Reincarnation Of The Strongest Sword God 2738

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2738 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2738 พันธมิตรไตรภาคี

“มรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามของอาชีพต่างๆ ?”

อิลูซะรี่เวิร์ด อันยีลดิ้งฮาร์ท บลูเกาน์ และมู่หลิงชาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือ
เฟิงด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นเยาว์หน้าใหม่ของจักรพรรดิคริมสันอย่าง บลูเกาน์ ที่เธอคิดว่าคำพูดของซือเฟิงมันไม่น่าจะเป็นไปได้จริงเลย

ในยุคปัจจุบันของ God domain อาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆเริ่มมีการปิดกั้นมรดกขั้นสามแล้ว พวกเขาถือว่ามรดกขั้นสามเป็นสมบัติล้ำค่า และบุคคลภายนอกเช่นผู้เล่นไม่ควรคิดที่จะอ้างถึงหรือได้รับมรดกไปด้วยซ้ำ ตัวเลือกเดียวที่ผู้เล่นมีสำหรับการจะเข้าให้ถึงขั้นสามให้ได้ คือการค้นหามรดกขั้นสามที่สูญหาย และกระจัดกระจายไปซึ่งซ่อนอยู่ในแผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ซือเฟิงกับบอกพวกเขาว่า พวกเขาสามารถจะรับเอามรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามจากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้ จะให้เธอเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไง ?

“สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงรึปล่าว หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?” อิลูซะรี่เวิร์ดถาม หากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเหมาะสำหรับการใช้ช่วยเพิ่มเลเวลให้กับผู้เล่นให้กับผู้เล่นเท่านั้น มันก็จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมหาอำนาจอย่างจักรพรรดิคริมสันมากเกินไป นี่เป็นเพราะว่าขั้นคือทุกสิ่งใน God domain และเลเวลเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในขณะนี้มหาอำนาจต่างๆกำลังมีปัญหากับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ที่ยากกว่ามากเลย อันที่จริงความยากของการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามในตอนนี้นั้นสูงมากจนมหาอำนาจต่างๆเริ่มจะใช้จำนวนผู้เล่นขั้นสามที่พวกเขามีเป็นตัวเปรียบเทียบความแข็งแกร่งระหว่างกันแล้ว

หากสิ่งที่ซือเฟิงพูดเป็นความจริง และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมีมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามอยู่จริงๆ นี่มันก็จัดว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อ !! และหากข่าวเรื่องนี้รั่วไหลออกไป มันก็จะส่งผลให้เกิดความโกลาหลไปทั่ว God domain แน่นอน เพราะท้ายที่สุด แม้จะมีผู้เล่นหลายคนที่มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยแล้ว แต่ผู้เล่นที่ทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามผ่านจริงๆก็ยังคงจัดว่าหายากมากๆ

หากใครสามารถได้รับมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสาม การทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามสำหรับอาชีพที่เป็นของมรดกที่พวกเขาได้รับมามันก็จะง่ายขึ้นมาก นี่คือสาเหตุที่ NPC สามารถเข้าถึงขั้นสามได้ง่ายกว่าผู้เล่นมาก หากความยากของเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามของผู้เล่นลดลง จำนวนผู้เล่นที่จะสามารถไปถึงขั้นสามได้ก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน

“พวกคุณสามารถจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวได้ในภายหลัง” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “อย่างไรก็ตามพวกคุณต้องตัดสินใจก่อนว่าเราจะร่วมมือกันหรือไม่ ?”

“อันยีลดิ้งโซลยินดีจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกแน่นอน !!!” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวโดยไม่ลังเล

“จักรพรรดิคริมสันเองก็เช่นกัน พวกเราจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้แน่นอน !!!” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางพยักหน้า อย่างไรก็ตามจากนั้นเธอก็พูดต่ออย่างเป็นห่วงว่า “แต่เมื่อมันมีสามกิลของพวกเรา ฉันก็กลัวว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะปิดล้อมเมืองสกายสปริง ไม่ต้องพูดถึงการปกปิดความลับที่แท้จริงของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเลย

การปิดล้อมเมือง NPC นั้นนับเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ เนื่องจากผู้เล่นสามารถจะเทเลพอร์ตเข้ามายังเมือง NPC ได้อย่างอิสระ และผู้เล่นเช่นตัวพวกเขาเองก็จะไม่มีอำนาจป้องกันสิ่งนี้ อย่างมากที่สุดพวกเขาก็จะสามารถป้องกันไม่ให้ผู้เล่นในเมืองออกจากประตูหลัก และฆ่าใครก็ตามที่ยืนยันจะทำเช่นนั้นได้ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากประตูหลักแล้ว ผู้เล่นยังมีวิธีการอื่นในการออกจากเมือง NPC อีก ตัวอย่างหนึ่งก็เช่น ม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตแบบกลุ่มขั้นสามที่ซือเฟิงใช้ ปัญหาเรื่องที่สองคือเรื่องหอคอยแห่งพันธสัญญาลับที่มีมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสาม หากอันยีลดิ้งโซลและจักรพรรดิคริมสันส่งผู้เล่นจำนวนมากมาเพื่อตามล่าหามรดก สายลับของมหาอำนาจที่อยู่ในกิลทั้งสองของพวกเขาก็จะค้นพบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วแน่นอน และในเวลานั้นการปิดล้อมเมืองสกายสปริงก็จะกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น ในความเป็นจริงมันอาจกลายเป็น เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“พวกคุณสามารถวางใจเรื่องนี้ได้เลย เนื่องจากพวกคุณตกลงที่จะร่วมมือ สิ่งที่จะตามมาต่อไปมันก็เป็นเรื่องง่าย” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หยิบโทเค่นทองคำออกมาและอธิบายว่า “นี่คือโทเค่นของเมืองสกายสปริง สภาสิบแปดปีกได้เข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองสกายสปริงแล้ว และกิลก็ได้รับสิทในการจัดการเมืองบางส่วนโดยตรงด้วย”

“สิทในการจัดการเมืองบางส่วนโดยตรง ?” ดวงตาของอิลูซะรี่เวิร์ดเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อเธอจ้องมองไปยังโทเค่นในมือของซือเฟิง

NPC นั้นจะคอยจัดการเมืองของ NPC ที่อยู่ในอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆ ดังนั้นกิลใดก็ตามที่ได้รับสิทในการจัดการเมืองของ NPC บางส่วนโดยตรง แม้จะเพียงแค่เล็กน้อย แต่กิลๆนั้นก็จะสามารถจัดการเมืองของ NPC ได้อย่างมั่นคงแน่นอน กิลอื่นๆจะไม่มีทางแย่งการควบคุมเมืองไปจากกิลที่มีสิทในการจัดการเมืองได้เลย

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือตอนนี้มันเท่ากับว่าสภาสิบแปดปีกสามารถเข้าครอบครองเมืองสกายสปริงได้แล้ว

“นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่กิลที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากวิหารเทพสงครามได้มางั้นหรอ ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทมองไปยังโทเค่นในมือของซือเฟิงด้วยความอิจฉา เขาต้องยอมรับเลยว่าสิทธิพิเศษนี้มันน่าทึ่งมากจริงๆ

ด้วยสิทธิพิเศษนี้ มันก็จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นก่อนที่สภาสิบแปดปีกจะเหนือกว่ากิลคู่แข่ง

แม้ว่าเมืองกิลจะมีศักยภาพในการพัฒนาที่ยอดเยี่ยม แต่เมืองของ NPC ก็ยังคงจัดว่ามีอิทธิพลต่อ God domain ในปัจจุบันมากที่สุด การเดินทางไปมาระหว่างเมือง NPC นั้นมันสะดวกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นเมืองของ NPC ทุกเมืองล้วนมีร้านค้าและบ้านประมูลที่ขายสินค้าที่จำเป็นสำหรับผู้เล่นอิสระ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆทั้งหมดอยู่ด้วย

การได้เข้าครอบครองเมือง NPC แบบนี้ มันหมายถึงการได้มาซึ่งเหมืองทองคำที่เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง และในเมืองของ NPC แบบนี้ มันก็แทบไม่จำเป็นจะต้องจัดการเมืองมากเลยเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้จำนวนมาก นี่คือสิ่งที่มหาอำนาจต่างