Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก

 

วัวคลั่งตัวใหญ่คล้ายรถถังหนักพุ่งทะลวงบดขยี้ หมัดหนักแน่นของเขาตรงดิ่งมาหมายเบ้าหน้าของเหมิงเหล่ยปลดปล่อยแรงมหาศาลออกมาจนน่ากลัว

 

“วัวคลั่ง!!!”

 

“ฆ่ามันเลยย!!!!”

 

พอเห็นแบบนั้นคนดูที่เชียร์ฝั่งวัวคลั่งก็ตะโกนเชียร์ “เป็นจอมเวทก็ช่างแม่งดิวะ ให้มันรู้พลังแห่งวัวคลั่งซะบ้าง”

เห็นได้ชัดเลยว่าถึงแม้ว่าคนดูส่วนมากจะอยากดูจอมเวทอย่างเหมิงเหลี่ยต่อสู้ แต่คนส่วนมากก็ยังคงเทใจเชียร์วัวคลั่งอยู่ดีเพราะนี้จะเป็นการชนะติดต่อกัน 10ครั้งรวดของเขา

ยังไงซะ คนดูส่วนหนึ่งเองก็แทงพนันข้างเขาไปแล้วเพื่อที่จะเอาเงินกลับพวกเขาก็ต้องเชียร์ข้างที่แทงไป

และก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ครึ่งสัตว์มนุษย์หัววัวนั้นมีพลังที่ดุร้ายจริงๆ

เหมิงเหล่ยนั้นรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกและพลังที่มหาศาลกําลังมุ่งหน้าเข้ามาหน้าของเขาเริ่มตึงและจริงจังขึ้นมาทันทีเผ่าเทาเรนหรือมนุษย์ครึ่งวัวนั้นเป็นเผ่าใหญ่ในบรรดาคนครึ่งสัตวพวกเขาเป็นครึ่งคนครึ่งวัวมีพลังและความบ้าคลั่งมหาศาล ป็นเครื่องจักรต่อสู้และบดขยี้ตามธรรมชาติในด้านของพลังล้วนๆเทาเรนมีความดุร้ายกว่าเผ่าพันธุ์สายเลือดขัตติยะของพวกครึ่งสัตว์อย่างเผ่าราชสีห์ด้วย

การที่มนุษย์ธรรมดามาเจอหน้ากับเทาเรนนั้นการจะเทียบเรื่องพลังเป็นสิ่งที่ทําไม่ได้เลย

 

แต่น่าเสียดายที่เหมิงเหล่ยนั้นไม่ได้คิดจะไปแลกหมัดสู้ด้วยกําลังกับเทาเรนอยู่แล้ว

 

เหมิงเหล่ยเริ่มที่จะร่ายเวทมนตร์ของตัวเอง ตอนนี้เขาตั้งใจที่จะเก็บร่างมังกรไฟไว้เป็นเหมือนไพ่ตายสุดท้าย

“จะใช้เวทมนตร์งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”

วัวคลั่งนั้นตัวใหญ่ แต่เร็วมาก เพียงแค่ไม่กี่ก้าวใหญ่ เขาก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเหมิงเหล่ยแล้ว หมัดขนาดใหญ่ของเขาพุ่งตรงเข้าหาหน้าของเหมิงเหล่ยทันที

เทาเรนนั้นมีความแข็งแกร่งทางร่างกายมหาศาล ถึงจะเป็นแค่นักรบระดับ 5 แต่ทางด้านกําลังล้วนๆนั้นมันสูงกว่าระดับ 5 ขึ้นไปมากถ้าหมัดนี้โดยเหมิงเหล่ย หัวของเหมิงเหล่ยคงได้แหลกเป็นเสี่ยงๆแน่

 

“ตายซะ!!!!!”

 

วัวคลั่งยิ้มเหี้ยมเกรียม ตอนนี้ภาพของเขาเห็นเหมิงเหล่ยลงไปกองจมเลือดตายคาที่บนพื้นแล้ว แค่คิดถึงภาพตอนนั้นเขาก็ตื่นเต้นสุดๆ ตั้งแต่ที่เขาโดนจับมาเป็นทาสในอาณาจักรมังกรไฟวัวคลั่งก็ต้องลําบากมากมาย มันทําให้ความแค้นสุมอยู่ในใจของเขา

เขาแค้นอาณาจักรมังกรไฟ เขาแค้นมนุษย์เขาแค้นทุกคน

หลังจากที่ถูกขายมาที่สนามเพลิงเพื่อมาเป็นนักสู้ใต้ดินวัวคลั่งก็สู้อย่างบ้าคลั่งและกระหายเลือดมาตลอด เขาเอาชนะมาได้ 10 ครั้งคู่ต่อสู้ทุกคนของเขาตายอย่างอนาถเสมอ

ดังนั้น วัวคลั่งจึงได้ถูกขนานนามว่าเป็นวัวปีศาจเลือดเย็นแสดงให้เห็นความซาดิส กระหายเลือดซึ่งมันเองก็ชอบชื่อนี้เอามากๆเขาต้องการล้างแค้นและฆ่าทุกคนที่เขาฆ่าได้

ซึ่งจอมเวทชาวมนุษย์คนตรงหน้าก็ไม่เว้น

 

ซูม!!!!

แต่ถึงอย่างนั้นจังหวะที่หมัดของวัวคลั่งจะปะทะจู่ๆเหมิงเหล่ยที่เคยยืนอยู่ตรงนั้น จู่ๆก็หายตัวไปโดยไร้ร่องรอยเหมือนกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่

“อะไรกัน!!”

วัวคลั่งตกใจ เขามองไปรอบๆแต่ก็ยังหาตัวเหมิงเหล่ยไม่เจอและในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงของคนดู“บนหัว!!เขาอยู่บ

นหัว!!

“บนหัวข้างั้นเรอะ!!!”

วัวคลั่งเงยหน้าขึ้นแล้วพบกับแสงเจิดจ้าในทันที

เปรี้ยง!

งูอัสนีบาตรยักฟาดลงมาจากท้องฟ้าอ้าปากกลืนกินวัวคลั่งด้วยความเร็วสูงในทันที

ตุ้ม!!!

ประกายไฟ แสง และสายฟ้าคลั่ง กระแสไฟฟ้า ทุกอย่างพุ่งพล่านออกมาเต็มไปหมด

และตัวรับกระแสไฟฟ้านั้นก็คือวัวคลั่งนั้นเอง

“มออ!!!!”

วัวคลั่งพยายามฝืนทนหลังจากที่โดนเวทสายฟ้าระดับ 3 อสรพิตสายฟ้าเข้าไปเต็มๆ แต่เขาก็ยังคงไม่ล้ม เขาคํารามอย่างเกรี้ยวกราดพยายามเรียกกําลังวังชาของตัวเองเพื่อต้านกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างตัวเอง

แน่นอนว่า ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขานั้น แค่เวทระดับ 3 ทําอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว

“ไม่เคยคิดอยู่แล้วว่าเวทระดับ 3 แค่นี้จะล้มเจ้าได้แต่แค่ยื้อเวลาไว้ซักพักได้ก็เพียงพอเลเวละ”

 

เหมิงเหล่ยดูใจเย็นอย่างคาดไม่ถึง เวทสายฟ้านั้นรวมตัวกันในมือของเหมิงเหล่ยก่อนจะค่อยๆร่ายเวทมนตร์ระดับ 4 ที่รุนแรงออกมา

“เจ้ามนุษย์เวทเบาๆของเจ้าหน่ะไม่ได้สะกิดขาแม้แต่น้อยเลย”

 

ร่างกายของวัวคลั่งนั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ เขาใช้เวลาแค่ 4 วินาทีก็สามารถหลุดจากสถานะชาของเวทอสรพิตสายฟ้าได้เขาคํารามก่อนจะพุ่งตรงไปหาเหมิงเหล่ยอีกครั้งด้วยความดุร้ายมากกว่าเดิม

เหมิงเหล่ยเองก็ยืนอยู่กับที่ปล่อยให้วัวคลั่งพุ่งเข้ามา

“ไปลงนรกซะ!!” วัวคลั่งจ้างหมัดแล้วต่อยอย่างแรงทันที

 

แต่จังหวะที่หมัดกําลังจะถึงตัวของเหมิงเหล่ยนั้นเองคาถาที่ร่ายเสร็จพอดีจบท้ายด้วยคําลงท้ายคาถา“พายุหะอัสนีบาต!”

ตุ้ม!

 

ลําแสงรุนแรงแสบตาผ่าลงมาจากฟ้าด้วยความรุนแรงสูงมากลําแสงนั้นกลืนกินตัวของวัวคลั่งและสว่างไสวไปทั่วสนามประลอง

“มอ!!!!”

 

วัวคลั่งพยายามจะหลุดออกมาจากพันธนาการของสายฟ้าแต่ไม่ไหวมันทิ้งตัวลงเหมือนโดนกดลงกับพื้น แต่เหมิงเหล่ยรู้ดีว่าแค่นี้มันยังไม่พอที่จะสยบวัวคลั่งได้เขาเลยต้องจัดของใหญ่

 

“อัสนีบาตคําราม!”

เปรี้ยง!

สายฟ้าผ่าลงมาเป็นเส้นตรงอย่างรุนแรงซ้ําอีกครั้งทันทีทําให้วัวคลั่งที่ยังคงติดอยู่กับพายุหะอัสนีบาตรหนี้ไม่ได้ และโดนเข้าอย่า

งจัง

“อัสนีบาตรคํารามเป็นเวทระดับ 4 สําหรับโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่รุนแรงที่สุดถ้าโดนจังๆยังไงก็ไม่น่ารอดแล้วละ

 

คนดูทั้งสนามเงียบกริบ

คนดูนับแสนมองดูวัวคลั่งล้มลงกับพื้น พวกเขาดูการแข่งมาห

ทรงมองอนานมากหน ลายปี แต่ยังไม่เคยเห็นการประลองไหนที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อนเลย

อสรพิตสายฟ้า

 

พายุหะอัสนีบาตร

 

อัสนีบาตรคําราม

 

การโจมตีด้วยเวทมนตร์นั้นเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจยิ่งในมุมมองของคนดูแล้ว การต่อสู้ระหว่างนักรบยังไงก็ดูไม่มันเท่าเว ทมนตร์อยู่แล้วคนดูเลยยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

 

“บอกตรงๆได้คําเดียวเลยนะ

โคตรสุด”

 

“ข้า บารอน ดูการประลองนี้มาตลอดหลายปี นี้เป็นครั้งแรกที่ดูจอมเวทประลองในสนาม และมัน โคตร เท่ เลย”

 

“ใช้เวทมนตร์ 3 ครั้งรวดแล้วปิดฉากชัยชนะ การประลองของจอมเวทนี้มันดูสนุกกว่าที่คิดเยอะเลย”

“55555 จอมเวทที่ชื่อ อาเธอร์กาเรนนั้นก็เก่งใช่ย่อยนะขนาดปีศาจวัวเลือดเย็นยังแพ้หมดรูปแบบนั้นน่ะ”

 

“เก่งโคตรเลยละ ดูก็รู้ว่าคนละชั้นเลย”

หลังจากที่เงียบไปได้ซักพัก คนดูก็แห่กู่ร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดังทุกคนต่างออกความเห็น ดีใจ สนุกไปกับการประลอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแพ้พนันที่วัวคลั่งแพ้ แต่การได้เห็นภาพอลังการณ์งานสร้างของเวทมนตร์ ก็ถือว่าพวกเขาคุ้มค่าตั๋วมากๆแล้ว

“แปลกแหะ เจ้านั่นมันเป็นแค่มนุษย์นจอมเวทชาวมนุษย์มันหลบได้ไวขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

อูโน่มองเหมิงเหลี่ยจากบนโซนวีไอพี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความงงถึงแม้ว่าวัวคลังจะเก่งในด้านการใช้กําลังในการเข้าประชิดตัวแต่ความเร็วของเขาก็ไม่ได้ช้าเลย ไม่งั้นเขาคงไม่ชนะ 10 รอบร วดในการประลองหรอกแต่ที่น่าแปลกก็คือเหมิงเหล่ยสามารถหลบการโจมตีของเขาได้

นั้นน่าแปลกมาก

 

เขาเป็นแค่จอมเวทระดับ4 ชาวมนุษย์เองทําไมเขาถึงเร็วได้

ขนาดนั้น

“ไม่เข้าใจเลยจริงๆ หมอนั้นต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้แน่ๆ!”

 

สายฟ้าเริ่มจางลงและหายไป

 

วัวคลั่งยังคงยืนนิ่งไม่มีท่าที่จะล้มลง ทําให้เหมิงเหล่ยตกใจพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้น พอเขาจะโจมตีต่อ จู่ๆวัวคลั่งก็ล้มตึงลงไปพร้อมด้วยควันดําออกปาก

วัวคลั่งสู้ต่อไม่ไหวแล้ว

 

“ผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ คือ ท่านอาเธอร์ กาเรนครับ!!”

พิธีกรจู่ๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แล้วตะโกนเสียงดังลั่นคนดูเองก็แห่ตะโกนเชียร์ชื่อของอาเธอร์กาเรน

 

เห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากจบการประลอง ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากแต่เหมิงเหล่ยก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเท่าไรเพราะตอนนี้เขามีเรื่องสําคัญกว่าต้องทํา

 

“ติ้ง เก็บสําเร็จ ค่าวิญญาณ +3”

 

“ติ้ง เก็บสําเร็จ ค่าความมั่งคั่ง +21”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 43 อัสนีบาตรคําราม ชัยชนะครั้งแรก

 

วัวคลั่งตัวใหญ่คล้ายรถถังหนักพุ่งทะลวงบดขยี้ หมัดหนักแน่นของเขาตรงดิ่งมาหมายเบ้าหน้าของเหมิงเหล่ยปลดปล่อยแรงมหาศาลออกมาจนน่ากลัว

 

“วัวคลั่ง!!!”

 

“ฆ่ามันเลยย!!!!”

 

พอเห็นแบบนั้นคนดูที่เชียร์ฝั่งวัวคลั่งก็ตะโกนเชียร์ “เป็นจอมเวทก็ช่างแม่งดิวะ ให้มันรู้พลังแห่งวัวคลั่งซะบ้าง”

เห็นได้ชัดเลยว่าถึงแม้ว่าคนดูส่วนมากจะอยากดูจอมเวทอย่างเหมิงเหลี่ยต่อสู้ แต่คนส่วนมากก็ยังคงเทใจเชียร์วัวคลั่งอยู่ดีเพราะนี้จะเป็นการชนะติดต่อกัน 10ครั้งรวดของเขา

ยังไงซะ คนดูส่วนหนึ่งเองก็แทงพนันข้างเขาไปแล้วเพื่อที่จะเอาเงินกลับพวกเขาก็ต้องเชียร์ข้างที่แทงไป

และก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ครึ่งสัตว์มนุษย์หัววัวนั้นมีพลังที่ดุร้ายจริงๆ

เหมิงเหล่ยนั้นรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกและพลังที่มหาศาลกําลังมุ่งหน้าเข้ามาหน้าของเขาเริ่มตึงและจริงจังขึ้นมาทันทีเผ่าเทาเรนหรือมนุษย์ครึ่งวัวนั้นเป็นเผ่าใหญ่ในบรรดาคนครึ่งสัตวพวกเขาเป็นครึ่งคนครึ่งวัวมีพลังและความบ้าคลั่งมหาศาล ป็นเครื่องจักรต่อสู้และบดขยี้ตามธรรมชาติในด้านของพลังล้วนๆเทาเรนมีความดุร้ายกว่าเผ่าพันธุ์สายเลือดขัตติยะของพวกครึ่งสัตว์อย่างเผ่าราชสีห์ด้วย

การที่มนุษย์ธรรมดามาเจอหน้ากับเทาเรนนั้นการจะเทียบเรื่องพลังเป็นสิ่งที่ทําไม่ได้เลย

 

แต่น่าเสียดายที่เหมิงเหล่ยนั้นไม่ได้คิดจะไปแลกหมัดสู้ด้วยกําลังกับเทาเรนอยู่แล้ว

 

เหมิงเหล่ยเริ่มที่จะร่ายเวทมนตร์ของตัวเอง ตอนนี้เขาตั้งใจที่จะเก็บร่างมังกรไฟไว้เป็นเหมือนไพ่ตายสุดท้าย

“จะใช้เวทมนตร์งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”

วัวคลั่งนั้นตัวใหญ่ แต่เร็วมาก เพียงแค่ไม่กี่ก้าวใหญ่ เขาก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเหมิงเหล่ยแล้ว หมัดขนาดใหญ่ของเขาพุ่งตรงเข้าหาหน้าของเหมิงเหล่ยทันที

เทาเรนนั้นมีความแข็งแกร่งทางร่างกายมหาศาล ถึงจะเป็นแค่นักรบระดับ 5 แต่ทางด้านกําลังล้วนๆนั้นมันสูงกว่าระดับ 5 ขึ้นไปมากถ้าหมัดนี้โดยเหมิงเหล่ย หัวของเหมิงเหล่ยคงได้แหลกเป็นเสี่ยงๆแน่

 

“ตายซะ!!!!!”

 

วัวคลั่งยิ้มเหี้ยมเกรียม ตอนนี้ภาพของเขาเห็นเหมิงเหล่ยลงไปกองจมเลือดตายคาที่บนพื้นแล้ว แค่คิดถึงภาพตอนนั้นเขาก็ตื่นเต้นสุดๆ ตั้งแต่ที่เขาโดนจับมาเป็นทาสในอาณาจักรมังกรไฟวัวคลั่งก็ต้องลําบากมากมาย มันทําให้ความแค้นสุมอยู่ในใจของเขา

เขาแค้นอาณาจักรมังกรไฟ เขาแค้นมนุษย์เขาแค้นทุกคน

หลังจากที่ถูกขายมาที่สนามเพลิงเพื่อมาเป็นนักสู้ใต้ดินวัวคลั่งก็สู้อย่างบ้าคลั่งและกระหายเลือดมาตลอด เขาเอาชนะมาได้ 10 ครั้งคู่ต่อสู้ทุกคนของเขาตายอย่างอนาถเสมอ

ดังนั้น วัวคลั่งจึงได้ถูกขนานนามว่าเป็นวัวปีศาจเลือดเย็นแสดงให้เห็นความซาดิส กระหายเลือดซึ่งมันเองก็ชอบชื่อนี้เอามากๆเขาต้องการล้างแค้นและฆ่าทุกคนที่เขาฆ่าได้

ซึ่งจอมเวทชาวมนุษย์คนตรงหน้าก็ไม่เว้น

 

ซูม!!!!

แต่ถึงอย่างนั้นจังหวะที่หมัดของวัวคลั่งจะปะทะจู่ๆเหมิงเหล่ยที่เคยยืนอยู่ตรงนั้น จู่ๆก็หายตัวไปโดยไร้ร่องรอยเหมือนกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่

“อะไรกัน!!”

วัวคลั่งตกใจ เขามองไปรอบๆแต่ก็ยังหาตัวเหมิงเหล่ยไม่เจอและในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงของคนดู“บนหัว!!เขาอยู่บ

นหัว!!

“บนหัวข้างั้นเรอะ!!!”

วัวคลั่งเงยหน้าขึ้นแล้วพบกับแสงเจิดจ้าในทันที

เปรี้ยง!

งูอัสนีบาตรยักฟาดลงมาจากท้องฟ้าอ้าปากกลืนกินวัวคลั่งด้วยความเร็วสูงในทันที

ตุ้ม!!!

ประกายไฟ แสง และสายฟ้าคลั่ง กระแสไฟฟ้า ทุกอย่างพุ่งพล่านออกมาเต็มไปหมด

และตัวรับกระแสไฟฟ้านั้นก็คือวัวคลั่งนั้นเอง

“มออ!!!!”

วัวคลั่งพยายามฝืนทนหลังจากที่โดนเวทสายฟ้าระดับ 3 อสรพิตสายฟ้าเข้าไปเต็มๆ แต่เขาก็ยังคงไม่ล้ม เขาคํารามอย่างเกรี้ยวกราดพยายามเรียกกําลังวังชาของตัวเองเพื่อต้านกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างตัวเอง

แน่นอนว่า ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขานั้น แค่เวทระดับ 3 ทําอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว

“ไม่เคยคิดอยู่แล้วว่าเวทระดับ 3 แค่นี้จะล้มเจ้าได้แต่แค่ยื้อเวลาไว้ซักพักได้ก็เพียงพอเลเวละ”

 

เหมิงเหล่ยดูใจเย็นอย่างคาดไม่ถึง เวทสายฟ้านั้นรวมตัวกันในมือของเหมิงเหล่ยก่อนจะค่อยๆร่ายเวทมนตร์ระดับ 4 ที่รุนแรงออกมา

“เจ้ามนุษย์เวทเบาๆของเจ้าหน่ะไม่ได้สะกิดขาแม้แต่น้อยเลย”

 

ร่างกายของวัวคลั่งนั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ เขาใช้เวลาแค่ 4 วินาทีก็สามารถหลุดจากสถานะชาของเวทอสรพิตสายฟ้าได้เขาคํารามก่อนจะพุ่งตรงไปหาเหมิงเหล่ยอีกครั้งด้วยความดุร้ายมากกว่าเดิม

เหมิงเหล่ยเองก็ยืนอยู่กับที่ปล่อยให้วัวคลั่งพุ่งเข้ามา

“ไปลงนรกซะ!!” วัวคลั่งจ้างหมัดแล้วต่อยอย่างแรงทันที

 

แต่จังหวะที่หมัดกําลังจะถึงตัวของเหมิงเหล่ยนั้นเองคาถาที่ร่ายเสร็จพอดีจบท้ายด้วยคําลงท้ายคาถา“พายุหะอัสนีบาต!”

ตุ้ม!

 

ลําแสงรุนแรงแสบตาผ่าลงมาจากฟ้าด้วยความรุนแรงสูงมากลําแสงนั้นกลืนกินตัวของวัวคลั่งและสว่างไสวไปทั่วสนามประลอง

“มอ!!!!”

 

วัวคลั่งพยายามจะหลุดออกมาจากพันธนาการของสายฟ้าแต่ไม่ไหวมันทิ้งตัวลงเหมือนโดนกดลงกับพื้น แต่เหมิงเหล่ยรู้ดีว่าแค่นี้มันยังไม่พอที่จะสยบวัวคลั่งได้เขาเลยต้องจัดของใหญ่

 

“อัสนีบาตคําราม!”

เปรี้ยง!

สายฟ้าผ่าลงมาเป็นเส้นตรงอย่างรุนแรงซ้ําอีกครั้งทันทีทําให้วัวคลั่งที่ยังคงติดอยู่กับพายุหะอัสนีบาตรหนี้ไม่ได้ และโดนเข้าอย่า

งจัง

“อัสนีบาตรคํารามเป็นเวทระดับ 4 สําหรับโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่รุนแรงที่สุดถ้าโดนจังๆยังไงก็ไม่น่ารอดแล้วละ

 

คนดูทั้งสนามเงียบกริบ

คนดูนับแสนมองดูวัวคลั่งล้มลงกับพื้น พวกเขาดูการแข่งมาห

ทรงมองอนานมากหน ลายปี แต่ยังไม่เคยเห็นการประลองไหนที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อนเลย

อสรพิตสายฟ้า

 

พายุหะอัสนีบาตร

 

อัสนีบาตรคําราม

 

การโจมตีด้วยเวทมนตร์นั้นเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจยิ่งในมุมมองของคนดูแล้ว การต่อสู้ระหว่างนักรบยังไงก็ดูไม่มันเท่าเว ทมนตร์อยู่แล้วคนดูเลยยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

 

“บอกตรงๆได้คําเดียวเลยนะ

โคตรสุด”

 

“ข้า บารอน ดูการประลองนี้มาตลอดหลายปี นี้เป็นครั้งแรกที่ดูจอมเวทประลองในสนาม และมัน โคตร เท่ เลย”

 

“ใช้เวทมนตร์ 3 ครั้งรวดแล้วปิดฉากชัยชนะ การประลองของจอมเวทนี้มันดูสนุกกว่าที่คิดเยอะเลย”

“55555 จอมเวทที่ชื่อ อาเธอร์กาเรนนั้นก็เก่งใช่ย่อยนะขนาดปีศาจวัวเลือดเย็นยังแพ้หมดรูปแบบนั้นน่ะ”

 

“เก่งโคตรเลยละ ดูก็รู้ว่าคนละชั้นเลย”

หลังจากที่เงียบไปได้ซักพัก คนดูก็แห่กู่ร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดังทุกคนต่างออกความเห็น ดีใจ สนุกไปกับการประลอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแพ้พนันที่วัวคลั่งแพ้ แต่การได้เห็นภาพอลังการณ์งานสร้างของเวทมนตร์ ก็ถือว่าพวกเขาคุ้มค่าตั๋วมากๆแล้ว

“แปลกแหะ เจ้านั่นมันเป็นแค่มนุษย์นจอมเวทชาวมนุษย์มันหลบได้ไวขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

อูโน่มองเหมิงเหลี่ยจากบนโซนวีไอพี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความงงถึงแม้ว่าวัวคลังจะเก่งในด้านการใช้กําลังในการเข้าประชิดตัวแต่ความเร็วของเขาก็ไม่ได้ช้าเลย ไม่งั้นเขาคงไม่ชนะ 10 รอบร วดในการประลองหรอกแต่ที่น่าแปลกก็คือเหมิงเหล่ยสามารถหลบการโจมตีของเขาได้

นั้นน่าแปลกมาก

 

เขาเป็นแค่จอมเวทระดับ4 ชาวมนุษย์เองทําไมเขาถึงเร็วได้

ขนาดนั้น

“ไม่เข้าใจเลยจริงๆ หมอนั้นต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้แน่ๆ!”

 

สายฟ้าเริ่มจางลงและหายไป

 

วัวคลั่งยังคงยืนนิ่งไม่มีท่าที่จะล้มลง ทําให้เหมิงเหล่ยตกใจพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้น พอเขาจะโจมตีต่อ จู่ๆวัวคลั่งก็ล้มตึงลงไปพร้อมด้วยควันดําออกปาก

วัวคลั่งสู้ต่อไม่ไหวแล้ว

 

“ผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ คือ ท่านอาเธอร์ กาเรนครับ!!”

พิธีกรจู่ๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แล้วตะโกนเสียงดังลั่นคนดูเองก็แห่ตะโกนเชียร์ชื่อของอาเธอร์กาเรน

 

เห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากจบการประลอง ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากแต่เหมิงเหล่ยก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเท่าไรเพราะตอนนี้เขามีเรื่องสําคัญกว่าต้องทํา

 

“ติ้ง เก็บสําเร็จ ค่าวิญญาณ +3”

 

“ติ้ง เก็บสําเร็จ ค่าความมั่งคั่ง +21”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+