Reincarnation Of The Strongest Sword God 2714

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2714 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2714 เจอกับฟีนิกซ์เรนอีกครั้ง

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ยอมรับคำเชิญของฟีนิกซ์เรน และตรงไปนั่งข้างๆเธอ

“ในช่วงเวลาที่ฉันไม่ได้เจอคุณนี่ ดูเหมือนคุณจะแข็งแกร่งขึ้นอีกมากเลยนะ” ฟีนิกซ์เรนกล่าวชื่นชม ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างพินิจพิเคราะห์

“ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น แล้วก็มาเข้าสู่หัวข้อหลักของเรากันดีกว่า” ซือเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม และเขาก็กล่าวต่อว่า “ทุกอย่างโอเคไหม ?”

ที่เรารีบตรงมาที่บาร์มูนไฟร์นี้มันก็เป็น เพราะเขาได้รับข้อความจากฟีนิกซ์เรน และในตอนแรกเขาก็มีความสุขอยู่เล็กน้อยเมื่อได้รับข้อความ เนื่องจากตอนแรกเขานึกว่าฟีนิกซ์เรนจะไม่มาปรากฎตัวต่อหน้าเขาอีกแล้ว ซึ่งนี่มันก็ทำให้เขาคิดว่าบางทีสถานการณ์มันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดที่ต้วนฮันซานคิดก็ได้

อย่างไรก็ตามในขณะที่เขามองไปยังฟีนิกซ์เรนตอนนี้ เขาก็เข้าใจได้ในทันที

สถานการณ์มันเลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก

นี่เป็นเพราะฟีนิกซ์เรนที่เขาเห็นนั้นไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นมนุษย์อีกต่อไป ข้อมูลทั้งหมดของเธอถูกระบุว่า “Unknown” และไม่สามารถตรวจสอบได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกที่เขาได้รับจากเธอ มันยังเหมือนกับว่าเธอได้หลอมรวมการดำรงอยู่ของเธอให้เป็นเหมือนกับดอกไม้หรือต้นไม้ใน God domain แล้ว

พูดกันตรงๆคือตอนนี้ซือเฟิงรู้สึกว่าฟีนิกซ์เรนนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ใน God domain ไม่ใช่โลกแห่งความจริง

ในขณะเดียวกันเมื่อได้ยินคำถามของซือเฟิง ดวงตาของฟีนิกซ์เรนก็ปรากฎร่องรอยแห่งความประหลาดใจขึ้นมา ก่อนที่เธอจะยิ้มจางๆและกล่าวตอบว่า “คุณสามารถพูดได้ว่ามันโอเค และไม่โอเคในเวลาเดียวกัน”

“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะยังไม่เลวร้ายจนเกินไป ?” ซือเฟิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ถามคำถามอีกอย่างหนึ่งว่า “แล้วบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ?”

การหายตัวไปของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน และปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสองของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะทางดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนพยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้อย่างดี ข่าวนี้คงเป็นที่โจษจันไปนานแล้ว

“ฉันยังไม่สามารถจะพูดได้ ….” ฟีนิกซ์เรนส่ายหัว “ฉันได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะมาที่นี่และบอกคุณสองเรื่อง”

แม้ว่าเสียงของฟีนิกซ์เรนจะสงบ แต่ดวงตาของเธอก็ทรยศต่อน้ำเสียงของเธออย่างมาก เมื่อพูดมาถึงตรงนี้

“เรื่องอะไรบ้างล่ะ ?” ซือเฟิงไม่ได้คิดจะซักไซ้ฟีนิกซ์เรนถึงสถานการณ์ของเธอมากเกินไป เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้ฟีนิกซ์เรนไม่ได้ล้อเล่นใดๆเลยกับเขา ซึ่งในกรณีนี้มันจึงจะไม่มีความหมายใดๆหากเขาซักไซ้ต่อไป

“เรื่องแลกก็คือ ฉันหวังว่าคุณจะช่วยดูแลน้องสาวฉันได้” ฟีนิกซ์เรนกล่าว จากนั้นเธอก็หยิบการ์ดข้อมูลและส่งให้ซือเฟิง “ข้อมูลและที่อยู่ของเธอถูกบันทึกไว้ในนี้ทั้งหมดแล้ว ฉันจะไม่ได้อยู่เคียงข้างเธออีกต่อไป และแม้ว่าเธอจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่คนที่รอจะก่อปัญหาให้เธอนั้นก็รับมือได้ยากมาก ดังนั้นถ้าคุณมีโอกาส ฉันหวังว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหาของเธอได้”

หลังจากทำการตรวจสอบการ์ดข้อมูลที่ได้รับมาจากฟีนิกซ์เรน ซือเฟิงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะน้องสาวของเธออาศัยอยู่ใน Upper Zone

“คุณไม่ได้อยู่ใน Upper Zone ด้วยงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถามด้วยความสับสน

“ฉันอยู่ใน Upper Zone ?” ฟีนิกซ์เรนรู้สึกประหลาดใจกับข่าวชิ้นนี้ หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะเบาๆและพูดต่อว่า “ก็ใช่แหละ ฉันคิดว่าคุณสามารถจะพูดแบบนั้นได้ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับฉันที่จะได้พบเธอในตอนนี้ ดังนั้นฉันจึงได้แต่หวังว่าคุณจะช่วยเธอ ฉันไม่สามารถจะเชื่อใจใครได้อีกแล้วสำหรับเรื่องนี้”

“นั่นไม่มีปัญหา ฉันจะรีบไปดูและจัดการให้ทันที เมื่อฉันได้ไปที่ Upper Zone ในอนาคต” ซือเฟิงพยักหน้ายอมรับคำขอของฟีนิกซ์เรน เธอได้ช่วยทั้งเขาและสภาสิบแปดปีกมามากแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รังเกียจเลยที่จะต้องช่วยน้องสาวของเธอในตอนนี้
“ขอบคุณ” ฟีนิกซ์เรนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเธอได้ยินคำตอบของซือเฟิง จากนั้นเธอก็สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเริ่มพูดอย่างจริงจังมากกว่าเดิมว่า “ต่อไปเป็นเรื่องที่สอง คือฉันมีคำแนะนำสองอย่างให้คุณ”

“คำแนะนำ ?” เมื่อเห็นการแสดงออกที่จริงจังของฟีนิกซ์เรน ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถาม “เรื่องมือแห่งนักบุญงั้นหรอ ?”

จากข้อมูลที่เขาได้รับมาจากต้วนฮันซาน การหายตัวไปของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน และปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนอีกสองคนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับมือแห่งนักบุญแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นมหาอำนาจต่างๆก็ดูเหมือนจะเกรงกลัวกิลๆนี้มาก

“ไม่ใช่” ฟีนิกซ์เรนส่ายหัว ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า “คำแนะนำแรกของฉันคือให้คุณระวังคนไว้สามคน”

“สามคน ?” ซือเฟิงค่อนข้างสับสน

เขาสามารถจะทำความเข้าใจได้ หากฟีนิกซ์เรนต้องการให้เขาระวังองค์กรบางแห่งที่มีอำนาจ แต่ตอนนี้เธอกับบอกให้เขาระวังคนสามคน หากไม่ใช่เพราะการแสดงออกที่จริงจังของฟีนิกซ์เรน และสถานที่สูงส่งของเธอ เขาคงมอว่าคำพูดของเธอเป็นเรื่องตลก

“ใช่ สามคน” ฟีนิกซ์เรนพูดอย่างช้าๆว่า “ฉันไม่รู้จักชื่อของทั้งสามคนนี้ พวกเขาล้วนใช้มานามแฝงต่างๆ แต่ในหมู่พวกนี้มันไม่มีชื่อจริงของพวกเขาเลย สิ่งเดียวที่ฉันสามารถบอกคุณได้คือลักษณะของพวกเขา โดยทั้งสามคนนี้จะดูเหมือนกับนักวิชาการ ซึ่งมี ชายผู้บ้าคลั่ง หญิงสาว และชายหนุ่ม ถ้าคุณเจอพวกเขาให้วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด อย่าเข้าใกล้พวกเขา ไม่งั้นผลที่ตามมาจะรุนแรงมากๆ คุณจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี”

“นี่คือข้อมูลทั้งหมดของสามคนนี้งั้นหรอ ?” ซือเฟิงจดจำคำพูดที่ฟีนิกซ์เรนบอกเขามาทั้งหมดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เธอกล่าวมามันก็ยังคงจัดว่าคลุมเครือมากๆ

“ฉันรู้มาแค่นี้แหละ ….” ฟีนิกซ์เรนส่ายหัวพลางหัวเราะเบาๆ จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ส่วนคำแนะนำต่อไปก็เป็นเรื่องง่ายๆคือ ให้ทำการตุนคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ไว้ให้มากที่สุด สิ่งนี้มันมีค่ามากอย่างไม่น่าเชื่อ และยิ่งคุณมีมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
“นั่นถือเป็นคำแนะนำที่ดีนะ ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้รับคำแนะนำนี้

คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่นั้นมีค่าและมีความสำคัญอย่างมากในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ซึ่งเขารู้เรื่องนี้ดี และเขาก็ได้มอบหมายให้สมาชิกกิลหลายคนออกค้นหาและรวบรวมมันมาแล้ว อย่างไรก็ตามด้วยความหายากของมัน จำนวนที่พวกเขารวบรวมมาได้ มันจึงยังไม่มากนัก

หลังจากซือเฟิงพูดจบ ฟีนิกซ์เรนก็ลุกขึ้นยืน และโยนเหรียญทองสามเหรียญไว้บนโต๊ะ จากนั้นเธอก็มองไปยังซือเฟิง และพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันพูดทุกอย่างที่สามารถพูดได้แล้ว คุณจะก้าวหน้าไปได้ไกลแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับคุณ”

“คุณจะไปแล้วงั้นหรอ ?” ซือเฟิงประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าฟีนิกซ์เรนกำลังเตรียมจะจากไป การพูดคุยของพวกเขามันใช้เวลาไม่ถึงห้านาที และเขาก็ยังไม่ได้ถามคำถามอื่นๆที่ต้องการถามด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามฟีนิกซ์เรนก็ดูเหมือนจะไม่มีเวลาเหลือแล้วจริงๆ

“ใช่แล้ว …” ฟีนิกซ์เรนกล่าวตอบ ก่อนที่เธอจะนำคริสตัลสีดำออกมาจากกระเป๋าของเธอ และโยนให้ซือเฟิง “ฉันต้องขอบคุณมากที่ยอมมาพบฉันครั้งนี้ ในปัจจุบันฉันไม่สามารถจะให้อะไรตอบแทนคุณได้เลย ดังนั้นฉันจะมอบสิ่งนี้ให้กับคุณ”

“นี่มันคืออะไรกัน ?” เมื่อซือเฟิงมองไปที่คริสตัลสีดำที่ไม่มีข้อมูลใดๆ เขาก็รู้สึกอยากจะกินพวกมันให้หมดไปแบบรู้แล้วรู้รอดทันที

เมื่อสังเกตเห็นท่าทีของซือเฟิง ฟีนิกซ์เรนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆและกล่าวว่า “มันจะดีกว่านะถ้าไม่กินเข้าไป มันกินไม่ได้ ….”

ซือเฟิงรู้สึกอายเล็กน้อยกับสถานการณ์นี้ เขาไม่นึกเลยว่าคริสตัลสีดำนี้จะมีพลังมากจนส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขาได้

“ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่กินมันแน่นอน ….” ซือเฟิงกล่าวสัญญา

“ก่อนที่ฉันจะไป ฉันจะบอกคุณอีกอย่างหนึ่ง ขั้นสี่นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เวลา … ของคุณ ….”

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฟีนิกซ์เรนจะพูดจบ เธอก็หายตัวไปราวกับว่าเธอไม่เคยอยู่ในสถานที่แห่งนี้มาก่อนเลย
ตอนนี้มันมีเพียงซือเฟิงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในบาร์อันกว้างขวาง

บังคับเทเลพอร์ตงั้นหรอ ? ดวงตาของซือเฟิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขาไปยังบริเวณพื้นที่ที่ฟีนิกซ์เรนเคยอยู่ อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เลือกจะปฎิเสธทฤษฎีนี้ของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ มันไม่ได้มีความผันผวนเชิงพื้นที่เกิดขึ้น มันไม่น่าจะเป็นการบังคับเทเลพอร์ต แต่ถ้าเธอล๊อคเอ้าท์ออกจากระบบ มันก็น่าจะต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่เธอจะหายตัวไป

แม้จะครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ซือเฟิงก็คิดไม่ออกเลยว่าอะไรทำให้ฟีนิกซ์เรนหายตัวไปอย่างกระทันหัน และในท้ายที่สุดเขาก็ต้องยอมแพ้ ก่อนที่จะเปลี่ยนความสนใจไปที่คริสตัลสีดำในมือเขา อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่าฟีนิกซ์เรนปลอดภัย

ฉันไม่ได้อะไรเลยจากการใช้สกิลตรวจสอบธรรมดาตรวจสอบมัน ดูเหมือนว่าฉันจะทำได้แค่ลองใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำเท่านั้น

ซือเฟิงเริ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะรวบรวมมานามาไว้ที่บริเวณดวงตาของเขา และทำการใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำ ก่อนจะจ้องมองไปที่คริสตัลสีดำอย่างตั้งใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด