re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 73 โลหิตแห่งชีวิต

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 73 โลหิตแห่งชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 73 โลหิตแห่งชีวิต]

 

“ความสามารถของเผ่าพันธุ์นิมฟ์นั้นก็คือ [การตอบรับของธรรม ชาติ)ผ่านการทําพันธสัญญาต่อกันระหว่างนิมฟ์และพืชสายพันธุ์

นั้น”

“พันธสัญญา…” ในเรลถามอย่างสงสัย

“ใช่พันธสัญญาหรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ นิมฟ์หนึ่งตนทําพันธสัญญาต่อพืชได้แค่หนึ่งสายพันธุ์และนิมฟ์ตนนั้นก็จะควบคุมชนั้นได้”

ในเรลได้ยินดังนั้นก็คิดตามอย่างไม่แปลกใจที่ว่าทําไมพอปาที่อยู่เก่าของนิมพ์โดนเผ่าจนหมดแล้วพวกเธอถึงไม่ควบคุมพืชต้นอื่น ๆนั้นก็เป็นเพราะว่าพืชที่เธอทําสัญญาด้วยทั้งหมดนั้นไม่มีเหลือรอดจากกองเท่าถ่านแล้ว

และตอนที่เขาเห็นนิมฟ์ส่วนใหญ่ปลูกพืชแปลกประหลาดนั้นก็เพราะพวกเธอกําลังปลูกพืชที่ตนเองทําพันธสัญญาอยู่

และนี่ก็คือจุดอ่อนของความสามารถนี้

แต่ตอนนี้ถ้าใช้ความสามารถของในเรลในการเร่งการเจริญเติบโตของพืชข้อจํากัดบางอย่างก็จะหายไป เช่นพวกเธอออกไปจากที่มีพืชคุ้มกันอยู่ถ้าเจอศัตรูก็แค่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ตนทําพันธสัญญาอยู่และใช้ความสามารถเร่งการเจริญเติบโตของพืช ของในเรลก็สามารถทําให้พืชโตจากนั้นก็ควบคุมพืชเหล่านั้นจัดการกับศัตรูได้ แล้ว

หลังจากฟังเรื่องทั้งหมด เขาก็เข้าใจความสามารถด้านนี้เองแต่นี่มฟ์และทําไมนิมฟ์ราชินีถึงอยากได้สายเลือดของเขา

“ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้ว” หลังจากที่เธอพูดออกมาก็เงียบไปสักพักจากนั้นก็กล่าว “เราจะไปเอาน้ําค้างแห่งชีวิตใช้เจ้าจากนั้นเจ้าก็สามารถจากไปได้แล้วตามความตั้งใจเดิมของเจ้า”

 

“เธอจะไปกับฉันหรือไม่” ในเรลมองราชินีนิมพ์ที่ตอนนี้กําลังรวบรวมใบไม้สร้างชุดใหม่ของตนเองอยู่

“ไม่…เราต้องอยู่เพื่อปกป้องเผ่าหิมพ์ในฐานะราชินีของพวกนาง” ราชินีนิมฟ์พูดออกมาขณะที่มองไปที่นิมฟ์ด้านนอกด้วยสายตาที่มันคงแต่ใครจะไปรู้เพราะหลังจากนั้นเธอก็ไม่ยอมสบตากับในเรล อีกเลย

ในเรลไม่ได้ถามต่อ อาจจะเพราะเขาเคารพในการตัดสินใจของราชินีนิมฟ์หรือเพราะกลัวคําตอบอื่น ๆ ก็ไม่อาจรู้ได้

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอก็เต็มไปด้วยความสับสนเมื่อมองย้อนกลับไปมันก็ไม่ต่างจากการแลกเปลี่ยนที่ในเรลได้รับน้ําค้างแห่งชีวิตขณะที่เธอก็ได้รับสายเลือดของเขาไป

หลังจากนั้นราชินีนิมฟ์และในเรลก็ไปที่ต้นไม้มารดาเพื่อรอรับน้ําค้างแห่งชีวิตที่ถูกสร้างมาจากแสงแรกของวันนี้

เขาเอาขวดแก้วที่ใส่ยาบางอย่างเททิ้งจากนั้นก็ใส่น้ําค้างแห่งชีวิตไปแทนขวดที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่น้ําค้างแห่งชีวิตที่ได้นั้นน้อยซะยิ่งกว่าน้อย

ในเรลได้แต่บ่นในใจว่า เมื่อคืนเอาน้ําแห่งชีวิตของเขาไปตั้งเยอะแต่ตอนนี้กลับให้แค่น้ําค้างแห่งชีวิตแค่เล็กน้อยเท่านั้น”

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ในเรลก็ไม่ได้พูดออกมาเพราะเขารู้ว่าที่เธอให้มานั้นคือทั้งหมดที่ได้จากวันนี้แล้ว

หลังจากที่ในเรลเก็บน้ําค้างแห่งชีวิตไว้แล้วเรื่องทุกอย่างของเขาที่มาที่เผ่าหิมพ์นั้นก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่อยู่ ๆ ในใจของเขาก็รู้สึกแปลกหลังจากนี้ต้องไปจากที่นี่แล้วด้วยและไม่รู้จะได้กลับมาหรือเปล่า

 

ในเรลเดินเข้ามาหาเธอจากนั้นก็หยิบบางอย่างออกมาจากในเงามันคือผลคริสตัลวิวัฒนาการบางส่วนที่เขานําติดตัวมาด้วยร้อยกว่าผลออกมาจากนั้นก็ส่งมอบมันให้กับราชินีนิมพ์

 

“นี่คือ…”

 

“ผลคริสตัลวิวัฒนาการมันมีประโยชน์ต่ออสูร และนี้ถ้าเจ้าต้องการพบข้าก็ตามหาข้าได้ที่สมาพันธุ์นักล่า แค่พูดชื่อของฉันในเรลออกไป” เขาหยิบของออกมาอีกสองสิ่งหนึ่งคือ เครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กและดาบคู่เขางูออกมา เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้มันแล้วเอามามอบไว้กับเธอเป็นที่ระลึกก็แล้วกัน

“เจ้าไม่คิดจะอยู่ที่นี่หรือ” ราชินีหิมพ์ถามออกมาด้วยใบหน้าที่

เรียบเฉย

ในเรลมองไปที่เธออย่างแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ก็ไม่อาจตอบรับคําพูดของเธอได้

 

“ไม่..ฉันเองก็มีภาระเช่นกัน ถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์แต่มันก็เพื่อคนของตนเอง และเพื่อตามหาความจริงบางอย่าง”

“แล้วหลังจากที่ได้คําตอบทุกอย่างแล้วเจ้าจะไปไหน?”

 

“หลังจากที่รู้คําตอบนะเหรอ นั้นสินะ คงจะที่หาสถานที่สงบสุขสักที่พักผ่อนละมั้งนะ” ในเรลมองเขาไปในแววตาของราชินีนิมพ์และตอบไปอันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านั้นเลย เพียงแค่เอาชีวิตรอดไปแต่ละวันก็เท่านั้น

 

“ว่าแต่เธอมีชื่อจริง ๆ หรือไม่ ชื่อแบบมนุษย์” เขาต้องการจดจําชื่อของเธอไว้เพราะถึงอย่างไรการเรียกแต่ราชินีมันก็แปลก ๆ

“ไม่มี…เผ่านิมฟ์ของเราไม่มีชื่อ” เธอส่ายหัวแต่แล้วก็พูดออกมาอีกประโยค“แต่ฉันชอบชื่อ โอลีเวีย (สัญลักษณ์แห่งความสงบสุข)

“โอลีเวีย ขอบใจนะ” หลังจากนั้นด้านหลังของในเรลก็มีปีกงอกออกมาแล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

 

ราชินีโอลีเวียมองไปที่ในเรลที่กลายเป็นจุดเล็ก ๆ ค่อย ๆ หายไปจากสายตาของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็มองไปที่ต้นไม้มา รดาและกล่าว “ท่านแม่ข้ารู้สึกแปลก ๆ มันเจ็บเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเขาอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว”

หลังจากเหม่อลอยสักพักเธอรีบปรับอารมณ์ของตนเองและสัมผัสไปที่ท้องของตนอย่างอ่อนโยนและยิ้มออกมา

 

ห่างออกไปไกลบนท้องฟ้าสายตาของในเรลกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วเข้ามุ่งหน้าต่อไปในทิศทางคราว ๆ จากแผนที่ของตน

 

ในเรลที่บนอยู่บนท้องฟ้าและลงพักที่พื้นดินเป็นครั้งคราวเท่านั้นนอกจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดียอย่างเต็มกําลังเนื่องจากที่ผ่านมาเขาล่าช้าไปวันสองวันแล้วจากที่วางแผนเอาไว้

วันนี้ก็เช่นเคยขณะที่เขาแร่เอาหนังของวานรล่าเนื้อกลายพันธุ์และเอาเนื้อทั้งหมดของมันมารบควันเพื่อเก็บไว้ให้กินในระ หว่างทาง

 

วานรล่าเนื้อ ขั้น 3 ที่โชคร้ายตัวนี้มันได้ดักซุ่มโจมตีเหยื่อผิดจุดจบของมันจึงต้องโดนย่างอยู่เช่นนี้

ด้วยร่างที่มีขนาดใหญ่หลังจากแร่เอาหนังและทําความสะอาดเรียบร้อยแล้วเขาก็จัดการย่างอย่าง ๆ ในปาแบบนี้การย่างจะเป็นวิธีที่ง่ายแต่มันก็เป็นอาหารที่จําเจเกินไป โชคยังดีที่เขาเอาเครื่องปรุงมาด้วยหลายแบบนั้นทําให้ยังพอทนกินมันได้อยู่

 

ในระหว่างที่รอเนื้อวานรขนาด 100 กิโลกรัมสุก เขาก็หยิบน้ําค้างแห่งชีวิตออกมา

เพื่อที่จะแบ่งบางส่วนออกมาดื่มเพราะบาดแผลส่วนใหญ่ของเขามันยังไม่หายดีทําให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง

 

แต่อยู่ ๆ ในเรลก็มีความคิดบางอย่าง ในเมื่อต้นไม้มารดาก้เป็หนึ่งในพืชกลายพันธุ์ระดับสูง งั้นถ้าเขากินน้ําค้างแห่งชีวิตมันจะได้ความสามารถอะไรมาหรือไม่

“ไม่รองก็ไม่รู้” ในเรลรีบแบ่งน้ําแห่งชีวิตที่มีอยู่แค่ประมาณ 10 ออนซ์ออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งแบ่งให้กับจูเรีย และที่เหลือเขาก็ค่อย ๆ ลองจบมันเพื่อดูว่ามีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่

 

ทันทีที่เขาได้กลิ่นก็อยากจะดื่มมันลงไปให้หมดในทันที ความรู้สึกแน่นอนว่ามาจากคริสตัลวิวัฒนาการหรือเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการ ที่หน้าอกของเขาอย่างแน่นอน

 

ในเรลไม่รอช้ากินน้ําค้างแห่งชีวิตของตนเองที่แบ่งไว้ไปครึ่งหนึ่ง ในทันที รสชาติของมันไม่ต่างจากน้ําเปล่ายกเว้นก็แต่มันให้ความรู้ สึกสดชื่นมากว่า บาดแผลส่วนใหญ่ของเขาค่อย ๆ หายอย่างรวด เร็วด้วยตาเห็น

แต่มันก็ไม่แปลกที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะน้ําค้างแห่งชีวิต 1 ออนซ์ที่ช่วยชีวิตคนได้นับสิบ น้ําค้างแห่งชีวิตที่แม้แต่มีเงินก็ยังไม่สามารถซื้อได้ต้องใช้โชคและโอกาสคู่ด้วยถึงจะซื้อมันมาได้

กับถูกในเรลดื่มมันไปทั้งหมด

เขาสังเกตรอยสักใบไม้สีทองที่ค่อยงอกออกมาจากกิ่งก้านที่อยู่บนไหล่ของเขา

“มันงอกมาถึงบริเวณนี้แล้วหรือ” เขาใช้มือสัมผัสไปที่รอยสักใจหนึ่งก็กลัวแต่ใจหนึ่งก็อยากรู้อย่างเห็น และก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของเขารอยสักเหล่านี้ขึ้นเต็มร่างกายเขาคงไม่กลายเป็นมนุษย์ทองคําหรอกนะ

หลังจากที่ใบไม้งอกออกมาแต่ดูเหมือนมันจะได้เพียงแค่ครึ่งใบเท่านั้นแต่นี่ก็พิสูจน์ได้อย่างหนึ่ง ความสามารถของ น้ําค้างแห่งชีวิตที่ได้จากต้นไม้มารดามีค่าพอให้ใบไม้งอกออกมาเต็มใบได้ขอแค่เขาสามารถกินมันไปอีกก็สามารถสร้างได้สําเร็จแน่นอน

ในเรลไม่รอช้ากระดกของที่เหลือในทันที แต่แล้วมันก็ไม่สามารถสร้างออกมาได้เต็มไปยังขาดอีก เพียงไม่ถึง 5% เท่านั้น

 

เขาได้แต่ไม่มีทางเลือกได้แต่หยิบของที่แบ่งไว้ให้จูเรียออกมาแบ่งมันอีกครั้ง ถ้ามันไม่พอโชคชะตาก็คงอยากให้ข้ากลับไปหาโอลี เวียอีกครั้ง

เขามองไปที่รอยสักใบไม้ของน้ําค้างแห่งชีวิต มันค่อย ๆงอกออกมาอย่างช้า ๆ 96 % 97 % 98 % 99 % และในที่สุด มันก็ครบ 100 %

ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงความสามารถใหม่ที่เพื่อเข้ามามันคือความสามารถ [โลหิตแห่งชีวิต A] ที่จะถูกสร้างออกมาจากร่างกายของเขาในรุ่งอรุณของทุกวัน

“เยี่ยม!” ในเรลรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ความสามารถที่เป็นเหมือนกับน้ําค้างแห่งชีวิตมา เขาลูปไปที่คริสตัลวิวัฒนาการตรงหน้าอกของตนอย่างขอบคุณ

ความสามารถที่ได้มาใหม่นี้ทําให้เขาเป็นที่ผลิตยารักษาไปซะแล้วในเรลต้องระวังตัวขึ้นมาอีกมากที่จะไม่ให้ใครรู้ความสามารถนี้ เพราะไม่เช่นั้นทุกคนคงบุกมารีบ[โลหิตแห่งชีวิต A] ของเขาอย่าง แน่นอน

ใครบ้างที่จะไม่อยากได้ยารักษา ใครบ้างที่คิดว่าจะไม่ปวยแต่ช่างเถอะถ้าพวกนั้นไม่กลัวชื่อเสียงของปีศาจอย่างเขาก็แค่จับพวกมันกินให้หมดก็แค่นั้น

 

หลังจากนั้นเขาก็จัดการกับเรื่องของนิฟ์ที่ตนแอบเอามาจากหลุ่มแห่งนั้นในเรล จัดการกินมันลงลไปในทันทีด้วยใช้ร่างไททันเพื่อที่จะกินมันลงไปที่เดียว

ถึงจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับการกินอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พิศวาสมันมากนัก ถ้าไม่ใช้เพราะเขาต้องการความสามารถของนิมฟ์ละก็ในเรลคงไม่แตะต้องมันอย่างแน่นอน

รอสักพักใบไม้รอยสักสทองกงอกออกมาพร้อมกับความสามารถใหม่เนื่องจากมีร่างนิมพ์จํานวนมาก มันจึงเพียงพอให้เขาได้ความสามารถ[การตอบรับของธรรมชาติ B] มา

 

ซึ่งมันไม่ใช่ระดับ S หรือ A แต่เป็น B เพราะนิมฟ์ส่วนใหญ่ที่ตายเป็นแค่พวกที่อ่อนแอเท่านั้น ถ้าอยากได้มากกว่านี้ในเรลคงต้องจัดการนิมฟ์ระดับสูงแต่แน่นอนว่าความคิดนี้ไม่มีอยู่ในหัวของ เขาเลยแม้แต่น้อยอาจจะเพราะส่วนหนึ่งนั้นมาจากราชินีโอลิเวีย

หลังจากนั้นเขาก็จัดการกับวานรนักล่าเนื้อบางส่วนและเก็บที่เหลือลงไป ถึงแบบนั้นปริมาณในการกินของในเรลนั้นก็มากขึ้นในทุกวันขณะที่พลังงานในเซลล์ของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 73 โลหิตแห่งชีวิต

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 73 โลหิตแห่งชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 73 โลหิตแห่งชีวิต]

 

“ความสามารถของเผ่าพันธุ์นิมฟ์นั้นก็คือ [การตอบรับของธรรม ชาติ)ผ่านการทําพันธสัญญาต่อกันระหว่างนิมฟ์และพืชสายพันธุ์

นั้น”

“พันธสัญญา…” ในเรลถามอย่างสงสัย

“ใช่พันธสัญญาหรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ นิมฟ์หนึ่งตนทําพันธสัญญาต่อพืชได้แค่หนึ่งสายพันธุ์และนิมฟ์ตนนั้นก็จะควบคุมชนั้นได้”

ในเรลได้ยินดังนั้นก็คิดตามอย่างไม่แปลกใจที่ว่าทําไมพอปาที่อยู่เก่าของนิมพ์โดนเผ่าจนหมดแล้วพวกเธอถึงไม่ควบคุมพืชต้นอื่น ๆนั้นก็เป็นเพราะว่าพืชที่เธอทําสัญญาด้วยทั้งหมดนั้นไม่มีเหลือรอดจากกองเท่าถ่านแล้ว

และตอนที่เขาเห็นนิมฟ์ส่วนใหญ่ปลูกพืชแปลกประหลาดนั้นก็เพราะพวกเธอกําลังปลูกพืชที่ตนเองทําพันธสัญญาอยู่

และนี่ก็คือจุดอ่อนของความสามารถนี้

แต่ตอนนี้ถ้าใช้ความสามารถของในเรลในการเร่งการเจริญเติบโตของพืชข้อจํากัดบางอย่างก็จะหายไป เช่นพวกเธอออกไปจากที่มีพืชคุ้มกันอยู่ถ้าเจอศัตรูก็แค่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ตนทําพันธสัญญาอยู่และใช้ความสามารถเร่งการเจริญเติบโตของพืช ของในเรลก็สามารถทําให้พืชโตจากนั้นก็ควบคุมพืชเหล่านั้นจัดการกับศัตรูได้ แล้ว

หลังจากฟังเรื่องทั้งหมด เขาก็เข้าใจความสามารถด้านนี้เองแต่นี่มฟ์และทําไมนิมฟ์ราชินีถึงอยากได้สายเลือดของเขา

“ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้ว” หลังจากที่เธอพูดออกมาก็เงียบไปสักพักจากนั้นก็กล่าว “เราจะไปเอาน้ําค้างแห่งชีวิตใช้เจ้าจากนั้นเจ้าก็สามารถจากไปได้แล้วตามความตั้งใจเดิมของเจ้า”

 

“เธอจะไปกับฉันหรือไม่” ในเรลมองราชินีนิมพ์ที่ตอนนี้กําลังรวบรวมใบไม้สร้างชุดใหม่ของตนเองอยู่

“ไม่…เราต้องอยู่เพื่อปกป้องเผ่าหิมพ์ในฐานะราชินีของพวกนาง” ราชินีนิมฟ์พูดออกมาขณะที่มองไปที่นิมฟ์ด้านนอกด้วยสายตาที่มันคงแต่ใครจะไปรู้เพราะหลังจากนั้นเธอก็ไม่ยอมสบตากับในเรล อีกเลย

ในเรลไม่ได้ถามต่อ อาจจะเพราะเขาเคารพในการตัดสินใจของราชินีนิมฟ์หรือเพราะกลัวคําตอบอื่น ๆ ก็ไม่อาจรู้ได้

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอก็เต็มไปด้วยความสับสนเมื่อมองย้อนกลับไปมันก็ไม่ต่างจากการแลกเปลี่ยนที่ในเรลได้รับน้ําค้างแห่งชีวิตขณะที่เธอก็ได้รับสายเลือดของเขาไป

หลังจากนั้นราชินีนิมฟ์และในเรลก็ไปที่ต้นไม้มารดาเพื่อรอรับน้ําค้างแห่งชีวิตที่ถูกสร้างมาจากแสงแรกของวันนี้

เขาเอาขวดแก้วที่ใส่ยาบางอย่างเททิ้งจากนั้นก็ใส่น้ําค้างแห่งชีวิตไปแทนขวดที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่น้ําค้างแห่งชีวิตที่ได้นั้นน้อยซะยิ่งกว่าน้อย

ในเรลได้แต่บ่นในใจว่า เมื่อคืนเอาน้ําแห่งชีวิตของเขาไปตั้งเยอะแต่ตอนนี้กลับให้แค่น้ําค้างแห่งชีวิตแค่เล็กน้อยเท่านั้น”

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ในเรลก็ไม่ได้พูดออกมาเพราะเขารู้ว่าที่เธอให้มานั้นคือทั้งหมดที่ได้จากวันนี้แล้ว

หลังจากที่ในเรลเก็บน้ําค้างแห่งชีวิตไว้แล้วเรื่องทุกอย่างของเขาที่มาที่เผ่าหิมพ์นั้นก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่อยู่ ๆ ในใจของเขาก็รู้สึกแปลกหลังจากนี้ต้องไปจากที่นี่แล้วด้วยและไม่รู้จะได้กลับมาหรือเปล่า

 

ในเรลเดินเข้ามาหาเธอจากนั้นก็หยิบบางอย่างออกมาจากในเงามันคือผลคริสตัลวิวัฒนาการบางส่วนที่เขานําติดตัวมาด้วยร้อยกว่าผลออกมาจากนั้นก็ส่งมอบมันให้กับราชินีนิมพ์

 

“นี่คือ…”

 

“ผลคริสตัลวิวัฒนาการมันมีประโยชน์ต่ออสูร และนี้ถ้าเจ้าต้องการพบข้าก็ตามหาข้าได้ที่สมาพันธุ์นักล่า แค่พูดชื่อของฉันในเรลออกไป” เขาหยิบของออกมาอีกสองสิ่งหนึ่งคือ เครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กและดาบคู่เขางูออกมา เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้มันแล้วเอามามอบไว้กับเธอเป็นที่ระลึกก็แล้วกัน

“เจ้าไม่คิดจะอยู่ที่นี่หรือ” ราชินีหิมพ์ถามออกมาด้วยใบหน้าที่

เรียบเฉย

ในเรลมองไปที่เธออย่างแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ก็ไม่อาจตอบรับคําพูดของเธอได้

 

“ไม่..ฉันเองก็มีภาระเช่นกัน ถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์แต่มันก็เพื่อคนของตนเอง และเพื่อตามหาความจริงบางอย่าง”

“แล้วหลังจากที่ได้คําตอบทุกอย่างแล้วเจ้าจะไปไหน?”

 

“หลังจากที่รู้คําตอบนะเหรอ นั้นสินะ คงจะที่หาสถานที่สงบสุขสักที่พักผ่อนละมั้งนะ” ในเรลมองเขาไปในแววตาของราชินีนิมพ์และตอบไปอันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านั้นเลย เพียงแค่เอาชีวิตรอดไปแต่ละวันก็เท่านั้น

 

“ว่าแต่เธอมีชื่อจริง ๆ หรือไม่ ชื่อแบบมนุษย์” เขาต้องการจดจําชื่อของเธอไว้เพราะถึงอย่างไรการเรียกแต่ราชินีมันก็แปลก ๆ

“ไม่มี…เผ่านิมฟ์ของเราไม่มีชื่อ” เธอส่ายหัวแต่แล้วก็พูดออกมาอีกประโยค“แต่ฉันชอบชื่อ โอลีเวีย (สัญลักษณ์แห่งความสงบสุข)

“โอลีเวีย ขอบใจนะ” หลังจากนั้นด้านหลังของในเรลก็มีปีกงอกออกมาแล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

 

ราชินีโอลีเวียมองไปที่ในเรลที่กลายเป็นจุดเล็ก ๆ ค่อย ๆ หายไปจากสายตาของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็มองไปที่ต้นไม้มา รดาและกล่าว “ท่านแม่ข้ารู้สึกแปลก ๆ มันเจ็บเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเขาอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว”

หลังจากเหม่อลอยสักพักเธอรีบปรับอารมณ์ของตนเองและสัมผัสไปที่ท้องของตนอย่างอ่อนโยนและยิ้มออกมา

 

ห่างออกไปไกลบนท้องฟ้าสายตาของในเรลกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วเข้ามุ่งหน้าต่อไปในทิศทางคราว ๆ จากแผนที่ของตน

 

ในเรลที่บนอยู่บนท้องฟ้าและลงพักที่พื้นดินเป็นครั้งคราวเท่านั้นนอกจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดียอย่างเต็มกําลังเนื่องจากที่ผ่านมาเขาล่าช้าไปวันสองวันแล้วจากที่วางแผนเอาไว้

วันนี้ก็เช่นเคยขณะที่เขาแร่เอาหนังของวานรล่าเนื้อกลายพันธุ์และเอาเนื้อทั้งหมดของมันมารบควันเพื่อเก็บไว้ให้กินในระ หว่างทาง

 

วานรล่าเนื้อ ขั้น 3 ที่โชคร้ายตัวนี้มันได้ดักซุ่มโจมตีเหยื่อผิดจุดจบของมันจึงต้องโดนย่างอยู่เช่นนี้

ด้วยร่างที่มีขนาดใหญ่หลังจากแร่เอาหนังและทําความสะอาดเรียบร้อยแล้วเขาก็จัดการย่างอย่าง ๆ ในปาแบบนี้การย่างจะเป็นวิธีที่ง่ายแต่มันก็เป็นอาหารที่จําเจเกินไป โชคยังดีที่เขาเอาเครื่องปรุงมาด้วยหลายแบบนั้นทําให้ยังพอทนกินมันได้อยู่

 

ในระหว่างที่รอเนื้อวานรขนาด 100 กิโลกรัมสุก เขาก็หยิบน้ําค้างแห่งชีวิตออกมา

เพื่อที่จะแบ่งบางส่วนออกมาดื่มเพราะบาดแผลส่วนใหญ่ของเขามันยังไม่หายดีทําให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง

 

แต่อยู่ ๆ ในเรลก็มีความคิดบางอย่าง ในเมื่อต้นไม้มารดาก้เป็หนึ่งในพืชกลายพันธุ์ระดับสูง งั้นถ้าเขากินน้ําค้างแห่งชีวิตมันจะได้ความสามารถอะไรมาหรือไม่

“ไม่รองก็ไม่รู้” ในเรลรีบแบ่งน้ําแห่งชีวิตที่มีอยู่แค่ประมาณ 10 ออนซ์ออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งแบ่งให้กับจูเรีย และที่เหลือเขาก็ค่อย ๆ ลองจบมันเพื่อดูว่ามีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่

 

ทันทีที่เขาได้กลิ่นก็อยากจะดื่มมันลงไปให้หมดในทันที ความรู้สึกแน่นอนว่ามาจากคริสตัลวิวัฒนาการหรือเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการ ที่หน้าอกของเขาอย่างแน่นอน

 

ในเรลไม่รอช้ากินน้ําค้างแห่งชีวิตของตนเองที่แบ่งไว้ไปครึ่งหนึ่ง ในทันที รสชาติของมันไม่ต่างจากน้ําเปล่ายกเว้นก็แต่มันให้ความรู้ สึกสดชื่นมากว่า บาดแผลส่วนใหญ่ของเขาค่อย ๆ หายอย่างรวด เร็วด้วยตาเห็น

แต่มันก็ไม่แปลกที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะน้ําค้างแห่งชีวิต 1 ออนซ์ที่ช่วยชีวิตคนได้นับสิบ น้ําค้างแห่งชีวิตที่แม้แต่มีเงินก็ยังไม่สามารถซื้อได้ต้องใช้โชคและโอกาสคู่ด้วยถึงจะซื้อมันมาได้

กับถูกในเรลดื่มมันไปทั้งหมด

เขาสังเกตรอยสักใบไม้สีทองที่ค่อยงอกออกมาจากกิ่งก้านที่อยู่บนไหล่ของเขา

“มันงอกมาถึงบริเวณนี้แล้วหรือ” เขาใช้มือสัมผัสไปที่รอยสักใจหนึ่งก็กลัวแต่ใจหนึ่งก็อยากรู้อย่างเห็น และก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของเขารอยสักเหล่านี้ขึ้นเต็มร่างกายเขาคงไม่กลายเป็นมนุษย์ทองคําหรอกนะ

หลังจากที่ใบไม้งอกออกมาแต่ดูเหมือนมันจะได้เพียงแค่ครึ่งใบเท่านั้นแต่นี่ก็พิสูจน์ได้อย่างหนึ่ง ความสามารถของ น้ําค้างแห่งชีวิตที่ได้จากต้นไม้มารดามีค่าพอให้ใบไม้งอกออกมาเต็มใบได้ขอแค่เขาสามารถกินมันไปอีกก็สามารถสร้างได้สําเร็จแน่นอน

ในเรลไม่รอช้ากระดกของที่เหลือในทันที แต่แล้วมันก็ไม่สามารถสร้างออกมาได้เต็มไปยังขาดอีก เพียงไม่ถึง 5% เท่านั้น

 

เขาได้แต่ไม่มีทางเลือกได้แต่หยิบของที่แบ่งไว้ให้จูเรียออกมาแบ่งมันอีกครั้ง ถ้ามันไม่พอโชคชะตาก็คงอยากให้ข้ากลับไปหาโอลี เวียอีกครั้ง

เขามองไปที่รอยสักใบไม้ของน้ําค้างแห่งชีวิต มันค่อย ๆงอกออกมาอย่างช้า ๆ 96 % 97 % 98 % 99 % และในที่สุด มันก็ครบ 100 %

ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงความสามารถใหม่ที่เพื่อเข้ามามันคือความสามารถ [โลหิตแห่งชีวิต A] ที่จะถูกสร้างออกมาจากร่างกายของเขาในรุ่งอรุณของทุกวัน

“เยี่ยม!” ในเรลรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ความสามารถที่เป็นเหมือนกับน้ําค้างแห่งชีวิตมา เขาลูปไปที่คริสตัลวิวัฒนาการตรงหน้าอกของตนอย่างขอบคุณ

ความสามารถที่ได้มาใหม่นี้ทําให้เขาเป็นที่ผลิตยารักษาไปซะแล้วในเรลต้องระวังตัวขึ้นมาอีกมากที่จะไม่ให้ใครรู้ความสามารถนี้ เพราะไม่เช่นั้นทุกคนคงบุกมารีบ[โลหิตแห่งชีวิต A] ของเขาอย่าง แน่นอน

ใครบ้างที่จะไม่อยากได้ยารักษา ใครบ้างที่คิดว่าจะไม่ปวยแต่ช่างเถอะถ้าพวกนั้นไม่กลัวชื่อเสียงของปีศาจอย่างเขาก็แค่จับพวกมันกินให้หมดก็แค่นั้น

 

หลังจากนั้นเขาก็จัดการกับเรื่องของนิฟ์ที่ตนแอบเอามาจากหลุ่มแห่งนั้นในเรล จัดการกินมันลงลไปในทันทีด้วยใช้ร่างไททันเพื่อที่จะกินมันลงไปที่เดียว

ถึงจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับการกินอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พิศวาสมันมากนัก ถ้าไม่ใช้เพราะเขาต้องการความสามารถของนิมฟ์ละก็ในเรลคงไม่แตะต้องมันอย่างแน่นอน

รอสักพักใบไม้รอยสักสทองกงอกออกมาพร้อมกับความสามารถใหม่เนื่องจากมีร่างนิมพ์จํานวนมาก มันจึงเพียงพอให้เขาได้ความสามารถ[การตอบรับของธรรมชาติ B] มา

 

ซึ่งมันไม่ใช่ระดับ S หรือ A แต่เป็น B เพราะนิมฟ์ส่วนใหญ่ที่ตายเป็นแค่พวกที่อ่อนแอเท่านั้น ถ้าอยากได้มากกว่านี้ในเรลคงต้องจัดการนิมฟ์ระดับสูงแต่แน่นอนว่าความคิดนี้ไม่มีอยู่ในหัวของ เขาเลยแม้แต่น้อยอาจจะเพราะส่วนหนึ่งนั้นมาจากราชินีโอลิเวีย

หลังจากนั้นเขาก็จัดการกับวานรนักล่าเนื้อบางส่วนและเก็บที่เหลือลงไป ถึงแบบนั้นปริมาณในการกินของในเรลนั้นก็มากขึ้นในทุกวันขณะที่พลังงานในเซลล์ของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+