re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 44 นิเรียดวงตาเทพ

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 44 นิเรียดวงตาเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 44 นิเรียดวงตาเทพ

เสียงรถไฟ!!!!

รถไฟเหล็กที่ดูล้ำสมัยที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติถึงเท่าตัว ตัวขบวนยาวกว่า 1 กิโลเมตร ด้านบนโบกี้รถไฟเต็มไปด้วยปืนใหญ่และระบบอาวุธป้องกันที่ทันสมัยที่สุดของมนุษย์นะตอนนี้ มันวิ่งไปบนรางด้วยความเร็วกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นิเรียมองไปที่ตามด้านข้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กที่ต่างวิ่งหลบเจ้าอสูรเหล็กนี้

ตอนนี้เธอกังวลเป็นอย่างมากเนื่องจาก เมื่อสองวันก่อนเธอได้รับข่าวว่ามีซอมบี้จำนวนกว่า 6 แสนตัวที่ได้โจมตีค่ายลี้ภัย 101 ซึ่งทันทีที่ทราบข่าว ทางกองทัพของเมืองหลวงใหม่ของไทกีล่าก็เรียกรวมทหารและหน่วยโล่ที่มาจากค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 และให้เดินทางกลับไปที่ค่ายในทันที พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย

ถึงขบวนรถไฟจะออกเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด แต่มันก็ต้องใช้เวลากว่า 36 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก เพื่อเดินทางนับหมื่น ๆ กิโลเมตรจากเมืองหลวงใหม่ไปที่ค่ายลี้ภัย

หวอ!!!

ทันใดนั้นเสียงสัญญาณป้องกันของตัวรถไฟก็ดังขึ้นมา มันคือระบบแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบพลังงานของสิ่งมีชีวิตที่สูง

“เกิดอะไรขึ้น?”

“มีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดยักษ์กำลังบินเข้ามาใกล้ขบวนด้วยความเร็วสูง”

“ยืนยัน มันคือ นกยักษ์กลายพันธุ์ ขั้น 4 อินทรีทองคำ”

“เปิดใช้ระบบอาวุธ ฆ่ามันซะ”

“ครับ”

ระบบอาวุธทั้งหมดของรถไฟหันปากกระบอกปืนไปที่นกอินทรีทองคำในทันที

ปัง! ตูม!

ทั้งใหญ่และปืนกลยิงหนักไปที่อินทรีทองคำในทันทีแต่เพราะมันเร็วเกินไปจึงหลบหลีกได้ในทุก ๆ ครั้ง

ปัง!

อินทรีทองคำใช้กรงเล็บของมันโจมตีไปที่โบกี้รถไฟ แรงกระแทกของมันทำให้ทั้งขบวนสั่นสะเทือนในทันที

ถึงแบบนั้นตัวรถไฟก็ไม่ได้เสียหายมากนัก นอกจากรอยกรงเล็บของอินทรีทองคำเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ถึงแบบนั้นอินทรีทองคำก็ยังโจมตีที่ขบวนอย่างต่อเนื่อง

“แย่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ขบวนได้เสียหาย และอาจจะตกรางได้ ต้องรถความเร็วลง”

“ไม่ต้อง ไปเรียกร้อยเอกหญิงนิเรียมา บอกให้เธอใช้ปืนใหญ่พลังงาน E1” ทันใดนั้นก็มีชายอายุราว 50 ปีเดินเข้ามาที่ห้องควบคุม เขาคือพลโท มาราคอฟ

“ครับท่าน”

หลังจากที่ผ่านสักพักนิเรียก็เดินเข้ามา เธอทำความเคารพไปที่พลโทมาราคอฟในทันที จากนั้นก็เข้าไปแท่นปืนใหญ่พลังงาน นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เธอได้ยิงปืนกระบอกนี้

มันคือปืนใหญ่พลังงานที่ใช้แก่นพลังงานเป็นพลังงานหลัก ตัวลำกล้องยาวประมาณแค่ 3 เมตร น้ำหนักประมาณครึ่งตัน ติดตั้งอยู่ด้านบนรถไฟในการยิงแต่ละนัดนั้น มันต้องใช้แก่นพลังงานขั้น 2 หนึ่งชิ้น

นี่คืออาวุธพลังงานที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดและทันสมัยที่สุดของมนุษย์ มันสามารถฆ่าได้แม้แต่สัตว์กล้ายพันธุ์ขั้น 4 แต่มันก็มีข้อเสียนั้นก็คือ ถ้าเจอกับสัตว์กลายพันธุ์ที่เคลื่อนที่เร็ว แม้แต่ตัวเซนเซอร์ก็ตอบสนองไม่ทัน เพราะถึงแม้จะตรวจจับทันแต่ก็ไม่สามารถเล็งเป้าได้ทัน ดังนั้นจึงต้องใช้มนุษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถ ที่สามารถคาดการและตอบสนองได้ทันเพื่อควบคุมปืนใหญ่พลังงาน เพราะถ้าการยิงไม่โดนหนึ่งครั้งก็เท่ากับโยนแก่นพลังงานทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

นิเรียส่งสัญญาณว่าพร้อมแล้วในทันที

“ใส่แก่นพลังงาน ATP ได้”

“เริ่มชาร์จพลังงาน อยู่ที่ 10% 20% 50% 70% 80% 100%”

“พลังงานพร้อมแล้ว”

“ร้อยเอกจัดการได้”

“รับทราบค่ะ” นิเรียเริ่มใช้ความสามารถของเธอ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีทอง ภาพที่เธอมองไปที่อินทรีทองคำก็ช้าลง ทั้งความเร็วและทิศทางของมันถูกเธอคลาดการในทันที

นกอินทรีที่ตอนนี้บินอยู่ด้านบนมันรู้สึกได้ถึงอันตรายจากจุดที่นิเรียอยู่ในทันที สัญชาตญาณบอกให้มันหนีแต่มันก็คิดว่ามนุษย์ตัวเล็ก ๆ จะทำอะไรกับมันได้

คำราม!

นกอินทรีทองคำบินโผลเข้าใส่ปืนใหญ่พลังงานหมายจะจัดการกับภัยคุกคามที่เป็นอันตรายกับมันก่อน และค่อยจัดการกับคนที่เหลือ

แต่มันก็สายไปนิ้วของนิเรียค่อย ๆ สัมผัสไปที่ปุ่มยิงอย่างช้า ๆ เสียงหายใจที่ค่อย ๆ ผ่อนออกมาอย่างแผ่วเบา

บูม!

พลังงานจำนวนมหาศาลถูกยิงออกไปในทัน นกอินทรีที่เห็นพลังงานที่เข้ามามันก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก รีบบินถอยห่างออกไปในทันที แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะพลังงานที่ถูฏยิงออกมา ยิงเข้าไปที่กลางลำตัวของมันจนเป็นรูขนาดใหญ่ตายไปในทันที

ถ้ามันเชื่อสัญชาตญาณตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องตายลงแบบนี้

“สุดยอด สมกับเป็นนิเรียดวงตาเทพจริง ๆ”

“นี่คือ สัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ตัวที่ 3 เธอได้ฆ่าแล้ว”

“เธอยังโสดอยู่หรือไม่? ฉันอยากแต่งงานกับเธอ”

“นายอยากตายก็เชิญ เธอถูกเรียกว่าเจ้าหญิงของหน่วยโล่มีผู้ชายหลายคนจ้องเธอตาเป็นมัน แต่นายเข้าไปจีบเธอละก็รับรองว่ามีมนุษย์ชั้นสูงเป็นร้อย ๆ ได้รุมฆ่านายแน่”

ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะพูดจบหน่วยโล่หลายคนก็เข้ามารุมรฃล้อมชายคนนั้นในทันที

“เดี๋ยวฉันก็แค่พูดเล่น….อ๊าก”

หลังจากนั้นรถไฟก็จอดลงและเก็บซากของนกอินทรีทองคำขั้น 4 และออกเดินทางอีกครั้งเพราะพวกเขาเสียเวลามามากแล้ว

ประตูทางทิศเหนือตอนนี้จีซัสกำลังแช่แข็งซอมบี้จำนวนนับพันธุ์จนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง แต่ในขณะเดียวกันเข้าก็เผชิญกับการลอบโจมตีของซอมบี้เงาขั้น 3 ในหลายครั้ง

ถึงแม้ว่าจะสามารถหลบได้ เนื่องจากตอนนี้มันเป็นเวลากลางวันทำให้เห็นพวกมันได้ชัด แต่ถ้าเป็นในเวลากลางคืนที่จะมาถึงละก็ความน่ากลัวของซอมบี้เงาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัวอย่างแน่นอน

“ซอมบี้ไททันขั้น 3 อีกแล้ว”

“หน่วยดาบถอยก่อนเร็ว”

ที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ ทั้งพลตรีวินเซนต์ และรัฐมลตรีพาลเมอร์ พร้อมด้วยนายทหารและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนกำลังมองดูภาพจากแนวหน้าประตูทิศเหนือ ประตูตะวันตก และประตูตะวันออก

“ตอนนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก แนวรบกว่า 10 กิโลบางจุดถอยร่นลงมาแล้ว เนื่องจากซอมบี้ไททันมันใช้ตัวเองบังกระสุนเพื่อให้ซอมบี้ตัวอื่น ๆ เข้ามาประชิดทหารของเรา”

“ปัญหาอีกอย่างคือพวกซอมบี้ระเบิดชีวะภาพ ถ้าเรายังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ละก็ทหารของเราทั้งหมดได้กลายเป็นซอมบี้หมดแน่”

“ตอนนี้เหลือทหารเท่าไหร่”

“เหลือทหารที่ประตูทิศเหนือและแนวหน้าประมาณ 1 กองพล (1 กองพล = 11,264 นาย) ”

“ทางทิศตะวันตกอยู่ราว ๆ 4 กองร้อย และทิศตะวันออกอีก 2 กองร้อย (1 กองร้อย = 176 นาย) ”

“ยื้อเวลาให้ถึง เทียงคืนแล้วถอนกำลังทหารจากแนวหน้ากลับมาที่กแพงเราจะใช้กำแพงเป็นแนวป้องกันสุดท้าย ขอแค่ต้านให้นานที่สุดรอรถไฟกำลังเสริมที่จะมาถึงในตอนเย็นของวันพรุ่งนี้”

“ท่านพลตรีวินเซนต์ ทางประตูตะวันตกขอกำลังทหารสนับสนุนครับ เขาบอกว่ามีซอมบี้นับแสนอยู่ทางนั้นไม่สามารถต้านได้นาน”

“จะเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาไม่ได้ขอให้พวกบริษัทพาราซัสช่วย? พาราซัสมีกองกำลังของตัวเองตั้ง 1,000 คน”

“ขอแล้วครับแต่ทางบริษัทพาราซัสบอกว่า ถ้าต้องการให้ช่วยก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนของตัวเองไปตายแบบฟรี ๆ”

“บัดซบพวกพาราซัส ทั้งที่สำนักงานย่อยของตนเองตั้งอยู่ที่นั้น แต่ก็ยังจะมาเรียกร้องค่าตอบแทน ทำไมเบื่องบนถึงได้ทนกับพวกมันได้” พลตรีวินเซนต์ ด่าออกมาด้วยความเกี้ยวกลาด แต่คนที่ดูจะโกรธแบบสุด ๆ กลับเป็นรัฐมลตรีพาลเมอร์ ถึงแบบนั้นเขาก็พยายามสงบตัวเองไว้เพราะ ถึงอย่างไรฝั่งตะวันตกก็ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคน จะปล่อยให้พวกเขาตายไม่ได้

“ตอบตกลงไป” รัฐมลตรีพาลเมอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นดังน้ำแข็ง

“ท่านจะให้พวกมันขูดเลือดขูดเนื้อเราในตอนนี้….” พลตรีวินเซนต์ รีบท้วงออกมาทันที แต่รัฐมลตรีพาลเมอร์ก็ยกมือห้ามเอาไว้

“ทางฝั่งตะวันออกละ พวกเขาขอกำลังทหารเพิ่มหรือไม่”

“ไม่ครับ เพราะทางนั้นมีนักล่าที่อ้างว่าเป็นสมาพันธ์นักล่า และมนุษย์ชั้นสูงจำนวนมาก ออกไปสู้กับซอมบี้ และให้ทหารค่อยจัดการกับซอมบี้กลายพันธุ์ ซึ่งน่าจะยังสามารถต้านไว้ได้อยู่”

“หืมตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มีสมาพันธ์นักล่า”

“พวกเราตรวจสอบแล้ว คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคือ ไนเรล จากตะกูลชั้นสูง อาโรเดีย หลานชายของ เนโค อาโรเดีย”

“ไนเรล ไอ้หนุ่มนั้นนะหรือ เขาคิดจะทำอะไร?” พลตรีวินเซนต์กล่าวออกมาด้วยความแปลกใจในทันที

รัฐมลตรีพาลเมอร์ได้ยินเช่นกันก็ถึงกับเงียบลงไปในทันที และดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะเป็นประกายเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้

“ช่างเป็นพวกที่ทะเยอทะยานจริง ๆ คิดที่จะรวบรวมนักล่าทั้งค่ายโดยการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของตนเองในการสู้กับซอมบี้ และใช้อาหารเป็นแหล่งประกันในอำนาจ”

“แจ้งให้ทุกหน่วยจับตาดูพวกเขาไว้ ดูเหมือนเราจะมีขั้วอำนาจเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งแล้วภายในค่ายลี้ภัยตะวันออก 101”

รัฐมลตรีพาลเมอร์สั่งการลงไปในทันที

ถ้าจบเรื่องนี้ลงค่ายยังอยู่ สมาพันธ์นักล่าจะกลายเป็นอีกขั้วอำนาจในค่ายลี้ภัยแห่งนี้ที่เกิดขึ้นมา แต่เขาหารู้ไม่ว่าประเมินความสามารถของสมาพันธ์นักล่าต่ำเกินไป

เพราะเขาคงคิดไม่ถึงว่าไนเรลไม่ได้ใช้แค่ผลมันโลหิตเป็นหลักประกัน แต่ใช้ผลคริสตัลวิวัฒนาการ ใครจะไม่อยากเป็นมนุษย์ชั้นสูง นี่คือสิ่งที่ช่วยให้ได้พลังและทำให้อายุยืนยาว ทุกคนต้องการมันอย่างแน่นอน และไนเรลก็คิดวิธีในการใช้มันไปไกลกว่าที่พาลเมอร์จะคาดถึงได้

 

ประตูทางทิศตัววันออก ไนเรล เอวา เอียนและ มนุษย์ชั้นสูงที่อาสาอีก 8 คนได้แอบออกไปที่ด้านข้างแล้ว โดยที่ไม่ให้ซอมบี้สติปัญญาสังเกตเห็น

ไนเรลไม่ได้พาพวก เจแดน ดีแลน เกรย์สัน ลีวาย แมทธิว เพราะทันทีที่กลุ่มของไนเรลไปจัดการกับซอมบี้สติปัญญา ที่จุดนี้จะต้องรับมือกับซอมบี้จำนวนมาก เขาจึงให้ทั้ง 5 คนคอยช่วยเสริมกำลังของผู้พิทักษ์ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นศึกแรกของพวกเขา มันทำให้มีผู้พิทักษ์ที่ประมาทตายไปบ้างแล้ว และคาดว่าจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เตรียมตัว รอให้ซอมบี้ขั้น 2 และ ขั้น 3 มาถึงผู้พิทักษ์ เราจะอ้อมไปในทันที เวลาในการจัดการกับซอมบี้สติปัญญามีแค่เท่าที่พวกผู้พิทักษ์ถ่วงเวลาซอมบี้กลายพันธุ์พวกนี้ไว้ให้เท่านั้น”

“ถ้าพวกมันกลับไปช่วยซอมบี้สติปัญญาได้เราจะโดนล้อมหน้าล้อมหลัง อย่างแน่นอน”

หลังจากที่รออยู่ไม่กี่10 นาที ซอมบี้กลายพันธุ์ที่ซอมบี้สติปัญญาส่งออกมาก็มาถึง ผู้พิทักษ์แล้ว

“สู้มัน!!!”

“ถ่วงเวลาไว้ตามที่ท่านประทานไนเรลสั่ง”

“ใครบอกว่าเราจะแค่ถ่วงเวลา พวกเราจะฆ่ามันตั้งหาก”

“ทุกคนลุย”

คนของสมาพันธ์ไม่มีใครกลัว พวกเขาดูออกจะกระหายเลือดเป็นอย่างมาก เข้าไปล้อมจัดการกับซอมบี้ขั้น 2 ในทันที ถึงพวกเขาจะลุมฆ่ามันลงได้โดยใช้จำนวนคนเข้าว่า แต่เมื่อเจอกับซอมบี้ขั้น 3 ก็ต้องยอมถอยออกมา เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้

“อ๊าก!!!”

“บัดซบผู้พทักษ์ตายไปอีกคนแล้ว”

“อย่าหันหลังให้ซอมบี้เงา พยายามจับกลุ่มกันไว้”

ผู้พิทักษ์พยายามล้อมและหลอกล่อ เพื่อให้พวกทหารที่อยู่ด้านบนกำแพงใช้ปืนใหญ่ยิงพวกมัน นั้นจึงทำให้สถานการณ์ของพวกเขายังสามารถยื้อไว้ได้แต่กลับกัน คนธรรมดาที่ตามออกมาตอนนี้เมื่อไม่มีผู้พิทักษ์คอยเป็นกำแพงให้ ก็มีซอมบี้จำนวนมากถาโถมเข้าใส่พวกเขา ทำให้ผู้คนนับพันนับหมื่นพากันล้มตายลงไปเรื่อย ๆ

“ช่วยด้วย…”

“ถอยเร็ว”

“กลับไปที่ประตู”

“รวมกัน พวกเราต้องรวมกัน อย่าแยกออกไป”

คนที่แยกออกไปตายลงไปในทันทีโดยซอมบี้เงาที่อ้อมมาจัดการ แต่ซอมบี้ตัวนั้นก็โดนพกทหารฆ่าตายไปเช่นกัน นั้นทำให้ทุกคนจับกลุ่มสู้ต่อในทันที

ไนเรลเคลื่อนที่เข้าหาซอมบี้สติปัญญาโดยอาศัยฝูงซอมบี้เป็นที่กำบัง เขาจัดการฆ่าพวกมันและหายไปในจุดต่อไปในทันที

ทั้งกลุ่มอยู่ห่างจากซอมบี้เพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

ในขณะที่ซอมบี้สติปัญญาที่ตอนนี้กำลังสนใจในการออกคำสั่งฆ่ามนุษย์ที่หน้าประตูอยู่จนมันไม่ได้สั่งเกตุถึงพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

“ลงมือ”

ทันใดนั้น ปืนที่ร้อมเมตรรอบตัวของซอมบี้สติปัญญาก็มีสนามแรงโน้มถ่วงที่อึ้งขึ้นมาในทันที

“เกิดอะไรขึ้น” มันพูดออกมาในแบบภาษาของมนุษย์ด้วยความแปลกใจ แต่แล้วสนามแรงโน้มถึงก็หนักขึ้นกว่าเดิม

ซอมบี้ไททันที่แบกบัลลังก์กระดูกอยู่ถึงกลับ รับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว คุกเข่าลงไปข้าง ซอมบี้สติปัญญาที่นั้งอยู่เสียหลังหล่นลงมาในทันที

ขณะที่ซอมบี้เงาที่ตอนนี้ก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เช่นกันจะมีก็แต่ซอมบี้ปีกที่บินถ่อยหนีออกไปได้ทัน

ในตอนนี้เองที่ซอมบี้สติปัญญาเห็นดาบของไนเรลที่ถูกปาเข้ามาดังหอกตรงไปที่หัวของมัน

“ไม่…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 44 นิเรียดวงตาเทพ

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 44 นิเรียดวงตาเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 44 นิเรียดวงตาเทพ

เสียงรถไฟ!!!!

รถไฟเหล็กที่ดูล้ำสมัยที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติถึงเท่าตัว ตัวขบวนยาวกว่า 1 กิโลเมตร ด้านบนโบกี้รถไฟเต็มไปด้วยปืนใหญ่และระบบอาวุธป้องกันที่ทันสมัยที่สุดของมนุษย์นะตอนนี้ มันวิ่งไปบนรางด้วยความเร็วกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นิเรียมองไปที่ตามด้านข้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กที่ต่างวิ่งหลบเจ้าอสูรเหล็กนี้

ตอนนี้เธอกังวลเป็นอย่างมากเนื่องจาก เมื่อสองวันก่อนเธอได้รับข่าวว่ามีซอมบี้จำนวนกว่า 6 แสนตัวที่ได้โจมตีค่ายลี้ภัย 101 ซึ่งทันทีที่ทราบข่าว ทางกองทัพของเมืองหลวงใหม่ของไทกีล่าก็เรียกรวมทหารและหน่วยโล่ที่มาจากค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 และให้เดินทางกลับไปที่ค่ายในทันที พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย

ถึงขบวนรถไฟจะออกเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด แต่มันก็ต้องใช้เวลากว่า 36 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก เพื่อเดินทางนับหมื่น ๆ กิโลเมตรจากเมืองหลวงใหม่ไปที่ค่ายลี้ภัย

หวอ!!!

ทันใดนั้นเสียงสัญญาณป้องกันของตัวรถไฟก็ดังขึ้นมา มันคือระบบแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบพลังงานของสิ่งมีชีวิตที่สูง

“เกิดอะไรขึ้น?”

“มีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดยักษ์กำลังบินเข้ามาใกล้ขบวนด้วยความเร็วสูง”

“ยืนยัน มันคือ นกยักษ์กลายพันธุ์ ขั้น 4 อินทรีทองคำ”

“เปิดใช้ระบบอาวุธ ฆ่ามันซะ”

“ครับ”

ระบบอาวุธทั้งหมดของรถไฟหันปากกระบอกปืนไปที่นกอินทรีทองคำในทันที

ปัง! ตูม!

ทั้งใหญ่และปืนกลยิงหนักไปที่อินทรีทองคำในทันทีแต่เพราะมันเร็วเกินไปจึงหลบหลีกได้ในทุก ๆ ครั้ง

ปัง!

อินทรีทองคำใช้กรงเล็บของมันโจมตีไปที่โบกี้รถไฟ แรงกระแทกของมันทำให้ทั้งขบวนสั่นสะเทือนในทันที

ถึงแบบนั้นตัวรถไฟก็ไม่ได้เสียหายมากนัก นอกจากรอยกรงเล็บของอินทรีทองคำเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ถึงแบบนั้นอินทรีทองคำก็ยังโจมตีที่ขบวนอย่างต่อเนื่อง

“แย่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ขบวนได้เสียหาย และอาจจะตกรางได้ ต้องรถความเร็วลง”

“ไม่ต้อง ไปเรียกร้อยเอกหญิงนิเรียมา บอกให้เธอใช้ปืนใหญ่พลังงาน E1” ทันใดนั้นก็มีชายอายุราว 50 ปีเดินเข้ามาที่ห้องควบคุม เขาคือพลโท มาราคอฟ

“ครับท่าน”

หลังจากที่ผ่านสักพักนิเรียก็เดินเข้ามา เธอทำความเคารพไปที่พลโทมาราคอฟในทันที จากนั้นก็เข้าไปแท่นปืนใหญ่พลังงาน นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เธอได้ยิงปืนกระบอกนี้

มันคือปืนใหญ่พลังงานที่ใช้แก่นพลังงานเป็นพลังงานหลัก ตัวลำกล้องยาวประมาณแค่ 3 เมตร น้ำหนักประมาณครึ่งตัน ติดตั้งอยู่ด้านบนรถไฟในการยิงแต่ละนัดนั้น มันต้องใช้แก่นพลังงานขั้น 2 หนึ่งชิ้น

นี่คืออาวุธพลังงานที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดและทันสมัยที่สุดของมนุษย์ มันสามารถฆ่าได้แม้แต่สัตว์กล้ายพันธุ์ขั้น 4 แต่มันก็มีข้อเสียนั้นก็คือ ถ้าเจอกับสัตว์กลายพันธุ์ที่เคลื่อนที่เร็ว แม้แต่ตัวเซนเซอร์ก็ตอบสนองไม่ทัน เพราะถึงแม้จะตรวจจับทันแต่ก็ไม่สามารถเล็งเป้าได้ทัน ดังนั้นจึงต้องใช้มนุษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถ ที่สามารถคาดการและตอบสนองได้ทันเพื่อควบคุมปืนใหญ่พลังงาน เพราะถ้าการยิงไม่โดนหนึ่งครั้งก็เท่ากับโยนแก่นพลังงานทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

นิเรียส่งสัญญาณว่าพร้อมแล้วในทันที

“ใส่แก่นพลังงาน ATP ได้”

“เริ่มชาร์จพลังงาน อยู่ที่ 10% 20% 50% 70% 80% 100%”

“พลังงานพร้อมแล้ว”

“ร้อยเอกจัดการได้”

“รับทราบค่ะ” นิเรียเริ่มใช้ความสามารถของเธอ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีทอง ภาพที่เธอมองไปที่อินทรีทองคำก็ช้าลง ทั้งความเร็วและทิศทางของมันถูกเธอคลาดการในทันที

นกอินทรีที่ตอนนี้บินอยู่ด้านบนมันรู้สึกได้ถึงอันตรายจากจุดที่นิเรียอยู่ในทันที สัญชาตญาณบอกให้มันหนีแต่มันก็คิดว่ามนุษย์ตัวเล็ก ๆ จะทำอะไรกับมันได้

คำราม!

นกอินทรีทองคำบินโผลเข้าใส่ปืนใหญ่พลังงานหมายจะจัดการกับภัยคุกคามที่เป็นอันตรายกับมันก่อน และค่อยจัดการกับคนที่เหลือ

แต่มันก็สายไปนิ้วของนิเรียค่อย ๆ สัมผัสไปที่ปุ่มยิงอย่างช้า ๆ เสียงหายใจที่ค่อย ๆ ผ่อนออกมาอย่างแผ่วเบา

บูม!

พลังงานจำนวนมหาศาลถูกยิงออกไปในทัน นกอินทรีที่เห็นพลังงานที่เข้ามามันก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก รีบบินถอยห่างออกไปในทันที แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะพลังงานที่ถูฏยิงออกมา ยิงเข้าไปที่กลางลำตัวของมันจนเป็นรูขนาดใหญ่ตายไปในทันที

ถ้ามันเชื่อสัญชาตญาณตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องตายลงแบบนี้

“สุดยอด สมกับเป็นนิเรียดวงตาเทพจริง ๆ”

“นี่คือ สัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ตัวที่ 3 เธอได้ฆ่าแล้ว”

“เธอยังโสดอยู่หรือไม่? ฉันอยากแต่งงานกับเธอ”

“นายอยากตายก็เชิญ เธอถูกเรียกว่าเจ้าหญิงของหน่วยโล่มีผู้ชายหลายคนจ้องเธอตาเป็นมัน แต่นายเข้าไปจีบเธอละก็รับรองว่ามีมนุษย์ชั้นสูงเป็นร้อย ๆ ได้รุมฆ่านายแน่”

ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะพูดจบหน่วยโล่หลายคนก็เข้ามารุมรฃล้อมชายคนนั้นในทันที

“เดี๋ยวฉันก็แค่พูดเล่น….อ๊าก”

หลังจากนั้นรถไฟก็จอดลงและเก็บซากของนกอินทรีทองคำขั้น 4 และออกเดินทางอีกครั้งเพราะพวกเขาเสียเวลามามากแล้ว

ประตูทางทิศเหนือตอนนี้จีซัสกำลังแช่แข็งซอมบี้จำนวนนับพันธุ์จนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง แต่ในขณะเดียวกันเข้าก็เผชิญกับการลอบโจมตีของซอมบี้เงาขั้น 3 ในหลายครั้ง

ถึงแม้ว่าจะสามารถหลบได้ เนื่องจากตอนนี้มันเป็นเวลากลางวันทำให้เห็นพวกมันได้ชัด แต่ถ้าเป็นในเวลากลางคืนที่จะมาถึงละก็ความน่ากลัวของซอมบี้เงาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัวอย่างแน่นอน

“ซอมบี้ไททันขั้น 3 อีกแล้ว”

“หน่วยดาบถอยก่อนเร็ว”

ที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ ทั้งพลตรีวินเซนต์ และรัฐมลตรีพาลเมอร์ พร้อมด้วยนายทหารและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนกำลังมองดูภาพจากแนวหน้าประตูทิศเหนือ ประตูตะวันตก และประตูตะวันออก

“ตอนนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก แนวรบกว่า 10 กิโลบางจุดถอยร่นลงมาแล้ว เนื่องจากซอมบี้ไททันมันใช้ตัวเองบังกระสุนเพื่อให้ซอมบี้ตัวอื่น ๆ เข้ามาประชิดทหารของเรา”

“ปัญหาอีกอย่างคือพวกซอมบี้ระเบิดชีวะภาพ ถ้าเรายังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ละก็ทหารของเราทั้งหมดได้กลายเป็นซอมบี้หมดแน่”

“ตอนนี้เหลือทหารเท่าไหร่”

“เหลือทหารที่ประตูทิศเหนือและแนวหน้าประมาณ 1 กองพล (1 กองพล = 11,264 นาย) ”

“ทางทิศตะวันตกอยู่ราว ๆ 4 กองร้อย และทิศตะวันออกอีก 2 กองร้อย (1 กองร้อย = 176 นาย) ”

“ยื้อเวลาให้ถึง เทียงคืนแล้วถอนกำลังทหารจากแนวหน้ากลับมาที่กแพงเราจะใช้กำแพงเป็นแนวป้องกันสุดท้าย ขอแค่ต้านให้นานที่สุดรอรถไฟกำลังเสริมที่จะมาถึงในตอนเย็นของวันพรุ่งนี้”

“ท่านพลตรีวินเซนต์ ทางประตูตะวันตกขอกำลังทหารสนับสนุนครับ เขาบอกว่ามีซอมบี้นับแสนอยู่ทางนั้นไม่สามารถต้านได้นาน”

“จะเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาไม่ได้ขอให้พวกบริษัทพาราซัสช่วย? พาราซัสมีกองกำลังของตัวเองตั้ง 1,000 คน”

“ขอแล้วครับแต่ทางบริษัทพาราซัสบอกว่า ถ้าต้องการให้ช่วยก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนของตัวเองไปตายแบบฟรี ๆ”

“บัดซบพวกพาราซัส ทั้งที่สำนักงานย่อยของตนเองตั้งอยู่ที่นั้น แต่ก็ยังจะมาเรียกร้องค่าตอบแทน ทำไมเบื่องบนถึงได้ทนกับพวกมันได้” พลตรีวินเซนต์ ด่าออกมาด้วยความเกี้ยวกลาด แต่คนที่ดูจะโกรธแบบสุด ๆ กลับเป็นรัฐมลตรีพาลเมอร์ ถึงแบบนั้นเขาก็พยายามสงบตัวเองไว้เพราะ ถึงอย่างไรฝั่งตะวันตกก็ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคน จะปล่อยให้พวกเขาตายไม่ได้

“ตอบตกลงไป” รัฐมลตรีพาลเมอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นดังน้ำแข็ง

“ท่านจะให้พวกมันขูดเลือดขูดเนื้อเราในตอนนี้….” พลตรีวินเซนต์ รีบท้วงออกมาทันที แต่รัฐมลตรีพาลเมอร์ก็ยกมือห้ามเอาไว้

“ทางฝั่งตะวันออกละ พวกเขาขอกำลังทหารเพิ่มหรือไม่”

“ไม่ครับ เพราะทางนั้นมีนักล่าที่อ้างว่าเป็นสมาพันธ์นักล่า และมนุษย์ชั้นสูงจำนวนมาก ออกไปสู้กับซอมบี้ และให้ทหารค่อยจัดการกับซอมบี้กลายพันธุ์ ซึ่งน่าจะยังสามารถต้านไว้ได้อยู่”

“หืมตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มีสมาพันธ์นักล่า”

“พวกเราตรวจสอบแล้ว คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคือ ไนเรล จากตะกูลชั้นสูง อาโรเดีย หลานชายของ เนโค อาโรเดีย”

“ไนเรล ไอ้หนุ่มนั้นนะหรือ เขาคิดจะทำอะไร?” พลตรีวินเซนต์กล่าวออกมาด้วยความแปลกใจในทันที

รัฐมลตรีพาลเมอร์ได้ยินเช่นกันก็ถึงกับเงียบลงไปในทันที และดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะเป็นประกายเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้

“ช่างเป็นพวกที่ทะเยอทะยานจริง ๆ คิดที่จะรวบรวมนักล่าทั้งค่ายโดยการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของตนเองในการสู้กับซอมบี้ และใช้อาหารเป็นแหล่งประกันในอำนาจ”

“แจ้งให้ทุกหน่วยจับตาดูพวกเขาไว้ ดูเหมือนเราจะมีขั้วอำนาจเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งแล้วภายในค่ายลี้ภัยตะวันออก 101”

รัฐมลตรีพาลเมอร์สั่งการลงไปในทันที

ถ้าจบเรื่องนี้ลงค่ายยังอยู่ สมาพันธ์นักล่าจะกลายเป็นอีกขั้วอำนาจในค่ายลี้ภัยแห่งนี้ที่เกิดขึ้นมา แต่เขาหารู้ไม่ว่าประเมินความสามารถของสมาพันธ์นักล่าต่ำเกินไป

เพราะเขาคงคิดไม่ถึงว่าไนเรลไม่ได้ใช้แค่ผลมันโลหิตเป็นหลักประกัน แต่ใช้ผลคริสตัลวิวัฒนาการ ใครจะไม่อยากเป็นมนุษย์ชั้นสูง นี่คือสิ่งที่ช่วยให้ได้พลังและทำให้อายุยืนยาว ทุกคนต้องการมันอย่างแน่นอน และไนเรลก็คิดวิธีในการใช้มันไปไกลกว่าที่พาลเมอร์จะคาดถึงได้

 

ประตูทางทิศตัววันออก ไนเรล เอวา เอียนและ มนุษย์ชั้นสูงที่อาสาอีก 8 คนได้แอบออกไปที่ด้านข้างแล้ว โดยที่ไม่ให้ซอมบี้สติปัญญาสังเกตเห็น

ไนเรลไม่ได้พาพวก เจแดน ดีแลน เกรย์สัน ลีวาย แมทธิว เพราะทันทีที่กลุ่มของไนเรลไปจัดการกับซอมบี้สติปัญญา ที่จุดนี้จะต้องรับมือกับซอมบี้จำนวนมาก เขาจึงให้ทั้ง 5 คนคอยช่วยเสริมกำลังของผู้พิทักษ์ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นศึกแรกของพวกเขา มันทำให้มีผู้พิทักษ์ที่ประมาทตายไปบ้างแล้ว และคาดว่าจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เตรียมตัว รอให้ซอมบี้ขั้น 2 และ ขั้น 3 มาถึงผู้พิทักษ์ เราจะอ้อมไปในทันที เวลาในการจัดการกับซอมบี้สติปัญญามีแค่เท่าที่พวกผู้พิทักษ์ถ่วงเวลาซอมบี้กลายพันธุ์พวกนี้ไว้ให้เท่านั้น”

“ถ้าพวกมันกลับไปช่วยซอมบี้สติปัญญาได้เราจะโดนล้อมหน้าล้อมหลัง อย่างแน่นอน”

หลังจากที่รออยู่ไม่กี่10 นาที ซอมบี้กลายพันธุ์ที่ซอมบี้สติปัญญาส่งออกมาก็มาถึง ผู้พิทักษ์แล้ว

“สู้มัน!!!”

“ถ่วงเวลาไว้ตามที่ท่านประทานไนเรลสั่ง”

“ใครบอกว่าเราจะแค่ถ่วงเวลา พวกเราจะฆ่ามันตั้งหาก”

“ทุกคนลุย”

คนของสมาพันธ์ไม่มีใครกลัว พวกเขาดูออกจะกระหายเลือดเป็นอย่างมาก เข้าไปล้อมจัดการกับซอมบี้ขั้น 2 ในทันที ถึงพวกเขาจะลุมฆ่ามันลงได้โดยใช้จำนวนคนเข้าว่า แต่เมื่อเจอกับซอมบี้ขั้น 3 ก็ต้องยอมถอยออกมา เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้

“อ๊าก!!!”

“บัดซบผู้พทักษ์ตายไปอีกคนแล้ว”

“อย่าหันหลังให้ซอมบี้เงา พยายามจับกลุ่มกันไว้”

ผู้พิทักษ์พยายามล้อมและหลอกล่อ เพื่อให้พวกทหารที่อยู่ด้านบนกำแพงใช้ปืนใหญ่ยิงพวกมัน นั้นจึงทำให้สถานการณ์ของพวกเขายังสามารถยื้อไว้ได้แต่กลับกัน คนธรรมดาที่ตามออกมาตอนนี้เมื่อไม่มีผู้พิทักษ์คอยเป็นกำแพงให้ ก็มีซอมบี้จำนวนมากถาโถมเข้าใส่พวกเขา ทำให้ผู้คนนับพันนับหมื่นพากันล้มตายลงไปเรื่อย ๆ

“ช่วยด้วย…”

“ถอยเร็ว”

“กลับไปที่ประตู”

“รวมกัน พวกเราต้องรวมกัน อย่าแยกออกไป”

คนที่แยกออกไปตายลงไปในทันทีโดยซอมบี้เงาที่อ้อมมาจัดการ แต่ซอมบี้ตัวนั้นก็โดนพกทหารฆ่าตายไปเช่นกัน นั้นทำให้ทุกคนจับกลุ่มสู้ต่อในทันที

ไนเรลเคลื่อนที่เข้าหาซอมบี้สติปัญญาโดยอาศัยฝูงซอมบี้เป็นที่กำบัง เขาจัดการฆ่าพวกมันและหายไปในจุดต่อไปในทันที

ทั้งกลุ่มอยู่ห่างจากซอมบี้เพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

ในขณะที่ซอมบี้สติปัญญาที่ตอนนี้กำลังสนใจในการออกคำสั่งฆ่ามนุษย์ที่หน้าประตูอยู่จนมันไม่ได้สั่งเกตุถึงพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

“ลงมือ”

ทันใดนั้น ปืนที่ร้อมเมตรรอบตัวของซอมบี้สติปัญญาก็มีสนามแรงโน้มถ่วงที่อึ้งขึ้นมาในทันที

“เกิดอะไรขึ้น” มันพูดออกมาในแบบภาษาของมนุษย์ด้วยความแปลกใจ แต่แล้วสนามแรงโน้มถึงก็หนักขึ้นกว่าเดิม

ซอมบี้ไททันที่แบกบัลลังก์กระดูกอยู่ถึงกลับ รับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว คุกเข่าลงไปข้าง ซอมบี้สติปัญญาที่นั้งอยู่เสียหลังหล่นลงมาในทันที

ขณะที่ซอมบี้เงาที่ตอนนี้ก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เช่นกันจะมีก็แต่ซอมบี้ปีกที่บินถ่อยหนีออกไปได้ทัน

ในตอนนี้เองที่ซอมบี้สติปัญญาเห็นดาบของไนเรลที่ถูกปาเข้ามาดังหอกตรงไปที่หัวของมัน

“ไม่…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+