Monster Paradise 1597 ชาชินีแมลงตื่นขึ้น

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1597 ชาชินีแมลงตื่นขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดินแดนหุบเหวภัยพิบัติยังเต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุกเช่นเคย

 

หลินฮวงกับพรรคพวกเลือกกลับเส้นทางเดิม

 

ภายใต้การนําของถูทงและหลานหลิง ทั้งห้าเขตอาณาเขตของตะกละก่อน

 

เทียบกับก่อนหน้า ทั้งห้าผ่านได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า

 

ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง พวกเขาก็ผ่านอาณาเขตของตะกละไปได้

 

แต่ทว่า ในเวลาหนึ่งชั่วโมงสั้นๆนี้ หลินฮวงฆ่าพวกตะกละไปกว่าสองร้อย ประสิทธิภาพการฆ่าของเขาไม่ต่ําไปกว่าตอนแรกที่ต้องใช้เวลาเต็มวัน

 

หลังผ่านอาณาเขตของตะกละ พวกเขาก็เดินทางกลับเส้นทางเดิม ผ่านอาณาเขตของความ โลภริษยาและความโกรธ

 

จํานวนกฏเทพที่หลินฮวงปล้นมาเพิ่มขึ้น

 

กว่าสี่ชั่วโมงต่อมา สุดท้ายทั้งห้าก็ออกดินแดนหุบเหวภัยพิบัติได้

 

ตามเส้นทางในความทรงจํา ไม่ช้าหลานหลิงก็พบวงกตแมลงปีศาจที่ทั้งห้าเข้าตอนมาถึงหุบเหว

 

สีหน้าของถูทงกับหลานหลิงดูไม่สบายใจพอจ้องวงกตแมลงปีศาจ

 

ไม่มีใครในหุบเหวเต็มใจเข้าวงกตแมลงปีศาจ

 

เหตุผลหนึ่งคือมีอสูรเผ่าแมลงมากมายภายในวงกต คนเราสามารถหมดแรงตายได้แค่สู้กับพวกมัน

 

อีกเหตุผลคือทันทีที่เข้าวงกต มันยากมากที่จะหาทางออกและออกมาแบบเป็นๆ

 

โชคดี หลินฮวงกับคนอื่นไม่ต้องการหาทางออก ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทําคือหาพิกัดที่ทั้งห้าใช้ เพื่อเคลื่อนย้ายเข้าไปในวงกตแมลงปีศาจตอนแรก

 

มีจุดบอดมิติมากมายในหุบเหวที่เชื่อมต่อกับโลกต่างๆ

 

เวอซุโอโซยังบันทึกจุดบอดมิติมากมายไว้ แต่ทว่า ปัญหาคือมีเรื่องเกิดขึ้นกับพิกัดตอนพวกเขาเคลื่อนย้ายเข้า เช่นนั้น พวกเขาจึงถูกส่งไปยังพื้นที่นอกแผนที่ที่เวอชุโอโซคุ้นเคย

 

นอกจากจุดบอดมิติที่ทั้งห้าใช้เข้ามา พวกเขาไม่รู้เลยว่าจุดบอดอื่นอยู่ไหน ต่อให้พบจุดบอดมิติอื่น พวกเขาก็ไม่กล้าใชเพวกเขาไม่รู้ว่ามันจะนําพวกเขาไปที่ใด

 

ดังนั้น ตัวเลือกดเยวของพวกเขาคือกลับไปจุดที่พวกเขาเข้ามา

 

จุดนั้นดันอยู่ในวงกตแมลงปีศาจด้านหน้าพวกเขา

 

ครั้งนี้ พวกเขาไม่ต้องฝืนฝ่าเข้าไป

 

วงกตแมลงปีศาจต่างจากสถานที่อื่น แค่จํานวนสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวก็มากพอทําให้พวกเขาหมดแรงตาย

 

ยิ่งไปกว่านั้น โครงสร้างภายในของวงกตแมลงปีศาจซับซ้อนมาก ถ้าพวกเขากระตุ้นศัตรูและโดนเผ่าแมลงไล่ล่า มันยากมากที่พวกเขาจะหาพิกัดถ้าพวกเขาตื่นตระหนกและไปผิดทาง

 

ตามแผนที่พวกเขาหารือระหว่างทาง ทั้งห้าจะใช้ภาพลวงตาของเวอชุโอโซเพื่ออําพรางตัวเองเป็นหนอนเท้าดาบห้าตัว

 

หนอนเท้าดาบคือกลุ่มลาดตระเวนทั่วไปในวงกตแมลงปีศาจ

 

“ภาพลวงตาของข้ามีผลจํากัดเฉพาะเทพสวรรค์ขั้นเก้า หวังว่าเราจะโชคดีนะ” เวอชุโอโซเตือ นล่วงหน้า

 

หลังทั้งห้าอําพรางตัวเสร็จ พวกเขาก็ตรงไปทางเข้าวงกตทีละคน

 

“เราถือว่าโชคดี” ถูทงถอนหายใจโล่งอกตอนตระหนักว่าไม่มีแมลงแถวนี้

 

“ทางนี้” หลานหลิงชี้และรีบนําทาง

 

แม้พวกเขาจะรู้สึกใจร้อน แต่ทั้งห้าก็ไม่กล้าเผยจุดบกพร่องที่อาจทําให้ศัตรูรู้ตัว พวกเขาทําได้ แค่เคลื่อนที่ช้า ๆ ตามความเร็วลาดตระเวนปกติของหนอนเท้าดาบ

 

เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างราบรื่นดี

 

พวกเขาเจอแมลงบางตัวระหว่างทาง และก็ยังเดินผ่านจุดรวมตัวของแมลง แต่ไม่โดนพบ

 

แต่ทว่า ตอนพวกเขาพบด้วงยักษ์ เวอชุโอโซกลับแนะนําให้พวกเขาซ่อนในนั้น

 

ตลอดทาง พวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เจอกับอสูรแมลงที่มีพลังจิตทรงพลังจนมองพวกเขาออก มันปลอดภัยกว่าที่จะซ่อนตัวในตัวของด้วงยักษ์เน่าเปื่อย

 

ทั้งห้าไม่ค้าน จริง ๆ แล้ว ทั้งห้าจําได้ว่าพวกเขาเองก็เคยซ่อนในตัวด้วงยักษ์เมื่อเดือนก่อนตอนเข้าวงกตแมลงปีศาจ

 

ด้วงยักษ์แสนน่าสงสารตัวนี้ต้องทนชะตากรรมเดียวกับเพื่อนร่วมเผ่ามัน

 

หลังเวอชุโอโซควบคุมสิ่งมีชีวิตด้วยทักษะลวงตา หลินฮวงก็เฉือนเปิดท้องมัน ทั้งห้าปิดกลั้นประสาทสัมผัสกลิ่นและคลุมตัวเองด้วยจิตเทวะ จากนั้นก็มุดเข้าไปในตัวด้วงที่บละคน ลดกลิ่นอายพวกเขาให้ได้มากสุดเท่าที่จะทําได้

 

ภายใต้การควบคุมของเวอชุโอโซ ด้วงยักษ์หมุนตัวและค่อยๆ เคลื่อนไปในทิศทางที่ทั้งห้าเคยมา

 

ด้วงยักษ์เน่าเปื่อยเหล่านี้ไม่ได้รับการต้อนรับในวงกตนัก

 

พวกมันมีสติปัญญาต่ํา และพวกมันก็เดินช้ามาก กลิ่นเหม็นเน่าเปื่อยรุนแรงยังแผ่จากตัวพวกมัน และพวกมันก็ยังมีพิษร้ายแรงอีกด้วย โดยปกติ ไม่มีแมลงตัวใดเต็มใจเข้าใกล้พวกมัน

 

วงกตแมลงปีศาจยอมรับการอยู่ของด้วงยักษ์เพราะพวกมันกินขยะที่แมลงตัวอื่นทิ้ง พวกมันคือพวกกินเศษขยะของทั้งวงกต

 

พวกมันจะเร่ร่อนในหมู่เผ่าแมลงต่างๆทุกวันเพื่อค้นหาเศษอาหารเหลือ

 

ไม่ว่าพวกด้วงยักษ์จะไปไหน แมลงทุกตัวจะไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ

 

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มของหลินฮวงซ่อนตัวในตัวของด้วงยักษ์ และพวกเขาก็พบว่าครั้งนี้ง่ายกว่าเดิมมาก

 

มันยังให้ความรู้สึกเหนียวหนืดและน่าขยะแขยงเหมือนเดิม

 

ตอนนี้ที่พวกเขาชินแล้ว หลินฮวงจึงมีความคิดไร้สาระในหัว”ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงของการเน่าเปื่อย พิษกัดกร่อนอนุภาคพลังงานหุบเหว และความเหนียดเหนอะหนะนี้ เจ้าตัว นี้สามารถถือได้ว่าเป็นสัตว์ขีชั้นเลิศ อย่างน้อยมันก็เดินได้อย่างมั่นคง ทําให้เรารู้สึกเหมือนกําลังลอยเลย

 

สมาชิกทั้งห้าของกลุ่มเงียบไปนานในท้องของด้วงยักษ์

 

นอกจากหลานหลิงที่พูดบอกทางเป็นครั้งคราว คนอื่นไม่พูดอะไร

 

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทุกคนไม่มีกะจิตกะใจจะคุย ทั้งหมดที่ต้องการคือไปถึงจุดหมาย ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้

 

“พวกเจ้ามีแผนจะทําอะไรหลังเราออกไปจากที่นี่?”หลินฮวงอดทําลายความเงียบไม่ได้

 

“ปิดประตูบ่มเพาะเพื่อหลอมผนึกเจ้าปราสาท จากนั้นก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์” คําตอบของเวอชุโอโซเรียบง่าย

 

เมื่อเห็นว่าเวอชุโอโซไม่คิดพูดอีก ถูทงก็พูดต่อ” ข้าเองก็จะปิดประตูบ่มเพาะเพื่อ ทะลวงเป็นเทพสวรรค์เช่นกัน”

 

“ข้าด้วย” หลานหลิงพูดตาม

 

“ข้าเองก็เห็นแจ้งบางอย่างในการเดินทางครั้งนี้” จิ๋วเจี้ยนเหลือบมองหลินฮวงตอนเขาพูด “ข้าเตรียมจะปิดประตูบ่มเพาะสักพักเพื่อทําความเข้าใจ ข้าจะคิดถึงการยกระดับพลังข้าทีหลัง”

 

“ แล้วเจ้ายังวางแผนจะอยู่ในเคียวแห่งความตายต่อไหม?”เวอชุโอโซถามหลินฮวง

 

“ข้าคิดว่าเคียวแห่งความตายค่อนข้างดี” หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม” พวกเขามีทรัพยากรและเชื่อถือได้ ข้าไม่ต้องกังวลอะไร”

 

“เจ้าสนใจมาเยี่ยมสโมสรหน่อยไหม?”เวอชุโอโซใช้คลื่นเสียงเพื่อถามเรื่องนี้

 

หลินฮวงตกใจตอนได้ยินทันทีทันใด เขารีบถามผ่านคลื่นเสียง” สโมสรมีสาขาในมหาพิภพด้วยเหรอ?”

 

“มีสิ มีสาขาอยู่ทุกโลกที่มีสมาชิกสโมสร” หลังพูด เวอชุโอโวก็รู้สึกว่าเขาไม่ระวังพอ เขาจึงพูด เสริม “มีโลกแค่หยิบมือที่มีสมาชิกหนึ่งหรือสองคน ดังนั้นจึงไม่มีสาขาอะไรที่นั้น จํานวนสมาซิกต่ําเกินไป”

 

“มีสมาชิกมากแค่ไหนในสาขาของมหาพิภพ?” หลินฮวงถาม

 

“นับรวมเจ้ากับข้า มีห้าคนที่ยังมีชีวิต” เวอชุโอโซอธิบาย”มีคนสองคนที่เป็นเหมือนเจ้า พวกเขาเป็นคนท้องถิ่น ส่วนอีกคนเป็นเหมือนข้าร่างแยกของสิ่งมีชีวิตกลับชาติมาเกิดใหม่”

 

“แล้วระดับพลังของพวกเขาละ?” หลินฮวงถามเพิ่ม

 

“นอกจากเราสองคน พวกเขาล้วนเป็นจ้าวเทวะ” คําตอบของเวอชุโอโซทําให้หลินฮวงเงียบไป

 

หลังพิจารณาสักพัก หลินฮวงก็ส่ายหัว” สําหรับตอนนี้ ข้าจะยังไม่ติดต่อทั้งสาม”

 

เขาไม่มั่นใจว่าจะมีสายจากไรเดอร์ในหมู่ทั้งสามไหม

 

ในความเป็นจริง แม้เขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเวอชุโอโซบ้างตลอดการเดินทางนี้ เขาก็ยังไม่เชื่อใจเวอชุโอโซอย่างสมบูรณ์และยังไม่ตัดเขาออกจากการเป็นไรเดอร์

 

นอกจากนี้ ก่อนเขาจะมีความสามารถป้องกันตัวเอง เขาไม่อยากเปิดเผยตัวและดึงความสนใจของพวกไรเดอร์ โดยเฉพาะไรเดอร์ระดับจ้าวเทวะ

 

“ดีมาก ข้าเข้าใจ” เวอชุโอโซดูเหมือนจะอ่านความคิดของหลินฮวง”ถ้าเจ้าไม่ ไปเจอพวกเขาเอง ข้าก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนพวกเขาให้เจ้าฟังได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจว่าทําไม”

 

“ข้าเข้าใจ” หลินฮวงพยักหน้า

 

การสนทนาระหว่างทั้งคู่กินเวลาแค่ชั่วขณะ จิ่วเจี้ยนกับคนอื่นจึงไม่รู้ตัว

 

ตอนนี้ที่หลินฮวงได้เปิดเรื่อง ทั้งห้าจึงฝืนคุยกัน

 

หลังผ่านไปประมาณสองชั่วโมง มีเรื่องน่าหวาดเสียวบ้าง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายด้วงยักษ์ก็พาทั้งห้าไปยังจุดที่พวกเขาได้กําหนดพิกัดไว้ตอนเข้ามา

 

หลังเวอชุโอโซเตือนทุกคน ทั้งห้าก็ออกจากตัวด้วงยักษ์ที่ละคน

 

เวอชุโอโซยังระมัดระวังและไม่ลบภาพลวงตาที่อําพรางทั้งห้า

 

พวกเขาเหลือบมองด้วงยักษ์ สุดท้ายก็ไม่ฆ่ามัน พวกเขากลับปล่อยให้เวอชุโอโซลบความทรงจํามันและส่งมันไปตามทา

 

ไม่นานหลังด้วงยักษ์ไป เวอชุโอโซก็นําตัวกระสวยอวกาศขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์ออกมาและทําการประสานมือ

 

วินาทีต่อมา กระสวยก็ฉีกเปิดวังวนมิติในความว่างเปล่า

 

แทบจะในเวลเดียวกัน ทั้งวงกตแมลงปีศาจเริ่มสั่นสะเทือนอย่างแรง กลิ่นอายน่ากลัวฟูงพรวดขึ้นจากใต้ดิน

 

“ราชินีแมลงตื่นแล้ว?!”

 

หลินฮวงกับคนอื่นรีบก้าวเข้าไปในวังวนมิติโดยไม่ลังเล กลัวว่ามันจะสายเกินไป

 

ทันทีที่วังวรปิด กรงเล็บแหลมก็แทงทะลุผ่านชั้นอากาศและกระทบจุดที่วังวนหายไป

 

หลังจากนั้น เสียงกรีดร้องแหลมก็ดังสะท้อนไปทั่วทั้งวงกตแมลงปีศาจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1597 ชาชินีแมลงตื่นขึ้น

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1597 ชาชินีแมลงตื่นขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดินแดนหุบเหวภัยพิบัติยังเต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุกเช่นเคย

 

หลินฮวงกับพรรคพวกเลือกกลับเส้นทางเดิม

 

ภายใต้การนําของถูทงและหลานหลิง ทั้งห้าเขตอาณาเขตของตะกละก่อน

 

เทียบกับก่อนหน้า ทั้งห้าผ่านได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า

 

ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง พวกเขาก็ผ่านอาณาเขตของตะกละไปได้

 

แต่ทว่า ในเวลาหนึ่งชั่วโมงสั้นๆนี้ หลินฮวงฆ่าพวกตะกละไปกว่าสองร้อย ประสิทธิภาพการฆ่าของเขาไม่ต่ําไปกว่าตอนแรกที่ต้องใช้เวลาเต็มวัน

 

หลังผ่านอาณาเขตของตะกละ พวกเขาก็เดินทางกลับเส้นทางเดิม ผ่านอาณาเขตของความ โลภริษยาและความโกรธ

 

จํานวนกฏเทพที่หลินฮวงปล้นมาเพิ่มขึ้น

 

กว่าสี่ชั่วโมงต่อมา สุดท้ายทั้งห้าก็ออกดินแดนหุบเหวภัยพิบัติได้

 

ตามเส้นทางในความทรงจํา ไม่ช้าหลานหลิงก็พบวงกตแมลงปีศาจที่ทั้งห้าเข้าตอนมาถึงหุบเหว

 

สีหน้าของถูทงกับหลานหลิงดูไม่สบายใจพอจ้องวงกตแมลงปีศาจ

 

ไม่มีใครในหุบเหวเต็มใจเข้าวงกตแมลงปีศาจ

 

เหตุผลหนึ่งคือมีอสูรเผ่าแมลงมากมายภายในวงกต คนเราสามารถหมดแรงตายได้แค่สู้กับพวกมัน

 

อีกเหตุผลคือทันทีที่เข้าวงกต มันยากมากที่จะหาทางออกและออกมาแบบเป็นๆ

 

โชคดี หลินฮวงกับคนอื่นไม่ต้องการหาทางออก ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทําคือหาพิกัดที่ทั้งห้าใช้ เพื่อเคลื่อนย้ายเข้าไปในวงกตแมลงปีศาจตอนแรก

 

มีจุดบอดมิติมากมายในหุบเหวที่เชื่อมต่อกับโลกต่างๆ

 

เวอซุโอโซยังบันทึกจุดบอดมิติมากมายไว้ แต่ทว่า ปัญหาคือมีเรื่องเกิดขึ้นกับพิกัดตอนพวกเขาเคลื่อนย้ายเข้า เช่นนั้น พวกเขาจึงถูกส่งไปยังพื้นที่นอกแผนที่ที่เวอชุโอโซคุ้นเคย

 

นอกจากจุดบอดมิติที่ทั้งห้าใช้เข้ามา พวกเขาไม่รู้เลยว่าจุดบอดอื่นอยู่ไหน ต่อให้พบจุดบอดมิติอื่น พวกเขาก็ไม่กล้าใชเพวกเขาไม่รู้ว่ามันจะนําพวกเขาไปที่ใด

 

ดังนั้น ตัวเลือกดเยวของพวกเขาคือกลับไปจุดที่พวกเขาเข้ามา

 

จุดนั้นดันอยู่ในวงกตแมลงปีศาจด้านหน้าพวกเขา

 

ครั้งนี้ พวกเขาไม่ต้องฝืนฝ่าเข้าไป

 

วงกตแมลงปีศาจต่างจากสถานที่อื่น แค่จํานวนสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวก็มากพอทําให้พวกเขาหมดแรงตาย

 

ยิ่งไปกว่านั้น โครงสร้างภายในของวงกตแมลงปีศาจซับซ้อนมาก ถ้าพวกเขากระตุ้นศัตรูและโดนเผ่าแมลงไล่ล่า มันยากมากที่พวกเขาจะหาพิกัดถ้าพวกเขาตื่นตระหนกและไปผิดทาง

 

ตามแผนที่พวกเขาหารือระหว่างทาง ทั้งห้าจะใช้ภาพลวงตาของเวอชุโอโซเพื่ออําพรางตัวเองเป็นหนอนเท้าดาบห้าตัว

 

หนอนเท้าดาบคือกลุ่มลาดตระเวนทั่วไปในวงกตแมลงปีศาจ

 

“ภาพลวงตาของข้ามีผลจํากัดเฉพาะเทพสวรรค์ขั้นเก้า หวังว่าเราจะโชคดีนะ” เวอชุโอโซเตือ นล่วงหน้า

 

หลังทั้งห้าอําพรางตัวเสร็จ พวกเขาก็ตรงไปทางเข้าวงกตทีละคน

 

“เราถือว่าโชคดี” ถูทงถอนหายใจโล่งอกตอนตระหนักว่าไม่มีแมลงแถวนี้

 

“ทางนี้” หลานหลิงชี้และรีบนําทาง

 

แม้พวกเขาจะรู้สึกใจร้อน แต่ทั้งห้าก็ไม่กล้าเผยจุดบกพร่องที่อาจทําให้ศัตรูรู้ตัว พวกเขาทําได้ แค่เคลื่อนที่ช้า ๆ ตามความเร็วลาดตระเวนปกติของหนอนเท้าดาบ

 

เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างราบรื่นดี

 

พวกเขาเจอแมลงบางตัวระหว่างทาง และก็ยังเดินผ่านจุดรวมตัวของแมลง แต่ไม่โดนพบ

 

แต่ทว่า ตอนพวกเขาพบด้วงยักษ์ เวอชุโอโซกลับแนะนําให้พวกเขาซ่อนในนั้น

 

ตลอดทาง พวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เจอกับอสูรแมลงที่มีพลังจิตทรงพลังจนมองพวกเขาออก มันปลอดภัยกว่าที่จะซ่อนตัวในตัวของด้วงยักษ์เน่าเปื่อย

 

ทั้งห้าไม่ค้าน จริง ๆ แล้ว ทั้งห้าจําได้ว่าพวกเขาเองก็เคยซ่อนในตัวด้วงยักษ์เมื่อเดือนก่อนตอนเข้าวงกตแมลงปีศาจ

 

ด้วงยักษ์แสนน่าสงสารตัวนี้ต้องทนชะตากรรมเดียวกับเพื่อนร่วมเผ่ามัน

 

หลังเวอชุโอโซควบคุมสิ่งมีชีวิตด้วยทักษะลวงตา หลินฮวงก็เฉือนเปิดท้องมัน ทั้งห้าปิดกลั้นประสาทสัมผัสกลิ่นและคลุมตัวเองด้วยจิตเทวะ จากนั้นก็มุดเข้าไปในตัวด้วงที่บละคน ลดกลิ่นอายพวกเขาให้ได้มากสุดเท่าที่จะทําได้

 

ภายใต้การควบคุมของเวอชุโอโซ ด้วงยักษ์หมุนตัวและค่อยๆ เคลื่อนไปในทิศทางที่ทั้งห้าเคยมา

 

ด้วงยักษ์เน่าเปื่อยเหล่านี้ไม่ได้รับการต้อนรับในวงกตนัก

 

พวกมันมีสติปัญญาต่ํา และพวกมันก็เดินช้ามาก กลิ่นเหม็นเน่าเปื่อยรุนแรงยังแผ่จากตัวพวกมัน และพวกมันก็ยังมีพิษร้ายแรงอีกด้วย โดยปกติ ไม่มีแมลงตัวใดเต็มใจเข้าใกล้พวกมัน

 

วงกตแมลงปีศาจยอมรับการอยู่ของด้วงยักษ์เพราะพวกมันกินขยะที่แมลงตัวอื่นทิ้ง พวกมันคือพวกกินเศษขยะของทั้งวงกต

 

พวกมันจะเร่ร่อนในหมู่เผ่าแมลงต่างๆทุกวันเพื่อค้นหาเศษอาหารเหลือ

 

ไม่ว่าพวกด้วงยักษ์จะไปไหน แมลงทุกตัวจะไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ

 

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มของหลินฮวงซ่อนตัวในตัวของด้วงยักษ์ และพวกเขาก็พบว่าครั้งนี้ง่ายกว่าเดิมมาก

 

มันยังให้ความรู้สึกเหนียวหนืดและน่าขยะแขยงเหมือนเดิม

 

ตอนนี้ที่พวกเขาชินแล้ว หลินฮวงจึงมีความคิดไร้สาระในหัว”ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงของการเน่าเปื่อย พิษกัดกร่อนอนุภาคพลังงานหุบเหว และความเหนียดเหนอะหนะนี้ เจ้าตัว นี้สามารถถือได้ว่าเป็นสัตว์ขีชั้นเลิศ อย่างน้อยมันก็เดินได้อย่างมั่นคง ทําให้เรารู้สึกเหมือนกําลังลอยเลย

 

สมาชิกทั้งห้าของกลุ่มเงียบไปนานในท้องของด้วงยักษ์

 

นอกจากหลานหลิงที่พูดบอกทางเป็นครั้งคราว คนอื่นไม่พูดอะไร

 

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทุกคนไม่มีกะจิตกะใจจะคุย ทั้งหมดที่ต้องการคือไปถึงจุดหมาย ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้

 

“พวกเจ้ามีแผนจะทําอะไรหลังเราออกไปจากที่นี่?”หลินฮวงอดทําลายความเงียบไม่ได้

 

“ปิดประตูบ่มเพาะเพื่อหลอมผนึกเจ้าปราสาท จากนั้นก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์” คําตอบของเวอชุโอโซเรียบง่าย

 

เมื่อเห็นว่าเวอชุโอโซไม่คิดพูดอีก ถูทงก็พูดต่อ” ข้าเองก็จะปิดประตูบ่มเพาะเพื่อ ทะลวงเป็นเทพสวรรค์เช่นกัน”

 

“ข้าด้วย” หลานหลิงพูดตาม

 

“ข้าเองก็เห็นแจ้งบางอย่างในการเดินทางครั้งนี้” จิ๋วเจี้ยนเหลือบมองหลินฮวงตอนเขาพูด “ข้าเตรียมจะปิดประตูบ่มเพาะสักพักเพื่อทําความเข้าใจ ข้าจะคิดถึงการยกระดับพลังข้าทีหลัง”

 

“ แล้วเจ้ายังวางแผนจะอยู่ในเคียวแห่งความตายต่อไหม?”เวอชุโอโซถามหลินฮวง

 

“ข้าคิดว่าเคียวแห่งความตายค่อนข้างดี” หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม” พวกเขามีทรัพยากรและเชื่อถือได้ ข้าไม่ต้องกังวลอะไร”

 

“เจ้าสนใจมาเยี่ยมสโมสรหน่อยไหม?”เวอชุโอโซใช้คลื่นเสียงเพื่อถามเรื่องนี้

 

หลินฮวงตกใจตอนได้ยินทันทีทันใด เขารีบถามผ่านคลื่นเสียง” สโมสรมีสาขาในมหาพิภพด้วยเหรอ?”

 

“มีสิ มีสาขาอยู่ทุกโลกที่มีสมาชิกสโมสร” หลังพูด เวอชุโอโวก็รู้สึกว่าเขาไม่ระวังพอ เขาจึงพูด เสริม “มีโลกแค่หยิบมือที่มีสมาชิกหนึ่งหรือสองคน ดังนั้นจึงไม่มีสาขาอะไรที่นั้น จํานวนสมาซิกต่ําเกินไป”

 

“มีสมาชิกมากแค่ไหนในสาขาของมหาพิภพ?” หลินฮวงถาม

 

“นับรวมเจ้ากับข้า มีห้าคนที่ยังมีชีวิต” เวอชุโอโซอธิบาย”มีคนสองคนที่เป็นเหมือนเจ้า พวกเขาเป็นคนท้องถิ่น ส่วนอีกคนเป็นเหมือนข้าร่างแยกของสิ่งมีชีวิตกลับชาติมาเกิดใหม่”

 

“แล้วระดับพลังของพวกเขาละ?” หลินฮวงถามเพิ่ม

 

“นอกจากเราสองคน พวกเขาล้วนเป็นจ้าวเทวะ” คําตอบของเวอชุโอโซทําให้หลินฮวงเงียบไป

 

หลังพิจารณาสักพัก หลินฮวงก็ส่ายหัว” สําหรับตอนนี้ ข้าจะยังไม่ติดต่อทั้งสาม”

 

เขาไม่มั่นใจว่าจะมีสายจากไรเดอร์ในหมู่ทั้งสามไหม

 

ในความเป็นจริง แม้เขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเวอชุโอโซบ้างตลอดการเดินทางนี้ เขาก็ยังไม่เชื่อใจเวอชุโอโซอย่างสมบูรณ์และยังไม่ตัดเขาออกจากการเป็นไรเดอร์

 

นอกจากนี้ ก่อนเขาจะมีความสามารถป้องกันตัวเอง เขาไม่อยากเปิดเผยตัวและดึงความสนใจของพวกไรเดอร์ โดยเฉพาะไรเดอร์ระดับจ้าวเทวะ

 

“ดีมาก ข้าเข้าใจ” เวอชุโอโซดูเหมือนจะอ่านความคิดของหลินฮวง”ถ้าเจ้าไม่ ไปเจอพวกเขาเอง ข้าก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนพวกเขาให้เจ้าฟังได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจว่าทําไม”

 

“ข้าเข้าใจ” หลินฮวงพยักหน้า

 

การสนทนาระหว่างทั้งคู่กินเวลาแค่ชั่วขณะ จิ่วเจี้ยนกับคนอื่นจึงไม่รู้ตัว

 

ตอนนี้ที่หลินฮวงได้เปิดเรื่อง ทั้งห้าจึงฝืนคุยกัน

 

หลังผ่านไปประมาณสองชั่วโมง มีเรื่องน่าหวาดเสียวบ้าง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายด้วงยักษ์ก็พาทั้งห้าไปยังจุดที่พวกเขาได้กําหนดพิกัดไว้ตอนเข้ามา

 

หลังเวอชุโอโซเตือนทุกคน ทั้งห้าก็ออกจากตัวด้วงยักษ์ที่ละคน

 

เวอชุโอโซยังระมัดระวังและไม่ลบภาพลวงตาที่อําพรางทั้งห้า

 

พวกเขาเหลือบมองด้วงยักษ์ สุดท้ายก็ไม่ฆ่ามัน พวกเขากลับปล่อยให้เวอชุโอโซลบความทรงจํามันและส่งมันไปตามทา

 

ไม่นานหลังด้วงยักษ์ไป เวอชุโอโซก็นําตัวกระสวยอวกาศขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์ออกมาและทําการประสานมือ

 

วินาทีต่อมา กระสวยก็ฉีกเปิดวังวนมิติในความว่างเปล่า

 

แทบจะในเวลเดียวกัน ทั้งวงกตแมลงปีศาจเริ่มสั่นสะเทือนอย่างแรง กลิ่นอายน่ากลัวฟูงพรวดขึ้นจากใต้ดิน

 

“ราชินีแมลงตื่นแล้ว?!”

 

หลินฮวงกับคนอื่นรีบก้าวเข้าไปในวังวนมิติโดยไม่ลังเล กลัวว่ามันจะสายเกินไป

 

ทันทีที่วังวรปิด กรงเล็บแหลมก็แทงทะลุผ่านชั้นอากาศและกระทบจุดที่วังวนหายไป

 

หลังจากนั้น เสียงกรีดร้องแหลมก็ดังสะท้อนไปทั่วทั้งวงกตแมลงปีศาจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+