re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 48 แผ่นดินไหว

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 48 แผ่นดินไหว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 48 แผ่นดินไหว

ก่อนหน้านั้นที่ทิศเหนือของค่าย 101 ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร ที่นี่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา

บนบัลลังกระดูก ที่มีซอมบี้กลายพันธุ์คุมกันอย่างแน่นหนา มีซอมบี้สติปัญญาสามตัวที่ตอนนี้กำลังนั่งกินเนื้อสด ๆ จากถาดขนาดยักษ์ที่มีเด็กสาวร่างเล็กถูกวางไว้

แขนขาของเธอถูกตัดออกจากร่างพร้อมกับหันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ราวกับซาซิมิ

ดวงดาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความกลัวและสิ้นหวัง สายตาที่เศร้าหมองมองไปที่เนื้อของ๖นเองที่ถูกกินอย่างช้า

เลือดที่ไหลออกจากร่างกายจนเหมือนกับเป็นน้ำจิ้มที่ถูกตักราดไปบนเนื้อสีแดงชมพู

“เนื้อมนุษย์อร่อยมาก” ซอมบี้สติปัญญาตัวอ้วนผู้มีหมายเลข 0 อยู่บนหน้าผากพูดออกมา มันคือซอมบี้สติปัญญา ขั้น 3 ที่มีพลังมากที่สุด

“ใช่ไหมล่ะ ข้าจับมันมาเลี้ยงไว้อย่างดี” ซอมบี้สติหญิงสามที่ดูราวกับแม่เลี้ยงใจร้ายกล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ ที่หน้าผากของเธอมีหมายเลข 2

“พวกเจ้าจะพิธีมากไปทำไม ก็แค่กิน ๆ มันไปตรง ๆ เลยก็จบ” ซอมบี้สติปัญญาที่ดูป่าเถือนที่มีเลข 1 อยู่บนหน้าผากใช้มือของมันแทงลงไปที่ท้องเด็กสาวและกระชากไส้ของเธออกมากินแบบสด ๆ ในทันที

“ไร้อารยธรรม”

“ป่าเถือน”

ทั้งสองตัวมองไปที่ซอมบี้สติปัญญา หมายเลข 1 อย่างรังเกียจ พวกมันใช้หมายเลขในการเรียกตัวอื่น ๆ เนื่องจากการตั้งชื่อ เป็นสิ่งที่พวกมันขี้เกียจทำ ซอมบี้ทั้งสองก็ลงมือกินชิ้นเนื้อต่อในทันที

“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ทันใดนั้นพวกมันก็ได้ยินเสียงของซอมบี้สติปัญญาหมายเลข 4 ที่ตายไป ซึ่งนี่เป็นคลื่นเสียงที่สติปัญญาแบบพวกมันสามารถได้ยินได้ไกลหลายสิบ หลายร้อยกิโลเมตร แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน

หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้ซอมบี้สติปัญญาทั้ง 3 ตัวก็หมดอารมณ์กินทันที

“บัดซบมนุษย์พวกนั้นฆ่าหมายเลข 4 ไปแล้ว”

“รีบเตือนให้หมายเลข 5 โจมตีทางตะวันออกซะ และสั่งให้หมายเลย 3 จัดการฝ่าเข้าไปในกำแพงของพวกมนุษย์ให้ได้”

“พวกเราจะแก้แค้นฆ่ามนุษย์ 1 ล้านคนเพื่อสั่งเวยเลือดให้กับหมายเลข 4”

ซอมบี้สติปัญญาทั้งสามตัวรีบสั่งการลงไปในทันที แต่ก่อนนั้นมันก็เห็นมังกรที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพหลังจากนั้นก็หล่นลงตามมาด้วยเสียงที่ดังสนั่น แค่แรงสั่นสะเทือนพวกมันก็ขนลุกขึ้นมาในทันทีด้วยความหวาดกลัว ถึงแบบนั้นพวกมันก็ไม่ได้ยินเสียงอกไรอีก

“บัดซบนั้นมันอะไร น่ากินมาก”

“มันตายหรือไม่”

“มันคงเป็นสัตว์ที่หลงเข้ามาต่อสู้กัน ไม่ต้องไปสนใจฆ่ามนุษย์ดีกว่า”

พวกมันไม่สนใจและจัดการฆ่ามนุษย์ผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในกรงกินเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยรอให้หมายเลข 3 พังกำแพงและเมื่อนั้นจานหลังของพวกมันก็จะเริ่มขึ้น

ที่ศูนย์บัญชาการกลาง ทุกคนกำลังมองดูภาพของมังกรที่ตัวยาวกว่า 600 เมตร ปีกที่กลางออกกว้างนับร้อย ๆ เมตร กำลังจับไปที่จิ้งจกหางหอกที่ดิ้นไปมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เหลือพื้นดินหลายกิโลเมตร

ตอนนี้ไม่มีใครพูดออกมาแม้แต่คนเดียวเพราะภพที่อยู่ตรงหน้ามันเกินกว่าจินตนาการ และทันใดนั้นมังกรและจิ้งจกยักษ์ก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ดังอุกกาบาตชนกับพื้นโลก

บูม!!!!!!!!!!!!!!!!

แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารทั้งหลังสั่นไหวในทันที โชคดีที่อาคารนี้แข็งแรงมากไม่งั้นมันอาจจะถล่มลงมาได้

พลตรีวินเซนต์มองไปที่ภาพของหลุมขนาดยักษที่เต็มไปด้วยฝุ่น “นี่มัน มังกรหรือ เด็กนั้นกลายเป็นมังกร หรือว่าความสามารถของเขาเป็น ร่างมังกร”

“เรื่องนั้นเราไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ เขามีความสามารถ ประเภทลึกลับแน่นอน ส่งภาพนี้ไปที่รัฐบาลกลางในทันที เรื่องนี้ใหญ่เกินไป”

“เด็กนั้นต้องถูกจัดอยู่ในรายชื่อ ความสามารถของเขาอันตรายเกินไป”

“ท่านว่าความสามารถของเขาเป็นระดับ S หรือไม่ เพราะอย่างไรน้องสาวและปูของเขาก็มีพลังถึงระดับ S”

พันเอกคนหนึ่งถามมาทันใดนั้น ทั้งพลตรีวินเซนต์และรัฐมลตรีพาลเมอร์ก็เงียบไป

ตัวตนที่มีพลังระดับ S เหมือนกับพวกหน่วยลับพวกนั้นนะหรือ แต่ก็ไม่แน่ไนเรลอาจจะมีระดับ S ก็ได้ ไม่สิต้องพลังระดับ S แน่นอน

พวกเขาอยากจะรู้จริง ๆ ถ้าไนเรลและคนพวกนั้นสู้กันจะเป็นอย่างไร

ที่สำนักงานย่อยของบริษัทพาราซัส ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 9

“มันเกิดอะไรขั้นรายงานเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”

“เป็นเรื่องจริง ชายที่ชื่อไนเรล อาโรเดีย ได้กลายร่างเป็นมังกรและฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ด้วยตัวคนเดียวพร้อมกับซอมบี้นับแสนตัว ที่สำคัญเขามีกองกำลังที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงกว่า 80 คนที่รวมในการฆ่าซอมบี้ในครั้งนี้”

“แจ้งเรื่องนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ และใส่รายชื่อเขาเป็นบุคคลอันตรายต่อบริษัท ถ้าเราไม่สามารถชวนเขาเข้าร่วมกับบริษัทพาราซัสได้ ก็กำจัดเขาไม่งั้นจะเป็นอันตรายต่อแผนของเราได้”

ที่ประตูตะวันออก ตอนนี้เอวาได้พาไนเรลกลับมาที่สมาพันธ์นักล่าแล้ว แต่ดูเหมือเขายังไม่ร้สึกตัว เธอได้ตามหมอที่เป็นเพื่อนกับหมอเฮนรี่มาช่วยดูอาการ เนื่องจากหมอแฮนรี่ถูกส่งตัวไปที่เมืองหลวงใหม่แล้ว

หลังจากที่ตรวจดูหมอคนนั้นก็ได้แต่ประหลาดใจเพราะว่า ไนเรลไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งบาดแผลตามตัวก็ไม่มี เขาแค่หลับไปก็เท่านั้นไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากรอให้เขาฟื้นขึ้นมาเอง

เอวานั่งเฝ้าอยู่ที่ด้านข้างเตียงและมองไปที่ไนเรลที่ตอนนี้กำลังหลับอยู่ ลมหายใจของเขานั้นช้ามาก เขาแทบจะใจทุก ๆ 1 นาทีเท่านั้น มันเหมือนกับการจำศีลไม่มีผิด

“ท่านเอวา ผมได้สั่งให้คนเคลื่อนย้ายหางของจิ้งจกหางหอกเข้ามาเก็บที่สมาพันธ์แล้ว ส่วนการคุ้มกันรอบด้านก็ให้ผู้พิทักษ์คุ้มกันรอบด้านอย่างแน่นหน้าแล้ว”

“อีกอย่างทหารทีประจำประตูตะวันออกต้องการพบกับท่านเพื่อถามเรื่องของท่านประธาน”

“ฝากนายจัดการด้วย” เธอแค่ส่งเสียงตอบกลับไปเท่านั้น

เซนเดินถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รบกวนไนเรลและเอวา

หลังจากที่เซนเดินออกมา เขาก็ไปหาพลตรีวัยกลางคนก็เดินไปหาทันที “ว่าอย่างไรบ้าง”

“เชิญท่านพลตรีกลับไปก่อน เนื่องจากตอนนี้ท่านเอวายังไม่สะดวกคุย หรือท่านจะรอก็ได้ แต่ว่าไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ท่านเอวาจะออกมา”

“คงจะไม่สามารถอยู่รอได้ เพราะต้องไปสมทบกับประตูตะวันตก ถ้าไนเรลฟื้นก็บอกว่าพลตรีติอาโก้ฝากขอบคุณ”

หลังจากนั้นพลตรีติอาโก้ก็พาทหารที่เหลืออยู่ไม่กี่สิบนายมุ่งหน้าไปสมทบกับประตูตะวันตก เนื่องจากที่ประตูตะวันออกนั้นไม่มีซอมบี้หลงเหลืออยู่แม้สักตัว

อีกอย่างพวกกองกำลังตำรวจก็เข้ามาดูความเรียบร้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่แล้ว

เวลาเที่ยงคืนที่ทิศเหนือ ตอนนี้ซอมบี้บุกโจมตีมา 18 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ซอมบี้ทั้งทางฝั่งทิศเหนือน่าเป็นห่วงมากเนื่องจากซอมบี้จำนวนมากที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

แต่กลับกันทหารที่ถอยกลับมาในกำแพง เพื่อใช้กำแพงต้านซอมบี้จำนวนหลายแสนตัวนี้

ปัง! ปัง! ปัง!

“ตายไปซะ” จ่าคูเปอร์ยิงไปที่ซอมบี้ด้วยสภาพที่เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ตอนนี้ตัวของเขามันปวดไปหมด จากการที่ยิงปืนทั้งวันแต่มันก็ยังดีกว่าบางคนที่ตายไป

เขากำหมัดแน่นและนึกถึงคำสั่งที่ว่าต้องต้านไว้ให้ได้จนถึงเที่ยงคืนค่อยถอยกับมาที่กำแพง ในขณะที่หน่วยดาบถอยกำลังกลับไปเพื่อรักษาพลังในการต่อสู้ นั้นทำให้เขาเสียคนในหน่วยไปถึง 10 คนรวมถึงร้อยเอกที่สั่งการด้วย

แต่คูเปอร์ก็ทำได้แค่เก็บความโกรธไว้ เขารู้ว่าค่าของมนุษย์ชั้นสูงมีค่ามากกว่าทหารแบบพวกเขา

ในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ มีเสียงบินของสัตว์จำนวนมากที่ดังมาจากบนท้องฟ้า ทหารหลายคนก็ชี้ไปที่บนท้องฟ้า

“นั้นมันอะไร ซอมบี้ปีกใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่นั้นมันนก ไม่ใช่แค่นก แต่ยังมีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กที่บินได้จำนวนมาก”

“ดูที่พื้นเร็ว มันมีแมลงและสัตว์ขนาดเล็กเต็มไปหมดเลย”

“พวกมันจะอพยบไปไหนกัน”

ทหารทุกคนเริ่มใจไม่ดี ไม่ใช่แค่ทหารแต่เป็นทุกคนที่อยู่ในค่ายลี้ภัย รวมถึงเมืองหลวงใหม่และค่ายอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในทุกที่ พร้อมกับเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวที่ยังคงทำงานก็วัดค่าพลังงานจากใต้พิภพอย่างต่อเนื่อง ได้ถึง 10.5 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์ในดินแดนที่ไม่รู้จักห่างออกไปจากประเทศมิสทาลหลายแสนกิโลเมตร มันส่งผลกระทบต่อทั้ง 7 ประเทศในทันที

จ่าคูเปอร์ถึงกลับกลัวขึ้นมาในทันที เพราะอยู่ ๆ ก็มีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

คลื่น ๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

“หลบเร็วหาที่หลบ”

“แผ่นดินไหว ๆ หนีไปจากตรงนี้เร็วมีรอยแยก”

“วิ่งกำแพงกำลังจะถล่มลงมา”

“นี่มัน…” คูเปอร์มองไปที่ผืนดินที่กำลังจะยุบลงพร้อมกับกำแพงที่พังทลายลง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ทางประตูทิศเหนือร่วงหล่นลงตามผืนดินที่ยุบลงไป

รอยแยกของพื้นดินตัดผ่านกลางค่ายลี้ภัย 101 ตั้งแต่ทิศเหนือไปทางตะวันตกกินพื้นที่หลายสิบกิโลเมตรหลุมที่ลึกตั้งแต่ไม่กี่สิบเมตรจนไปถึงร้อยเมตร

แรงสั่นสะเทือนกินเวลาไม่กี่นาที แต่ที่ตามมาคือ อาฟเตอร์ ช็อค อีกหลายครั้ง บ้านเลือนผู้คนจำนวนมากได้รับความเสียหาย โชคยังดีที่ค่ายลี้ภัยนั้นมีตึกสูงไม่มากส่วนใหญ่จะเป็นบ้านและอาคารเดี่ยว

แต่มันก็ทำให้คนตายไปทันทีนับพัน และบาดเจ็บนับหมื่นในทันที

ทางฝั่งของซอมบี้เองก็เช่นเดียวกันพวกมันได้รับความเสียหายและตายเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่า แนวกำแพงเหล็กได้หล่นทับมันลงมาใส่ซอมบี้หรือไม่ก็ตกตายลงไปตามรอยแยก ทำให้มีซอมบี้ที่ประตูทิศเหนือตายไปนับ แสน

จ่าคูเปอร์ที่รอดตายมาได้มองไปที่กำแพงที่พังลง

“นี่มัน…หายนะ” เขามองไปที่ซอมบี้ที่มังไม่ตายเดินเข้ามาในกำแพง พวกมันร้องคำรามและตรงไปจัดการกับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ทหารบางคนที่ติดอยู่ตามซากปรักหักพังซึ่งไม่สามารถหนีได้ก็ถูกรุมกินในทันที

ทหารจำนวนมากตายลงไปในเพียงไปกี่นาทีต และตามมาด้วยประชาชนที่อยู่ด้านใน

การตายของทหารจากซอมบี้มากกว่าแผ่นดินไหวซะอีก เพราะพวกเขาเป็นด่านแรกที่ซอมบี้

“ตายซะ ตายซะ ตายซะ” จ่าคูเปอร์ไม่สนใจอีกแล้วว่าเขาจะตายหรือไม่ เพราะตอนนี้เขาบาดเจ็บที่ขา จะหนีก็ไม่ทันแล้ว

เขาสู้จนกระทั่งกระสุนนัดสุดท้าย และหายไปในทะเลซอมบี้ แต่ก่อนตายเขาก็ยังใช้ปากกัดซอมบี้จนตัวตายเช่นกัน

ซอมบี้จำนวนกว่า 2 แสนที่ยังเหลือรอดบุกเข้ามาในทางทิศเหนือ ฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนอย่างบ้าคลั่ง

เนื่องจากที่เขตทางทิศเหนือเป็นประตูหลักเข้าสู่ค่ายดังนั้นจึงมีผู้คนรวมตัวอาศัยกันอยู่เยอะที่สุด มันมีกว่า 6 แสนคน นั้นทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก และเชื้อซอมบี้ก็แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่ประตูทิศเหนือคนหนีตายอย่างสุดชีวิตไปที่ตะวันออกในทันที เพราะว่าประตูตะวันตกก็มีซอมบี้จำนวนมหาศาลเช่นกัน

ตอนนี้มีแค่ทางตะวันออกและทางใต้ของค่าย ที่ยังคงปลอดภัยอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 48 แผ่นดินไหว

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 48 แผ่นดินไหว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 48 แผ่นดินไหว

ก่อนหน้านั้นที่ทิศเหนือของค่าย 101 ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร ที่นี่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา

บนบัลลังกระดูก ที่มีซอมบี้กลายพันธุ์คุมกันอย่างแน่นหนา มีซอมบี้สติปัญญาสามตัวที่ตอนนี้กำลังนั่งกินเนื้อสด ๆ จากถาดขนาดยักษ์ที่มีเด็กสาวร่างเล็กถูกวางไว้

แขนขาของเธอถูกตัดออกจากร่างพร้อมกับหันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ราวกับซาซิมิ

ดวงดาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความกลัวและสิ้นหวัง สายตาที่เศร้าหมองมองไปที่เนื้อของ๖นเองที่ถูกกินอย่างช้า

เลือดที่ไหลออกจากร่างกายจนเหมือนกับเป็นน้ำจิ้มที่ถูกตักราดไปบนเนื้อสีแดงชมพู

“เนื้อมนุษย์อร่อยมาก” ซอมบี้สติปัญญาตัวอ้วนผู้มีหมายเลข 0 อยู่บนหน้าผากพูดออกมา มันคือซอมบี้สติปัญญา ขั้น 3 ที่มีพลังมากที่สุด

“ใช่ไหมล่ะ ข้าจับมันมาเลี้ยงไว้อย่างดี” ซอมบี้สติหญิงสามที่ดูราวกับแม่เลี้ยงใจร้ายกล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ ที่หน้าผากของเธอมีหมายเลข 2

“พวกเจ้าจะพิธีมากไปทำไม ก็แค่กิน ๆ มันไปตรง ๆ เลยก็จบ” ซอมบี้สติปัญญาที่ดูป่าเถือนที่มีเลข 1 อยู่บนหน้าผากใช้มือของมันแทงลงไปที่ท้องเด็กสาวและกระชากไส้ของเธออกมากินแบบสด ๆ ในทันที

“ไร้อารยธรรม”

“ป่าเถือน”

ทั้งสองตัวมองไปที่ซอมบี้สติปัญญา หมายเลข 1 อย่างรังเกียจ พวกมันใช้หมายเลขในการเรียกตัวอื่น ๆ เนื่องจากการตั้งชื่อ เป็นสิ่งที่พวกมันขี้เกียจทำ ซอมบี้ทั้งสองก็ลงมือกินชิ้นเนื้อต่อในทันที

“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ทันใดนั้นพวกมันก็ได้ยินเสียงของซอมบี้สติปัญญาหมายเลข 4 ที่ตายไป ซึ่งนี่เป็นคลื่นเสียงที่สติปัญญาแบบพวกมันสามารถได้ยินได้ไกลหลายสิบ หลายร้อยกิโลเมตร แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน

หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้ซอมบี้สติปัญญาทั้ง 3 ตัวก็หมดอารมณ์กินทันที

“บัดซบมนุษย์พวกนั้นฆ่าหมายเลข 4 ไปแล้ว”

“รีบเตือนให้หมายเลข 5 โจมตีทางตะวันออกซะ และสั่งให้หมายเลย 3 จัดการฝ่าเข้าไปในกำแพงของพวกมนุษย์ให้ได้”

“พวกเราจะแก้แค้นฆ่ามนุษย์ 1 ล้านคนเพื่อสั่งเวยเลือดให้กับหมายเลข 4”

ซอมบี้สติปัญญาทั้งสามตัวรีบสั่งการลงไปในทันที แต่ก่อนนั้นมันก็เห็นมังกรที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพหลังจากนั้นก็หล่นลงตามมาด้วยเสียงที่ดังสนั่น แค่แรงสั่นสะเทือนพวกมันก็ขนลุกขึ้นมาในทันทีด้วยความหวาดกลัว ถึงแบบนั้นพวกมันก็ไม่ได้ยินเสียงอกไรอีก

“บัดซบนั้นมันอะไร น่ากินมาก”

“มันตายหรือไม่”

“มันคงเป็นสัตว์ที่หลงเข้ามาต่อสู้กัน ไม่ต้องไปสนใจฆ่ามนุษย์ดีกว่า”

พวกมันไม่สนใจและจัดการฆ่ามนุษย์ผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในกรงกินเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยรอให้หมายเลข 3 พังกำแพงและเมื่อนั้นจานหลังของพวกมันก็จะเริ่มขึ้น

ที่ศูนย์บัญชาการกลาง ทุกคนกำลังมองดูภาพของมังกรที่ตัวยาวกว่า 600 เมตร ปีกที่กลางออกกว้างนับร้อย ๆ เมตร กำลังจับไปที่จิ้งจกหางหอกที่ดิ้นไปมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เหลือพื้นดินหลายกิโลเมตร

ตอนนี้ไม่มีใครพูดออกมาแม้แต่คนเดียวเพราะภพที่อยู่ตรงหน้ามันเกินกว่าจินตนาการ และทันใดนั้นมังกรและจิ้งจกยักษ์ก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ดังอุกกาบาตชนกับพื้นโลก

บูม!!!!!!!!!!!!!!!!

แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารทั้งหลังสั่นไหวในทันที โชคดีที่อาคารนี้แข็งแรงมากไม่งั้นมันอาจจะถล่มลงมาได้

พลตรีวินเซนต์มองไปที่ภาพของหลุมขนาดยักษที่เต็มไปด้วยฝุ่น “นี่มัน มังกรหรือ เด็กนั้นกลายเป็นมังกร หรือว่าความสามารถของเขาเป็น ร่างมังกร”

“เรื่องนั้นเราไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ เขามีความสามารถ ประเภทลึกลับแน่นอน ส่งภาพนี้ไปที่รัฐบาลกลางในทันที เรื่องนี้ใหญ่เกินไป”

“เด็กนั้นต้องถูกจัดอยู่ในรายชื่อ ความสามารถของเขาอันตรายเกินไป”

“ท่านว่าความสามารถของเขาเป็นระดับ S หรือไม่ เพราะอย่างไรน้องสาวและปูของเขาก็มีพลังถึงระดับ S”

พันเอกคนหนึ่งถามมาทันใดนั้น ทั้งพลตรีวินเซนต์และรัฐมลตรีพาลเมอร์ก็เงียบไป

ตัวตนที่มีพลังระดับ S เหมือนกับพวกหน่วยลับพวกนั้นนะหรือ แต่ก็ไม่แน่ไนเรลอาจจะมีระดับ S ก็ได้ ไม่สิต้องพลังระดับ S แน่นอน

พวกเขาอยากจะรู้จริง ๆ ถ้าไนเรลและคนพวกนั้นสู้กันจะเป็นอย่างไร

ที่สำนักงานย่อยของบริษัทพาราซัส ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 9

“มันเกิดอะไรขั้นรายงานเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”

“เป็นเรื่องจริง ชายที่ชื่อไนเรล อาโรเดีย ได้กลายร่างเป็นมังกรและฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ด้วยตัวคนเดียวพร้อมกับซอมบี้นับแสนตัว ที่สำคัญเขามีกองกำลังที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงกว่า 80 คนที่รวมในการฆ่าซอมบี้ในครั้งนี้”

“แจ้งเรื่องนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ และใส่รายชื่อเขาเป็นบุคคลอันตรายต่อบริษัท ถ้าเราไม่สามารถชวนเขาเข้าร่วมกับบริษัทพาราซัสได้ ก็กำจัดเขาไม่งั้นจะเป็นอันตรายต่อแผนของเราได้”

ที่ประตูตะวันออก ตอนนี้เอวาได้พาไนเรลกลับมาที่สมาพันธ์นักล่าแล้ว แต่ดูเหมือเขายังไม่ร้สึกตัว เธอได้ตามหมอที่เป็นเพื่อนกับหมอเฮนรี่มาช่วยดูอาการ เนื่องจากหมอแฮนรี่ถูกส่งตัวไปที่เมืองหลวงใหม่แล้ว

หลังจากที่ตรวจดูหมอคนนั้นก็ได้แต่ประหลาดใจเพราะว่า ไนเรลไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งบาดแผลตามตัวก็ไม่มี เขาแค่หลับไปก็เท่านั้นไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากรอให้เขาฟื้นขึ้นมาเอง

เอวานั่งเฝ้าอยู่ที่ด้านข้างเตียงและมองไปที่ไนเรลที่ตอนนี้กำลังหลับอยู่ ลมหายใจของเขานั้นช้ามาก เขาแทบจะใจทุก ๆ 1 นาทีเท่านั้น มันเหมือนกับการจำศีลไม่มีผิด

“ท่านเอวา ผมได้สั่งให้คนเคลื่อนย้ายหางของจิ้งจกหางหอกเข้ามาเก็บที่สมาพันธ์แล้ว ส่วนการคุ้มกันรอบด้านก็ให้ผู้พิทักษ์คุ้มกันรอบด้านอย่างแน่นหน้าแล้ว”

“อีกอย่างทหารทีประจำประตูตะวันออกต้องการพบกับท่านเพื่อถามเรื่องของท่านประธาน”

“ฝากนายจัดการด้วย” เธอแค่ส่งเสียงตอบกลับไปเท่านั้น

เซนเดินถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รบกวนไนเรลและเอวา

หลังจากที่เซนเดินออกมา เขาก็ไปหาพลตรีวัยกลางคนก็เดินไปหาทันที “ว่าอย่างไรบ้าง”

“เชิญท่านพลตรีกลับไปก่อน เนื่องจากตอนนี้ท่านเอวายังไม่สะดวกคุย หรือท่านจะรอก็ได้ แต่ว่าไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ท่านเอวาจะออกมา”

“คงจะไม่สามารถอยู่รอได้ เพราะต้องไปสมทบกับประตูตะวันตก ถ้าไนเรลฟื้นก็บอกว่าพลตรีติอาโก้ฝากขอบคุณ”

หลังจากนั้นพลตรีติอาโก้ก็พาทหารที่เหลืออยู่ไม่กี่สิบนายมุ่งหน้าไปสมทบกับประตูตะวันตก เนื่องจากที่ประตูตะวันออกนั้นไม่มีซอมบี้หลงเหลืออยู่แม้สักตัว

อีกอย่างพวกกองกำลังตำรวจก็เข้ามาดูความเรียบร้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่แล้ว

เวลาเที่ยงคืนที่ทิศเหนือ ตอนนี้ซอมบี้บุกโจมตีมา 18 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ซอมบี้ทั้งทางฝั่งทิศเหนือน่าเป็นห่วงมากเนื่องจากซอมบี้จำนวนมากที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

แต่กลับกันทหารที่ถอยกลับมาในกำแพง เพื่อใช้กำแพงต้านซอมบี้จำนวนหลายแสนตัวนี้

ปัง! ปัง! ปัง!

“ตายไปซะ” จ่าคูเปอร์ยิงไปที่ซอมบี้ด้วยสภาพที่เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ตอนนี้ตัวของเขามันปวดไปหมด จากการที่ยิงปืนทั้งวันแต่มันก็ยังดีกว่าบางคนที่ตายไป

เขากำหมัดแน่นและนึกถึงคำสั่งที่ว่าต้องต้านไว้ให้ได้จนถึงเที่ยงคืนค่อยถอยกับมาที่กำแพง ในขณะที่หน่วยดาบถอยกำลังกลับไปเพื่อรักษาพลังในการต่อสู้ นั้นทำให้เขาเสียคนในหน่วยไปถึง 10 คนรวมถึงร้อยเอกที่สั่งการด้วย

แต่คูเปอร์ก็ทำได้แค่เก็บความโกรธไว้ เขารู้ว่าค่าของมนุษย์ชั้นสูงมีค่ามากกว่าทหารแบบพวกเขา

ในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ มีเสียงบินของสัตว์จำนวนมากที่ดังมาจากบนท้องฟ้า ทหารหลายคนก็ชี้ไปที่บนท้องฟ้า

“นั้นมันอะไร ซอมบี้ปีกใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่นั้นมันนก ไม่ใช่แค่นก แต่ยังมีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กที่บินได้จำนวนมาก”

“ดูที่พื้นเร็ว มันมีแมลงและสัตว์ขนาดเล็กเต็มไปหมดเลย”

“พวกมันจะอพยบไปไหนกัน”

ทหารทุกคนเริ่มใจไม่ดี ไม่ใช่แค่ทหารแต่เป็นทุกคนที่อยู่ในค่ายลี้ภัย รวมถึงเมืองหลวงใหม่และค่ายอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในทุกที่ พร้อมกับเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวที่ยังคงทำงานก็วัดค่าพลังงานจากใต้พิภพอย่างต่อเนื่อง ได้ถึง 10.5 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์ในดินแดนที่ไม่รู้จักห่างออกไปจากประเทศมิสทาลหลายแสนกิโลเมตร มันส่งผลกระทบต่อทั้ง 7 ประเทศในทันที

จ่าคูเปอร์ถึงกลับกลัวขึ้นมาในทันที เพราะอยู่ ๆ ก็มีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

คลื่น ๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

“หลบเร็วหาที่หลบ”

“แผ่นดินไหว ๆ หนีไปจากตรงนี้เร็วมีรอยแยก”

“วิ่งกำแพงกำลังจะถล่มลงมา”

“นี่มัน…” คูเปอร์มองไปที่ผืนดินที่กำลังจะยุบลงพร้อมกับกำแพงที่พังทลายลง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ทางประตูทิศเหนือร่วงหล่นลงตามผืนดินที่ยุบลงไป

รอยแยกของพื้นดินตัดผ่านกลางค่ายลี้ภัย 101 ตั้งแต่ทิศเหนือไปทางตะวันตกกินพื้นที่หลายสิบกิโลเมตรหลุมที่ลึกตั้งแต่ไม่กี่สิบเมตรจนไปถึงร้อยเมตร

แรงสั่นสะเทือนกินเวลาไม่กี่นาที แต่ที่ตามมาคือ อาฟเตอร์ ช็อค อีกหลายครั้ง บ้านเลือนผู้คนจำนวนมากได้รับความเสียหาย โชคยังดีที่ค่ายลี้ภัยนั้นมีตึกสูงไม่มากส่วนใหญ่จะเป็นบ้านและอาคารเดี่ยว

แต่มันก็ทำให้คนตายไปทันทีนับพัน และบาดเจ็บนับหมื่นในทันที

ทางฝั่งของซอมบี้เองก็เช่นเดียวกันพวกมันได้รับความเสียหายและตายเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่า แนวกำแพงเหล็กได้หล่นทับมันลงมาใส่ซอมบี้หรือไม่ก็ตกตายลงไปตามรอยแยก ทำให้มีซอมบี้ที่ประตูทิศเหนือตายไปนับ แสน

จ่าคูเปอร์ที่รอดตายมาได้มองไปที่กำแพงที่พังลง

“นี่มัน…หายนะ” เขามองไปที่ซอมบี้ที่มังไม่ตายเดินเข้ามาในกำแพง พวกมันร้องคำรามและตรงไปจัดการกับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ทหารบางคนที่ติดอยู่ตามซากปรักหักพังซึ่งไม่สามารถหนีได้ก็ถูกรุมกินในทันที

ทหารจำนวนมากตายลงไปในเพียงไปกี่นาทีต และตามมาด้วยประชาชนที่อยู่ด้านใน

การตายของทหารจากซอมบี้มากกว่าแผ่นดินไหวซะอีก เพราะพวกเขาเป็นด่านแรกที่ซอมบี้

“ตายซะ ตายซะ ตายซะ” จ่าคูเปอร์ไม่สนใจอีกแล้วว่าเขาจะตายหรือไม่ เพราะตอนนี้เขาบาดเจ็บที่ขา จะหนีก็ไม่ทันแล้ว

เขาสู้จนกระทั่งกระสุนนัดสุดท้าย และหายไปในทะเลซอมบี้ แต่ก่อนตายเขาก็ยังใช้ปากกัดซอมบี้จนตัวตายเช่นกัน

ซอมบี้จำนวนกว่า 2 แสนที่ยังเหลือรอดบุกเข้ามาในทางทิศเหนือ ฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนอย่างบ้าคลั่ง

เนื่องจากที่เขตทางทิศเหนือเป็นประตูหลักเข้าสู่ค่ายดังนั้นจึงมีผู้คนรวมตัวอาศัยกันอยู่เยอะที่สุด มันมีกว่า 6 แสนคน นั้นทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก และเชื้อซอมบี้ก็แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่ประตูทิศเหนือคนหนีตายอย่างสุดชีวิตไปที่ตะวันออกในทันที เพราะว่าประตูตะวันตกก็มีซอมบี้จำนวนมหาศาลเช่นกัน

ตอนนี้มีแค่ทางตะวันออกและทางใต้ของค่าย ที่ยังคงปลอดภัยอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+