Monster Paradise 1667 ต้องแบบนี้สิ

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1667 ต้องแบบนี้สิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1667 ต้องแบบนี้สิ

 

หลินฮวงหลงลืมเรื่องเวลาไปในกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ร้อยปี พันปี หรือแม้แต่หมื่นปีกันแน่..

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพในตัวของเขาสร้างขึ้นทีละหนึ่งจากความว่างเปล่า จนถึงจุดที่มีล้านห่วงโซ่ หลินฮวงถึงลืมตา

 

จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพพุ่งทะยานเป็นล้าน ซึ่งเป็นจํานวนสูงสุดที่บัญญัติเทพจะรองรับได้

 

เขาสัมผัสได้ว่าจํานวนห่วงโซ่ที่เขาสร้างได้ก็มาถึงขีดจํากัดแล้วเช่นกัน

 

เขายังพยายามสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพสายที่ล้านหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลว เขาทําได้แค่ยอมแพ้หลังล้มเหลวสามครั้งติด

 

“แล้วถ้าข้าอยากเลื่อนความสามารถข้าไปอีก สิ่งเดียวที่ข้าทําได้คือสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม ข้าควร..” หลินฮวงพิจารณาสักพัก เขาดูเหมือนจะมาถึงขีดจํากัดแท้จริงของเทพสวรรค์แล้ว เขาไม่อาจก้าวหน้าต่อไดอีก

เพื่อเลื่อนความสามารถของเขาไปอีก ทางเลือกเดียวของเขาคือสร้างผนึกเต๋าและกลาย เป็นจ้าวเทวะ

 

“ข้าอยากสร้างผนึกเต๋าตอนนี้เลยจะได้ไหมนะ?” หลินฮวงคิดและรู้สึกว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องเลื่อนวัน

 

แต่ทว่า ไม่ช้าเขาก็พบปัญหา

 

“นักล่าทั้งหมดคือวอยด์ ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรวัตถุ กระบวนการควรคล้ายกับของใต้สวรรค์ ความแตกต่างจะเป็นพลังของนักล่า”

 

“แต่ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรเสมือนด้วยกายเสมือนละ? มันจะดึงดูดนักล่าเพิ่มไหม?”

 

หลินฮวงพิจารณาว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ล่อเหยื่อจํานวนมากมาฆ่าดีไหม

 

“มันไม่สําคัญต่อให้กายเสมือนนี้จะตายอยู่แล้ว กายเสมือนของข้ามีสามชีวิตต่อวัน

 

หลินฮวงไม่ลังเลอีกในจุดนี้

 

เขาลุกขึ้นทันทีและก้าวออกกระท่อมอาณาจักรเสมือนไป เปลี่ยนมันกลับเป็นการ์ด

 

แม้เขาจะไม่มั่นใจมากว่ากระท่อมสามารถโดนทําลายได้ไหม เขาก็ไม่อยากทดลอง

 

เขายืนมองโลกสีขาวดําตรงหน้า หลินฮวงสงบสติเล็กน้อย กลิ่นอายของทั้งตัวเขาเริ่มพุ่ง

 

ครั้งนี้ เขาไม่สะกดพลังเลย

 

เขาปลดปล่อยพลังเต็มที่ของห่วงโซ่ลําดับเทพ

 

ตัวของเขาเริ่มแยกออกจากดาวนิวตรอนและแรงโน้มถ่วงอันน่ากลัว ค่อยๆลอยเข้าอวกาศ

 

ในจักรวาลสีขาวดําไร้ขอบเขตนี้ เขาเป็นเหมือนฝุ่นผง

 

แต่ทว่า กลิ่นอายของเขาได้ปกคลุมดาวรอบตัวอย่างสมบูรณ์

 

ถ้ามีสิ่งมีชีวิตอื่นในเขตดาวละแวกนี้ แม้กระทั่งคนธรรมดาไร้พลังบ่มเพาะก็จะถูกจิตเทวะของเขาสัมผัสได้

 

หลินฮวงหลับตา ตัวของเขาผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์

 

บนตัวเขา ห่วงโซ่ลําดับเทพหลากสีพุ่งออกจากภายในตัวเขาเหมือนหนวด ห่วงโซ่ลําดับเทพเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีก พวกมันสร้างเป็นสายโซ่จริงๆ

 

ถ้าคนนอกเห็นฉากนี้ พวกเขาจะตกใจกับสายโซ่จํานวนมากที่พุ่งออกตัวหลินฮวง

 

มีสายโซ่ถึงล้านเส้น จํานวนที่น่ากลัวนี้เป็นตรรกะทั่วไป

 

ต้องรู้ว่าตอนใต้สวรรค์เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เขาครอบครองห่วงโซ่แค่ 27 สาย นอกจากนี้ เขายังเป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์ชั้นนําในมหาพิภพ

 

แม้กระทั่งจอมเทพที่ปกครองทั้งยุคสมัยก็ยังมีห่วงโซ่แค่ 42 สายเท่านั้น

 

นี่ไม่ใช่แต่ความต่างด้านจํานวน

 

ยิ่งห่วงโซ่ลําดับเทพที่เทพสวรรค์มีเยอะ ผนึกเต๋าก็จะยิ่งทรงพลังหลังผสาน

 

เหตุผลเพราะจํานวนห่วงโซ่จะเทียบเท่ากับจํานวนตราประทับเต๋า

 

นี่คือความรู้ทั่วไป

 

นอกจากนี้ จํานวนตราประทับเต๋าบนผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานครั้งแรกของจ้าวเทวะจะเป็นตัวกําหนดจํานวนตราประทับเบนผนึกเต๋าต่อๆมา

 

ผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานจะกําหนดรากฐานของจ้าวเทวะ

 

จ้าวเทวะสองคนที่เริ่มต้นด้วยตราประทับเต๋าที่ต่างกันจะมีช่องว่างใหญ่ขึ้นในอนาคตพอพวกเขาสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม

 

โดยธรรมชาติ ยิ่งจํานวนตราประทับเต๋าเยอะ มันยิ่งยากที่จะสร้างผนึกเต๋า มันจะใช้เวลานานกว่ามาก

 

ดังนั้น จ้าวเทวะที่มีตราประทับเต๋าน้อยกว่าจะไม่ได้เสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะเลื่อนระดับได้ไวกว่า

 

แต่ทว่า สําหรับหลินฮวง ความเร็วการเลื่อนระดับไม่ใช่ปัญหาเลย

 

ความเร็วบ่มเพาะของเขาไม่เคยช้า ตอนนี้เขายังมีประตูทุกอาณาจักร ซึ่งช่วยให้เขาเข้าออกอาณาจักรเสมือนได้ตามใจชอบ เขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่อองเวลา

 

เขายังมีทรัพยากรมากพอทําสิ่งที่คนอื่นทําไม่ได้

 

ถ้านี่เป็นคนอื่น ต่อให้พวกเขามีพรสวรรค์กับศักยภาพพอจะสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นล้านสาย พวกเขาก็ไม่มีทางหาเวลาได้

 

เป็นไปได้ที่พวกเขาจะรวมสายโซ่ล้านเส้นได้ แต่ศัตรูพวกเขาคงกลายเป็นจ้าวเทวะขั้นสูงไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้บ่มเพาะน้อยมากในแดนเทพที่จะทรงพลังพอๆกับหลินฮวง

 

ทรัพยากรเวลา กายา วิญญาณเทพ เขตแดนเทพ พรสวรรค์กับศักยภาพของเขาล้วนเหนือกว่าคนอื่น

 

ปัจจัยทั้งหมดรวมกันทําให้เขาน่ากลัวมาก

 

ในความว่างเปล่า หลังห่วงโซ่ลําดับเทพขยายออกตัวหลินฮวง พวกมันก็โบกสะบัดไปทั่วๆอย่างบ้าคลั่ง ราวกับพวกมันมีจิตสํานึก

 

ไม่นานนัก ห่วงโซ่ลําดับเทพก็เริ่มแยกจากตัวหลินฮวงที่ละเส้น เริ่มร่ายรําเหนือหัวเขาอย่างบ้าคชลั่ง พวกมันยังปลดปล่อยพลังลําดับเทพทุกชนิดและเริ่มสู้

 

มันดูเหมือนว่าพวกมันไม่อยากยอมจํานนกัน และทั้งหมดก็เริ่มต่อสู้

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลย เขารู้เรื่องนี้จากการดูการผสานของใต้สวรรค์ นี่คือขั้นแรกของการผสานการสื่อสารทางจิต

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเขาได้รับมรดกของจ้าวเทวะจากน้ําพมรณะ เขาก็ได้ดูข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับการผสานมาด้วย ตอนนี้เขามีประสบการณ์มากในการรับมือกับเรื่องนี้

 

ระหว่างช่วงสื่อสารจิต ห่วงโซ่ลําดับเทพจะได้รับสติปัญญา ดังนั้นพวกมันจึงเริ่มสู้กัน

 

ขั้นตอนนี้เรียกว่าช่วงลําดับเทพโกลาหลและก็อันตรายมาก

 

ถ้าวิญญาณเทพไม่ทรงพลังพอจะสะกดห่วงโซ่ลําดับเทพ การผสานจะล้มเหลวทันที

 

มันยังเป็นไปได้ว่าวิญญาณเทพอาจโดนบดขยี้โดยห่วงโซ่ที่แตกและจะตายคาที่

 

เท่าที่หลินฮวงกังวล การแก้ปัญหาในขั้นตอนนี้ไม่ถือว่าง่าย

 

ทันทีที่วิญญาณเทพระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดของเขาปลดปล่อย ด้ายจิตเทวะก็พุ่งออกไป มัดสี่งมีชีวิตประหลาดที่เกิดจากห่วงโซ่ลําดับเทพและบังคับพวกมันให้ระเบิด!

ทั้งกระบวนการจบลงในเวลาไม่ถึงสามวินาที

 

หลินฮวงมองดูสิ่งมีชีวิตจําแลงของห่วงโซ่ลําดับเทพระเบิดทีละหนึ่ง เผยให้เห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของพวกมัน พวกมันหดกลับเข้าตัวเขา และหลินฮวงก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

“ต้องแบบนี้”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1667 ต้องแบบนี้สิ

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1667 ต้องแบบนี้สิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1667 ต้องแบบนี้สิ

 

หลินฮวงหลงลืมเรื่องเวลาไปในกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ร้อยปี พันปี หรือแม้แต่หมื่นปีกันแน่..

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพในตัวของเขาสร้างขึ้นทีละหนึ่งจากความว่างเปล่า จนถึงจุดที่มีล้านห่วงโซ่ หลินฮวงถึงลืมตา

 

จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพพุ่งทะยานเป็นล้าน ซึ่งเป็นจํานวนสูงสุดที่บัญญัติเทพจะรองรับได้

 

เขาสัมผัสได้ว่าจํานวนห่วงโซ่ที่เขาสร้างได้ก็มาถึงขีดจํากัดแล้วเช่นกัน

 

เขายังพยายามสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพสายที่ล้านหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลว เขาทําได้แค่ยอมแพ้หลังล้มเหลวสามครั้งติด

 

“แล้วถ้าข้าอยากเลื่อนความสามารถข้าไปอีก สิ่งเดียวที่ข้าทําได้คือสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม ข้าควร..” หลินฮวงพิจารณาสักพัก เขาดูเหมือนจะมาถึงขีดจํากัดแท้จริงของเทพสวรรค์แล้ว เขาไม่อาจก้าวหน้าต่อไดอีก

เพื่อเลื่อนความสามารถของเขาไปอีก ทางเลือกเดียวของเขาคือสร้างผนึกเต๋าและกลาย เป็นจ้าวเทวะ

 

“ข้าอยากสร้างผนึกเต๋าตอนนี้เลยจะได้ไหมนะ?” หลินฮวงคิดและรู้สึกว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องเลื่อนวัน

 

แต่ทว่า ไม่ช้าเขาก็พบปัญหา

 

“นักล่าทั้งหมดคือวอยด์ ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรวัตถุ กระบวนการควรคล้ายกับของใต้สวรรค์ ความแตกต่างจะเป็นพลังของนักล่า”

 

“แต่ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรเสมือนด้วยกายเสมือนละ? มันจะดึงดูดนักล่าเพิ่มไหม?”

 

หลินฮวงพิจารณาว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ล่อเหยื่อจํานวนมากมาฆ่าดีไหม

 

“มันไม่สําคัญต่อให้กายเสมือนนี้จะตายอยู่แล้ว กายเสมือนของข้ามีสามชีวิตต่อวัน

 

หลินฮวงไม่ลังเลอีกในจุดนี้

 

เขาลุกขึ้นทันทีและก้าวออกกระท่อมอาณาจักรเสมือนไป เปลี่ยนมันกลับเป็นการ์ด

 

แม้เขาจะไม่มั่นใจมากว่ากระท่อมสามารถโดนทําลายได้ไหม เขาก็ไม่อยากทดลอง

 

เขายืนมองโลกสีขาวดําตรงหน้า หลินฮวงสงบสติเล็กน้อย กลิ่นอายของทั้งตัวเขาเริ่มพุ่ง

 

ครั้งนี้ เขาไม่สะกดพลังเลย

 

เขาปลดปล่อยพลังเต็มที่ของห่วงโซ่ลําดับเทพ

 

ตัวของเขาเริ่มแยกออกจากดาวนิวตรอนและแรงโน้มถ่วงอันน่ากลัว ค่อยๆลอยเข้าอวกาศ

 

ในจักรวาลสีขาวดําไร้ขอบเขตนี้ เขาเป็นเหมือนฝุ่นผง

 

แต่ทว่า กลิ่นอายของเขาได้ปกคลุมดาวรอบตัวอย่างสมบูรณ์

 

ถ้ามีสิ่งมีชีวิตอื่นในเขตดาวละแวกนี้ แม้กระทั่งคนธรรมดาไร้พลังบ่มเพาะก็จะถูกจิตเทวะของเขาสัมผัสได้

 

หลินฮวงหลับตา ตัวของเขาผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์

 

บนตัวเขา ห่วงโซ่ลําดับเทพหลากสีพุ่งออกจากภายในตัวเขาเหมือนหนวด ห่วงโซ่ลําดับเทพเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีก พวกมันสร้างเป็นสายโซ่จริงๆ

 

ถ้าคนนอกเห็นฉากนี้ พวกเขาจะตกใจกับสายโซ่จํานวนมากที่พุ่งออกตัวหลินฮวง

 

มีสายโซ่ถึงล้านเส้น จํานวนที่น่ากลัวนี้เป็นตรรกะทั่วไป

 

ต้องรู้ว่าตอนใต้สวรรค์เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เขาครอบครองห่วงโซ่แค่ 27 สาย นอกจากนี้ เขายังเป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์ชั้นนําในมหาพิภพ

 

แม้กระทั่งจอมเทพที่ปกครองทั้งยุคสมัยก็ยังมีห่วงโซ่แค่ 42 สายเท่านั้น

 

นี่ไม่ใช่แต่ความต่างด้านจํานวน

 

ยิ่งห่วงโซ่ลําดับเทพที่เทพสวรรค์มีเยอะ ผนึกเต๋าก็จะยิ่งทรงพลังหลังผสาน

 

เหตุผลเพราะจํานวนห่วงโซ่จะเทียบเท่ากับจํานวนตราประทับเต๋า

 

นี่คือความรู้ทั่วไป

 

นอกจากนี้ จํานวนตราประทับเต๋าบนผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานครั้งแรกของจ้าวเทวะจะเป็นตัวกําหนดจํานวนตราประทับเบนผนึกเต๋าต่อๆมา

 

ผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานจะกําหนดรากฐานของจ้าวเทวะ

 

จ้าวเทวะสองคนที่เริ่มต้นด้วยตราประทับเต๋าที่ต่างกันจะมีช่องว่างใหญ่ขึ้นในอนาคตพอพวกเขาสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม

 

โดยธรรมชาติ ยิ่งจํานวนตราประทับเต๋าเยอะ มันยิ่งยากที่จะสร้างผนึกเต๋า มันจะใช้เวลานานกว่ามาก

 

ดังนั้น จ้าวเทวะที่มีตราประทับเต๋าน้อยกว่าจะไม่ได้เสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะเลื่อนระดับได้ไวกว่า

 

แต่ทว่า สําหรับหลินฮวง ความเร็วการเลื่อนระดับไม่ใช่ปัญหาเลย

 

ความเร็วบ่มเพาะของเขาไม่เคยช้า ตอนนี้เขายังมีประตูทุกอาณาจักร ซึ่งช่วยให้เขาเข้าออกอาณาจักรเสมือนได้ตามใจชอบ เขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่อองเวลา

 

เขายังมีทรัพยากรมากพอทําสิ่งที่คนอื่นทําไม่ได้

 

ถ้านี่เป็นคนอื่น ต่อให้พวกเขามีพรสวรรค์กับศักยภาพพอจะสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นล้านสาย พวกเขาก็ไม่มีทางหาเวลาได้

 

เป็นไปได้ที่พวกเขาจะรวมสายโซ่ล้านเส้นได้ แต่ศัตรูพวกเขาคงกลายเป็นจ้าวเทวะขั้นสูงไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้บ่มเพาะน้อยมากในแดนเทพที่จะทรงพลังพอๆกับหลินฮวง

 

ทรัพยากรเวลา กายา วิญญาณเทพ เขตแดนเทพ พรสวรรค์กับศักยภาพของเขาล้วนเหนือกว่าคนอื่น

 

ปัจจัยทั้งหมดรวมกันทําให้เขาน่ากลัวมาก

 

ในความว่างเปล่า หลังห่วงโซ่ลําดับเทพขยายออกตัวหลินฮวง พวกมันก็โบกสะบัดไปทั่วๆอย่างบ้าคลั่ง ราวกับพวกมันมีจิตสํานึก

 

ไม่นานนัก ห่วงโซ่ลําดับเทพก็เริ่มแยกจากตัวหลินฮวงที่ละเส้น เริ่มร่ายรําเหนือหัวเขาอย่างบ้าคชลั่ง พวกมันยังปลดปล่อยพลังลําดับเทพทุกชนิดและเริ่มสู้

 

มันดูเหมือนว่าพวกมันไม่อยากยอมจํานนกัน และทั้งหมดก็เริ่มต่อสู้

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลย เขารู้เรื่องนี้จากการดูการผสานของใต้สวรรค์ นี่คือขั้นแรกของการผสานการสื่อสารทางจิต

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเขาได้รับมรดกของจ้าวเทวะจากน้ําพมรณะ เขาก็ได้ดูข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับการผสานมาด้วย ตอนนี้เขามีประสบการณ์มากในการรับมือกับเรื่องนี้

 

ระหว่างช่วงสื่อสารจิต ห่วงโซ่ลําดับเทพจะได้รับสติปัญญา ดังนั้นพวกมันจึงเริ่มสู้กัน

 

ขั้นตอนนี้เรียกว่าช่วงลําดับเทพโกลาหลและก็อันตรายมาก

 

ถ้าวิญญาณเทพไม่ทรงพลังพอจะสะกดห่วงโซ่ลําดับเทพ การผสานจะล้มเหลวทันที

 

มันยังเป็นไปได้ว่าวิญญาณเทพอาจโดนบดขยี้โดยห่วงโซ่ที่แตกและจะตายคาที่

 

เท่าที่หลินฮวงกังวล การแก้ปัญหาในขั้นตอนนี้ไม่ถือว่าง่าย

 

ทันทีที่วิญญาณเทพระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดของเขาปลดปล่อย ด้ายจิตเทวะก็พุ่งออกไป มัดสี่งมีชีวิตประหลาดที่เกิดจากห่วงโซ่ลําดับเทพและบังคับพวกมันให้ระเบิด!

ทั้งกระบวนการจบลงในเวลาไม่ถึงสามวินาที

 

หลินฮวงมองดูสิ่งมีชีวิตจําแลงของห่วงโซ่ลําดับเทพระเบิดทีละหนึ่ง เผยให้เห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของพวกมัน พวกมันหดกลับเข้าตัวเขา และหลินฮวงก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

“ต้องแบบนี้”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Monster Paradise 1667 ต้องแบบนี้สิ

Now you are reading Monster Paradise Chapter 1667 ต้องแบบนี้สิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1667 ต้องแบบนี้สิ

 

หลินฮวงหลงลืมเรื่องเวลาไปในกระท่อมอาณาจักรเสมือน

 

เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ร้อยปี พันปี หรือแม้แต่หมื่นปีกันแน่..

 

ห่วงโซ่ลําดับเทพในตัวของเขาสร้างขึ้นทีละหนึ่งจากความว่างเปล่า จนถึงจุดที่มีล้านห่วงโซ่ หลินฮวงถึงลืมตา

 

จํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพพุ่งทะยานเป็นล้าน ซึ่งเป็นจํานวนสูงสุดที่บัญญัติเทพจะรองรับได้

 

เขาสัมผัสได้ว่าจํานวนห่วงโซ่ที่เขาสร้างได้ก็มาถึงขีดจํากัดแล้วเช่นกัน

 

เขายังพยายามสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพสายที่ล้านหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลว เขาทําได้แค่ยอมแพ้หลังล้มเหลวสามครั้งติด

 

“แล้วถ้าข้าอยากเลื่อนความสามารถข้าไปอีก สิ่งเดียวที่ข้าทําได้คือสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม ข้าควร..” หลินฮวงพิจารณาสักพัก เขาดูเหมือนจะมาถึงขีดจํากัดแท้จริงของเทพสวรรค์แล้ว เขาไม่อาจก้าวหน้าต่อไดอีก

เพื่อเลื่อนความสามารถของเขาไปอีก ทางเลือกเดียวของเขาคือสร้างผนึกเต๋าและกลาย เป็นจ้าวเทวะ

 

“ข้าอยากสร้างผนึกเต๋าตอนนี้เลยจะได้ไหมนะ?” หลินฮวงคิดและรู้สึกว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องเลื่อนวัน

 

แต่ทว่า ไม่ช้าเขาก็พบปัญหา

 

“นักล่าทั้งหมดคือวอยด์ ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรวัตถุ กระบวนการควรคล้ายกับของใต้สวรรค์ ความแตกต่างจะเป็นพลังของนักล่า”

 

“แต่ถ้าข้าสร้างผนึกเต๋าในอาณาจักรเสมือนด้วยกายเสมือนละ? มันจะดึงดูดนักล่าเพิ่มไหม?”

 

หลินฮวงพิจารณาว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ล่อเหยื่อจํานวนมากมาฆ่าดีไหม

 

“มันไม่สําคัญต่อให้กายเสมือนนี้จะตายอยู่แล้ว กายเสมือนของข้ามีสามชีวิตต่อวัน

 

หลินฮวงไม่ลังเลอีกในจุดนี้

 

เขาลุกขึ้นทันทีและก้าวออกกระท่อมอาณาจักรเสมือนไป เปลี่ยนมันกลับเป็นการ์ด

 

แม้เขาจะไม่มั่นใจมากว่ากระท่อมสามารถโดนทําลายได้ไหม เขาก็ไม่อยากทดลอง

 

เขายืนมองโลกสีขาวดําตรงหน้า หลินฮวงสงบสติเล็กน้อย กลิ่นอายของทั้งตัวเขาเริ่มพุ่ง

 

ครั้งนี้ เขาไม่สะกดพลังเลย

 

เขาปลดปล่อยพลังเต็มที่ของห่วงโซ่ลําดับเทพ

 

ตัวของเขาเริ่มแยกออกจากดาวนิวตรอนและแรงโน้มถ่วงอันน่ากลัว ค่อยๆลอยเข้าอวกาศ

 

ในจักรวาลสีขาวดําไร้ขอบเขตนี้ เขาเป็นเหมือนฝุ่นผง

 

แต่ทว่า กลิ่นอายของเขาได้ปกคลุมดาวรอบตัวอย่างสมบูรณ์

 

ถ้ามีสิ่งมีชีวิตอื่นในเขตดาวละแวกนี้ แม้กระทั่งคนธรรมดาไร้พลังบ่มเพาะก็จะถูกจิตเทวะของเขาสัมผัสได้

 

หลินฮวงหลับตา ตัวของเขาผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์

 

บนตัวเขา ห่วงโซ่ลําดับเทพหลากสีพุ่งออกจากภายในตัวเขาเหมือนหนวด ห่วงโซ่ลําดับเทพเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีก พวกมันสร้างเป็นสายโซ่จริงๆ

 

ถ้าคนนอกเห็นฉากนี้ พวกเขาจะตกใจกับสายโซ่จํานวนมากที่พุ่งออกตัวหลินฮวง

 

มีสายโซ่ถึงล้านเส้น จํานวนที่น่ากลัวนี้เป็นตรรกะทั่วไป

 

ต้องรู้ว่าตอนใต้สวรรค์เลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เขาครอบครองห่วงโซ่แค่ 27 สาย นอกจากนี้ เขายังเป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์ชั้นนําในมหาพิภพ

 

แม้กระทั่งจอมเทพที่ปกครองทั้งยุคสมัยก็ยังมีห่วงโซ่แค่ 42 สายเท่านั้น

 

นี่ไม่ใช่แต่ความต่างด้านจํานวน

 

ยิ่งห่วงโซ่ลําดับเทพที่เทพสวรรค์มีเยอะ ผนึกเต๋าก็จะยิ่งทรงพลังหลังผสาน

 

เหตุผลเพราะจํานวนห่วงโซ่จะเทียบเท่ากับจํานวนตราประทับเต๋า

 

นี่คือความรู้ทั่วไป

 

นอกจากนี้ จํานวนตราประทับเต๋าบนผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานครั้งแรกของจ้าวเทวะจะเป็นตัวกําหนดจํานวนตราประทับเบนผนึกเต๋าต่อๆมา

 

ผนึกเต๋าที่เกิดขึ้นระหว่างการผสานจะกําหนดรากฐานของจ้าวเทวะ

 

จ้าวเทวะสองคนที่เริ่มต้นด้วยตราประทับเต๋าที่ต่างกันจะมีช่องว่างใหญ่ขึ้นในอนาคตพอพวกเขาสร้างผนึกเต๋าเพิ่ม

 

โดยธรรมชาติ ยิ่งจํานวนตราประทับเต๋าเยอะ มันยิ่งยากที่จะสร้างผนึกเต๋า มันจะใช้เวลานานกว่ามาก

 

ดังนั้น จ้าวเทวะที่มีตราประทับเต๋าน้อยกว่าจะไม่ได้เสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะเลื่อนระดับได้ไวกว่า

 

แต่ทว่า สําหรับหลินฮวง ความเร็วการเลื่อนระดับไม่ใช่ปัญหาเลย

 

ความเร็วบ่มเพาะของเขาไม่เคยช้า ตอนนี้เขายังมีประตูทุกอาณาจักร ซึ่งช่วยให้เขาเข้าออกอาณาจักรเสมือนได้ตามใจชอบ เขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่อองเวลา

 

เขายังมีทรัพยากรมากพอทําสิ่งที่คนอื่นทําไม่ได้

 

ถ้านี่เป็นคนอื่น ต่อให้พวกเขามีพรสวรรค์กับศักยภาพพอจะสร้างห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นล้านสาย พวกเขาก็ไม่มีทางหาเวลาได้

 

เป็นไปได้ที่พวกเขาจะรวมสายโซ่ล้านเส้นได้ แต่ศัตรูพวกเขาคงกลายเป็นจ้าวเทวะขั้นสูงไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้บ่มเพาะน้อยมากในแดนเทพที่จะทรงพลังพอๆกับหลินฮวง

 

ทรัพยากรเวลา กายา วิญญาณเทพ เขตแดนเทพ พรสวรรค์กับศักยภาพของเขาล้วนเหนือกว่าคนอื่น

 

ปัจจัยทั้งหมดรวมกันทําให้เขาน่ากลัวมาก

 

ในความว่างเปล่า หลังห่วงโซ่ลําดับเทพขยายออกตัวหลินฮวง พวกมันก็โบกสะบัดไปทั่วๆอย่างบ้าคลั่ง ราวกับพวกมันมีจิตสํานึก

 

ไม่นานนัก ห่วงโซ่ลําดับเทพก็เริ่มแยกจากตัวหลินฮวงที่ละเส้น เริ่มร่ายรําเหนือหัวเขาอย่างบ้าคชลั่ง พวกมันยังปลดปล่อยพลังลําดับเทพทุกชนิดและเริ่มสู้

 

มันดูเหมือนว่าพวกมันไม่อยากยอมจํานนกัน และทั้งหมดก็เริ่มต่อสู้

 

แต่ทว่า หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลย เขารู้เรื่องนี้จากการดูการผสานของใต้สวรรค์ นี่คือขั้นแรกของการผสานการสื่อสารทางจิต

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเขาได้รับมรดกของจ้าวเทวะจากน้ําพมรณะ เขาก็ได้ดูข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับการผสานมาด้วย ตอนนี้เขามีประสบการณ์มากในการรับมือกับเรื่องนี้

 

ระหว่างช่วงสื่อสารจิต ห่วงโซ่ลําดับเทพจะได้รับสติปัญญา ดังนั้นพวกมันจึงเริ่มสู้กัน

 

ขั้นตอนนี้เรียกว่าช่วงลําดับเทพโกลาหลและก็อันตรายมาก

 

ถ้าวิญญาณเทพไม่ทรงพลังพอจะสะกดห่วงโซ่ลําดับเทพ การผสานจะล้มเหลวทันที

 

มันยังเป็นไปได้ว่าวิญญาณเทพอาจโดนบดขยี้โดยห่วงโซ่ที่แตกและจะตายคาที่

 

เท่าที่หลินฮวงกังวล การแก้ปัญหาในขั้นตอนนี้ไม่ถือว่าง่าย

 

ทันทีที่วิญญาณเทพระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดของเขาปลดปล่อย ด้ายจิตเทวะก็พุ่งออกไป มัดสี่งมีชีวิตประหลาดที่เกิดจากห่วงโซ่ลําดับเทพและบังคับพวกมันให้ระเบิด!

ทั้งกระบวนการจบลงในเวลาไม่ถึงสามวินาที

 

หลินฮวงมองดูสิ่งมีชีวิตจําแลงของห่วงโซ่ลําดับเทพระเบิดทีละหนึ่ง เผยให้เห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของพวกมัน พวกมันหดกลับเข้าตัวเขา และหลินฮวงก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

“ต้องแบบนี้”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+