re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 71 โดนวางยา

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 71 โดนวางยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 71 โดนวางยา

 

ไนเรลที่อธิบายความสามารถของตนเองให้ราชินีจนเสร็จ เขาก็ได้แต่มองหน้าราชินีนิมฟ์เพื่อรอคําตอบว่าตกลงเธอจะเห็นด้วยกับความคิดของเขาหรือไม่

 

“เจ้าสามารถทําได้อย่างที่พูดจริง ๆ ใช่หรือไม่”

 

“ถ้าต้นไม้มารดาเป็นพืชจริง ๆ ฉันก็สามารถทําได้ แต่คงต้องใช้ปุ๋ยเยอะพอสมควร”

 

“ปุ๋ย…” ราชินีนิมฟ์ถามออกมา

 

“ใช่ ปุ๋ย” ไนเรลไม่รอช้าเงาด้านหลังของเขาก็มีซากสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ที่เขาขโมยมาจากเมืองแลกเปลี่ยนโคลอสเซียม แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเพรามีซากสัตว์กลายพันธุ์อีกหลายตัวที่เขาเอาออกมาจากคลังเสบียงของยักษ์เถื่อน

 

ต้องบอกก่อนว่ายักษ์เถื่อนนั้นต้องกินอาหารในแต่ละวันเป็นจํานวนมากจากขนาดร่างกายของพวกมัน อีกทั้งของที่กินยังต้องเป็นของที่มีระดับสูงมากพอ ดังนั้นในเสบียงส่วนใหญ่จึงเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่ไม่ต่ำกว่าขั้น 3 ทั้งหมด ซึ่งไนเรลก็เอามาเท่าที่จะมาได้เช่นกัน

 

“ความสามารถนี้มัน…” ราชินีหิมพ์กล่าวออกมาอย่างสนใจต่อความสามารถของมนุษย์เพศชายผู้นี้ สําหรับเธอที่เกิดมายังไม่ถึงปีนั้น จึงไม่รู้เรื่องราวของมนุษย์มากนัก นอกจากมนุษย์ที่ถูกจับขังพร้อมกับเผ่าหิมพ์ และความทรงจําของนิมฟ์พี่สาวและน้องสาวที่ถ่ายทอดให้พวกเธอเหล่านิมพ์ได้รู้แต่เพียงว่ามนุษย์เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ แต่โลภมาก ฆ่าฟันกันเอง ในบางครั้งพวกเขาก็มีความซับซ้อนในอารมณ์ที่พวกเธอนั้นก็ไม่เข้าใจ

 

แต่เธอก็ยังสนใจเพราะได้ยินว่ามีมนุษย์ที่เรียกกันว่ามนุษย์ชั้นสูงที่มีพลังและความสามารถแปลก ๆ มากมาย

 

“นี่คือแหล่งกําเนิดพลังของมนุษย์ชั้นสูงสินะ” ราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้ใช้มือจับไปที่คริสตัลวิวัฒนาการตรงหน้าผากของไนเรลอย่างลืมตัวทันทีที่เธอสัมผัสมันก็รับรู้ได้ถึงพลังที่ไหลเวียนอย่างสงบอยู่ภาย

 

ไนเรลที่ตอนนี้ตัวแข็งที่อไปแล้ว เพราะขณะที่เขานําซากสัตว์กลายพันธุ์ออกมาจากเงาอยู่ ๆ ราชินีนิมฟ์ก็ยื่นหน้าเข้ามาแล้วยังมาจับที่หน้าผากของเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

ด้วยความที่ราชินีนิมฟ์นั้นใช่ชุดที่เหมือนกับใบไม้ปกปิดแค่ส่วนสําคัญของร่างกายไว้เท่านั้น มันจึงทําให้เขาเห็นเนินเหล่านั้นได้อย่างง่ายได้ กลิ่นหอมที่ลอยเข้ามาทําให้เขาเผลอสูดดมเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว

 

“หอมจัง ไม่สิ…เธอกําลังทําอะไร?” ไนเรลรีบหลบสายตาและถอยออกมาเล็กน้อย ในตอนแรกเธอยังระมัดระวังเขาอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ทําไมตอนนี้ถึงเข้ามาสัมผัสตัวของเขาแบบนี้

 

“ขออภัยเราก็แค่อยากรู้ถึงพลังของมนุษย์เท่านั้น” เธอกล่าวออกมาอย่างกลับว่ามันเป็นเรื่องปกติในการที่เธอจะตอบสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นจนสัมผัสกับตัวของไนเรลก็เท่านั้น

 

มันไม่ได้มีอะไรของเจ้าที่บุบสลายไม่ใช่หรือไงก็แค่จับดูเท่านั้น ราชินีมองมาที่ไนเรลตาปิ้ป ๆ

 

“เออ…เรามาเริ่มกันเถอะฉันก็ไม่รู้ว่าปุ๋ยพวกนี้จะพอไหม” ไนเรลที่ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไรก็ได้แต่เปลี่ยนหัวข้อกลับไปสนใจ รื่องต้นไม้มารดา ซากสัตว์ขนาดใหญ่ที่ถูกในไนเรลที่มีขนาดตัวเล็ก ว่ามาก ยกมันอย่างง่ายดายไปวางรอบ ๆ ต้นไม้มารดา

 

“เอาละมาเริ่มกัน” ไนเรลเดินเข้าไปที่ต้นไม้มารดา ขณะที่เขาวางมือลงไปที่ต้นไม้มารดาอย่างช้า ๆ โดยมีสายตาพิฆาตของราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้กําลังจับจ้องไปที่ต้นไม้มารดาและไนเรลอย่างไม่วางตา

 

ถ้าเกิดเขาทําอะไรที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้มารดาละก็เธอจะจัดการเขาทันที

 

ไนเรลค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับเริ่มใช้ความสามารถ [การเจริญเติบโตของพืช A] ต้นไม้มารดาที่ตอนนี้ได้รับการกระตุ้นจากความสามารถของไนเรลมันก็เริ่มแตกกิ่งก้านสาขาและรากที่ยืดยาวในทันที

 

ไนเรลไม่ได้ควบคุมรากของมันเพราะเขาไม่สามารถทําแบบนั้นได้ แต่สัญชาตญาณของพืชนั้นมันก็รู้ว่าตรงไหนที่มีสารอาหารให้พวกมันใช้ในการเจริญเติบโต

 

รากของต้นไม้มารดาสัมผัสเข้ากับซากของสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่โดยรอบมันค่อย ๆ ย่อยซากเหล่านั้นอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

หลังจากนั้นต้นไม้มารดาที่จัดการสัตว์กลายพันธุ์ไปจนหมดก็เหมือนกับอัดอั้นพลังงานไว้ภายในจํานวนมากมันก็เติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรากที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนเกาะขนาดเล็กนี้ไม่สามารถลองรับ ได้มันจึงหยั่งรากลงไปในน้ําลําต้นที่สูงกว่า 10 เมตรทันตาเห็นพร้อมทั้งกิ่งก้านและใบที่งอกออกมา

 

ไนเรลที่เห็นถึงขบวนการเติบโตนี้แล้วเขาก็รีบหยุดตัวเองในทันที ด้วยความที่กลัวว่าจะเป็นเหมือนกับตอนต้นคริสตัลวิวัฒนาการที่ใช้ความสามารถเกินไปจนมันเกือบดูดกลืนพลังชีวิตของเขา

 

แต่เพราะความสามารถของไนเรลนั้นพัฒนาไปจนถึงระดับ A ดังนั้นจึงทําให้เขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากหลังจากที่ใช้พลังไปแค่นี้

 

ไนเรลที่ถอยออกมาก็ยืนมองไปที่ต้นไม้มารดาอย่างพึงพอใจ ส่วนราชินีนิมฟ์นั้นก็รีบวิ่งเข้าไปกอดที่ต้นไม้มารดาในทันที เหมือนดังเด็กสาวที่รู้ว่าแม่ของตนนั้นกลับมาแล้ว

 

ไม่ใช่เพียงแค่ราชินีนิมฟ์เท่านั้นที่เป็นแบบนี้ แต่นิมพ์ตนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงต้นไม้มารดาที่กลับฟื้นขึ้นมาแล้วก็พากันมาล้อมรอบทะเลสาบและสัมผัสไปที่รากของต้นไม้มารดาที่ยื่นออกมาจากผิวน้ําเหมือนกับการติดต่อกับต้นไม้มารดา

 

หลังจากรอให้ราชินีนิมพ์ที่ตอนนี้เหมือนดังเด็กน้อยอ้อนหาแม่อยู่นั้น ไนเรลก็จัดการเก็บกวาดสิ่งที่เหลืออยู่จากตอนที่ต้นไม้มารดาย่อยสลายซากสัตว์กลายพันธุ์ไป

 

มันมีพวกกรงเล็กเขี้ยวและกระดูกที่ไม่ได้ย่อยสลายไปด้วย เหมือนกับตอนของซากจิ้งจกหางหอกก็เช่นกันที่หางกระดูกของมันไม่ได้ย่อยสลายไป

 

ซึ่งวัตถุพวกนี้เขาคิดว่าจะไปมอบให้เมสันจัดการอีกเช่นเคย มันคงจะสามารถสร้างอาวุธและของอย่างอื่นได้อีกมาก

 

ผ่านไปสักพักราชินีนิมฟ์ก็ผลักออกมาจากต้นไม้มารดาและเดินเข้ามาหาไนเรลอย่างชื่องช้า

 

“ขอบคุณเจ้ามาก” ราชินีหิมพ์พูดออกมาอย่างจริงใจ

 

“เรื่องนั้นไม่จําเป็นที่ฉันช่วยก็เพราะน้ําค้างแห่งชีวิต ตอนนี้ในเมื่อต้นไม้มารดาก็ฟื้นกลับมาพอสมควรแล้วถ้างั้นก็คงสามารถสร้างน้ําค้างแห่งชีวิตได้แล้วใช่หรือไม่” ไนเรลถามออกไปถึงเป้า หมายของเขาในทันที

 

“ถึงอย่างใจก็ขอบคุณมาก ส่วนน้ําค้างแห่งชีวิตนั้นถึงท่าน (ต้นไม้มารดา) จะฟื้นมาไม่ถึงหนึ่งในสิบของเมื่อก่อนแต่ท่านสามารถทําได้แล้ว แต่มันคงจะยังไม่ใช่ตอนนี้”

 

“ หมายความว่ายังไง” ไนเรลถามออกมาอย่างสงสัยหรือจะมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีก ในการสร้างน้ําค้างแห่งชีวิต

 

“การจะสร้างน้ําค้างแห่งชีวิตได้นั้นต้องรอการมาของแสงแรกแห่งวันเท่านั้น ซึ่งก็คือเช้าวันพรุ่งนี้ อีกทั้งปริมาณที่ได้ก็ยังมีจํากัด” ราชินีนิมฟ์อธิบายออกมาอย่างคร่าวๆ

 

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจก็อยู่พักที่นี่ก่อนสักหนึ่งคืน ในกลางวันนี้เรามีอาหารให้เจ้าเพื่อขอบคุณสําหรับทุกเรื่องเช่นกันด้วย”

 

“เธอหมายถึงงานเลี้ยง”

 

“ใช่ ถ้าตามภาษาของมนุษย์”

 

งานเลี้ยงตอนกลางวัน ปกติแล้วงานเลี้ยงจะจัดกันตอนกลางคืน แต่มันก็ไม่แปลกเพราะนิมฟ์นั้นกําเนิดมาต้นไม้ พวกเธอคงเคยชินกับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันส่วนกลางคืนคือการนอนหลับใหล เหมือนดังต้นไม้

 

“คงไม่มีทางเลือก เอาแบบนั้นก็ได้” ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรอน้ําค้างแห่งชีวิตอีกสักอยู่ที่นี่อีก 1 วันอยู่แล้ว

 

ตอนกลางวันที่ราชินีนิมฟรอคอยก็มาถึงอย่างรวดเร็ว ไนเรลที่ตอนนี้รู้สึกแปลก ๆ กับงานลี้ยงของราชินีนิมฟ์ที่ถูกจัดขึ้นในบ้านต้นไม้แห่งนี้ ดูเหมือนที่นี่จะเป็นที่อยู่อาศัยของราชินีนิมพ์

 

แถมในงานนั้นมันไม่มีนิมฟ์ตนไหนอยู่เลยนอกจากราชินีนิมฟ์และตัวเขา

 

ไนเรลมองไปที่สายตาของราชินีนิมฟ์ที่เหมือนกับจะมีความในอะไรอยู่ แต่ทุกอย่างนั้นดูเป็นธรรมชาติเกินไปจนตัวเขาก็ไม่สามารถเดาความคิดของเธอออกได้เลย

 

“นิมฟ์ต้นอื่น ๆ ไปไหน?” ไนเรลนั้นถามออกมาตรง ๆ

 

“ตนอื่น ๆ นั้นต้องอยู่ด้านนอกนี่คือธรรมเนียมของพวกเรา นิมฟ์” เธอเองก็ตอบไนเรลออกไปแบบปกติ

 

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้คิดมากเริ่มจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าในทันที แต่ทั้งหมดนั้นมันเต็มไปด้วยผลไม้ทั้งหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะนิมพ์ไม่กินเนื้อสัตว์

 

เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ไนเรลที่ปกติชอบกินเนื้อก็เริ่มลงมือจัดการผลไม้ที่เขารู้จักอยู่ไม่กี่ชนิดแค่นั้น เนื่องด้วยความที่เขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน อีกทั้งเนื้อสัตว์กลายพันธุ์ทั้งหมดก็โดนต้นไม้มารดาย่อยสลายไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงจัดการกินผลไม้ เหล่านี้อย่างเต็มที่

 

ถึงของทั้งหมดนี้จะเป็นผลไม้แต่ก็อย่าได้ดูถูกพวกมันเพราะผลไม้บางลูกนั้นเป็นผลไม้กลายพันธุ์ระดับสูง แม้แต่สัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 เองก็ยังอยากที่จะกินมัน

 

ผลไม้บางลูกอย่างผลบลูเบอรี่ยักษ์ มันให้พลังงานเท่ากับการกินสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 3 เข้าไปทั้งตัวเลย ดังนั้นหลังจากเขากินมันเข้าไปก็ได้รับการเติมเต็มพลังงานที่สูญเสียไปเมื่อตอนใช้ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืชอย่างรวดเร็ว]

 

แต่หลังจากที่จัดการกับผลไม้บางอย่างไป เขากับรู้สึกแปลกมากร่างกายร้อนแปลก จากประสบการณ์ของเขาไนเรลรู้ได้ในทันทีว่ามันคือ “พิษ

 

“นี่มันหมายความว่าไง” ไนเรลรีบโยนผลไม้ในมือทิ้งทันที

 

“เจ้าไม่เป็นอะไรเลยหรือ?” ราชินีถามออกมาและมองไนเรลอย่างแปลกใจ

 

“ฉันถามเธออยู่นี่มันหมายความว่าไง ทําไมผลไม้ถึงมีพิษ ตกลงเธอจะทําอะไรกันแน่” ไนเรลรู้สึกงงมากทําไมเธอต้องวางยาพิษเขาด้วย ทั้งที่เขาก็ช่วยเผ่าของเธอไว้ เผ่าหิมพ์นั้นไม่น่าจะทําเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าทุกอย่างที่เขากินไปจะโดนเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการจัดการย่อยสลายทั้งหมด เขาก็คงจะโดนพิษนั้นเล่นงานแล้ว

 

แต่แล้วเขานึกถึงบางอย่างที่กินเข้าไปได้ และนึกถึงเรื่องหนึ่งนั้น ก็คือเรื่องที่นิมฟ์จะจับเพศชายในสายพันธุ์อื่น ๆ โดยจะพาชายที่คนเลือกมามอมเมาด้วยผลไม้

 

หรือว่าที่เธอบอกว่านิมฟ์ตนอื่นต้องรอข้างนอกมันเป็นธรรมเนียม เพราะคงไม่มีใครอยากทําเรื่องแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น ๆ

แน่นอน

 

“เดียวสิเธอไม่ได้จะ…” แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร นิมฟ์ราชินีก็จู่โจมเขาในทันที ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเสน่ของเธอ

 

เธอเข้ามาผลักตัวของเขาล้มลงไป พร้อมกับใช้ร่างกายที่ไม่รู้ว่าไปเอาความว่องไวมาจากไหนค่อยมาที่บนตัวของเขา

 

ไนเรลก็คิดอยากจะผลักออกอยู่หรอกแต่เพราะเธอเป็นผู้หญิง เขาคงทํารุนแรงไม่ได้ (จริงๆ นะ)

 

“ในเมื่อกินผลไม้ปลุกกําหนัดที่แม้แต่หมีกินแล้วยังต้องทําการบ้านยังไม่มีผลต่อเจ้า เช่นนั้นกคงต้องใช้วิธีที่รุนแรง” ราชินีนิมฟ์พูดออกมาตรง ๆ อย่างไม่ปิดบัง แต่มันกลับไม่ได้ทําให้ภาพลักษณ์ในฐานะราชินีของเธอดูน่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อยกับการที่เธอจะขืนใจชายหนุ่มอย่างไนเรล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันก็เป็นเรื่องปกติของเผ่านิมฟ์แบบเธอ

 

“เดี๋ยวสิ หยุดก่อน ค่อย ๆ คุยกันก่อน…” ไนเรลพยายามจะหยุดเธอแต่เขากลับโดนความสามารถ [ล่อลวง S] ของราชินีนิมฟ์เข้าไปอย่างเต็ม ๆ

 

เขาพยายามที่จะใช้ความสามารถประเภทพลังจิตใจของตนคําบัญชาเผ่าพันธุ์ ] เข้าต้านทานเต็มที่ แต่ระดับของความสามารถทั้งสองห่างเกินไป

 

ไนเรลพยายามประคองสติของตนเต็มที่ แต่มันก็ไม่ไหว สติและตัวตนของเขาเริ่มหลุดจนจะคุ้มไว้ไม่อยู่ ร่างกายท่อนร่างเริ่มร้อนขึ้นมาทุกที่

 

แต่สิ่งที่ทําให้เขาหลุดจริง ๆ กลับเป็นเสียงกระซิบของราชินีนิมฟ์ที่แผ่วเบาข้างหูของตนเองว่า “เราต้องการได้สายเลือดของเจ้า ช่วยเราราชินีผู้นี้ได้หรือไม่”

 

Witterry : อะแฮ่ม….คงจะมีฉาก++ ได้เท่าที่เด็กดีจะมีให้ได้ละนะ ไรท์กลัวปลิวไปกับสายลม เพราะฉะนั้นเอาเท่าที่ได้เนอะในตอนต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 71 โดนวางยา

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 71 โดนวางยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 71 โดนวางยา

 

ไนเรลที่อธิบายความสามารถของตนเองให้ราชินีจนเสร็จ เขาก็ได้แต่มองหน้าราชินีนิมฟ์เพื่อรอคําตอบว่าตกลงเธอจะเห็นด้วยกับความคิดของเขาหรือไม่

 

“เจ้าสามารถทําได้อย่างที่พูดจริง ๆ ใช่หรือไม่”

 

“ถ้าต้นไม้มารดาเป็นพืชจริง ๆ ฉันก็สามารถทําได้ แต่คงต้องใช้ปุ๋ยเยอะพอสมควร”

 

“ปุ๋ย…” ราชินีนิมฟ์ถามออกมา

 

“ใช่ ปุ๋ย” ไนเรลไม่รอช้าเงาด้านหลังของเขาก็มีซากสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 ที่เขาขโมยมาจากเมืองแลกเปลี่ยนโคลอสเซียม แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเพรามีซากสัตว์กลายพันธุ์อีกหลายตัวที่เขาเอาออกมาจากคลังเสบียงของยักษ์เถื่อน

 

ต้องบอกก่อนว่ายักษ์เถื่อนนั้นต้องกินอาหารในแต่ละวันเป็นจํานวนมากจากขนาดร่างกายของพวกมัน อีกทั้งของที่กินยังต้องเป็นของที่มีระดับสูงมากพอ ดังนั้นในเสบียงส่วนใหญ่จึงเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่ไม่ต่ำกว่าขั้น 3 ทั้งหมด ซึ่งไนเรลก็เอามาเท่าที่จะมาได้เช่นกัน

 

“ความสามารถนี้มัน…” ราชินีหิมพ์กล่าวออกมาอย่างสนใจต่อความสามารถของมนุษย์เพศชายผู้นี้ สําหรับเธอที่เกิดมายังไม่ถึงปีนั้น จึงไม่รู้เรื่องราวของมนุษย์มากนัก นอกจากมนุษย์ที่ถูกจับขังพร้อมกับเผ่าหิมพ์ และความทรงจําของนิมฟ์พี่สาวและน้องสาวที่ถ่ายทอดให้พวกเธอเหล่านิมพ์ได้รู้แต่เพียงว่ามนุษย์เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ แต่โลภมาก ฆ่าฟันกันเอง ในบางครั้งพวกเขาก็มีความซับซ้อนในอารมณ์ที่พวกเธอนั้นก็ไม่เข้าใจ

 

แต่เธอก็ยังสนใจเพราะได้ยินว่ามีมนุษย์ที่เรียกกันว่ามนุษย์ชั้นสูงที่มีพลังและความสามารถแปลก ๆ มากมาย

 

“นี่คือแหล่งกําเนิดพลังของมนุษย์ชั้นสูงสินะ” ราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้ใช้มือจับไปที่คริสตัลวิวัฒนาการตรงหน้าผากของไนเรลอย่างลืมตัวทันทีที่เธอสัมผัสมันก็รับรู้ได้ถึงพลังที่ไหลเวียนอย่างสงบอยู่ภาย

 

ไนเรลที่ตอนนี้ตัวแข็งที่อไปแล้ว เพราะขณะที่เขานําซากสัตว์กลายพันธุ์ออกมาจากเงาอยู่ ๆ ราชินีนิมฟ์ก็ยื่นหน้าเข้ามาแล้วยังมาจับที่หน้าผากของเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

ด้วยความที่ราชินีนิมฟ์นั้นใช่ชุดที่เหมือนกับใบไม้ปกปิดแค่ส่วนสําคัญของร่างกายไว้เท่านั้น มันจึงทําให้เขาเห็นเนินเหล่านั้นได้อย่างง่ายได้ กลิ่นหอมที่ลอยเข้ามาทําให้เขาเผลอสูดดมเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว

 

“หอมจัง ไม่สิ…เธอกําลังทําอะไร?” ไนเรลรีบหลบสายตาและถอยออกมาเล็กน้อย ในตอนแรกเธอยังระมัดระวังเขาอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ทําไมตอนนี้ถึงเข้ามาสัมผัสตัวของเขาแบบนี้

 

“ขออภัยเราก็แค่อยากรู้ถึงพลังของมนุษย์เท่านั้น” เธอกล่าวออกมาอย่างกลับว่ามันเป็นเรื่องปกติในการที่เธอจะตอบสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นจนสัมผัสกับตัวของไนเรลก็เท่านั้น

 

มันไม่ได้มีอะไรของเจ้าที่บุบสลายไม่ใช่หรือไงก็แค่จับดูเท่านั้น ราชินีมองมาที่ไนเรลตาปิ้ป ๆ

 

“เออ…เรามาเริ่มกันเถอะฉันก็ไม่รู้ว่าปุ๋ยพวกนี้จะพอไหม” ไนเรลที่ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไรก็ได้แต่เปลี่ยนหัวข้อกลับไปสนใจ รื่องต้นไม้มารดา ซากสัตว์ขนาดใหญ่ที่ถูกในไนเรลที่มีขนาดตัวเล็ก ว่ามาก ยกมันอย่างง่ายดายไปวางรอบ ๆ ต้นไม้มารดา

 

“เอาละมาเริ่มกัน” ไนเรลเดินเข้าไปที่ต้นไม้มารดา ขณะที่เขาวางมือลงไปที่ต้นไม้มารดาอย่างช้า ๆ โดยมีสายตาพิฆาตของราชินีนิมฟ์ที่ตอนนี้กําลังจับจ้องไปที่ต้นไม้มารดาและไนเรลอย่างไม่วางตา

 

ถ้าเกิดเขาทําอะไรที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้มารดาละก็เธอจะจัดการเขาทันที

 

ไนเรลค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับเริ่มใช้ความสามารถ [การเจริญเติบโตของพืช A] ต้นไม้มารดาที่ตอนนี้ได้รับการกระตุ้นจากความสามารถของไนเรลมันก็เริ่มแตกกิ่งก้านสาขาและรากที่ยืดยาวในทันที

 

ไนเรลไม่ได้ควบคุมรากของมันเพราะเขาไม่สามารถทําแบบนั้นได้ แต่สัญชาตญาณของพืชนั้นมันก็รู้ว่าตรงไหนที่มีสารอาหารให้พวกมันใช้ในการเจริญเติบโต

 

รากของต้นไม้มารดาสัมผัสเข้ากับซากของสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่โดยรอบมันค่อย ๆ ย่อยซากเหล่านั้นอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

หลังจากนั้นต้นไม้มารดาที่จัดการสัตว์กลายพันธุ์ไปจนหมดก็เหมือนกับอัดอั้นพลังงานไว้ภายในจํานวนมากมันก็เติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรากที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนเกาะขนาดเล็กนี้ไม่สามารถลองรับ ได้มันจึงหยั่งรากลงไปในน้ําลําต้นที่สูงกว่า 10 เมตรทันตาเห็นพร้อมทั้งกิ่งก้านและใบที่งอกออกมา

 

ไนเรลที่เห็นถึงขบวนการเติบโตนี้แล้วเขาก็รีบหยุดตัวเองในทันที ด้วยความที่กลัวว่าจะเป็นเหมือนกับตอนต้นคริสตัลวิวัฒนาการที่ใช้ความสามารถเกินไปจนมันเกือบดูดกลืนพลังชีวิตของเขา

 

แต่เพราะความสามารถของไนเรลนั้นพัฒนาไปจนถึงระดับ A ดังนั้นจึงทําให้เขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากหลังจากที่ใช้พลังไปแค่นี้

 

ไนเรลที่ถอยออกมาก็ยืนมองไปที่ต้นไม้มารดาอย่างพึงพอใจ ส่วนราชินีนิมฟ์นั้นก็รีบวิ่งเข้าไปกอดที่ต้นไม้มารดาในทันที เหมือนดังเด็กสาวที่รู้ว่าแม่ของตนนั้นกลับมาแล้ว

 

ไม่ใช่เพียงแค่ราชินีนิมฟ์เท่านั้นที่เป็นแบบนี้ แต่นิมพ์ตนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงต้นไม้มารดาที่กลับฟื้นขึ้นมาแล้วก็พากันมาล้อมรอบทะเลสาบและสัมผัสไปที่รากของต้นไม้มารดาที่ยื่นออกมาจากผิวน้ําเหมือนกับการติดต่อกับต้นไม้มารดา

 

หลังจากรอให้ราชินีนิมพ์ที่ตอนนี้เหมือนดังเด็กน้อยอ้อนหาแม่อยู่นั้น ไนเรลก็จัดการเก็บกวาดสิ่งที่เหลืออยู่จากตอนที่ต้นไม้มารดาย่อยสลายซากสัตว์กลายพันธุ์ไป

 

มันมีพวกกรงเล็กเขี้ยวและกระดูกที่ไม่ได้ย่อยสลายไปด้วย เหมือนกับตอนของซากจิ้งจกหางหอกก็เช่นกันที่หางกระดูกของมันไม่ได้ย่อยสลายไป

 

ซึ่งวัตถุพวกนี้เขาคิดว่าจะไปมอบให้เมสันจัดการอีกเช่นเคย มันคงจะสามารถสร้างอาวุธและของอย่างอื่นได้อีกมาก

 

ผ่านไปสักพักราชินีนิมฟ์ก็ผลักออกมาจากต้นไม้มารดาและเดินเข้ามาหาไนเรลอย่างชื่องช้า

 

“ขอบคุณเจ้ามาก” ราชินีหิมพ์พูดออกมาอย่างจริงใจ

 

“เรื่องนั้นไม่จําเป็นที่ฉันช่วยก็เพราะน้ําค้างแห่งชีวิต ตอนนี้ในเมื่อต้นไม้มารดาก็ฟื้นกลับมาพอสมควรแล้วถ้างั้นก็คงสามารถสร้างน้ําค้างแห่งชีวิตได้แล้วใช่หรือไม่” ไนเรลถามออกไปถึงเป้า หมายของเขาในทันที

 

“ถึงอย่างใจก็ขอบคุณมาก ส่วนน้ําค้างแห่งชีวิตนั้นถึงท่าน (ต้นไม้มารดา) จะฟื้นมาไม่ถึงหนึ่งในสิบของเมื่อก่อนแต่ท่านสามารถทําได้แล้ว แต่มันคงจะยังไม่ใช่ตอนนี้”

 

“ หมายความว่ายังไง” ไนเรลถามออกมาอย่างสงสัยหรือจะมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีก ในการสร้างน้ําค้างแห่งชีวิต

 

“การจะสร้างน้ําค้างแห่งชีวิตได้นั้นต้องรอการมาของแสงแรกแห่งวันเท่านั้น ซึ่งก็คือเช้าวันพรุ่งนี้ อีกทั้งปริมาณที่ได้ก็ยังมีจํากัด” ราชินีนิมฟ์อธิบายออกมาอย่างคร่าวๆ

 

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจก็อยู่พักที่นี่ก่อนสักหนึ่งคืน ในกลางวันนี้เรามีอาหารให้เจ้าเพื่อขอบคุณสําหรับทุกเรื่องเช่นกันด้วย”

 

“เธอหมายถึงงานเลี้ยง”

 

“ใช่ ถ้าตามภาษาของมนุษย์”

 

งานเลี้ยงตอนกลางวัน ปกติแล้วงานเลี้ยงจะจัดกันตอนกลางคืน แต่มันก็ไม่แปลกเพราะนิมฟ์นั้นกําเนิดมาต้นไม้ พวกเธอคงเคยชินกับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันส่วนกลางคืนคือการนอนหลับใหล เหมือนดังต้นไม้

 

“คงไม่มีทางเลือก เอาแบบนั้นก็ได้” ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรอน้ําค้างแห่งชีวิตอีกสักอยู่ที่นี่อีก 1 วันอยู่แล้ว

 

ตอนกลางวันที่ราชินีนิมฟรอคอยก็มาถึงอย่างรวดเร็ว ไนเรลที่ตอนนี้รู้สึกแปลก ๆ กับงานลี้ยงของราชินีนิมฟ์ที่ถูกจัดขึ้นในบ้านต้นไม้แห่งนี้ ดูเหมือนที่นี่จะเป็นที่อยู่อาศัยของราชินีนิมพ์

 

แถมในงานนั้นมันไม่มีนิมฟ์ตนไหนอยู่เลยนอกจากราชินีนิมฟ์และตัวเขา

 

ไนเรลมองไปที่สายตาของราชินีนิมฟ์ที่เหมือนกับจะมีความในอะไรอยู่ แต่ทุกอย่างนั้นดูเป็นธรรมชาติเกินไปจนตัวเขาก็ไม่สามารถเดาความคิดของเธอออกได้เลย

 

“นิมฟ์ต้นอื่น ๆ ไปไหน?” ไนเรลนั้นถามออกมาตรง ๆ

 

“ตนอื่น ๆ นั้นต้องอยู่ด้านนอกนี่คือธรรมเนียมของพวกเรา นิมฟ์” เธอเองก็ตอบไนเรลออกไปแบบปกติ

 

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้คิดมากเริ่มจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าในทันที แต่ทั้งหมดนั้นมันเต็มไปด้วยผลไม้ทั้งหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะนิมพ์ไม่กินเนื้อสัตว์

 

เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ไนเรลที่ปกติชอบกินเนื้อก็เริ่มลงมือจัดการผลไม้ที่เขารู้จักอยู่ไม่กี่ชนิดแค่นั้น เนื่องด้วยความที่เขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน อีกทั้งเนื้อสัตว์กลายพันธุ์ทั้งหมดก็โดนต้นไม้มารดาย่อยสลายไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงจัดการกินผลไม้ เหล่านี้อย่างเต็มที่

 

ถึงของทั้งหมดนี้จะเป็นผลไม้แต่ก็อย่าได้ดูถูกพวกมันเพราะผลไม้บางลูกนั้นเป็นผลไม้กลายพันธุ์ระดับสูง แม้แต่สัตว์กลายพันธุ์ขั้น 4 เองก็ยังอยากที่จะกินมัน

 

ผลไม้บางลูกอย่างผลบลูเบอรี่ยักษ์ มันให้พลังงานเท่ากับการกินสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 3 เข้าไปทั้งตัวเลย ดังนั้นหลังจากเขากินมันเข้าไปก็ได้รับการเติมเต็มพลังงานที่สูญเสียไปเมื่อตอนใช้ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืชอย่างรวดเร็ว]

 

แต่หลังจากที่จัดการกับผลไม้บางอย่างไป เขากับรู้สึกแปลกมากร่างกายร้อนแปลก จากประสบการณ์ของเขาไนเรลรู้ได้ในทันทีว่ามันคือ “พิษ

 

“นี่มันหมายความว่าไง” ไนเรลรีบโยนผลไม้ในมือทิ้งทันที

 

“เจ้าไม่เป็นอะไรเลยหรือ?” ราชินีถามออกมาและมองไนเรลอย่างแปลกใจ

 

“ฉันถามเธออยู่นี่มันหมายความว่าไง ทําไมผลไม้ถึงมีพิษ ตกลงเธอจะทําอะไรกันแน่” ไนเรลรู้สึกงงมากทําไมเธอต้องวางยาพิษเขาด้วย ทั้งที่เขาก็ช่วยเผ่าของเธอไว้ เผ่าหิมพ์นั้นไม่น่าจะทําเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าทุกอย่างที่เขากินไปจะโดนเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการจัดการย่อยสลายทั้งหมด เขาก็คงจะโดนพิษนั้นเล่นงานแล้ว

 

แต่แล้วเขานึกถึงบางอย่างที่กินเข้าไปได้ และนึกถึงเรื่องหนึ่งนั้น ก็คือเรื่องที่นิมฟ์จะจับเพศชายในสายพันธุ์อื่น ๆ โดยจะพาชายที่คนเลือกมามอมเมาด้วยผลไม้

 

หรือว่าที่เธอบอกว่านิมฟ์ตนอื่นต้องรอข้างนอกมันเป็นธรรมเนียม เพราะคงไม่มีใครอยากทําเรื่องแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น ๆ

แน่นอน

 

“เดียวสิเธอไม่ได้จะ…” แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร นิมฟ์ราชินีก็จู่โจมเขาในทันที ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเสน่ของเธอ

 

เธอเข้ามาผลักตัวของเขาล้มลงไป พร้อมกับใช้ร่างกายที่ไม่รู้ว่าไปเอาความว่องไวมาจากไหนค่อยมาที่บนตัวของเขา

 

ไนเรลก็คิดอยากจะผลักออกอยู่หรอกแต่เพราะเธอเป็นผู้หญิง เขาคงทํารุนแรงไม่ได้ (จริงๆ นะ)

 

“ในเมื่อกินผลไม้ปลุกกําหนัดที่แม้แต่หมีกินแล้วยังต้องทําการบ้านยังไม่มีผลต่อเจ้า เช่นนั้นกคงต้องใช้วิธีที่รุนแรง” ราชินีนิมฟ์พูดออกมาตรง ๆ อย่างไม่ปิดบัง แต่มันกลับไม่ได้ทําให้ภาพลักษณ์ในฐานะราชินีของเธอดูน่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อยกับการที่เธอจะขืนใจชายหนุ่มอย่างไนเรล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันก็เป็นเรื่องปกติของเผ่านิมฟ์แบบเธอ

 

“เดี๋ยวสิ หยุดก่อน ค่อย ๆ คุยกันก่อน…” ไนเรลพยายามจะหยุดเธอแต่เขากลับโดนความสามารถ [ล่อลวง S] ของราชินีนิมฟ์เข้าไปอย่างเต็ม ๆ

 

เขาพยายามที่จะใช้ความสามารถประเภทพลังจิตใจของตนคําบัญชาเผ่าพันธุ์ ] เข้าต้านทานเต็มที่ แต่ระดับของความสามารถทั้งสองห่างเกินไป

 

ไนเรลพยายามประคองสติของตนเต็มที่ แต่มันก็ไม่ไหว สติและตัวตนของเขาเริ่มหลุดจนจะคุ้มไว้ไม่อยู่ ร่างกายท่อนร่างเริ่มร้อนขึ้นมาทุกที่

 

แต่สิ่งที่ทําให้เขาหลุดจริง ๆ กลับเป็นเสียงกระซิบของราชินีนิมฟ์ที่แผ่วเบาข้างหูของตนเองว่า “เราต้องการได้สายเลือดของเจ้า ช่วยเราราชินีผู้นี้ได้หรือไม่”

 

Witterry : อะแฮ่ม….คงจะมีฉาก++ ได้เท่าที่เด็กดีจะมีให้ได้ละนะ ไรท์กลัวปลิวไปกับสายลม เพราะฉะนั้นเอาเท่าที่ได้เนอะในตอนต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+