Long Live The Hokage 55: ทาบทาม

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 55: ทาบทาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage Chapter 55: ทาบทาม วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ พิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกถูกจัดขึ้นตามกำหนด ผู้คนที่เข้าร่วมในพิธีมีมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากหลายตระกูล,ผู้อาวุโสทั้ง4คน,กองกำลังตำรวจแห่งโคโนฮะ, ไดเมียวและเด็กหญิงตัวน้อยๆที่เขาพามาด้วยกับนินจาอีก6คนจากนินจาหน่วยองครักษ์ “เด็กหญิงคนนี้อายุน่าจะยังไม่ถึง 10 ขวบคงจะไม่ใช่ลูกสาวของไดเมียวหรอกมั้งแต่เธอก็น่ารักมาก…ว่าแต่เธอเป็นใครกัน?” มีสาเหตุหลายประการที่โคโนฮะเชิญไดเมียวมาและตัดสินใจที่จะผูกมิตรกับแคว้นแห่งไฟ นินจาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดในโลกใบนี้เพราะนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นคาถานินจากถูกสร้างขึ้นมาโดยเซียน 6 วิถีจากนั้นคาถานินจาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกนี้และในที่สุดมันก็เริ่มที่จะปูเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง นอกจากนี้การเกิดขึ้นของนินจายังเป็นจุดกำเนิดของสงครามที่กินระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษ อาจกล่าวได้ว่าจนถึงปัจจุบันนินจาเป็นผู้นำในการทำลายล้างและไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสักเท่าไร ในยุคสงครามก่อนการก่อตั้งเป้าหมายหลักของหลายๆตระกูลคือการฝึกฝนคนของตนเองเพื่อสร้างนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นผู้อ่อนแอต้องยอมแพ้ต่อผู้แข็งแกร่งและตระกูลที่อ่อนแอก็ต้องยอมจ่ายให้กับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่า แต่หลังจากการกำเนิดของหมู่บ้านโคโนฮะทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันพวกเขารวมอุดมการณ์ในเรื่องราวและความฝันเดียวกันและไม่มีการรุกรานซึ่งกันและกัน ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจถึงความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนปัญหาทรัพยากรจะต้องได้รับการแก้ไขมาซาฮิโกะคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหานี้ สิ่งแรกคือหมู่บ้านต้องรับจ้างทำภารกิจให้กับผู้คนนอกหมู่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะมีเงินสดไหลเวียนเข้าหมู่บ้านแต่นี่ก็เป็นเพียงการลดความเสียงที่หมู่บ้านจะขาดรายได้เท่านั้นเพราะเหตุนี้โคโฮะจึงต้องเชิญไดเมียวมาร่วมงานเพราะหากโคโนฮะถังแตกขึ้นมาจริงๆโคโนฮะก็สามารถขอความช่วยเหลือจากไดเมียวและขอเงินจากเขาได้นี้เป็นหลักประกันเดียวเท่านั้น ในขณะเดียวกันโคโนฮะก็จะเป็นเหมือนกับกองกำลังของแคว้นแห่งไฟแต่ก็ยังมีอิสระในตนเอง ดังนั้นการปรากฏตัวของไดเมียวในการเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกก็เพื่อให้แน่ใจว่าความร่วมมือนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นเพื่อประโยชน์ของทั้ง2ฝ่าย เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงวันแล้วและผู้คนที่เข้าร่วมงานก็มารวมกันอยู่บริเวณจัดงานเรียบร้อยแล้วเมื่อมาซาฮิโกะเห็นดังนั้นเขาก็พยักหน้าให้โทบิรามะจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนเวที “ฉันขอประกาศเริ่มต้นพิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกและของเชิญโฮคาเงะขึ้นมาพูดอะไรสักหน่อย…ของเสียงปรบเมือ…โฮคาเงะรุ่น 1!” เงียบ… “ฮ่า…” มาซาฮิโกะหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจจนทำให้โทบิรามะรู้สึกอายเล็กน้อยเขามองไปรอบๆหลังจากนั้นเขาก็ยกมือขอโทษโทบิรามะทันทีเขาไม่คิดว่าโทบิรามะจะพูดอะไรแบบนี้ได้ ฮาชิรามะสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเขาก็ก้าวไปออกมาข้างหน้าและเริ่มพูดด้วยความจริงใจ “ที่เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วนี่เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในที่สุดเราก็สามารถกล่าวคำอำลากับชีวิตในอดีตที่มีแต่สงครามได้อย่างแท้จริงและต้อนรับชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสงบสุขและความสามัคคีและเพื่อให้มั่นใจในความสงบสุขนี้ขอให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอนาคตของหมู่บ้านของเรา!” “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นโฮคาเงะ”ฮาชิรามะเช็ดน้ำตาจากดวงตาของเขา“ ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดของฉันเพื่อสร้างความสงบสุขและความมั่งคั่งให้หมู่บ้าน!” ฮาชิรามะใช้เวลาหายใจไม่กี่วินาทีจากนั้นเขาพูดต่อ“หลายพันปีก่อนหลังจากการตายของเซียน 6 วิถีโลกนี้ก็จมลงสู่สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดเราต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสัตว์หางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ” “ในช่วงสงครามที่ยาวนานนี้โลกถูกทิ้งร้างและถูกทำลายนินจาและชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้” ฮาชิรามะมองไปที่มาดาระ “แม้แต่เพื่อนก็ไม่สามารถบอกนามสกุลของตัวเองให้คนอื่นรู้ได้เพราะกลัวว่าสงครามจะมาถึงตัว” “เด็กๆถูกส่งไปสู่สนามรบอยู่ตลอดเวลาผู้คนนับไม่ถ้วนต้องต้องสูญเสียครอบครัวไป” “แต่ฉันบอกได้เลยว่าด้วยความสามารถของเราทุกคนพวกเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและไม่ต้องพบกับสงครามอีกไม่มีสงครามอีกต่อไป! ไม่มีความเกลียดชังอีกต่อไป! ลูกหลานสามารถบอกนามสกุลของพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวและเด็กๆก็จะไม่ต้องตายอย่างไร้สาระ…” “ยุคแห่งสันติภาพ…กำลังมา!” ฮาชิรามะพูดสิ่งที่เขาคิดและคำพูดของเขาก็ทำให้ทั้งหมู่บ้านตกตะลึงและทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อ “สันติภาพ…มันกำลังจะมาจริงเหรอ?” ทันใดนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “โฮคาเงะจงเจริญ! (Long live the Hokage) สันติสุขจงเจริญ!” “ไม่มีสงครามอีกต่อไป!” “ดีใจจริงๆ…ที่ฉันมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนี้!” “เฮ้!โฮคาเงะ!” การได้เห็นภาพนี้ทำให้หัวใจของฮาชิรามะอบอุ่นเป็นอย่างมาก มาซาฮิโกะซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเวทีเขาได้ยินคำพูดของฮาชิรามะทุกคำพูดและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า“ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ชายที่รู้จักกันในชื่อโฮคาเงะรุ่นแรกที่ทรงพลังเขาเป็นทั้งคนที่ตลกใจดีและอบอุ่นตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งนินจามันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว” หลังจากโฮคาเงะการกล่าวคำปราศรัยเสร็จพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลงแต่ผู้คนก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหนนินจาและชาวบ้านต่างก็เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้และทั้งหมู่บ้านก็มีบรรยากาศเหมือนกับเทศกาลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การสังสรรค์ดำเนินต่อไปจนถึงค่ำจากนั้นผู้นำตระกูลต่างๆก็กล่าวคำอำลาซึ่งกันและกันและเริ่มแยกย้ายกันขณะที่ฮาชิรามะเสนอเป็นผู้นำพาไดเมียวไปเดินชมรอบหมู่บ้านและแสดงให้ไดเมียวเห็นถึงความกลมเกลียวของโคโนฮะ มาดาระไม่สนใจที่จะใช้เวลากับไดเมียวแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับฮาชิรามะก็ตาม…. ฮิวงะเทนจินกล่าวอำลาฮาชิรามะดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงมาซาฮิโกะ,นาราชิการิว(ผู้นำตระกูลนารา),มาดาระและฮาชิรามะเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นไกด์นำเที่ยวแนะนำหมู่บ้านให้กับไดเมียว จากนั้นมาซาฮิโกะก็เริ่มบทสนทนาว่า“ท่านไดเมียวจ่าฉันได้ไหม?” “เธอ…โอ้ใช่นินจาองครักษ์108คน!” ใบหน้าของมาซาฮิโกะเปลี่ยนไปทันทีดูเหมือนว่าไดเมียวยังคงรู้สึกอุ่นเคืองเขาอยู่และเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะพูดอะไรอีกต่อไป ดังนั้นฮาชิรามะและชิการิวจึงเป็นผู้ที่แนะนำสิ่งต่างๆให้ไดเมียวฟังเองส่วนมาซาฮิโกะและมาดาระก็คอยเดินตามอยู่ข้างหลังเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเงียบๆ ท้องฟ้าเริ่มมืดเมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ฮาชิรามะนำไดเมียวไปที่ห้องพักพิเศษฉพาะสำหรับไดเมียวขณะที่มือของไดเมียวก็ยังคงจับมือของเด็กหญิงอยู่ตลอดเวลา “ท่านฮาชิรามะ…โอ้ไม่สิต้องเรียกว่าท่านโฮคาเงะ…นี่คือโกโคะลูกสาวตัวน้อยของเราเธอจะอายุ 9 ขวบในปีนี้” มาซาฮิโกะยิ้มออกมาในที่สุดเขาก็ได้คำตอบของคำถามของเขาแล้วเธอเป็นลูกสาวของไดเมียวจริงๆ “เราได้ยินมาว่าท่านโฮคาเงะเองก็มีลูกชายชื่อเซนจูเคนจินี้น่าเขาอายุเท่าไรแล้วนะ 13 ปีใช่ไหม?” “เราอาจจะมอบลูกสาวของเราให้กับลูกชายของท่านและจัดงานแต่งของพวกเขาแน่นอนว่าหลังจากที่เธออาย 16 ปีก่อนท่านคิดว่ายังไง?” ฮาชิรามะลังเลเป็นอย่างมากเพื่อรักษาสายเลือดที่บริสุทธิ์ของเลือดตระกูลขุนนางพวกเขามักจะไม่ให้ลูกหลานของพวกเขาแต่งงานกับคนนอกแต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตเห็นสัญญาณหลายอย่างและสายตาที่ชิการิวกับโทบิรามะมองมาที่เขาก็ทำให้ฮาชิรามะเห็นด้วยและตอบตกลงไป สำหรับมาซาฮิโกะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า“เด็กผู้หญิงคนนี้…เป็นแม่ของ 1 ใน 3 นินจาในตำนาน…เซนจูซึนาเดะ…งั้นเหรอ?”

นิยาย Long Live The Hokage

Chapter 55: ทาบทาม

วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์

พิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกถูกจัดขึ้นตามกำหนด

ผู้คนที่เข้าร่วมในพิธีมีมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากหลายตระกูล,ผู้อาวุโสทั้ง4คน,กองกำลังตำรวจแห่งโคโนฮะ, ไดเมียวและเด็กหญิงตัวน้อยๆที่เขาพามาด้วยกับนินจาอีก6คนจากนินจาหน่วยองครักษ์

“เด็กหญิงคนนี้อายุน่าจะยังไม่ถึง 10 ขวบคงจะไม่ใช่ลูกสาวของไดเมียวหรอกมั้งแต่เธอก็น่ารักมาก…ว่าแต่เธอเป็นใครกัน?”

มีสาเหตุหลายประการที่โคโนฮะเชิญไดเมียวมาและตัดสินใจที่จะผูกมิตรกับแคว้นแห่งไฟ

นินจาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดในโลกใบนี้เพราะนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นคาถานินจากถูกสร้างขึ้นมาโดยเซียน 6 วิถีจากนั้นคาถานินจาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกนี้และในที่สุดมันก็เริ่มที่จะปูเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง

นอกจากนี้การเกิดขึ้นของนินจายังเป็นจุดกำเนิดของสงครามที่กินระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษ

อาจกล่าวได้ว่าจนถึงปัจจุบันนินจาเป็นผู้นำในการทำลายล้างและไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสักเท่าไร

ในยุคสงครามก่อนการก่อตั้งเป้าหมายหลักของหลายๆตระกูลคือการฝึกฝนคนของตนเองเพื่อสร้างนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นผู้อ่อนแอต้องยอมแพ้ต่อผู้แข็งแกร่งและตระกูลที่อ่อนแอก็ต้องยอมจ่ายให้กับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่า

แต่หลังจากการกำเนิดของหมู่บ้านโคโนฮะทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันพวกเขารวมอุดมการณ์ในเรื่องราวและความฝันเดียวกันและไม่มีการรุกรานซึ่งกันและกัน

ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจถึงความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนปัญหาทรัพยากรจะต้องได้รับการแก้ไขมาซาฮิโกะคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหานี้

สิ่งแรกคือหมู่บ้านต้องรับจ้างทำภารกิจให้กับผู้คนนอกหมู่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะมีเงินสดไหลเวียนเข้าหมู่บ้านแต่นี่ก็เป็นเพียงการลดความเสียงที่หมู่บ้านจะขาดรายได้เท่านั้นเพราะเหตุนี้โคโฮะจึงต้องเชิญไดเมียวมาร่วมงานเพราะหากโคโนฮะถังแตกขึ้นมาจริงๆโคโนฮะก็สามารถขอความช่วยเหลือจากไดเมียวและขอเงินจากเขาได้นี้เป็นหลักประกันเดียวเท่านั้น

ในขณะเดียวกันโคโนฮะก็จะเป็นเหมือนกับกองกำลังของแคว้นแห่งไฟแต่ก็ยังมีอิสระในตนเอง

ดังนั้นการปรากฏตัวของไดเมียวในการเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกก็เพื่อให้แน่ใจว่าความร่วมมือนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นเพื่อประโยชน์ของทั้ง2ฝ่าย

เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงวันแล้วและผู้คนที่เข้าร่วมงานก็มารวมกันอยู่บริเวณจัดงานเรียบร้อยแล้วเมื่อมาซาฮิโกะเห็นดังนั้นเขาก็พยักหน้าให้โทบิรามะจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนเวที

“ฉันขอประกาศเริ่มต้นพิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกและของเชิญโฮคาเงะขึ้นมาพูดอะไรสักหน่อย…ของเสียงปรบเมือ…โฮคาเงะรุ่น 1!”

เงียบ…

“ฮ่า…” มาซาฮิโกะหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจจนทำให้โทบิรามะรู้สึกอายเล็กน้อยเขามองไปรอบๆหลังจากนั้นเขาก็ยกมือขอโทษโทบิรามะทันทีเขาไม่คิดว่าโทบิรามะจะพูดอะไรแบบนี้ได้

ฮาชิรามะสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเขาก็ก้าวไปออกมาข้างหน้าและเริ่มพูดด้วยความจริงใจ

“ที่เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วนี่เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในที่สุดเราก็สามารถกล่าวคำอำลากับชีวิตในอดีตที่มีแต่สงครามได้อย่างแท้จริงและต้อนรับชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสงบสุขและความสามัคคีและเพื่อให้มั่นใจในความสงบสุขนี้ขอให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอนาคตของหมู่บ้านของเรา!”

“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นโฮคาเงะ”ฮาชิรามะเช็ดน้ำตาจากดวงตาของเขา“ ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดของฉันเพื่อสร้างความสงบสุขและความมั่งคั่งให้หมู่บ้าน!”

ฮาชิรามะใช้เวลาหายใจไม่กี่วินาทีจากนั้นเขาพูดต่อ“หลายพันปีก่อนหลังจากการตายของเซียน 6 วิถีโลกนี้ก็จมลงสู่สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดเราต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสัตว์หางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ”

“ในช่วงสงครามที่ยาวนานนี้โลกถูกทิ้งร้างและถูกทำลายนินจาและชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้”

ฮาชิรามะมองไปที่มาดาระ “แม้แต่เพื่อนก็ไม่สามารถบอกนามสกุลของตัวเองให้คนอื่นรู้ได้เพราะกลัวว่าสงครามจะมาถึงตัว”

“เด็กๆถูกส่งไปสู่สนามรบอยู่ตลอดเวลาผู้คนนับไม่ถ้วนต้องต้องสูญเสียครอบครัวไป”

“แต่ฉันบอกได้เลยว่าด้วยความสามารถของเราทุกคนพวกเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและไม่ต้องพบกับสงครามอีกไม่มีสงครามอีกต่อไป! ไม่มีความเกลียดชังอีกต่อไป! ลูกหลานสามารถบอกนามสกุลของพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวและเด็กๆก็จะไม่ต้องตายอย่างไร้สาระ…”

“ยุคแห่งสันติภาพ…กำลังมา!”

ฮาชิรามะพูดสิ่งที่เขาคิดและคำพูดของเขาก็ทำให้ทั้งหมู่บ้านตกตะลึงและทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อ

“สันติภาพ…มันกำลังจะมาจริงเหรอ?”

ทันใดนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

“โฮคาเงะจงเจริญ! (Long live the Hokage) สันติสุขจงเจริญ!”

“ไม่มีสงครามอีกต่อไป!”

“ดีใจจริงๆ…ที่ฉันมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนี้!”

“เฮ้!โฮคาเงะ!”

การได้เห็นภาพนี้ทำให้หัวใจของฮาชิรามะอบอุ่นเป็นอย่างมาก

มาซาฮิโกะซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเวทีเขาได้ยินคำพูดของฮาชิรามะทุกคำพูดและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า“ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ชายที่รู้จักกันในชื่อโฮคาเงะรุ่นแรกที่ทรงพลังเขาเป็นทั้งคนที่ตลกใจดีและอบอุ่นตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งนินจามันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว”

หลังจากโฮคาเงะการกล่าวคำปราศรัยเสร็จพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลงแต่ผู้คนก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหนนินจาและชาวบ้านต่างก็เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้และทั้งหมู่บ้านก็มีบรรยากาศเหมือนกับเทศกาลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

การสังสรรค์ดำเนินต่อไปจนถึงค่ำจากนั้นผู้นำตระกูลต่างๆก็กล่าวคำอำลาซึ่งกันและกันและเริ่มแยกย้ายกันขณะที่ฮาชิรามะเสนอเป็นผู้นำพาไดเมียวไปเดินชมรอบหมู่บ้านและแสดงให้ไดเมียวเห็นถึงความกลมเกลียวของโคโนฮะ

มาดาระไม่สนใจที่จะใช้เวลากับไดเมียวแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับฮาชิรามะก็ตาม….

ฮิวงะเทนจินกล่าวอำลาฮาชิรามะดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงมาซาฮิโกะ,นาราชิการิว(ผู้นำตระกูลนารา),มาดาระและฮาชิรามะเท่านั้น

พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นไกด์นำเที่ยวแนะนำหมู่บ้านให้กับไดเมียว

จากนั้นมาซาฮิโกะก็เริ่มบทสนทนาว่า“ท่านไดเมียวจ่าฉันได้ไหม?”

“เธอ…โอ้ใช่นินจาองครักษ์108คน!”

ใบหน้าของมาซาฮิโกะเปลี่ยนไปทันทีดูเหมือนว่าไดเมียวยังคงรู้สึกอุ่นเคืองเขาอยู่และเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะพูดอะไรอีกต่อไป

ดังนั้นฮาชิรามะและชิการิวจึงเป็นผู้ที่แนะนำสิ่งต่างๆให้ไดเมียวฟังเองส่วนมาซาฮิโกะและมาดาระก็คอยเดินตามอยู่ข้างหลังเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเงียบๆ

ท้องฟ้าเริ่มมืดเมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า

ฮาชิรามะนำไดเมียวไปที่ห้องพักพิเศษฉพาะสำหรับไดเมียวขณะที่มือของไดเมียวก็ยังคงจับมือของเด็กหญิงอยู่ตลอดเวลา

“ท่านฮาชิรามะ…โอ้ไม่สิต้องเรียกว่าท่านโฮคาเงะ…นี่คือโกโคะลูกสาวตัวน้อยของเราเธอจะอายุ 9 ขวบในปีนี้”

มาซาฮิโกะยิ้มออกมาในที่สุดเขาก็ได้คำตอบของคำถามของเขาแล้วเธอเป็นลูกสาวของไดเมียวจริงๆ

“เราได้ยินมาว่าท่านโฮคาเงะเองก็มีลูกชายชื่อเซนจูเคนจินี้น่าเขาอายุเท่าไรแล้วนะ 13 ปีใช่ไหม?”

“เราอาจจะมอบลูกสาวของเราให้กับลูกชายของท่านและจัดงานแต่งของพวกเขาแน่นอนว่าหลังจากที่เธออาย 16 ปีก่อนท่านคิดว่ายังไง?”

ฮาชิรามะลังเลเป็นอย่างมากเพื่อรักษาสายเลือดที่บริสุทธิ์ของเลือดตระกูลขุนนางพวกเขามักจะไม่ให้ลูกหลานของพวกเขาแต่งงานกับคนนอกแต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตเห็นสัญญาณหลายอย่างและสายตาที่ชิการิวกับโทบิรามะมองมาที่เขาก็ทำให้ฮาชิรามะเห็นด้วยและตอบตกลงไป

สำหรับมาซาฮิโกะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า“เด็กผู้หญิงคนนี้…เป็นแม่ของ 1 ใน 3 นินจาในตำนาน…เซนจูซึนาเดะ…งั้นเหรอ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Long Live The Hokage 55: ทาบทาม

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 55: ทาบทาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage Chapter 55: ทาบทาม วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ พิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกถูกจัดขึ้นตามกำหนด ผู้คนที่เข้าร่วมในพิธีมีมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากหลายตระกูล,ผู้อาวุโสทั้ง4คน,กองกำลังตำรวจแห่งโคโนฮะ, ไดเมียวและเด็กหญิงตัวน้อยๆที่เขาพามาด้วยกับนินจาอีก6คนจากนินจาหน่วยองครักษ์ “เด็กหญิงคนนี้อายุน่าจะยังไม่ถึง 10 ขวบคงจะไม่ใช่ลูกสาวของไดเมียวหรอกมั้งแต่เธอก็น่ารักมาก…ว่าแต่เธอเป็นใครกัน?” มีสาเหตุหลายประการที่โคโนฮะเชิญไดเมียวมาและตัดสินใจที่จะผูกมิตรกับแคว้นแห่งไฟ นินจาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดในโลกใบนี้เพราะนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นคาถานินจากถูกสร้างขึ้นมาโดยเซียน 6 วิถีจากนั้นคาถานินจาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกนี้และในที่สุดมันก็เริ่มที่จะปูเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง นอกจากนี้การเกิดขึ้นของนินจายังเป็นจุดกำเนิดของสงครามที่กินระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษ อาจกล่าวได้ว่าจนถึงปัจจุบันนินจาเป็นผู้นำในการทำลายล้างและไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสักเท่าไร ในยุคสงครามก่อนการก่อตั้งเป้าหมายหลักของหลายๆตระกูลคือการฝึกฝนคนของตนเองเพื่อสร้างนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นผู้อ่อนแอต้องยอมแพ้ต่อผู้แข็งแกร่งและตระกูลที่อ่อนแอก็ต้องยอมจ่ายให้กับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่า แต่หลังจากการกำเนิดของหมู่บ้านโคโนฮะทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันพวกเขารวมอุดมการณ์ในเรื่องราวและความฝันเดียวกันและไม่มีการรุกรานซึ่งกันและกัน ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจถึงความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนปัญหาทรัพยากรจะต้องได้รับการแก้ไขมาซาฮิโกะคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหานี้ สิ่งแรกคือหมู่บ้านต้องรับจ้างทำภารกิจให้กับผู้คนนอกหมู่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะมีเงินสดไหลเวียนเข้าหมู่บ้านแต่นี่ก็เป็นเพียงการลดความเสียงที่หมู่บ้านจะขาดรายได้เท่านั้นเพราะเหตุนี้โคโฮะจึงต้องเชิญไดเมียวมาร่วมงานเพราะหากโคโนฮะถังแตกขึ้นมาจริงๆโคโนฮะก็สามารถขอความช่วยเหลือจากไดเมียวและขอเงินจากเขาได้นี้เป็นหลักประกันเดียวเท่านั้น ในขณะเดียวกันโคโนฮะก็จะเป็นเหมือนกับกองกำลังของแคว้นแห่งไฟแต่ก็ยังมีอิสระในตนเอง ดังนั้นการปรากฏตัวของไดเมียวในการเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกก็เพื่อให้แน่ใจว่าความร่วมมือนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นเพื่อประโยชน์ของทั้ง2ฝ่าย เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงวันแล้วและผู้คนที่เข้าร่วมงานก็มารวมกันอยู่บริเวณจัดงานเรียบร้อยแล้วเมื่อมาซาฮิโกะเห็นดังนั้นเขาก็พยักหน้าให้โทบิรามะจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนเวที “ฉันขอประกาศเริ่มต้นพิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกและของเชิญโฮคาเงะขึ้นมาพูดอะไรสักหน่อย…ของเสียงปรบเมือ…โฮคาเงะรุ่น 1!” เงียบ… “ฮ่า…” มาซาฮิโกะหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจจนทำให้โทบิรามะรู้สึกอายเล็กน้อยเขามองไปรอบๆหลังจากนั้นเขาก็ยกมือขอโทษโทบิรามะทันทีเขาไม่คิดว่าโทบิรามะจะพูดอะไรแบบนี้ได้ ฮาชิรามะสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเขาก็ก้าวไปออกมาข้างหน้าและเริ่มพูดด้วยความจริงใจ “ที่เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วนี่เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในที่สุดเราก็สามารถกล่าวคำอำลากับชีวิตในอดีตที่มีแต่สงครามได้อย่างแท้จริงและต้อนรับชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสงบสุขและความสามัคคีและเพื่อให้มั่นใจในความสงบสุขนี้ขอให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอนาคตของหมู่บ้านของเรา!” “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นโฮคาเงะ”ฮาชิรามะเช็ดน้ำตาจากดวงตาของเขา“ ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดของฉันเพื่อสร้างความสงบสุขและความมั่งคั่งให้หมู่บ้าน!” ฮาชิรามะใช้เวลาหายใจไม่กี่วินาทีจากนั้นเขาพูดต่อ“หลายพันปีก่อนหลังจากการตายของเซียน 6 วิถีโลกนี้ก็จมลงสู่สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดเราต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสัตว์หางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ” “ในช่วงสงครามที่ยาวนานนี้โลกถูกทิ้งร้างและถูกทำลายนินจาและชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้” ฮาชิรามะมองไปที่มาดาระ “แม้แต่เพื่อนก็ไม่สามารถบอกนามสกุลของตัวเองให้คนอื่นรู้ได้เพราะกลัวว่าสงครามจะมาถึงตัว” “เด็กๆถูกส่งไปสู่สนามรบอยู่ตลอดเวลาผู้คนนับไม่ถ้วนต้องต้องสูญเสียครอบครัวไป” “แต่ฉันบอกได้เลยว่าด้วยความสามารถของเราทุกคนพวกเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและไม่ต้องพบกับสงครามอีกไม่มีสงครามอีกต่อไป! ไม่มีความเกลียดชังอีกต่อไป! ลูกหลานสามารถบอกนามสกุลของพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวและเด็กๆก็จะไม่ต้องตายอย่างไร้สาระ…” “ยุคแห่งสันติภาพ…กำลังมา!” ฮาชิรามะพูดสิ่งที่เขาคิดและคำพูดของเขาก็ทำให้ทั้งหมู่บ้านตกตะลึงและทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อ “สันติภาพ…มันกำลังจะมาจริงเหรอ?” ทันใดนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “โฮคาเงะจงเจริญ! (Long live the Hokage) สันติสุขจงเจริญ!” “ไม่มีสงครามอีกต่อไป!” “ดีใจจริงๆ…ที่ฉันมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนี้!” “เฮ้!โฮคาเงะ!” การได้เห็นภาพนี้ทำให้หัวใจของฮาชิรามะอบอุ่นเป็นอย่างมาก มาซาฮิโกะซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเวทีเขาได้ยินคำพูดของฮาชิรามะทุกคำพูดและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า“ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ชายที่รู้จักกันในชื่อโฮคาเงะรุ่นแรกที่ทรงพลังเขาเป็นทั้งคนที่ตลกใจดีและอบอุ่นตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งนินจามันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว” หลังจากโฮคาเงะการกล่าวคำปราศรัยเสร็จพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลงแต่ผู้คนก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหนนินจาและชาวบ้านต่างก็เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้และทั้งหมู่บ้านก็มีบรรยากาศเหมือนกับเทศกาลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การสังสรรค์ดำเนินต่อไปจนถึงค่ำจากนั้นผู้นำตระกูลต่างๆก็กล่าวคำอำลาซึ่งกันและกันและเริ่มแยกย้ายกันขณะที่ฮาชิรามะเสนอเป็นผู้นำพาไดเมียวไปเดินชมรอบหมู่บ้านและแสดงให้ไดเมียวเห็นถึงความกลมเกลียวของโคโนฮะ มาดาระไม่สนใจที่จะใช้เวลากับไดเมียวแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับฮาชิรามะก็ตาม…. ฮิวงะเทนจินกล่าวอำลาฮาชิรามะดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงมาซาฮิโกะ,นาราชิการิว(ผู้นำตระกูลนารา),มาดาระและฮาชิรามะเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นไกด์นำเที่ยวแนะนำหมู่บ้านให้กับไดเมียว จากนั้นมาซาฮิโกะก็เริ่มบทสนทนาว่า“ท่านไดเมียวจ่าฉันได้ไหม?” “เธอ…โอ้ใช่นินจาองครักษ์108คน!” ใบหน้าของมาซาฮิโกะเปลี่ยนไปทันทีดูเหมือนว่าไดเมียวยังคงรู้สึกอุ่นเคืองเขาอยู่และเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะพูดอะไรอีกต่อไป ดังนั้นฮาชิรามะและชิการิวจึงเป็นผู้ที่แนะนำสิ่งต่างๆให้ไดเมียวฟังเองส่วนมาซาฮิโกะและมาดาระก็คอยเดินตามอยู่ข้างหลังเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเงียบๆ ท้องฟ้าเริ่มมืดเมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ฮาชิรามะนำไดเมียวไปที่ห้องพักพิเศษฉพาะสำหรับไดเมียวขณะที่มือของไดเมียวก็ยังคงจับมือของเด็กหญิงอยู่ตลอดเวลา “ท่านฮาชิรามะ…โอ้ไม่สิต้องเรียกว่าท่านโฮคาเงะ…นี่คือโกโคะลูกสาวตัวน้อยของเราเธอจะอายุ 9 ขวบในปีนี้” มาซาฮิโกะยิ้มออกมาในที่สุดเขาก็ได้คำตอบของคำถามของเขาแล้วเธอเป็นลูกสาวของไดเมียวจริงๆ “เราได้ยินมาว่าท่านโฮคาเงะเองก็มีลูกชายชื่อเซนจูเคนจินี้น่าเขาอายุเท่าไรแล้วนะ 13 ปีใช่ไหม?” “เราอาจจะมอบลูกสาวของเราให้กับลูกชายของท่านและจัดงานแต่งของพวกเขาแน่นอนว่าหลังจากที่เธออาย 16 ปีก่อนท่านคิดว่ายังไง?” ฮาชิรามะลังเลเป็นอย่างมากเพื่อรักษาสายเลือดที่บริสุทธิ์ของเลือดตระกูลขุนนางพวกเขามักจะไม่ให้ลูกหลานของพวกเขาแต่งงานกับคนนอกแต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตเห็นสัญญาณหลายอย่างและสายตาที่ชิการิวกับโทบิรามะมองมาที่เขาก็ทำให้ฮาชิรามะเห็นด้วยและตอบตกลงไป สำหรับมาซาฮิโกะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า“เด็กผู้หญิงคนนี้…เป็นแม่ของ 1 ใน 3 นินจาในตำนาน…เซนจูซึนาเดะ…งั้นเหรอ?”

นิยาย Long Live The Hokage

Chapter 55: ทาบทาม

วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์

พิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกถูกจัดขึ้นตามกำหนด

ผู้คนที่เข้าร่วมในพิธีมีมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากหลายตระกูล,ผู้อาวุโสทั้ง4คน,กองกำลังตำรวจแห่งโคโนฮะ, ไดเมียวและเด็กหญิงตัวน้อยๆที่เขาพามาด้วยกับนินจาอีก6คนจากนินจาหน่วยองครักษ์

“เด็กหญิงคนนี้อายุน่าจะยังไม่ถึง 10 ขวบคงจะไม่ใช่ลูกสาวของไดเมียวหรอกมั้งแต่เธอก็น่ารักมาก…ว่าแต่เธอเป็นใครกัน?”

มีสาเหตุหลายประการที่โคโนฮะเชิญไดเมียวมาและตัดสินใจที่จะผูกมิตรกับแคว้นแห่งไฟ

นินจาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดในโลกใบนี้เพราะนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นคาถานินจากถูกสร้างขึ้นมาโดยเซียน 6 วิถีจากนั้นคาถานินจาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกนี้และในที่สุดมันก็เริ่มที่จะปูเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง

นอกจากนี้การเกิดขึ้นของนินจายังเป็นจุดกำเนิดของสงครามที่กินระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษ

อาจกล่าวได้ว่าจนถึงปัจจุบันนินจาเป็นผู้นำในการทำลายล้างและไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสักเท่าไร

ในยุคสงครามก่อนการก่อตั้งเป้าหมายหลักของหลายๆตระกูลคือการฝึกฝนคนของตนเองเพื่อสร้างนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นผู้อ่อนแอต้องยอมแพ้ต่อผู้แข็งแกร่งและตระกูลที่อ่อนแอก็ต้องยอมจ่ายให้กับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่า

แต่หลังจากการกำเนิดของหมู่บ้านโคโนฮะทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันพวกเขารวมอุดมการณ์ในเรื่องราวและความฝันเดียวกันและไม่มีการรุกรานซึ่งกันและกัน

ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจถึงความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนปัญหาทรัพยากรจะต้องได้รับการแก้ไขมาซาฮิโกะคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหานี้

สิ่งแรกคือหมู่บ้านต้องรับจ้างทำภารกิจให้กับผู้คนนอกหมู่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะมีเงินสดไหลเวียนเข้าหมู่บ้านแต่นี่ก็เป็นเพียงการลดความเสียงที่หมู่บ้านจะขาดรายได้เท่านั้นเพราะเหตุนี้โคโฮะจึงต้องเชิญไดเมียวมาร่วมงานเพราะหากโคโนฮะถังแตกขึ้นมาจริงๆโคโนฮะก็สามารถขอความช่วยเหลือจากไดเมียวและขอเงินจากเขาได้นี้เป็นหลักประกันเดียวเท่านั้น

ในขณะเดียวกันโคโนฮะก็จะเป็นเหมือนกับกองกำลังของแคว้นแห่งไฟแต่ก็ยังมีอิสระในตนเอง

ดังนั้นการปรากฏตัวของไดเมียวในการเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกก็เพื่อให้แน่ใจว่าความร่วมมือนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นเพื่อประโยชน์ของทั้ง2ฝ่าย

เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงวันแล้วและผู้คนที่เข้าร่วมงานก็มารวมกันอยู่บริเวณจัดงานเรียบร้อยแล้วเมื่อมาซาฮิโกะเห็นดังนั้นเขาก็พยักหน้าให้โทบิรามะจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนเวที

“ฉันขอประกาศเริ่มต้นพิธีสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นแรกและของเชิญโฮคาเงะขึ้นมาพูดอะไรสักหน่อย…ของเสียงปรบเมือ…โฮคาเงะรุ่น 1!”

เงียบ…

“ฮ่า…” มาซาฮิโกะหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจจนทำให้โทบิรามะรู้สึกอายเล็กน้อยเขามองไปรอบๆหลังจากนั้นเขาก็ยกมือขอโทษโทบิรามะทันทีเขาไม่คิดว่าโทบิรามะจะพูดอะไรแบบนี้ได้

ฮาชิรามะสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเขาก็ก้าวไปออกมาข้างหน้าและเริ่มพูดด้วยความจริงใจ

“ที่เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วนี่เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในที่สุดเราก็สามารถกล่าวคำอำลากับชีวิตในอดีตที่มีแต่สงครามได้อย่างแท้จริงและต้อนรับชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสงบสุขและความสามัคคีและเพื่อให้มั่นใจในความสงบสุขนี้ขอให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอนาคตของหมู่บ้านของเรา!”

“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นโฮคาเงะ”ฮาชิรามะเช็ดน้ำตาจากดวงตาของเขา“ ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดของฉันเพื่อสร้างความสงบสุขและความมั่งคั่งให้หมู่บ้าน!”

ฮาชิรามะใช้เวลาหายใจไม่กี่วินาทีจากนั้นเขาพูดต่อ“หลายพันปีก่อนหลังจากการตายของเซียน 6 วิถีโลกนี้ก็จมลงสู่สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดเราต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสัตว์หางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ”

“ในช่วงสงครามที่ยาวนานนี้โลกถูกทิ้งร้างและถูกทำลายนินจาและชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้”

ฮาชิรามะมองไปที่มาดาระ “แม้แต่เพื่อนก็ไม่สามารถบอกนามสกุลของตัวเองให้คนอื่นรู้ได้เพราะกลัวว่าสงครามจะมาถึงตัว”

“เด็กๆถูกส่งไปสู่สนามรบอยู่ตลอดเวลาผู้คนนับไม่ถ้วนต้องต้องสูญเสียครอบครัวไป”

“แต่ฉันบอกได้เลยว่าด้วยความสามารถของเราทุกคนพวกเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและไม่ต้องพบกับสงครามอีกไม่มีสงครามอีกต่อไป! ไม่มีความเกลียดชังอีกต่อไป! ลูกหลานสามารถบอกนามสกุลของพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวและเด็กๆก็จะไม่ต้องตายอย่างไร้สาระ…”

“ยุคแห่งสันติภาพ…กำลังมา!”

ฮาชิรามะพูดสิ่งที่เขาคิดและคำพูดของเขาก็ทำให้ทั้งหมู่บ้านตกตะลึงและทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อ

“สันติภาพ…มันกำลังจะมาจริงเหรอ?”

ทันใดนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

“โฮคาเงะจงเจริญ! (Long live the Hokage) สันติสุขจงเจริญ!”

“ไม่มีสงครามอีกต่อไป!”

“ดีใจจริงๆ…ที่ฉันมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนี้!”

“เฮ้!โฮคาเงะ!”

การได้เห็นภาพนี้ทำให้หัวใจของฮาชิรามะอบอุ่นเป็นอย่างมาก

มาซาฮิโกะซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเวทีเขาได้ยินคำพูดของฮาชิรามะทุกคำพูดและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า“ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ชายที่รู้จักกันในชื่อโฮคาเงะรุ่นแรกที่ทรงพลังเขาเป็นทั้งคนที่ตลกใจดีและอบอุ่นตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งนินจามันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว”

หลังจากโฮคาเงะการกล่าวคำปราศรัยเสร็จพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลงแต่ผู้คนก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหนนินจาและชาวบ้านต่างก็เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้และทั้งหมู่บ้านก็มีบรรยากาศเหมือนกับเทศกาลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

การสังสรรค์ดำเนินต่อไปจนถึงค่ำจากนั้นผู้นำตระกูลต่างๆก็กล่าวคำอำลาซึ่งกันและกันและเริ่มแยกย้ายกันขณะที่ฮาชิรามะเสนอเป็นผู้นำพาไดเมียวไปเดินชมรอบหมู่บ้านและแสดงให้ไดเมียวเห็นถึงความกลมเกลียวของโคโนฮะ

มาดาระไม่สนใจที่จะใช้เวลากับไดเมียวแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับฮาชิรามะก็ตาม….

ฮิวงะเทนจินกล่าวอำลาฮาชิรามะดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงมาซาฮิโกะ,นาราชิการิว(ผู้นำตระกูลนารา),มาดาระและฮาชิรามะเท่านั้น

พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นไกด์นำเที่ยวแนะนำหมู่บ้านให้กับไดเมียว

จากนั้นมาซาฮิโกะก็เริ่มบทสนทนาว่า“ท่านไดเมียวจ่าฉันได้ไหม?”

“เธอ…โอ้ใช่นินจาองครักษ์108คน!”

ใบหน้าของมาซาฮิโกะเปลี่ยนไปทันทีดูเหมือนว่าไดเมียวยังคงรู้สึกอุ่นเคืองเขาอยู่และเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะพูดอะไรอีกต่อไป

ดังนั้นฮาชิรามะและชิการิวจึงเป็นผู้ที่แนะนำสิ่งต่างๆให้ไดเมียวฟังเองส่วนมาซาฮิโกะและมาดาระก็คอยเดินตามอยู่ข้างหลังเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเงียบๆ

ท้องฟ้าเริ่มมืดเมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า

ฮาชิรามะนำไดเมียวไปที่ห้องพักพิเศษฉพาะสำหรับไดเมียวขณะที่มือของไดเมียวก็ยังคงจับมือของเด็กหญิงอยู่ตลอดเวลา

“ท่านฮาชิรามะ…โอ้ไม่สิต้องเรียกว่าท่านโฮคาเงะ…นี่คือโกโคะลูกสาวตัวน้อยของเราเธอจะอายุ 9 ขวบในปีนี้”

มาซาฮิโกะยิ้มออกมาในที่สุดเขาก็ได้คำตอบของคำถามของเขาแล้วเธอเป็นลูกสาวของไดเมียวจริงๆ

“เราได้ยินมาว่าท่านโฮคาเงะเองก็มีลูกชายชื่อเซนจูเคนจินี้น่าเขาอายุเท่าไรแล้วนะ 13 ปีใช่ไหม?”

“เราอาจจะมอบลูกสาวของเราให้กับลูกชายของท่านและจัดงานแต่งของพวกเขาแน่นอนว่าหลังจากที่เธออาย 16 ปีก่อนท่านคิดว่ายังไง?”

ฮาชิรามะลังเลเป็นอย่างมากเพื่อรักษาสายเลือดที่บริสุทธิ์ของเลือดตระกูลขุนนางพวกเขามักจะไม่ให้ลูกหลานของพวกเขาแต่งงานกับคนนอกแต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตเห็นสัญญาณหลายอย่างและสายตาที่ชิการิวกับโทบิรามะมองมาที่เขาก็ทำให้ฮาชิรามะเห็นด้วยและตอบตกลงไป

สำหรับมาซาฮิโกะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า“เด็กผู้หญิงคนนี้…เป็นแม่ของ 1 ใน 3 นินจาในตำนาน…เซนจูซึนาเดะ…งั้นเหรอ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+