Reincarnation Of The Strongest Sword God 2631

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2631 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2631 หยานเซี่ยวเฉียนเคลื่อนไหว

ในระหว่างที่คริมสันสตาร์กับไวน์ไฟเตอร์กำลังร่ายเวทย์ รอยแยกมิติก็ค่อยๆปรากฎขึ้นบริเวณประตูเทเลพอร์ต
ในขณะที่รอยแยกมิติปรากฎขึ้น ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ในปัจจุบันก็สัมผัสได้ถึวออร่าโบราณโบราณที่แผ่ออกมาจากรอยแยกมิติราวกับว่ามันเป็นมังกรจากขุมนรกที่พึ่งจะตื่นขึ้น และแรงกดดันที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อนก็กดทับมาที่ร่างกายของพวกเขาในตอนนี้
นี่คือการทดสอบโหมดฮีโร่งั้นหรอ ? ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อร่างของเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน และแรงกดดันนี้มันก็แทบจะเทียบเท่าพวกครึ่งเทพในขั้นเดียวกันเบย และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็ยังจะนับว่าโชคดีมากแบ้ว หากสามารถแสดงพลังในการต่อสู้ของขั้นสองออกมาได้ เมื่ออยู่ภายในสภาพแวดล้อมแบบนี้
แม้ว่าออร่ากับแรงกดดันที่มันแผ่ออกมาจะไม่ทำให้ผู้เล่นถึงแก่ชีวิต แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อพลังในการต่อสู้ของพวกเขา
ซึ่งในขณะนี้ออร่าที่มันรั่วไหลออกมาจากรอยแยกมิตินั้นมันก็ทรงมากซะจนทำให้ซือเฟิงรู้สึกอึดอัดมากๆ ซึ่งหากผู้เล่นขั้นสามคนอื่นต้องมาต่อสู้ภายใต้ออร่านี้ พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็จะลดลงอย่างมากยิ่งกว่าซือเฟิงแน่นอน
“ยังเหลือเวลาอีกสี่สิบวินาทีกว่าที่ประตูเทเลพอร์ตจะถูกเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมันจะมีช๊อคเวฟของมานาเกิดขึ้น เมื่อตอนนั้นมาถึง โฟลตติ้งไลท์ รีบสร้างบาเรียไว้เร็ว !!!” คริมสันสตาร์กล่าวผ่านแชททีม เมื่อเธอเห็นว่ารอยแยกมิติเริ่มมีความเสถียร
“เข้าใจแล้ว !!!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของคริมสันสตาร์ โฟลตติ้งไลท์ก็ได้สั่งให้ให้ผู้เล่นนักเวทย์ขั้นสามของไวโอเล็ทซอร์ดเริ่มการสร้างบาเรียป้องกันขั้นสามทันที
แม้ว่าช๊อคเวฟของมานาจะไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรง แต่ผู้เล่นที่โดนโจมตีแบบนี้เข้าไปจะมีการควบคุม และการรับรู้มานาลดลงอย่างมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นอาจสูญเสียความสามารถในการใช้สกิล และเวทย์บางอย่างไปได้เลยในช่วงเวลานี้
ในความพยายามครั้งแรกของไวโอเล็ทซอร์ดที่พวกเขาได้ทำการโจมตีการทดสอบโหมดปกติ ทีมจู่โจมที่พวกเขาส่งไปนั้นล้มเหลว เนื่องจากไม่ได้พิจารณาถึงผลของช๊อคเวฟมานา เป็นผลให้ทั้งทีมจู่โจมต้องทนทุกข์ทรมาณจากสถานะที่เจอช๊อคเวฟของมานาเป็นเวลาหนึ่งวัน
อย่างไรก็ตามในขณะที่สมาชิกของไวโอเล็ทซอร์ดกำลังสร้างบาเรียป้องกัน อยู่ๆมันก็มีเสียงตะโกนต่ำดังมาจากระยะไกล
“โอกาสมาแล้ว !! ทุกคนโจมตี !! ขัดขวางการเปิดใช้งานประตูเทเลพอร์ตไว้ให้ได้ !!!” แซนด์สตอร์มออกคำสั่ง เมื่อเขาเห็นโฟลตติ้งไลท์และผู้เล่นนักเวทย์ของไวโอเล็ทซอร์ดกำลังทำการสร้างบาเรียเวทย์มนต์
ทันใดนั้นร่างหลายร่างก็พุ่งเข้าหากลุ่มของคริมสันสตาร์ด้วยความเร็วสูง
“กองกำลังแสงสีเงิน ?” คริมสันสตาร์จดจำทีมของแซนด์สตอร์มได้ในทันที และเมื่อเธอเห็นพวกเขา ใบหน้าของเธอก็มืดมนลงเล็กน้อย “แซนด์สตอร์ม นี่ไมโทโลจี้พยายามจะทำลายข้อตกลงงั้นหรอ ?!!”
ถ้าทีมของพวกเขาเจอกับทีมของแซนด์สตอร์มภายใต้สถานการณ์ปกติ เธอก็จะไม่ให้ความสนใจกับสมาชิกของไมโทโลจี้เลย อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของไวโอเล็ทซอร์ดทั้งหมดล้วนติดอยู่กับการเปิดประตูเทเลพอร์ต และสร้างบาเรียป้องกันช๊อคเวฟของมานา ดังนั้นพวกเขาจึงแทบจะไม่มีกำลังคนเหลือมากพอจะใช้ขับไล่ทีมของแซนด์สตอร์มเลย
ในขณะเดียวกันทีมของแซนด์สตอร์มก็ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์หรือสูงกว่า หาคนเหล่านี้ทำการโจมตีพวกเขาตอนนี้ ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะเลวร้ายมากแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นแซนด์สตอร์มและคนอื่นๆยังเปิดใช้งานวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงด้วย ซึ่งนี่มันก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นขั้นสามทั่วไปมาก
“ข้อตกลง ?” แซนด์สตอร์มหัวเราะให้กับคำพูดของคริมสันสตาร์ “ฉันจำไม่ได้เลยว่าไมโทโลจี้ได้ทำข้อตกลงใดๆกับไวโอเล็ทซอร์ดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนลับโบราณ นอกจากนี้หากจะต้องโทษใครสักคน พวกคุณก็ควรโทษตัวเองนะที่ไม่รู้ว่าอะไรดีกับคุณ ในเมื่อคุณกล้าที่จะเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกก็จงตายไปพร้อมกับพวกเขาซะ !!!”
ทีมของแซนด์สตอร์มเร่งความเร็วขึ้น !!
“แม่ง !!! พวกนี้มันเอาจริง !!!” คริมสันสตาร์หันไปหาโฟลตติ้งไลท์และกล่าวว่า “ไลท์ ประสานงานกับกลุ่มของหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม และซื้อเวลาให้กับพวกเราหน่อย !!! หากการเปิดใช้งานประตูเทเลพอร์ตถูกขัดจังหวะ เราจะหมดสิทท้าทายโหมดฮีโร่ !!!”
“เข้าใจแล้ว !!” โฟลตติ้งไลท์พยักหน้าตอบรับ จากนั้นเขาก็หันไปเผชิญหน้ากับทีมของแซนด์สตอร์มด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แม้ว่าฝ่ายของพวกเขาจะมีข้อได้เปรียบอย่างแท้จริงในด้านจำนวน และพวกเขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากสัตวประหลาดที่น่ากลัวอย่างซือเฟิง แต่จำนวนผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่พร้อมต่อสู้ของพวกเขาในตอนนี้นั้นก็มีจำนวนห่างจากไมโทโลจี้มาก นี่ยังไม่ได้ต้องพูดถึงว่าแซนด์สตอร์ม และสมาชิกในทีมของไมโทโลจี้คนอื่นๆนั้นใช้วงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงอยู่ด้วย ซึ่งมันทำให้ค่าสถานะของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งหากพวกเขายอมให้ทีมของแซนด์สตอร์มทะลวงเข้ามาขัดขวางการเปิดประตูเทเลพอร์ตได้ พวกเขาก็จะหมดสิทในการท้าทายการทดสอบโหมดฮีโร่ทันที
“คุณต้องระวังหน่อย !!! ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่แซนด์สตอร์มและสมาชิกในทีมของเขาบางคนกำลังแผ่แรงกดดันที่อยู่ในระดับเดียวกันกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายออกมา !! อย่าปะทะกับเขาโดยตรงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!!” ไวน์ไฟเตอร์ตะโกนเตือนทุกคนในทีมอย่างจริงจัง “สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ซื้อเวลาไว้สี่สิบวินาที เมื่อทางนี้ของเราเสร็จเมื่อไหร่ เราจะไปรวมตัวกันจัดการกับพวกนั้นได้ !!!”
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ซือเฟิงก็พูดว่า “นั่นไม่จำเป็น ฝากคนพวกนี้ให้เป็นหน้าที่เราเอง มุ่งเน้นไปที่การเปิดใช้งานประตูเทเลพอร์ต และการสร้างบาเรียป้องกันสิ่งที่ตามมาก็พอ …”
“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เราไม่ได้สงสัยในความแข็งแกร่งของคุณนะ แต่เราไม่สามารถจะรับความเสี่ยงที่ตามมาได้จริงๆ สมาชิกกองกำลังแสงสีเงินของไมโทโลจี้เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากวงเวทย์ฺการต่อสู้ขั้นสูงทั้งหมด และในตอนนี้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของพวกเขาก็ยังจะสามารถยืนหยัดต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงแซนสตอร์มที่เป็นหัวหน้าทีม และเหล่าหัวหน้าคนอื่นๆที่อยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ขอบเขตโดเมนด้วย ทีมจากกองกำลังนี้นั้นค่อนข้างจะมีความแข็งแกร่งมากๆ มันไม่ใช่อะไรที่ทีมผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทั่วไปจะรับมือได้เลย ….” คริมสันสตาร์รีบกล่าวแนะนำอย่างรีบร้อน เมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้ “แม้ว่ากลุ่มของโฟลตติ้งไลท์จะมีสมาชิกอยู่เพียงไม่กี่คน แต่พวกเขาก็ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด พวกเขาจะช่วยคุณได้ดี …”
เธอมั่นใจว่าซือเฟิงจะได้รับชัยชนะแน่นอนในการต่อสู้กับทีมของแซนด์สตอร์ม อย่างไรก็ตามปัญหาในตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าพวกเขานั้นสามารถจะเอาชนะทีมของแซนด์สตอร์มได้ไหม แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า พวกเขาสามารถทำให้ทีมของแซนด์สตอร์มไม่สามารถเข้าใกล้ประตูเทเลพอร์ตได้ไหม
เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าซือเฟิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็เป็นเพียงคนๆเดียว และเนื่องจากทีมของแซนด์สตอร์มมีผู้เล่นอยู่มากกว่าสามสิบคน ดังนั้นซือเฟิงจะไปสามารถรั้งพวกเขาไว้ได้กี่คนกัน ?
ไวน์ไฟเตอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคริมสันสตาร์ เขารู้สึกว่าซือเฟิงบ้าไปแล้วที่พูดเรื่องเมื่อครู่ออกมา
“อย่าเข้าใจผิด เราสามารถจะหยุดพลังการโจมตีระดับนี้ได้สบายๆ แต่หากคุณยังรู้สึกไม่สบายใจ ฉันก็ไม่คัดค้านที่จะให้คนของคุณเข้าร่วมการต่อสู้” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของคริมสันสตาร์ และไวน์ไฟเตอร์
แม้ว่าซือเฟิงจะไม่ได้พูดเสียงดังมาก แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ในปัจจุบันก็ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่มีประสาทสัมผัสพิเศษ ดังนั้นแม้ว่าทีมของแซนสตอร์มจะยังอยู่ห่างออกมาหลายร้อยหลา แต่พวกเขาก็ยังได้ยินคำพูดของซือเฟิงอย่างชัดเจน
“หื้ม ? มาดูกันหน่อยว่าคุณจะหยุดพวกเราได้ยังไง ?! ทุกคนเริ่มลงมือได้เลย !!!” แซนด์สตอร์มหัวเราะ และจ้องมองไปยังซือเฟิงอย่างเย็นชา เมื่อได้ยินคำพูดของเขา
ทันทีที่แซนด์สตอร์มพูดจบ แอสซาซินหกคนที่มีเลเวลหนึ่งร้อยสิบสามหรือสูงกว่าก็ปรากฎขึ้นในระยะห้าสิบหลาห่างจากกลุ่มของคริมสันสตาร์ โดยหนึ่งในแอสซาซินเหล่านี้ที่ได้สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้นั้นก็มีออร่าที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันเลย และแอสซาซินคนนี้ก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนไปปรากฎตัวในระยะสามสิบหลาห่างจากคริมสันสตาร์ในพริบตา จากนั้นแอสซาซินก็ได้ใช้กริชทำการโจมตีเป็นลำแสงจำนวนมากให้พุ่งเข้าใส่คริมสันสตาร์และคนอื่นๆที่ทำหน้าที่เปิดประตูเทเลพอร์ตอยู่
“อะไรกัน ?! พวกเขาบางคนแอบไปถึงตรงนั้นแล้วงั้นหรอ ?!” ใบหน้าของโฟลตติ้งไลท์มืดมนลง เมื่อเห็นการปรากฎตัวของแอสซาซินทั้งหกคนนี้
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะหยุดการโจมตีอย่างฉับพลันและกว้างขวางแบบนี้ได้ และแม้แต่ซือเฟิงก็จะสามารถหยุดการโจมตีเหล่านี้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดคริมสันสตาร์ และคนอื่นๆที่ทำหน้าที่เปิดประตูเทเลพอร์ตนั้นยืนอยู่ค่อนข้างห่างกัน ซึ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เล่นระยะประชิดอย่างซือเฟิงที่จะปกป้องพวกเขาได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่การโจมตีของแอสซาซินกำลังจะโดนเข้ากับคริมสันสตาร์และคนอื่นๆ กำแพงน้ำแข็งก็ปรากฎขึ้นมา และแยกพวกเขาออกจากการโจมตีนี้ทันที
ในขณะเดียวกันเมื่อการโจมตีของแอสซาซินปะทะเข้ากับกำแพงน้ำแข็งนั้น มันก็ราวกับว่าการโจมตีเหล่านี้ชนเข้ากับกำแพงที่ไม่สามารถจะผ่านได้ โดยกำแพงน้ำแข็งเหล่านี้สามารถหยุด และเบี่ยงเบนการโจมตีของแอสซาซินออกไปได้ทั้งหมดจนเป้าหมายไม่ได้รับอันตรายใดๆ
“เป็นไปได้ยังไงกัน ?! นี่การโจมตีของฉันถูกเบี่ยงเบนและหยุดโดนสกิลเวทย์กำแพงน้ำแข็งขั้นสองงั้นหรอ ?!” สายตาของแอสซาซินที่ใช้เจ็มสโตนเวทย์กลืนกินขั้นสามเพื่ออัพเกรดพลังของตัวเองขึ้นไปอยู่ที่ขั้นสี่ชั่วคราวเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นฉากนี้ สิ่งนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นได้เลย ….
“ใครเป็นคนทำเรื่องนี้กัน ?” แซนด์สตอร์มก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อได้เห็นฉากนี้ ก่อนที่เขาจะหันไปมองคริมสันสตาร์และพึมพำอย่างคาดเดาว่า “เป็นเธองั้นหรอ ?”
ในขณะนี้แซนด์สตอร์มไม่สามารถนึกถึง Elementalist คนใดได้เลยนอกจากคริมสันสตาร์ที่จะสามารถใช้กำแพงน้ำแข็ง ขั้นสองทำแบบนี้ได้
แต่อย่างไรก็ตามคริมสันสตาร์ก็กำลังเปิดใช้งานประตูเทเลพอร์ตอยู่ เธอไม่ควรจะสามารถทำแบบนี้ได้
คริมสันสตาร์เองก็ประหลาดใจกับสถานการณ์นี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับผู้เล่นระยะประชิดอย่างแซนสตอร์มแล้ว เธอในฐานะ Elementalist นั้นมีความไวต่อมานามากกว่ามาก ดังนั้นเธอจึงสามารถตามหาต้นกำเนิดของกำแพงน้ำแข็งได้ทันที
“เซี่ยวเฉียน ?” อย่างไรก็ตาม เมื่อคริมสันสตาร์หันไปมองที่ต้นกำเนิดของกำแพงน้ำแข็ง เธอก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะคนที่ใช้มันคือหยานเซี่ยวเฉียน ซึ่งขณะนี้นั้นมีมานาที่หนาแน่นอย่างมากล้อมรอบตัวเธออยู่ “นี่เธอแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด