re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 61 โคลอสเซียม

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 61 โคลอสเซียม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 61 โคลอสเซียม

 

หลังจากที่จัดการซอมบี้สติปัญญาลงไปท้องแล้ว ไนเรลก็บินลงมาหยุดขวางรถไว้เพื่อจะขอติดตามเดินทางเข้าไปในโคลอสเซียมด้วย เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนนอกของที่นี่ ถ้าได้คนพื้นที่นําทางพาเข้าไป มันก็คงจะง่ายกว่า

 

ไนเรลมองไปที่ทุกคนที่มีท่าทีหวาดระแวง ทันใดนั้นคนที่เหมือนจะเป็นผู้นําของกลุ่มนี้ก็เดินเข้าหาเขาอย่างระมัดระวัง

 

“นายคือคนที่จัดการกับซอมบี้สติปัญญาเมื่อสักครู่ใช่หรือไม่ นายเป็นใครกัน? แล้วมาทําอะไรที่นี่” โรฮานถามออกมาพร้อมกับระวังตัวเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าไนเรลต้องการอะไร

 

ไนเรลก็มองไปที่เขาเช่นกันและกล่าวออกมา “ฉันชื่อ ไนเรล ส่วนมาทําอะไรที่นี้ก็คงแค่ผ่านทางมา และอยากจะติดรถไปหาที่พักสักหน่อยหลังจากเดินทางมาเหนื่อย ๆ” 

 

“นายมาจากไหน?”

 

“ที่เมืองย่อย 101 ที่รัฐบาลปกครองอยู่”

 

“รัฐบาลยังอยู่?” โรฮานถามออกมาด้วยความแปลกใจแบบสุด ๆ คนในกลุ่มที่ได้ยินก็ทําสีหน้าแบบเดียวกัน แต่มันก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้พวกเขาตัดขาดข่าวสารกับโลกภายนอกมาสมควร ตอนที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตและวิทยุยังใช้ได้พวกเขาก็ได้ยินประกาศทางรัฐบาลเช่นกันว่ามีการจัดตั้งค่ายลี้ภัยหลายแห่ง แต่พวกเขาก็เดินทางไปไม่ทัน หรือไปทันค่ายเหล่านั้นก็โดนซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์บุกโจมตีทําลายไปหมด

 

ในทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาไปค่ายลี้ภัยพร้อมกับความหวัง แต่เมื่อเห็นสภาพมันก็เป็นการทําลายความหวัง และเมื่อเกิดขึ้นหลาย ๆ ครั้งเข้าพวกเขาก็หมดหวังกับค่ายเหล่านั้นแล้ว

 

ดังนั้นพวกเขาจึงแปลกใจที่ยังมีค่ายลี้ภัย หรือแม้กระทั่งเมืองของรัฐบาลที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

 

ไนเรลเหมือนความหวังที่จุดประกายผ่านสายตาของทุกคนที่ต้องการจะถามถึงเมืองเหล่านั้นว่าอยู่ตรงไหน แต่ไนเรลก็ห้ามไว้ก่อนในทันที

 

“ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะในการคุยกันเท่าไหร่ ฉันว่าเราไปจากที่นี่กันก่อนหรือไม่” ไนเรลมองไปทางแนวป่าด้านหลังที่ซอมบี้ที่ไร้ผู้นําเดินตามออกมาแล้ว

 

โรฮานเองก็อยากจะถามเรื่องของเมืองมากกว่านี้แต่เมื่อเขาเห็นซอมบี้ก็พยักหน้าตกลง เขาไม่ได้กลัวว่าไนเรลจะโกหก เพราะถึงอย่างไรถ้าไนเรลจะโกหกเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียหายก็แค่พาเขาไปที่เมืองแลกเปลี่ยนก็แค่นั้น แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือการได้ผูกมิตรกับคนที่แข็งแกร่งแบบไนเรล

 

และถ้าสิ่งที่ไนเรลพูดเป็นจริงพวกมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีก็เท่านั้น โรฮานเรียนรู้ที่จะไม่ตั้งความหวังไว้สูงมากนักในเวลาที่ผ่านมา ๆ เพราะยิ่งตั้งความหวังไว้สูงก็ยิ่งผิดหวังมาก

 

หลังจากนั้นไนเรลก็ขึ้นไปกับรถของโรฮานและทั้งกลุ่มก็ออกเดินทางอีกครั้ง

 

ในระหว่างทางทุกคนมองไปที่ไนเรลอย่างอยากรู้อยากเห็นแต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้าไปเริ่มพูดก่อนเพราะการวางตัวของไนเรลนั้นดูเย็นชาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชุดที่ใสและหน้ากากสีทองนั้น

 

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะทองคํา สําหรับพวกเขาที่ได้รวมกลุ่มและมีเมืองแลกเปลี่ยนสิ่งของกันนั้นก็แน่นอนว่ามันจะต้องมีการสร้างเงินตราขึ้นมาและแน่นอนว่าเงินกระดาษเก่านั้นไม่มีใครสนใจ

 

ดังนั้นมันจึงมีการใช้ทองคําในการแลกเปลี่ยน “เหรียญทองคํา” ซึ่งที่มนุษย์ทุกคนปลูกฝังไว้ในสมองว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่าและมันก็ยังใช้ได้กับยุคนี้อยู่

 

ในการมาครั้งนี้ของเขา ไนเรลก็เอาทองคําบางส่วนมาด้วยเช่นกัน

 

ป่าที่กลุ่มของโรฮานออกมาล่านั้นอยู่ไม่ไกลมากนักจากโคลอสเซียม ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงก็มาถึง

 

ภาพแรกที่ไนเรลสามารถบรรยายถึงลักษณะของเมืองแลกเปลี่ยนโคลอสเซียมได้นั้นก็คือมันเป็นแอ่งหลุมขนาดใหญ่กว่าหลายกิโลเมตรมีกําแพงหินล้อมรอบ ตรงกลางมีทะเลสาบที่เป็นแหล่งน้ำสะอาดหล่อเลี้ยงเมืองแห่งนี้

 

นั้นทําให้ที่นี่สามารถป้องกันสัตว์กลายพันธุ์ได้ ยกเว้นแต่พวกที่บินได้ซึ่งทุกคนก็ต้องระวังตัวเอาเองเพราะวันดีคืนดีโดยเฉพาะกลางคืนอาจจะโดนนกยักษ์โฉบไปกินก็ถือว่าซวยไป 

 

ส่วนซอมบี้พวกเขาก็จะส่งคนของไปคอยตรวจตราและจัดการเป็นบางครั้ง เพื่อไม่ให้ซอมบี้สติปัญญารู้ถึงที่อยู่ของพวกเขา เพราะไม่งั้นพวกมันได้กลับไปตามตัวอื่น ๆ มาถล่มพวกเขาแน่ ๆ ซึ่งหน้าที่นี่ก็คงตกเป็นของคนที่ปกครองที่นี่

 

ตามข้อมูลในชีวิตก่อนของเขา มันมี 3 ตัวตนที่ปกครองอยู่โคลอสเซียมอยู่คือ มังกรดํา ดอลล่า และสุดท้าย ขวานซิ่ง

 

ทั้ง 3 นี้เป็นกลุ่มแก๊งที่มีอิทพลและมีมนุษย์ชั้นสูงอยู่เบื้องหลัง ถ้าจะพูดถึงความสัมพันธ์นั้นก็คงจะต้องบอกว่า เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงที่นี่เลยที่มีเสือถึง 3 ตัว และหมาป่าตัวเล็กตัวน้อยที่คอยจ้างจะกินเสืออีก

 

แต่ถ้ากลุ่มที่บาดหมางกันสุด ๆ เลยก็คงจะเป็น มังกรดําและขวานซิ่งที่เจอหน้ากันที่ก็กัดกันที่ ถ้าไม่ใช่เพราะมีกลุ่มดอลล่าที่ทําตัวเป็นนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง พวกเขาคงจะสู้ในศึกตัดสินเป็นตายกันไปแล้ว

 

หลังจากที่ยอมจ่ายทองไปเล็ก ๆ น้อย ๆ กลุ่มของโรฮานก็เข้ามาด้านในได้ ซึ่งแน่นอนว่าทองที่จ่ายไปเป็นค่าผ่านทางของคนธรรมดาส่วนมนุษย์ชั้นสูงนั้น ผ่านเข้ามาฟรี

 

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าทางโคลอสเซียมนั้นให้ความสําคัญกับมนุษย์ชั้นสูงมากเป็นพิเศษ

 

หลังจากนั้นโรฮานก็ให้คนของเขาเอาซากหมูป่ากลายพันธุ์ขั้น 3 ไปจัดการ ส่วนตัวเขาและมนุษย์ชั้นสูงในกลุ่มก็เชิญไนเรลไปที่บ้านพักของพวกเขา

 

ถ้าจะพูดว่าบ้านพักมันก็คงจะไม่ค่อยถูกต้องพูดว่าเป็นบ้านไม้ที่สร้างมาจากต้นไม้ทั้งท่อนถูกขนย้ายเข้ามาและสร้างอย่างลวก ๆ ก็เท่านั้น

ถ้าไม้ใหญ่พวกนี้ปรากฏขึ้นมาในตอนที่โลกสงบสุขนั้นมันคงจะเป็นของที่มีค่ามากกว่าทองคําอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้มันมีขึ้นอยู่ทั่วไปหมดใครอยากตัดก็ตัด แต่แน่นอนว่าบ้านแบบนี้มันก็ยังดีกว่านอนข้างถนน

 

หลังจากที่เขามาด้านในไนเรลก็บอกเล่าถึงเมืองย่อยและข้อมูลบางส่วนเป็นการตอบแทนพวกเขา ถึงแม้พวกเขาจะแทบไม่ได้ช่วยอะไรไนเรลเลยก็ตาม

 

ในตอนที่เขาเล่าตอนแรกสีหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อรู้ว่าระยะทางมันไกลขนาดไหนพวกเขาก็เริ่มหดหู่

 

เพราะขนาดไนเรลยังใช้เวลาบินถึง 3 วันกว่าจะมาถึงที่นี่ ถ้าพวกเขานั่งรถหรือเดินไปก็คงจะใช้เวลาหลายสัปดาห์และแน่นอนมันต้องมีคนตายอย่างแน่นอน

 

หลายคนคิดเสียใจถ้าพวกเขารู้และเดินทางในช่วงแรก ๆ ก็อาจจะไปถึงที่นั่นแล้ว เพราะสัตว์กลายพันธุ์? ก็คงจะยังไม่มีระดับสูงมากเท่าตอนนี้

 

หลังจากนั้นไนเรลก็ขอตัวออกไปหาที่พัก แต่แน่นอนว่าโรฮานก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะรับเอาข้อมูลของไนเรลมาฟรี ๆ เขาจึงเสนอที่พักให้

 

ไนเรลมองไปที่โรฮานอย่างมีความใน ที่เขามองไปแบบนั้นเพราะจากการพูดคุยเขารู้ว่าโรฮานเป็นคนของมังกรดํา ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็คงมีแผนจะชักชวนไนเรลเข้าร่วมมังกรดํา

 

แต่ไนเรลไม่ได้มีความคิดจะเข้าร่วมเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาคิดว่าแค่จะพักหนึ่งถึงสองวันจากนั้นก็จะออกเดินทางต่อ

 

ถ้าพูดให้ถูกเขาก็แค่อยากจะมาเปิดหูเปิดตา หรือเที่ยวเล่นก็แค่นั้น ดังนั้นการพักกับโรฮานก็เป็นแค่การพักชั่วคราว เพราะต่อให้เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้สนใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทั้งสองกลุ่มอยู่แล้ว

 

และแน่นอนไนเรลก็ตอบตกลงไป ที่พักฟรีใครจะไม่ชอบ

 

หลังจากนั้น โรฮานก็เรียกสาวสวยสองคนเข้ามาคอยดูแลไนเรล คอยนําทางและทุกอย่างที่ไนเรลต้องการ

 

เมื่อมองดูที่ร่างกายของพวกเธอ ไนเรลก็เห็นบาดแผลและปลอกเหล็กที่ขาที่โผล่ออกมาจากเสื้อผ้าที่นอยนิดนั้น “ทาส” นี่คือสิ่งที่เข้ามาในหัวของเขา

 

แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจหรือต่อว่า โรฮาน ที่นี่มันคือเรื่องปกติ คนที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ก็ต้องอาศัยคนที่แข็งแกร่ง ในการมีชีวิตรอด ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเธอบางคนจะยินยอมปลงใจมาเองเพราะถึงอย่างไรก็มีของกินและข้าวสามมื้อให้ ดีกว่าต้องไปอยู่ข้างถนน นอนหิวตายหรือกลายเป็นหญิงขายบริการแลกกับข้าวไปวัน ๆ

 

หลังจากนั้นทั้งสองก็นําทางไนเรลไปที่บริเวณค้าขายซึ่งอยู่แถว ๆ ทะเลสาบ

 

ที่โคลอสเซียมนั้นมีผู้คนอยู่ราว ๆ 5 หมื่นคนถ้าดูจากขนาดและความหนาแน่นของคน

 

ในทุก ๆ วันจะมีคนจากค่ายและเมืองใกล้ที่ปกครองจากมนุษย์ชั้นสูง เดินทางเข้าออกอีกจํานวนมาก สิ่งที่พวกเขาเอามาขายก็มีทั้งเนื้อสัตว์ เสื้อผ้า ของกินจากโลกเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ หรือแม้แต่มนุษย์และสิ่งแปลกใหม่ เช่นสิ่งที่เขามองอยู่ในตอนนี้นั้นก็คือ อสูร

 

“นี่มัน…นิมฟ์” ไนเรลพึมพําออกมาในทันที เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับตัวตนแบบนี้ได้

 

เผ่านิมฟ์นั้นจัดเป็นอสูรที่กําเนิดขึ้นมาจากธรรมชาติ และทุกตนจะเป็นหญิง ดังนั้นพวกเธอจึงมีรูปร่างที่มีพลังในการล่อลวงบุรุษเพศในตัว ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างก็คงจะเป็นตามผิวหนังที่ข้อมือแขนและไหลบางจุดที่เป็นเหมือนกับผิวของเชือกไม้แต่มันก็ยิ่งเสริมให้พวกเธอมีเสน่ห์มากขึ้นก็เท่านั้น !

ถ้ามีอสูรสาวสวยนิมฟ์ก็ต้องมีของที่คู่กันนั้นก็คือ น้ำค้างแห่งชีวิต ที่สามารถรักษาได้ทุกอาการบาดเจ็บ และการป่วย ถ้าใช้ในปริมาณที่มากพอ

 

และไนเรลก็ต้องเอาน้ำค้างแห่งชีวิตมาให้ได้ เพราะเขาจะต้องเติมเต็มคําสัญญาที่ให้ไว้กับ จูเรียว่าจะรักษาให้เธอกลับมาเดินได้ จริงอยู่ว่าในโลกนี้มีของหลายสิ่งที่ให้รักษาได้ และเขาก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงกําหนดของสัญญา แต่ถ้าได้น้ำแห่งชีวิตมามันก็ต้องดีกว่าแน่นอนเพราะเขาไม่ต้องไปตามหาของเหล่านั้นให้เสียเวลาอีก

 

“ผู้หญิงคนนี้ราคาเท่าไหร่” ไนเรลรีบเดินเข้าไปถามราคาขายของนิมฟ์สาวตนนี้ในทันที

 

เมื่อพ่อค้าร่างอ้วนเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามา เขาก็ยิ้มออกมาในทันที แต่เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ไนเรลถามถึงนั้นก็คือ หญิงสาวที่มีร่างกายที่ผิดปกติคนนี้ เขาก็ทําหน้าผิดหวังเล็กน้อยให้ไนเรลได้เห็น

 

“น้องชาย ผู้หญิงที่นายถาม มันไม่ได้มีไว้ขายแต่เป็นของรางวัลที่จะถูกมอบให้กับมนุษย์ชั้นสูงที่เข้าร่วมการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้”

 

“การต่อสู้?” ไนเรลถามอย่างสงสัย

 

“การต่อสู้ที่ถูกจัดขึ้นโดยคนของทั้ง 3 กลุ่มใหญ่ มังกรดํา ดอลล่า และ ขวานซิ่ง” พ่อค้าร่างอ้วนอธิบาย

 

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็นึกถึงบางเรื่อง การต่อสู้ที่ว่านั้นคือการสู้ที่เป็นเหมือนกับกีฬาในสมัยโบราณอย่าง กลาดิเอเตอร์ คนสู้กับสัตว์ คนสู้กับคน แต่ที่นี่มีมากกว่าคือ มนุษย์ชั้นสูงสู้กับมนุษย์ชั้นสูง

 

เมื่อสิ่งบันเทิงในโลกอย่างหนัง ละครหรือไม่มีมนุษย์อย่างพวกเขาก็หาสิ่งใหม่ ๆ มาทดแทนเพื่อแก้เบื่อหน่ายอยู่เสมอและก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความบันเทิงที่ดีที่สุดคือ การพนัน

 

แล้วพนันอะไรจะดีที่สุดละในโลกที่ไม่มีกฎหมายแบบนี้ ก็คงจะเป็นการต่อสู้แบบถึงตายพวกนี้

 

ความคิดของไนเรลประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าเขาจะขโมยเธอดีหรือไม่ แต่สักพักเขาก็คิดว่าจะเข้าร่วมในการต่อสู้จะดีกว่า ด้วยพลังของเขานั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเอาชนะมนุษย์ชั้นสูงระดับต่ำที่ลงสมัครเหล่านี้

 

ที่สําคัญเขาไม่ต้องการสร้างปัญหาในทุกที่ ๆ ไปเพราะถึงแม้จะมีพลังที่เหนือกว่าก็ตาม หรือก็คือเขาไม่ต้องการเป็นจุดเด่น

 

ไนเรลเลียปากและคิดว่าเขาคงจะสามารถผูกมิตรกับมนุษย์ชั้นสูงที่เข้ารวมต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ได้บ้างนะ เพราะการมีมิตรก็ดีกว่าการมีศัตรู

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 61 โคลอสเซียม

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 61 โคลอสเซียม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 61 โคลอสเซียม

 

หลังจากที่จัดการซอมบี้สติปัญญาลงไปท้องแล้ว ไนเรลก็บินลงมาหยุดขวางรถไว้เพื่อจะขอติดตามเดินทางเข้าไปในโคลอสเซียมด้วย เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนนอกของที่นี่ ถ้าได้คนพื้นที่นําทางพาเข้าไป มันก็คงจะง่ายกว่า

 

ไนเรลมองไปที่ทุกคนที่มีท่าทีหวาดระแวง ทันใดนั้นคนที่เหมือนจะเป็นผู้นําของกลุ่มนี้ก็เดินเข้าหาเขาอย่างระมัดระวัง

 

“นายคือคนที่จัดการกับซอมบี้สติปัญญาเมื่อสักครู่ใช่หรือไม่ นายเป็นใครกัน? แล้วมาทําอะไรที่นี่” โรฮานถามออกมาพร้อมกับระวังตัวเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าไนเรลต้องการอะไร

 

ไนเรลก็มองไปที่เขาเช่นกันและกล่าวออกมา “ฉันชื่อ ไนเรล ส่วนมาทําอะไรที่นี้ก็คงแค่ผ่านทางมา และอยากจะติดรถไปหาที่พักสักหน่อยหลังจากเดินทางมาเหนื่อย ๆ” 

 

“นายมาจากไหน?”

 

“ที่เมืองย่อย 101 ที่รัฐบาลปกครองอยู่”

 

“รัฐบาลยังอยู่?” โรฮานถามออกมาด้วยความแปลกใจแบบสุด ๆ คนในกลุ่มที่ได้ยินก็ทําสีหน้าแบบเดียวกัน แต่มันก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้พวกเขาตัดขาดข่าวสารกับโลกภายนอกมาสมควร ตอนที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตและวิทยุยังใช้ได้พวกเขาก็ได้ยินประกาศทางรัฐบาลเช่นกันว่ามีการจัดตั้งค่ายลี้ภัยหลายแห่ง แต่พวกเขาก็เดินทางไปไม่ทัน หรือไปทันค่ายเหล่านั้นก็โดนซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์บุกโจมตีทําลายไปหมด

 

ในทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาไปค่ายลี้ภัยพร้อมกับความหวัง แต่เมื่อเห็นสภาพมันก็เป็นการทําลายความหวัง และเมื่อเกิดขึ้นหลาย ๆ ครั้งเข้าพวกเขาก็หมดหวังกับค่ายเหล่านั้นแล้ว

 

ดังนั้นพวกเขาจึงแปลกใจที่ยังมีค่ายลี้ภัย หรือแม้กระทั่งเมืองของรัฐบาลที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

 

ไนเรลเหมือนความหวังที่จุดประกายผ่านสายตาของทุกคนที่ต้องการจะถามถึงเมืองเหล่านั้นว่าอยู่ตรงไหน แต่ไนเรลก็ห้ามไว้ก่อนในทันที

 

“ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะในการคุยกันเท่าไหร่ ฉันว่าเราไปจากที่นี่กันก่อนหรือไม่” ไนเรลมองไปทางแนวป่าด้านหลังที่ซอมบี้ที่ไร้ผู้นําเดินตามออกมาแล้ว

 

โรฮานเองก็อยากจะถามเรื่องของเมืองมากกว่านี้แต่เมื่อเขาเห็นซอมบี้ก็พยักหน้าตกลง เขาไม่ได้กลัวว่าไนเรลจะโกหก เพราะถึงอย่างไรถ้าไนเรลจะโกหกเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียหายก็แค่พาเขาไปที่เมืองแลกเปลี่ยนก็แค่นั้น แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือการได้ผูกมิตรกับคนที่แข็งแกร่งแบบไนเรล

 

และถ้าสิ่งที่ไนเรลพูดเป็นจริงพวกมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีก็เท่านั้น โรฮานเรียนรู้ที่จะไม่ตั้งความหวังไว้สูงมากนักในเวลาที่ผ่านมา ๆ เพราะยิ่งตั้งความหวังไว้สูงก็ยิ่งผิดหวังมาก

 

หลังจากนั้นไนเรลก็ขึ้นไปกับรถของโรฮานและทั้งกลุ่มก็ออกเดินทางอีกครั้ง

 

ในระหว่างทางทุกคนมองไปที่ไนเรลอย่างอยากรู้อยากเห็นแต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้าไปเริ่มพูดก่อนเพราะการวางตัวของไนเรลนั้นดูเย็นชาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชุดที่ใสและหน้ากากสีทองนั้น

 

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะทองคํา สําหรับพวกเขาที่ได้รวมกลุ่มและมีเมืองแลกเปลี่ยนสิ่งของกันนั้นก็แน่นอนว่ามันจะต้องมีการสร้างเงินตราขึ้นมาและแน่นอนว่าเงินกระดาษเก่านั้นไม่มีใครสนใจ

 

ดังนั้นมันจึงมีการใช้ทองคําในการแลกเปลี่ยน “เหรียญทองคํา” ซึ่งที่มนุษย์ทุกคนปลูกฝังไว้ในสมองว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่าและมันก็ยังใช้ได้กับยุคนี้อยู่

 

ในการมาครั้งนี้ของเขา ไนเรลก็เอาทองคําบางส่วนมาด้วยเช่นกัน

 

ป่าที่กลุ่มของโรฮานออกมาล่านั้นอยู่ไม่ไกลมากนักจากโคลอสเซียม ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงก็มาถึง

 

ภาพแรกที่ไนเรลสามารถบรรยายถึงลักษณะของเมืองแลกเปลี่ยนโคลอสเซียมได้นั้นก็คือมันเป็นแอ่งหลุมขนาดใหญ่กว่าหลายกิโลเมตรมีกําแพงหินล้อมรอบ ตรงกลางมีทะเลสาบที่เป็นแหล่งน้ำสะอาดหล่อเลี้ยงเมืองแห่งนี้

 

นั้นทําให้ที่นี่สามารถป้องกันสัตว์กลายพันธุ์ได้ ยกเว้นแต่พวกที่บินได้ซึ่งทุกคนก็ต้องระวังตัวเอาเองเพราะวันดีคืนดีโดยเฉพาะกลางคืนอาจจะโดนนกยักษ์โฉบไปกินก็ถือว่าซวยไป 

 

ส่วนซอมบี้พวกเขาก็จะส่งคนของไปคอยตรวจตราและจัดการเป็นบางครั้ง เพื่อไม่ให้ซอมบี้สติปัญญารู้ถึงที่อยู่ของพวกเขา เพราะไม่งั้นพวกมันได้กลับไปตามตัวอื่น ๆ มาถล่มพวกเขาแน่ ๆ ซึ่งหน้าที่นี่ก็คงตกเป็นของคนที่ปกครองที่นี่

 

ตามข้อมูลในชีวิตก่อนของเขา มันมี 3 ตัวตนที่ปกครองอยู่โคลอสเซียมอยู่คือ มังกรดํา ดอลล่า และสุดท้าย ขวานซิ่ง

 

ทั้ง 3 นี้เป็นกลุ่มแก๊งที่มีอิทพลและมีมนุษย์ชั้นสูงอยู่เบื้องหลัง ถ้าจะพูดถึงความสัมพันธ์นั้นก็คงจะต้องบอกว่า เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงที่นี่เลยที่มีเสือถึง 3 ตัว และหมาป่าตัวเล็กตัวน้อยที่คอยจ้างจะกินเสืออีก

 

แต่ถ้ากลุ่มที่บาดหมางกันสุด ๆ เลยก็คงจะเป็น มังกรดําและขวานซิ่งที่เจอหน้ากันที่ก็กัดกันที่ ถ้าไม่ใช่เพราะมีกลุ่มดอลล่าที่ทําตัวเป็นนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง พวกเขาคงจะสู้ในศึกตัดสินเป็นตายกันไปแล้ว

 

หลังจากที่ยอมจ่ายทองไปเล็ก ๆ น้อย ๆ กลุ่มของโรฮานก็เข้ามาด้านในได้ ซึ่งแน่นอนว่าทองที่จ่ายไปเป็นค่าผ่านทางของคนธรรมดาส่วนมนุษย์ชั้นสูงนั้น ผ่านเข้ามาฟรี

 

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าทางโคลอสเซียมนั้นให้ความสําคัญกับมนุษย์ชั้นสูงมากเป็นพิเศษ

 

หลังจากนั้นโรฮานก็ให้คนของเขาเอาซากหมูป่ากลายพันธุ์ขั้น 3 ไปจัดการ ส่วนตัวเขาและมนุษย์ชั้นสูงในกลุ่มก็เชิญไนเรลไปที่บ้านพักของพวกเขา

 

ถ้าจะพูดว่าบ้านพักมันก็คงจะไม่ค่อยถูกต้องพูดว่าเป็นบ้านไม้ที่สร้างมาจากต้นไม้ทั้งท่อนถูกขนย้ายเข้ามาและสร้างอย่างลวก ๆ ก็เท่านั้น

ถ้าไม้ใหญ่พวกนี้ปรากฏขึ้นมาในตอนที่โลกสงบสุขนั้นมันคงจะเป็นของที่มีค่ามากกว่าทองคําอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้มันมีขึ้นอยู่ทั่วไปหมดใครอยากตัดก็ตัด แต่แน่นอนว่าบ้านแบบนี้มันก็ยังดีกว่านอนข้างถนน

 

หลังจากที่เขามาด้านในไนเรลก็บอกเล่าถึงเมืองย่อยและข้อมูลบางส่วนเป็นการตอบแทนพวกเขา ถึงแม้พวกเขาจะแทบไม่ได้ช่วยอะไรไนเรลเลยก็ตาม

 

ในตอนที่เขาเล่าตอนแรกสีหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อรู้ว่าระยะทางมันไกลขนาดไหนพวกเขาก็เริ่มหดหู่

 

เพราะขนาดไนเรลยังใช้เวลาบินถึง 3 วันกว่าจะมาถึงที่นี่ ถ้าพวกเขานั่งรถหรือเดินไปก็คงจะใช้เวลาหลายสัปดาห์และแน่นอนมันต้องมีคนตายอย่างแน่นอน

 

หลายคนคิดเสียใจถ้าพวกเขารู้และเดินทางในช่วงแรก ๆ ก็อาจจะไปถึงที่นั่นแล้ว เพราะสัตว์กลายพันธุ์? ก็คงจะยังไม่มีระดับสูงมากเท่าตอนนี้

 

หลังจากนั้นไนเรลก็ขอตัวออกไปหาที่พัก แต่แน่นอนว่าโรฮานก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะรับเอาข้อมูลของไนเรลมาฟรี ๆ เขาจึงเสนอที่พักให้

 

ไนเรลมองไปที่โรฮานอย่างมีความใน ที่เขามองไปแบบนั้นเพราะจากการพูดคุยเขารู้ว่าโรฮานเป็นคนของมังกรดํา ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็คงมีแผนจะชักชวนไนเรลเข้าร่วมมังกรดํา

 

แต่ไนเรลไม่ได้มีความคิดจะเข้าร่วมเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาคิดว่าแค่จะพักหนึ่งถึงสองวันจากนั้นก็จะออกเดินทางต่อ

 

ถ้าพูดให้ถูกเขาก็แค่อยากจะมาเปิดหูเปิดตา หรือเที่ยวเล่นก็แค่นั้น ดังนั้นการพักกับโรฮานก็เป็นแค่การพักชั่วคราว เพราะต่อให้เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้สนใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทั้งสองกลุ่มอยู่แล้ว

 

และแน่นอนไนเรลก็ตอบตกลงไป ที่พักฟรีใครจะไม่ชอบ

 

หลังจากนั้น โรฮานก็เรียกสาวสวยสองคนเข้ามาคอยดูแลไนเรล คอยนําทางและทุกอย่างที่ไนเรลต้องการ

 

เมื่อมองดูที่ร่างกายของพวกเธอ ไนเรลก็เห็นบาดแผลและปลอกเหล็กที่ขาที่โผล่ออกมาจากเสื้อผ้าที่นอยนิดนั้น “ทาส” นี่คือสิ่งที่เข้ามาในหัวของเขา

 

แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจหรือต่อว่า โรฮาน ที่นี่มันคือเรื่องปกติ คนที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ก็ต้องอาศัยคนที่แข็งแกร่ง ในการมีชีวิตรอด ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเธอบางคนจะยินยอมปลงใจมาเองเพราะถึงอย่างไรก็มีของกินและข้าวสามมื้อให้ ดีกว่าต้องไปอยู่ข้างถนน นอนหิวตายหรือกลายเป็นหญิงขายบริการแลกกับข้าวไปวัน ๆ

 

หลังจากนั้นทั้งสองก็นําทางไนเรลไปที่บริเวณค้าขายซึ่งอยู่แถว ๆ ทะเลสาบ

 

ที่โคลอสเซียมนั้นมีผู้คนอยู่ราว ๆ 5 หมื่นคนถ้าดูจากขนาดและความหนาแน่นของคน

 

ในทุก ๆ วันจะมีคนจากค่ายและเมืองใกล้ที่ปกครองจากมนุษย์ชั้นสูง เดินทางเข้าออกอีกจํานวนมาก สิ่งที่พวกเขาเอามาขายก็มีทั้งเนื้อสัตว์ เสื้อผ้า ของกินจากโลกเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ หรือแม้แต่มนุษย์และสิ่งแปลกใหม่ เช่นสิ่งที่เขามองอยู่ในตอนนี้นั้นก็คือ อสูร

 

“นี่มัน…นิมฟ์” ไนเรลพึมพําออกมาในทันที เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับตัวตนแบบนี้ได้

 

เผ่านิมฟ์นั้นจัดเป็นอสูรที่กําเนิดขึ้นมาจากธรรมชาติ และทุกตนจะเป็นหญิง ดังนั้นพวกเธอจึงมีรูปร่างที่มีพลังในการล่อลวงบุรุษเพศในตัว ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างก็คงจะเป็นตามผิวหนังที่ข้อมือแขนและไหลบางจุดที่เป็นเหมือนกับผิวของเชือกไม้แต่มันก็ยิ่งเสริมให้พวกเธอมีเสน่ห์มากขึ้นก็เท่านั้น !

ถ้ามีอสูรสาวสวยนิมฟ์ก็ต้องมีของที่คู่กันนั้นก็คือ น้ำค้างแห่งชีวิต ที่สามารถรักษาได้ทุกอาการบาดเจ็บ และการป่วย ถ้าใช้ในปริมาณที่มากพอ

 

และไนเรลก็ต้องเอาน้ำค้างแห่งชีวิตมาให้ได้ เพราะเขาจะต้องเติมเต็มคําสัญญาที่ให้ไว้กับ จูเรียว่าจะรักษาให้เธอกลับมาเดินได้ จริงอยู่ว่าในโลกนี้มีของหลายสิ่งที่ให้รักษาได้ และเขาก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงกําหนดของสัญญา แต่ถ้าได้น้ำแห่งชีวิตมามันก็ต้องดีกว่าแน่นอนเพราะเขาไม่ต้องไปตามหาของเหล่านั้นให้เสียเวลาอีก

 

“ผู้หญิงคนนี้ราคาเท่าไหร่” ไนเรลรีบเดินเข้าไปถามราคาขายของนิมฟ์สาวตนนี้ในทันที

 

เมื่อพ่อค้าร่างอ้วนเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามา เขาก็ยิ้มออกมาในทันที แต่เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ไนเรลถามถึงนั้นก็คือ หญิงสาวที่มีร่างกายที่ผิดปกติคนนี้ เขาก็ทําหน้าผิดหวังเล็กน้อยให้ไนเรลได้เห็น

 

“น้องชาย ผู้หญิงที่นายถาม มันไม่ได้มีไว้ขายแต่เป็นของรางวัลที่จะถูกมอบให้กับมนุษย์ชั้นสูงที่เข้าร่วมการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้”

 

“การต่อสู้?” ไนเรลถามอย่างสงสัย

 

“การต่อสู้ที่ถูกจัดขึ้นโดยคนของทั้ง 3 กลุ่มใหญ่ มังกรดํา ดอลล่า และ ขวานซิ่ง” พ่อค้าร่างอ้วนอธิบาย

 

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็นึกถึงบางเรื่อง การต่อสู้ที่ว่านั้นคือการสู้ที่เป็นเหมือนกับกีฬาในสมัยโบราณอย่าง กลาดิเอเตอร์ คนสู้กับสัตว์ คนสู้กับคน แต่ที่นี่มีมากกว่าคือ มนุษย์ชั้นสูงสู้กับมนุษย์ชั้นสูง

 

เมื่อสิ่งบันเทิงในโลกอย่างหนัง ละครหรือไม่มีมนุษย์อย่างพวกเขาก็หาสิ่งใหม่ ๆ มาทดแทนเพื่อแก้เบื่อหน่ายอยู่เสมอและก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความบันเทิงที่ดีที่สุดคือ การพนัน

 

แล้วพนันอะไรจะดีที่สุดละในโลกที่ไม่มีกฎหมายแบบนี้ ก็คงจะเป็นการต่อสู้แบบถึงตายพวกนี้

 

ความคิดของไนเรลประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าเขาจะขโมยเธอดีหรือไม่ แต่สักพักเขาก็คิดว่าจะเข้าร่วมในการต่อสู้จะดีกว่า ด้วยพลังของเขานั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเอาชนะมนุษย์ชั้นสูงระดับต่ำที่ลงสมัครเหล่านี้

 

ที่สําคัญเขาไม่ต้องการสร้างปัญหาในทุกที่ ๆ ไปเพราะถึงแม้จะมีพลังที่เหนือกว่าก็ตาม หรือก็คือเขาไม่ต้องการเป็นจุดเด่น

 

ไนเรลเลียปากและคิดว่าเขาคงจะสามารถผูกมิตรกับมนุษย์ชั้นสูงที่เข้ารวมต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ได้บ้างนะ เพราะการมีมิตรก็ดีกว่าการมีศัตรู

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+