One Man Army ตอนที่ 59 เส้นทางแห่งความตาย (1)

 

“สําหรับกําหนดการที่ชัดเจนหรือรายละเอียดสําคัญ เราจะแจ้งให้นายอยากต่อเนื่อง เมื่อช่องไลฟ์เปิด เราจะได้พูดกันอีกเยอะ ในเวลานั้นนายจําเป็นต้องพูดกับเธอคนนี้นะ เธอจะรับผิดชอบในการดูแลช่องของนาย”

 

ซางฮยอคเซ็นสัญญากับ LGN ทันที เนื่องจากเขาชอบเงื่อนไขของสัญญาและคนที่คิมวอนโฮให้มาดูแลช่องของเขา

 

โปรดิวเซอร์ลีมัยร่า – เธอเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ผู้หญิงที่หายากของ EL และซางฮยอครู้เรื่องของเธอเยอะมาก

 

แม้ว่าเธอจะเป็นผู้ผลิตรายกายมือใหม่ในตอนนี้ แต่ลมัยร่าที่ซางฮยอครู้จักในชีวิตก่อนของเขานั้นเป็นโปรดิวเซอร์แสนสวยที่ควบคุมวงการสตรีมทั้งหมดของ EL

 

ชื่อเล่นของเธอในตอนนั้นคือ “ควีนบี”

 

ชื่อเล่นนั้นมาจากการที่เธอ “ต่อย” ทุกคนที่เธอไม่ชอบ

 

แน่นอนว่าในตอนนี้เธอดูไร้เดียงสามาก แต่เมื่อเธอปรับตัวได้แล้ว เธอจะกลายเป็นคนที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“เธอรับมือด้วยยากนิดหน่อย แต่เธอก็ทํางานได้ดีมาก ดังนั้นมัน จึงไม่ได้แย่เลย อันที่จริงแล้วได้คนอย่างเธอมาช่วยนั้นดีมากเลย”

 

ซางฮยอคชอบคนอย่างลีมัยร่าอย่างมาเมื่อพูดถึงเรื่องการทํางาน

 

หลังจากทักทายเธอเล็กน้อย พวกเขาก็แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อของกันและกัน ซางฮยอคลําบากเล็กน้อยในการปรับตัวเข้ากับพฤติกรรม “ปกติ” ของเธอ แต่เขาเห็นเค้ารางของควีนปีได้ภายในแววตาของเธอ

 

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จ ซางฮยอคก็กลับมาที่บ้านของเขาและทําความสะอาดบ้าน เนื่องจากเขายุ่งมากในช่วงนี้ บ้านของเขาจึงรกมาก

 

หลังจากทําความสะอาดบ้านเสร็จ เขาก็ไปที่ห้างเพื่อซื้อเสื้อผ้า เมื่อเขาเปลี่ยนดาวที่เขาได้จาก Pu TV ให้เป็นเงินสด เขาก็ได้รับเงินสดมากกว่า 10 ล้านวอน(10,000 ดอลลาร์) ในบัญชีธนาคารของเขา

 

นั่นยังไม่ได้รวมกับดาวจํานวนมหาศาลที่เขาได้รับจากการลงวิดีโอการต่อสู้ในปิรามิดโลกันต์

 

มันทําให้ซางฮยอครู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของการสตรีมอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดังอีกสองสามตัว

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกไปไหนบ่อยนัก แต่เขาก็ไม่คิดที่จะใช้ชีวิตเหมือนคนตกงาน

 

เขาแม้กระทั้งคิดที่จะย้ายบ้านเมื่อเขารวบรวมเงินได้เพียงพอ

 

แม้ว่าเขาจะอยู่ในโลกเสมือนนานกว่าโลกจริง แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์นั้นต้องใช้ชีวิตในโลกจริง ดังนั้นเขาต้องให้รางวัลชีวิตแก่ตัวเองบ้าง

 

****

 

หลังจากสนุกในชีวิตจริงเป็นเวลานาน ซางฮยอคก็ล็อกอินเข้าเกมอีกครั้ง แม้ว่ามนุษย์จะใช้ชีวิตบนโลกจริง แต่มนุษย์ก็มีความสุขในโลกของ EL อย่างน้อยก็มีเขาคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกดีทุกครั้งที่ล็อกอินเข้ามาในเกม

 

เขาเปิดหน้าต่างการจัดการเส้นทางแห่งเงาเพื่อดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจมาก แล้วก็ไปที่สมาคมพ่อค้าโกลด์เด็นเมาท์เทนเพื่อดูว่ามีไอเทมชิ้นไหนที่เขาต้องไปประเมิน

 

สาขาของสมาคมพ่อค้าโกลด์เด็นเมาท์เทนที่อยู่ในเมืองฟอลคอน และเมืองทูนนั้นกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้เล่น แต่ก็ไม่มีไอเทมชิ้นไหนที่เขาสามารถเรียกว่า “แจ็คพ็อต” เลยแม้แต่ชิ้นเดียว

 

แต่ก็มีผู้เล่นมายืมเงินอย่างต่อเนื่องทําให้เขามีรายได้มากยิ่งขึ้น

 

ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบลื่น

 

‘ดูสิ ฉันเลเวล 53 แล้ว ค่าความเชี่ยวชาญสกิลในความรู้โบราณก็สูงมาก ฉันควรจะไปดินแดนแห่งวีรบุรุษเลยดีมั้ยนะ?’

 

ซางฮยอคต้องการออกจากทะเลทรายโลกันต์ในเร็วที่สุด เพราะ ทะเลทรายโลกันต์นั้นเป็นดินแดนที่รกร้างมากที่สุดในทวีปทั้งสี่ของดาวเคราะห์ทรีนาร์ค

 

ในทางกลับกัน ดินแดนแห่งวีรบุรุษนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

ในชีวิตก่อนของเขา ผู้เล่นทุกคนเรียกดินแดนแห่งวีรบุรุษว่า ‘ดินแดนแห่งรุ่งเรือง’

 

แน่นอนว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถไปที่ดินแดนแห่งวีรบุรุษ

 

มันไม่ใช่เพราะไม่มีทางไป มันมีเส้นทางเป็น แต่ปัญหาก็คือ..มอนเตอร์ที่อยู่ในเส้นทางนั้น

 

มอนเตอร์หลากหลายประเภทที่อยู่ที่นั่นจะมีเลเวลเฉลี่ยอยู่ที่ 67 นอกจากนี้ยังมีมอนเตอร์ชนชั้นสูงอยู่ใกล้ๆ ด้วยเช่นกัน

 

ในตอนนี้มีผู้ที่พยายามผ่านเส้นทางนี้และเข้าสู่ดินแดนแห่งวีรบุรุษ

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครประสบความสําเร็จ ทั้งผู้เล่นที่สกิลการซ่อนตัวระดับสูง ผู้เล่นที่มีสกิลเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่และผู้เล่นที่มีสกิลหลบหนี ทุกคนพยายามจะผ่านเส้นทางนี้ไปให้ได้ แต่พวกเขาทั้งหมดล้มเหลว

 

ดังนั้นในปัจจุบันเส้นทางนี้จึงถูกเรียกว่า “เส้นทางแห่งความตาย”

 

อย่างน้อยในตอนนี้มันก็คือเส้นทางแห่งความตายจริงๆ แต่ในอีกอย่างน้อย 2 เดือนจะมีผู้เล่นที่สามารถพิชิตเส้นทางแห่งความตายได้

 

เมื่อเลเวลของผู้เล่นเพิ่มขึ้น และพวกเขาฟาร์มไอเทมจากทะเลทรายโลกันต์จนได้ไอเทมระดับสูงมา พวกเขาจะสามารถผ่านเส้นทางแห่งความตายได้

 

เนื่องจากมันเป็นพื้นที่ไม่เหมือนกับถ้ําของยักษ์ซึ่งเป็นดันเจี้ยน แผนการคลื่นมนุษย์จึงสามารถใช้งานได้ผล นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทําไมถึงบอกว่าอีก 2 เดือน ถ้าหากมีขีดจํากัดจํานวนผู้เล่นที่เข้าไปได้ แล้วละก็แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 5 เดือนผู้เล่นก็ไม่สามารถผ่านเส้ นทางแห่งความตายไปได้

 

ซางฮยอควางแผนที่จะพิชิตเส้นทางแห่งความตาย

 

“ดินแดนแห่งวีรบุรุษ… ที่นั่นเป๊จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ EL”

 

มันเป็นความจริงที่ EL นั้นเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็ดูเหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไปเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเมื่อดินแดนแห่งวีรบุรุษถูกค้นพบ

 

ดินแดนที่มีการแข่งขันที่ไร้ที่สิ้นสุด!

 

นั่นคือดินแดนแห่งวีรบุรุษ แต่ถ้าจะพูดให้ชัดเจนก็คือ… ‘ห้องโถงกลาดิเอเตอร์’ และ ‘ห้องโถงมอร์ทาลิตี้’

 

ห้องโถงกลาดิเอเตอร์ก็เหมือนชื่อของมันซึ่งก็คือโคลอสเซียม – สถานที่ที่สามารถ PvP ได้อย่างอิสระ

 

มันจะรีอันดับทุกเดือน และก็จะมอบรางวัลพิเศษให้กับท็อปแรงเกอร์ในแต่ละเดือน

 

ปีหนึ่งจะมีสองครั้งที่จะมีอีเว้นต์เพื่อเลือก ‘คนที่แข็งแกร่งที่สุดของคนแข็งแกร่งที่สุด’ ซึ่งชื่อของอีเว้นต์คือ “ศึกดวลเดือด” นอกจากนั้นยังมีอีเว้นต์ PvP อีกหลายอีเว้นต์ ดังนั้นผู้เล่นจึงชื่นชอบมันมาก

 

ส่วนห้องโถงมอร์ทาลิตี้นั้นจะเป็นที่รู้สึกกันในชื่อ “ดันเจี้ยนจับเวลา” ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นที่ชอบ PVE มากกว่า PVP

 

มีดันเจี้ยนมากมายหลายดันเจี้ยน และมีทีมหลายทีมแข่งกันเคลียร์ดันเจี้ยนให้เร็วที่สุด

 

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากมีดันเจี้ยนที่ถูกเรียกว่า “ดันเจี้ยนโอเกอร์ดํา” ซึ่งสามารถเข้าแข่งกันได้พร้อมกันสูงสุด 10 ทีม พวกเขาจะต้องเข้าดันเจี้ยนในเวลาเดียวกันและแข่งกันว่าใครจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้เร็วที่สุด

 

ห้องโถงมอร์ทาลิตี้ก็มีการรีอันดับทุกเดือนและให้รางวัลกับท็อปทีมที่เคลียร์ดันเจี้ยนได้เร็วที่สุดในแต่ละเดือนเช่นเดียวกัน

 

ผู้เล่นที่ชอบ PVP ก็จะไปที่ห้องโถงกลาดิเอเตอร์ในขณะที่ผู้เล่นที่ชอบ PVE ก็จะไปที่ห้องโถงมอร์ทาลิตี้

 

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมดของดินแดนแห่งวีรบุรุษ

 

มันยังมีดันเจี้ยนสาธารณะและพื้นที่ฟาร์มที่ดีมากมาย ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ถูกเรียกว่าดินแด่นแห่งความรุ่งเรือง

 

แต่อุปสรรคเพียงหนึ่งเดียวในการไปดินแดนแห่งวีรบุรุษก็คือเส้นทางแห่งความตาย แน่นอนว่าไม่มีคนแบบซางฮยอคที่คิดจะผ่านเส้นทางแห่งความตายได้ด้วยตัวคนเดียว

 

‘เส้นทางแห่งความตาย แม้แต่ฉันก็เป็นเรื่องยากที่จะพิชิตมันใช่มั้ยนะ? แต่ในตอนนี้ฉันก็สามารถหลบหนีออกมาได้หากฉันล้มเหลว ดังนั้นลองดูก็ไม่เสียหาย’

 

แม้ว่าเจาจะเตรียมตัวมาอย่างเพรียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการอัพเลเวลอย่างรวดเร็วหรือการเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญสกิลวิญญาณ

 

แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย

 

‘อันที่จริงแล้วฉันไม่มีเหตุผลให้ลังเลนี่หน่า?’

 

ซางฮยอคตัดสินใจพร้อมกับยิ้มขึ้นมา

 

****

 

ความยาวของเส้นทางแห่งความตายจะอยู่ที่ 10 กิโลเมตร เส้นทางแห่งความตายก็เหมือนถนนในปาที่เต็มไปด้วยมอนเตอร์ และ เมื่อผู้เล่นออกจากเส้นทางหลัก พวกเขาจะพบเจอปัญหามากมาย

 

ทางเดียวที่จะผ่านเส้นทางแห่งความตายได้ก็คือต้องบุกฝ่าเส้นทางแคบๆ ที่ทอดยาวไปกว่า 10 กิโลเมตร

 

ในความทรงจําของซางฮยอค ทีมที่พิชิตเส้นทางแห่งความตายนี้ได้เป็นทีมแรกในชีวิตก่อนของเขามีจํานวนผู้เล่นในทีม 150 คน จํานวนนี้อาจดูค่อนข้างน้อย แต่เมื่อพิจราณาจากความกว้างของเส้นทางรวมถึงภูมิประเทศแล้วจํานวนคนเท่านี้เหมาะสมมาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงใช้แผนคลื่นมนษย์ที่ใช้คนนับพัน

 

เวลาที่คนทั้ง 150 คนใช้ในการพิชิตเส้นทางที่ยาว 10 กิโลเมตร แห่งนี้นั้นคือ 1 สัปดาห์ ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความยากลําบากตลอดทั้งสัปดาห์ทําให้พวกเขาเหลือรอดกันแค่ 50 คน

 

ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนจะเรียกมันว่าเส้นทางแห่งความตาย

 

หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว ซางฮยอคก็เข้าสู่เส้นทางแห่งความตายทันที เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้มาร์กกิ้งบุ๊คภายในเส้นทางแห่งความมืด เขาจึงต้องผ่านเส้นทางที่ยาว 10 กิโลเมตรในครั้งเดียว

 

แม้แต่การล็อกเอ้าท์ออกจากระบบ เขาก็ต้องระมัดระวังอย่างมากเนื่องจากมอนเตอร์อาจโผล่มาโจมตีเขาจากเงามืดในขณะที่เขากําลังล็อกเอ้าท์

 

หวืดดด! ซ้าบบบ!

 

ซางฮยอคเหวี่ยงแส้กระดูกทองคําหมื่นปีพันรอบคอของหมาป่า เงาที่อยู่ในเงามืดข้างกายเขา

 

หมาป่าเงา อสรพิษเงาและวานรเงานั้นเป็นมอนเตอร์ประเภทลอบสังหารที่อยู่ในเส้นทางแห่งความตาย

 

มอนเตอร์พวกนี้ทําให้เส้นทางแห่งความมืดนั้นมีความยากมากยิ่งขึ้นเนื่องจากพวกมันซ่อนตัวอยู่ในเงา พวกมันจะซุ่มโจมตีผู้เล่น ก่อนที่จะลากพวกเขาเข้ามาในเงาและกินพวกเขา

 

เนื่องจากพวกมันซุ่มโจมตีอย่างเงียบเชียบ แม้ว่าจะมีผู้เล่นจะอยู่ใกล้กับคนที่ถูกโจมตี แต่พวกเขาจะไม่รู้ตัวว่าเพื่อนของพวกเขาหายไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมอนเตอร์พวกนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อซางฮยอค การซ่อนตัว ความมืดและเงานั้นไม่ได้มีความหมายกับซางฮยอคผู้ที่มีสมญานามดยุดเงา

 

ด้วยสมญานามนี้ทําให้ซางฮยอคสามารถสังหารพวกมันในขณะที่พวกมันยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงา

 

ค่าสถานะของพวกมันถือว่ามีระดับปานกลางเมื่อเทียบกับความสามารถในการซุ่มโจมตีของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงตายทันทีที่ถูกโจมตีโดยแสักระดูกทองคําหมื่นปี

 

ในปัจจุบันซางฮยอคเดินในเส้นทางแห่งความตายอย่างช้าๆ พร้อมกับสังหารมอนเตอร์ประเภทเงาพวกนี้

 

ถ้าหากมอนเตอร์ประเภทเงาเป็นพวกที่ซุ่มโจมตีในเงา มันก็มีมอนเตอร์พวกที่โจมตีอย่างเปิดเผยด้วยเช่นกัน พวกที่โจมตีอย่างเปิดเผยคือออร์คกลายพันธุ์

 

ด้วยเลเวลเฉลี่ย 65 และเดินเกาะกลุ่มประมาณ 3-5 ตัว พวกมันถูกเรียกว่าออร์คตาแดง พวกมันเป็นมอนเตอร์ที่พบได้บ่อยที่สุดในเส้นทางแห่งความตาย

 

โฮกกกกก

 

หลังจากสังหารหมาป่าเงาเสร็จ ซางฮยอคก็เงยหน้าขึ้นก่อนจะเจอกับออร์คตาแดง 4 ตัวที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

ออร์คกลายพันธุ์พวกนี้มีขนาดประมาณ 1.5 เท่าของออร์คปกติ แต่พวกมันตัวเล็กกว่าโอเกอร์เล็กน้อย

 

แสงสีแดงที่ดูอันตรายแผ่ออกมาจากดวงตาของพวกมันราวกับพวกมันเห็นมองว่าซางฮยอกเป็นเหยื่อที่ไม่สามารถขัดขืนพวกมัน

 

อย่างไรก็ตามคนที่ถูกมองว่าเป็น “เหยื่อ” นั้นกลับแสดงท่าทีที่เฉยเมย

 

“โอ้ นี่มันไอ่พวกไร้สมรรภาพนี่หว่า…”

 

ซางฮยอคส่งยิ้มไปให้ออร์คตาแดง เหตุผลที่เขาเรียกพวกมันว่า พวกไร้สมรรถภาพเป็นเพราะพวกมันไม่สามารถมีลูกได้เนื่องจากการกลายพันธุ์ของพวกมัน

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ความรู้พื้นฐานในเกม แต่พวกมันก็ได้สมรรถาพจริงๆ

 

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ซางฮยอคได้สังหารพวกไรสมรรถภาพพวกนี้ทุกวัน

 

เมื่อกิลด์จํานวนมากได้สร้างทีมขึ้นมาเพื่อสํารวจเส้นทางแห่งความตาย มันจึงเป็นเรื่องปกติที่กิลด์โกลด์รัชจะสร้างทีมของพวกเขาซึ่งซางฮยอคก็เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมนี้

 

ในตอนนั้นซางฮยอคได้ตายมากกว่า 10 ครั้งในเส้นทางแห่งความตาย เขาจึงคลายเครียดด้วยการต่อสู้กับมอนเตอร์พวกนี้

 

เขาสังหารพวกมันอย่างกับคนบ้า เพื่อนของเขาในเวิร์คชอปจึง ตั้งชื่อเล่นให้กับเขาว่า

“นักฆ่ามอนเตอร์โรคจิต!”

 

ชื่อเล่นนี้มาจากการที่ซางฮยอคสังหารมอนเตอร์พวกนี้อย่างต่อเนื่อง

 

“ฉันจําได้ว่า… ฉันบดขยี้พวกนายยังไงบ้าง….”

 

เขาดึงดาบนักล่าออร์คออกมาในขณะที่เขาพึมพํา

 

เขากําลังจะแสดงให้เห็นที่มาของชื่อเล่นนักฆ่ามอนเตอร์โรคจิตของเขา