Reincarnation Of The Strongest Sword God 2671

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2671 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2671 กองทัพ Faux Saint อันทรงพลัง

เมื่อคำพูดของซือเฟิงดังก้องไปทั่วสนามรบ โลกแห่งเงาขนาดมหึมาก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าเหนือเมืองปีกสีเงิน ซึ่งเมื่อโลกแห่งเงานี้ปรากฎตัว ค่าสถานะของมอนสเตอร์ Faux Saint ทุกตัวในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงก็ลดลงไปอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่วสนามรบอันเงียบสงัด

“แข็งแกร่งมาก !! งั้นนี่ก็คือสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?!”

“ก่อนหน้านี้แม้ว่า Faux Saint Devourers ห้าตัวจะทำงานร่วมกัน แต่พวกมันก็ล้มเหลวในการทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมือง แถมตอนนี้ Faux Saint Devourers ทั้งห้าตัวก็ยังอ่อนแอลงอย่างมาก ซึ่งนี่มันก็แปลว่า Faux Saint Devourers พวกนี้จะไม่สามารถทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ !!!”

ก่อนหน้านี้ทุกคนนั้นตกอยู่ในความสิ้นหวังในความแข็งแกร่งของกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวงเวทย์ป้องกันของเมืองปีกสีเงินจะทรงพลังถึงขนาดที่สามารถต้านทานการโจมตีที่มีพลังอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสี่ได้

ในขณะเดียวกันตราบใดที่วงเวทย์ป้องกันของเมืองยังคงอยู่ มอนสเตอร์ Faux Saint ก็จะไม่สามารถสัมผัสกับผู้เล่นในเมืองได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากฝ่ายป้องกันสามารถยืนหยัดยื้อเวลาไปได้ และเติมพลังงานให้กับวงเวทย์ป้องกันเมืองไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่ง กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ก็จะต้องยอมแพ้ในการปิดล้อมเมืองไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม

“ช่างเป็นความสามารถในการป้องกันที่น่าทึ่งจริงๆ !!! ไม่ใช่ว่าวงเวทย์ป้องกันของเมืองนี้สามารถจะเทียบได้กับวงเวทย์ป้องกันของเมืองขนาดใหญ่ขั้นกลางได้แล้วงั้นหรอ ?!!”

ในขณะนี้นอกเหนือจากผู้เล่นอิสระในปัจจุบันแล้ว แม้แต่อิลูซะรี่เวิร์ด กับ อันยีลดิ้งฮาร์ท ก็ยังประหลาดใจเมื่อได้เห็นวงเวทย์ป้องกันของเมืองยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์

คำสาปทำลายล้างวิญญาณได้ทำให้มานาโดยรอบของเมืองเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ วงเวทย์ป้องกันของเมืองก็น่าจะอ่อนแอลงอย่างมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามวงเวทย์ป้องกันของเมืองนี้กับป้องกันการโจมตีจากเทคนิคหลอมรวมที่ Faux Saint Devourers ทั้งห้าตัวใช้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย

ขณะเดียวกันตอนนี้ซือเฟิงก็ได้ใช้โลกจิ๋วแล้ว ดังนั้น Faux Saint Devourers จึงไม่ควรฝันว่าจะสามารถทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองปีกสีเงินได้

“ช่างอวดดีจริงๆ !!!” เธ้าซั่นอายขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางที่สงบบนใบหน้าของซือเฟิง “คุณป้องกันการโจมตีจากการใช้เทคนิคการต่อสู้หลอมรวมของ Faux Saint Devourers ทั้งห้าตัวได้เพียงแค่ครั้งเดียวนะ ขณะที่พลังงานสำรองของวงเวทย์ป้องกันของเมืองนั้นก็มีจำกัด ฉันอยากเห็นจริงๆว่าคุณจะสามารถแสดงท่าทางหยิ่งผยองต่อไปได้อีกนานแค่ไหน เมื่อกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ระดมโจมตี และทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองได้แล้ว !!!”

วงเวทย์ใน God domain นั้นต้องการพลังงานในการทำงาน แม้ว่าการโจมตีของพวกมอนสเตอร์ Faux Saint จะไม่สามารถเอาชนะพลังป้องกันของวงเวทย์ป้องกันของเมืองได้ แต่การโจมตีของพวกมันก็จะสามารถลดพลังงานสำรองของวงเวทย์ลงไปได้เรื่อยๆ

ด้วยจำนวนและความแข็งแกร่งของกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint การทำลายวงเวทย์ของเมืองหลักของ NPC ก็จะยังคงเป็นไปได้ แม้ว่ากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ทั้งหมดจะถูกสกิลโดเมนทำให้อ่อนแอลงก็ตาม ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเมืองกิลเลย

ซึ่งทันทีที่เธ้าซั่นอายพูดจบ Faux Saint Devourers ทั้งห้าตัวก็เปิดฉากการโจมตีเข้าใส่วงเวทย์ป้องกันของเมืองอีกหลายครั้ง และในเวลาเดียวกัน มอนสเตอร์ Faux Saint อีกนับหมื่นก็เริ่มถล่มมันด้วยเช่นกัน

ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …

ชั่วครู่หนึ่ง เสียงระเบิดนับไม่ถ้วนก็ดังขึ้นในพื้นที่เหนือเมืองปีกสีเงิน

“เราไม่สามารถจะปล่อยเรื่องนี้ต่อไปได้ เราจำเป็นต้องหยุดการโจมตีของพวกนั้น !!! ไม่งั้นพลังงานสำรองของวงเวทย์ป้องกันของเมืองจะคงอยู่ได้ไม่นานนัก !!!” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวขณะที่เขามองไปยังวงเวทย์ป้องกันของเมืองที่สั่นสะเทือนเบื้องหน้าของเขา
มอนสเตอร์ Faux Saint ตัวอื่นๆแต่ละตัวอาจเทียบไม่ได้กับ Faux Saint Devourers อย่างไรก็ตามพวกมันก็สามารถทดแทนได้ด้วยจำนวนที่มีมากมายมหาศาล และแม้ว่าตอนนี้พวกมันจะอ่อนแอลง แต่พวกมันก็ยังสามารถจะทำให้พลังงานสำรองของวงเวทย์ป้องกันหมดลงไปอย่างรวดเร็วกว่าที่มอนสเตอร์ Faux Saint Devourers ทั้งห้าตัวโจมตีเต็มกำลัง

“ฝั่งของฉันสามารถจะใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญ อัญเชิญมอนสเตอร์ขั้นสี่ออกมาสองตัวได้ ซึ่งเราสามารถจะใช้พวกมันร่วมกับอาวุธสงครามเพื่อป้องกันการโจมตีที่ประตูหน้าได้ !!”

“ฝั่งของฉันก็เช่นกัน ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายสี่ตัว เราน่าจะสามารถลดแรงกดดันที่ประตูหน้าลงไปได้ และด้วยวิธีนี้เราก็จะสามารถส่งผู้เชี่ยวชาญขั้นสามไปสนับสนุนด้านอื่นๆเพิ่มเติมได้ ไม่งั้นเราจะไม่สามารถปกป้องเมืองปีกสีเงินเอาไว้ได้เลย !!!” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวหลังจากครุ่นคิด

แม้ว่าผู้เล่นขั้นสามส่วนใหญ่อาจไม่สามารถทำอะไรกับ Faux Saint Devourers ที่อ่อนแอลงได้ แต่การจะหยุดพวก Faux Saint Destroyers ที่อ่อนแอลงนั้นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใดๆ ซึ่งนี่จะทำให้ผู้เล่นขั้นสามถูกใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดได้

อย่างไรก็ตามในขณะที่อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดกำลังพูดคุยวางแผนกัน เสียงที่ไพเราะชัดเจนก็ได้ดังขึ้นมาที่หูของพวกเขา

“ไม่ต้องใช้ม้วนคัมภีร์อัญเชิญขั้นสี่ของพวกคุณหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเองดีกว่า ….”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ อันยีลดิ้งฮาร์ท และ อิลูซะรี่เวิร์ด ก็หันไปมองยังที่มาของมันด้วยความประหลาดใจ และความสับสนก็กระพริบในดวงตาของพวกเขา เมื่อพวกเขารู้ถึงที่มาของเสียง ซึ่งนี่เป็นเพราะเจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยู่หลาน ผู้จัดการเมืองปีกสีเงิน

ปัจจุบันมันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าหนึ่งร้อยคนจากสภาสิบแปดปีกยืนอยู่ด้านหลังของยู่หลาน ซึ่งทุกคนนั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าเป็นอย่างน้อย และหลายคนก็อยู่ในมาตราฐานขอบเขตการปรับแต่ง

“นี่ ….”
ฉากนี้ทำให้อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ด้านหลังของยู่หลานจะไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลจากจำนวนที่เพียงพอที่จะใช้แก้ปัญหาที่เมืองปีกสีเงินประสบอยู่ตอนนี้ได้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว แค่มอนสเตอร์ Faux Saint Destroyers ที่เข้าโจมตีเมือง มันก็มีจำนวนมากกว่าหนึ่งแสนคนแล้ว

นอกจากนี้หากผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เหล่านี้ต้องการจะหยุดการโจมตีจากกองทัพมอน
สเตอร์ Faux Saint จริงๆ พวกเขาก็ต้องการอะไรที่มากกว่าการใช้ความสามารถส่วนตัว ไม่งั้นมันก็จะเป็นการออกไปตายเปล่าเท่านั้น

อย่างไรก็ตามก่อนที่อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดจะทันได้พูดอะไร ยู่หลานก็โบกมือไปข้างหน้า และสมาชิกสำรองกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกก็ได้เดินไปยังส่วนต่างๆของกำแพงเมืองทันที และที่ตำแหน่งของพวกเขา พวกเขาก็กระโดดลงจากกำแพงเมืองโดยไม่ลังเล ก่อนที่ยู่หลานเองก็จะตามคนอื่นๆไปติดๆ

“นี่สมาชิกสภาสิบแปดปีกเหล่านี้บ้าไปแล้วรึปล่าว ?”

ผู้เล่นอิสระที่ต่อสู้อยู่เหนือกำแพงเมืองต่างก็อ้าปากค้าง และตกตะลึงกับการกระทำของสมาชิกสำรองกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีก

สำหรับสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมอยู่ พวกเขาก็ทำได้แค่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเท่านั้นเช่นกัน

ในความคิดเห็นของพวกเขา ซือเฟิงนั้นก็บ้ามากแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้สมาชิกสภาสิบแปดปีกกับทำอะไรที่บ้าคลั่งมากยิ่งกว่า

พวกเขากระโจนเข้าหากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ลังเล ในขณะที่ในหมู่พวกเขานั้นไม่มีใครอยู่ในขอบเขตอนันต์เลยด้วยซ้ำ

นี่พวกเขาทำบ้าอะไรกัน ?

“ก็แค่พวกคนโง่ที่เบื่อกับการมีชีวิตอยู่ !!!”

เธ้าซั่นอายยิ้มเยาะ เมื่อเห็นสมาชิกสภาสิบแปดปีกกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง
มอนสเตอร์ Faux Saint อาจมีค่าสถานะพื้นฐานลดลง แต่มาตราฐานการต่อสู้ของพวกมันนั้นก็ยังคงไม่ได้รับผลกระทบ และแม้แต่ Faux Saint Saboteur ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดก็ยังไม่ใช่อะไรที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะสามารถต่อกรด้วยได้

เขาสามารถมองเห็นฉากที่มอนสเตอร์ Faux Saint จำนวนมากกลืนกินสมาชิกของสภาสิบแปดปีกได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทุกคนกำลังคิดถึงเรื่องนี้นั้น ยู่หลานก็ได้หยิบม้วนคัมภีร์อัญเชิญองครักษ์ส่วนตัวเพื่ออัญเชิญองครักษ์องครักษ์สองคนของเธอออกมา ซึ่งคนหนึ่งนั้นเป็นชายที่ถือขวานที่มีร่างกายสูงและแข็งแรง ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงผมบลอนด์ที่ถือคทาสีฟ้า

ซึ่งทันทีที่ร่างทั้งสองนี้ปรากฎขึ้น ออร่าที่น่ากลัวของทั้งสองก็กวาดผ่านไปทั่วสนามรบ และผู้เล่นทุกคนที่สัมผัสได้ถึงออร่านี้ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

ในช่วงเวลาต่อมา ชายที่ถือขวานก็ได้ใช้การโจมตีที่เป็นพายุทอร์นาโดหยุดการโจมตีของมอนสเตอร์ Faux Saint Destroyer ทั้งหมดที่พุ่งเป้ามายังยู่หลาน นอกจากนี้พายุนี้ยังทำให้ Faux Saint Destroyer หลายโหล และ Faux Saint Saboteurs นับร้อยปลิวกระเด็นไปไกลกว่าสามสิบหลา ซึ่งในพริบตาพื้นที่ว่างก็ปรากฎขึ้นที่หน้าประตูเมือง

ขณะเดียวกันจากด้านข้างของยู่หลาน ผู้หญิงผมบลอนด์ก็ได้ทำการร่ายเวทย์ของเธอจนเสร็จแล้ว และในช่วงเวลาต่อมาสนามรบทั้งหมดก็สั่นสะเทือน ขณะที่รอยแยกขนาดใหญ่ที่ยาวกว่าสามร้อยหลาปรากฎขึ้นในสนามรบ ซึ่งรอยแยกนี้ไม่เพียงแต่จะแยกพวกมอนสเตอร์ Faux Saint ออกจากกำแพงเมืองปีกสีเงิน แต่มันยังกลืนกินมอนสเตอร์ Faux Saint ไปอีกนับพันตัว และสร้างความเสียหายได้มากกว่าห้าล้านต่อตัวด้วย

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด