One Man Army 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้

Now you are reading One Man Army Chapter 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

One Man Army ตอนที่ 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้

 

“ฉันขอโทษนะ ฉันเข้าใจเงื่อนไขของนายนะ แต่ฉันขอปฏิเสธ”

 

แทมินพยักหน้าอย่างเงียบๆ หลังจากที่ฟังคําตอบของซางฮยอค มันเป็นเรื่องยากมากที่ผู้เล่นเลเวลสูงจะมาทํางานเป็นทหารรับจ้าง

 

“เข้าใจแล้ว งั้นฉันจะไม่รบกวนนายแล้ว”

 

แทมินยอมแพ้ เขารู้ว่าเขสไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของซางฮยอคได้

 

“ฉันจะพยายามทํางานให้เต็มที่”

 

“ขอบคุณนะ ฉันจะจ่ายให้นายตามสัญญา หากนายต้องการอะไรอีกก็บอกว่าได้เลย เราจะสนับสนุนนาย”

 

“โอเค ขอบคุณ”

 

เบลคพยักหน้าพร้อมกับยิ้มขึ้นมา เขาไม่ปฏิเสธของที่คนอื่นซื้อให้

 

“โอ้ ฉันวางแผนที่จะย้ายนายไปอีกกลุ่มหนึ่ง นายโอเคมั้ย?”

 

“ย้ายกลุ่มไปไหนเหรอ?”

 

“กลุ่ม A-S มันเป็นกลุ่มที่มีแต่ชนชั้นสูงของกิลด์เรา”

 

“ดูเหมือนว่ากลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายยังไม่ถูกสร้างขึ้น”

 

ซางฮยอคพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

 

“โอเค แต่ฉันอยากขออะไรซักหน่อย”

 

“พูดมาได้เลย”

 

“ฉันชอบต่อสู้คนเดียวและไม่อยากฟังคําสั่งของใคร สไตล์การต่อสู้ของฉันไม่เหมาะกับการทํางานเป็นทีม”

 

“โอ้…นายไม่อยากให้ใครออกคําสั่งงั้นเหรอ?”

 

“ฉันจะฟังคําสั่งของหัวหน้ากลุ่มเมื่อเราไม่ได้ต่อสู้ แต่หากต่อสู้ฉันไม่อยากฟังคําสั่งของใคร”

 

แทมินนึกย้อนไปถึงวิดีโอที่สมาชิกกิลด์ส่งมาให้เขาซึ่งก็ดูเหมือนว่าเบลคชอบต่อสู้คนเดียว

 

ไม่มีความขัดแย้งในการสนทนาครั้งนี้ เนื่องจากคนทั้งสองต้องการสิ่งเดียวกัน การสนทนาจึงดําเนินไปได้ด้วยดี ซางฮยอคไปที่สํานักงานกิลด์เพื่อทําสิ่งที่เขาต้องการให้สําเร็จ

 

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถสร้างกิลด์ขึ้นมาได้ทันที ทหารรับจ้างไม่สามารถเป็นหัวหน้ากิลด์ได้

 

นั่นคือสาเหตุที่เขาซื้อใบอนุญาติสร้างกิลด์และวางแผนจะเซ็นต์มันหลังจากที่ทํางานของทหารรับจ้างเสร็จ

 

“ส่วนชื่อกิลด์…ก็เอา [วัน]”

 

เขาตั้งชื่อกิลด์ได้อย่างรวดเร็วและโชคดีที่ยังไม่มีกิลด์ที่ใช้ชื่อ [วัน]

 

หลังจากที่ซื้อใบอนุญาติสร้างกิลด์ด้วยทอง 50,000 ทอง ซางฮยอคก็ออกจากสํานักงานกิลด์

 

การสร้างกิลด์จําเป็นต้องใช้ทองจํานวนมาก ดังนั้นจึงจํานวนกิลด์จึงไม่มากเท่าไหร่

 

หลังจากที่เตรียมตัวสร้างกิลด์เสร็จ ซางฮยอคก็กลับมาที่กิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย แทมินได้เปลี่ยนกลุ่มของซางฮยอคไปเป็นกลุ่ม A-S และในปัจจุบันกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีแต่ผู้เล่นชั้นสูงของกิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย

 

เมื่อกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายถูกสร้างขึ้นในภายหลัง 70% ของสมาชิกกลุ่ม A-S จะถูกย้ายไปที่นั่น

 

การย้ายไปกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่านั้นหมายความว่าเขาจะได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งมากขึ้น

 

การปรากฏตัวอย่างแท้จริงของเบลต

 

ตํานานของสงครามสกายโกลด์กําลังจะเริ่มต้นแล้ว

 

“นายมั่นใจ 100% ใช่มั้ย?”

 

“ผมมั่นใจ ผมได้คุยเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถ้าเขาโกหกม้วนคําสาบานจะทํางาน.. แล้วเขาจะบัญชีของเขาจะถูกลบ”

 

แบล็คกี้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของกิลด์โกลด์รัช “กลุ่มแอลฟ่า” พยักหน้าหลังจากที่ฟังลูกน้องของเขาพูด

 

สงครามระหว่างกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายและกิลด์โกลด์รัชกลายเป็นสงครามระหว่างสกายไลน์และโกลด์ไลน์

 

เรื่องนี้เกิดขึ้น 10 วันหลังจากที่กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายกับกิลด์โกลด์รัชเริ่มต้นสงคราม และตอนนี้ก็ผ่านไป 10 วันแล้ว….สงครามก็เริ่มรุนแรงขึ้น

 

แม้ว่าพวกเขาจะสู้กันมามากกว่า 20 วันแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าใครจะเป็นผู้ชนะสงครามครั้งนี้

 

กิลด์โกลด์รัชนั้นได้เปรียบอย่างมากตอนเริ่มสงคราม แต่ด้วยการปรากฏตัวของเบลคทําให้ความได้เปรียบหายไปทันที

 

“เบลค… วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้เ”

 

แบล็คกี้พึมพําพร้อมกับกัดฟันของเขาแน่น

 

ทหารรับจ้างเบลคได้บดขยี้ทุกอย่าง จํานวนคนที่ตายด้วยดาบของน้ำคือ 1,147 คน

 

โดยปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารรับจ้างจะทําแบบนี้ได้

 

จนถึงจุดที่ว่าเบลคเปลี่ยนกระแสของสงคราม

 

เพียงแค่ครั้งเดียว เพียงแค่สังหารเขาครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทําให้เขาถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้ได้ ดังนั้นกิลด์โกลด์รัชจึงพยายามสังหารเขาหลายครั้ง แต่ความพยายามของพวกเขาก็ล้มเหลวทุกครั้ง

 

ในความจริงการสังหารครั้งนี้กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายก็มีส่วนร่วมเช่นกัน

 

เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะสัญญาของพวกเขา กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายต้องจ่ายให้เขามากกว่า 10 ล้านทอง ซึ่งหากนําทอง 10 ล้านทองมากองรวมกันมันจะกลาเป็นภูเขาทองขนาดใหญ่ทันที

 

นี่เป็นภาระที่ใหญ่สําหรับพวกเขา และมีคนหลายคนในกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายต้องการให้เบลคตาย

 

แม้การกระทําของพวกเขาจะไม่ชัดเจนมากนัก แต่พวกเขาก็พยายามให้เบลคและกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายไปสนามรบที่อันตรายมากขึ้นหลายครั้ง

 

อย่างไรก็ตามเบลคก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง และผู้เล่นคนอื่นในกลุ่มก็รอดเช่นกัน เนื่องถูกเขาช่วยชีวิต

 

ในท้ายที่สุดแทมินก็ได้เจรจากับเบลคว่าจะจ่ายทองให้เบลค 5 ล้านทอง และที่เหลือก็เป็นไอเทมที่มีมูลค่าเท่ากัน

 

เนื่องจากพวกเขาเสีย 1-2 ทองทุกวัน พวกเขาจึงมีทองเหลือน้อยมากถึงขั้นที่ว่าซื้อนอุงและแทมินต้องซื้อทองด้วยเงินสดเพื่อเอาทองมาจ่ายให้เบลค

 

อย่างไรก็ตามหากพวกเขายังเสียเงิน 1-2 ทุกวันแบบนี้ต่อไป ในสัปดาห์สุดท้ายพวกเขาก็จะไม่มีทองเพียงพอที่จะจ่ายให้เบลค

 

บางที่อาจเป็นเพราะเรื่องนั่นทําให้แทมินได้เลือกทางที่เลวร้ายที่สุด

 

“เรามาทบทวนแผนการอีกครั้งกัน เราจะหลอกผู้ชายคนนั้นและให้สมาชิกกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายถอยออกไปเพื่อให้เขาถูกเราล้อมและฆ่าใช่มั้ย?”

 

“ใช่แล้ว แม้ว่าเบลคจะถูกเรียกว่าทหารรับจ้างอมตะ แต่เขาก็สามารถตายได้หากถูกกลุ่มแอลฟ่าล้อม”

 

“ใช่แล้วถึงแม้จะเป็นเขาก็ไม่สามารถรอดจากวงล้อมของกลุ่มแอลฟ่าได้ แต่ทําไมกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายถึงต้องการให้เขาตายกันล่ะ?”

 

“ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน แต่จากสิ่งที่ฉันได้ยินมาจํานวนทองที่พวกเขาจ่ายให้เบลคนั้นเยอะมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เขาถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้”

 

“พวกเขาบ้ามาก… พวกเขาทําตัวราวกับพวกเขาเป็นคนฉลาด แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโง่ยิ่งกว่าฉันซะอีก”

 

“โอ้นายพึ่งรู้เหรอว่านายโง่?”

 

“หุบปาก”

 

แบล็คก็ตบหัวรุ่นน้องของเขาและยืนขึ้น

 

“ในที่สุดเราก็มีโอกาสแก้แค้นชักที ไอบัดซ*เบลค…วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้”

 

ทุกคนจากกลุ่มแอลฟายืนขึ้นตามแบล็คกี้ซึ่งกลุ่มแอลฟ่ามีสมาชิกทั้งหมด 14 คนและความสามารถของพวกเขาแต่ละคนก็ค่อนข้างยอดเยี่ยมมาก

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายบดขยี้ไปแล้ว 3 ครั้ง และสมาชิกทุกคนนั้นถูกเบลคสังหารอย่างน้อย 2 ครั้ง

 

โดยเฉพาะแบล็คกี้ เขาถูกบดขยี้ถึง 3 ครั้งเพราะความดื้อดึงของเขา

 

“คราวนี้แกตายแน่!”

 

ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาทีก่อนจะถึงเวลาที่ตกลงไว้…แบล็คกี้กัดฟันแน่นและมองไปข้างหน้า

 

[ฉันไม่คิดว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีเลย]

 

เจ็ทตี้หนึ่งในสมาชิกหลักของกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายรวมถึงเป็นสมาชิกของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายเช่นกัน มีข้อกังขาเกี่ยวกับแผนการนี้ตั้งแต่เริ่มแรก

 

ซึ่งมีผู้เล่นที่คิดเหมือนกันภายในกิลด์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดรู้ว่านี่เป็นการทําเพื่อผลประโยชน์ของกิลด์

 

[เจ็ทตี้ เราไม่สามารถทําอะไรได้ ฉันก็ไม่คิดว่าการบังคับให้เบลคถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่เราจะทําอะไรได้ล่ะ?]

 

[แต่ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เขาช่วยเราหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนี้เรา…]

 

[เฮ้ หยุดทําตัวเป็นคนดีได้แล้ว เราแค่ทําสิ่งที่ถูกสั่งให้ทําก็พอแล้ว นายคิดว่าเขาได้เงินไปเท่าไหร่กัน? เขาต่างหากที่ต้องเป็นคนขอบคุณเรา]

 

ไม่ใช่สมาชิกทุกคนของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายจะชอบเบลค ในความจริงแล้วสมาชิกมากกว่าครึ่งนั้นอิจฉาและไม่ชอบเขา

 

[จํานวนทองที่เขาได้ไปนั้นเยอะมาก 10 ล้านทอง! ซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินสดในตอนนี้จะมีค่า 500 ล้านวอน (500,000 ดอลลาร์) เลยนะ]

 

[500 ล้านวอนเหรอ? จริงๆ เหรอ? นั่นมันบ้ามาก]

 

[แต่เราเป็นคนยอมรับเงื่อนไขเองนะ]

 

[อย่าพูดไร้สาระ และหากนายไม่เห็นด้วย นายก็อย่าทําลาย

แผนนะ]

 

ไม่ว่าเจ็ทตี้จะคัดค้านมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ไร้ประโยชน์ แผนการนี้ชื่อว่า “การแยกทาง” ซึ่งในตอนนี้แผนการก็ได้เริ่มไปแล้ว และเบลคก็กําลังตกอยู่ในอันตราย

 

“ฟู… ฉันจะต้องทําแบบนี้งั้นเหรอ?”

 

เจ็ทตี้เริ่มคิดอย่างจริงจังว่าจะทํายังไงดีในขณะดูช่องแชทของสมาชิกกิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย

 

การปะทะกันระหว่างกลุ่มแอลฟ่าและกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายครั้งนี้เป็นการทะปะครั้งที่ 4 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

 

อย่างไรก็ตาม…การต่อสู้นั้นแปลกมาก

 

วิธีการต่อสู้ของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายนั้นคือให้เบลคอาละวาด และสมาชิกคนอื่นก็โจมตีช่องโหว่ที่เบลคสร้างขึ้น

 

ดังนั้นเบลคจึงต่อสู้คนเดียวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามวันนี้มีบางอย่างแตกต่างไปจากเดิม

 

สมาชิกคนอื่นของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายนั้นไม่ได้โจมตีช่องโหว่ที่เบลคสร้างขึ้น แต่กลับถอยออกไปอย่างช้าๆ

 

และในที่สุด… พวกเขาทั้งหมดก็หายไปราวกับพวกเขาตายไปกันหมดแล้ว

 

ในตอนนี้เบลคเหลือเพียงตัวคนเดียว

 

สมาชิกของกลุ่มแอลฟ่าของกิลด์โกลด์รัชล้อมรอบเบลคเป็นวงกลมเพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีของเบลค

 

ในตอนนี้เบลคถูกศัตรู 14 คนล้อม ภาพนี้ดูราวกับว่าเขาไม่สามารถทําอะไรได้และตายลงไป

 

“เบลค! ฉันดีใจมากที่ได้เจอนายที่นี่”

 

แบล็คกี้ตะโกนใส่เบลคด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เขาทําตัวราวกับว่าเบลคไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตามเบลคยิ้มตอบในขณะมองไปรอบๆ

 

“พวกเขาทําเหมือนที่ฉันคาดไว้เลย”

 

ทุกอย่างเป็นเหมือนกับที่เขาคาดไว้ และเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างชัดเจน เขาก็หัวเราะออกมา

 

“นายยังหัวเราะได้อีกนะ ในเมื่อนายกําลังจะตายแล้ว”

 

ในความจริงแบล็คก็ไม่ได้รู้สึกว่าความแค้นของเขากับเบลคนั้นหายไปเพียงเพราะว่าสังหารเขาได้หนึ่งครั้ง และมันไม่มีบทลงโทษการตายของทหารรับจ้างในสงครามกิลด์

 

ดังนั้นแบล็คกี้จึงพยายามทําให้เบลครู้สึกแย่โดยการพูดกับเขา

 

“นายพูดมากเหมือนเคยนะ”

 

เบลคยิ้มออกมาอีกครั้งในขณะที่มองไปที่แบล็คกี้

 

มันยังคงเหมือนเดิม แบล็คกี้มักจะพูดมากเสมอในช่วงเวลาสําคัญ

 

“อะไรกัน? นายไม่เข้าใจเหรอว่านายอยู่ในสถานกา-“

 

ในขณะที่แบล็คกี้กําลังจะพูดต่อ ซางฮยอคก็หยิบการ์ดฟิวชั่นออกมาและใช้การ์ดฟิวชั่นใส่ตัวเอง

 

ฟริ้งงงง! ฟริ้งงงง!

 

ในตอนนั้นเองกลุ่มแอลฟ่าก็เตรียมตัวโจมตีทันที

 

แบล็คกี้ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาพูดพร่ำทําเพลง จากนั้นเขาก็ดึงอาวุธของเขาออก อย่างไรก็ตามซางฮยอคก็ได้พูดขึ้นมาว่าแต่นาย

 

“ฉันขอบคุณนายจริงๆ ที่สร้างสุสานให้กับฉัน …แต่นายจะทําไปทําไมกันในเมื่อฉันไม่ตาย”

 

ชิ้งงงง!

 

เบลคหัวเราะอย่างชั่วร้ายพร้อมกับดึงดาบนักล่าออร์คออกมา

 

เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ เขาจึงไม่รู้สึกสับสนหรือตื่นตระหนก แต่เขากลับรอคอยช่วงเวลานี้อยู่

 

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากชีวิตก่อนของเขา นี่เป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สถานที่ที่ผู้คนต่างทรยศกันเพื่อผลประโยชน์ –

 

– โลกของ EL

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

One Man Army 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้

Now you are reading One Man Army Chapter 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

One Man Army ตอนที่ 50 เหมือนอย่างที่คาดไว้

 

“ฉันขอโทษนะ ฉันเข้าใจเงื่อนไขของนายนะ แต่ฉันขอปฏิเสธ”

 

แทมินพยักหน้าอย่างเงียบๆ หลังจากที่ฟังคําตอบของซางฮยอค มันเป็นเรื่องยากมากที่ผู้เล่นเลเวลสูงจะมาทํางานเป็นทหารรับจ้าง

 

“เข้าใจแล้ว งั้นฉันจะไม่รบกวนนายแล้ว”

 

แทมินยอมแพ้ เขารู้ว่าเขสไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของซางฮยอคได้

 

“ฉันจะพยายามทํางานให้เต็มที่”

 

“ขอบคุณนะ ฉันจะจ่ายให้นายตามสัญญา หากนายต้องการอะไรอีกก็บอกว่าได้เลย เราจะสนับสนุนนาย”

 

“โอเค ขอบคุณ”

 

เบลคพยักหน้าพร้อมกับยิ้มขึ้นมา เขาไม่ปฏิเสธของที่คนอื่นซื้อให้

 

“โอ้ ฉันวางแผนที่จะย้ายนายไปอีกกลุ่มหนึ่ง นายโอเคมั้ย?”

 

“ย้ายกลุ่มไปไหนเหรอ?”

 

“กลุ่ม A-S มันเป็นกลุ่มที่มีแต่ชนชั้นสูงของกิลด์เรา”

 

“ดูเหมือนว่ากลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายยังไม่ถูกสร้างขึ้น”

 

ซางฮยอคพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

 

“โอเค แต่ฉันอยากขออะไรซักหน่อย”

 

“พูดมาได้เลย”

 

“ฉันชอบต่อสู้คนเดียวและไม่อยากฟังคําสั่งของใคร สไตล์การต่อสู้ของฉันไม่เหมาะกับการทํางานเป็นทีม”

 

“โอ้…นายไม่อยากให้ใครออกคําสั่งงั้นเหรอ?”

 

“ฉันจะฟังคําสั่งของหัวหน้ากลุ่มเมื่อเราไม่ได้ต่อสู้ แต่หากต่อสู้ฉันไม่อยากฟังคําสั่งของใคร”

 

แทมินนึกย้อนไปถึงวิดีโอที่สมาชิกกิลด์ส่งมาให้เขาซึ่งก็ดูเหมือนว่าเบลคชอบต่อสู้คนเดียว

 

ไม่มีความขัดแย้งในการสนทนาครั้งนี้ เนื่องจากคนทั้งสองต้องการสิ่งเดียวกัน การสนทนาจึงดําเนินไปได้ด้วยดี ซางฮยอคไปที่สํานักงานกิลด์เพื่อทําสิ่งที่เขาต้องการให้สําเร็จ

 

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถสร้างกิลด์ขึ้นมาได้ทันที ทหารรับจ้างไม่สามารถเป็นหัวหน้ากิลด์ได้

 

นั่นคือสาเหตุที่เขาซื้อใบอนุญาติสร้างกิลด์และวางแผนจะเซ็นต์มันหลังจากที่ทํางานของทหารรับจ้างเสร็จ

 

“ส่วนชื่อกิลด์…ก็เอา [วัน]”

 

เขาตั้งชื่อกิลด์ได้อย่างรวดเร็วและโชคดีที่ยังไม่มีกิลด์ที่ใช้ชื่อ [วัน]

 

หลังจากที่ซื้อใบอนุญาติสร้างกิลด์ด้วยทอง 50,000 ทอง ซางฮยอคก็ออกจากสํานักงานกิลด์

 

การสร้างกิลด์จําเป็นต้องใช้ทองจํานวนมาก ดังนั้นจึงจํานวนกิลด์จึงไม่มากเท่าไหร่

 

หลังจากที่เตรียมตัวสร้างกิลด์เสร็จ ซางฮยอคก็กลับมาที่กิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย แทมินได้เปลี่ยนกลุ่มของซางฮยอคไปเป็นกลุ่ม A-S และในปัจจุบันกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีแต่ผู้เล่นชั้นสูงของกิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย

 

เมื่อกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายถูกสร้างขึ้นในภายหลัง 70% ของสมาชิกกลุ่ม A-S จะถูกย้ายไปที่นั่น

 

การย้ายไปกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่านั้นหมายความว่าเขาจะได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งมากขึ้น

 

การปรากฏตัวอย่างแท้จริงของเบลต

 

ตํานานของสงครามสกายโกลด์กําลังจะเริ่มต้นแล้ว

 

“นายมั่นใจ 100% ใช่มั้ย?”

 

“ผมมั่นใจ ผมได้คุยเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถ้าเขาโกหกม้วนคําสาบานจะทํางาน.. แล้วเขาจะบัญชีของเขาจะถูกลบ”

 

แบล็คกี้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของกิลด์โกลด์รัช “กลุ่มแอลฟ่า” พยักหน้าหลังจากที่ฟังลูกน้องของเขาพูด

 

สงครามระหว่างกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายและกิลด์โกลด์รัชกลายเป็นสงครามระหว่างสกายไลน์และโกลด์ไลน์

 

เรื่องนี้เกิดขึ้น 10 วันหลังจากที่กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายกับกิลด์โกลด์รัชเริ่มต้นสงคราม และตอนนี้ก็ผ่านไป 10 วันแล้ว….สงครามก็เริ่มรุนแรงขึ้น

 

แม้ว่าพวกเขาจะสู้กันมามากกว่า 20 วันแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าใครจะเป็นผู้ชนะสงครามครั้งนี้

 

กิลด์โกลด์รัชนั้นได้เปรียบอย่างมากตอนเริ่มสงคราม แต่ด้วยการปรากฏตัวของเบลคทําให้ความได้เปรียบหายไปทันที

 

“เบลค… วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้เ”

 

แบล็คกี้พึมพําพร้อมกับกัดฟันของเขาแน่น

 

ทหารรับจ้างเบลคได้บดขยี้ทุกอย่าง จํานวนคนที่ตายด้วยดาบของน้ำคือ 1,147 คน

 

โดยปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารรับจ้างจะทําแบบนี้ได้

 

จนถึงจุดที่ว่าเบลคเปลี่ยนกระแสของสงคราม

 

เพียงแค่ครั้งเดียว เพียงแค่สังหารเขาครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทําให้เขาถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้ได้ ดังนั้นกิลด์โกลด์รัชจึงพยายามสังหารเขาหลายครั้ง แต่ความพยายามของพวกเขาก็ล้มเหลวทุกครั้ง

 

ในความจริงการสังหารครั้งนี้กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายก็มีส่วนร่วมเช่นกัน

 

เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะสัญญาของพวกเขา กิลด์สกายอะบั๊ฟสกายต้องจ่ายให้เขามากกว่า 10 ล้านทอง ซึ่งหากนําทอง 10 ล้านทองมากองรวมกันมันจะกลาเป็นภูเขาทองขนาดใหญ่ทันที

 

นี่เป็นภาระที่ใหญ่สําหรับพวกเขา และมีคนหลายคนในกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายต้องการให้เบลคตาย

 

แม้การกระทําของพวกเขาจะไม่ชัดเจนมากนัก แต่พวกเขาก็พยายามให้เบลคและกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายไปสนามรบที่อันตรายมากขึ้นหลายครั้ง

 

อย่างไรก็ตามเบลคก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง และผู้เล่นคนอื่นในกลุ่มก็รอดเช่นกัน เนื่องถูกเขาช่วยชีวิต

 

ในท้ายที่สุดแทมินก็ได้เจรจากับเบลคว่าจะจ่ายทองให้เบลค 5 ล้านทอง และที่เหลือก็เป็นไอเทมที่มีมูลค่าเท่ากัน

 

เนื่องจากพวกเขาเสีย 1-2 ทองทุกวัน พวกเขาจึงมีทองเหลือน้อยมากถึงขั้นที่ว่าซื้อนอุงและแทมินต้องซื้อทองด้วยเงินสดเพื่อเอาทองมาจ่ายให้เบลค

 

อย่างไรก็ตามหากพวกเขายังเสียเงิน 1-2 ทุกวันแบบนี้ต่อไป ในสัปดาห์สุดท้ายพวกเขาก็จะไม่มีทองเพียงพอที่จะจ่ายให้เบลค

 

บางที่อาจเป็นเพราะเรื่องนั่นทําให้แทมินได้เลือกทางที่เลวร้ายที่สุด

 

“เรามาทบทวนแผนการอีกครั้งกัน เราจะหลอกผู้ชายคนนั้นและให้สมาชิกกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายถอยออกไปเพื่อให้เขาถูกเราล้อมและฆ่าใช่มั้ย?”

 

“ใช่แล้ว แม้ว่าเบลคจะถูกเรียกว่าทหารรับจ้างอมตะ แต่เขาก็สามารถตายได้หากถูกกลุ่มแอลฟ่าล้อม”

 

“ใช่แล้วถึงแม้จะเป็นเขาก็ไม่สามารถรอดจากวงล้อมของกลุ่มแอลฟ่าได้ แต่ทําไมกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายถึงต้องการให้เขาตายกันล่ะ?”

 

“ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน แต่จากสิ่งที่ฉันได้ยินมาจํานวนทองที่พวกเขาจ่ายให้เบลคนั้นเยอะมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เขาถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้”

 

“พวกเขาบ้ามาก… พวกเขาทําตัวราวกับพวกเขาเป็นคนฉลาด แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโง่ยิ่งกว่าฉันซะอีก”

 

“โอ้นายพึ่งรู้เหรอว่านายโง่?”

 

“หุบปาก”

 

แบล็คก็ตบหัวรุ่นน้องของเขาและยืนขึ้น

 

“ในที่สุดเราก็มีโอกาสแก้แค้นชักที ไอบัดซ*เบลค…วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้”

 

ทุกคนจากกลุ่มแอลฟายืนขึ้นตามแบล็คกี้ซึ่งกลุ่มแอลฟ่ามีสมาชิกทั้งหมด 14 คนและความสามารถของพวกเขาแต่ละคนก็ค่อนข้างยอดเยี่ยมมาก

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายบดขยี้ไปแล้ว 3 ครั้ง และสมาชิกทุกคนนั้นถูกเบลคสังหารอย่างน้อย 2 ครั้ง

 

โดยเฉพาะแบล็คกี้ เขาถูกบดขยี้ถึง 3 ครั้งเพราะความดื้อดึงของเขา

 

“คราวนี้แกตายแน่!”

 

ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาทีก่อนจะถึงเวลาที่ตกลงไว้…แบล็คกี้กัดฟันแน่นและมองไปข้างหน้า

 

[ฉันไม่คิดว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีเลย]

 

เจ็ทตี้หนึ่งในสมาชิกหลักของกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายรวมถึงเป็นสมาชิกของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายเช่นกัน มีข้อกังขาเกี่ยวกับแผนการนี้ตั้งแต่เริ่มแรก

 

ซึ่งมีผู้เล่นที่คิดเหมือนกันภายในกิลด์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดรู้ว่านี่เป็นการทําเพื่อผลประโยชน์ของกิลด์

 

[เจ็ทตี้ เราไม่สามารถทําอะไรได้ ฉันก็ไม่คิดว่าการบังคับให้เบลคถอนตัวออกจากสงครามครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่เราจะทําอะไรได้ล่ะ?]

 

[แต่ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เขาช่วยเราหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนี้เรา…]

 

[เฮ้ หยุดทําตัวเป็นคนดีได้แล้ว เราแค่ทําสิ่งที่ถูกสั่งให้ทําก็พอแล้ว นายคิดว่าเขาได้เงินไปเท่าไหร่กัน? เขาต่างหากที่ต้องเป็นคนขอบคุณเรา]

 

ไม่ใช่สมาชิกทุกคนของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายจะชอบเบลค ในความจริงแล้วสมาชิกมากกว่าครึ่งนั้นอิจฉาและไม่ชอบเขา

 

[จํานวนทองที่เขาได้ไปนั้นเยอะมาก 10 ล้านทอง! ซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินสดในตอนนี้จะมีค่า 500 ล้านวอน (500,000 ดอลลาร์) เลยนะ]

 

[500 ล้านวอนเหรอ? จริงๆ เหรอ? นั่นมันบ้ามาก]

 

[แต่เราเป็นคนยอมรับเงื่อนไขเองนะ]

 

[อย่าพูดไร้สาระ และหากนายไม่เห็นด้วย นายก็อย่าทําลาย

แผนนะ]

 

ไม่ว่าเจ็ทตี้จะคัดค้านมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ไร้ประโยชน์ แผนการนี้ชื่อว่า “การแยกทาง” ซึ่งในตอนนี้แผนการก็ได้เริ่มไปแล้ว และเบลคก็กําลังตกอยู่ในอันตราย

 

“ฟู… ฉันจะต้องทําแบบนี้งั้นเหรอ?”

