Regressor Instruction Manual 82 อาชีพที่สาม (8)

Now you are reading Regressor Instruction Manual Chapter 82 อาชีพที่สาม (8) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 82 อาชีพที่สาม (8)

 

ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศที่มีเสียงดัง

 

สิ่งสุดท้ายที่ผมจําได้เมื่อวานคือการเลือกอาชีพที่สาม ทดสอบบางอย่างเกี่ยวกับมันแล้วทรุดลงบนเตียง

 

ราวกับผมเพิ่งหลุดจากสถานะโคม่า ผมรู้สึกกระวนกระวาย

 

“เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว”

 

ปัญหาคือผมแทบจะไม่ได้นอนเลยตลอดเวลาที่ทํางาน ห้องของผมยังไม่ได้รับการทําความสะอาด ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะค้างคืนในเวิร์คช็อปของตัวเอง

 

“ผมยังรู้สึกเหนื่อย”

 

ถ้าผมรู้ว่าอาการเหล่านี้จะไม่ดีขึ้น แม้จะได้พักผ่อนบ้างแล้วก็ตาม ผมคงจะสะสางตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนก่อน ด้วยวิธีนี้ผมสามารถใช้เตียงที่จองฮายันร่ายเวทมนตร์ได้

 

ในขณะที่ผมหันหัวไปอีกทาง ผมก็เห็นฮวังจองยอนที่นั่งอยู่บนโซฟา

 

“เธอคงเหนื่อยมากเหมือนกัน”

 

เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทําตามตารางเวลาของผม ดังนั้นเธอคงรู้สึกอ่อนเพลีย

 

แม้ผมไม่คาดคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แต่ผมก็ไม่รู้สึกตื่นตัว ผมรู้สึกยินดีที่ได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ระแวงผู้คนอีกต่อไป ยิ่งผมเชื่อใจคนอื่นได้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

 

ตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่าเสียงดังนี้มาจากไหน

 

“ เฮ้อ…พี่คงทํางานหนักเหมือนกัน ชั้นสองทั้งหมดยังเป็นระเบียบ โอ้ ฮายัน! ถ้าวิ่งแบบนั้นระวังล้มนะ ฮียอง ช่วยทําอะไรสักอย่างหน่อยสิ”

 

“…”

 

“ อันดับแรกเราควรจัดของ ฮียองส่งกระเป๋าสีขาวมาให้ผม…”

 

“ ค่ะ”

 

ผมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร ปาร์ตี้ของผมกลับมาแล้ว

 

ผมเริ่มยิ้มให้กับการรับรู้นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นฮวังจองยอนพลิกตัว ผมก็เริ่มตกใจ

 

“บ้าเอ้ย”

 

ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นมาชั้นสองอย่างรวดเร็ว ผมรู้แล้วว่านั่นคือใคร

 

“จองฮายัน”

 

ถึงแม้ว่าผมกับจองยอนจะไม่เคยสัมผัสทางกายใด ๆ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องแย่ที่ฮายันจะได้พบเธอที่นี่ มันคงไม่เป็นประโยชน์สําหรับฮวังจองยอนเช่นกัน เพราะเธอต้องการผมให้แนะนําเธอให้รู้จักกับปาร์คด็อกกู

 

“ พี่พี่คะ…” เสียงของจองฮายันดังผ่านประตูห้องเวิร์คชอป ผมรู้ว่าเวทมนตร์ติดตามตําแหน่งยังคงทํางาน ดังนั้นผมจึงไม่สามารถแสร้งทําเป็นว่าตัวเองไม่อยู่ที่นี่

 

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกในหนังสยองขวัญ

 

ตึก ตัก!

 

“พี่คะ…. คุณอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า? พี่อยู่ตรงนั่นใช่ไหมคะ?”

 

ตึก!

 

” พี่อยู่ตรงนั้นใช่ไหมคะ? พี่?”

 

ตึก ตัก!

 

“ พี่ไม่ได้นอนอยู่เหรอ? บางทีพอาจจะยังคงค้นคว้าอยู่เราน่าจะเงียบก่อนนะ ฮายัน ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย…”

 

“ทําได้ดีมาก ปาร์คด็อกกู”

 

“ หรืออาจจะมีบางอย่างผิดปกติกับพี่เขาอาจจะล้มลง?”

 

“.. ผมขอคืนคําพูด”

 

ตึก ตัก!

 

เมื่อถึงจุดนี้ จองฮายันก็กลับมาเคาะประตูต่ออย่างเร่งรีบเป็นเรื่องธรรมดาที่ฮวังจองยอนจะตื่นจากความวุ่นวายทั้งหมด

 

เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วิในการทําความเข้าใจเรื่องราว ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเปิดกว้าง

 

“ พี่คะ! โอ้ พี่ยังนอนอยู่เหรอคะ?”

 

ผมเกือบจะตะคอกกับคําถาม ถ้าผมหลับ เธอก็คงจะไม่ได้รับคําตอบอย่างแน่นอน

 

” เกิดอะไรขึ้น?”

 

“สถานการณ์ตอนนี้”

 

ขณะที่ผมมองไปยังหน้าต่าง ผมเห็นฮวังจองยอนพยักหน้าอย่างหมดหวัง

 

“ อืม…ด็อกกู ฉันนอนดึกมาแล้วเพิ่งตื่น”

 

“ พี่”

 

” อา! ขอโทษที่รบกวน”

 

“ นายมาช้ากว่าที่ฉันคาด ฉันจะเปิดประตูเดี๋ยวนี้แหละ รอแปปนึงนะ”

 

ขณะที่ผมพูด ฮวังจองยอนรีบไปที่หน้าต่าง ผมอาจจะบอกได้ว่าเราค้นคว้าร่วมกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูน่าสงสัยกับการที่เราอยู่ด้วยกันตามลําพังในช่วงเวลานี้ของวัน

 

“อ๊ะ!”

 

ฮวังจองยอนที่ตั้งใจจะกระโดดลงมาจากชั้นสองส่งเสียงกรีดร้องเล็ก ๆ

 

ตึก ตัก! ตึก ตัก! ตึก ตัก!

 

จองฮายันซึ่งตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเริ่มเขย่าประตูมากขึ้น

 

หลังจากมั่นใจว่าไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกว่าฮวังจองยอนเคยมาที่นี่ ผมจึงเปิดประตูออกไป ใบหน้าที่ผมไม่เห็นมานานก็สะท้อนให้เห็นในมุมของสายตา

 

อย่างแรก ผมเห็นปาร์คด็อกกูยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มธรรมดา

 

ผมไม่รู้ว่าทําไม แต่ดวงตาของผู้ชายคนนี้เป็นสีแดง เมื่อมองดูบาดแผลบนร่าง ดูเหมือนการสํารวจนี้จะไม่ง่ายนัก

 

แน่นอนว่าจองฮายันดูมีความสุขที่สุด ก่อนอื่นเธอมองไปรอบ ๆ ห้อง เพื่อระบุได้ว่าเสียงกรีดร้องนั้นมาจากที่ไหน แต่ในไม่ช้าเธอก็หันกลับมาสนใจผม

 

ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา ผมเองก็รู้สึกดีเช่นกัน มันรู้สึกดีมากที่เธอกลับมา

 

“ โอ้ ฮึก…พี่คะ…”

 

ด้วยความรู้สึกไม่คุ้นเคยนี้ที่เดือดพล่านอยู่ในตัว ผมจึงเริ่มลูบหัวเธอด้วยความรักและจองฮายันก็สะอื้น

 

“ ฮือ พี่คะ…”

 

“ การสํารวจยากไหม?”

 

“…” ในขณะที่เธอพูดถูก ๆ ผิด ๆ จองฮายันก็พยักหน้าอย่างแรง

 

ผมพยายามเช็ดน้ำตาทั้งหมดออกจากใบหน้า แม้จะทําไม่ได้ แต่ผมกลับอ้าแขนออกกว้างและจองฮายันก็รีบเข้ามาทันที ใบหน้าของเธอถูไถกับหน้าอกผม

 

” ฉันคิดถึงพี่จังเลย…”

 

“ ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกันฮายัน…”

 

ผมพูดความจริงกับคําพูดเหล่านั้น

 

ไม่นานนัก ทั้งคิมฮยอนซองและซันฮียองก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตา เมื่อเห็นฮายันไม่ยอมปล่อย ผมเลยต้องโบกมือทักทายพวกเขา

 

ผมไม่จําเป็นต้องถาม แค่การประเมินบรรยากาศก็เพียงพอแล้ว

 

“การสํารวจประสบความสําเร็จ”

 

“ เป็นเวลาสักพักแล้วนะกียอง”

 

“ ฮยอนซอง การสํารวจเป็นไปด้วยดีไหม?”

 

“ มันไม่น่าพอใจนัก แต่ก็ได้ผล เยริเพิ่งเปลี่ยนอาชีพที่สอง หลังจากได้รับอาชีพแรก แต่ฮียอง ด็อกกูและฮายันต่างทําสําเร็จและค่าสถานะทั้งหมดของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน”

 

” ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”

 

ผมรู้ว่าบทบาทของคิมฮยอนซองในฐานะพี่เลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย

 

เมื่อเห็นการจ้องมองที่อยากรู้อยากเห็นของเขา ผมก็รู้ว่าอะไรกําลังจะเกิดขึ้น

 

“แล้วนายล่ะ?”

 

“ เช่นเดียวกัน ผมได้เพิ่มค่าสถานะของตัวเองจนได้รับอาชีพใหม่”

 

“ คราวนี้นายได้อะไร?”

 

“ โอ้? พี่ก็ได้อาชีพใหม่ด้วย?”

 

” ไว้ลงไปก่อนเถอะ แล้วฉันจะอธิบายว่ามันคืออะไร”

 

“ อืม”

 

“ มันคงเป็นเรื่องยากสําหรับผมที่จะอธิบายว่า ผมได้รับอาชีพประเภทไหน การแสดงมันออกมาน่าจะเร็วกว่า”

 

“ นี่เป็นอาชีพอัลเคมิสท์ระดับสูงใช่ไหม?”

 

” ครับ หน้าต่างสถานะระบุว่าเป็นอาชีพที่เพิ่งค้นพบ”

 

นายหมายความว่ามันไม่ได้เกิดจากอาชีพที่นายมีอยู่เหรอ?”

 

“ มันอาจจะไม่”

 

“ นั่นทําให้ฉันแปลกใจนิดหน่อย”

 

“ ต้องขอบคุณที่ผมไม่มีทางเลือก ถ้ามีอาชีพหลายอันพร้อมกัน ผมจะเลื่อนมันออกไปจนกว่าพวกคุรจะกลับมา อย่างไรก็ตามแม้มันจะไม่มีตัวเลือก แต่ผมก็ไม่เสียใจที่ได้รับมัน”

 

“ การได้ยินนายพูดแบบนั้น ทําให้ฉันสงสัยมากขึ้น”

 

จองฮายันยังเกาะติดกับผม แต่ผมเห็นว่าปาร์คด็อกกูก็ดูทั่งเช่นกัน

 

“ อ๊ะ…ผมควรจะอยู่กับพี่ในช่วงเวลาที่ดีแบบนั้นมันน่าเสียดาย ผมไม่สามารถช่วยพี่เลือกอาชีพที่สาม…”

 

“ นายอาจจะชอบมันเหมือนกัน”

 

“โอ้ จริงเหรอ?”

 

ผมไม่รู้ว่าคิมฮยอนซองจะตอบสนองอย่างไรกับอาชีพใหม่ของผม แต่ผมรู้ว่าปาร์คด็อกกูต้องชอบมันแน่นอน

 

“ มันสุดยอดมากที่นายสามารถหามันได้ด้วยตัวเอง”

 

“ อย่างไรก็ตาม ซันฮียอง…”

 

“ค่ะ สําหรับฉัน นี่เป็นการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สี่”

 

” ผมเข้าใจแล้ว”

 

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทําไมบรรยากาศถึงอบอุ่น จากความสัมพันธ์ของทุกคน มันเหมือนว่าสมาชิกใหม่เข้ากันได้ดีกับสมาชิกเก่า

 

ปาร์คด็อกกูและคิมเยริดูเหมือนจะเอาใจใส่ทุกการเคลื่อนไหวของซันฮียองเป็นอย่างมาก

 

“อืม”

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอเป็นคนที่สามรองจากคิมฮยอนซองและผม เนื่องจากเธอเป็นคนที่มีความสามารถสูงสุดในระหว่างการเดินทางจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะได้รับตําแหน่งนั้น

 

“ไม่เลว.”

 

แม้ว่าเธอจะมองว่าเป็นบริการใหม่ในการเอาชนะคนที่ไร้ประโยชน์ต่อสังคม แต่ผมก็รู้ว่าเธอยังเป็นคนที่มีความสามารถ

 

เธอแตกต่างจากจองฮายัน และในแง่นั้น เธอจึงได้รับตําแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ตามผมหวังว่าจะเป็นปาร์คด็อกกูที่ทําหน้าที่นั้นมากกว่า

 

“แต่ผมรู้ว่าเขายังไม่อยู่ในระดับนั้น …

 

บรรยากาศโดยรวมรู้สึกรื่นเริง เรายังคงสนทนากันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เดินทางไปยังศูนย์ฝึก เพื่อสาธิตการใช้งาน

 

การสาธิตมีความจําเป็นเพื่อจุดประสงค์เดียวคือการแสดงให้เห็นว่า เวลาที่ใช้ในการฝึกไม่ได้เปล่าประโยชน์ ผมเป็นคนที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุดเสมอ อย่างไรก็ตาม

 

คราวนี้มันจะต่างออกไป

 

เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาควรตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของผม ผมไม่ได้เป็นแค่อัลเคมิสท์ที่ใช้เงินจากพวกเขา ผมรู้ว่าการประเมินของพวกเขากับผมจะเพิ่มขึ้นในวันนี้

 

“ ฉันอยากให้พวกนายดูอย่างแน่ชัด พลังเวทย์ของมันไม่ได้แย่ข นาดนั้น แต่ฉันยังไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของมันได้…”

 

“ ครับ แน่นอน”

 

“ ฮายัน เธอถอยออกไปสักครู่ได้ไหม?”

 

“ อือ…ค่ะ พี่”

 

ในตอนนั้นเอง ผมเริ่มจดจําคาถาที่ตั้งใจไว้อย่างช้า ๆ ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เตรียมไว้ทําปฏิกิริยาทันทีกับผมที่ใช้เวทมนตร์กับมัน

 

เนื่องจากผมไม่มีพลังเวทมนตร์มากขนาดนั้น ผมรู้สึกว่ามันถูกต้องแล้วที่จะใช้มานาจํานวนมาก

 

มีสองสิ่งที่ผมเตรียมไว้

 

สิ่งหนึ่งคือตัวเร่งปฏิกิริยาที่แสดงถึงวงเวทย์หลายประเภทและอีกอย่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สามารถรับคาถา ผมยังใช้วัสดุที่มีมูลค่าเท่ากันและวัสดุที่สามารถโต้ตอบได้ หากจําเป็น

 

คุณภาพของวัสดุดังกล่าวมีความสําคัญต่อการร่ายเวทมนตร์ แต่คุณค่าของข้อมูลมีความสําคัญกว่า

 

“ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการใช้เวทมนตร์ของจองฮายันกับฟันและวัตถุอื่น ๆ ของผม

 

เมื่อความคิดของผมเริ่มกระจัดกระจาย ผมพบว่าตัวเองฟุ้งซ่านไปหน่อย อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้คาถาที่เหลือ เพราะนี่เป็นเพียงคาถาธรรมดา

 

นั่นคือตอนที่เซลล์มอนสเตอร์ตัวเล็ก ๆ ลอยเข้าหาเวทมนต์และขยายตัว การเฝ้าดูการเปลี่ยนจากเซลล์เป็นเนื้อหนังนั้นดูแปลกประหลาด แต่มันก็น่าสนใจ

 

Kwajijijik, kujik, kadedeuk

เสียงที่ไม่ต่อเนื่องเริ่มดังขึ้นในสถานที่ มันฟังดูเหมือนเสียงของกระดูกที่บิดตัวและเซลล์ที่ระเบิดออก

 

แม้นี่จะเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย แต่ไม่ใช่สําหรับคนอื่น ผมเห็นคิมเยริปิดหูของตัวเองและทําหน้าตาบูดบึ้ง

 

ในที่สุดเนื้อขนาดใหญ่ที่ผมเสกก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างที่ผมต้องการ

 

ในไม่ช้าก้อนเนื้อขนาดยักษ์ก็เปลี่ยนเป็นมือมอนสเตอร์ขนาดใหญ่

 

Quad-de-deuk!

 

ก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้น ผมรู้สึกได้ว่าทุกคนจ้องมองมาทางผม ราวกับกําลังขอคําอธิบายบางอย่าง

 

“ เอ่อ….พี่…”

 

“ นี่นายทําได้ยังไง?” แม้แต่คิมฮยอนซองก็ตกใจ

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ความสุขก็เริ่มคืบคลานลงมาที่กระดูกสันหลังของผม

 

“ นี่เป็นลักษณะเฉพาะที่มาพร้อมกับอาชีพใหม่ของผม”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Regressor Instruction Manual 82 อาชีพที่สาม (8)

Now you are reading Regressor Instruction Manual Chapter 82 อาชีพที่สาม (8) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 82 อาชีพที่สาม (8)

 

ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศที่มีเสียงดัง

 

สิ่งสุดท้ายที่ผมจําได้เมื่อวานคือการเลือกอาชีพที่สาม ทดสอบบางอย่างเกี่ยวกับมันแล้วทรุดลงบนเตียง

 

ราวกับผมเพิ่งหลุดจากสถานะโคม่า ผมรู้สึกกระวนกระวาย

 

“เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว”

 

ปัญหาคือผมแทบจะไม่ได้นอนเลยตลอดเวลาที่ทํางาน ห้องของผมยังไม่ได้รับการทําความสะอาด ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะค้างคืนในเวิร์คช็อปของตัวเอง

 

“ผมยังรู้สึกเหนื่อย”

 

ถ้าผมรู้ว่าอาการเหล่านี้จะไม่ดีขึ้น แม้จะได้พักผ่อนบ้างแล้วก็ตาม ผมคงจะสะสางตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนก่อน ด้วยวิธีนี้ผมสามารถใช้เตียงที่จองฮายันร่ายเวทมนตร์ได้

 

ในขณะที่ผมหันหัวไปอีกทาง ผมก็เห็นฮวังจองยอนที่นั่งอยู่บนโซฟา

 

“เธอคงเหนื่อยมากเหมือนกัน”

 

เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทําตามตารางเวลาของผม ดังนั้นเธอคงรู้สึกอ่อนเพลีย

 

แม้ผมไม่คาดคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แต่ผมก็ไม่รู้สึกตื่นตัว ผมรู้สึกยินดีที่ได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ระแวงผู้คนอีกต่อไป ยิ่งผมเชื่อใจคนอื่นได้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

 

ตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่าเสียงดังนี้มาจากไหน

 

“ เฮ้อ…พี่คงทํางานหนักเหมือนกัน ชั้นสองทั้งหมดยังเป็นระเบียบ โอ้ ฮายัน! ถ้าวิ่งแบบนั้นระวังล้มนะ ฮียอง ช่วยทําอะไรสักอย่างหน่อยสิ”

 

“…”

 

“ อันดับแรกเราควรจัดของ ฮียองส่งกระเป๋าสีขาวมาให้ผม…”

 

“ ค่ะ”

 

ผมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร ปาร์ตี้ของผมกลับมาแล้ว

 

ผมเริ่มยิ้มให้กับการรับรู้นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นฮวังจองยอนพลิกตัว ผมก็เริ่มตกใจ

 

“บ้าเอ้ย”

 

ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นมาชั้นสองอย่างรวดเร็ว ผมรู้แล้วว่านั่นคือใคร

 

“จองฮายัน”

 

ถึงแม้ว่าผมกับจองยอนจะไม่เคยสัมผัสทางกายใด ๆ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องแย่ที่ฮายันจะได้พบเธอที่นี่ มันคงไม่เป็นประโยชน์สําหรับฮวังจองยอนเช่นกัน เพราะเธอต้องการผมให้แนะนําเธอให้รู้จักกับปาร์คด็อกกู

 

“ พี่พี่คะ…” เสียงของจองฮายันดังผ่านประตูห้องเวิร์คชอป ผมรู้ว่าเวทมนตร์ติดตามตําแหน่งยังคงทํางาน ดังนั้นผมจึงไม่สามารถแสร้งทําเป็นว่าตัวเองไม่อยู่ที่นี่

 

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกในหนังสยองขวัญ

 

ตึก ตัก!

 

“พี่คะ…. คุณอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า? พี่อยู่ตรงนั่นใช่ไหมคะ?”

 

ตึก!

 

” พี่อยู่ตรงนั้นใช่ไหมคะ? พี่?”

 

ตึก ตัก!

 

“ พี่ไม่ได้นอนอยู่เหรอ? บางทีพอาจจะยังคงค้นคว้าอยู่เราน่าจะเงียบก่อนนะ ฮายัน ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย…”

 

“ทําได้ดีมาก ปาร์คด็อกกู”

 

“ หรืออาจจะมีบางอย่างผิดปกติกับพี่เขาอาจจะล้มลง?”

 

“.. ผมขอคืนคําพูด”

 

ตึก ตัก!

 

เมื่อถึงจุดนี้ จองฮายันก็กลับมาเคาะประตูต่ออย่างเร่งรีบเป็นเรื่องธรรมดาที่ฮวังจองยอนจะตื่นจากความวุ่นวายทั้งหมด

 

เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วิในการทําความเข้าใจเรื่องราว ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเปิดกว้าง

 

“ พี่คะ! โอ้ พี่ยังนอนอยู่เหรอคะ?”

 

ผมเกือบจะตะคอกกับคําถาม ถ้าผมหลับ เธอก็คงจะไม่ได้รับคําตอบอย่างแน่นอน

 

” เกิดอะไรขึ้น?”

 

“สถานการณ์ตอนนี้”

 

ขณะที่ผมมองไปยังหน้าต่าง ผมเห็นฮวังจองยอนพยักหน้าอย่างหมดหวัง

 

“ อืม…ด็อกกู ฉันนอนดึกมาแล้วเพิ่งตื่น”

 

“ พี่”

 

” อา! ขอโทษที่รบกวน”

 

“ นายมาช้ากว่าที่ฉันคาด ฉันจะเปิดประตูเดี๋ยวนี้แหละ รอแปปนึงนะ”

 

ขณะที่ผมพูด ฮวังจองยอนรีบไปที่หน้าต่าง ผมอาจจะบอกได้ว่าเราค้นคว้าร่วมกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูน่าสงสัยกับการที่เราอยู่ด้วยกันตามลําพังในช่วงเวลานี้ของวัน

 

“อ๊ะ!”

 

ฮวังจองยอนที่ตั้งใจจะกระโดดลงมาจากชั้นสองส่งเสียงกรีดร้องเล็ก ๆ

 

ตึก ตัก! ตึก ตัก! ตึก ตัก!

 

จองฮายันซึ่งตอนนี้รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเริ่มเขย่าประตูมากขึ้น

 

หลังจากมั่นใจว่าไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกว่าฮวังจองยอนเคยมาที่นี่ ผมจึงเปิดประตูออกไป ใบหน้าที่ผมไม่เห็นมานานก็สะท้อนให้เห็นในมุมของสายตา

 

อย่างแรก ผมเห็นปาร์คด็อกกูยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มธรรมดา

 

ผมไม่รู้ว่าทําไม แต่ดวงตาของผู้ชายคนนี้เป็นสีแดง เมื่อมองดูบาดแผลบนร่าง ดูเหมือนการสํารวจนี้จะไม่ง่ายนัก

 

แน่นอนว่าจองฮายันดูมีความสุขที่สุด ก่อนอื่นเธอมองไปรอบ ๆ ห้อง เพื่อระบุได้ว่าเสียงกรีดร้องนั้นมาจากที่ไหน แต่ในไม่ช้าเธอก็หันกลับมาสนใจผม

 

ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา ผมเองก็รู้สึกดีเช่นกัน มันรู้สึกดีมากที่เธอกลับมา

 

“ โอ้ ฮึก…พี่คะ…”

 

ด้วยความรู้สึกไม่คุ้นเคยนี้ที่เดือดพล่านอยู่ในตัว ผมจึงเริ่มลูบหัวเธอด้วยความรักและจองฮายันก็สะอื้น

 

“ ฮือ พี่คะ…”

 

“ การสํารวจยากไหม?”

 

“…” ในขณะที่เธอพูดถูก ๆ ผิด ๆ จองฮายันก็พยักหน้าอย่างแรง

 

ผมพยายามเช็ดน้ำตาทั้งหมดออกจากใบหน้า แม้จะทําไม่ได้ แต่ผมกลับอ้าแขนออกกว้างและจองฮายันก็รีบเข้ามาทันที ใบหน้าของเธอถูไถกับหน้าอกผม

 

” ฉันคิดถึงพี่จังเลย…”

 

“ ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกันฮายัน…”

 

ผมพูดความจริงกับคําพูดเหล่านั้น

 

ไม่นานนัก ทั้งคิมฮยอนซองและซันฮียองก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตา เมื่อเห็นฮายันไม่ยอมปล่อย ผมเลยต้องโบกมือทักทายพวกเขา

 

ผมไม่จําเป็นต้องถาม แค่การประเมินบรรยากาศก็เพียงพอแล้ว

 

“การสํารวจประสบความสําเร็จ”

 

“ เป็นเวลาสักพักแล้วนะกียอง”

 

“ ฮยอนซอง การสํารวจเป็นไปด้วยดีไหม?”

 

“ มันไม่น่าพอใจนัก แต่ก็ได้ผล เยริเพิ่งเปลี่ยนอาชีพที่สอง หลังจากได้รับอาชีพแรก แต่ฮียอง ด็อกกูและฮายันต่างทําสําเร็จและค่าสถานะทั้งหมดของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน”

 

” ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”

 

ผมรู้ว่าบทบาทของคิมฮยอนซองในฐานะพี่เลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย

 

เมื่อเห็นการจ้องมองที่อยากรู้อยากเห็นของเขา ผมก็รู้ว่าอะไรกําลังจะเกิดขึ้น

 

“แล้วนายล่ะ?”

 

“ เช่นเดียวกัน ผมได้เพิ่มค่าสถานะของตัวเองจนได้รับอาชีพใหม่”

 

“ คราวนี้นายได้อะไร?”

 

“ โอ้? พี่ก็ได้อาชีพใหม่ด้วย?”

 

” ไว้ลงไปก่อนเถอะ แล้วฉันจะอธิบายว่ามันคืออะไร”

 

“ อืม”

 

“ มันคงเป็นเรื่องยากสําหรับผมที่จะอธิบายว่า ผมได้รับอาชีพประเภทไหน การแสดงมันออกมาน่าจะเร็วกว่า”

 

“ นี่เป็นอาชีพอัลเคมิสท์ระดับสูงใช่ไหม?”

 

” ครับ หน้าต่างสถานะระบุว่าเป็นอาชีพที่เพิ่งค้นพบ”

 

นายหมายความว่ามันไม่ได้เกิดจากอาชีพที่นายมีอยู่เหรอ?”

 

“ มันอาจจะไม่”

 

“ นั่นทําให้ฉันแปลกใจนิดหน่อย”

 

“ ต้องขอบคุณที่ผมไม่มีทางเลือก ถ้ามีอาชีพหลายอันพร้อมกัน ผมจะเลื่อนมันออกไปจนกว่าพวกคุรจะกลับมา อย่างไรก็ตามแม้มันจะไม่มีตัวเลือก แต่ผมก็ไม่เสียใจที่ได้รับมัน”

 

“ การได้ยินนายพูดแบบนั้น ทําให้ฉันสงสัยมากขึ้น”

 

จองฮายันยังเกาะติดกับผม แต่ผมเห็นว่าปาร์คด็อกกูก็ดูทั่งเช่นกัน

 

“ อ๊ะ…ผมควรจะอยู่กับพี่ในช่วงเวลาที่ดีแบบนั้นมันน่าเสียดาย ผมไม่สามารถช่วยพี่เลือกอาชีพที่สาม…”

 

“ นายอาจจะชอบมันเหมือนกัน”

 

“โอ้ จริงเหรอ?”

 

ผมไม่รู้ว่าคิมฮยอนซองจะตอบสนองอย่างไรกับอาชีพใหม่ของผม แต่ผมรู้ว่าปาร์คด็อกกูต้องชอบมันแน่นอน

 

“ มันสุดยอดมากที่นายสามารถหามันได้ด้วยตัวเอง”

 

“ อย่างไรก็ตาม ซันฮียอง…”

 

“ค่ะ สําหรับฉัน นี่เป็นการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สี่”

 

” ผมเข้าใจแล้ว”

 

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทําไมบรรยากาศถึงอบอุ่น จากความสัมพันธ์ของทุกคน มันเหมือนว่าสมาชิกใหม่เข้ากันได้ดีกับสมาชิกเก่า

 

ปาร์คด็อกกูและคิมเยริดูเหมือนจะเอาใจใส่ทุกการเคลื่อนไหวของซันฮียองเป็นอย่างมาก

 

“อืม”

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอเป็นคนที่สามรองจากคิมฮยอนซองและผม เนื่องจากเธอเป็นคนที่มีความสามารถสูงสุดในระหว่างการเดินทางจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะได้รับตําแหน่งนั้น

 

“ไม่เลว.”

 

แม้ว่าเธอจะมองว่าเป็นบริการใหม่ในการเอาชนะคนที่ไร้ประโยชน์ต่อสังคม แต่ผมก็รู้ว่าเธอยังเป็นคนที่มีความสามารถ

 

เธอแตกต่างจากจองฮายัน และในแง่นั้น เธอจึงได้รับตําแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ตามผมหวังว่าจะเป็นปาร์คด็อกกูที่ทําหน้าที่นั้นมากกว่า

 

“แต่ผมรู้ว่าเขายังไม่อยู่ในระดับนั้น …

 

บรรยากาศโดยรวมรู้สึกรื่นเริง เรายังคงสนทนากันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เดินทางไปยังศูนย์ฝึก เพื่อสาธิตการใช้งาน

 

การสาธิตมีความจําเป็นเพื่อจุดประสงค์เดียวคือการแสดงให้เห็นว่า เวลาที่ใช้ในการฝึกไม่ได้เปล่าประโยชน์ ผมเป็นคนที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุดเสมอ อย่างไรก็ตาม

 

คราวนี้มันจะต่างออกไป

 

เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาควรตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของผม ผมไม่ได้เป็นแค่อัลเคมิสท์ที่ใช้เงินจากพวกเขา ผมรู้ว่าการประเมินของพวกเขากับผมจะเพิ่มขึ้นในวันนี้

 

“ ฉันอยากให้พวกนายดูอย่างแน่ชัด พลังเวทย์ของมันไม่ได้แย่ข นาดนั้น แต่ฉันยังไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของมันได้…”

 

“ ครับ แน่นอน”

 

“ ฮายัน เธอถอยออกไปสักครู่ได้ไหม?”

 

“ อือ…ค่ะ พี่”

 

ในตอนนั้นเอง ผมเริ่มจดจําคาถาที่ตั้งใจไว้อย่างช้า ๆ ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เตรียมไว้ทําปฏิกิริยาทันทีกับผมที่ใช้เวทมนตร์กับมัน

 

เนื่องจากผมไม่มีพลังเวทมนตร์มากขนาดนั้น ผมรู้สึกว่ามันถูกต้องแล้วที่จะใช้มานาจํานวนมาก

 

มีสองสิ่งที่ผมเตรียมไว้

 

สิ่งหนึ่งคือตัวเร่งปฏิกิริยาที่แสดงถึงวงเวทย์หลายประเภทและอีกอย่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สามารถรับคาถา ผมยังใช้วัสดุที่มีมูลค่าเท่ากันและวัสดุที่สามารถโต้ตอบได้ หากจําเป็น

 

คุณภาพของวัสดุดังกล่าวมีความสําคัญต่อการร่ายเวทมนตร์ แต่คุณค่าของข้อมูลมีความสําคัญกว่า

 

“ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการใช้เวทมนตร์ของจองฮายันกับฟันและวัตถุอื่น ๆ ของผม

 

เมื่อความคิดของผมเริ่มกระจัดกระจาย ผมพบว่าตัวเองฟุ้งซ่านไปหน่อย อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้คาถาที่เหลือ เพราะนี่เป็นเพียงคาถาธรรมดา

 

นั่นคือตอนที่เซลล์มอนสเตอร์ตัวเล็ก ๆ ลอยเข้าหาเวทมนต์และขยายตัว การเฝ้าดูการเปลี่ยนจากเซลล์เป็นเนื้อหนังนั้นดูแปลกประหลาด แต่มันก็น่าสนใจ

 

Kwajijijik, kujik, kadedeuk

เสียงที่ไม่ต่อเนื่องเริ่มดังขึ้นในสถานที่ มันฟังดูเหมือนเสียงของกระดูกที่บิดตัวและเซลล์ที่ระเบิดออก

 

แม้นี่จะเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย แต่ไม่ใช่สําหรับคนอื่น ผมเห็นคิมเยริปิดหูของตัวเองและทําหน้าตาบูดบึ้ง

 

ในที่สุดเนื้อขนาดใหญ่ที่ผมเสกก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างที่ผมต้องการ

 

ในไม่ช้าก้อนเนื้อขนาดยักษ์ก็เปลี่ยนเป็นมือมอนสเตอร์ขนาดใหญ่

 

Quad-de-deuk!

 

ก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้น ผมรู้สึกได้ว่าทุกคนจ้องมองมาทางผม ราวกับกําลังขอคําอธิบายบางอย่าง

 

“ เอ่อ….พี่…”

 

“ นี่นายทําได้ยังไง?” แม้แต่คิมฮยอนซองก็ตกใจ

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ความสุขก็เริ่มคืบคลานลงมาที่กระดูกสันหลังของผม

 

“ นี่เป็นลักษณะเฉพาะที่มาพร้อมกับอาชีพใหม่ของผม”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+