re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 80 แม่มด

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 80 แม่มด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 80 แม่มด

ในเรลมองไปทางฟอร์ดและพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ราวกับว่าเข้าใจถึงบาง

“งั้นก็แสดงว่าโนแลนเป็นคนแจ้งข่าวกับพวกนายจริงๆ ด้วยสินะ”

“ใช่แล้วจะทําไม โนแลนมันโง่แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะพูดถูกที่ว่ามีมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ําตาลเข้าพวกด้วย”ฟอร์ดพูดออกมาและส่งสัญญาณให้ของตนกระจายล้อมในเรลไว้

“ผิดแล้ว โนแลนนะพูดผิดทุกอย่าง”ในเรลส่ายหัวพร้อมกับค่อย ๆ ดึง หน้ากากออก“เพราะที่จริงแล้วฉันนะเป็นระดับสีเขียวเหนือกว่าสีน้ําตาลไปหนึ่งขั้น”

ฟอร์ดมองไปที่คริสตัลวิวัฒนาการที่อยู่บนหน้าผากของในเรลด้วยความตกใจมัน…เป็นไปได้อย่างไร? นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเขาเท่านั้นฟอร์ดที่อยู่ในระดับสีน้ําตาลเขาก็พอที่จะสัมผัสได้ถึงพลังของขึ้นที่เหนือขึ้นไปอีกหนึ่งว่ามันร้ายกาจแค่ไหนเพราะลําพังแค่ระดับสีน้ําตาลแบบเขากสามารถจัดการกับระดับสีเท่าได้นับสิบงั้นก็หมายความว่า ระดับสีเขียวก็ต้องจัดการระดับสีน้ําตาลอย่างพวกเขาได้นับสิบเช่นกัน

ถอย ต้องใช้ระเบิดเท่านั้น” ฟอร์ดได้แต่คิดแต่ในเรลนั้นได้เริ่มโจมตีแล้วเขาใช้ความสามารถ[คําบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ของตนกับมนุษย์ชั้นสูงคนหนึ่งในทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

มนุษย์ชั้นสูงสีเทาที่มีความสามารถในการกลายร่างอย่างไม่ทันจะได้เปลี่ยนร่างก็ใช้ปืนยิงตัวเองตายทันที

มนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนั้นก็หน้าซีดไปตาม ๆกันในเรงเองก็จัดการเก็บคนต่อ ๆ ไปทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

“ไม่ ๆ ร่างกายมันไม่ยอมฟังคําสั่งช่วยด้วย…” ปัง!

มนุษย์ชั้นสูงหลายคนรีบถอยหนีออกมาในทันที พวกเขาพยายามที่จะอุดหูของตัวเองไว้เพื่อที่จะไม่ฟังเสียงของในเรล

ฟอร์ดเองก็รู้แล้วว่าความสามารถที่ในเรลใช้นั้นมาจากเสียงที่สั่งให้พวกเขาทํา ตาม ดังนั้นเขาจึงให้ความสามารถ[สายลม A] ของตนสร้างเป็นกําแพงอากาศปิดกั้นเสียงของในเรลและพามนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ มาหลบด้านใน

“แล้วอย่างไรถึงจะเป็นระดับสีเขียวแต่ความสามารถมาจากการสั่งคนผ่านเสียงถ้าควบคุมพวกเราไม่ได้มันก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด”

“คลัซ แม็กและ นิกใช้การโจมตีระยะไกลฆ่ามันซะส่วนคนอื่น ๆ ค่อยจับตาดูมันไว้เมื่อมีโอกาสก็ค่อยโจมตี”ฟอร์ดเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการจัดการกับไนเรลถึงแม้ระดับพลังในเรลจะมีมากกว่าแต่ก็ใช่จะไม่หมดถ้าพวกเขาผลัดกันโจมตีพลังของไนเรลจะต้องหมดอย่างแน่นอนหรือไม่เขาอาจจะตายก่อนด้วย
ซ้ํา

เพราะว่าโดยปกติแล้วร่างกายของคนที่มีความสามารถแบบนี้นั้นจะไม่แข็งแรงมากนักแต่แล้วฟอร์ดก็เดาบิดอีกครั้ง

“โอ้ น่าสนใจคิดว่ามีกําแพงอากาศแล้วจะป้องกันการโจมตีจากความสามารถ[คําบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ได้มันก็ถูกอยู่หรอกแต่ถ้าการโจมตีแบบนี้ละ…” ในเรลกล่าวจบก็มีของบางอย่างที่อยู่ในเงาค่อย ๆลอยออกมามันก็คือขวานยักษ์ที่เขายึดมาจากลูกน้ององครักษ์ของเลฟอน

เพียงแค่ขนาดที่ใหญ่และยาวมันก็สูงท่วมหัวของไนเรลแล้วฟอร์ดที่เห็นก็ได้แต่กลืนน้ําลายแต่สิ่งที่เห็นต่อมาคือทําให้ฟอร์ดถึงกับเรียกไนเรลว่าเป็นปีศาจเลยนั้นก็เพราะในเรลที่จับไปที่ขวานด้า มนั้นยกขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อจากนั้นเขาก็เหวี่ยงปะทะเข้ากับกําแพงลมโดยรอบบูม!

การเหวี่ยงขวานของไนเรลไม่ต่างจากการวงสวิงของเบสบาลเลย

กําแพงลมถึงกับแต่สลายมนุษย์ชั้นสูงที่อยู่ภายในกระอักเลือดออกมาอย่างบาดเจ็บสาหัสตามตัวเกิดรอยแต่กตามผิวหนังเลือดที่ไหลออกมาราวกับท่อน้ําแตกจนแทบขยับตัวไม่ได้ส่วนฟอร์ดนั้นที่รับพลังปะทะเข้าไปเต็ม ๆ เขาก็ถึงกะชักสําลักเอาอวัยวะภายในออกมาแน่นิ่งตายไปทันที

ในเรลมองไปที่ภาพตรงหน้าแล้วก็คิดว่าคงจะใช่แรงจากความสามารถ [พละกําลัง 50 เท่า] มากไปหน่อย เขาจัดการ ทุบซ้ําไปที่หัวของแต่ละคนในทันทีหลังจากนั้นก็จัดการเก็บกวาดร่างของม นุษย์ชั้นสูงทั้งหมดเพื่อไม่ใช้พวกมันกลายล่างเป็นซอมบี้กลายพันธุ์

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับความสามารถอะไรใหม่มา ๆ แต่ในเรลก็ไม่ได้จนใสจากนั้นเขาก็จัดการฆ่าทุกอย่างที่ ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นคนของจีนาสหรือซอมบี้เพื่อจัดการฝั่งพวกจีนาสไปสู่ ความตาย

ในเรลได้ปลดปล่อยเงาให้ออกมาช่วยฆ่าด้วยเช่นกัน

เมื่อเข้ามาภายในสถานที่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นโรงนอนเขาก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยกับกลิ่นความคาวเพราะมันเต็มไปด้วยหญิงสาวที่นอนแก้ผ้าหมดสภาพอยู่ภายในห้องบางคนนั้นยังมีคราบขาว ๆ อยู่บนตัวในแววตาของพวกเธอหลายๆคนมันว่างเปล่าเหมือนกับคนที่ตายไปแล้วขณะที่บางคนนั้นก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาใช้ความสามารถตรวจจับความร้อนไปรอบ ๆ แล้วก็เจอเข้ากับชายขี้เมาจีนาสคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเมาไม่ได้สติไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย

ในขณะที่มันกําลังเสพสุมอยู่บนร่างของหญิงสาวในขณะที่เธอก็ร้องไห้ออกมาทั้งน้ําตา

ในเรลที่เห็นแบบนั้นก็ถีบประตูเข้าไปซึ่งนั้นก็สร้างความไม่พอใจให้กับชายคนนั้นอย่างมากมันหันมาด่าในเรลขณะที่เอวก็ยังไม่หยุดขยับ “เฮ้ยไอ้น้อง….เอ็งเป็นบ้าอะไรวะรอตามคิวสิ”

ในเรลไม่รอช้าแตะเข้าไปที่ศีรษะของชายคนนั้นจนมันกระเด็นหัวกระแทกกับกําแพงนอนหายใจรวยรินพะงาบๆอยู่ด้านข้าง

หญิงสาวที่ถูกข่มขืนอยู่เมื่อรู้ว่ามีคนมาช่วยเธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้สนใจว่าเธอกําลังแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าในเรล

แต่แน่นอนเมื่อมองไปที่ชายที่ข่มขืนเธอซึ่งกําลังจะตายเธอก็เหมือนจะทนไม่ไหวคว้าที่เขี่ยบุหรี่ทุบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นอย่างไม่ปราณีเธอคอมไปที่ร่างของชายคนนั้นคล้ายกับที่มันทํากับ เธอเมื่อสักครู่จากนั้นก็ทุบไปไม่หยุดเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั้งร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอมันเป็นเหมือนกับน้ําเย็นที่ลาดดับความบ้าคลั่งของเธอ

“ฮือ ๆ กระอีก…กระซิก” มือของเธอที่สั่นพร้อมกับน้ําตาที่ไหลและมือที่ถือที่เขี่ยบุหรี่ที่มีเศษเนื้อและเส้นผมติดอยู่ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

ตัวของไนเรลที่เห็นเธอก็รู้สึกถึงภาพที่ซ้อนทับกับตัวเอง

ในเรลจับไปที่มือของเธอเขาเอาที่เขี่ยบุหรี่โยนมันทั้งไปด้านข้างจากนั้นก็ใช้ผ้าที่อยู่แถวนั้นคุมร่างของเธอไว้และกล่าว “ถ้าเธออย่างตายก็ปืนนี่ซะแต่ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็ตามฉันมา”

ในเรลหยิบไปที่ปืนสั้นที่อยู่กับซองปืนที่กางเกงที่ชายคนนั้นถอดไว้ส่งมันให้กับเธอ

หญิงจากมองไปที่ปืนที่อยู่ในมือน้ําตาเธอค่อย ๆ ไหลออกมา มือที่สั่นเทาค่อยๆยกปืนขึ้นมาจ่อไปที่ศีรษะของตัวเองอย่างช้า ๆ เธอหลับตาลงพร้อมกับที่เหนี่ยวไกปืนในใจเธอได้แต่คิดว่าในที่สุดก็ได้หลุดพ้นจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

แป็ก!

แต่น่าแปลกเพราะมันกับเป็นปืนที่ไม่มีกระสุนเธอมองไปที่ในเรลด้วยสายตาที่งุนงงว่าเขาต้องการอะไรถึงให้ปืนที่ไม่มีกระสุนกับเธอ

ในเรลโยนแม็คกระซีนที่เขาถอดออกมาให้กับเธอและกล่าวอออกมา “ชีวิตก่อนหน้าของเธอตายไปแล้วเมื่อตอนที่เธอลั่นไกครั้งแรกดังนั้นตอนนี้นี่คือชีวิตที่สองเลือกเอาว่าจะลั่นไกฆ่าตัวเองอีกครั้งหรือไม่”

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมา ในเรลก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่หยิบแม็คกระซีนขึ้นมา พร้อมกับเสียงของปืนที่ยิงออกมาอีกหลายนัดแต่เธอไม่ได้ยิงตัวเองแต่เลือกที่จะยิงร่างของชายที่นอนตายอยู่จนกระสุนหมดจากนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพร้อมกับผ้าที่คุมร่างกายอยู่
ไม่มได้มีแค่เธอเท่านั้นที่ในเรลให้โอกาสแต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะตายมีแค่ไม่กี่คนที่ยอมเดินตามในเรลออกมาซึ่งเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของพวกเธอ

บางครั้งเขาก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินบังคับใครให้อยู่ต่อ แต่เขาทําได้เพียงยืนโอกาสให้เท่านั้นเพราะการที่บังคับคนเหล่านี้มันก็เป็นเหมือนกับการที่ให้เขาอยู่อย่างตายทั้งเป็น

หญิงสาว 9 คนเดินตามไนเรลมาโดยมีสาวคนแรกที่เขาช่วยไว้หลังจากถามก็ทราบชื่อว่าเธอชื่อชารอนซึ่งในเรลได้ยินชื่อก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าของเธอตั้งแต่แรกแล้วด้วย

ชารอน หรือแม่มดเป็นฉายาของหญิงสาวผู้วิจัยตัวยามากมายในเรลพอจะจําประวัติคร่าวๆของเธอได้ตามที่มีการพูดถึงกันซึ่งมาจากปากของเธอเองในชีวิตที่แล้วนั้นก็คือเธอถูกขังและรุมข่มขืน อยู่ในค่ายของจีนาสแต่ภายหลังได้หนีออกมาได้พร้อมกับชายอีกคนซึ่งเขาก็ได้เธอช่วยชีวิตไว้และชายคนนั้นก็คือตาเดียวฟังไม่ผิด ชายคนนั้นเรียกตัวเองว่าตาเดียวไม่รู้ว่ามันคือฉายาหรือชื่อจริงกันแน่แต่ในเรลคิดว่าน่าจะเป็นฉายามากกว่าแต่ก็ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของตาเดียว

ตาเดียวคือ เหตุที่คิดว่าเป็นฉายานั้นตามประวัติเขาฆ่าคนของจีนาสไปจํานวนมากจึงถูกมาทรมาณให้ตายดีกว่าอยู่โดยควักลูกตาออกไปข้างและตัดลิ้นแช่อยู่ในบ่อแต่เขายังไม่ตายเพราะเป็นมนุษย์ชั้นสูงสีเทา

“ถ้าแม่มดอยู่ที่นี่ ตาเดียวก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน”เขาพอประติดปะต่อเรื่องได้ว่าทั้งสองหน้าจะหนีจากที่นี่ด้วยกันถ้าเขาหาตัวตาเดียวเจอละก็เขาจะต้องให้ชายคนนั้นมาเป็นพวกให้ได้

เพราะตาเดียวคือมนุษย์ชั้นสูงที่ภายหลังได้เลือนไปเป็นมนุษย์ชั้นสูงที่ทรงพลังมาก ๆ จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ เลยแม้แต่ตัวเขาในชีวิตที่แล้วก็ยังไม่สามารถเทียบได้

มีหลายคนบอกว่ายืนของเขาไม่น่าจะอดทนต่อพลังได้ขนาดนั้นแน่เป็นเพราะเขาผ่านการทรมานมามากทําให้สามารถอดทนและก้าวผ่านระดับเหล่านั้นไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ในเรลเชื่อว่าสถานที่ขังตาเดียวนั้นมีไม่กี่ที่ในค่ายแห่งนี้ถ้าลองมองหายังไงก็ต้องเจอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 80 แม่มด

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 80 แม่มด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 80 แม่มด

ในเรลมองไปทางฟอร์ดและพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ราวกับว่าเข้าใจถึงบาง

“งั้นก็แสดงว่าโนแลนเป็นคนแจ้งข่าวกับพวกนายจริงๆ ด้วยสินะ”

“ใช่แล้วจะทําไม โนแลนมันโง่แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะพูดถูกที่ว่ามีมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ําตาลเข้าพวกด้วย”ฟอร์ดพูดออกมาและส่งสัญญาณให้ของตนกระจายล้อมในเรลไว้

“ผิดแล้ว โนแลนนะพูดผิดทุกอย่าง”ในเรลส่ายหัวพร้อมกับค่อย ๆ ดึง หน้ากากออก“เพราะที่จริงแล้วฉันนะเป็นระดับสีเขียวเหนือกว่าสีน้ําตาลไปหนึ่งขั้น”

ฟอร์ดมองไปที่คริสตัลวิวัฒนาการที่อยู่บนหน้าผากของในเรลด้วยความตกใจมัน…เป็นไปได้อย่างไร? นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเขาเท่านั้นฟอร์ดที่อยู่ในระดับสีน้ําตาลเขาก็พอที่จะสัมผัสได้ถึงพลังของขึ้นที่เหนือขึ้นไปอีกหนึ่งว่ามันร้ายกาจแค่ไหนเพราะลําพังแค่ระดับสีน้ําตาลแบบเขากสามารถจัดการกับระดับสีเท่าได้นับสิบงั้นก็หมายความว่า ระดับสีเขียวก็ต้องจัดการระดับสีน้ําตาลอย่างพวกเขาได้นับสิบเช่นกัน

ถอย ต้องใช้ระเบิดเท่านั้น” ฟอร์ดได้แต่คิดแต่ในเรลนั้นได้เริ่มโจมตีแล้วเขาใช้ความสามารถ[คําบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ของตนกับมนุษย์ชั้นสูงคนหนึ่งในทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

มนุษย์ชั้นสูงสีเทาที่มีความสามารถในการกลายร่างอย่างไม่ทันจะได้เปลี่ยนร่างก็ใช้ปืนยิงตัวเองตายทันที

มนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนั้นก็หน้าซีดไปตาม ๆกันในเรงเองก็จัดการเก็บคนต่อ ๆ ไปทันที

“ฆ่าตัวตายซะ”

“ไม่ ๆ ร่างกายมันไม่ยอมฟังคําสั่งช่วยด้วย…” ปัง!

มนุษย์ชั้นสูงหลายคนรีบถอยหนีออกมาในทันที พวกเขาพยายามที่จะอุดหูของตัวเองไว้เพื่อที่จะไม่ฟังเสียงของในเรล

ฟอร์ดเองก็รู้แล้วว่าความสามารถที่ในเรลใช้นั้นมาจากเสียงที่สั่งให้พวกเขาทํา ตาม ดังนั้นเขาจึงให้ความสามารถ[สายลม A] ของตนสร้างเป็นกําแพงอากาศปิดกั้นเสียงของในเรลและพามนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ มาหลบด้านใน

“แล้วอย่างไรถึงจะเป็นระดับสีเขียวแต่ความสามารถมาจากการสั่งคนผ่านเสียงถ้าควบคุมพวกเราไม่ได้มันก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด”

“คลัซ แม็กและ นิกใช้การโจมตีระยะไกลฆ่ามันซะส่วนคนอื่น ๆ ค่อยจับตาดูมันไว้เมื่อมีโอกาสก็ค่อยโจมตี”ฟอร์ดเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการจัดการกับไนเรลถึงแม้ระดับพลังในเรลจะมีมากกว่าแต่ก็ใช่จะไม่หมดถ้าพวกเขาผลัดกันโจมตีพลังของไนเรลจะต้องหมดอย่างแน่นอนหรือไม่เขาอาจจะตายก่อนด้วย
ซ้ํา

เพราะว่าโดยปกติแล้วร่างกายของคนที่มีความสามารถแบบนี้นั้นจะไม่แข็งแรงมากนักแต่แล้วฟอร์ดก็เดาบิดอีกครั้ง

“โอ้ น่าสนใจคิดว่ามีกําแพงอากาศแล้วจะป้องกันการโจมตีจากความสามารถ[คําบัญชาเผ่าพันธุ์ E] ได้มันก็ถูกอยู่หรอกแต่ถ้าการโจมตีแบบนี้ละ…” ในเรลกล่าวจบก็มีของบางอย่างที่อยู่ในเงาค่อย ๆลอยออกมามันก็คือขวานยักษ์ที่เขายึดมาจากลูกน้ององครักษ์ของเลฟอน

เพียงแค่ขนาดที่ใหญ่และยาวมันก็สูงท่วมหัวของไนเรลแล้วฟอร์ดที่เห็นก็ได้แต่กลืนน้ําลายแต่สิ่งที่เห็นต่อมาคือทําให้ฟอร์ดถึงกับเรียกไนเรลว่าเป็นปีศาจเลยนั้นก็เพราะในเรลที่จับไปที่ขวานด้า มนั้นยกขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อจากนั้นเขาก็เหวี่ยงปะทะเข้ากับกําแพงลมโดยรอบบูม!

การเหวี่ยงขวานของไนเรลไม่ต่างจากการวงสวิงของเบสบาลเลย

กําแพงลมถึงกับแต่สลายมนุษย์ชั้นสูงที่อยู่ภายในกระอักเลือดออกมาอย่างบาดเจ็บสาหัสตามตัวเกิดรอยแต่กตามผิวหนังเลือดที่ไหลออกมาราวกับท่อน้ําแตกจนแทบขยับตัวไม่ได้ส่วนฟอร์ดนั้นที่รับพลังปะทะเข้าไปเต็ม ๆ เขาก็ถึงกะชักสําลักเอาอวัยวะภายในออกมาแน่นิ่งตายไปทันที

ในเรลมองไปที่ภาพตรงหน้าแล้วก็คิดว่าคงจะใช่แรงจากความสามารถ [พละกําลัง 50 เท่า] มากไปหน่อย เขาจัดการ ทุบซ้ําไปที่หัวของแต่ละคนในทันทีหลังจากนั้นก็จัดการเก็บกวาดร่างของม นุษย์ชั้นสูงทั้งหมดเพื่อไม่ใช้พวกมันกลายล่างเป็นซอมบี้กลายพันธุ์

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับความสามารถอะไรใหม่มา ๆ แต่ในเรลก็ไม่ได้จนใสจากนั้นเขาก็จัดการฆ่าทุกอย่างที่ ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นคนของจีนาสหรือซอมบี้เพื่อจัดการฝั่งพวกจีนาสไปสู่ ความตาย

ในเรลได้ปลดปล่อยเงาให้ออกมาช่วยฆ่าด้วยเช่นกัน

เมื่อเข้ามาภายในสถานที่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นโรงนอนเขาก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยกับกลิ่นความคาวเพราะมันเต็มไปด้วยหญิงสาวที่นอนแก้ผ้าหมดสภาพอยู่ภายในห้องบางคนนั้นยังมีคราบขาว ๆ อยู่บนตัวในแววตาของพวกเธอหลายๆคนมันว่างเปล่าเหมือนกับคนที่ตายไปแล้วขณะที่บางคนนั้นก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาใช้ความสามารถตรวจจับความร้อนไปรอบ ๆ แล้วก็เจอเข้ากับชายขี้เมาจีนาสคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเมาไม่ได้สติไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย

ในขณะที่มันกําลังเสพสุมอยู่บนร่างของหญิงสาวในขณะที่เธอก็ร้องไห้ออกมาทั้งน้ําตา

ในเรลที่เห็นแบบนั้นก็ถีบประตูเข้าไปซึ่งนั้นก็สร้างความไม่พอใจให้กับชายคนนั้นอย่างมากมันหันมาด่าในเรลขณะที่เอวก็ยังไม่หยุดขยับ “เฮ้ยไอ้น้อง….เอ็งเป็นบ้าอะไรวะรอตามคิวสิ”

ในเรลไม่รอช้าแตะเข้าไปที่ศีรษะของชายคนนั้นจนมันกระเด็นหัวกระแทกกับกําแพงนอนหายใจรวยรินพะงาบๆอยู่ด้านข้าง

หญิงสาวที่ถูกข่มขืนอยู่เมื่อรู้ว่ามีคนมาช่วยเธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้สนใจว่าเธอกําลังแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าในเรล

แต่แน่นอนเมื่อมองไปที่ชายที่ข่มขืนเธอซึ่งกําลังจะตายเธอก็เหมือนจะทนไม่ไหวคว้าที่เขี่ยบุหรี่ทุบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นอย่างไม่ปราณีเธอคอมไปที่ร่างของชายคนนั้นคล้ายกับที่มันทํากับ เธอเมื่อสักครู่จากนั้นก็ทุบไปไม่หยุดเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั้งร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอมันเป็นเหมือนกับน้ําเย็นที่ลาดดับความบ้าคลั่งของเธอ

“ฮือ ๆ กระอีก…กระซิก” มือของเธอที่สั่นพร้อมกับน้ําตาที่ไหลและมือที่ถือที่เขี่ยบุหรี่ที่มีเศษเนื้อและเส้นผมติดอยู่ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

ตัวของไนเรลที่เห็นเธอก็รู้สึกถึงภาพที่ซ้อนทับกับตัวเอง

ในเรลจับไปที่มือของเธอเขาเอาที่เขี่ยบุหรี่โยนมันทั้งไปด้านข้างจากนั้นก็ใช้ผ้าที่อยู่แถวนั้นคุมร่างของเธอไว้และกล่าว “ถ้าเธออย่างตายก็ปืนนี่ซะแต่ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็ตามฉันมา”

ในเรลหยิบไปที่ปืนสั้นที่อยู่กับซองปืนที่กางเกงที่ชายคนนั้นถอดไว้ส่งมันให้กับเธอ

หญิงจากมองไปที่ปืนที่อยู่ในมือน้ําตาเธอค่อย ๆ ไหลออกมา มือที่สั่นเทาค่อยๆยกปืนขึ้นมาจ่อไปที่ศีรษะของตัวเองอย่างช้า ๆ เธอหลับตาลงพร้อมกับที่เหนี่ยวไกปืนในใจเธอได้แต่คิดว่าในที่สุดก็ได้หลุดพ้นจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

แป็ก!

แต่น่าแปลกเพราะมันกับเป็นปืนที่ไม่มีกระสุนเธอมองไปที่ในเรลด้วยสายตาที่งุนงงว่าเขาต้องการอะไรถึงให้ปืนที่ไม่มีกระสุนกับเธอ

ในเรลโยนแม็คกระซีนที่เขาถอดออกมาให้กับเธอและกล่าวอออกมา “ชีวิตก่อนหน้าของเธอตายไปแล้วเมื่อตอนที่เธอลั่นไกครั้งแรกดังนั้นตอนนี้นี่คือชีวิตที่สองเลือกเอาว่าจะลั่นไกฆ่าตัวเองอีกครั้งหรือไม่”

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมา ในเรลก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่หยิบแม็คกระซีนขึ้นมา พร้อมกับเสียงของปืนที่ยิงออกมาอีกหลายนัดแต่เธอไม่ได้ยิงตัวเองแต่เลือกที่จะยิงร่างของชายที่นอนตายอยู่จนกระสุนหมดจากนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพร้อมกับผ้าที่คุมร่างกายอยู่
ไม่มได้มีแค่เธอเท่านั้นที่ในเรลให้โอกาสแต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะตายมีแค่ไม่กี่คนที่ยอมเดินตามในเรลออกมาซึ่งเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของพวกเธอ

บางครั้งเขาก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินบังคับใครให้อยู่ต่อ แต่เขาทําได้เพียงยืนโอกาสให้เท่านั้นเพราะการที่บังคับคนเหล่านี้มันก็เป็นเหมือนกับการที่ให้เขาอยู่อย่างตายทั้งเป็น

หญิงสาว 9 คนเดินตามไนเรลมาโดยมีสาวคนแรกที่เขาช่วยไว้หลังจากถามก็ทราบชื่อว่าเธอชื่อชารอนซึ่งในเรลได้ยินชื่อก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าของเธอตั้งแต่แรกแล้วด้วย

ชารอน หรือแม่มดเป็นฉายาของหญิงสาวผู้วิจัยตัวยามากมายในเรลพอจะจําประวัติคร่าวๆของเธอได้ตามที่มีการพูดถึงกันซึ่งมาจากปากของเธอเองในชีวิตที่แล้วนั้นก็คือเธอถูกขังและรุมข่มขืน อยู่ในค่ายของจีนาสแต่ภายหลังได้หนีออกมาได้พร้อมกับชายอีกคนซึ่งเขาก็ได้เธอช่วยชีวิตไว้และชายคนนั้นก็คือตาเดียวฟังไม่ผิด ชายคนนั้นเรียกตัวเองว่าตาเดียวไม่รู้ว่ามันคือฉายาหรือชื่อจริงกันแน่แต่ในเรลคิดว่าน่าจะเป็นฉายามากกว่าแต่ก็ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของตาเดียว

ตาเดียวคือ เหตุที่คิดว่าเป็นฉายานั้นตามประวัติเขาฆ่าคนของจีนาสไปจํานวนมากจึงถูกมาทรมาณให้ตายดีกว่าอยู่โดยควักลูกตาออกไปข้างและตัดลิ้นแช่อยู่ในบ่อแต่เขายังไม่ตายเพราะเป็นมนุษย์ชั้นสูงสีเทา

“ถ้าแม่มดอยู่ที่นี่ ตาเดียวก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน”เขาพอประติดปะต่อเรื่องได้ว่าทั้งสองหน้าจะหนีจากที่นี่ด้วยกันถ้าเขาหาตัวตาเดียวเจอละก็เขาจะต้องให้ชายคนนั้นมาเป็นพวกให้ได้

เพราะตาเดียวคือมนุษย์ชั้นสูงที่ภายหลังได้เลือนไปเป็นมนุษย์ชั้นสูงที่ทรงพลังมาก ๆ จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ เลยแม้แต่ตัวเขาในชีวิตที่แล้วก็ยังไม่สามารถเทียบได้

มีหลายคนบอกว่ายืนของเขาไม่น่าจะอดทนต่อพลังได้ขนาดนั้นแน่เป็นเพราะเขาผ่านการทรมานมามากทําให้สามารถอดทนและก้าวผ่านระดับเหล่านั้นไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ในเรลเชื่อว่าสถานที่ขังตาเดียวนั้นมีไม่กี่ที่ในค่ายแห่งนี้ถ้าลองมองหายังไงก็ต้องเจอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+