ตอนที่ 1620 พบสมาชิกเคียวโลหิตเป็นครั้งแรก

 

ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หลุมดําขนาดมหึมาที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าค่อยๆหมุน

 

มันกลืนกินทุกอย่างรอบมันอย่างโหดเหี้ยม ดวงดาว อุกกาบาต ฝุ่นและแม้แต่แสง…

 

แต่ทว่า ตอนนี้มีร่างหนึ่งยืนตรงหน้าหลุมดํา ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลจากแรงโน้มถ่วงเลย

 

ถ้าสังเกตให้ใกล้ พวกเขาจะเห็นว่านี่คือ ‘ชายหนุ่ม’

 

เขาดูอายุมากสุดแค่13-14 และสูงไม่ถึง1.6เมตร แต่เขามีหัวสีขาว

 

เขาลอยตรงหน้าหลุมดําทั้งอย่างนั้น มือของเขาอยู่ในกระเป๋ากางเกง ดวงตาของเขาปิดลงเล็กน้อยราวกับกําลังรอบางสิ่ง

 

ไม่ไกลจากชายหนุ่มผมขาวมีคนหกคนยืนอยู่

 

ถ้าสมาชิกเคียวทองคําอาวุโสจากเคียวแห่งความตายอยู่นี่ พวกเขาจะสามารถระบุตัวตนของทั้งหกได้ว่าเป็นสมาชิกเคียวโลหิต

 

หกในเจ็ดสมาชิกเคียวโลหิตอยู่ครบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากําลังคุ้มกันพิธียกระดับของใต้สวรรค์

 

ตอนหลินฮวงข้ามมิติและเผยตัว ทั้งหกก็ตื่นตัวทันที

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงการมาของหลินฮวง ใต้สวรรค์ก็ค่อยๆลืมตาและพยักหน้าให้เขา

 

หลินฮวงพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองสมาชิกเคียวโลหิตทั้งหก

 

เขาไม่เคยเจอเคียวโลหิตมาก่อน แต่ทว่า ตัดสินจากความหนาแน่นของกลิ่นอาย ทั้ง หกคือกิ่งจ้าวเทวะ นอกจากนี้ ท่ามกลางกึ่งจ้าวเทวะ พวกเขายังถือว่าทรงพลัง

 

ในขณะเดียวกัน สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกก็กําลังสังเกตหลินฮวงด้วย

 

ตลอดปีนี้ พวกเขารู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหลินฮวง ไม่ว่ามันจะเป็นตัวตนของเขาในฐานะเซี่ยหลินและซิวมู่ เขาทิ้งประวัติน่าตกใจไว้

 

ไม่นานมานี้ หลินฮวงยังรับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อีกยี่สิบหกภารกิจ พวกเขารู้เกี่ยวกับการฆ่าต่อเนื่องของเขา รวมถึงว่าเขาสามารถลอบสังหารเซินอวี่กับเซินเจวี่ยได้เร็จแม้กึ่งจ้าวเทวะจะพยายามหยุดเขา

 

ตอนนี้ ในที่สุดชายหนุ่มคนนี้ก็ปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขา

 

โดยธรรมชาติ สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกอดมองเขาไม่ได้

 

อย่างไรก็ตาม ยิ่งพวกเขาสังเกต พวกเขายิ่งรู้สึกที่งในความเป็นจริง วินาทีต่อมา พวกเขาก็เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกมีแค่คําพูดเดียวในหัวหลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่จากตัวของหลินฮวงว่า “เจาะไม่ได้!”

 

เนื่องจางความรู้สึกพิเศษนี้ สองในหกจึงอดพยายามตรวจสอบด้วยจิตเทวะไม่ได้

 

โดยธรรมชาติ ความพยายามนั้นสูญเปล่า

 

พลังวิญญาณเทพปัจจุบันของหลินฮวงได้ถึงระดับของเจ้าดวงดาวทั่วไปแล้ว เขายังมีอาวุธเต๋าประเภทวิญญาณในตัวที่ป้องกันการพยายามตรวจสอบได้ง่ายๆ

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งสองที่ไม่อาจต่อต้านความอยากจะตรวจสอบโดยอาวุธเต๋าสกัดกั้นจิตเทวะไว้ง่ายๆ

 

หลังความพยายามล้มเหลว ทั้งสองก็อุทานออกมาพร้อมกัน

 

พออีกสี่ถามผ่านคลื่นเสียง พวกเขาก็อดตรวจสอบด้วยไม่ได้และพบเจอปัญหาเดียวกัน

 

เคียวโลหิตทั้งหกกําลังมอหลินฮวงด้วยท่าทางที่แปลกยิ่งกว่าเดิม

 

โดยธรรมชาติ หลินฮวงสัมผัสได้ว่าทั้งหกกําลังตรวจสอบเขา แต่ทว่า มันไม่ทําให้เขาหงุดหงิด เขากลับริเริ่มทักทาย

 

“ซิวมู่ขอทักทายผู้อาวุโสเคียวโลหิตทั้งหก!”

 

“ซิวมู่ เราได้ยินเรื่องของเจ้ามามาก และในที่สุดตอนนี้เราก็ได้พบกัน “คนแรกที่ทักทายหลินฮวงเป็นชายชราตัวผอมสูง เขาสูงสามเมตร แต่ทั้งตัวกลับย่นเหมือนศพเพียวผิวของเขาซีดและ แทบไร้สีเลือด

 

แม้หลินฮวงจะไม่เคยเจอสมาชิกเคียวโลหิตมาก่อน อํานาจเคียวทองของเคียวแห่งความตายก็ช่วยให้เขาเข้าถึงข้อมูลของสมาชิกเคียวโลหิตทั้งเจ็ดได้บ้าง

 

ชายตรงหน้าของเขาคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาชิกเคียวแห่งความตาย ชื่อของเขาคือโลหิตไร้ขอบเขต

 

เขาเกิดมาในเผ่าโปรตอสโลหิต ซึ่งถือเป็นเผ่าใหญ่ในแดนเทพและมีประชากรสูง

 

“เป็นความจริงที่ผู้เยาว์จะแซงหน้าผู้อาวุโส!” คนที่สองที่พูดคือหญิงสาวขายาว

 

ร่างกายเธอแทบไม่ต่างจากมนุษย์ แต่ทว่า หางสีแดงคล้ายไฟซุกซ่อนอยู่ใต้กะโปรงนาง

 

หลินฮวงจําได้ว่านางคือผู้หญิงคนเดียวในหมู่เคียวโลหิต หู่เซียนเอ๋อร์แห่งเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง

 

เผ่าจิ้งจอกเก้าหางถือว่าเป็นใหญ่ในแดนเทพ ที่จุดสูงสุด พวกเขาถือว่าเป็นหนึ่งในเผ่าที่ทรงพลังสุดในแดนเทพ แต่ทว่า พวกเขาก็ประสบกับความเสื่อมถอย

 

เคียวโลหิตที่เหลือไม่พูด แต่หลินฮวงเห็นว่าหนึ่งในนั้นพยักหน้าให้เขา

 

มันเป็นตอนที่หลินฮวงเลื่อนเป็นเคียวทองและได้รับอํานาจดูข้อมูลเกี่ยวกับเคียวโลหิตเขาถึงพบว่ามีมนุษย์ท่ามกลางเจ็ดเคียวโลหิต ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือคนคนนั้น

 

แม้จะมีข้อมูลน้อย หลินฮวงก็รู้ว่าเคียวโลหิตคนนี้ชื่อเกาหมิง และก็เป็นผู้บ่มเพาะกระบี่

 

หลินฮวงรู้เหตุผลที่เขาสามารถอยู่ได้อย่างราบรื่นในฐานะมนุษย์ภายในเคียวแห่งความตาย

 

มันเพราะเกาหมิง มนุษย์หนึ่งเดียวในเคียวแห่งความตายอยู่ในองค์กรที่ไม่เคยกีดกันนุษย์ นอกจากนี้ พวกเขายังมักยอมรับสมาชิกมนุษย์

 

หลินฮวงพยักหน้ากลับให้เกาหมิง บ่งชี้ว่าเขารู้ตัวตนของอีกฝ่าย

 

สําหรับความผิดปกติที่พวกเขาสัมผัสได้จากหลินฮวง เคียวโลหิตไม่ถามถึงมัน

 

อัจฉริยะสูงสุดทุกคนครอบครองโชคและชะตากรรมไร้ใครเทียบ เหล่านี้คือสิ่งที่คนอื่นอาจอิจฉาแต่ไม่มีวันได้รับ

 

ในความเป็นจริง เคียวโลหิตทั้งหกมีการคาดเดาอย่างคลุมเครือที่หลินฮวงอาจมีอาวุธเต๋าประเภทวิญญาณ

 

ไม่ช้า สมาชิกเคียวโลหิตเดินมาคุยกับเขาทีละคน บรรยากาศไม่อึดอัดอย่างที่หลินฮวงคิด เดิมเขาคิดว่าเนื่องจากสมาชิกเคียวโลหิตมีสถานะสูงและล้วนเป็นกิ่งจ้าวเทวะ พวกเขาก็ต้องข่มเขา แต่ทว่า มันไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาดูเหมือนจะสัมผัสได้ว่าความสามารถของเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกเขา สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกไม่ได้มองเขาเป็นผู้เยาว์

 

“ตอนกําลังคัดเลือกสถานที่สําหรับพิธี มีอะไรที่ต้องให้ความสนใจไหม?ทําไมใต้สวรรค์ถึงเลือกที่นี่?” หลังพวกเขากลายเป็นคุ้นเคยกัน หลินฮวงก็หยิบยกข้อกังวลขึ้นมา

 

จากระยะไกล เขาสัมผัสได้ถึงหลุมดํายักษ์ด้านหลังใต้สวรรค์ ด้วยความที่เขาได้ยินเรื่องราวของมันมามากบนโลก เขาจึงยังถือว่าปรากฏการณ์นี้นั้นน่ากลัว

 

“กระบวนการยกระดับจะปล่อยพลังงานจํานวนมาก และยังมีพวกนักล่าอีกด้วย มันจะสร้างหายนะต่อทั้งเขตดาว โดยธรรมชาติ เราไม่อาจเลือกเขตที่มีประชากรหนาแน่นได้”เกาหมิงอธิบาย”ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อดีที่เลือกทําการยกระดับใกล้หลุมดํา มันสามารถดูดคลื่นพลังงาน จํานวนมากได้ ซึ่งจะลดโอกาสที่จะโดนยดอฝีมือคนอื่นสัมผัสได้”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว”

 

หลังจากนั้น เขาก็ถามคําถามเพิ่ม และสมาชิกเคียวโลหิตก็ตอบเขาทีละคน

 

หลายชั่วโมงผ่านไป

 

ตอนพวกเขาสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของใต้สวรรค์เริ่มแผ่ออกมา หลินฮวงกับคนอื่นก็หยุดคุยและ หันไปทางใต้สวรรค์

 

พวกเขารู้ว่ากระบวนการยกระดับของใต้สวรรค์ได้เริ่มขึ้นแล้ว!

 

Related