re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

เช้าของแสงแดดวันใหม่ส่องลงสู่ถนน ต้นไม้ขนาดหลายร้อยเมตรจำนวนมากพากันออกมารับแสงแดด ผีเสื้อกางปีกขนาด 10 เมตรของมันเพื่อบินไปที่ดอกไม้

ทันทีที่มันสัมผัสกับดอกไม้ก็โดนเกสรของดอกไม้รัดพันยังกับหนวดของปลาหมึก

นกเพลิงบินออกล่ากวางขนาดยักษ์ หมูป่ากินซากซอมบี้ในขณะที่แร้งหัวแดงกำลังยื้อแย่งซากศพ

ในท้องทะเลเหล่าปลานักล่าเริ่มรวมตัวออกล่า สัตว์น้ำขนาดเท่าภูเขาเคลื่อนตัวไปมา จนเกิดเป็นคลื่นยักษ์พัดเข้าชายฝั่ง สัตว์ยิ่งกินพวกมันก็ยิ่งตัวใหญ่ บางพวกเมื่อในน้ำอันตรายพวกมันจึงพากันขึ้นมาล่าบนบก

ชายฝั่งกลายเป็นที่อันตรายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปแล้ว ในขณะที่ป่าทึบชื้นก็ไม่ต่างกัน

ตอนนี้โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ประกาศจากทางรัฐบาลไทกีล่า เรามีค่ายลี้ภัยที่ปลอดภัย มีอาหารและน้ำให้ ทางรัฐบาลไทกีล่ายังไม่ทอดทิ้งคุณ เราได้จัดสร้างค่ายลี้ภัย ชั่วคราวไว้ 200 แห่งทั่วประเทศ ประชาชนทุกคนสามารถเดินทางไปที่ค่ายลี้ภัย ที่ใกล้ท่านได้ ที่สำคัญโปรดหลีกเลี่ยงการถูกกัดจากผู้ติดเชื้อ ขอให้ทุกคนโชคดี”

ดามินยื่นมือออกไปเปลี่ยนช่องสัญญาณ ข้อความนี้ถูกประกาศออกมาซ้ำ ๆ ในทุกช่วงสัญญาณ

ตอนนี้โทรศัพท์ของทุกคนแบตเตอรี่หมดไปแล้ว แต่วิทยุจากรถบรรทุกรุ่นเก่ายังใช้ได้อยู่

ตอนนี้เมสันเปลี่ยนมาขับรถและให้หมอแฮรี่ไปพัก และแล้วแสงแดดของวันใหม่ก็มาถึง

ไนเรลลืมตาขึ้นมา เขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเมื่อมองไปรอบ ๆ ทุกคนก็ดูเหมือนจะยังหลับกันอยู่ รวมถึงแมวน้อยมะลิและนิเรียด้วยที่หลับอยู่บนตักเขาคนละข้าง

ไนเรลค่อยขยับขาที่เป็นตะคิวของเขาอย่างช้า ๆ และเขาก็แจกแจงให้แมวน้อยมะลิและนิเรียนอนอยู่ด้วยกัน

และในตอนนั้นเองเขาก็พึ่งสังเกตดูตัวเอง เขาเลือนระดับแล้ว เป็นระดับสีเทา คริสตัลที่อยู่บนหน้าผากของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทา

พลังที่เอ่อล้นอยู่ในร่างกายมันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าสามารถใช้ความสามารถต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ด้วยตอนนี้ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] เขาสามารถใช้ พละกำลังได้ถึง 10 เท่าและใช้แบบไม่มีผลกระทบได้ตลอดเวลาถึง 5 เท่า

“ถึงไหนแล้ว?” ไนเรลชะโงกหัวไปถามเมสันที่ขับรถอยู่

“น่าจะอีก 2-3 ชั่วโมงก็ถึงค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่ว่าต้นไม้ขนาดใหญ่พวกนี้มันทำให้เส้นทางเสียหาย และดูยากมาก ฉันขับไปก็กลัวจะหลงไปอยู่เหมือนกัน”

“เดี๋ยวด้านหน้ามีกลุ่มคน” ทันใดนั้นเมสันก็ชะลอรถลง เมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีคนยืนโบกมืออยู่

พวกเขามีกันประมาณ 10 กว่า ดูเหมือนจะเป็นพวกมีเงินถ้าจากรถและการแต่งตัวของพวกเขา

“หยุดก่อน ๆ! พวกเราขอติดรถไปด้วย” หญิงสาวในกลุ่มของพวกนั้นพยายามเรียกให้รถของกลุ่มไนเรลจอดรับพวกเขา

หมอแฮรี่ที่ตื่นขึ้นมาก็พยายามบอกให้ไนเรลจอดรับพวกเขาไปด้วย

ไนเรลเห็นแบบนั้นก็ให้เมสันหยุดรถและรับพวกเขาไปด้วย ทันทีที่รถเบรกกะทันหันทุกคนในกลุ่มของไนเรลก็ตื่นกันหมด เพราะคิดว่า ‘ถึงแล้วเหรอ’ แต่กลับเห็นว่าไนเรลให้จอดรับคนอื่น ๆ

ในกลุ่มนั้นมีบอดี้การ์ด เด็ก 2 คน ผู้ชายและภรรยาวัยกลางคน พร้อมกับสาวรับใช้คนที่เรียกพวกเขาให้จอดรถ รวมเป็น 7 คน

พวกนั้นดูจะขนของไปเยอะ แต่พื้นที่มันไม่พอไนเรลจึงให้พวกเขาทิ้งเสื้อผ้าบางส่วนไป แต่ภรรยาของชายคนนั้นดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้เสื้อผ้าพวกนี้มันเป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้นจะทิ้งไปง่ายแบบนี้ได้อย่างไร คนอย่างคุณมีปัญญาซื้อหรือ ดูจากการแต่งตัวแล้วคุณคงเป็นพวกบ้านนอกสินะ” เธอก็ต่อว่าไนเรลอย่างเสีย ๆ หาย ๆ ทันที

ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาไนเรลพร้อมกับเสนอเงินให้ว่า “ผมจะขอเอาของไปด้วยทั้งหมดแรกกับเงินนี่เป็นไง”

“ไม่!” ไนเรลปฏิเสธไม่รับทันที เพราะถ้าทำแบบนั้นไม่ต้องให้พวกเขาลงไปจากรถเหรอ

ผลสุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่ยอมทิ้งบางส่วนไปอย่างไม่เต็มใจและขึ้นรถไปกับไนเรล

ในระหว่างทางเด็กน้อยสองคนที่เห็นแมวและก็เจ้าคาปิบารา พยายามจะจับมันแต่ดูเหมือนแมวน้อยมะลิจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวได้เธอจึงข่วนไปที่เด็กทั้งสองคนทันที

“แง่ ๆ ฮือ ๆ แม่มันทำหนูแม่ต้องจัดการมันนะ” เด็กทั้งสองคนพยายามฟ้องพ่อและแม่ของตัวเองแต่ดูเหมือนพ่อของเด็กจะไม่สนใจ

ภรรยาเห็นดังนั้นก็สั่งให้บอดี้การ์ดไปเอาแมวตัวนั้นมา แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปเอาแมวก็ถูกไนเรลหยุดไว้ก่อน

“ถ้าพวกนายอยากตายก็เชิญ” เขาเริ่มรู้สึกไม่ชอบคนพวกนี้แล้ว ที่คิดว่าโลกนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม

ทุกคนมองไปที่พวกเขาอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนหมอแฮรี่ก็เริ่มกระอักกระอวนเพราะเขาเป็นคนที่ขอให้ไนเรลรับพวกนี้มา

และบรรยากาศก็เป็นแบบนี้ไปจนกระทั่งพวกเขาได้มาถึงเขตค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

สองข้างทางซากรถที่ปักไม้แหลมกันพวกซอมบี้ไว้ ตามทางเขาเห็นคนเดินมากมายกำลังต่อแถวเพื่อรับการตรวจจากทหาร

กำแพงที่นี่ถูกสร้างจากเหล็กสูง 5 เมตร กินพื้นที่กว่า 40 กิโลเมตร ตัวค่ายด่านในมีตึกสูงอยู่จำนวนมาก

ที่นี่เคยเป็นเมืองขนาดเล็กมีประชากรไม่เยอะดังนั้นตอนเกิดเรื่องพวกทหารจึงมายึดที่นี่ไว้

บนกำแพงมีทหารจำนวนมากถือปืนเต็มรูปแบบ ประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ด้านข้างมีประตูใหญ่เปิดอยู่ทั้งรถฮัมวี เครื่องยิงจรวดรถถัง เดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา

รถบรรทุกขนร่างของสัตว์กลายพันธุ์ ขั้น 1 เข้าไปด้านใน

“หยุด! ที่ค่ายไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา หยุดที่นี่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา ลงจากรถเเล้วเอาของที่จำเป็นติดตัวมาด้วยเท่านั้น” ทหารที่ดูเหมือนจะพึ่งเข้ามาประจำการตะโกนออกมาเสียงดัง

“ลงจากรถและไปต่อแแถวกันเถอะ” ไนเรลพากลุ่มของเขาลงจากรถและไปต่อแถวโดยไม่สนใจพวกที่ติดรถมาด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่ก่อนนั้นเขาซ่อนอาวุธปืนทุกอย่างไว้ในรถเพราะเขารู้ว่าพวกทหารจะต้องยึดมันอย่างแน่นอน ส่วนพวกดาบและมีดนั้นทหารเหล่านี้ไม่ได้สนใจ

“พวกนายไปต่อแถวด้านนั้น แล้วค่อยไปเจอกันด้านใน” เขาหันไปกล่าวกับทุกคนก่อนที่จะพานิเรียแยกไปอีกแถว ส่วนแมวน้อยและคาปิบาราก็ตามพวกเขาไปเช่นกัน

แถวที่ไนเรลแยกไปนี้มันเป็นแถวสำหรับมนุษย์ชั้นสูง ในแถวมีคนยืนต่อไม่ถึงสิบ

ทหารที่เห็นไนเรลและนิเรียเดินมาที่แถวนี้ก็รีบหยุดพวกเขา “แถวนี้สำหรับคนที่มีเป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ไนเรลและนิเรียถอดหมกออกเผยให้เห็นคริสตัลวิวัฒนาการบนหน้าผาก ทหารที่เห็นแบบนั้นก็ให้ทั้งสองคนผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

กลุ่มที่พวกเขาจอดรับมาด้วยเห็นว่าไนเรลสามารถเข้ามาในแถวที่สั้นนี้ได้พวกเขาจึงรีบลากกระเป๋าตามเข้ามาทันที

ทหารถามพวกเขาเหมือนกับที่ถามไนเรล “แถวนี้สำหรับคนที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ทั้ง7 คนงง อยู่สักพัก และแล้วภรรยาสาวคิดอะไรได้เธอจึงหยิบเครื่องเพรชออกมาโช “นี่ไง พวกเราเข้าไปได้แล้วหรือยัง”

ทหารคนนั้นถึงกับอารมณ์เสียที่คิดว่าคนโง่พวกนี้กำลังแกล้งเขาเล่นอยู่

หลังจากที่ไนเรลเดินเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงคนที่ถูกลากออกไป

เขาและนิเรียเดินไปด้านใน ไนเรลรู้อยู่แล้วว่าเเถวนี้คือแถวสำหรับพวกมนุษย์ชั้นสูง ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบพวกเขา

“สวัสดีค่ะ ฉันรับหน้าที่ตรวจสอบพวกคุณ โปรดระบุชื่อและความสามารถด้วยค่ะ” ไนเรลได้เข้ามาตรวจอีกห้องส่วนนิเรียก็แยกไปตรวจอีกห้อง

“ไนเรล อาโรเดีย มาจากเมืองซานติเกีย”

“พลังช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช”

“กรุณาสวมมันด้วย พวกเราจะตรวจสอบระดับพลังงานภายในเซลล์” เจ้าหน้าที่สาวก็ส่งของที่เหมือนกับนาฬิกาให้เขา

ไนเรลรับไปใส่อย่างไม่ลังเล นี่เครื่องที่ใช้วัดระดับพลังในเซลล์ มนุษย์ชั้นสูงทุกคนจะได้รับมันมาคนละ 1 เครื่อง พวกทางรัฐบาลอ้างว่ามันเป็นเครื่องที่ใช้แค่วัดพลังงานต้นแบบเพื่อการวิจัย แต่อันที่จริงมันคือการเฝ้าระวังและติดตามตัวมนุษย์ชั้นสูงทุกคน

ตัวเครื่องระบุตัวเลขออกมาทันที

[พลังงานต่อเซลล์อยู่ที่ 105 หน่วย]

[จัดเป็นระดับสีเทา]

“ระดับสีเทา” เจ้าหน้าที่สาวดูจะแปลกใจมาก คนที่เลื่อนเป็นสีเทาได้นั้นส่วนใหญ่ถูกดึงไปอยู่ในกองทัพมียศเป็นร้อยตรีทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของไนเรลไม่ใช่ความสามารถที่ใช้ในการต่อสู้

“ผมแค่โชคดี” ไนเรลกล่าวออกไป

“ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมกับกองทัพก็สามารถติดต่อพวกเรามาได้เลยนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวหยิบบัตรประจำตัวที่ออกใหม่ให้กับเขา มันคือบัตรที่ใช้แทนบัตรประชาชน

แต่ของไนเรลจะต่างจากทั่วไป เพราะมันเป็นสีทองนั้นหมายถึงมนุษย์ชั้นสูง

หลังจากที่ออกมาแล้วเขาก็ไปยืนรอทุกคน พร้อมกับนิเรีย และแมวน้อยกับคาปิบาราที่ไม่มีใครสนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย

ที่นี่จะใช้ตั๋วอาหารในการแลกเปลี่ยนทุกสิ่งเงินสกุลเก่าไม่มีค่าอีกแล้ว ยกเว้นก็แต่ทองคำที่ยังมีค่า

เขาเดินเข้าไปแลกทองคำและตั๋วอาหารบางส่วน จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ด้านใน

ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ถึงยังไงก็ยังเป็นแค่ค่ายลี้ภัยที่ค่อยรับผู้คน และส่งไปที่เมืองใหม่ ซึ่งคนที่มีความสามารถจะถูกส่งไปที่นั่น

“พวกเราคงต้องแยกกันตรงนี้ เพราะผมต้องไปเป็นหมอประจำที่เมืองใหม่พวกเขาขาดแคลนหมอมาก” หมอแฮรี่กล่าวออกมา

ไนเรลพยักหน้าและไม่ได้กล่าวอะไร เขาหันไปหาเมสัน “แล้วคุณละ”

“ข้าเป็นแค่นักโทษหลบหนี ขืนไปบอกพวกนั้นก็มีหวังโดนจับเข้าคุกสิ” เมสันพูดออกมาและพยายามหาอะไรมาบังหน้า แต่เขาก็พูดออกมา “แต่เดี่ยวข้าจะไปหางาน”

หลังจากนั้น พวกเขาก็แยกย้ายกันไป ไนเรลเองก็เห็นด้วยเพราะเขาไม่ได้มีหน้าที่มาดูแลทุกคนที่นี่สักหน่อย

ตอนนี้เหลือแค่ ไนเรล นิเรีย เจคอบ ดามิน และสัตว์อีกสองตัว

“ไปหาที่พักกันเถอะ”

ที่พักแห่งนี้ถูกจับจองไปหมดแล้วบางส่วนก็ถูกเช่าไป เพราะถึงอย่างไรที่นี่จะถูกยึดเป็นค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่มันก็ยังถูกปกครองโดยรัฐบาล

ในแต่ละค่ายจะมีคนของทั้งทางกองทัพและรัฐบาลเข้าควบคุมดูแล กองทัพจะดูแลในการจัดการกับซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ ส่วนรัฐบาลก็จะจัดระเบียบ ทรัพยากรส่งให้กับกองทัพ

รัฐบาลพยายามที่จะไม่ให้ระบบเศรษฐกิจล่ม พวกเขาจึงจัดการแบ่งพื้นที่โดยจัดให้คนไปทำงานและแลกกับตัวอาหาร เพื่อใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนกับอาหารในค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ที่พักก็ต้องเช่าเอาเช่นกัน

คนธรรมดานั้นไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องทำงานวันละ 10 -12 ชั่วโมงเพื่อแลกกับตัวอาหาร 500-600 ตั๋วอาหาร

และงานที่ทำก็เป็นแบบไม่ประจำใครมาก่อนก็ได้ทำก่อน ส่วนบางคนที่ดีหน่อยมีเส้นสายก็ได้งานสบายไป

ข้าวสาร 1 กิโลกรัมนั้นราคาถึง 1000 ตั๋วอาหาร ส่วนเนื้อสัตว์นั้นราคา 3000 ตั๋วอาหารต่อ 1 กิโลกรัม

แต่จะโทษทางรัฐบาลก็ไม่ได้เพราะตอนนี้อาหารเริ่มขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อจำนวนคนเป็นอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ธัญพืชและพืชเกือบทุกชนิดกลายพันธุ์ไปหมดแล้ว พวกมันบางส่วนกินแล้วเป็นพิษ บางชนิดก็ถึงตาย

ตอนนี้ที่ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101มีแค่อาหารที่สำรองไว้ในคลังเท่านั้น

ไนเรลถือตั๋วอาหารที่มีอยู่ 40,000 ตั๋วอาหารไปที่เจ้าหน้าที่จัดการที่อยู่ และเขาก็เช่าห้องขนาดใหญ่ มันมีห้องนอน 2 ห้อง 1 ห้องน้ำและ 1 ห้องครัว

ราคามันตกวันละ 1000 ตั๋วอาหารเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังจ่ายมันไป 1 เดือน

ตอนนี้โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกแล้วตั้งแต่ ซอมบี้ ขั้น 2 ปรากฏออกมา พวกมันจะไล่ฆ่ากลุ่มเล็กไปเรื่อย ๆ จนมาถึค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่กว่าจะถึงตอนนั้นไนเรลก็คงมีพลังที่จะเอาตัวรอดแล้ว

อีกอย่างเขาต้องการที่ปลอดภัยในการพักผ่อน ซึ่งไม่ใช่แค่กับเขาแต่หมายถึงทุกคน

พวกเขาก็ใช้อีก 10,000 ตั๋วอาหาร ในการซื้อข้าวสาร เนื้อสัตว์และผักกลับไปที่ห้องเช่าที่อยู่บนตึก

ในระหว่างทางเขาเห็นพวกขอทานและผู้หญิงที่พยายามขายตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้คือพวกที่ไม่มีสมบัติติดตัวมาด้วยตอนที่เข้ามาในค่ายแห่งนี้

ทางค่ายจะให้ข้าวต้มพวกเขาแค่วันละ 1 ถ้วยเท่านั้นเพื่อให้มีแรงทำงาน แต่ด้วยงานตำแหน่งงานที่มีจำกัดพวกเขาจึงไม่ได้งานทำและต้องมานั่งขอทานอยู่อย่างนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

เช้าของแสงแดดวันใหม่ส่องลงสู่ถนน ต้นไม้ขนาดหลายร้อยเมตรจำนวนมากพากันออกมารับแสงแดด ผีเสื้อกางปีกขนาด 10 เมตรของมันเพื่อบินไปที่ดอกไม้

ทันทีที่มันสัมผัสกับดอกไม้ก็โดนเกสรของดอกไม้รัดพันยังกับหนวดของปลาหมึก

นกเพลิงบินออกล่ากวางขนาดยักษ์ หมูป่ากินซากซอมบี้ในขณะที่แร้งหัวแดงกำลังยื้อแย่งซากศพ

ในท้องทะเลเหล่าปลานักล่าเริ่มรวมตัวออกล่า สัตว์น้ำขนาดเท่าภูเขาเคลื่อนตัวไปมา จนเกิดเป็นคลื่นยักษ์พัดเข้าชายฝั่ง สัตว์ยิ่งกินพวกมันก็ยิ่งตัวใหญ่ บางพวกเมื่อในน้ำอันตรายพวกมันจึงพากันขึ้นมาล่าบนบก

ชายฝั่งกลายเป็นที่อันตรายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปแล้ว ในขณะที่ป่าทึบชื้นก็ไม่ต่างกัน

ตอนนี้โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ประกาศจากทางรัฐบาลไทกีล่า เรามีค่ายลี้ภัยที่ปลอดภัย มีอาหารและน้ำให้ ทางรัฐบาลไทกีล่ายังไม่ทอดทิ้งคุณ เราได้จัดสร้างค่ายลี้ภัย ชั่วคราวไว้ 200 แห่งทั่วประเทศ ประชาชนทุกคนสามารถเดินทางไปที่ค่ายลี้ภัย ที่ใกล้ท่านได้ ที่สำคัญโปรดหลีกเลี่ยงการถูกกัดจากผู้ติดเชื้อ ขอให้ทุกคนโชคดี”

ดามินยื่นมือออกไปเปลี่ยนช่องสัญญาณ ข้อความนี้ถูกประกาศออกมาซ้ำ ๆ ในทุกช่วงสัญญาณ

ตอนนี้โทรศัพท์ของทุกคนแบตเตอรี่หมดไปแล้ว แต่วิทยุจากรถบรรทุกรุ่นเก่ายังใช้ได้อยู่

ตอนนี้เมสันเปลี่ยนมาขับรถและให้หมอแฮรี่ไปพัก และแล้วแสงแดดของวันใหม่ก็มาถึง

ไนเรลลืมตาขึ้นมา เขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเมื่อมองไปรอบ ๆ ทุกคนก็ดูเหมือนจะยังหลับกันอยู่ รวมถึงแมวน้อยมะลิและนิเรียด้วยที่หลับอยู่บนตักเขาคนละข้าง

ไนเรลค่อยขยับขาที่เป็นตะคิวของเขาอย่างช้า ๆ และเขาก็แจกแจงให้แมวน้อยมะลิและนิเรียนอนอยู่ด้วยกัน

และในตอนนั้นเองเขาก็พึ่งสังเกตดูตัวเอง เขาเลือนระดับแล้ว เป็นระดับสีเทา คริสตัลที่อยู่บนหน้าผากของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทา

พลังที่เอ่อล้นอยู่ในร่างกายมันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าสามารถใช้ความสามารถต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ด้วยตอนนี้ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] เขาสามารถใช้ พละกำลังได้ถึง 10 เท่าและใช้แบบไม่มีผลกระทบได้ตลอดเวลาถึง 5 เท่า

“ถึงไหนแล้ว?” ไนเรลชะโงกหัวไปถามเมสันที่ขับรถอยู่

“น่าจะอีก 2-3 ชั่วโมงก็ถึงค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่ว่าต้นไม้ขนาดใหญ่พวกนี้มันทำให้เส้นทางเสียหาย และดูยากมาก ฉันขับไปก็กลัวจะหลงไปอยู่เหมือนกัน”

“เดี๋ยวด้านหน้ามีกลุ่มคน” ทันใดนั้นเมสันก็ชะลอรถลง เมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีคนยืนโบกมืออยู่

พวกเขามีกันประมาณ 10 กว่า ดูเหมือนจะเป็นพวกมีเงินถ้าจากรถและการแต่งตัวของพวกเขา

“หยุดก่อน ๆ! พวกเราขอติดรถไปด้วย” หญิงสาวในกลุ่มของพวกนั้นพยายามเรียกให้รถของกลุ่มไนเรลจอดรับพวกเขา

หมอแฮรี่ที่ตื่นขึ้นมาก็พยายามบอกให้ไนเรลจอดรับพวกเขาไปด้วย

ไนเรลเห็นแบบนั้นก็ให้เมสันหยุดรถและรับพวกเขาไปด้วย ทันทีที่รถเบรกกะทันหันทุกคนในกลุ่มของไนเรลก็ตื่นกันหมด เพราะคิดว่า ‘ถึงแล้วเหรอ’ แต่กลับเห็นว่าไนเรลให้จอดรับคนอื่น ๆ

ในกลุ่มนั้นมีบอดี้การ์ด เด็ก 2 คน ผู้ชายและภรรยาวัยกลางคน พร้อมกับสาวรับใช้คนที่เรียกพวกเขาให้จอดรถ รวมเป็น 7 คน

พวกนั้นดูจะขนของไปเยอะ แต่พื้นที่มันไม่พอไนเรลจึงให้พวกเขาทิ้งเสื้อผ้าบางส่วนไป แต่ภรรยาของชายคนนั้นดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้เสื้อผ้าพวกนี้มันเป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้นจะทิ้งไปง่ายแบบนี้ได้อย่างไร คนอย่างคุณมีปัญญาซื้อหรือ ดูจากการแต่งตัวแล้วคุณคงเป็นพวกบ้านนอกสินะ” เธอก็ต่อว่าไนเรลอย่างเสีย ๆ หาย ๆ ทันที

ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาไนเรลพร้อมกับเสนอเงินให้ว่า “ผมจะขอเอาของไปด้วยทั้งหมดแรกกับเงินนี่เป็นไง”

“ไม่!” ไนเรลปฏิเสธไม่รับทันที เพราะถ้าทำแบบนั้นไม่ต้องให้พวกเขาลงไปจากรถเหรอ

ผลสุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่ยอมทิ้งบางส่วนไปอย่างไม่เต็มใจและขึ้นรถไปกับไนเรล

ในระหว่างทางเด็กน้อยสองคนที่เห็นแมวและก็เจ้าคาปิบารา พยายามจะจับมันแต่ดูเหมือนแมวน้อยมะลิจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวได้เธอจึงข่วนไปที่เด็กทั้งสองคนทันที

“แง่ ๆ ฮือ ๆ แม่มันทำหนูแม่ต้องจัดการมันนะ” เด็กทั้งสองคนพยายามฟ้องพ่อและแม่ของตัวเองแต่ดูเหมือนพ่อของเด็กจะไม่สนใจ

ภรรยาเห็นดังนั้นก็สั่งให้บอดี้การ์ดไปเอาแมวตัวนั้นมา แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปเอาแมวก็ถูกไนเรลหยุดไว้ก่อน

“ถ้าพวกนายอยากตายก็เชิญ” เขาเริ่มรู้สึกไม่ชอบคนพวกนี้แล้ว ที่คิดว่าโลกนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม

ทุกคนมองไปที่พวกเขาอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนหมอแฮรี่ก็เริ่มกระอักกระอวนเพราะเขาเป็นคนที่ขอให้ไนเรลรับพวกนี้มา

และบรรยากาศก็เป็นแบบนี้ไปจนกระทั่งพวกเขาได้มาถึงเขตค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

สองข้างทางซากรถที่ปักไม้แหลมกันพวกซอมบี้ไว้ ตามทางเขาเห็นคนเดินมากมายกำลังต่อแถวเพื่อรับการตรวจจากทหาร

กำแพงที่นี่ถูกสร้างจากเหล็กสูง 5 เมตร กินพื้นที่กว่า 40 กิโลเมตร ตัวค่ายด่านในมีตึกสูงอยู่จำนวนมาก

ที่นี่เคยเป็นเมืองขนาดเล็กมีประชากรไม่เยอะดังนั้นตอนเกิดเรื่องพวกทหารจึงมายึดที่นี่ไว้

บนกำแพงมีทหารจำนวนมากถือปืนเต็มรูปแบบ ประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ด้านข้างมีประตูใหญ่เปิดอยู่ทั้งรถฮัมวี เครื่องยิงจรวดรถถัง เดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา

รถบรรทุกขนร่างของสัตว์กลายพันธุ์ ขั้น 1 เข้าไปด้านใน

“หยุด! ที่ค่ายไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา หยุดที่นี่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา ลงจากรถเเล้วเอาของที่จำเป็นติดตัวมาด้วยเท่านั้น” ทหารที่ดูเหมือนจะพึ่งเข้ามาประจำการตะโกนออกมาเสียงดัง

“ลงจากรถและไปต่อแแถวกันเถอะ” ไนเรลพากลุ่มของเขาลงจากรถและไปต่อแถวโดยไม่สนใจพวกที่ติดรถมาด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่ก่อนนั้นเขาซ่อนอาวุธปืนทุกอย่างไว้ในรถเพราะเขารู้ว่าพวกทหารจะต้องยึดมันอย่างแน่นอน ส่วนพวกดาบและมีดนั้นทหารเหล่านี้ไม่ได้สนใจ

“พวกนายไปต่อแถวด้านนั้น แล้วค่อยไปเจอกันด้านใน” เขาหันไปกล่าวกับทุกคนก่อนที่จะพานิเรียแยกไปอีกแถว ส่วนแมวน้อยและคาปิบาราก็ตามพวกเขาไปเช่นกัน

แถวที่ไนเรลแยกไปนี้มันเป็นแถวสำหรับมนุษย์ชั้นสูง ในแถวมีคนยืนต่อไม่ถึงสิบ

ทหารที่เห็นไนเรลและนิเรียเดินมาที่แถวนี้ก็รีบหยุดพวกเขา “แถวนี้สำหรับคนที่มีเป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ไนเรลและนิเรียถอดหมกออกเผยให้เห็นคริสตัลวิวัฒนาการบนหน้าผาก ทหารที่เห็นแบบนั้นก็ให้ทั้งสองคนผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

กลุ่มที่พวกเขาจอดรับมาด้วยเห็นว่าไนเรลสามารถเข้ามาในแถวที่สั้นนี้ได้พวกเขาจึงรีบลากกระเป๋าตามเข้ามาทันที

ทหารถามพวกเขาเหมือนกับที่ถามไนเรล “แถวนี้สำหรับคนที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ทั้ง7 คนงง อยู่สักพัก และแล้วภรรยาสาวคิดอะไรได้เธอจึงหยิบเครื่องเพรชออกมาโช “นี่ไง พวกเราเข้าไปได้แล้วหรือยัง”

ทหารคนนั้นถึงกับอารมณ์เสียที่คิดว่าคนโง่พวกนี้กำลังแกล้งเขาเล่นอยู่

หลังจากที่ไนเรลเดินเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงคนที่ถูกลากออกไป

เขาและนิเรียเดินไปด้านใน ไนเรลรู้อยู่แล้วว่าเเถวนี้คือแถวสำหรับพวกมนุษย์ชั้นสูง ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบพวกเขา

“สวัสดีค่ะ ฉันรับหน้าที่ตรวจสอบพวกคุณ โปรดระบุชื่อและความสามารถด้วยค่ะ” ไนเรลได้เข้ามาตรวจอีกห้องส่วนนิเรียก็แยกไปตรวจอีกห้อง

“ไนเรล อาโรเดีย มาจากเมืองซานติเกีย”

“พลังช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช”

“กรุณาสวมมันด้วย พวกเราจะตรวจสอบระดับพลังงานภายในเซลล์” เจ้าหน้าที่สาวก็ส่งของที่เหมือนกับนาฬิกาให้เขา

ไนเรลรับไปใส่อย่างไม่ลังเล นี่เครื่องที่ใช้วัดระดับพลังในเซลล์ มนุษย์ชั้นสูงทุกคนจะได้รับมันมาคนละ 1 เครื่อง พวกทางรัฐบาลอ้างว่ามันเป็นเครื่องที่ใช้แค่วัดพลังงานต้นแบบเพื่อการวิจัย แต่อันที่จริงมันคือการเฝ้าระวังและติดตามตัวมนุษย์ชั้นสูงทุกคน

ตัวเครื่องระบุตัวเลขออกมาทันที

[พลังงานต่อเซลล์อยู่ที่ 105 หน่วย]

[จัดเป็นระดับสีเทา]

“ระดับสีเทา” เจ้าหน้าที่สาวดูจะแปลกใจมาก คนที่เลื่อนเป็นสีเทาได้นั้นส่วนใหญ่ถูกดึงไปอยู่ในกองทัพมียศเป็นร้อยตรีทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของไนเรลไม่ใช่ความสามารถที่ใช้ในการต่อสู้

“ผมแค่โชคดี” ไนเรลกล่าวออกไป

“ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมกับกองทัพก็สามารถติดต่อพวกเรามาได้เลยนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวหยิบบัตรประจำตัวที่ออกใหม่ให้กับเขา มันคือบัตรที่ใช้แทนบัตรประชาชน

แต่ของไนเรลจะต่างจากทั่วไป เพราะมันเป็นสีทองนั้นหมายถึงมนุษย์ชั้นสูง

หลังจากที่ออกมาแล้วเขาก็ไปยืนรอทุกคน พร้อมกับนิเรีย และแมวน้อยกับคาปิบาราที่ไม่มีใครสนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย

ที่นี่จะใช้ตั๋วอาหารในการแลกเปลี่ยนทุกสิ่งเงินสกุลเก่าไม่มีค่าอีกแล้ว ยกเว้นก็แต่ทองคำที่ยังมีค่า

เขาเดินเข้าไปแลกทองคำและตั๋วอาหารบางส่วน จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ด้านใน

ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ถึงยังไงก็ยังเป็นแค่ค่ายลี้ภัยที่ค่อยรับผู้คน และส่งไปที่เมืองใหม่ ซึ่งคนที่มีความสามารถจะถูกส่งไปที่นั่น

“พวกเราคงต้องแยกกันตรงนี้ เพราะผมต้องไปเป็นหมอประจำที่เมืองใหม่พวกเขาขาดแคลนหมอมาก” หมอแฮรี่กล่าวออกมา

ไนเรลพยักหน้าและไม่ได้กล่าวอะไร เขาหันไปหาเมสัน “แล้วคุณละ”

“ข้าเป็นแค่นักโทษหลบหนี ขืนไปบอกพวกนั้นก็มีหวังโดนจับเข้าคุกสิ” เมสันพูดออกมาและพยายามหาอะไรมาบังหน้า แต่เขาก็พูดออกมา “แต่เดี่ยวข้าจะไปหางาน”

หลังจากนั้น พวกเขาก็แยกย้ายกันไป ไนเรลเองก็เห็นด้วยเพราะเขาไม่ได้มีหน้าที่มาดูแลทุกคนที่นี่สักหน่อย

ตอนนี้เหลือแค่ ไนเรล นิเรีย เจคอบ ดามิน และสัตว์อีกสองตัว

“ไปหาที่พักกันเถอะ”

ที่พักแห่งนี้ถูกจับจองไปหมดแล้วบางส่วนก็ถูกเช่าไป เพราะถึงอย่างไรที่นี่จะถูกยึดเป็นค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่มันก็ยังถูกปกครองโดยรัฐบาล

ในแต่ละค่ายจะมีคนของทั้งทางกองทัพและรัฐบาลเข้าควบคุมดูแล กองทัพจะดูแลในการจัดการกับซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ ส่วนรัฐบาลก็จะจัดระเบียบ ทรัพยากรส่งให้กับกองทัพ

รัฐบาลพยายามที่จะไม่ให้ระบบเศรษฐกิจล่ม พวกเขาจึงจัดการแบ่งพื้นที่โดยจัดให้คนไปทำงานและแลกกับตัวอาหาร เพื่อใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนกับอาหารในค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ที่พักก็ต้องเช่าเอาเช่นกัน

คนธรรมดานั้นไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องทำงานวันละ 10 -12 ชั่วโมงเพื่อแลกกับตัวอาหาร 500-600 ตั๋วอาหาร

และงานที่ทำก็เป็นแบบไม่ประจำใครมาก่อนก็ได้ทำก่อน ส่วนบางคนที่ดีหน่อยมีเส้นสายก็ได้งานสบายไป

ข้าวสาร 1 กิโลกรัมนั้นราคาถึง 1000 ตั๋วอาหาร ส่วนเนื้อสัตว์นั้นราคา 3000 ตั๋วอาหารต่อ 1 กิโลกรัม

แต่จะโทษทางรัฐบาลก็ไม่ได้เพราะตอนนี้อาหารเริ่มขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อจำนวนคนเป็นอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ธัญพืชและพืชเกือบทุกชนิดกลายพันธุ์ไปหมดแล้ว พวกมันบางส่วนกินแล้วเป็นพิษ บางชนิดก็ถึงตาย

ตอนนี้ที่ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101มีแค่อาหารที่สำรองไว้ในคลังเท่านั้น

ไนเรลถือตั๋วอาหารที่มีอยู่ 40,000 ตั๋วอาหารไปที่เจ้าหน้าที่จัดการที่อยู่ และเขาก็เช่าห้องขนาดใหญ่ มันมีห้องนอน 2 ห้อง 1 ห้องน้ำและ 1 ห้องครัว

ราคามันตกวันละ 1000 ตั๋วอาหารเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังจ่ายมันไป 1 เดือน

ตอนนี้โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกแล้วตั้งแต่ ซอมบี้ ขั้น 2 ปรากฏออกมา พวกมันจะไล่ฆ่ากลุ่มเล็กไปเรื่อย ๆ จนมาถึค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่กว่าจะถึงตอนนั้นไนเรลก็คงมีพลังที่จะเอาตัวรอดแล้ว

อีกอย่างเขาต้องการที่ปลอดภัยในการพักผ่อน ซึ่งไม่ใช่แค่กับเขาแต่หมายถึงทุกคน

พวกเขาก็ใช้อีก 10,000 ตั๋วอาหาร ในการซื้อข้าวสาร เนื้อสัตว์และผักกลับไปที่ห้องเช่าที่อยู่บนตึก

ในระหว่างทางเขาเห็นพวกขอทานและผู้หญิงที่พยายามขายตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้คือพวกที่ไม่มีสมบัติติดตัวมาด้วยตอนที่เข้ามาในค่ายแห่งนี้

ทางค่ายจะให้ข้าวต้มพวกเขาแค่วันละ 1 ถ้วยเท่านั้นเพื่อให้มีแรงทำงาน แต่ด้วยงานตำแหน่งงานที่มีจำกัดพวกเขาจึงไม่ได้งานทำและต้องมานั่งขอทานอยู่อย่างนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+