One Man Army 36 ผู้มาเยือนคนแรก (1)

Now you are reading One Man Army Chapter 36 ผู้มาเยือนคนแรก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยักษ์ฟ้ามีสกิลจำนวนมาก แต่มีเพียงสามสกิลเท่านั้นที่เขาต้องระวัง

‘พายุสายฟ้า’ ‘สายฟ้าคำราม’ และ ‘ดวงตาแห่งรุ่งอรุณ’

นี่เป็นสกิลหลักสามสกิลของยักษ์ฟ้า นอกจากนั้นการโจมตีปกติของยักษ์ฟ้าก็เป็นการโจมตีถึงตาย

‘วิธีต่อสู้กับยักษ์ฟ้าก็คือการทำดาเมจพร้อมกับหลบการโจมตีของมัน’

ตัวอย่างเช่น แทงเกอร์แบบดั้งเดิมนั้นไม่สามารถต่อสู้กับยักษ์ฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโจมตีปกติของมันสามารถสังหารแทงเกอร์ได้ ดังนั้นจึงมีเพียงวิธีการใช้สกิลเพิ่มเลือดหรือแทงค์หลบ

อย่างไรก็ตามการแทงค์หลบอาจฟังดูทำง่าย แต่มันไม่มีผู้เล่นที่มีความสามารถพอที่จะทำได้

การแทงค์หลบไม่ใช่แค่ใช้สัมผัสที่ดีของแทงเกอร์ แต่ยังใช้ค่าสถานะหลบหลีกที่สูงมาก

หลังจากที่ข้อมูลเกี่ยวกับยักษ์ฟ้าถูกเผยแพร่ออกมา มันมีผู้เล่นบางคนที่พยายามแทงค์หลบหลังจากที่ใส่อุปกรณ์ที่เต็มไปด้วยค่าสถานะหลบหลีก แต่ตอนนี้มันยังไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แน่นอนว่าซางฮยอคนั้นวางแผนที่จะแทงค์หลบ

เขาใส่อุปกรณ์ป้องกันทั้งหมดและอุปกรณ์เสริมที่มีสถานะหลบหลีกสูง นอกจากนี้เขายังเตรียมการ์ดฟิวชั่นบัฟต้นทุน 1 ‘พรแห่งสายลม’

บัฟที่มีระยะเวลา 30 นาทีซึ่งใช้การ์ดเพียงใบเดียวก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าค่าสถานะหลบหลีกของเขาจะไม่สูงพอ เขาก็เชื่อในสัมผัสของตนเองว่าจะชดเชยในจุดนั้นได้ การแทงค์หลบไม่จำเป็นต้องมีค่าสถานะหลบหลีกที่สูงเท่านั้น แต่มันยังขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อการโจมตีของมอนเตอร์ด้วย

ในด้านการตอบสนอง ซางฮยอคผู้ที่รู้จักรูปแบบการต่อสู้ของยักษ์ฟ้าดีกว่าใครจึงมีความมั่นใจในการแทงค์หลบ

อย่างไรก็ตามการละทิ้งพลังป้องกันนั้นเป็นปัญหาอย่างแท้จริง การโจมตีของยักษ์ฟ้านั้นความรุนแรงไม่ใช่การโจมตีที่เบา

โดยปกติแล้วปาร์ตี้ 7 คนเพื่อสังหารยักษ์ฟ้าจะต้องมีดีลเลอร์อย่างน้อย 4 คน ปาร์ตี้ที่ดีที่สุดนั้นมีดีลเลอร์ 5 คน แทงเกอร์ 1 คน และฮีลเลอร์ 1 คน ซึ่งถูกเรียกว่า ‘5+1+1’ และอีกปาร์ตี้หนึ่งก็คือ ‘4+1+1+1’ ซึ่งมีดีลเลอร์ 4 คน บัฟเฟอร์ 1 คน แทงเกอร์ 1 คน และฮีลเลอร์ 1 คน

ปาร์ตี้ที่มีดีลเลอร์ 3 คน หรือ มีแทงเกอร์หรือฮีลเลอร์มากกว่า 1 คนส่วนใหญ่จะไม่สามารถสังหารยักษ์ฟ้าได้

หากไม่สามารถสังหารยักษ์ฟ้าได้ภายใน 30 นาที มันใช้บัฟ ‘ความโกรธเกรี้ยวของยักษ์ฟ้า’ ให้ตัวมันเองซึ่งเอฟเฟกต์ของบัฟก็คือค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 4 เท่า

ถึงตอนนั้นการจะสังหารมันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้นพวกเขาจะต้องสังหารยักษ์ฟ้าภายใน 30 นาทีและการจะทำแบบนั้นได้ พวกเขาจึงต้องมีปาร์ตี้ที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นดีลเลอร์

แต่ทั้งหมดนั้นขัดแย้งกับเขา ซางฮยอคต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำดาเมจโดยการใช้วิธีแบบปกติได้

แม้ว่าซางฮยอคจะทรงพลังมากเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำดาเมจเท่ากับดีลเลอร์ 5 คนในขณะที่ทำหน้าที่แทงเกอร์และฮีลเลอร์ ดังนั้นซางฮยอคจะชดเชยดาเมจที่ขาดหายไปยังไง?

ซางฮยอคมีวิธีแก้ปัญหานี้ในใจแล้ว

***

ฟริ้งงงง!

เมื่อแสงสีแดงปกคลุมร่างซางฮยอค เขาก็กัดฟันแน่นด้วยความอดทน จากนั้นเขาก็กระโดดไปข้างหน้าและวิ่งโดยไม่หันหน้ากลับมา

แม้ว่าในตอนที่เขากำลังวิ่ง แสงสีแดงก็ซึมเข้าไปในร่างของเขาซึ่งแสงสีแดงนี้ถูกเรียกว่า ‘คำสาปเพลิงคลั่ง’

มอนเตอร์ที่ใช้สกิลนี้นั้นคือมอนเตอร์ที่เกือบมีชื่อ ‘เสือเพลิงอมตะ’ ที่อาศัยอยู่ในถ้ำเพลิงที่อยุ่ทางใต้สุดของดินแดนแห่งความมืด

มอนเตอร์ที่รูปร่างเหมือนเสือตัวใหญ่นั้นเป็นมอนเตอร์ธาตุไฟซึ่งปกคลุมร่างกายของมัน และมอนเตอร์ตัวนี้ใช้คำสาปเพลิงคลั่ง

แน่นอนว่าเสือเพลิงอมตะจะใช้สกิลนี้ก่อนที่มันจะตาย และเพื่อที่จะสังหารมันต้องโจมตีไปที่หัวของมันในขณะที่ถูกสกิลคำสาปของมัน

เสือเพลิงอมตะนั้นเป็นมอนเตอร์ที่เกิดจากกองขี้เถ้าของฟินิกซ์และเป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกันในนามอมตะระดับต่ำ ดังนั้นการโจมตีปกติจึงไม่สามารถสังหารมันได้

เอฟเฟกต์ของคำสาปเพลิงคลั่งนั้นคือเผาผลาญ 10 HP และเผาผลาญค 1 คาร์มาทุกหนึ่งวินาที

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเมื่อถูกคำสาป มันจะทำลาย HP และคาร์มาของผู้เล่น

ผู้เล่นทุกคนเกลียดคำสาปนี้ ไม่มีใครอยากถูกลดคาร์มา

เมื่อโดนคำสาปเพลิงอมตะ ผู้เล่นจะสามารถละเว้นเอฟเฟกต์ที่เกี่ยวกับการป้องกันทั้งหมดและโจมตีเป็น ‘ทรูดาเมจ(ความเสียหายจริง)’ และด้วยเอฟเฟกต์นี้ความสามารถอมตะระดับต่ำของเสือเพลิงอมตะจะถูกละเว้น แม้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีผู้เล่นคนไหนเต็มใจที่จะเสียคาร์มาเพื่อสังหารมัน

ดังนั้นเสือเพลิงอมตะจึงเป็นมอนเตอร์ที่ไม่ค่อยนิยม

แล้วทำไมซางฮยอคถึงสังหารเสือเพลิงอมตะอยู่ที่นี่ก่อนที่จะโจมตียักษ์ฟ้าล่ะ? และทำไมเขาถึงวิ่งหนีล่ะ?

เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก

ซางฮยอคจำเป็นต้องใช้คำสาปนี้

คำสาปเพลิงคลั่ง…… คำสาปนี้จะทำให้สกิลป้องกันทั้งหมดเป็นโมฆะ แม้ว่าสิ่งที่ต้องจ่ายจะเยอะมาก แต่มันก็ไม่เยอะเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้รับ

‘ด้วยคำสาปนี้…… ฉันจะสามารถทะลวงความอดทนของยักษ์ได้’

เหตุผลที่ซางฮยอคเลือกคำสาปนี้เป็นเพราะมันทำให้สกิลติดตัวความอดทนของยักษ์เป้นโมฆะ

คำสาปเพลิงคลั่งมีระยะเวลา 40 นาที

ดังนั้นหากเขาวิ่งหนีจากเสือเพลิงอมตะและใช้มาร์กกิ้งบุ๊คกลับไปที่ชั้นที่สี่ของถ้ำของยักษ์ และไปอยู่หน้าบอส คำสาปจะเหลือเวลาประมาณ 30 นาที

เขาต้องจบการต่อสู้ภายใน 30 นาที อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาจะเสีย 24,000 HP และ 2,400 คาร์มา แต่ HP สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการ์ดฟิวชั่นต้นทุน 0 ‘ของขวัญแห่งการฟื้นฟู’ และเขาก็ได้เตรียมใจเสียคาร์มาแล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่คิดเสียดายมัน

มันไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากเลเวลของเขาจะไม่ลดหากเขาเสีย 2,400 คาร์มาประมาณ 15 ครั้ง

ถ้าเขาเสียมากกว่า 15 ครั้ง เขาจะต้องไปฟาร์มคาร์มามาเติม

ในความจริงแล้วการการใช้บัฟ(?)จากมอนเตอร์นั้นจะเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือน

เนื่องจาก 2 เดือนต่อจากนี้จะมีกิลด์ที่สังหารมอนเตอร์มีชื่อที่แข็งแกร่ง ‘ลอร์ดออร์คสีเทา’ ซึ่งพวกเขาได้ใช้บัฟจากมอนเตอร์ และมันกลายเป็นที่ถกเถียงกันในอินเทอร์เน็ต

เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น โรนซอฟแวร์จะสั่งให้ระบบการจัดการทั่วไปเคออสทำการแก้ไขเพื่อให้บัฟจากมอนเตอร์หายไปเมื่อผู้เล่นออกจากพื้นที่

นอกจากนี้พวกเขายังประกาศว่าการใช้บัฟจากมอนเตอร์เพื่อสังหารลอร์ดออร์คสีเทานั้นอยู่ภายในขอบเขตของระบบ

มันเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ดูเหมือนใช้บัค ดังนั้นมันเลยยากที่จะลงโทษพวกเขา

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ซางฮยอคก็ต้องสังหารยักษ์ฟ้าก่อนทีเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น เมื่อบัฟของมอนเตอร์ถูกแก้ไข เขาจำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามในการสังหารยักษ์ฟ้ามากกว่าเดิม ไม่สิบางทีเขาอาจจะสังหารมันไม่ได้ด้วยซ้ำ

เมื่อมาถึงชั้นที่สี่ของถ้ำของยักษ์ ซางฮยอคก็วิ่งตรงไปที่ถ้ำขนาดใหญ่

การต่อสู้ของเขากับยักษ์ฟ้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

บู้มมมมมมม!

ในตอนนั้นยักษ์ฟ้าก็ใช้พายุสายฟ้า ซางฮยอคก็กระโดดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เท้าทั้งสองข้างของเขาไม่สัมผัสกับพื้น

พายุสายฟ้าจะทำให้ผู้เล่นทั้งหมดที่ยืนอยู่บนพื้นสตั้นไป 3 วินาทีและทำให้ผู้เล่นอ่อนแอลง เมื่อถูกพายุสายฟ้าสตั้นผู้เล่นจะถูกสกิลดวงตาแห่งรุ่งอรุณต่อทำให้ตายทันที

ฟริ้งงงงง!

เป็นอย่างที่เขารู้ ยักษ์ฟ้าใช้สกิลดวงตาแห่งรุ่งอรุณหลังจากที่ใช้พายุสายฟ้า ลำแสงสีแดงก็ถูกยิ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของยักษ์ฟ้าซึ่งเป็นลำแสงที่รุนแรงจนสามารถแผดเผาทุกสิ่งได้

ดวงตาแห่งรุ่งอรุณนั้นมีรูปแบบของมัน และซางฮยอคจำรูปแบบนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงหลบมันได้อย่างไม่ยากนัก

‘รูปแบบนี้น่าจะยิงไปทางขวานะ……. ’

ซางฮยอคคาดการณ์รูปแบบผ่านทางทิศที่หน้าของยักษ์หันไปมองรวมถึงท่าทางที่หันไปทางขวาของมัน

บู้มมมมมม!

ลำแสงยิงออกไปทางขวาเหมือนตามที่เขาคาดการณ์ไว้ทุกย่าง

ซางฮยอคไม่ใช่แค่หลบมันเท่านั้น เขายังโยนการ์ดฟิวชั่น ‘หอกแห่งซุส’ ด้วยมือซ้ายของเขาในขณะที่เขาหลบลำแสง

ฟริ้วววว! บู้มมมมมม!

หอกแห่งซุสแทงไปที่เอวของยักษ์ฟ้าอย่างแม่นยำ

ซางฮยอคก็สร้างดาเมจแก่ยักษ์ฟ้า

‘เวลาเหลือแค่ 5 นาทีใช้มั้ย? ดาเมจของฉันยังขาดไปอยู่…… ’

เขาพยายามทำดาเมจอย่างสุดความสามารถ แต่มันดูเหมือนว่าจะยังไม่พอที่จะสังหารยักษ์ฟ้าได้

เนื่องจากเขาต้องทำดาเมจพร้อมกับทำหน้าที่แทงค์ไปในตัว เขาจึงขาดดาเมจ แม้ว่าเขาจะใช้คำสาปเพลิงคลั่งเพื่อทะลวงความอดทนของยักษ์

HP ของยักษ์ฟ้าสามารถดูได้ผ่านจำนวนเส้นเลือดที่อยู่บนหน้าผากของมัน และในตอนนี้บนหน้าผากมีเส้นเลือดอยู่ 6 เส้น

นี่มันหมายความว่ายักษ์ฟ้านั้นมีเลือดเหลืออยู่ประมาณ 40%

‘ยอมแพ้ก่อนละกันแล้วค่อยลองใหม่!’

มันจะดีกว่าหากเขายอมแพ้ในครั้งนี้ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญของเขาคือคาร์มาซึ่งจะหายไปตลอดเวลา ดังนั้นการยอมแพ้เพื่อเสียคาร์มาให้น้อยกว่าเดิมจึงเป็นเรื่องดี

หวูดดด!

ซางฮยอคไม่ได้หลบการโจมตีปกติของยักษ์ฟ้า นี่หมายความว่าเขานั้นกำลังจะตาย

แปะ!

ซางฮยอคตายทันทีที่โดนหมัดของมัน ไม่มีความเจ็บปวดจากความตาย แต่เขาไม่ได้รู้สึกดี อย่างไรก็ตามเขาเลือกตั้งค่าเช่นนี้เพื่อจะได้ท้าทายยักษ์ฟ้าได้เร็วขึ้น ดังนั้นเขาจึงข้ามความตาย

***

ยักษ์ฟ้านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะสังหารได้อย่างง่ายดาย

ซางฮยอคลองไปห้าครั้งในวันแรก แต่ทุกครั้งเขาต้องยอมแพ้กลางคัน เนื่องจากเขาตัดสินใจแล้วว่าดาเมจของเขายังไม่เพียงพอ

เขารู้สึกเสียใจที่ดาเมจของเขาขาดไปทุกครั้ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนการ์ดฟิวชั่น

ซางฮยอคเอาการ์ดฟิวชั่น ‘โล่แห่งสายลม’ ซึ่งเขาวางแผนจะใช้มันในช่วงเวลาที่เขาไม่สามารถหลบการโจมตีได้ และใส่การ์ดฟิวชั่นที่เน้นการโจมตีอย่าง ‘มังกรเพลิงทมิฬ’ เข้าไปแทน

เหตุผลที่เขาไม่ใส่การ์ดฟิวชั่นมังกรเพลิงทมิฬก่อนหน้านี้ แม้ว่ามันจะทำดาเมจได้มหาศาลเป็นเพราะต้นทุนที่สูงถึง 12 และเงื่อนไขในการใช้งานที่ยุ่งยาก

อย่างไรก็ตามตอนนี้การใช้งานที่ยุ่งยากและต้นทุนที่เยอะนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มดาเมจของเขา ดังนั้นเขาเอาการ์ดที่ช่วยเอาชีวิตรอดออกและใส่การ์ดที่ทำดาเมจแทน

ต้นทุนของโล่แห่งสายลมนั้นคือ 4 และเขามีมันอยู่ 3 ใบ ดังนั้นเขาจึงเอามันออกแล้วใส่การ์ดฟิวชั่นมังกรเพลิงทมิฬไปแทน แต่เมื่อทำแบบนั้นการ์ดที่ช่วยชีวิตเขาก็จะหายไป

ถ้าแม้แต่การ์ดมังกรเพลิงทมิฬก็ยังทำดาเมจไม่เพียงพอ เขาก็จะต้องวางแผนใหม่ทั้งหมด

การฟิวชั่น ‘มังกรเพลิงทมิฬ’

: การ์ดนี้ประกอบถูกฟิวชั่นจากการ์ดธาตุความมืดระดับต่ำ การ์ดธาตุไฟระดับต่ำ การ์ดไข่กิ้งก่ายักษ์ การ์ดเลือดโอเกอร์ และการ์ดหัวใจของออร์คเบอร์เซิร์กเกอร์ ช่วงเวลาที่คุณใช้การ์ดใบนี้หัวใจของคุณจะเต้นแรงขึ้น……. คุณจะได้รับพลังของเบอร์เซิร์กเกอร์ที่แท้จริง

เอฟเฟกต์ : การ์ดใบนี้สามารถใช้ได้กับคุณเท่านั้น ดาเมจของคุณเพิ่มขึ้น 30% และเลือดของคุณจะหายไป 30% เมื่อบัฟหมดเวลา

ระยะเวลา : 16 นาที [คูลดาวน์ : 4 ชั่วโมง]

ค่าความเชี่ยวชาญการ์ด : 0 / 250 [ความเชี่ยวชาญระดับ D]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด