Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ 1259

Now you are reading Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ Chapter 1259 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
พบกันใหม่ยุคหน้า

มีหญิงคนหนึ่งอยู่ในเมล็ดพันธุ์ งดงามจนน่าตกใจ!

สือฮ่าวประหลาดใจมากจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่า จะมีสิ่งมีชีวิตซ่อนเร้นอยู่ในเมล็ดพันธุ์ฟ้าดิน ซ้ำยังงามหยาดเยิ้มปานนี้

นางนั่นเองที่กำลังแผ่รังสีอำมหิต อยากกำจัดเขาให้สิ้นซาก!

พลังปราณขมุกขมัวสลายตัว เห็นตรงนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่เลือนรางอีกต่อไป หญิงสาวปรากฏกายท่ามกลางหมอกควัน

นางนั่งอยู่กลางอากาศ นัยน์ตาเป็นประกาย!

หญิงสาวคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงที่สือฮ่าวเห็น ไม่มีลักษณะเหมือนนางฟ้าเช่นนั้น ดวงตาคู่งามของนางโตมาก แถมยังคมกริบ แม้จะงดงาม แต่กลับไม่อ่อนโยน นัยน์ตาเป็นเหมือนบ่อน้ำที่สาดลำแสงกระบี่!

แสงกะพริบระยิบระยับแบบนี้ กดดันจนแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องก้มหัว ไม่กล้าสบตา ภายใต้รัศมีของนาง รู้สึกว่าไม่มีทางจะเทียบเคียงได้

คิ้วของนางงดงาม ดำเงาดุจน้ำหมึก ทั้งเส้นเล็กและยาว แต่แทบจะกลืนไปกับไรผมแล้ว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นางเป็นหญิงที่เปี่ยมด้วยพลัง มีลักษณะน่าเกรงขาม แต่กลับสมบูรณ์แบบยิ่งนัก

 หน้าผากโหนกนูน ขาวดุจหยก ดวงตางามและมีพลังปราณพุ่งออกมา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากชุ่มชื่นแดงระเรื่อ เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเล็กน้อย

แม้นางจะนั่งขัดสมาธิ แต่มองออกว่ารูปร่างต้องสูงระหง มีทรวดทรงน่าตะลึงเป็นแน่ หากลุกขึ้นยืนคงจะสูงกว่าชายทั่วไป

และตอนนี้นางลุกขึ้นแล้ว ยืนอยู่กลางอากาศ มีหมอกขมุกขมัวรายล้อม ถูกใช้เป็นเสื้อผ้า หมอกขาวบดบังตำแหน่งสำคัญบางส่วนของนางไว้

แต่ว่าความงามอันพร่าเลือนกลับโดดเด่นยิ่งนัก เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้

จำต้องพ฿ดว่า หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร หากมองแค่ภายนอก มันโดดเด่นเหนือใครจริงๆ

นางมีผมสีม่วง ปล่อยยาวมาถึงกลางหลัง มีข้างหน้าบางส่วนปกปิดเนินอกไว้ เอวคอดกิ่ว ขาเรียวยาวขาวประหนึ่งหยก

แม้สือฮ่าวจะเคยเห็นหญิงสาวงดงามมานักต่อนัก แต่ตอนนี้ก็ต้องทำหน้าตกใจ หญิงคนนี้งามจนเหมือนความฝัน นับว่าไร้ที่ติ มีลักษณะเฉพาะตัว

“เจ้ามันสมควรตาย!” นางส่งกระแสจิต ไม่ได้อ้าปากพูด เพราะนางไม่ได้ถือกำเนิดในโลกนี้ ไม่รู้ภาษาเก้าสวรรค์สิบพิภพ

แต่นางกลับมีพลังจิต สามารถสื่ออารมณ์ของตัวเองได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ มันน่าตกใจยิ่งนัก มีแต่กำเนิด นี่เป็นเทพเจ้า ไม่เคยศึกษาแต่รู้ทุกอย่าง

สือฮ่าวตกใจในตอนแรก และตอนนี้จิตใจก็ว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิม

เขาทำอะไรลงไป? เข้ามาในเมล็ดพันธุ์ พบสิ่งมีชีวิตที่ยังมีลมหายใจ มันช่างน่าเหลือเชื่อ เป็นเรื่องที่สะเทือนปฐพี

แม้จะเคยได้ยินเรื่องราวประมาณนี้ แต่เพราะเป็นเพียงเรื่องเล่าลือ มีแค่ไม่กี่คนที่เคยเห็น

ตอนนี้ เขากำลังประสบด้วยตัวเองแล้ว!

ครรภ์ที่ถูกฟ้าดินหล่อเลี้ยง ถูกเขาเห็นเข้าแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น เขาเสี่ยงอันตรายแล้ว ถึงขั้นเรียกได้ว่าทำร้ายหญิงคนนั้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว บุกเข้ามาในดินแดนที่หล่อเลี้ยงนาง เท่ากับช่วงชิงทุกอย่างของนาง

เรื่องนี้ไม่มีทางจบสวย ไม่มีวันเลิกรา อีกฝ่ายไม่ปล่อยนางเป็นแน่

“ขออภัย” สือฮ่าวพูดออกมาแค่สามคำ เมื่อเขาสงบลง สิ่งที่อยากทำไม่ใช่กระโจนเข้าไป แก้ปัญหาด้วยการต่อสู้ แต่เป็นการขอโทษจากใจจริง

หากคิดอีกแง่หนึ่ง ถ้าลองเปลี่ยนเป็นเขา เขาอาจเดือดดาลยิ่งกว่า มีคนคิดจะแย่งชิงทุกอย่างของเขา ทำลายหนทางบรรลุเซียนของตัวเอง มันเป็นความแค้นอย่างใหญ่หลวง

“เจ้าคิดว่าพูดสามคำนี้แล้วเรื่องจะจบหรือ?” หญิงคนนั้นพูด น้ำเสียงน่าฟัง ประหนึ่งเสียงธรรมชาติ

สือฮ่าวตะลึงงันทันที ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้ใช้กระแสจิต และเป็นการเปล่งเสียงโดยตรง สนทนาผ่านภาษาเก้าสวรรค์สิบพิภพ

“ฟ้ากำเนิดดินหล่อเลี้ยง ชั่ววินาทีที่เจ้าเข้ามา ข้าก็รู้สึกถึงข้อมูลมากมายของโลกหล้า จึงเรียนรู้จากมัน” หญิงสาวเฉยเชายิ่งนัก นัยน์ตาแววโรจน์

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจำศีลอยู่ข้างใน ข้าคิดว่าเป็นแค่เมล็ดพันธุ์ฟ้าดิน มีทองคำเซียนซ่อนอยู่เสียอีก” สือฮ่าวพูด แต่เขาคิดว่าคำอธิบายใดๆ ล้วนไร้ความหมาย

ทว่า แม้เขาจะรู้สึกผิดต่อหญิงสาวคนนี้ แต่ไม่มีทางรออีกฝ่ายสังหารเขา เขาจะป้องกันตัว ไม่นั่งรอความตายแน่นอน

“เจ้าจะเป็นฝ่ายลงมือกับข้างั้นหรือ?” หญิงสาวคนนั้นเลิกคิ้ว ในดวงตาคู่งามส่องแสงสีม่วงระยิบระยับ หมอกเลือนรางข้างหน้ากระเพื่อม

“ข้าจะไม่ลงมือก่อน แต่จะไม่นั่งรอความตายเช่นกัน” สือฮ่าวพูด

ไม่นานสือฮ่าวก็มั่นใจว่า พลังของนางแก่กล้ากว่าเขา แต่เหนือกว่าปานใดกันแน่ กลับประเมินไม่ได้

หากนับแค่เรื่องขั้นบำเพ็ญ ต้องเป็นหญิงที่น่ากลัวมากคนหนึ่งแน่นอน!

เป็นเช่นเดียวกับตำนาน ภูตที่ถูกฟ้าดินหล่อเลี้ยง ครรภ์เซียนที่ถือกำเนิดจากดิน ล้วนยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ เหนือผู้สูงสุด ต้องบรรลุเป็นเซียนแน่นอน!

ทำไมถึงเรียกว่าครรภ์เซียน? เพราะเมื่อพวกเขาถือกำเนิด ใช้เวลาไม่นานก็จะกลายเป็นเซียนได้โดยตรง!

เคยมีคนบอกว่า พวกเขาเป็นทายาทแห่งสวรรค์ เพียงแค่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์หนึ่งหน จุดเริ่มต้นย่อมสูงกว่าสรรพสิ่ง และอยู่เหนือทุกผู้ทุกคน

เพียงแต่ว่าครรภ์เซียนหายากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่อดีตยันวันนี้ก็มีเพียงน้อยนิด หากถือกำเนิด จะเหตุการณ์แปรปรวน ฟ้าดินหม่นหมอง ขัดขวางได้ยากยิ่งนัก

แน่นอนว่า ขั้นตอนก่อตัวของพวกเขาเชื่องช้าอย่างยิ่ง ดีไม่ดีอาจนานนับหลายล้านปี หรืออาจจะนานกว่าด้วยซ้ำ!

เคยมีคนบันทึกว่า ในยุคเซียนโบราณ มีครรภ์เซียนที่ใช้เวลาหล่อเลี้ยงกว่าสิบล้านปี เพิ่งกำเนิดก็บรรลุเป็นเซียนทันที และขั้นบำเพ็ญยังก้าวหน้าไม่หยุด

แต่สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน ระหว่างที่กำลังก่อตัว หากถูกคนรบกวนระหว่างทาง จะหยุดชะงัก เดินหน้าต่อไปไม่ได้อีก

มันหมายความว่า หากทำลายครรภ์ฟ้าดินแล้ว นางจะหยุดเติบโตทันที เพราะยังก่อตัวไม่สำเร็จ จะสูญสิ้นความหวังบนเส้นทางวิถีเซียน

“ชิ้ง!”

หญิงสาวลงมือแล้ว เมื่อยกมือก็ประสานอิน ทำให้มิติบิดเบี้ยวทันที ทุกอย่างตรงนั้นเปลี่ยนรูป

สีหน้าของสือฮ่าวเปลี่ยนไปทันที ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า พลังของหญิงคนนี้ยิ่งใหญ่เกินคาดคิด แค่ประสานอินก็เป็นถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่ได้จริงจังมากนัก

สือฮ่าวคิดว่า ต่อให้ผู้สูงส่งขนานแท้มาก็คงต้องตาย!

เป็นอย่างที่คิด แค่เขาสะบัดมือเบาๆ ที่นั่นก็พร่ามัว และระเบิดในเวลาต่อมา

จากนั้นนางก็ปล่อยให้อินสลายไปอย่างระมัดระวัง คล้ายว่าจะกลัวเมล็ดพันธุ์ได้รับแรงกระทบกระเทือน สูญสิ้นความหวังเป็นเพราะเหตุนี้

เมื่อครู่เป็นแค่การทดลองเท่านั้น แถมยังระวังตัวอย่างมาก เป็นการหยั่งเชิงง่ายๆ แต่กลับมีอานุภาพร้ายแรงถึงปานนั้นแล้ว

สือฮ่าวอดสงสัยไม่ได้ว่า หรือหญิงคนนี้จะได้รับการหล่อเลี้ยงจนเสร็จสิ้น ใกล้จะถือกำเนิดแล้ว? หากเป็นเช่นนั้น ขั้นบำเพ็ญที่แท้จริงของนางจะประมาณไม่ได้!

ชิ้ง!

ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย ปล่อยลำแสงสีม่วงออกมา ทำให้มิติสั่นระริก จากนั้นก็พันธนาการที่นี่ ทำให้ทุกสิ่งหยุดนิ่ง

แม้กระทั่งเวลา ก็เหมือนจะหยุดเดินแล้ว!

เหตุการณ์นี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน แค่ชั่วอึดใจ แต่เสมือนยาวนานนับพันล้านปี

สือฮ่าวรู้สึกว่า ต่อให้ต่อต้านก็ไร้ความหมาย นอกจากมีปรมาจารย์สู้ศึก มิเช่นนั้นจะมองไม่เห็นความหวังเลยสักนิด

แต่ปรมาจารย์อยู่ข้างนอก ไม่รู้สถานการณ์ข้างในแต่อย่างใด เมล็ดพันธุ์ตัดขาดทุกสิ่ง ทำให้มองทะลุเข้ามาไม่ได้ หากมิเช่นนั้นคงจะเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ไม่เป็นเช่นนี้แน่นอน

การสู้กับครรภ์เซียนด้วยขั้นเทพสวรรค์ มันเปล่าประโยชน์

ห้วงมิติเงียบลงทันตา พลังทั้งหมดสลายไป ประกายในดวงตาของหญิงสาวหายไป แปรเปลี่ยนอ่อนโยน

“เจ้าใช้อะไร ทำให้เมล็ดพันธุ์สมานกัน?” นางถาม นี่เป็นปัญหาที่นางกังวล

“เป็นของวิเศษที่ได้มาจากศาสนาปิดฟ้า บางทีอาจเป็นยาอายุวัฒนะ หรืออาจเป็นหินวิเศษชนิดหนึ่งก็ได้ มันไม่ชัดเจน” สือฮ่าวตอบ

“ยังมีอีกไหม?” หญิงสาวถาม แววตาเจิดจ้าปานดวงตะวันขึ้นมา แผ่ซ่านไปถึงหัวใจ

“ยังมีอยู่” สือฮ่าวตอบอย่างมั่นใจ

“งั้นก็ดี ข้าจะให้เจ้ายืมครรภ์ฟ้าดิน เจ้าบำเพ็ญเพียรที่นี่ หากออกไปแล้ว ใช้ยาปิดฟ้าผนึกเมล็ดพันธุ์เม็ดนี้ใหม่ เจ้าทำได้ไหม?” นางไม่ข่มขู่ เพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงเจรจา ซ้ำยังเป็นมิตรถึงเพียงนี้

สือฮ่าวคิดไม่ถึงเลยว่า นางจะว่าง่ายเช่นนี้ ไม่โกรธเคืองเขา แต่สุภาพแบบนี้ ไม่สอดคล้องกับลักษณะแข็งกร้าวเลย

“ข้าทำได้!” เขาตอบอย่างหนักแน่น

ยาปิดฟ้ามีสรรพคุณวิเศษ สือฮ่าวมั่นใจ ขอแค่ใช้ยาชนิดนั้นปิดผนึกเมล็ดพันธุ์ใหม่ มันจะไม่มีผลกระทบใด มันจะสมบูรณ์แบบเช่นดังเดิม!

“ข้าสังเกตกฎเกณฑ์ฟ้าดิน สัมผัสได้รางๆ ว่าจะมีหายนะมาเยือน ไม่คิดว่าจะมาไวปานนี้” หญิงสาวพึมพำ มีพลังฟ้าดินโยงใยรอบกาย กลิ่นอายของหมื่นดินแดนแผ่คลุมลงมา

มันเป็นการผสานระหว่างเมล็ดพันธุ์กับฟ้าดิน พลังทั้งหลายตอบสนอง สรรค์สร้างโซ่ระเบียบ เชื่อมต่อกับหมื่นธรรมของจักรวาล

จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้น ผมสีม่วงเงางามพลิ้วไหว เผยให้เห็นใบหน้างามหมดจด มองดูมิติ เนื้อตัวเปล่งประกาย ตาที่สามปรากฏขึ้น ราวกับจะมองตลอดกาลให้ทะลุปรุโปร่ง

อักขระนานาชนิดปรากฏขึ้นรอบกาย มันเป็นอักขระชั่วนิรันดร์ไม่แปรเปลี่ยน เพราะผลผลิตจากการก่อตัวของธรรม กลายเป็นลวดลายห่อหุ้มนาง มีเสียงสวดมนต์ดังขึ้น เสมือนจะสะเทือนเก้าสวรรค์สิบพิภพ

แท้จริงแล้ว มันดังวนเวียนอยู่ในมิติ แต่กลับดังบาดแก้วหู

ชิ้นส่วนของกาลเวลาลอยล่อง ภาพวิเศษต่างๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับภาพฝัน

สือฮ่าวตะลึงงัน หญิงคนนี้กำลังคาดการณ์ ทำนายอนาคตของตัวเอง กำลังดูดวงชะตา มันเป็นฝีมือสะท้านปฐพีชัดๆ

“ข้าเห็นภาพที่เลือดสาดกระจายเต็มฟากฟ้า ศพกองเป็นภูเขาจากตัวเจ้าและภพนี้ มันจะเต็มไปด้วยการเข่นฆ่า ฟ้าดินถล่ม โหดร้ายเหลือเกิน หากข้าถือกำเนิด เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย สิ้นชีพอยู่ในกลียุคที่มืดมนที่สุด”

นางบ่นงึมงำ ราวกับละเมอ

สือฮ่าวพูดอย่างตกใจว่า “หากเจ้ากำเนิด ต้องกลายเป็นเซียนแน่นอน จะตายอีกหรือ?”

“เซียนก็รับมือไม่ไหว น่ากลัวเกินไป น่าจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ ใครก็ขวางไม่ได้” หญิงสาวพูดเสียงเรียบ

จากนั้นภาพข้างกายนางก็หายไป อักขระเหล่านั้นก็เช่นกัน

“นี่เป็นเจตจำนงสวรรค์ เจ้าเข้ามา ใช้เมล็ดพันธุ์ของข้าบำเพ็ญเพียร เมื่อถึงตอนนั้นเจ้ารับมือกับหายนะแทนข้า!” หญิงสาวพูดอย่างตรงไปตรงมา

“หากว่าแทนกันได้ ก็ไม่มีปัญหา!” สือฮ่าวไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

“ยุคนี้ข้าจะไม่ปรากฏตัว หากเจ้ายังรอด พบกันใหม่ยุคหน้า!” หญิงสาวพูดแบบนี้

“ได้ พบกันใหม่ยุคหน้า!” สือฮ่าวพยักหน้า สีหน้าจริงจัง เขารำพันในใจว่า ต้องรอดชีวิตแน่นอน เขาจะไม่ตาย เขาจะเปลี่ยนแปลงจุดจบของชะตาของผู้คนมากมาย!

จากนั้นร่างของหญิงสาวก็กะพริบ ถอยหลังไปอีกมุมหนึ่ง หลีกทางให้เขาอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลาง ตรงนั้นมีแท่นหินราบเรียบ เก่ายิ่งนัก หากไม่สังเกตอาจถูกมองข้ามได้ แทบจะกลืนไปกับอากาศแล้ว

นางเดินไปอยู่อีกมุม ให้สือฮ่าวนั่งลงตรงนั้น

เมื่อสือฮ่าวเดินเข้ามาใกล้และนั่งลงแล้ว ก็ต้องตะลึงงัน แท่นหินเรียบยาวไม่ถึงสามเซี๊ยะ แต่กลับเต็มไปด้วยลวดลายเก่าแก่ ยากลึกหยั่งถึง

มันเป็นส่วนสำคัญของเมล็ดพันธุ์!

เมื่อนั่งลงไป หมื่นธรรมก็ลอยลงมาจากฟ้า มาจากทุกสารทิศจนท่วมท้นสือฮ่าว เสียงสวดมนต์ลึกลับดังก้องในใจ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด