Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 53 รังแกและบันดาลโทษะ

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 53 รังแกและบันดาลโทษะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็… บทที่ 53 รังแกและบันดาลโทษะ ในเมืองหลวงมังกรเพลิงแห่งนี้มีโรง เรียนสอนนักรบมากกว่า 70 โรงเรียน และโรงเรียนขวานใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้นมันเป็นโรงเรียนระดับกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5000 ปี ผลิตเห ล่านักรบที่มีคุณภาพออกมาจํานวนมาก ตอนที่เหมิงเหลี่ยมาถึงหน้าทางเข้า โรงเรียนขวานใหญ่ เขาก็สังเกตเห็นขวานขนาดยักษ์ ยาวกว่า20เมตร ตั้งตระ หว่านอยู่บริเวณทางเข้าของโรงเรียนใบขวานนั้นสะท้อนกับแสงยามค่ําคืนทําให้เห็นถึงความคมของใบขวาน มันคือสัญลักษณ์ประจําโรงเรียนขวาน ใหญ่ ขวานสงครามแชงเกอร์ “หยุดก่อน” ยามเฝ้าหน้าประตูขวางทางเหมิงเหล่ย ไว้ “ข้ามาหาคนข้างในน่ะ” “ลงทะเบียนชื่อตรงนี้ก่อน” “ได้เลย” การจัดการควบคุมดูแลเรื่องความป ลอดภัยของโรงเรียนนักรบนั้นจจะไม่ได้เข้มงวดเท่าวิทยาลัยเวทมนตร์ แค่ลงชื่อ ผ่านประตูเฉยๆ เหมิงเหล่ยก็สามารถเข้ามาในโรงเรียนขวานใหญ่และตรงไปที่ หอพักของเด็กปี 1 ในทันที เขาเคยมาที่นี้มาแล้วครั้งนึงเมื่อ 5 เดื อนก่อน ทําให้เขารู้ว่า หอพักของเด็กปี 1 อยู่ที่ไหนดังนั้นเขาจึงสามารถเดินไปได้อย่างถูกทาง ไม่นานเขาก็เดินมาถึงหอพักนั้น โรงเรียนขวานใหญ่นั้นมีจํานวนนัก เรียนไม่ได้น้อยกว่าวิทยาลัยเวทมนตร์เลยโรงเรียนนักรบปรกตินั้นจะรับคนจํา นวนมากทุกปีอยู่แล้วขอแค่มีเงินเพียงพอจ่ายค่าเทอมแสนแพงและอายุถึงทุกคนก็สามารถเข้ามาเรียนในโรงเรียน แบบนี้ได้ ดังนั้น หอพักของโรงเรียนนักรบจึงเรีย กได้ว่าปรกติธรรมดามากๆ ยกตัวอย่างเช่นหอพักของโจเซฟกับแอนดริวนั้น ก็คล้ายๆกับหอพักนักเรียนบนโลกเก่านี้เลยห้องนึ่งนอนรวมกัน 6 คนแล้วก็มี ที่นอนแบบแบ่งชั้น สภาพความเป็นอยู่ เทียบที่วิทยาลัยเวทมนตร์ไม่ได้เลยซักนิด ตอนนี้มันเวลา 5 ทุ่มแล้ว แต่ถึงอย่าง นั้น หอพักของเหล่านักเรียนก็ยังคงสว่างไสวเสียงหัวเราะและพูดคุยกันดัง เจื้อยแจ้วทุกห้อง บางคนก็กําลังเล่นหมากรุกสัตว์วิเศษ บางคนก็ดื่มเหล้า เล่นเกมทายนิ้ว บางคนก็ร้องเพลง…หรือไม่ก็หอน ภาพของหอพักนั้น มันต่างจากความดุดันของภาพลักษณ์โรงเรียนอย่างเห็นได้ชัด หอพักนั้นดูมีชีวิตชีวาและรื่นรมห์กว่ามาก ดูเหมือนว่าวันหยุดฤดูหนาวเองก็มา เยือนโรงเรียนขวานใหญ่แล้วด้วยเหมือนกัน เหมิงเหล่ยขึ้นบันไดเวทมนตร์ไปยัง ชั้น 11 และไปหยุดตรงที่หน้าห้องของโจเซฟแต่ทันใดนั้นเอง ตอนที่เขากําลัง จะถึงหน้าห้อง จู่ๆก็มีใครบางคนโดนโยนออกมาจากห้อง ด้วยความที่ตึกหอพักมีเป็นต์ กด้านเดียว ห้องนั้นถูกสร้างขึ้นเพียง ด้านเดียวของตึกส่วนอีกด้านนั้นที่ติดกับทางด้านนั้นว่างเปล่าถ้าใครเผลอตกลงไปจากชั้น 11 ละก็ตายอนาถแน่นอน “ระวัง!!” ด้วยสายตาที่เฉียบคมกับการตอบส นองที่ฉับพลัน เหมิงเหลี่ยคว้าตัวของคนๆนั้นจากด้านหลังแล้วดึงกลับเข้าหา ตัวอย่างง่ายดาย “โอ้ย!!” คนที่กระเด็นออกมาจากประตูนั้นเลือ ดกกปาก ฟันหักหลาย ครึ่งหน้าของเขาบวมเป่ง สันจมูกยุบไปข้างใน สภาพ ของเขาเหมือนโดนคนเมาซ้อมมายังไงอย่างงั้น “โจเซฟเหรอ” พอเห็นหน้าคนที่เขารับมาได้ เหมิง เหล่ยก็ตกใจในทันที “พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยเหรอ?” ทันทีที่ได้ ยินเสียงนั้น โจเซฟก็หันมามองทางตันเสียงทันทีสายตาของเขาทั้งดีใจทั้ง ตกใจไปพร้อมๆกัน “พี่ใหญ่เหมิงเหล่นทําไมถึงมาอยู่ที่นี่ละ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็เอามือกุมแก้มของ ตัวเองในทันที ดูเหมือนความเจ็บปวดจะพึ่งแล่นเข้ามาทําให้เขาหยุดกุมแก้ มบวมๆของตัวเองไม่ได้ “โจเซฟ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” เหมิงเหล่ ยถามเบาๆ พยายามจะเข้าใจสถานการณ์
“ป..เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่สะดุดล้ม เฉยๆหน่ะ” โจเซฟหลบสายตาเขาเปลี่ยนเรื่อง “พี่เหมิงเหล่ยปิดเทอมฤดูหนาว แล้วเหรอพี่มารับข้ากลับบ้านพร้อมกันใช่ไหม?” โจเซฟดูจะตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้กลับ บ้าน สีหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยความสุขทั้งหน้าบวมๆ ยังไงเขาก็ยังอายุแค่ 14 ไม่เพียงแต่นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาจากบ้านใกล้ๆแบบนี้แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกือบครึ่งปียังไม่รวมเรื่องที่เขาโดนกลั่นแกล้งรังแกอีกทําให้เขาคิดถึงบ้านอยากกลับบ้านมาโดยตลอด “บอกข้ามาว่าใครทําเจ้า” เหมิงเหล่ยพูดถามคําถาม เสียงของ เขาเย็นเฉียบ ถ้าเขาไม่ได้มาถึงทันเวลาพอดีละก็ป่านนี้โจเซฟคงตกลงไปตาย แล้วแน่ๆ นี้มันชั้น 11 นะ ร่างกายที่ยังเป็นแค่นักรบฝึกหัดของโจเซฟถ้าร่วงลงไปรับรองได้เลยว่าศพไม่สวยแน่ เหมิงเหล่ยโกรธจัด ไฟร้อนรุ่มอยู่ในใจ ของเขา เขาเป็นคนที่ส่งเสียโจเซฟกับแอนดริวเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี่เอง แล้วถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมาหรือตายไปเขาจะมีหน้าไปสุขสบายมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน “เห้ย ไอ้บ้านนอกสวะนั้นไปไหนแล้ววะกลับมาเอาน้ําล้างตีนข้าดิ!!” ในตอนนั้นเอง เสียงที่ดูจะก้าวร้าวหยิ่ง ยโส ก็ดังลั่นออกมาจากห้องหอโจเซฟพอได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่นใบหน้าเต็มไป ด้วยความโกรธและกลัวไปพร้อมๆกัน “บ้านนอกสวะงั้นเหรอ?” เหมิงเหล่ย หลี่ตาลง ปล่อยมือจากโจเซฟแล้วลุกไปถีบประตูทันที ปัง!! ประตูที่โดนถีบนั้นฟังแล้วกระแทกกับ กําแพงอย่างแรงจนทําให้คนที่อยู่ข้างในตกใจใหญ่ พวกเขาหันหน้ามามอง กันเองก่อนจะมองเหมิงเหล่ย “พี่ใหญ่เหมิงเหล่ย ข้าแค่สะดุดล้มเอง จริงๆ ข้าผิดเองไม่มีใครทําอะไรข้าเลยนะ” โจเซฟกลัวแทบตายตอนที่เห็นเหมิง เหล่ยถีบประตูด้วยความโกรธเขารีบเข้าไปจับตัวของเหมิงเหล่ยแล้วพูด “ไปหา แอนดริวกันเถอะเขาคงดีใจมากแน่ๆที่เจอพี่น่ะ” เหมิงเหล่ยสะบัดมือของโจเซฟออก ก่อนจะหันไปมองคนทั้ง 5 คนที่อยู่ในหอ “ใครที่เป็นคนทําโจเซฟ ก้าวออ กมาเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเป็นใครกัน!” ชายร่างโตสูง 2.2 เมตร มีเขาแหลมบนหัว และก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนวัว เดินตรงเข้ามา หาเหมิงเหล่ยกล้ามเนื้อหน้าอกที่ใหญ่ โตแทบจะชนหน้าของเหมิงเหล่ยเขามองลงมาแล้วพูด “ข้าเองละแล้วเจ้าจะทําไม” “พี่ใหญ่ เราไปกันเถอะ!” โจเซฟพยายามดึงตัวของเหมิงเหล่ยก ลับแล้วพูดอย่างอ่อนแรง “นั้นแลเลยนะเขาเป็นนักรบระดับ 3 แถมยังเป็นขุนนา งด้วย เราสู้เขาไม่ได้หรอกพี่กลับกันเถอะ!” เหมิงเหล่ยไม่ขยับ “โจเซฟ ดูจาก สภาพหน้าของเจ้าแล้ว เขารังแกเจ้าบ่อยครั้งเลยใช่ไหม”…ค…คือข้า“โจ เซฟพยายามเปิดปากพูดแก้ตัวเขา พยายามฝืนใจตัวเอง แต่ยิ่งฝืนเท่าไร เขายิ่งกลั้นน้ําตาแห่งความอัปยศเอาไว้ไม่ไหวในที่สุดก็เหมือนเขื่อนแตก น้ํา ตาของเขาไหลเอ่อนองออกมาในที่สุด รังแกเหรอ มันเลวร้ายกว่านั้นซะอีก! คนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนักรบน นส่วนมากเป็นพวกคนรวยไม่ก็ขุนนางหรือน้อยที่สุด ก็เป็นลูกคนพอมีตั้งที่มีเงิ นติดกระเป๋า แล้วเขาละเป็นใครเขาเป็นแค่ชาวบ้านโง่ๆธรรมดาที่มาจากที่ห่าง ไกลความเจริญ เขาเข้ากับคนในหอพักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องนั้นมันไม่ สําคัญเลย ประเด็นสําคัญคือเขาโดนรังแกสารพัดเลยตั้งหาก คนร่วมหอมี 5 คน 4 คนในนั้นรุมรังแก เขาทุกอย่าง ตะคอกใส่เขา สั่งเขาไปทํานั้นทํานี้เหมือนเป็นทาส ใช้ให้ไปซักผ้า ซักถุงเท้า เทน้ําล้างเท้า จัดโต๊ะจัดเตียงให้เอาอาหารมาให้ ใช้งานเยี่ยงทาส แถมยังโดนกระทืบ อีกตังหาก ถ้าเกิดมีใครไม่พอใจหรือหงุดหงิดจากที่ไหนมา เขาจะมาลง ความหงุดหงิดกับโจเซฟ มีตั้งแต่ตบหน้าต่อยเตะเข่าแล้วก็ยังบังคับให้ คุกเข่าขอโทษด้วย ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เขาอยู่ทุกทนกับ ความทรมารเหมือนนรกบนดินอย่างแสนสาหัสมันหนักเกินกว่าที่จะเรียกว่า เป็นการรังแกแล้ว”ดูเหมือนว่าเจ้าจะโดนมาตลอดครึ่งปีนี้เลยซินะ”เหมิงเหล่ ยกําหมัดแน่นแล้วแตะไหล่ของโจเซฟเขารู้สึกผิดมากๆ ตลอดครึ่งปีมานี้ เขา ใช้ชีวิตสุขสภาพได้ทุกอย่างที่อยากได้มุ่งฝึกตัวเองเพิ่มค่าความสามารถจนลืม ใส่ใจคนที่อยู่รอบข้างเขา ลืมใส่ใจโจ เซฟและเพื่อนวัยเด็กของเขาเอง เอาจริงๆ เขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ํา ว่ามีพวกเขาด้วย เพราะยังไงพวกเขาก็รู้จักกันได้ไม่นาน เป็นเพียงแค่เพื่อนที่รู้ จักกันตอนอยู่ที่หมู่บ้านความทรงจําของเขาเกี่ยวกับทั้ง 3 คนนั้นมีน้อยมาก เพียงเดือนกว่าๆเองหลังจากที่เขาโดนส่งมายังโลกใบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ที่เหมิงเหล่ยรู้สึกผิดที่ สุดเลยก็คือ สําหรับโจเซฟแล้ว เหมิงเหล่ยเป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุด เป็น เพื่อนที่ดีที่คอยช่วยเหลือและ เหมิงเหล่ยเองก็เป็นคนเสนอให้เขามาที่นี้ ด้วย”เหอะๆ รังแกเหรอแตะนิดแตะหน่อยเรียกรังแกเหรอเออแล้วไงวะ!!“ชายกล้ามโตที่ชื่อแลกอดอก”ข้าให้มันซักเสื้อผ้าล้างเท้าแถมข้าจะทํา— -หึม!!” มือของเหมิงเหล่ยเหวี่ยงไปด้วยความ สติขาด เปรี้ยง!! เสียงฝ่ามือของเหมิงเหล่ยกระแทก เข้าหน้าของแลจังๆ ส่งให้ร่างกล้ามโตของแลบินออกไปทันที

นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็…

บทที่ 53 รังแกและบันดาลโทษะ

ในเมืองหลวงมังกรเพลิงแห่งนี้มีโรง เรียนสอนนักรบมากกว่า 70 โรงเรียน และโรงเรียนขวานใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้นมันเป็นโรงเรียนระดับกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5000 ปี ผลิตเห ล่านักรบที่มีคุณภาพออกมาจํานวนมาก

ตอนที่เหมิงเหลี่ยมาถึงหน้าทางเข้า โรงเรียนขวานใหญ่ เขาก็สังเกตเห็นขวานขนาดยักษ์ ยาวกว่า20เมตร ตั้งตระ หว่านอยู่บริเวณทางเข้าของโรงเรียนใบขวานนั้นสะท้อนกับแสงยามค่ําคืนทําให้เห็นถึงความคมของใบขวาน

มันคือสัญลักษณ์ประจําโรงเรียนขวาน ใหญ่ ขวานสงครามแชงเกอร์

“หยุดก่อน”

ยามเฝ้าหน้าประตูขวางทางเหมิงเหล่ย ไว้

“ข้ามาหาคนข้างในน่ะ”

“ลงทะเบียนชื่อตรงนี้ก่อน”

“ได้เลย”

การจัดการควบคุมดูแลเรื่องความป ลอดภัยของโรงเรียนนักรบนั้นจจะไม่ได้เข้มงวดเท่าวิทยาลัยเวทมนตร์ แค่ลงชื่อ ผ่านประตูเฉยๆ เหมิงเหล่ยก็สามารถเข้ามาในโรงเรียนขวานใหญ่และตรงไปที่ หอพักของเด็กปี 1 ในทันที

เขาเคยมาที่นี้มาแล้วครั้งนึงเมื่อ 5 เดื อนก่อน ทําให้เขารู้ว่า หอพักของเด็กปี 1 อยู่ที่ไหนดังนั้นเขาจึงสามารถเดินไปได้อย่างถูกทาง ไม่นานเขาก็เดินมาถึงหอพักนั้น

โรงเรียนขวานใหญ่นั้นมีจํานวนนัก เรียนไม่ได้น้อยกว่าวิทยาลัยเวทมนตร์เลยโรงเรียนนักรบปรกตินั้นจะรับคนจํา นวนมากทุกปีอยู่แล้วขอแค่มีเงินเพียงพอจ่ายค่าเทอมแสนแพงและอายุถึงทุกคนก็สามารถเข้ามาเรียนในโรงเรียน แบบนี้ได้

ดังนั้น หอพักของโรงเรียนนักรบจึงเรีย กได้ว่าปรกติธรรมดามากๆ ยกตัวอย่างเช่นหอพักของโจเซฟกับแอนดริวนั้น ก็คล้ายๆกับหอพักนักเรียนบนโลกเก่านี้เลยห้องนึ่งนอนรวมกัน 6 คนแล้วก็มี ที่นอนแบบแบ่งชั้น สภาพความเป็นอยู่ เทียบที่วิทยาลัยเวทมนตร์ไม่ได้เลยซักนิด

ตอนนี้มันเวลา 5 ทุ่มแล้ว แต่ถึงอย่าง นั้น หอพักของเหล่านักเรียนก็ยังคงสว่างไสวเสียงหัวเราะและพูดคุยกันดัง เจื้อยแจ้วทุกห้อง บางคนก็กําลังเล่นหมากรุกสัตว์วิเศษ บางคนก็ดื่มเหล้า เล่นเกมทายนิ้ว บางคนก็ร้องเพลง…หรือไม่ก็หอน ภาพของหอพักนั้น มันต่างจากความดุดันของภาพลักษณ์โรงเรียนอย่างเห็นได้ชัด หอพักนั้นดูมีชีวิตชีวาและรื่นรมห์กว่ามาก

ดูเหมือนว่าวันหยุดฤดูหนาวเองก็มา เยือนโรงเรียนขวานใหญ่แล้วด้วยเหมือนกัน

เหมิงเหล่ยขึ้นบันไดเวทมนตร์ไปยัง ชั้น 11 และไปหยุดตรงที่หน้าห้องของโจเซฟแต่ทันใดนั้นเอง ตอนที่เขากําลัง จะถึงหน้าห้อง จู่ๆก็มีใครบางคนโดนโยนออกมาจากห้อง

ด้วยความที่ตึกหอพักมีเป็นต์ กด้านเดียว ห้องนั้นถูกสร้างขึ้นเพียง ด้านเดียวของตึกส่วนอีกด้านนั้นที่ติดกับทางด้านนั้นว่างเปล่าถ้าใครเผลอตกลงไปจากชั้น 11 ละก็ตายอนาถแน่นอน

“ระวัง!!”

ด้วยสายตาที่เฉียบคมกับการตอบส นองที่ฉับพลัน เหมิงเหลี่ยคว้าตัวของคนๆนั้นจากด้านหลังแล้วดึงกลับเข้าหา ตัวอย่างง่ายดาย

“โอ้ย!!”

คนที่กระเด็นออกมาจากประตูนั้นเลือ ดกกปาก ฟันหักหลาย ครึ่งหน้าของเขาบวมเป่ง สันจมูกยุบไปข้างใน สภาพ ของเขาเหมือนโดนคนเมาซ้อมมายังไงอย่างงั้น

“โจเซฟเหรอ”

พอเห็นหน้าคนที่เขารับมาได้ เหมิง เหล่ยก็ตกใจในทันที

“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยเหรอ?” ทันทีที่ได้ ยินเสียงนั้น โจเซฟก็หันมามองทางตันเสียงทันทีสายตาของเขาทั้งดีใจทั้ง ตกใจไปพร้อมๆกัน “พี่ใหญ่เหมิงเหล่นทําไมถึงมาอยู่ที่นี่ละ”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็เอามือกุมแก้มของ ตัวเองในทันที ดูเหมือนความเจ็บปวดจะพึ่งแล่นเข้ามาทําให้เขาหยุดกุมแก้ มบวมๆของตัวเองไม่ได้

“โจเซฟ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” เหมิงเหล่ ยถามเบาๆ พยายามจะเข้าใจสถานการณ์
“ป..เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่สะดุดล้ม เฉยๆหน่ะ” โจเซฟหลบสายตาเขาเปลี่ยนเรื่อง “พี่เหมิงเหล่ยปิดเทอมฤดูหนาว แล้วเหรอพี่มารับข้ากลับบ้านพร้อมกันใช่ไหม?”

โจเซฟดูจะตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้กลับ บ้าน สีหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยความสุขทั้งหน้าบวมๆ ยังไงเขาก็ยังอายุแค่ 14 ไม่เพียงแต่นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาจากบ้านใกล้ๆแบบนี้แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกือบครึ่งปียังไม่รวมเรื่องที่เขาโดนกลั่นแกล้งรังแกอีกทําให้เขาคิดถึงบ้านอยากกลับบ้านมาโดยตลอด

“บอกข้ามาว่าใครทําเจ้า”

เหมิงเหล่ยพูดถามคําถาม เสียงของ เขาเย็นเฉียบ ถ้าเขาไม่ได้มาถึงทันเวลาพอดีละก็ป่านนี้โจเซฟคงตกลงไปตาย แล้วแน่ๆ นี้มันชั้น 11 นะ ร่างกายที่ยังเป็นแค่นักรบฝึกหัดของโจเซฟถ้าร่วงลงไปรับรองได้เลยว่าศพไม่สวยแน่

เหมิงเหล่ยโกรธจัด ไฟร้อนรุ่มอยู่ในใจ ของเขา เขาเป็นคนที่ส่งเสียโจเซฟกับแอนดริวเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี่เอง แล้วถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมาหรือตายไปเขาจะมีหน้าไปสุขสบายมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน

“เห้ย ไอ้บ้านนอกสวะนั้นไปไหนแล้ววะกลับมาเอาน้ําล้างตีนข้าดิ!!”

ในตอนนั้นเอง เสียงที่ดูจะก้าวร้าวหยิ่ง ยโส ก็ดังลั่นออกมาจากห้องหอโจเซฟพอได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่นใบหน้าเต็มไป ด้วยความโกรธและกลัวไปพร้อมๆกัน

“บ้านนอกสวะงั้นเหรอ?” เหมิงเหล่ย หลี่ตาลง ปล่อยมือจากโจเซฟแล้วลุกไปถีบประตูทันที

ปัง!!

ประตูที่โดนถีบนั้นฟังแล้วกระแทกกับ กําแพงอย่างแรงจนทําให้คนที่อยู่ข้างในตกใจใหญ่ พวกเขาหันหน้ามามอง กันเองก่อนจะมองเหมิงเหล่ย

“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ย ข้าแค่สะดุดล้มเอง จริงๆ ข้าผิดเองไม่มีใครทําอะไรข้าเลยนะ”

โจเซฟกลัวแทบตายตอนที่เห็นเหมิง เหล่ยถีบประตูด้วยความโกรธเขารีบเข้าไปจับตัวของเหมิงเหล่ยแล้วพูด “ไปหา แอนดริวกันเถอะเขาคงดีใจมากแน่ๆที่เจอพี่น่ะ”

เหมิงเหล่ยสะบัดมือของโจเซฟออก ก่อนจะหันไปมองคนทั้ง 5 คนที่อยู่ในหอ “ใครที่เป็นคนทําโจเซฟ ก้าวออ กมาเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าเป็นใครกัน!” ชายร่างโตสูง 2.2 เมตร มีเขาแหลมบนหัว และก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนวัว เดินตรงเข้ามา หาเหมิงเหล่ยกล้ามเนื้อหน้าอกที่ใหญ่ โตแทบจะชนหน้าของเหมิงเหล่ยเขามองลงมาแล้วพูด “ข้าเองละแล้วเจ้าจะทําไม”

“พี่ใหญ่ เราไปกันเถอะ!”

โจเซฟพยายามดึงตัวของเหมิงเหล่ยก ลับแล้วพูดอย่างอ่อนแรง “นั้นแลเลยนะเขาเป็นนักรบระดับ 3 แถมยังเป็นขุนนา งด้วย เราสู้เขาไม่ได้หรอกพี่กลับกันเถอะ!”

เหมิงเหล่ยไม่ขยับ “โจเซฟ ดูจาก สภาพหน้าของเจ้าแล้ว เขารังแกเจ้าบ่อยครั้งเลยใช่ไหม”…ค…คือข้า“โจ เซฟพยายามเปิดปากพูดแก้ตัวเขา

พยายามฝืนใจตัวเอง แต่ยิ่งฝืนเท่าไร เขายิ่งกลั้นน้ําตาแห่งความอัปยศเอาไว้ไม่ไหวในที่สุดก็เหมือนเขื่อนแตก น้ํา ตาของเขาไหลเอ่อนองออกมาในที่สุด

รังแกเหรอ

มันเลวร้ายกว่านั้นซะอีก!

คนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนักรบน นส่วนมากเป็นพวกคนรวยไม่ก็ขุนนางหรือน้อยที่สุด ก็เป็นลูกคนพอมีตั้งที่มีเงิ นติดกระเป๋า แล้วเขาละเป็นใครเขาเป็นแค่ชาวบ้านโง่ๆธรรมดาที่มาจากที่ห่าง ไกลความเจริญ เขาเข้ากับคนในหอพักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องนั้นมันไม่ สําคัญเลย ประเด็นสําคัญคือเขาโดนรังแกสารพัดเลยตั้งหาก

คนร่วมหอมี 5 คน 4 คนในนั้นรุมรังแก เขาทุกอย่าง ตะคอกใส่เขา สั่งเขาไปทํานั้นทํานี้เหมือนเป็นทาส ใช้ให้ไปซักผ้า ซักถุงเท้า เทน้ําล้างเท้า จัดโต๊ะจัดเตียงให้เอาอาหารมาให้

ใช้งานเยี่ยงทาส แถมยังโดนกระทืบ อีกตังหาก ถ้าเกิดมีใครไม่พอใจหรือหงุดหงิดจากที่ไหนมา เขาจะมาลง ความหงุดหงิดกับโจเซฟ มีตั้งแต่ตบหน้าต่อยเตะเข่าแล้วก็ยังบังคับให้ คุกเข่าขอโทษด้วย

ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เขาอยู่ทุกทนกับ ความทรมารเหมือนนรกบนดินอย่างแสนสาหัสมันหนักเกินกว่าที่จะเรียกว่า เป็นการรังแกแล้ว”ดูเหมือนว่าเจ้าจะโดนมาตลอดครึ่งปีนี้เลยซินะ”เหมิงเหล่ ยกําหมัดแน่นแล้วแตะไหล่ของโจเซฟเขารู้สึกผิดมากๆ ตลอดครึ่งปีมานี้ เขา ใช้ชีวิตสุขสภาพได้ทุกอย่างที่อยากได้มุ่งฝึกตัวเองเพิ่มค่าความสามารถจนลืม ใส่ใจคนที่อยู่รอบข้างเขา ลืมใส่ใจโจ เซฟและเพื่อนวัยเด็กของเขาเอง

เอาจริงๆ เขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ํา ว่ามีพวกเขาด้วย เพราะยังไงพวกเขาก็รู้จักกันได้ไม่นาน เป็นเพียงแค่เพื่อนที่รู้ จักกันตอนอยู่ที่หมู่บ้านความทรงจําของเขาเกี่ยวกับทั้ง 3 คนนั้นมีน้อยมาก เพียงเดือนกว่าๆเองหลังจากที่เขาโดนส่งมายังโลกใบนี้

แต่ถึงอย่างนั้น ที่เหมิงเหล่ยรู้สึกผิดที่ สุดเลยก็คือ สําหรับโจเซฟแล้ว เหมิงเหล่ยเป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุด เป็น เพื่อนที่ดีที่คอยช่วยเหลือและ เหมิงเหล่ยเองก็เป็นคนเสนอให้เขามาที่นี้ ด้วย”เหอะๆ รังแกเหรอแตะนิดแตะหน่อยเรียกรังแกเหรอเออแล้วไงวะ!!“ชายกล้ามโตที่ชื่อแลกอดอก”ข้าให้มันซักเสื้อผ้าล้างเท้าแถมข้าจะทํา— -หึม!!”

มือของเหมิงเหล่ยเหวี่ยงไปด้วยความ สติขาด

เปรี้ยง!!

เสียงฝ่ามือของเหมิงเหล่ยกระแทก เข้าหน้าของแลจังๆ ส่งให้ร่างกล้ามโตของแลบินออกไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 53 รังแกและบันดาลโทษะ

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 53 รังแกและบันดาลโทษะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็… บทที่ 53 รังแกและบันดาลโทษะ ในเมืองหลวงมังกรเพลิงแห่งนี้มีโรง เรียนสอนนักรบมากกว่า 70 โรงเรียน และโรงเรียนขวานใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้นมันเป็นโรงเรียนระดับกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5000 ปี ผลิตเห ล่านักรบที่มีคุณภาพออกมาจํานวนมาก ตอนที่เหมิงเหลี่ยมาถึงหน้าทางเข้า โรงเรียนขวานใหญ่ เขาก็สังเกตเห็นขวานขนาดยักษ์ ยาวกว่า20เมตร ตั้งตระ หว่านอยู่บริเวณทางเข้าของโรงเรียนใบขวานนั้นสะท้อนกับแสงยามค่ําคืนทําให้เห็นถึงความคมของใบขวาน มันคือสัญลักษณ์ประจําโรงเรียนขวาน ใหญ่ ขวานสงครามแชงเกอร์ “หยุดก่อน” ยามเฝ้าหน้าประตูขวางทางเหมิงเหล่ย ไว้ “ข้ามาหาคนข้างในน่ะ” “ลงทะเบียนชื่อตรงนี้ก่อน” “ได้เลย” การจัดการควบคุมดูแลเรื่องความป ลอดภัยของโรงเรียนนักรบนั้นจจะไม่ได้เข้มงวดเท่าวิทยาลัยเวทมนตร์ แค่ลงชื่อ ผ่านประตูเฉยๆ เหมิงเหล่ยก็สามารถเข้ามาในโรงเรียนขวานใหญ่และตรงไปที่ หอพักของเด็กปี 1 ในทันที เขาเคยมาที่นี้มาแล้วครั้งนึงเมื่อ 5 เดื อนก่อน ทําให้เขารู้ว่า หอพักของเด็กปี 1 อยู่ที่ไหนดังนั้นเขาจึงสามารถเดินไปได้อย่างถูกทาง ไม่นานเขาก็เดินมาถึงหอพักนั้น โรงเรียนขวานใหญ่นั้นมีจํานวนนัก เรียนไม่ได้น้อยกว่าวิทยาลัยเวทมนตร์เลยโรงเรียนนักรบปรกตินั้นจะรับคนจํา นวนมากทุกปีอยู่แล้วขอแค่มีเงินเพียงพอจ่ายค่าเทอมแสนแพงและอายุถึงทุกคนก็สามารถเข้ามาเรียนในโรงเรียน แบบนี้ได้ ดังนั้น หอพักของโรงเรียนนักรบจึงเรีย กได้ว่าปรกติธรรมดามากๆ ยกตัวอย่างเช่นหอพักของโจเซฟกับแอนดริวนั้น ก็คล้ายๆกับหอพักนักเรียนบนโลกเก่านี้เลยห้องนึ่งนอนรวมกัน 6 คนแล้วก็มี ที่นอนแบบแบ่งชั้น สภาพความเป็นอยู่ เทียบที่วิทยาลัยเวทมนตร์ไม่ได้เลยซักนิด ตอนนี้มันเวลา 5 ทุ่มแล้ว แต่ถึงอย่าง นั้น หอพักของเหล่านักเรียนก็ยังคงสว่างไสวเสียงหัวเราะและพูดคุยกันดัง เจื้อยแจ้วทุกห้อง บางคนก็กําลังเล่นหมากรุกสัตว์วิเศษ บางคนก็ดื่มเหล้า เล่นเกมทายนิ้ว บางคนก็ร้องเพลง…หรือไม่ก็หอน ภาพของหอพักนั้น มันต่างจากความดุดันของภาพลักษณ์โรงเรียนอย่างเห็นได้ชัด หอพักนั้นดูมีชีวิตชีวาและรื่นรมห์กว่ามาก ดูเหมือนว่าวันหยุดฤดูหนาวเองก็มา เยือนโรงเรียนขวานใหญ่แล้วด้วยเหมือนกัน เหมิงเหล่ยขึ้นบันไดเวทมนตร์ไปยัง ชั้น 11 และไปหยุดตรงที่หน้าห้องของโจเซฟแต่ทันใดนั้นเอง ตอนที่เขากําลัง จะถึงหน้าห้อง จู่ๆก็มีใครบางคนโดนโยนออกมาจากห้อง ด้วยความที่ตึกหอพักมีเป็นต์ กด้านเดียว ห้องนั้นถูกสร้างขึ้นเพียง ด้านเดียวของตึกส่วนอีกด้านนั้นที่ติดกับทางด้านนั้นว่างเปล่าถ้าใครเผลอตกลงไปจากชั้น 11 ละก็ตายอนาถแน่นอน “ระวัง!!” ด้วยสายตาที่เฉียบคมกับการตอบส นองที่ฉับพลัน เหมิงเหลี่ยคว้าตัวของคนๆนั้นจากด้านหลังแล้วดึงกลับเข้าหา ตัวอย่างง่ายดาย “โอ้ย!!” คนที่กระเด็นออกมาจากประตูนั้นเลือ ดกกปาก ฟันหักหลาย ครึ่งหน้าของเขาบวมเป่ง สันจมูกยุบไปข้างใน สภาพ ของเขาเหมือนโดนคนเมาซ้อมมายังไงอย่างงั้น “โจเซฟเหรอ” พอเห็นหน้าคนที่เขารับมาได้ เหมิง เหล่ยก็ตกใจในทันที “พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยเหรอ?” ทันทีที่ได้ ยินเสียงนั้น โจเซฟก็หันมามองทางตันเสียงทันทีสายตาของเขาทั้งดีใจทั้ง ตกใจไปพร้อมๆกัน “พี่ใหญ่เหมิงเหล่นทําไมถึงมาอยู่ที่นี่ละ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็เอามือกุมแก้มของ ตัวเองในทันที ดูเหมือนความเจ็บปวดจะพึ่งแล่นเข้ามาทําให้เขาหยุดกุมแก้ มบวมๆของตัวเองไม่ได้ “โจเซฟ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” เหมิงเหล่ ยถามเบาๆ พยายามจะเข้าใจสถานการณ์
“ป..เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่สะดุดล้ม เฉยๆหน่ะ” โจเซฟหลบสายตาเขาเปลี่ยนเรื่อง “พี่เหมิงเหล่ยปิดเทอมฤดูหนาว แล้วเหรอพี่มารับข้ากลับบ้านพร้อมกันใช่ไหม?” โจเซฟดูจะตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้กลับ บ้าน สีหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยความสุขทั้งหน้าบวมๆ ยังไงเขาก็ยังอายุแค่ 14 ไม่เพียงแต่นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาจากบ้านใกล้ๆแบบนี้แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกือบครึ่งปียังไม่รวมเรื่องที่เขาโดนกลั่นแกล้งรังแกอีกทําให้เขาคิดถึงบ้านอยากกลับบ้านมาโดยตลอด “บอกข้ามาว่าใครทําเจ้า” เหมิงเหล่ยพูดถามคําถาม เสียงของ เขาเย็นเฉียบ ถ้าเขาไม่ได้มาถึงทันเวลาพอดีละก็ป่านนี้โจเซฟคงตกลงไปตาย แล้วแน่ๆ นี้มันชั้น 11 นะ ร่างกายที่ยังเป็นแค่นักรบฝึกหัดของโจเซฟถ้าร่วงลงไปรับรองได้เลยว่าศพไม่สวยแน่ เหมิงเหล่ยโกรธจัด ไฟร้อนรุ่มอยู่ในใจ ของเขา เขาเป็นคนที่ส่งเสียโจเซฟกับแอนดริวเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี่เอง แล้วถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมาหรือตายไปเขาจะมีหน้าไปสุขสบายมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน “เห้ย ไอ้บ้านนอกสวะนั้นไปไหนแล้ววะกลับมาเอาน้ําล้างตีนข้าดิ!!” ในตอนนั้นเอง เสียงที่ดูจะก้าวร้าวหยิ่ง ยโส ก็ดังลั่นออกมาจากห้องหอโจเซฟพอได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่นใบหน้าเต็มไป ด้วยความโกรธและกลัวไปพร้อมๆกัน “บ้านนอกสวะงั้นเหรอ?” เหมิงเหล่ย หลี่ตาลง ปล่อยมือจากโจเซฟแล้วลุกไปถีบประตูทันที ปัง!! ประตูที่โดนถีบนั้นฟังแล้วกระแทกกับ กําแพงอย่างแรงจนทําให้คนที่อยู่ข้างในตกใจใหญ่ พวกเขาหันหน้ามามอง กันเองก่อนจะมองเหมิงเหล่ย “พี่ใหญ่เหมิงเหล่ย ข้าแค่สะดุดล้มเอง จริงๆ ข้าผิดเองไม่มีใครทําอะไรข้าเลยนะ” โจเซฟกลัวแทบตายตอนที่เห็นเหมิง เหล่ยถีบประตูด้วยความโกรธเขารีบเข้าไปจับตัวของเหมิงเหล่ยแล้วพูด “ไปหา แอนดริวกันเถอะเขาคงดีใจมากแน่ๆที่เจอพี่น่ะ” เหมิงเหล่ยสะบัดมือของโจเซฟออก ก่อนจะหันไปมองคนทั้ง 5 คนที่อยู่ในหอ “ใครที่เป็นคนทําโจเซฟ ก้าวออ กมาเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเป็นใครกัน!” ชายร่างโตสูง 2.2 เมตร มีเขาแหลมบนหัว และก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนวัว เดินตรงเข้ามา หาเหมิงเหล่ยกล้ามเนื้อหน้าอกที่ใหญ่ โตแทบจะชนหน้าของเหมิงเหล่ยเขามองลงมาแล้วพูด “ข้าเองละแล้วเจ้าจะทําไม” “พี่ใหญ่ เราไปกันเถอะ!” โจเซฟพยายามดึงตัวของเหมิงเหล่ยก ลับแล้วพูดอย่างอ่อนแรง “นั้นแลเลยนะเขาเป็นนักรบระดับ 3 แถมยังเป็นขุนนา งด้วย เราสู้เขาไม่ได้หรอกพี่กลับกันเถอะ!” เหมิงเหล่ยไม่ขยับ “โจเซฟ ดูจาก สภาพหน้าของเจ้าแล้ว เขารังแกเจ้าบ่อยครั้งเลยใช่ไหม”…ค…คือข้า“โจ เซฟพยายามเปิดปากพูดแก้ตัวเขา พยายามฝืนใจตัวเอง แต่ยิ่งฝืนเท่าไร เขายิ่งกลั้นน้ําตาแห่งความอัปยศเอาไว้ไม่ไหวในที่สุดก็เหมือนเขื่อนแตก น้ํา ตาของเขาไหลเอ่อนองออกมาในที่สุด รังแกเหรอ มันเลวร้ายกว่านั้นซะอีก! คนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนักรบน นส่วนมากเป็นพวกคนรวยไม่ก็ขุนนางหรือน้อยที่สุด ก็เป็นลูกคนพอมีตั้งที่มีเงิ นติดกระเป๋า แล้วเขาละเป็นใครเขาเป็นแค่ชาวบ้านโง่ๆธรรมดาที่มาจากที่ห่าง ไกลความเจริญ เขาเข้ากับคนในหอพักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องนั้นมันไม่ สําคัญเลย ประเด็นสําคัญคือเขาโดนรังแกสารพัดเลยตั้งหาก คนร่วมหอมี 5 คน 4 คนในนั้นรุมรังแก เขาทุกอย่าง ตะคอกใส่เขา สั่งเขาไปทํานั้นทํานี้เหมือนเป็นทาส ใช้ให้ไปซักผ้า ซักถุงเท้า เทน้ําล้างเท้า จัดโต๊ะจัดเตียงให้เอาอาหารมาให้ ใช้งานเยี่ยงทาส แถมยังโดนกระทืบ อีกตังหาก ถ้าเกิดมีใครไม่พอใจหรือหงุดหงิดจากที่ไหนมา เขาจะมาลง ความหงุดหงิดกับโจเซฟ มีตั้งแต่ตบหน้าต่อยเตะเข่าแล้วก็ยังบังคับให้ คุกเข่าขอโทษด้วย ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เขาอยู่ทุกทนกับ ความทรมารเหมือนนรกบนดินอย่างแสนสาหัสมันหนักเกินกว่าที่จะเรียกว่า เป็นการรังแกแล้ว”ดูเหมือนว่าเจ้าจะโดนมาตลอดครึ่งปีนี้เลยซินะ”เหมิงเหล่ ยกําหมัดแน่นแล้วแตะไหล่ของโจเซฟเขารู้สึกผิดมากๆ ตลอดครึ่งปีมานี้ เขา ใช้ชีวิตสุขสภาพได้ทุกอย่างที่อยากได้มุ่งฝึกตัวเองเพิ่มค่าความสามารถจนลืม ใส่ใจคนที่อยู่รอบข้างเขา ลืมใส่ใจโจ เซฟและเพื่อนวัยเด็กของเขาเอง เอาจริงๆ เขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ํา ว่ามีพวกเขาด้วย เพราะยังไงพวกเขาก็รู้จักกันได้ไม่นาน เป็นเพียงแค่เพื่อนที่รู้ จักกันตอนอยู่ที่หมู่บ้านความทรงจําของเขาเกี่ยวกับทั้ง 3 คนนั้นมีน้อยมาก เพียงเดือนกว่าๆเองหลังจากที่เขาโดนส่งมายังโลกใบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ที่เหมิงเหล่ยรู้สึกผิดที่ สุดเลยก็คือ สําหรับโจเซฟแล้ว เหมิงเหล่ยเป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุด เป็น เพื่อนที่ดีที่คอยช่วยเหลือและ เหมิงเหล่ยเองก็เป็นคนเสนอให้เขามาที่นี้ ด้วย”เหอะๆ รังแกเหรอแตะนิดแตะหน่อยเรียกรังแกเหรอเออแล้วไงวะ!!“ชายกล้ามโตที่ชื่อแลกอดอก”ข้าให้มันซักเสื้อผ้าล้างเท้าแถมข้าจะทํา— -หึม!!” มือของเหมิงเหล่ยเหวี่ยงไปด้วยความ สติขาด เปรี้ยง!! เสียงฝ่ามือของเหมิงเหล่ยกระแทก เข้าหน้าของแลจังๆ ส่งให้ร่างกล้ามโตของแลบินออกไปทันที

นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็…

บทที่ 53 รังแกและบันดาลโทษะ

ในเมืองหลวงมังกรเพลิงแห่งนี้มีโรง เรียนสอนนักรบมากกว่า 70 โรงเรียน และโรงเรียนขวานใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้นมันเป็นโรงเรียนระดับกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5000 ปี ผลิตเห ล่านักรบที่มีคุณภาพออกมาจํานวนมาก

ตอนที่เหมิงเหลี่ยมาถึงหน้าทางเข้า โรงเรียนขวานใหญ่ เขาก็สังเกตเห็นขวานขนาดยักษ์ ยาวกว่า20เมตร ตั้งตระ หว่านอยู่บริเวณทางเข้าของโรงเรียนใบขวานนั้นสะท้อนกับแสงยามค่ําคืนทําให้เห็นถึงความคมของใบขวาน

มันคือสัญลักษณ์ประจําโรงเรียนขวาน ใหญ่ ขวานสงครามแชงเกอร์

“หยุดก่อน”

ยามเฝ้าหน้าประตูขวางทางเหมิงเหล่ย ไว้

“ข้ามาหาคนข้างในน่ะ”

“ลงทะเบียนชื่อตรงนี้ก่อน”

“ได้เลย”

การจัดการควบคุมดูแลเรื่องความป ลอดภัยของโรงเรียนนักรบนั้นจจะไม่ได้เข้มงวดเท่าวิทยาลัยเวทมนตร์ แค่ลงชื่อ ผ่านประตูเฉยๆ เหมิงเหล่ยก็สามารถเข้ามาในโรงเรียนขวานใหญ่และตรงไปที่ หอพักของเด็กปี 1 ในทันที

เขาเคยมาที่นี้มาแล้วครั้งนึงเมื่อ 5 เดื อนก่อน ทําให้เขารู้ว่า หอพักของเด็กปี 1 อยู่ที่ไหนดังนั้นเขาจึงสามารถเดินไปได้อย่างถูกทาง ไม่นานเขาก็เดินมาถึงหอพักนั้น

โรงเรียนขวานใหญ่นั้นมีจํานวนนัก เรียนไม่ได้น้อยกว่าวิทยาลัยเวทมนตร์เลยโรงเรียนนักรบปรกตินั้นจะรับคนจํา นวนมากทุกปีอยู่แล้วขอแค่มีเงินเพียงพอจ่ายค่าเทอมแสนแพงและอายุถึงทุกคนก็สามารถเข้ามาเรียนในโรงเรียน แบบนี้ได้

ดังนั้น หอพักของโรงเรียนนักรบจึงเรีย กได้ว่าปรกติธรรมดามากๆ ยกตัวอย่างเช่นหอพักของโจเซฟกับแอนดริวนั้น ก็คล้ายๆกับหอพักนักเรียนบนโลกเก่านี้เลยห้องนึ่งนอนรวมกัน 6 คนแล้วก็มี ที่นอนแบบแบ่งชั้น สภาพความเป็นอยู่ เทียบที่วิทยาลัยเวทมนตร์ไม่ได้เลยซักนิด

ตอนนี้มันเวลา 5 ทุ่มแล้ว แต่ถึงอย่าง นั้น หอพักของเหล่านักเรียนก็ยังคงสว่างไสวเสียงหัวเราะและพูดคุยกันดัง เจื้อยแจ้วทุกห้อง บางคนก็กําลังเล่นหมากรุกสัตว์วิเศษ บางคนก็ดื่มเหล้า เล่นเกมทายนิ้ว บางคนก็ร้องเพลง…หรือไม่ก็หอน ภาพของหอพักนั้น มันต่างจากความดุดันของภาพลักษณ์โรงเรียนอย่างเห็นได้ชัด หอพักนั้นดูมีชีวิตชีวาและรื่นรมห์กว่ามาก

ดูเหมือนว่าวันหยุดฤดูหนาวเองก็มา เยือนโรงเรียนขวานใหญ่แล้วด้วยเหมือนกัน

เหมิงเหล่ยขึ้นบันไดเวทมนตร์ไปยัง ชั้น 11 และไปหยุดตรงที่หน้าห้องของโจเซฟแต่ทันใดนั้นเอง ตอนที่เขากําลัง จะถึงหน้าห้อง จู่ๆก็มีใครบางคนโดนโยนออกมาจากห้อง

ด้วยความที่ตึกหอพักมีเป็นต์ กด้านเดียว ห้องนั้นถูกสร้างขึ้นเพียง ด้านเดียวของตึกส่วนอีกด้านนั้นที่ติดกับทางด้านนั้นว่างเปล่าถ้าใครเผลอตกลงไปจากชั้น 11 ละก็ตายอนาถแน่นอน

“ระวัง!!”

ด้วยสายตาที่เฉียบคมกับการตอบส นองที่ฉับพลัน เหมิงเหลี่ยคว้าตัวของคนๆนั้นจากด้านหลังแล้วดึงกลับเข้าหา ตัวอย่างง่ายดาย

“โอ้ย!!”

คนที่กระเด็นออกมาจากประตูนั้นเลือ ดกกปาก ฟันหักหลาย ครึ่งหน้าของเขาบวมเป่ง สันจมูกยุบไปข้างใน สภาพ ของเขาเหมือนโดนคนเมาซ้อมมายังไงอย่างงั้น

“โจเซฟเหรอ”

พอเห็นหน้าคนที่เขารับมาได้ เหมิง เหล่ยก็ตกใจในทันที

“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยเหรอ?” ทันทีที่ได้ ยินเสียงนั้น โจเซฟก็หันมามองทางตันเสียงทันทีสายตาของเขาทั้งดีใจทั้ง ตกใจไปพร้อมๆกัน “พี่ใหญ่เหมิงเหล่นทําไมถึงมาอยู่ที่นี่ละ”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็เอามือกุมแก้มของ ตัวเองในทันที ดูเหมือนความเจ็บปวดจะพึ่งแล่นเข้ามาทําให้เขาหยุดกุมแก้ มบวมๆของตัวเองไม่ได้

“โจเซฟ เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” เหมิงเหล่ ยถามเบาๆ พยายามจะเข้าใจสถานการณ์
“ป..เปล่า ไม่มีอะไร ข้าแค่สะดุดล้ม เฉยๆหน่ะ” โจเซฟหลบสายตาเขาเปลี่ยนเรื่อง “พี่เหมิงเหล่ยปิดเทอมฤดูหนาว แล้วเหรอพี่มารับข้ากลับบ้านพร้อมกันใช่ไหม?”

โจเซฟดูจะตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้กลับ บ้าน สีหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยความสุขทั้งหน้าบวมๆ ยังไงเขาก็ยังอายุแค่ 14 ไม่เพียงแต่นี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาจากบ้านใกล้ๆแบบนี้แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกือบครึ่งปียังไม่รวมเรื่องที่เขาโดนกลั่นแกล้งรังแกอีกทําให้เขาคิดถึงบ้านอยากกลับบ้านมาโดยตลอด

“บอกข้ามาว่าใครทําเจ้า”

เหมิงเหล่ยพูดถามคําถาม เสียงของ เขาเย็นเฉียบ ถ้าเขาไม่ได้มาถึงทันเวลาพอดีละก็ป่านนี้โจเซฟคงตกลงไปตาย แล้วแน่ๆ นี้มันชั้น 11 นะ ร่างกายที่ยังเป็นแค่นักรบฝึกหัดของโจเซฟถ้าร่วงลงไปรับรองได้เลยว่าศพไม่สวยแน่

เหมิงเหล่ยโกรธจัด ไฟร้อนรุ่มอยู่ในใจ ของเขา เขาเป็นคนที่ส่งเสียโจเซฟกับแอนดริวเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี่เอง แล้วถ้าพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมาหรือตายไปเขาจะมีหน้าไปสุขสบายมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน

“เห้ย ไอ้บ้านนอกสวะนั้นไปไหนแล้ววะกลับมาเอาน้ําล้างตีนข้าดิ!!”

ในตอนนั้นเอง เสียงที่ดูจะก้าวร้าวหยิ่ง ยโส ก็ดังลั่นออกมาจากห้องหอโจเซฟพอได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่นใบหน้าเต็มไป ด้วยความโกรธและกลัวไปพร้อมๆกัน

“บ้านนอกสวะงั้นเหรอ?” เหมิงเหล่ย หลี่ตาลง ปล่อยมือจากโจเซฟแล้วลุกไปถีบประตูทันที

ปัง!!

ประตูที่โดนถีบนั้นฟังแล้วกระแทกกับ กําแพงอย่างแรงจนทําให้คนที่อยู่ข้างในตกใจใหญ่ พวกเขาหันหน้ามามอง กันเองก่อนจะมองเหมิงเหล่ย

“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ย ข้าแค่สะดุดล้มเอง จริงๆ ข้าผิดเองไม่มีใครทําอะไรข้าเลยนะ”

โจเซฟกลัวแทบตายตอนที่เห็นเหมิง เหล่ยถีบประตูด้วยความโกรธเขารีบเข้าไปจับตัวของเหมิงเหล่ยแล้วพูด “ไปหา แอนดริวกันเถอะเขาคงดีใจมากแน่ๆที่เจอพี่น่ะ”

เหมิงเหล่ยสะบัดมือของโจเซฟออก ก่อนจะหันไปมองคนทั้ง 5 คนที่อยู่ในหอ “ใครที่เป็นคนทําโจเซฟ ก้าวออ กมาเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าเป็นใครกัน!” ชายร่างโตสูง 2.2 เมตร มีเขาแหลมบนหัว และก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนวัว เดินตรงเข้ามา หาเหมิงเหล่ยกล้ามเนื้อหน้าอกที่ใหญ่ โตแทบจะชนหน้าของเหมิงเหล่ยเขามองลงมาแล้วพูด “ข้าเองละแล้วเจ้าจะทําไม”

“พี่ใหญ่ เราไปกันเถอะ!”

โจเซฟพยายามดึงตัวของเหมิงเหล่ยก ลับแล้วพูดอย่างอ่อนแรง “นั้นแลเลยนะเขาเป็นนักรบระดับ 3 แถมยังเป็นขุนนา งด้วย เราสู้เขาไม่ได้หรอกพี่กลับกันเถอะ!”

เหมิงเหล่ยไม่ขยับ “โจเซฟ ดูจาก สภาพหน้าของเจ้าแล้ว เขารังแกเจ้าบ่อยครั้งเลยใช่ไหม”…ค…คือข้า“โจ เซฟพยายามเปิดปากพูดแก้ตัวเขา

พยายามฝืนใจตัวเอง แต่ยิ่งฝืนเท่าไร เขายิ่งกลั้นน้ําตาแห่งความอัปยศเอาไว้ไม่ไหวในที่สุดก็เหมือนเขื่อนแตก น้ํา ตาของเขาไหลเอ่อนองออกมาในที่สุด

รังแกเหรอ

มันเลวร้ายกว่านั้นซะอีก!

คนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนักรบน นส่วนมากเป็นพวกคนรวยไม่ก็ขุนนางหรือน้อยที่สุด ก็เป็นลูกคนพอมีตั้งที่มีเงิ นติดกระเป๋า แล้วเขาละเป็นใครเขาเป็นแค่ชาวบ้านโง่ๆธรรมดาที่มาจากที่ห่าง ไกลความเจริญ เขาเข้ากับคนในหอพักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องนั้นมันไม่ สําคัญเลย ประเด็นสําคัญคือเขาโดนรังแกสารพัดเลยตั้งหาก

คนร่วมหอมี 5 คน 4 คนในนั้นรุมรังแก เขาทุกอย่าง ตะคอกใส่เขา สั่งเขาไปทํานั้นทํานี้เหมือนเป็นทาส ใช้ให้ไปซักผ้า ซักถุงเท้า เทน้ําล้างเท้า จัดโต๊ะจัดเตียงให้เอาอาหารมาให้

ใช้งานเยี่ยงทาส แถมยังโดนกระทืบ อีกตังหาก ถ้าเกิดมีใครไม่พอใจหรือหงุดหงิดจากที่ไหนมา เขาจะมาลง ความหงุดหงิดกับโจเซฟ มีตั้งแต่ตบหน้าต่อยเตะเข่าแล้วก็ยังบังคับให้ คุกเข่าขอโทษด้วย

ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เขาอยู่ทุกทนกับ ความทรมารเหมือนนรกบนดินอย่างแสนสาหัสมันหนักเกินกว่าที่จะเรียกว่า เป็นการรังแกแล้ว”ดูเหมือนว่าเจ้าจะโดนมาตลอดครึ่งปีนี้เลยซินะ”เหมิงเหล่ ยกําหมัดแน่นแล้วแตะไหล่ของโจเซฟเขารู้สึกผิดมากๆ ตลอดครึ่งปีมานี้ เขา ใช้ชีวิตสุขสภาพได้ทุกอย่างที่อยากได้มุ่งฝึกตัวเองเพิ่มค่าความสามารถจนลืม ใส่ใจคนที่อยู่รอบข้างเขา ลืมใส่ใจโจ เซฟและเพื่อนวัยเด็กของเขาเอง

เอาจริงๆ เขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ํา ว่ามีพวกเขาด้วย เพราะยังไงพวกเขาก็รู้จักกันได้ไม่นาน เป็นเพียงแค่เพื่อนที่รู้ จักกันตอนอยู่ที่หมู่บ้านความทรงจําของเขาเกี่ยวกับทั้ง 3 คนนั้นมีน้อยมาก เพียงเดือนกว่าๆเองหลังจากที่เขาโดนส่งมายังโลกใบนี้

แต่ถึงอย่างนั้น ที่เหมิงเหล่ยรู้สึกผิดที่ สุดเลยก็คือ สําหรับโจเซฟแล้ว เหมิงเหล่ยเป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทที่สุด เป็น เพื่อนที่ดีที่คอยช่วยเหลือและ เหมิงเหล่ยเองก็เป็นคนเสนอให้เขามาที่นี้ ด้วย”เหอะๆ รังแกเหรอแตะนิดแตะหน่อยเรียกรังแกเหรอเออแล้วไงวะ!!“ชายกล้ามโตที่ชื่อแลกอดอก”ข้าให้มันซักเสื้อผ้าล้างเท้าแถมข้าจะทํา— -หึม!!”

มือของเหมิงเหล่ยเหวี่ยงไปด้วยความ สติขาด

เปรี้ยง!!

เสียงฝ่ามือของเหมิงเหล่ยกระแทก เข้าหน้าของแลจังๆ ส่งให้ร่างกล้ามโตของแลบินออกไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+