 

เจ็ทตี้เริ่มคิดอย่างจริงจังว่าจะทํายังไงดีในขณะดูช่องแชทของสมาชิกกิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย

 

การปะทะกันระหว่างกลุ่มแอลฟ่าและกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายครั้งนี้เป็นการทะปะครั้งที่ 4 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

 

อย่างไรก็ตาม…การต่อสู้นั้นแปลกมาก

 

วิธีการต่อสู้ของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายนั้นคือให้เบลคอาละวาด และสมาชิกคนอื่นก็โจมตีช่องโหว่ที่เบลคสร้างขึ้น

 

ดังนั้นเบลคจึงต่อสู้คนเดียวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามวันนี้มีบางอย่างแตกต่างไปจากเดิม

 

สมาชิกคนอื่นของกลุ่มอันดับหนึ่งอะบั๊ฟสกายนั้นไม่ได้โจมตีช่องโหว่ที่เบลคสร้างขึ้น แต่กลับถอยออกไปอย่างช้าๆ

 

และในที่สุด… พวกเขาทั้งหมดก็หายไปราวกับพวกเขาตายไปกันหมดแล้ว

 

ในตอนนี้เบลคเหลือเพียงตัวคนเดียว

 

สมาชิกของกลุ่มแอลฟ่าของกิลด์โกลด์รัชล้อมรอบเบลคเป็นวงกลมเพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีของเบลค

 

ในตอนนี้เบลคถูกศัตรู 14 คนล้อม ภาพนี้ดูราวกับว่าเขาไม่สามารถทําอะไรได้และตายลงไป

 

“เบลค! ฉันดีใจมากที่ได้เจอนายที่นี่”

 

แบล็คกี้ตะโกนใส่เบลคด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เขาทําตัวราวกับว่าเบลคไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตามเบลคยิ้มตอบในขณะมองไปรอบๆ

 

“พวกเขาทําเหมือนที่ฉันคาดไว้เลย”

 

ทุกอย่างเป็นเหมือนกับที่เขาคาดไว้ และเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างชัดเจน เขาก็หัวเราะออกมา

 

“นายยังหัวเราะได้อีกนะ ในเมื่อนายกําลังจะตายแล้ว”

 

ในความจริงแบล็คก็ไม่ได้รู้สึกว่าความแค้นของเขากับเบลคนั้นหายไปเพียงเพราะว่าสังหารเขาได้หนึ่งครั้ง และมันไม่มีบทลงโทษการตายของทหารรับจ้างในสงครามกิลด์

 

ดังนั้นแบล็คกี้จึงพยายามทําให้เบลครู้สึกแย่โดยการพูดกับเขา

 

“นายพูดมากเหมือนเคยนะ”

 

เบลคยิ้มออกมาอีกครั้งในขณะที่มองไปที่แบล็คกี้

 

มันยังคงเหมือนเดิม แบล็คกี้มักจะพูดมากเสมอในช่วงเวลาสําคัญ

 

“อะไรกัน? นายไม่เข้าใจเหรอว่านายอยู่ในสถานกา-“

 

ในขณะที่แบล็คกี้กําลังจะพูดต่อ ซางฮยอคก็หยิบการ์ดฟิวชั่นออกมาและใช้การ์ดฟิวชั่นใส่ตัวเอง

 

ฟริ้งงงง! ฟริ้งงงง!

 

ในตอนนั้นเองกลุ่มแอลฟ่าก็เตรียมตัวโจมตีทันที

 

แบล็คกี้ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาพูดพร่ำทําเพลง จากนั้นเขาก็ดึงอาวุธของเขาออก อย่างไรก็ตามซางฮยอคก็ได้พูดขึ้นมาว่าแต่นาย

 

“ฉันขอบคุณนายจริงๆ ที่สร้างสุสานให้กับฉัน …แต่นายจะทําไปทําไมกันในเมื่อฉันไม่ตาย”

 

ชิ้งงงง!

 

เบลคหัวเราะอย่างชั่วร้ายพร้อมกับดึงดาบนักล่าออร์คออกมา

 

เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ เขาจึงไม่รู้สึกสับสนหรือตื่นตระหนก แต่เขากลับรอคอยช่วงเวลานี้อยู่

 

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากชีวิตก่อนของเขา นี่เป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สถานที่ที่ผู้คนต่างทรยศกันเพื่อผลประโยชน์ –

 

– โลกของ EL

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+