Reincarnation Of The Strongest Sword God 2567

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2567 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2567 ปราบปรามกองทัพนับล้าน

เมื่อได้ยินคำถามที่ซือเฟิงถามดอร์นโดมิแน้นซ์ ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วสนามรบ และผู้มีอำนาจต่างๆในโลกแห่งความมืดต่างก็หันไปมองหัวหน้ากิลเวิร์ลโดมิเนชั่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของโลกแห่งความมืด

ความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นมันเกินความคาดหมายของพวกเขาไปมาก กิลนี้ไม่เพียงแต่จะครอบครองกองอัศวินที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กิลยังมีเครื่องมือโดเมนที่ใช้ปราบปรามมอนสเตอร์ขั้นสี่ได้อย่างมาก และเมื่อนำทั้งสองนี้มารวมกัน มันก็หมายความว่าจะไม่มีมหาอำนาจใดๆสามารถคุกคามกองอัศวินของสภาสิบแปดปีกได้ในระยะนี้ของเกม

ในช่วงเวลาหนึ่งความเงียบเข้าปกคลุมกองทัพแห่งความมืดที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นหลายล้านคนเพราะคำพูดของซือเฟิง สถานการณ์นี้ทำให้เมจิคแฟลชและคนอื่นๆที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้จากระยะไกลนั้นตกตะลึงมากๆ

ความหยิ่งผยอง ?

ความไม่รู้ และไม่สนใจ ?

เมื่อเมจิคแฟลชและคนอื่นๆคิดย้อนกลับไปถึงความคิดเห็นที่พวกเขามีต่อซือเฟิง พวกเขาก็ได้ตระหนักว่าความคิดของพวกเขานั้นมันไร้สาระมากขนาดไหน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเฉลิมฉลองภายในใจของตัวเอง

นี่เป็นเพราะว่าวันนี้ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นด้วยตัวเองว่าสัตว์ประหลาดที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

ก่อนหน้านี้ในความเห็นของพวกเขา การต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวกับศัตรูนับพันในเวลาเดียวกันได้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ควรค่าแก่การถูกจัดว่าเป็นตำนานแล้ว ในความเป็นจริงเก้าสิบเก้าเปอเซ็นต์ของคนที่อ้างว่าสามารถทำแบบนี้ได้นั้นล้วนเป็นเรื่องโม้อย่างไม่ต้องสงสัย และในฐานะผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญ เมจิคแฟลชและพรรคพวกของเขานั้นล้วนรู้ดีว่าการต่อสู้กับศัตรูนับพันพร้อมกันนั้นยากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามกิลขนาดใหญ่ ฝ่ายศัตรูนั้นย่อมมีผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมายท่ามกลางกองกำลังของพวกเขา และการพยายามต่อสู้กับคนนับพันในสถานการณ์เช่นนี้มันจึงมีความยากลำบากมากๆ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแต่ความสำเร็จระดับตำนานจะเกิดขึ้นตรงหน้าของพวกเขาเท่านั้น แต่ขนาดของความสำเร็จมันยังมากกว่าที่พวกเขาคิดไว้ถึงพันเท่า !!!

ซือเฟิงได้ปราบปรามกองทัพนับล้านด้วยตัวคนเดียว !!!

เมื่อได้เห็นฉากนี้นั้น เมจิคแฟลชและพรรคพวกของเขาก็สามารถทำนายได้เลยว่าชื่อของแบล๊คเฟรมนั้นจะสั่นคลอนโลกแห่งความมืดทั้งหมดในอนาคตแน่นนอน

“นี่เขายังเป็นมนุษย์จริงๆงั้นหรอ ?” หัวใจของเพอเพิ้ลรากษสเต้นรัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอเห็นกองทัพนับล้านยังคงไม่ยอมเคลื่อนไหวต่อหน้าซือเฟิง ในขณะนี้เธอเริ่มสงสัยอย่างจริงจังแล้วว่าซือเฟิงนั้นเป็นมนุษย์รึปล่าว

เขาสามารถที่จะข่มขู่ผู้เชี่ยวชาญหลายล้านคน และ NPC ขั้นสามหลายพันคนได้ !!

แม้ว่าการแสดงก่อนหน้านี้ของซือเฟิงที่เขตแสงสุดขีดจะสร้างความตกตะลึงมาแล้วมากมาย แต่ความสำเร็จนั้นก็ไม่มีอะไรสามารถเทียบได้กับเรื่องนี้เลย

แม้ว่าเธอจะยืนอยู่ห่างออกไปมาก แต่เธอก็ยังคงรู้สึกสั่นสะท้าน เมื่อเห็นกองทัพผู้เล่นหลายล้าน อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับสามารถปิดปากผู้เชี่ยวชาญหลายล้านคนเหล่านี้ได้ด้วยตัวคนเดียว พลังอำนาจและอิทธิพลของเขาตอนนี้มันช่างเหนือมนุษย์อย่างแท้จริง

“ดูเหมือนว่าเขตหนึ่งจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาของตัวเองอีกต่อไปแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป …” เกรซฟูลโมนาร์ชกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ขณะที่เธอจ้องมองไปที่บลูฟอร์สซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งของเธอในดาร์คเดน

ในตอนแรกเกรซฟูลโมนาร์ชคิดว่าด้วยความช่วยเหลือจากจักรพรรดิคริมสัน เขตแสงสุดขีดจะสามารถขึ้นไปอยู่เหนือเขตหนึ่งได้ในดาร์คเดน อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้านี้แล้ว เธอก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

สภาสิบแปดปีกกลายเป็นกิลที่สามารถปราบปรามผู้เล่นจากโลกอื่นทั้งโลกได้ด้วยตัวเอง และพวกเขากระทั่งทำให้ผู้เล่นจากโลกอื่นหลายล้านคนไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าพวกเขาเลย เมื่อข่าวเกี่ยวกับความสำเร็จนี้ไปถึงดาร์คเดน ผู้เชี่ยวชาญที่ตัดสินทุกอย่างด้วยความแข็งแกร่งแทบทุกคนจะพยายามอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ได้เข้าร่วมกับเขตหนึ่งของสภาสิบแปดปีกแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นซือเฟิงยังแสดงให้เห็ยถึงความแข็งแกร่งรายบุคคลของสมาชิกกิลของเขาแล้ว ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองปัจจัยนี้เข้าด้วยกันเขตหนึ่งก็จะกลายเป็นดินแดนศักสิทธิ์สำหรับผู้เชี่ยวชาญในดาร์คเดนแน่นอน

หลังจากความเงียบเข้าปกคลุมสนามรบเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดอร์นโดมิแน้นซ์ก็เดินเข้ามาหาซือเฟิงด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ตอนนี้ความภาคภูมิใจและจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เขามีมาก่อนหน้านี้ มันไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของคุณมันน่าทึ่งมากจริงๆ ฉันคิดว่าคงจะไม่มีใครคิดเลยแน่นอนว่าสภาสิบแปดปีกนั้นจะมีความแข็งแกร่งซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้” ดอร์นโดมิแน้นซ์กล่าวหลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตามคุณก็ไม่ควรที่จะทุบสะพานของใครคนใดคนหนึ่งนะ ฉันยอมรับว่าสกิลโดเมนที่คุณใช้นั้นทรงพลังมากๆ อย่างไรก็ตามสกิลโดเมนแบบนี้นั้นจะยังคงมีผลตราบใดที่ผู้ใช้มันมีชีวิตอยู่ และเมื่อผู้ใช้ตายลงสกิลโดเมนก็จะหายไป กองทัพจากโลกแห่งความมืดอาจไม่สามารถต่อกรกับกองกำลังของคุณได้ในตอนนี้ แต่เราก็มีผู้เล่นมากมาย และมีกำลังพลมากเกินพอที่จะฆ่าผู้ใช้สกิลโดเมน”

“แน่นอนฉันต้องยอมรับด้วยว่าเราจะต้องสูญเสียมากมายก่อนที่จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สุดท้ายก็จะเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุณและฉันไม่อยากเห็นไม่ใช่หรอ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ? ดังนั้นแทนที่จะต้องมานั่งทนทุกข์ทรมาณกับการทำลายล้างกันและกัน ทำไมเราไม่มาถอยคนละก้าวล่ะ ?”

“คำขอของเรานั้นง่ายมาก ตราบใดที่สภาสิบแปดปีกเลิกคิดจะเข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ต สิ่งอื่นๆเราสามารถจะต่อรองกันได้หมด”

เมื่อได้ยินคำพูดของดอร์นโดมิแน้นซ์ ผู้เล่นสายความมืดหลายคนก็เริ่มตระหนักรู้ได้ทันที

“หัวหน้ากิลดอร์นนั้นยอดเยี่ยมที่สุดจริงๆ !!! นี่เราลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง ?”

เนื่องความตกตะลึงครั้งใหญ่กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขาจึงได้หลงลืมสิ่งง่ายๆที่พวกเขารู้อยู่นานแล้วไป

ใน God domain วงเวทย์และสกิลโดเมนแบบนี้นั้นจำเป็นต้องมีผู้ใช้เพื่อรักษามันไว้ และแม้แต่เครื่องมือโดเมนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากพวกเขาฆ่าผู้เล่นที่ใช้เครื่องมือโดเมนนั้น เครื่องมือก็จะสูญเสียผลลัพธ์ไปตามธรรมชาติ
ในขณะเดียวกันเมื่อกองทัพจากโลกแห่งความมืดไม่จำเป็นต้องทนทุกข์ทรมาณกับผลของสกิลโลกจิ๋วของซือเฟิงอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามดอร์นโดมิแน้นซ์ก็พูดได้ถูกต้องเช่นกันที่พวกเขาจะต้องจ่ายในราคามหาศาลเพื่อทำลายสภาสิบแปดปีก และหากต่อสู้ต่อไปกันแบบนี้ นี่มันจะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ทั้งสองฝ่ายอยากเห็นแน่นอน

ทางออกที่ดีที่สุดคือตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต้องถอยคนละก้าว

“ถ้าฉันปฎิเสธล่ะ ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วสนามรบอีกครั้ง

“บ้า !! ชายคนนี้ต้องเป็นคนบ้าแน่นอน !!!”

“โลกแห่งความมืดได้เลือกจะถอยกลับแล้ว แต่เขายังคงยืนกรานจะควบคุมประตูเทเลพอร์ตเนี่ยนะ ?! นี่เขาไม่กลัวว่าจะต้องสูญเสียทุกอย่างจริงๆงั้นหรอ ?”

ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าชมอยู่ของมหาอำนาจต่างๆคิดว่าการดื้อแพ่งแบบนี้ของซือเฟิงมันบ้าชัดๆ ก่อนหน้านี้ข้อเสนอของโลกแห่งความมืดที่เลือกจะยอมแพ้ในการเข้าร่วมกับมหาอำนาจต่างๆเพื่อชิงเมืองป่าหินนั้นก็น่าตกใจมากแล้ว พอมาตอนนี้โลกแห่งความมืดก็ยินดีจะถอยอีกก้าว และมอบสิทธิประโยชน์อื่นๆให้กับสภาสิบแปดปีก เพื่อแลกกับการที่ให้สภาสิบแปดปีกยอมแพ้เรื่องประตูเทเลพอร์ต ซึ่งในสายตาของมหาอำนาจต่างๆนี่เป็นโอกาสที่ไม่น่าเชื่อและยากจะได้รับมากๆ แต่กระนั้นซือเฟิงก็ยังคงปฎิเสธมันอย่างไม่ลังเล

พวกเขาไม่สงสัยเลยว่านี่คือขีดจำกัดที่โลกแห่งความมืดจะเสนอให้กับสภาสิบแปดปีกได้แล้ว หลังจากนี้มันจะไม่มีการให้สัมปทานอีกแน่นอน หากซือเฟิงยังคงยืนกรานที่จะเข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ต สภาสิบแปดปีกจะเข้าสู่ความขัดแย้งและบาดหมางที่ไม่อาจแก้ไขได้กับโลกแห่งความมืด

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นี่คุณตั้งใจจะลากสภาสิบแปดปีกลงไปสู่ความตายจริงๆงั้นหรอ ?” ดอร์นโดมิแน้นซ์กล่าวออกมา ขณะที่เขาพยายามจะระงับความโกรธภายในใจของเขาให้มากที่สุด “คุณจะต้องเสียใจแน่นอนถ้ามันเกิดขึ้น !!!”

ความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นไปไกลเกินความคาดหมายของดอร์นโดมิแน้นซ์มากๆ และหากทั้งสองฝ่ายต้องทุ่มกำลังเข้า ผลลัพธ์ที่มันจะจบลงคือการทำลายล้างซึ่งกันและกันแน่นอน และมันก็น่าจะเป็นอะไรที่ทั้งสองฝ่ายไม่อยาจกะเห็น โดยเฉพาะกับเวิร์ลโดมิเนชั่นที่ต้องการจะเข้ามาพัฒนาในทวีปหลัก หากพวกเขาได้รับความเสียหายรุนแรง พวกเขาจะหมดสิทในการก้าวหน้าต่อไปในทวีปหลักแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะดื้อรั้นที่จะปฎิเสธข้อเสนอของเขาแม้จะได้รับโอกาสที่ยอดเยี่ยมก็ตาม

“หัวหน้ากิลดอร์น ไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อแบล๊คเฟรมอีกต่อไปแล้ว !!! เนื่องจากเขาไม่รู้เขาต้องรับความปราถนาดีของเรายังไง ดังนั้นเราจึงควรจะสอนบทเรียนให้แก่เขา !!! และที่แย่ที่สุดการพัฒนาในทวีปหลักของเราก็จะช้าลงเท่านั้น !!!”

“ถูกต้อง !! เนื่องจากเขาไม่ยอมรับความปราถนาดีของเรา เราก็ทำได้เพียงอย่างเดียวคือต้องทำลายสภาสิบแปดปีก และสอนบทเรียนให้กับเขา !!! ลงมือกันเลยดีกว่า !!!”

ปัจจุบันผู้เล่นสายความมืดนั้นโกรธแค้นกับคำตอบของซือเฟิงมากๆ พวกเขาได้เสนอสัมปทานจำนวนมากให้กับสภาสิบแปดปีก ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่แม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังไม่คิดฝันที่จะได้รับมา แต่ซือเฟิงก็ยังคงเลือกจะปฎิเสธมัน

สิ่งนี้ทำให้กองทัพผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดเริ่มมีความคิดที่จะใช้ทุกสิ่งที่มีเข้าทำลายสภาสิบแปดปีกและซือเฟิง

“ฉันว่าคุณคิดมากเกินไปนะหัวหน้ากิลดอร์น ในสายตาของฉันเรื่องนี้อย่างมากที่สุดก็คือการสูญเสียเล็กน้อยเท่านั้น …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว และหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดของดอร์นโดมิแน้นซ์

“ดี !! เนื่องจากคุณดื้อรั้นแบบนี้ คุณก็ทำได้แค่ต้องโทษตัวเองแล้วแหล่ะหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม !!! พี่น้องไม่ต้องอดทนหรือปกปิดอะไรอีกต่อไปแล้ว ลงมือกันได้เลย !!” ดอร์นโดมิแน้นซ์ตะโกน ขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความโกรธ

สูญเสียเล็กน้อย ?

เย่อหยิ่ง !!

ซือเฟิงนั้นเย่อหยิ่งเกินไป !!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กองทัพของโลกแห่งความมืดกำลังจะรุกคืบอีกครั้ง ซือเฟิงก็เริ่มเคลื่อนไหว

ซือเฟิงฟันคิลลิงเรย์ไปด้านหน้าด้วยท่าทีสบายๆ

ไลท์นิ่งแสลช !!

สายฟ้าสีน้ำเงินพุ่งผ่านพื้นที่ตรงหน้าของซือเฟิง และหากสังเกตดีๆทุกคนจะเห็นรอยแยกมิติสีดำสนิทเกิดขึ้นตามสายฟ้าไปอย่างใกล้ชิด และโดยที่ดอร์นโดมิแน้นซ์ไม่ทันได้ตั้งตัว สายฟ้านี้ก็พุ่งผ่านตัวเขาไป

เมื่อสายฟ้าหายไปผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนมากกว่าหนึ่งโหลที่อยู่ในเส้นทางของมันก็สูญเสีย HP ทั้งหมดไปในทันที และแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าที่สูงสิบแปดเมตรซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของดอร์นโดมิแน้นซ์ก็ถูกทำให้ปลิวกระเด็นกลับไปกระแทกกับกลุ่มผู้เล่นสายความมืดด้านหลังเช่นกัน

ช่วงเวลาหนึ่งความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วสนามรบ ….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด