจากนั้นเขาก็กลับไปที่สนามฝึกซ้อมขว้างดาวกระจายเขานั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่งและเฝ้าดูลูกศิษย์ฝึกซ้อมจากระยะไกล

 

แน่นอนว่าสนามฝึกส่วนที่ 4 มีผู้คนมากมายฝึกฝนอยู่ที่นั่นเด็ก 8 คนที่ไม่ได้รับเลือกก่อนหน้านี้ก็กําลังฝึกอยู่ที่นั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาฝึกอย่างหนักเพื่อแสดง ความพยายามโดยหวังว่ามาซาฮิโกะ จะให้โอกาสพวกเขา

 

นอกจากเด็ก ๆ เหล่านี้แล้วยังมีอาจารย์และลูกศิษย์จากกลุ่มอื่นๆอยู่ด้วยเช่นกัน พวกเขาให้ความสนใจกับคําสอนของมาซาฮิโกะ แต่หลังจากดูไปสักพักพวกเขาก็ไม่พบสิ่งที่น่าสนใจเลย

 

การฝึกยังคงดําเนินต่อไปตลอดทั้งสัปดาห์ ทักษะการขว้างดาวกระจายของเด็ก ๆ ทั้ง 3 พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงเริ่มสอนวิชาให้แต่ละคน

 

สําหรับการฝึกฝนใหม่ที่ มาซาฮิโกะ สอนให้พวกเขา นอกจาก เคนชิโร่ ผู้ที่เคยชินกับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อทําลายขีดจํากัดของตัวเองแล้ว เด็กอีก 2 คนมีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ มาซาฮิโกะ ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ เลยเขาเข้าใจว่าการฝึก วิชาสะกด และการฝึกประสานอินนั้นไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้น

 

มาซาฮิโกะ อยากจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ นั่งดูเด็ก ๆ ฝึกซ้อมอย่างมีความสุขแบบนี้ไปอีกนาน ๆ แต่แล้วประโยคหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

 

“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลก นารูโตะ : นินจาองครักษ์ทั้ง 12!”

 

“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 5 (X8) แต้ม!”

 

การเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องอย่างมากมาซาฮิโกะ ไม่คิดว่าเขาจะได้แต้มการเข้าร่วมมากถึง 40 แต้มจากเรื่องนี้! 

 

มาซาฮิโกะ ตรวจสอบแถบสถานะของเขา และพบว่าเขามีแต้มการเข้าร่วม 65 คะแนน

 

“ตอนนี้ ได้เวลาใช้แต้มพวกนั้นแล้วสินะ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Long Live The Hokage 36

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 36 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การคัดเลือกยังคงดําเนินต่อไปตลอดทั้งเช้าของวันนั้นและในที่สุด มาซาฮิโกะ ก็คัดจนเหลือเด็กที่เข้ารอบเพียง 3 คนเท่านั้นจาก 11 คน เขามองดูเด็ก ๆ ที่เข้ารอบที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาและพยักหน้าด้วยความพอใจเล็กน้อย

 

ลูกศิษย์คนแรกคือเด็กหญิงอายุ 6 ขวบที่ร้องไห้ก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า ยูริโกะ ที่ มาซาฮิโกะ เลือกเธอก็เพราะเขาคิดว่าเธอความสามารถในการเรียนรู้สูง คุณสมบัติจักระของเธอเป็นธาตุลมและ ธาตุไฟ มันเป็นคุณสมบัติจักระที่เหมาะสมในการเรียนรู้วิชาของ มาซาฮิโกะ

 

ลูกศิษย์คนที่ 2 คือเด็กชายอายุ 8 ขวบ ชื่อ เคนชิโร่เด็กคนนี้มีความพยายามเป็นอย่างมาก มาซาฮิโกะ วางแผนที่จะสอนคาถาสายฟ้า และวิชากระบวนท่าให้เขา ซึ่งวิชากระบวนท่านั้นก็เป็นวิชากระบวนท่าลับเฉพาะของ โคโนฮะ ที่ไกใช้นั้นเอง

 

และลูกศิษย์คนสุดท้ายก็คือ นานาโกะ เด็กหญิงอายุ 11 ปี มาซาฮิโกะ ไม่คิดว่าเธอจะผ่านเข้ามาได้ แต่ นานาโกะ ที่ดูเหมือนจะรู้สึกประหม่าในตอนแรก เธอกลับสามารถตอบคําถามได้ถูกถึง 4 ข้อจาก 5 ข้อ ข้อเดียวที่เธอไม่สามารถตอบได้คําถามข้อสุดท้ายที่เป็นปัญหาเชา มาซาฮิโกะ วางแผนที่จะ สอนวิชาสะกด ให้เธอ เพราะ วิชาสะกด แตกต่างจากวิชานินจาอื่น ๆ มันต้องใช้ความสามารถทางสติปัญญาและจิตใจของผู้ใช้

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นทีม โคโนฮะ ที่มแรกก็ถือกําเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วสินะ!” มาซาฮิโกะ กําหมัดของเขาแล้วยกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“อะไรคือทีม โคโนฮะ ทีมแรกเหรอครับ ท่านปู่?” นานาโกะ ถามด้วยความมึนงง

 

“มีทีมที่ 2 ด้วยเหรอครับ ท่านปู่?” เคนชิโร่ถาม

 

“ท่านปู่มาซาฮิโกะ และ โคโนฮะ คืออะไรเหรอคะ?”ยูริโกะถาม

 

เมื่อเผชิญกับคําถามแบบนี้ มาซาฮิโกะ ก็เลือกที่จะเพิกเฉยต่อคําถามของเด็ก ๆ

 

“รู้แค่ว่าพวกเธอคือ ทีมแรกของโคโนฮะ ก็พอ แล้วในอนาคตพวกเธอจะเข้าใจเอง”

 

“ส่วนตอนนี้ ได้เวลาแล้วที่ฉันจะสอนคาถานินจาที่ทรงพลังให้พวกเธอ!”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เด็ก ๆ ทั้ง 3 คนก็ลืมคําถามก่อนหน้านี้ไปทันที และรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เรียน

 

“แต่ก่อนอื่น ฉันต้องรู้ก่อนว่าพวกเธอถนัดด้านไหนกันบ้างฉันจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะสอนอะไรต่อไป”

 

“หนูได้แค่วิชาพื้นฐานเองคะ ท่านปู่” ยูริโกะ ทําท่าเหมือนจะร้องไห้

 

วิชาพื้นฐาน หมายถึงความสามารถพื้นฐาน 3 อย่างที่นักเรียนนินจาที่ต้องมีนั้นก็คือ วิชาคาถาพื้นฐาน วิชากระบวนท่าพื้นฐาน และ วิชาลวงตาพื้นฐาน

 

“แค่นั้นก็ยอดเยี่ยมแล้ว ฉันจะสอนอย่างอื่นให้เธอก็แล้วกัน” มาซาฮิโกะ ผงกหัวและยิ้ม เขาคิดว่าถ้า นารูโตะ รู้ว่าเด็กผู้หญิงขี้แงคนนี้มีความเชี่ยวชาญในวิชาพื้นฐานตั้งแต่อายุ 6 ขวบเขาคงอยากจะฆ่าตัวตายแน่ ๆ…

 

“ผมทําวิชาพื้นฐานได้ แล้วก็ใช้คาถาสายฟ้าพื้นฐานได้ครับ” เคนชิโร่ ตอบอย่างภาคภูมิใจ

 

“ดีมาก คาถาสายฟ้า เหมือน ซาสึเกะ” มาซาฮิโกะพยักหน้า

 

มาซาฮิโกะ หันไปหา นานาโกะ

 

“แล้วเธอล่ะ?”

 

นานาโกะ ก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “หนูได้แค่วิชาพื้นฐานค่ะ”

 

มาซาฮิโกะ ยิ้มและไม่ดุเธอแต่อย่างใด

 

“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะสอนบางอย่างที่น่าสนใจให้พวกเธอ…”

 

มาซาฮิโกะ เหลือบมองไปที่เด็ก ๆ เล็กน้อยและเห็นว่าทั้ง 3 คน กําลังตั้งตารอสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “เทคนิคการใช้ดาวกระจาย!”

 

ทันใดนั้นเด็ก ๆ ก็แสดงใบหน้าที่มีนงงออกมาและเริ่มสงสัย ในสิ่งนี้ เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา

 

“มันจะเป็นบทเรียนแรกของพวกเธอ แล้วก็อย่าฝันที่จะได้เรียนวิชานินจาที่ยิ่งใหญ่ถ้าไม่ชํานาญวิชาพื้นฐาน!”

 

มาซาฮิโกะ นําหุ่นเล็งเป้าออกมา 3 ตัวแล้วพูดกับเด็กๆ ว่า “ดูให้ดี ถ้าพวกเธอทําแบบที่ฉันทําได้ฉันก็จะสอนอย่างอื่น

 

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว มาซาฮิโกะ ก็หยิบดาวกระจายออกมา 3 อัน แล้วถือไว้ในมือขวา จากนั้นก็ขว้างพวกมันออกไปพร้อมกัน ดาวกระจายทั้ง 3 อัน พุ่งตรงไปยังหุ่นเล็งเป้าและปักเข้ากลางลําตัวหุ่นเล็งเป้าอย่างแม่นยํา

 

“และฉันก็จะสอนพวกเธอไม่เหมือนกัน”

 

“ยูริโกะ ถ้าเธอผ่านการฝึกใช้ดาวกระจายนี้คือสิ่งที่ฉันจะ

สอนเธอ”

 

มาซาฮิโกะ พา ยูริโกะ เดินไปยังพื้นที่โล่งจากนั้นเขาก็ประ สานอินอย่างรวดเร็ว “มะเส็ง -> มะแม -> วอก -> กุน – มะเมีย -> ขาล , คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิงยักษ์!” 3600

ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็ปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาและขึ้นฟ้าไป

 

ยูริโกะ ทําหน้าตกใจ มาซาฮิโกะ จึงพูดว่า “ตอนนี้เธอยังทําลูกไฟแบบนี้ไม่ได้หรอก จักระเธอยังไม่พอ ฉันแค่อยากให้เธอจําลับดับอินนี้เอาไว้ มันต้องประสานอินถึง 6 ลําดับอินและฉันต้องการให้เธอทําทั้งหมดให้ได้ภายใน 2 วินาที แต่ตอนนี้ไปฝึกขว้างดาวกระจายได้ชํานาญก่อน เข้าใจไหม?”

 

ยูริโกะ พยักหน้า “ค่ะ ท่านปู่”

 

“เฮ้..ต่อไปนี้ให้เรียกฉันว่าอาจารย์ก็แล้วกันเข้าใจไหม? เอาละ กลับไปฝึกขว้างดาวกระจายได้แล้ว แล้วก็เรียกเคนชิโร่ มาหาฉันด้วย”

 

“ได้ค่ะ อาจารย์” ยูริโกะ พยักหน้าจากนั้นเธอก็เดินกลับไปและเรียก เคนชิโร่ ให้ไปหา มาซาฮิโกะ

 

“เคนิชิโร่ ความพยายามของเธอนั้นเยี่ยมมาก เหมาะกับการเรียนวิชากระบวนท่า มีวิชากระบวนท่ามากมายที่เธอสามารถเรียนรู้ได้ แต่ก่อนอื่นในตอนที่ฝึกขว้างดาวกระจายเธอต้องใส่ทุ่นถ่วงน้ําหนักทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าถ่วงน้ําหนักหรือกําไลถ่วงน้ําหนักก็ตาม มันจะทําให้เธอก้าวข้ามขีดจํากัดของตัวเองได้” มาซาฮิโกะ พูด “แล้วเดี๋ยวฉันจะไปที่โรงตีเหล็กเพื่อทําทุ่นถ่วงน้ําหนักให้เธอ”

 

“เข้าใจแล้วครับ อาจารย์” แต่หลังจากนั้น เคนชิโร่ ก็เงยหน้าขึ้นแล้วถาม มาซาฮิโกะ ว่า “แต่ อาจารย์การก้าวข้ามขีดจํากัด มันคืออะไรเหรอครับ?”

 

“การก้าวข้ามขีดจํากัดของตัวเอง เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย เป้าหมายหลักของการฝึกนี้อการผลักดันศักยภาพของเธอให้ไปได้สูงกว่าขีดความสามารถของเธอเอง เมื่อเธอถึงขีดจํากัดของเธอ เธอต้องทําลายมันด้วยการท้าทายที่สูงกว่าขีดจํากัดนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือต้องฝึกให้หนักขึ้นเรื่อย ๆ มันจะทําให้การฝึกของเธอเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้สุดกําลังเพื่อที่จะได้พัฒนาขึ้น พรสวรรค์ของเธอคือความเพียรพยายามและนั่นคือสิ่งที่จะทําให้เธอเป็นอัจฉริยะได้เช่นกัน!”

 

“นินจาผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเคยพูดเอาไว้ เธอจงจําไว้ให้ดี” มาซาฮิโกะ อธิบายอย่างจริงจัง

 

และนั่นคือคําพูดของ ไมโตะ ไก

 

เคนชิโร่ เหมือนจะเข้าใจและพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ อาจารย์!”

 

“โอเค กลับไปฝึกได้แล้ว แล้วก็เรียก นานาโกะมาหาฉันที่”

 

2 นาทีต่อมา นานาโกะ ก็เดินมาและยืนอยู่ตรงหน้าของ มาซาฮิโกะ

 

มาซาฮิโกะ มองไปที่เธอจากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่ความคิดเชิงตรรกะของเธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ คําถามของฉัน 5 ข้อ เธอตอบได้ถึง 4 ข้อ นับว่าเป็นความสามารถที่เยี่ยมมาก”

 

นานาโกะ ยิ้มอย่างเขินอาย “คําถาม 4 ข้อแรกเป็นคําถามเกี่ยวกับถังและน้ํา แล้วทุกวันหนูก็ต้องเอาน้ําใส้ถึงเพื่อทําความสะอาดบ้าน…”

“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว นั้นสินะเหตุผล” สีหน้าของ มาซาฮิโกะ เปลี่ยนไปและดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจ เขารู้สึกว่าที่ นานาโกะ ตอบคําถามได้ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอทําอยู่ประจํา แต่มาซาฮิโกะ ก็คิดว่าเขาควรจะให้โอกาสเธอได้พิสูจน์ตัวเองก่อน

 

“เอาล่ะ ไม่สําคัญว่าที่ผ่านมาจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธอ เป็นลูกศิษย์ของฉันแล้ว และในเมื่อทักษะด้านนินจาของเธอไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไร ดังนั้นเธอจึงต้องเรียนรู้ วิชาสะกดกับฉัน” มาซาฮิโกะ หยิบม้วนกระดาษออกมาแล้วพูดต่อว่า “นี่คือวิชาสะกด ของตระกูลเรา มันเป็นพื้นฐานและรากฐา นของวิชาสะกด เธอจะได้เรียนรู้และเริ่มฝึกมันหลังจากนี้”

 

“แต่ตอนนี้ กลับไปฝึกขว้างดาวกระจายได้ชํานาญก่อน”

 

มาซาฮิโกะ ให้คําแนะนํากับลูกศึกษาของเขาทีละคนจนครบจากนั้นเขาก็กลับไปที่สนามฝึกซ้อมขว้างดาวกระจายเขานั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่งและเฝ้าดูลูกศิษย์ฝึกซ้อมจากระยะไกล

 

แน่นอนว่าสนามฝึกส่วนที่ 4 มีผู้คนมากมายฝึกฝนอยู่ที่นั่นเด็ก 8 คนที่ไม่ได้รับเลือกก่อนหน้านี้ก็กําลังฝึกอยู่ที่นั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาฝึกอย่างหนักเพื่อแสดง ความพยายามโดยหวังว่ามาซาฮิโกะ จะให้โอกาสพวกเขา

 

นอกจากเด็ก ๆ เหล่านี้แล้วยังมีอาจารย์และลูกศิษย์จากกลุ่มอื่นๆอยู่ด้วยเช่นกัน พวกเขาให้ความสนใจกับคําสอนของมาซาฮิโกะ แต่หลังจากดูไปสักพักพวกเขาก็ไม่พบสิ่งที่น่าสนใจเลย

 

การฝึกยังคงดําเนินต่อไปตลอดทั้งสัปดาห์ ทักษะการขว้างดาวกระจายของเด็ก ๆ ทั้ง 3 พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงเริ่มสอนวิชาให้แต่ละคน

 

สําหรับการฝึกฝนใหม่ที่ มาซาฮิโกะ สอนให้พวกเขา นอกจาก เคนชิโร่ ผู้ที่เคยชินกับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อทําลายขีดจํากัดของตัวเองแล้ว เด็กอีก 2 คนมีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ มาซาฮิโกะ ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ เลยเขาเข้าใจว่าการฝึก วิชาสะกด และการฝึกประสานอินนั้นไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้น

 

มาซาฮิโกะ อยากจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ นั่งดูเด็ก ๆ ฝึกซ้อมอย่างมีความสุขแบบนี้ไปอีกนาน ๆ แต่แล้วประโยคหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

 

“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลก นารูโตะ : นินจาองครักษ์ทั้ง 12!”

 

“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 5 (X8) แต้ม!”

 

การเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องอย่างมากมาซาฮิโกะ ไม่คิดว่าเขาจะได้แต้มการเข้าร่วมมากถึง 40 แต้มจากเรื่องนี้! 

 

มาซาฮิโกะ ตรวจสอบแถบสถานะของเขา และพบว่าเขามีแต้มการเข้าร่วม 65 คะแนน

 

“ตอนนี้ ได้เวลาใช้แต้มพวกนั้นแล้วสินะ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+