Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ 1300

Now you are reading Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ Chapter 1300 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1300 กาหลอมเซียน

กาหลอมเซียน มันคืออะไร?

เมื่อสือฮ่าวได้ยินชื่อนี้ก็รู้ว่าไม่ธรรมดา จะหลอมเซียนทั่วทั้งโลกหรือ?

กาสีดำยาวไม่เกินครึ่งเซี๊ยะ ลอยอยู่บนฟ้าสูง เป็นเพราะการปรากฏตัวของมัน ขัดขวางเลือดลม ทำให้มันพุ่งขึ้นฟ้าเหมือนกลุ่มควันไม่ได้อีก

“กาหลอมเซียน เป็นของอีกฟากของแดน แต่ว่ากันว่าในสงครามยุคเซียนโบราณ มันไม่เคยโผล่มาเลย มีแค่ผู้อาวุโสที่รู้ คิดว่าอาจมีของสิ่งนี้อยู่” มดน้อยพูด

“อะไรนะ?” สือฮ่าวตกใจ มันมีอายุเก่าแก่ปานใดกัน ถือว่าเป็นสิ่งของในตำนานตั้งแต่ยุคเซียนโบราณ คนยุคนั้นไม่เคยพบเจอแต่อย่างใด

แต่ตอนนี้มันปรากฏให้เห็นแล้ว จะทำอะไรกันแน่?

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันเป็นของต่างแดน มาจากอีกฝั่งของชายแดน หรือสนามรบแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับดินแดนนั้น?!

สือฮ่าวเสียวสันหลังวาบ จากนั้นก็พึมพำว่า “อย่าบอกนะว่า ที่นี่เป็นชายแดน!”

หากพูดเช่นนั้นล่ะก็ ที่นี่จะเป็นสมรภูมิรบของบรรพชนตระกูลสือ เป็นชายแดนที่พวกเขาปกป้อง

“ฟิ้ว…”

กาสีดำสั่นไหว ปล่อยเสียงดังหวีดหวิว ประหนึ่งวิญญาณร่ำไห้ ชวนให้รู้สึกอึดอัดยิ่งนัก สภาพอารมณ์ถูกรบกวนอย่างรุนแรง

เรื่องที่น่ากลัวเกิดขึ้น กาหลอมเซียนโคลงเคลง มันเริ่มเขมือบเลือดลมทั้งหมดในสนามรบ ลำแสงสีแดงเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งไปหามัน

เมื่อครู่ พลังปราณเหล่านั้นยังพุ่งขึ้นฟ้าราวกับเป็นกลุ่มควัน แต่ตอนนี้กลับถูกเขมือบ หายเข้าไปในกาหลอมเซียนทั้งหมด แถมยังรวดเร็วยิ่งนัก

ต้องรู้ว่า หากเลือดลมเหล่านี้รวมตัวกัน สามารถฟันดวงดาวจำนวนมากหล่นร่วงลงมาได้ แต่ตอนนี้กลับถูกเขมือบอย่างง่ายดาย ถูกกาหลอมเซียนช่วงชิงเอาไป

สือฮ่าวรู้สึกหนาวเหน็บ ครั้งนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมถึงเห็นศพจำนวนมากระหว่างทาง แม้จะมีคราบเลือด แต่กลับไร้พลังปราณ

เพราะถูกกาหลอมเซียนกลืนกิน ดูดเอาส่วนสำคัญในเลือดไปจนหมดแล้ว!

สนามรบกว้างใหญ่ไพศาล มีศพมากเหลือคณานับ พลังปราณหายไปจนสิ้น ล้วนเป็นการกระทำของกาใบนี้ มันช่างน่าตะลึงยิ่งนัก!

มันเป็นอาวุธสังหาร และเกรงว่าจะเป็นหนึ่งในอาวุธสังหารที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์!

“ว่ากันว่า กาหลอมเซียนเป็นของที่ครอบครองโดยอาจารย์ซึ่งเป็นบุคคลสูงส่งของอีกแดน แต่ยุคก่อนไม่เคยโผล่มาให้เห็นเลย”

คำพูดของมดน้อยเริ่มสั่นเครือขึ้นมาแล้ว ไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย

เพราะตามข้อมูลที่มันรู้ อาจารย์สูงส่งท่านนั้นตายตั้งแต่ต้นยุคเซียนโบราณแล้ว มีอายุเก่าแก่เหลือเกิน ตายในท่านั่งสมาธิตอนบำเพ็ญเพียรในภายหลัง

สิ่งที่หายไปพร้อมกับเขามีกาใบนี้ แต่ทำไมมันถึงโผล่มาตอนนี้ได้?

“ไม่สิ ข้าคิดว่าไม่ชอบมาพากล ผิดปกติยิ่งนัก นี่เป็นยุคปัจจุบันหรือ? ข้าไม่เชื่อว่าจะมีศพมากมายขนาดนี้ ข้าสงสัยว่า เรามาถึงช่วงปลายยุคเซียนโบราณใช่ไหม?” มดเขาสวรรค์ส่ายหัวเป็นพัลวัน

สือฮ่าวก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน หรือหลังก้าวเข้ามาในสถานที่ทดสอบขั้นสุดยอด จะข้ามผ่านเส้นทางทะลุมิติ มาถึงดินแดนแห่งหายนะหลังยุคเซียนโบราณล่มสลาย?

มันเหมือนเหลือเกิน หากมิเช่นนั้น จะเต็มไปด้วยศพมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร ซ้ำยังยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้!

บางทีอาจมีสงครามวันสิ้นโลกในยุคนั้น ที่ทำให้เกิดหายนะเช่นนี้ได้

กาหลอมเซียนลอยอยู่ตรงนั้น เขมือบเลือดลมอย่างบ้าคลั่ง แสงสีแดงพุ่งขึ้น หายลับไปข้างใน ไม่มีใครรู้ว่าได้พลังชีวิตไปจำนวนมหาศาลมากแค่ไหน!

สือฮ่าวพรั่นพรึง มดน้อยก็ตะลึงงันเช่นกัน กาหลอมเซียนใบนี้เป็นสิ่งที่เตรียมไว้เพื่อนสังหารเซียนโดยเฉพาะหรือ?

ชื่อของมันน่าตะลึง การกระทำของมันชวนให้อกสั่นขวัญแขวน!

“กาหลอมเซียนใบนี้ไม่ได้ต้องการเลือดพวกนี้เองแน่ มันเป็นแค่ของใช้ ใช้มันเก็บเลือดลมพวกนี้ก็เท่านั้น!” สือฮ่าวพูด

“น่ากลัวเหลือเกิน นี่เป็นภาพที่ต่างแดนเก็บกวาดสนามรบครั้งสุดท้าย หลังต่างแดนเอาชนะเซียนโบราณหรือ?” เสียงของมดน้อยขมขื่น ฉากนี้น่ากลัวเหลือเกิน

ขณะเดียวกัน มันก็รู้สึกเศร้าสลด สิ่งมีชีวิตเท่าใดฝังร่างที่นี่ เปลี่ยนแปลงตอนจบไม่ได้ ยังคงเป็นจุดจบที่ถูกต่างแดนทำลายล้าง ฝังกลบเซียนโบราณทั้งผืน

พลังปราณมหาศาลปานนั้น มือดีมากเหลือคณานับ ล้วนเป็นนักพรตที่ยิ่งใหญ่ ต้องมาจบชีวิตที่นี่ สุดท้ายแม้แต่เลือดลมก็ถูกช่วงชิงเอาไป

ชิ้ง!

สุดท้าย กาหลอมเซียนสีดำก็พุ่งทะลุมิติ หายลับไปเสียแล้ว สือฮ่าวกับมดน้อยกลับสู่สภาพเดิม ไม่รู้สึกเหมือนร่างจะแหลกสลายอีกต่อไป

พวกเขายืดเส้นยืดสาย ให้เลือดลมได้ไหลเวียน หายใจด้วยความโล่งอก ยามทอดมองสนามรบแห่งนี้อีกครั้ง ดวงตาก็มีแต่ความเศร้าสลด

เป็นอย่างที่คิด เมื่อพวกเขาเดินออกไป ก็ไม่ได้รับผลกระทบอีก เลือดลมของศพเหล่านั้นถูกดูดซึมเอาไปหมดแล้ว ไม่มีผลกระทบใดต่อสนามรบแห่งนี้อีกต่อไป

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดวงดาวที่หล่นร่วงลงมา ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ

ศพเหล่านี้เป็นเหมือนศพที่เห็นก่อนหน้านี้ สูญเสียพลังวิเศษไปแล้ว ต่างก็กลับสู่สามัญแล้ว

“พวกเราเห็นภาพเหล่านี้ได้อย่างไร ไม่มีทางย้อนเวลากลับช่วงปลายยุคเซียนโบราณได้แน่” มดน้อยไม่เข้าใจ มันเสียใจ เมื่อนึกถึงญาติสนิทของมัน ต่างก็ตายในหายนะครั้งนี้

สือฮ่าวครุ่นคิดแล้วพูดว่า “หากอยากได้คัมภีร์อมตะ ต้องผ่านบททดสอบเหนือความคาดหมายแน่นอน บางทีพวกเราอาจอยู่ในเหตุการณ์ก็เป็นได้”

สนามรบเงียบสงบ พวกเขาเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ถึงจุดหมาย ดูให้ชัดว่ามันมีอะไรกันแน่

หลังเหาะออกไปหลายหมื่นลี้แล้ว ก็มีแสงสีทองสาดมาจากข้างหน้ารางๆ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เสมือนเป็นแดนสุขาวดีที่สุขสงบที่สุด

แต่ขณะเดียวกันก็มีคลื่นกระจายมา อสูรน่ากลัวตัวหนึ่งปรากฏตัว ดุร้ายยิ่งนัก อัปลักษณ์และน่าพรั่นพรึง มันแผ่กลิ่นอายยิ่งใหญ่ นัยน์ตาเย็นเยือก

นี่มันตัวอะไร?

มันสูงนับร้อยจั้ง หากเทียบกับโครงกระดูกในสนามรบ ไม่ถือว่ามีขนาดใหญ่ แต่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก รูปร่างคล้ายสิงโต แต่เนื้อตัวเป็นสีแดงฉาน ขนยาวเป็นอย่างมาก

และสองข้างลำตัวของมัน มีปีกสีแดงคู่หนึ่ง คล้ายปีกพญาหงส์

“สิงห์เลือดหงส์!” มดน้อยอุทานอย่างตกใจ แม้มันจะไม่ได้กำเนิดในเซียนโบราณ แต่ทหารเก่าเหล่านั้นกลับสอนอะไรมันเยอะแยะมากมาย

“ร้ายกาจมากหรือ?” สือฮ่าวถาม

“ร้ายกาจมาก ไม่ด้อยกว่าราชันมิติแน่ เป็นอสูรน่ากลัวในขั้นเดียวกัน!” มดน้อยตอบ

สือฮ่าวตกใจ ตอนนั้นเขาเคยต่อสู้กับราชันมิติในสนามรบเซียน ไม่ด้อยไปกว่าผู้สูงส่งที่มีพลังเซียนสามเส้นเลย น่ากลัวอย่างสิ้นเชิง

ไม่คิดเลยว่า เขาจะได้เจอกับอสูรต่างแดนอีกชนิด

จากคำพูดของมดน้อย สิงห์เลือดหงส์เป็นทายาทที่มีสายเลือดระหว่างหงส์สีเลือดกับราชสีห์ไร้ความกลัว มีพละกำลังมหาศาล อิทธิฤทธิ์แก่กล้า

อสูรชนิดนี้หายากยิ่งนัก แต่ล้วนยิ่งใหญ่สุดแสน!

“สิงห์เลือดหงส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ มันมาอยู่นี่ได้อย่างไร?!” สือฮ่าวจดจ้องมัน

“มีปลาหลุดรอดมาได้ด้วยหรือ ท่าทางต้องทำความสะอาดสนามรบเสียแล้ว เจ้ามนุษย์หน้าโง่เห็นข้าแล้ว ยังไม่รีบเข้ามาศิโรราบอีกหรือ?” สิงห์เลือดหงส์เอ่ยปาก

ร่างสูงร้อยจั้งแดงดุจเลือด นัยน์ตาฉายประกายเย็นเยียบ มันก้มหน้าจ้องสือฮ่าวเขม็ง แฝงความอำมหิตและจิตสังหาร

“ที่นี่ที่ไหน ต่างแดนหรือ ยุคเซียนโบราณหรือ?” สือฮ่าวโพล่งถามทันที

“ข้ากำลังพูดกับพวกเจ้า ผู้แพ้มีสิทธิ์อะไรมาถามข้า จะยอมจำนนหรือตาย?!” สิงห์เลือดหงส์ถามเสียงเหี้ยม

แน่นอนว่า พวกเขาสนทนาผ่านกระแสจิต เพราะสื่อสารกันด้วยภาษาไม่ได้

“โอ้ มีมดตัวน้อยด้วยหรือ ข้าขอคิดดูหน่อย เจ้ามาจากเผ่าพันธุ์ไหนนะ เหมือนจะเป็นมดเขาสวรรค์ มีชื่อยิ่งนัก ข้านึกออกแล้ว ข้าเคยกินไปตัวหนึ่ง เลือดหอมหวานยิ่งนัก แต่ขนาดของมันใหญ่กว่าเจ้าเยอะโข หลังเขมือบแล้วมันยาบำรุงชัดๆ ทำให้พลังของข้าเพิ่มพูน” สิงห์เลือดหงส์พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

ความอวดดีของมัน และการเย้ยหยันแบบนี้ ทำให้แววตาของสือฮ่าวเย็นเยียบ มดน้อยตาแดงก่ำ แผดร้องออกมาอย่างทนไม่ได้

“เจ้าเคยกินมดเขาสวรรค์งั้นหรือ?!” มันแทบจะปล่อยโฮ เพราะมันยังมีพี่ชายและพี่สาวที่ล้วนตายในสมรภูมิรบ ไม่เจอแม้แต่ศพ

“ใช่แล้ว คล้ายเจ้าเหลือเกิน คงไม่ใช่ญาติของเจ้าหรอกนะ” สิงห์เลือดหงส์พูดเหน็บแนมอย่างเลือดเย็น

“อยากตายหรือไง!” สือฮ่าวตวาด ประสานอินจะลงมือแล้ว

“ไม่ได้ ข้าเอง ข้าเอง ข้าจะฆ่ามันด้วยตัวข้าเอง สัตว์เลือดผสมแบบนี้มีสิทธิ์อะไรมาฆ่าพี่น้องข้า ข้าจะปลิดชีพมัน!” มดน้อยตาแดงก่ำ ขาดสติแล้ว

ตูม!

ต่อมา กำปั้นของมันก็เปล่งแสง พุ่งออกไปหาอสูรน่ากลัวตัวนั้น

ขณะเดียวกัน ภูเขาใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปก็สาดแสงสีทอง มีเสียงสวดมนต์ดังขึ้น มองเห็นกระดาษหนังสัตว์สีทองกำลังพลิก ลอยอยู่เหนือภูเขาลูกนั้น

“คัมภีร์อมตะ?” สือฮ่าวพึมพำ เขาคิดว่าหากเป็นคัมภีร์ล่ะก็ เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นสิ่งที่เขาตามหา

“ตูม!”

ขณะเดียวกัน มดเขาสวรรค์ก็ประมือกับสิงห์เลือดหงส์ ปะทะกันอย่างดุเดือด ปล่อยคลื่นพลังออกมาจำนวนมาก ทำให้มิติระเบิดเป็นจุณ!

……………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด