re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ทุกคนก็เริ่มจะมีแรงกันมากขึ้นแต่ก็ยังคงหิวกันมากอยู่ดี ไนเรลจึงออกสำรวจรอบ ๆ เพื่อดูว่าจะสามารถล่าหรือหาอะไรกินได้หรือไม่

เอว่าที่เห็นดังนั้นก็อาสาไปด้วยเช่นกัน หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกไปจ่าคูเปอร์ก็มีสีหน้าและรอยยิ้มแปลก เขาหันไปเล่าเรื่องบางอย่างให้กันทหารและนักล่าคนอื่น ๆ ฟังทันที

ทหารหลายคนได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าแปลก ๆ พวกเขาไม่คิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขายังคงทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ดูแล้วน้ำเสียงของพวกเขาจะอิจฉาซะมากกว่า

ไนเรลและเอวาเดินมาด้วยกัน เอวานั้นดูจะเงียบ ๆ ผิดจากทุกทีที่เธอจะถามเขาตลอด ไนเรลเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก พวกเขาเดินเข้ามาในป่าด้วยความระมัดระวังด้วยความที่เขาไม่มีดาบคู่เขางู ไนเรลจึงต้องเปลี่ยนมาใช่อาวุธอื่นนั้นก็คือ มีดสั้นเขี้ยวงูสองเล่มที่เมสันทำขึ้นมาพร้อมกับดาบคู่เขางู

เขาต้องปรับตัวกับการใช้มีดสั้นเขี้ยวงูอยู่สักพัก ถึงจะชินมือ

ตัวมีดนั้นยาวประมาณ 25 เซนติเมตร สีขาวราวกับแสงสุดท้ายก่อนตาย ตัวมีดนั้นทำมาจากเขี้ยวงูมันจึงมีพิษ สิ่งที่โดนฟันด้วยมีสั้นจะโดนพิษอ่อน ๆ ถ้าโดนมาก ๆ ก็อาจจะตัวชาเป็นอัมพาตชั่วคราวได้

เขาเดินไปไม่ลึกมากเพราะตอนนี้มันเย็นพอสมควร แสงอาทิตย์เริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ในตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นสงสีแดงจำนวนมากที่สองออกมาตามเถาวัลย์ที่พันอยู่ต้นไม้ขนาดใหญ่

“นั้นมัน ต้นมันโลหิต” ไนเรลรีบเดินไปที่มัน

เอวาเดินตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที

ไนเรลเด็ดผลของมันออกมาจากต้น ของเหลวที่เหมือนกับเลือดไหลออกมาตามรอยเด็ดที่ขั้วของผล

เขานึกถึงข้อมูลของมันโลหิตพวกนี้ทันที

ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ ผลของมันเป็นหัวมียางเหมือนเลือด ให้แป้งและสารอาหารที่มาก ดูดซับสารอาหารได้จำนวนมากโดยเฉพาะซากศพซอมบี้ ถ้าต้นมันตายจะสร้างเมล็ดพันธุ์ขึ้นมาสามเมล็ดเพื่อขยายพันธุ์ต่อ

นี่คือหนึ่งในพืชกลายพันธุ์ที่เป็นอาหารหลักของมนุษย์หลังจากวันสิ้นโลก เนื่องจากมันให้ผลผลิตที่มาก และไม่ต้องปลูกหลายครั้ง เพราะเพียงแค่มีสารอาหารให้มันเพียงพอ มันก็จะออกผลมาเรื่อย ๆ ทนต่อทุกสภาพอากาศ

อีกทั้งรสชาติของมันอร่อยมาก

“เธอไปเรียกทุกคนมาช่วยกันเก็บมันหน่อย เย็นนี้พวกเราจะกินมันโลหิตพวกนี้”

“อืม…” เอวาพยักหน้าและเดินกลับไปเรียกทหารและนักล่า

ในขณะที่ไนเรลมองเอวาเดินออกไป เขาหาหัวหลักของต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ทันที มันมีลักษณะคล้ายกับหัวใจของมนุษย์ที่มีรากเป็นเส้นเลือดฝอย ขนาดแค่กำปั้นเท่านั้น “ดูเหมือนมันจะยังโตไม่เต็มที่”

มือของไนเรลวางไปที่หัวหลักของมันจากนั้นก็ใช้ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืช F] ทันที เหตุผลจริงที่เขาให้เอวาไปเรียกทุกคนนั้น เพราะเขาไม่อยากให้เธอเห็นความสามารถนี้ของเขา

ไนเรลอยากจะให้ทุกคนคิดว่าเขาอาจจะมีความสามารถประเภทลึกลับที่ช่วยให้กลายร่างเป็นร่างกิ้งก่าได้มากกว่าที่ทุกคนคิดว่าเขามีความสามารถมากกว่าหนึ่งอย่าง

เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็รู้ว่าคริสตัลที่หน้าผากของเขาเป็นรูปวงรีซึ่งเป็นประเภทลึกลับ

หัวหลักมันโลหิตก็เหมือนได้รับการกระตุ้นมันขยายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ผืนดินบริเวณรอบเริ่มแห้งและแตกร้าว สารอาหารรอบบริเวณถูกดูดซับโดยต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

ผลที่อยู่ตามเถาวัลย์ของมันเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนมีขนาดเท่าหัวมนุษย์ หลังจากผ่านไป 10 นาทีในที่สุดเขาก็ถึงขีดจำกัดของความสามารถและที่สำคัญสารอาหารในดินรอบ ๆ ก็มีเหลือแล้ว

เนื่องจากความสามารถเขามันเป็นแค่ระดับ F เท่านั้น มันจึงเร่งการเจริญเติบโตได้แค่นี้

ถ้าความสามารถของเขาพัฒนาไปจนถึงระดับ A ละก็มันสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเมล็ดพืชให้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่สูงหลายร้อยเมตรได้เลยในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ระดับพลังของเขาไปถึงระดับ สีน้ำเงิน ซึ่งเท่ากับชีวิตที่แล้วของเขา

เขาก็นั่งรอสักพักเอวาก็พากลุ่มทหารและนักล่ามา พวกเขาช่วยกันเก็บผลมันโลหิตกลายพันธุ์ทันทีอย่างเร่งรีบ

เนื่องจากพวกเขาได้ยินจากเอวาว่ามันสามารถกินได้ ทุกคนก็มีแรงฮึดกันขั้นมาทันที

หลังจากที่เก็บจนหมดก็ได้หัวของมันโลหิตกลายพันธุ์ให้พวกเขาทุกกินสามเวลาถึง 3 วันเลยทีเดียว

พวกพากันหอบกลับไปที่พักอย่างรวดเร็ว

ไนเรลเองก็ตามกลับไปแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะขุดหัวหลักของมันมาด้วย ทันทีที่มันถูกขุดขึ้นมาจากผื้นดิน เถาวัลย์ของต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ก็แห้งเหี่ยว หัวหลักที่เหมือนกับหัวใจก็กลายเป็นเปลือกแข็ง ห่อหุ้มเมล็ดทั้งสามไว้ภายในทันที

ไนเรลเก็บมันลงไปทันที เขามีแผนที่จะใช้เมล็ดพวกนี้ในการต่อรองกับทางรัฐบาลเพื่อแลกกับของที่เขาต้องการ

ตอนนี้ทุกคนกินผลมันโลหิตกันอย่างอร่อย วิธีการกินของพวกเขานั้นพื้นฐานที่สุดคือการวางมันไว้ใต้ขี้เถ้า เหมือนกับมันเผาปกติทั่วไป

ไนเรลลองกินมันดุเพราะเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ากินพวกพืชกลายพันธุ์ไปมันจะได้รับความสามารถอะไรมาหรือไม่ และก็เป็นดังคาดใบ้ไม้รอยสักก็งอกออกมา แต่แล้วมันก็แห้งเหี่ยวลงราวกับว่าความสามารถนี้นั้นมันไม่มีค่าพอให้สังเคราะห์ออกมา หรือก็คือมันมีระดับที่ต่ำเกินไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามันไม่ยอมสร้างความสามารถใหม่ ๆ ให้กับเขา ดูเหมือนว่าถ้าเป็นพืชจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่าพอ หรือไม่ก็ระดับสูงพอ

คริสตัลที่หน้าอกของเขานั้นมันมีความแปลกประหลาดเกินไป เขาคงต้องเรียนรู้มันให้มากกว่านี้ ถึงจะเข้าถึงความลับของมันทั้งหมด

เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน คืนนี้พวกเขาได้นอนกันรวดเร็ว

แต่แล้วในตอนกลางคืนที่ กองไฟเริ่มหรี่แสงลง เรียงของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อีกชนิดก็เริ่มบินเข้ามาใกล้พวกเขา

“หืม…” ไนเรลที่มีการตอบสนองเร็วสุดลืมตาตื้นขึ้นมาทันทีโดยที่ในมือทั้งสองข้างของเขาจับมีดสั้นเขี้ยงงูไว้ พร้อมที่จะโจมตีออกมา

สิ่งที่เขาเห็นนั้นมันคือ ฝูงยุงป่ากลายพันธุ์ มีขนาดตัวประมาณนิ้วมือ บินวนไปมา

สีหน้าเขาจิงจังขึ้นมาทันที สิ่งที่น่ากลัวในป่านั้นไม่ช่สัตว์นักล่าหรือซอมบี้ แต่มันคือการป่วยเป็นไข้ป่า

“ลุกขึ้นเร็ว” ไนเรลปลุกคูเปอร์และทุกคน

“เกิดอะไรขึ้น”

“พระเจ้า…ทำไมถึงมีกลุ่มควันสีดำเยอะขนาดนี้”

“ไม่ใช่นั้นมันฝูงยุงป่า”

“ทุกคนรีบหาไม้มาก่อกองไฟให้ได้เยอะที่สุด พวกมันกลัวแสงสว่างและไฟ” ไนเรลรีบนำทุกคนจัดการก่อกองไฟขึ้นมาจำนวนมาก

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทำการก่อกองไฟเสร็จยุงทั้งฝูกก็ไม่รอช้าบินลงมาใส่พวกเขาทันที

“เสียงยุงบิน!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

“บัดซบเอ๊ยไม่ทันแล้ว”

“ทุกคนหยิบไฟขึ้นมาเร็ว”

ทักคนหยิบท่อนไม้ที่ติดไฟฟาดไปที่ฝูงยุงทันที

การเหวี่ยงท้อนไม้ที่ติดไฟแต่ละครั้ง ยุงจำนวนมากก็โดนไฟเผาทันที ปีกของพวกมันไหมจากนั้นก็ตัวร่วงหล่นลงพื้นดินเป็นจำนวนมาก

แต่ยุงที่ตายไปยังไม่ได้เศษเสี้ยวของฝูงยุกทั้งหมดด้วยซ้ำ

หลายคนโดนยุงป่ากลายพันธุ์เหล่านี้กัดเป็นจำนวนมาก ทุกคนเริ่มหันหลังชนกัน และก่อกองไฟมากขึ้น

แสงที่ส่งออกมาจากกองไฟทำให้พวกยุงเริ่มบินหนีบ้างแล้ว ใช้เวลาไม่นานเขาก็ไล่ฝูงยุงป่าออกไปได้ แต่พวกมันก็บินวนอยู่รอบ ๆ ไม่ห่าง

ในคืนนี้ทั้งคืนพวกเขาต้องผลัดกันเวรยามเฝ้ากองไฟเพื่อไม่ใช้ยุงป่ากลายพันธุ์เข้ามาใกล้พวกเขาได้อีก

เช้ามันต่อมาฝูงยุงทั้งหมดก็หายไป แต่ก็มีทหารตายไปอีก 2 และนักล่า อีก 1 ตามตัวของพวกเขามีรอยกัดของยุงอยู่หลายแห่งและมีคนที่เริ่มแสดงอาการไข้อีกจำนวนหนึ่ง

ตามศพของพวกเขามีทากและแมลลงกินเนื้อจำนวนมากกำลังจัดการซากของทั้งสาม

“ฝังศพพวกเขาก่อน” จ่าคูเปอร์บอกกับทหาร ในขณะที่นักล่าคนอื่น ๆ ก็ช่วยกันฝังศพของนักล่าเช่นกัน

หลังจากจัดการฝังศพทั้ง 3 แล้วพวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ด้วยความที่ตอนนี้เขาไม่มีเครื่องมือระบุตำแหน่งแล้วเพราะมันถูกกินไปพร้อมกับทหารสื่อสาร จึงได้แต่ต้องเดาทิศทางสุ่มและเดินทรงไปตามที่เคยเห็นในเครื่องมือระบุตำแหน่งเท่านั้น

ทั้งกลุ่มใช้เวลาเดินอยู่สามชั่วโมงก็เจอเข้ากับเนินดิน ด้านบนมีรางเหล็กอยู่

“รางรถไฟ”

พวกเขารีบวิ่งไปที่รางรถไฟทันที การที่เจอรางรถไฟนั้นหมายความว่าพวกเขาเจอเข้ากับเส้นทางที่กลับไปค่ายแล้ว

หลังจากที่เดินตามรางรถไฟไปได้สักพักก็เจอเข้ากับสถานี่รถไฟที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและพืชกลายพันธุ์จำนวนมากเกาะอยู่ตามตัวอาคาร

“สถานีรถไฟ”

“เร็วรีบเข้าไปสำรวจดุว่ามีวิทยุสื่อสารหรือไม่”

จ่าคูเปอร์ดูจะตื่นเต้นมากเขารีบสั่งทหารสำรวจดูทันที

ในขณะที่ไนเรลก็สำรวจดูรอบ ๆ ที่นี่ไม่มีทั้งสัตว์กลายพันธุ์หรืออันตรายอะไร แต่ตอนนั้นในสายตาของเขาที่ใช้ความสามารถตรวจจับความร้อนก็เจอเข้ากับคนที่หลบอยู่หลังประตูของในตัวอาคารที่แยกออก

ทหารที่กลับออกมาด้วยความผิดหวัง

“ไม่เจอวิทยุ ดูเหมือนจะมีคนขนมันไป” ทหารรายงานจ่าคูเปอร์

“เป็นไปได้อย่างไรที่นี่มันสถานีรถไฟจะต้องมีสักเครื่องที่ทิ้งไว้บางสิ”

“มีคนอยู่ในนั้น เขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าวิทยุไปไหน” ไนเรลบอกกับจ่าคูเปอร์

ทุกคนระวังตัวทันที เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าคนที่แอบอยู่นั้นมีเจตนาอะไรกันแน่

“ออกมาพวกเราคือทหารจากค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ถ้านับถึง 3 แล้วยังไม่ออกมาพวกเราจะยิงทันที”

“หนึ่ง…”

“สอง….”

“สา…”

“เดี๋ยว…เดี๋ยวฉันยอมแล้ว” คนที่แอบอยู่รีบเปิดประตูทันทีด้วยความกลัว

แต่ที่น่าแปลกคือเขา ไม่สิเธอกลับเป็นแค่ผู้หญิงพิการอายุประมาณ 18 ผมสีน้ำตาลแดง ใส่แว่นตาหนาเตอะ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว เธออัมพาตครึ่งท่อนล่าง

จ่าคูเปอร์ที่เห็นดังนั้นก็ยกมือให้ทุกคนเอามือลงทันที เมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตราย

“เธอชื่ออะไร ที่นี่เกิดอะไรขึ้น ซอมบี้หรือคนหายไปไหนกันหมด”

“คนส่วนใหญ่ตายไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ซอมบี้โดนนกยักสีทองจับกินไปแล้ว”

ทหารหลายคนก็แปลกใจทันทีที่ได้ยิน นั้นหมายความว่าที่ผ่านมาผู้หญิงพิการตัวเล็กพิการนั่งรถเข็น อาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้คนเดียวตั้งแต่เกิดเรื่อง

“ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”

“เออ…” ดูเหมือนเธอจะลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ตอบออกมา “กา…กาเบรียล”

ทุกคนที่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าเธอโกหก คนอะไรจะชื่อกาเบรียล ชื่อของหนึ่งในทูตสวรรค์

แต่คนที่ยืนหนึ่งไปทันทีและมีสีหน้าที่ประหลาดใจที่สุดกับเป็นไนเรล

“กาเบรียล ชื่อนี้มัน……หรือว่าเธอคือ จูเรีย กาเบรียล ฉายาทูตสวรรค์แห่งโลกไซเบอร์” ไนเรลพูดออกมาอย่างตกใจ

“นายรู้ได้อย่างไร?!!!” จูเรียตกใจมาก อันที่จริงไม่มีใครรู้ชื่อ จูเรียของเธอ ปกติแล้วเธอจะใช้ กาเบรียลเป็นหลัก ส่วนฉายา ทูตสวรรค์ไซเบอร์นั้นเป็นชื่อที่ใช้ในโลกอินเตอร์เน็ต

“เยี่ยมไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับตัวตนที่สุดยอดแบบเธอที่นี่” ไนเรลถึงกลับยิ้มออกมา ที่โชคชะตาพาให้เขามาเจอกับเธอ

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 36 ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ทุกคนก็เริ่มจะมีแรงกันมากขึ้นแต่ก็ยังคงหิวกันมากอยู่ดี ไนเรลจึงออกสำรวจรอบ ๆ เพื่อดูว่าจะสามารถล่าหรือหาอะไรกินได้หรือไม่

เอว่าที่เห็นดังนั้นก็อาสาไปด้วยเช่นกัน หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกไปจ่าคูเปอร์ก็มีสีหน้าและรอยยิ้มแปลก เขาหันไปเล่าเรื่องบางอย่างให้กันทหารและนักล่าคนอื่น ๆ ฟังทันที

ทหารหลายคนได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าแปลก ๆ พวกเขาไม่คิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขายังคงทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ดูแล้วน้ำเสียงของพวกเขาจะอิจฉาซะมากกว่า

ไนเรลและเอวาเดินมาด้วยกัน เอวานั้นดูจะเงียบ ๆ ผิดจากทุกทีที่เธอจะถามเขาตลอด ไนเรลเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก พวกเขาเดินเข้ามาในป่าด้วยความระมัดระวังด้วยความที่เขาไม่มีดาบคู่เขางู ไนเรลจึงต้องเปลี่ยนมาใช่อาวุธอื่นนั้นก็คือ มีดสั้นเขี้ยวงูสองเล่มที่เมสันทำขึ้นมาพร้อมกับดาบคู่เขางู

เขาต้องปรับตัวกับการใช้มีดสั้นเขี้ยวงูอยู่สักพัก ถึงจะชินมือ

ตัวมีดนั้นยาวประมาณ 25 เซนติเมตร สีขาวราวกับแสงสุดท้ายก่อนตาย ตัวมีดนั้นทำมาจากเขี้ยวงูมันจึงมีพิษ สิ่งที่โดนฟันด้วยมีสั้นจะโดนพิษอ่อน ๆ ถ้าโดนมาก ๆ ก็อาจจะตัวชาเป็นอัมพาตชั่วคราวได้

เขาเดินไปไม่ลึกมากเพราะตอนนี้มันเย็นพอสมควร แสงอาทิตย์เริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ในตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นสงสีแดงจำนวนมากที่สองออกมาตามเถาวัลย์ที่พันอยู่ต้นไม้ขนาดใหญ่

“นั้นมัน ต้นมันโลหิต” ไนเรลรีบเดินไปที่มัน

เอวาเดินตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที

ไนเรลเด็ดผลของมันออกมาจากต้น ของเหลวที่เหมือนกับเลือดไหลออกมาตามรอยเด็ดที่ขั้วของผล

เขานึกถึงข้อมูลของมันโลหิตพวกนี้ทันที

ต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ ผลของมันเป็นหัวมียางเหมือนเลือด ให้แป้งและสารอาหารที่มาก ดูดซับสารอาหารได้จำนวนมากโดยเฉพาะซากศพซอมบี้ ถ้าต้นมันตายจะสร้างเมล็ดพันธุ์ขึ้นมาสามเมล็ดเพื่อขยายพันธุ์ต่อ

นี่คือหนึ่งในพืชกลายพันธุ์ที่เป็นอาหารหลักของมนุษย์หลังจากวันสิ้นโลก เนื่องจากมันให้ผลผลิตที่มาก และไม่ต้องปลูกหลายครั้ง เพราะเพียงแค่มีสารอาหารให้มันเพียงพอ มันก็จะออกผลมาเรื่อย ๆ ทนต่อทุกสภาพอากาศ

อีกทั้งรสชาติของมันอร่อยมาก

“เธอไปเรียกทุกคนมาช่วยกันเก็บมันหน่อย เย็นนี้พวกเราจะกินมันโลหิตพวกนี้”

“อืม…” เอวาพยักหน้าและเดินกลับไปเรียกทหารและนักล่า

ในขณะที่ไนเรลมองเอวาเดินออกไป เขาหาหัวหลักของต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ทันที มันมีลักษณะคล้ายกับหัวใจของมนุษย์ที่มีรากเป็นเส้นเลือดฝอย ขนาดแค่กำปั้นเท่านั้น “ดูเหมือนมันจะยังโตไม่เต็มที่”

มือของไนเรลวางไปที่หัวหลักของมันจากนั้นก็ใช้ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืช F] ทันที เหตุผลจริงที่เขาให้เอวาไปเรียกทุกคนนั้น เพราะเขาไม่อยากให้เธอเห็นความสามารถนี้ของเขา

ไนเรลอยากจะให้ทุกคนคิดว่าเขาอาจจะมีความสามารถประเภทลึกลับที่ช่วยให้กลายร่างเป็นร่างกิ้งก่าได้มากกว่าที่ทุกคนคิดว่าเขามีความสามารถมากกว่าหนึ่งอย่าง

เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็รู้ว่าคริสตัลที่หน้าผากของเขาเป็นรูปวงรีซึ่งเป็นประเภทลึกลับ

หัวหลักมันโลหิตก็เหมือนได้รับการกระตุ้นมันขยายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ผืนดินบริเวณรอบเริ่มแห้งและแตกร้าว สารอาหารรอบบริเวณถูกดูดซับโดยต้นมันโลหิตกลายพันธุ์

ผลที่อยู่ตามเถาวัลย์ของมันเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนมีขนาดเท่าหัวมนุษย์ หลังจากผ่านไป 10 นาทีในที่สุดเขาก็ถึงขีดจำกัดของความสามารถและที่สำคัญสารอาหารในดินรอบ ๆ ก็มีเหลือแล้ว

เนื่องจากความสามารถเขามันเป็นแค่ระดับ F เท่านั้น มันจึงเร่งการเจริญเติบโตได้แค่นี้

ถ้าความสามารถของเขาพัฒนาไปจนถึงระดับ A ละก็มันสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเมล็ดพืชให้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่สูงหลายร้อยเมตรได้เลยในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ระดับพลังของเขาไปถึงระดับ สีน้ำเงิน ซึ่งเท่ากับชีวิตที่แล้วของเขา

เขาก็นั่งรอสักพักเอวาก็พากลุ่มทหารและนักล่ามา พวกเขาช่วยกันเก็บผลมันโลหิตกลายพันธุ์ทันทีอย่างเร่งรีบ

เนื่องจากพวกเขาได้ยินจากเอวาว่ามันสามารถกินได้ ทุกคนก็มีแรงฮึดกันขั้นมาทันที

หลังจากที่เก็บจนหมดก็ได้หัวของมันโลหิตกลายพันธุ์ให้พวกเขาทุกกินสามเวลาถึง 3 วันเลยทีเดียว

พวกพากันหอบกลับไปที่พักอย่างรวดเร็ว

ไนเรลเองก็ตามกลับไปแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะขุดหัวหลักของมันมาด้วย ทันทีที่มันถูกขุดขึ้นมาจากผื้นดิน เถาวัลย์ของต้นมันโลหิตกลายพันธุ์ก็แห้งเหี่ยว หัวหลักที่เหมือนกับหัวใจก็กลายเป็นเปลือกแข็ง ห่อหุ้มเมล็ดทั้งสามไว้ภายในทันที

ไนเรลเก็บมันลงไปทันที เขามีแผนที่จะใช้เมล็ดพวกนี้ในการต่อรองกับทางรัฐบาลเพื่อแลกกับของที่เขาต้องการ

ตอนนี้ทุกคนกินผลมันโลหิตกันอย่างอร่อย วิธีการกินของพวกเขานั้นพื้นฐานที่สุดคือการวางมันไว้ใต้ขี้เถ้า เหมือนกับมันเผาปกติทั่วไป

ไนเรลลองกินมันดุเพราะเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ากินพวกพืชกลายพันธุ์ไปมันจะได้รับความสามารถอะไรมาหรือไม่ และก็เป็นดังคาดใบ้ไม้รอยสักก็งอกออกมา แต่แล้วมันก็แห้งเหี่ยวลงราวกับว่าความสามารถนี้นั้นมันไม่มีค่าพอให้สังเคราะห์ออกมา หรือก็คือมันมีระดับที่ต่ำเกินไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามันไม่ยอมสร้างความสามารถใหม่ ๆ ให้กับเขา ดูเหมือนว่าถ้าเป็นพืชจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่าพอ หรือไม่ก็ระดับสูงพอ

คริสตัลที่หน้าอกของเขานั้นมันมีความแปลกประหลาดเกินไป เขาคงต้องเรียนรู้มันให้มากกว่านี้ ถึงจะเข้าถึงความลับของมันทั้งหมด

เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน คืนนี้พวกเขาได้นอนกันรวดเร็ว

แต่แล้วในตอนกลางคืนที่ กองไฟเริ่มหรี่แสงลง เรียงของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อีกชนิดก็เริ่มบินเข้ามาใกล้พวกเขา

“หืม…” ไนเรลที่มีการตอบสนองเร็วสุดลืมตาตื้นขึ้นมาทันทีโดยที่ในมือทั้งสองข้างของเขาจับมีดสั้นเขี้ยงงูไว้ พร้อมที่จะโจมตีออกมา

สิ่งที่เขาเห็นนั้นมันคือ ฝูงยุงป่ากลายพันธุ์ มีขนาดตัวประมาณนิ้วมือ บินวนไปมา

สีหน้าเขาจิงจังขึ้นมาทันที สิ่งที่น่ากลัวในป่านั้นไม่ช่สัตว์นักล่าหรือซอมบี้ แต่มันคือการป่วยเป็นไข้ป่า

“ลุกขึ้นเร็ว” ไนเรลปลุกคูเปอร์และทุกคน

“เกิดอะไรขึ้น”

“พระเจ้า…ทำไมถึงมีกลุ่มควันสีดำเยอะขนาดนี้”

“ไม่ใช่นั้นมันฝูงยุงป่า”

“ทุกคนรีบหาไม้มาก่อกองไฟให้ได้เยอะที่สุด พวกมันกลัวแสงสว่างและไฟ” ไนเรลรีบนำทุกคนจัดการก่อกองไฟขึ้นมาจำนวนมาก

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทำการก่อกองไฟเสร็จยุงทั้งฝูกก็ไม่รอช้าบินลงมาใส่พวกเขาทันที

“เสียงยุงบิน!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

“บัดซบเอ๊ยไม่ทันแล้ว”

“ทุกคนหยิบไฟขึ้นมาเร็ว”

ทักคนหยิบท่อนไม้ที่ติดไฟฟาดไปที่ฝูงยุงทันที

การเหวี่ยงท้อนไม้ที่ติดไฟแต่ละครั้ง ยุงจำนวนมากก็โดนไฟเผาทันที ปีกของพวกมันไหมจากนั้นก็ตัวร่วงหล่นลงพื้นดินเป็นจำนวนมาก

แต่ยุงที่ตายไปยังไม่ได้เศษเสี้ยวของฝูงยุกทั้งหมดด้วยซ้ำ

หลายคนโดนยุงป่ากลายพันธุ์เหล่านี้กัดเป็นจำนวนมาก ทุกคนเริ่มหันหลังชนกัน และก่อกองไฟมากขึ้น

แสงที่ส่งออกมาจากกองไฟทำให้พวกยุงเริ่มบินหนีบ้างแล้ว ใช้เวลาไม่นานเขาก็ไล่ฝูงยุงป่าออกไปได้ แต่พวกมันก็บินวนอยู่รอบ ๆ ไม่ห่าง

ในคืนนี้ทั้งคืนพวกเขาต้องผลัดกันเวรยามเฝ้ากองไฟเพื่อไม่ใช้ยุงป่ากลายพันธุ์เข้ามาใกล้พวกเขาได้อีก

เช้ามันต่อมาฝูงยุงทั้งหมดก็หายไป แต่ก็มีทหารตายไปอีก 2 และนักล่า อีก 1 ตามตัวของพวกเขามีรอยกัดของยุงอยู่หลายแห่งและมีคนที่เริ่มแสดงอาการไข้อีกจำนวนหนึ่ง

ตามศพของพวกเขามีทากและแมลลงกินเนื้อจำนวนมากกำลังจัดการซากของทั้งสาม

“ฝังศพพวกเขาก่อน” จ่าคูเปอร์บอกกับทหาร ในขณะที่นักล่าคนอื่น ๆ ก็ช่วยกันฝังศพของนักล่าเช่นกัน

หลังจากจัดการฝังศพทั้ง 3 แล้วพวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ด้วยความที่ตอนนี้เขาไม่มีเครื่องมือระบุตำแหน่งแล้วเพราะมันถูกกินไปพร้อมกับทหารสื่อสาร จึงได้แต่ต้องเดาทิศทางสุ่มและเดินทรงไปตามที่เคยเห็นในเครื่องมือระบุตำแหน่งเท่านั้น

ทั้งกลุ่มใช้เวลาเดินอยู่สามชั่วโมงก็เจอเข้ากับเนินดิน ด้านบนมีรางเหล็กอยู่

“รางรถไฟ”

พวกเขารีบวิ่งไปที่รางรถไฟทันที การที่เจอรางรถไฟนั้นหมายความว่าพวกเขาเจอเข้ากับเส้นทางที่กลับไปค่ายแล้ว

หลังจากที่เดินตามรางรถไฟไปได้สักพักก็เจอเข้ากับสถานี่รถไฟที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและพืชกลายพันธุ์จำนวนมากเกาะอยู่ตามตัวอาคาร

“สถานีรถไฟ”

“เร็วรีบเข้าไปสำรวจดุว่ามีวิทยุสื่อสารหรือไม่”

จ่าคูเปอร์ดูจะตื่นเต้นมากเขารีบสั่งทหารสำรวจดูทันที

ในขณะที่ไนเรลก็สำรวจดูรอบ ๆ ที่นี่ไม่มีทั้งสัตว์กลายพันธุ์หรืออันตรายอะไร แต่ตอนนั้นในสายตาของเขาที่ใช้ความสามารถตรวจจับความร้อนก็เจอเข้ากับคนที่หลบอยู่หลังประตูของในตัวอาคารที่แยกออก

ทหารที่กลับออกมาด้วยความผิดหวัง

“ไม่เจอวิทยุ ดูเหมือนจะมีคนขนมันไป” ทหารรายงานจ่าคูเปอร์

“เป็นไปได้อย่างไรที่นี่มันสถานีรถไฟจะต้องมีสักเครื่องที่ทิ้งไว้บางสิ”

“มีคนอยู่ในนั้น เขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าวิทยุไปไหน” ไนเรลบอกกับจ่าคูเปอร์

ทุกคนระวังตัวทันที เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าคนที่แอบอยู่นั้นมีเจตนาอะไรกันแน่

“ออกมาพวกเราคือทหารจากค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ถ้านับถึง 3 แล้วยังไม่ออกมาพวกเราจะยิงทันที”

“หนึ่ง…”

“สอง….”

“สา…”

“เดี๋ยว…เดี๋ยวฉันยอมแล้ว” คนที่แอบอยู่รีบเปิดประตูทันทีด้วยความกลัว

แต่ที่น่าแปลกคือเขา ไม่สิเธอกลับเป็นแค่ผู้หญิงพิการอายุประมาณ 18 ผมสีน้ำตาลแดง ใส่แว่นตาหนาเตอะ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว เธออัมพาตครึ่งท่อนล่าง

จ่าคูเปอร์ที่เห็นดังนั้นก็ยกมือให้ทุกคนเอามือลงทันที เมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตราย

“เธอชื่ออะไร ที่นี่เกิดอะไรขึ้น ซอมบี้หรือคนหายไปไหนกันหมด”

“คนส่วนใหญ่ตายไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ซอมบี้โดนนกยักสีทองจับกินไปแล้ว”

ทหารหลายคนก็แปลกใจทันทีที่ได้ยิน นั้นหมายความว่าที่ผ่านมาผู้หญิงพิการตัวเล็กพิการนั่งรถเข็น อาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้คนเดียวตั้งแต่เกิดเรื่อง

“ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”

“เออ…” ดูเหมือนเธอจะลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ตอบออกมา “กา…กาเบรียล”

ทุกคนที่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าเธอโกหก คนอะไรจะชื่อกาเบรียล ชื่อของหนึ่งในทูตสวรรค์

แต่คนที่ยืนหนึ่งไปทันทีและมีสีหน้าที่ประหลาดใจที่สุดกับเป็นไนเรล

“กาเบรียล ชื่อนี้มัน……หรือว่าเธอคือ จูเรีย กาเบรียล ฉายาทูตสวรรค์แห่งโลกไซเบอร์” ไนเรลพูดออกมาอย่างตกใจ

“นายรู้ได้อย่างไร?!!!” จูเรียตกใจมาก อันที่จริงไม่มีใครรู้ชื่อ จูเรียของเธอ ปกติแล้วเธอจะใช้ กาเบรียลเป็นหลัก ส่วนฉายา ทูตสวรรค์ไซเบอร์นั้นเป็นชื่อที่ใช้ในโลกอินเตอร์เน็ต

“เยี่ยมไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับตัวตนที่สุดยอดแบบเธอที่นี่” ไนเรลถึงกลับยิ้มออกมา ที่โชคชะตาพาให้เขามาเจอกับเธอ

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+