Regressor Instruction Manual 10 จองฮายัน (1)

Now you are reading Regressor Instruction Manual Chapter 10 จองฮายัน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลำดับชั้นที่มองไม่เห็นกำลังก่อตัวขึ้น

แม้แต่สัตว์ที่พูดไม่ได้ก็มีการแบ่งชนชั้น มันคงจะไม่แปลก ถ้ามันจะเกิดขึ้นกับสถานการณ์ในตอนนี้

ตราบใดที่นี่เป็นสถานที่มีผู้คนอาศัยอยู่ มันก็เป็นผลลัพธ์ตามธรรมชาติ

“ก่อนอื่น”

ด้านบนสุดของพีระมิดคือชายผู้สร้างสถานที่แห่งนี้อย่างคิมฮยอนซึง

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการหาที่พักนี้ แต่ผู้คนที่นี่ให้ความไว้วางใจกับคิมฮยอนซึงมาก

แต่ผมก็มีปฏิกิริยาที่คล้ายกัน

แน่นอนว่ามันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติสำหรับคนที่ตกลงไปในดินแดนที่ไม่รู้จักและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์

ความจริงที่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งเต็มใจที่จะหยิบดาบเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ทำให้พวกเขาวางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ใจดีอย่างโง่เขลา

ไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะชื่นชมเขา

ถัดไปคือลีจีฮเย ผู้หญิงที่มีโชคลาภอย่างไม่คาดคิดจากการอยู่ร่วมกันกับคิมฮยอนซึง

เธอแตกต่างจากคิมฮยอนซึงที่มักจะออกไปข้างนอก เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่พักโดยการแจกจ่ายอาหาร ดูแลที่นี่และจัดงานสำคัญอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘กลุ่มลีจีฮเย’ ซึ่งมีอำนาจสำคัญ

แน่นอนว่าในขณะที่คิมฮยอนซึงอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่สามารถก้าวก่ายหรือใช้ประโยชน์จากอำนาจที่พวกเขามีอย่างเปิดเผย

แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเขาจากไป

“แล้วพวกเราล่ะพี่?”

“นายสามารถพูดได้ว่าเราอยู่ภายใต้คิมฮยอนซึง เพราะเราต่อสู้และค้นหาอาหาร”

“อืม…”

“เป็นไปได้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่พอใจพวกเรา”

“แต่ก่อนอื่น…”

“แน่นอนว่าตอนแรกพวกเขาจะน่ารักต่อเรา แต่พวกเขาคงไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เหมือนการบอกเป็นนัยว่าเราต้องการเป็นอิสระ ราวกับว่า ‘ไม่ใช่งานของเราที่จะเลี้ยงพวกเขา’ นั่นอาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย “

“แต่อาหารส่วนหนึ่งที่พวกเขากินเป็นของเรา พวกเขาต้องขอบคุณเราสิ”

“แน่นอนว่าก็มีคนเช่นนั้น …แต่ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่พยายามจะรักษาอำนาจไว้ แม้พวกเขาจะเป็นเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ก็ตาม”

“แต่คิมฮยอนซึงคอยตรวจสอบพวกเราอยู่ใช่มั้ย?”

“ไม่ คิมฮยอนซึงไม่คิดว่าสถานที่นี้เป็นของเขาตั้งแต่แรก”

“แล้วใครกันล่ะที่ระวังพวกเรา…?”

“คนที่คิดว่าสถานที่นี้เป็นของพวกเขา”

ไม่ใช่คิมฮยอนซึงที่เสแสร้งทำเป็นปกครอง แต่เป็นลีจีฮเยเป็นที่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา

“ผมรู้แล้วว่าพี่หมายถึงอะไร”

“คิมฮยอนซึงเป็นหุ่นเชิดของกลุ่มนี้ ส่วนเธอเป็นคนควบคุมมัน ในตอนแรกคิมฮยอนซึงไม่มีเวลาจัดการกับสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ข้างนอก ในกรณีที่จำเป็นผู้ที่มีพลังคือราชา ใช่ อาหารและที่พักเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก แต่ผู้ที่เข้าใจพวกเขาไม่ใช่คิมฮยอนซึงผู้มีอำนาจ แต่เป็นผู้หญิงคนนั้นที่ดูแลทั้งอาหารและที่พัก”

“พี่หมายถึงลีจีฮเยเหรอ?”

ผมพยักหน้าเล็กน้อย

“ถูกต้อง”

“…”

“ขนมปังก้อนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะชนะใจผู้คน อำนาจถูกสร้างขึ้นโดยการเลือกปฏิบัติ จองฮายันน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ลีจีฮเยไม่ชอบ …นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่เธอถูกแยกออกจากกลุ่ม และถูกส่งไปทำงานที่ยากลำบาก”

“ผมเข้าใจแล้ว แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ให้ความสนใจกับฮายันมากขนาดนี้?”

“ในอนาคตเราจะต้องจับตาดูเธอให้มากขึ้น”

ปาร์คด็อกกูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

การเฝ้าดูจองฮายันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

มันเป็นการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นตามนิสัยของลีจีฮเยและจองฮายันด้วย “ความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัว” และ ‘ผู้สนับสนุนที่บริสุทธิ์’

เหมือนกับลีจีฮเย แม้เธอจะเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไรเพราะผมต้องการแค่ผลลัพธ์เท่านั้น…

***

“ฮายัน คุณต้องทำงานให้ถูกต้องสิครับ”

” คะ…? “

“ทุกคนทำงานหนักนะฮายัน คุณไม่ใช่คนเดียวที่ลำบาก ในสถานการณ์แห่งนี้พวกเราทุกคนต้องร่วมมือกัน …หากคุณยังคงมีทัศนคติเช่นนี้ เราคงไม่มีทางเลือกนอกจากลดส่วนแบ่งของคุณนะ”

” ค่ะ…”

“ไม่สำคัญว่าคุณจะพูดว่า ‘ค่ะ’ หรือไม่ …อย่างที่คุณเคยได้ยินมาว่าสิ่งต่าง ๆ ดูไม่ดีนัก การหาอาหารจากที่อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย และเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน หากมีมอนสเตอร์มาในตอนที่คุณฮยอนซึงไม่อยู่ เราจะถูกฆ่า นั่นคือเหตุผลที่การสร้างกำแพงครับ”

” ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันขอโทษจริง ๆ”

“หากคุณไม่อยากถูกไล่ออกไปก็อย่าบ่นและทำงานมากขึ้น สำหรับผู้รอดมาใหม่ในอนาคต มันอาจไม่มีที่ว่างพอสำหรับคุณ”

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนมาใหม่จึงเห็นแก่ตัว…”

” …ขอโทษค่ะ”

” มันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้าคุณแค่ทำมันให้ถูกต้อง!!”

” ค่ะ ฉ – ฉันเข้าใจแล้ว”

เธอสามารถมองเห็นชายที่พูดอย่างกังวลหันกลับไป

เธอก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว

เธอไม่แน่ใจว่าเธอทำอะไรผิดในใจของเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบสิ่งที่เธอทำ

ไม่ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาไม่ชอบมัน

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาไม่มีความสุข ผ่านไปสองสามวันแล้วและเธอก็ยังไม่สามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่เธอได้รับ

‘ งี่เง่า’

เธอมักจะได้ยินคำเช่น “ช้า” หรือ “หอยทาก” แต่เธอเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นแม้ในสถานการณ์เช่นนี้

‘มันเจ็บ’

เมื่อมองลงไปเล็กน้อย จะเห็นมืออันมอมแมมของเธอ เล็บของเธอหายไปเกือบหมด มันเจ็บปวด แต่เธอก็เห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน

‘ทุกคนทำงานหนักมาก’

ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออยู่รอด

คุณฮยอนซึง คุณกียองและคุณด็อกกูที่ออกไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมถึงผู้คนที่สร้างกำแพงด้วยที่นี่

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เธอวิ่งหนีไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่แล้ว สถานที่แห่งนี้เปรียบเหมือนกับสวรรค์

ถ้าคุณกียองไม่ช่วยเธอในตอนนั้น เธอคงถูกมอนสเตอร์ฆ่าตาย

ในขณะที่เธอจำได้ว่าเธอเกาะติดเขามาเกือบตลอดทางอย่างไร ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ

นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดผู้ชายเช่นนั้น

ในขณะที่เธอนึกถึงความทรงจำนั้นด้วยความงุนงง เธอก็เงยหน้าขึ้นเมื่อกับเสียงที่ดังมาจากข้าง ๆ

“ฮายัน ผมรู้ว่าคุณลำบาก ให้ผมทำมันเองเถอะ”

“อ่า คุณซอกวู”

“ช่วงนี้เขาคงเครียดเกินไป”

“คะ?”

“ครับ คุณฮยอนซึงได้ออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง ดังนั้นการสร้างป้อมปราการจึงมีความสำคัญมากและตอนนี้คุณจีฮเยก็คิดแบบเดียวกัน เราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ดังนั้นเราต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ คุณเข้าใจมันใช่มั้ยครับ? “

“ฉ – ฉันเข้าใจค่ะ”

“วันนี้คุณดูอ่อนไหวเป็นพิเศษ อย่างน้อยผมก็คิดว่าคุณเป็นคนทำงานหนักที่สุดที่นี่ …ไว้ผมจะคุยกับเขาในภายหลัง ไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ”

“อ่า…ค่ะ”

“ผมได้ยินว่าเมื่อวานนี้ฮยอนซึงได้อาหารจากจุดเริ่มต้นด้วย”

” จริงเหรอคะ? “

“ใช่ครับ ผมได้ยินมาจากคุณจีฮเยเอง ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องจริง”

“นั่นคงจะทำให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ เลยนะคะ”

ยูซอกวู

เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ

แน่นอนว่านั่นเนื่องมาจากเขาดูแลเธอ แต่ส่วนใหญ่เขาก็แค่อยากคุยกับเธอ

“ยังไงซะ งานนี้คงยากเกินไปสำหรับคุณไม่ใช่เหรอครับ?”

“ค่ะ น- แน่นอนว่ามันยาก แต่คนอื่น ๆ ก็ทำในสิ่งที่ยากกว่าฉัน”

“แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเลยนะครับ …คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่คุณสามารถแอบโกงได้นิดหน่อย”

“คะ? แต่ฉันไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ตั้งแต่แรก…ฉันโกงไม่ได้ค่ะ แม้แต่คุณซอกวูที่ได้รับบาดเจ็บ คุณก็ยังทำงานกับเรา…”

“ผมต้องดูแลทุกอย่างน่ะครับ ผมเลยไม่ต้องทำอะไรมาก ฮ่าฮ่าฮ่า อันที่จริงผมไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องนี้”

ขณะที่คุยกันเรื่องต่าง ๆ พวกเขาก็มาถึงโต๊ะแจกอาหาร

เธอสามารถเห็นคนสองสามคนที่เข้าแถว

ปาร์คด็อกกูและลีกียองไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ว่าพวกเขาทานอาหารเสร็จแล้วหรือออกไปที่อื่น

‘ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขากลับมาจากข้างนอก’

แน่นอนว่าพวกเขาต้องการพักผ่อน

“เข้าแถวและยืนรอนะคะ”

” ค่ะ”

” ครับ”

หลังจากรับอาหารแล้ว พวกเขาก็นั่งลงในจุดที่เหมาะสม เธอสามารถเห็นคนอื่น ๆ ที่มารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารได้

ความคิดชั่ววูบของเธอคือการแอบไปเข้าร่วมกับพวกเขา อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะความขี้อายของเธอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะพูดคุยหรือออกไปทักทายกับคนอื่นตั้งแต่แรก

“สถานการณ์ตอนนี้คงยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน”

” คะ? “

“ผมหมายถึงคนอื่น ๆ น่ะครับ มันยากสำหรับทุกคน ไม่มีใครสามารถดูแลใครได้อีกแล้ว และในกรณีของฮายันที่มาที่นี่ช้า พวกเขาคงอาจจะลังเลใจมากกว่า”

“…ฉัน – ฉันเดาว่าอย่างนั้น ล – และฉันยังไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง…”

“ไม่เลยครับคุณฮายัน คุณทำงานหนักกว่าใคร ๆ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนจะยอมรับและเข้าใจเหมือนที่ผมเป็นในตอนนี้”

“ข- ขอบคุณค่ะที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี”

“โอ้ มันเป็นอะไรเลยครับ ผมแค่อยากจะใกล้ชิดกับฮายันให้มากขึ้น”

“ค่ะ! ฉันก็เหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือฉันเสมอมา”

ตอนนี้เธอคิดได้ เธอได้รับความช่วยเหลือมากมายจากที่นี่

ตั้งแต่เริ่ม เขาเป็นคนแรกที่เข้าหาและสร้างความสัมพันธ์กับเธอ เขาทำให้ชีวิตเธอราบรื่นขึ้นมาก

‘ขอบคุณ.’

มันเกิดขึ้นในขณะที่เธอหยิบขนมปังเข้าปาก แต่เธอรู้สึกได้ว่ายูซอกวูกำลังจับมือเธอ

” อ๊ะ…”

เธอพยายามดึงสติกลับมา แต่เขาไม่ยอมปล่อย

เมื่อเธอหันหน้าไป ฮายันเห็นยูซอกวูมองมาที่เธอ

“ป- ปล่อย…”

“อะไรนะครับ? “

“ป – ปล่อยนะคะ ทำไมจู่ ๆ …?”

“แต่ตอนนี้…”

“น – นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง”

เธอมองไปรอบ ๆ อย่างรีบร้อน แต่เธอไม่เห็นใครอยู่ที่นั่น เธอรู้สึกเหมือนว่าดวงตาอันยิ้มแย้มของยูซอกวูเปลี่ยนไปเล็กน้อย

รอยยิ้มของเขาหายไปและท่าทีเยาะเย้ยก็เข้ามาแทนที่

“คุณฮายันครับ”

“คะ?”

“คุณคิดว่าผมช่วยคุณอยู่หรือเปล่า?”

“ค – คุณกำลังพูดถึงอะไรคะ?”

“ถ้าคุณจะเอาอะไรไป คุณก็ต้องตอบแทนพวกเขาด้วย คุณไม่รู้จักจริงๆ เหรอครับ?”

“ค – คุณกำลังพูดอะไร ท – ทำไมคุณถึงทำแบบนี้…”

“คุณรู้มั้ยว่าผมทำเพื่อคุณมากแค่ไหน?”

“ฉ – ฉันไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ฉันขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ แต่…”

“…คุณโง่จริง ๆ หรือว่าคุณแค่แกล้งโง่? ผมควรจะกล่าวให้มันตรงกว่านี้มั้ย?”

“ป – ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ อ๊ะ มันเจ็บ มันเจ็บ…”

“ถ้าคุณอยากอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขในอนาคต คุณควรจะดีกับผมนะครับ แค่นี้คุณยังคิดไม่ออกหรือไง?”

แววตาของเขาน่ากลัว เธอไม่เคยเห็นใครมองมาที่เธอด้วยสายตาแบบนี้

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ทำไมสิ่งต่าง ๆ จึงกลายเป็นแบบนี้

แต่สิ่งที่เธอรู้แน่นอน คือเธอต้องการออกไปจากที่นี่

ขณะที่เธอพยายามดึงมือออกไปอย่างหมดหวัง เธอก็ได้ยินเสียงดังจากข้างหลังเธอ

“พี่ชาย ถ้าไม่อยากให้มือของคุณขาด คุณควรปล่อยเธอไปนะ “

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด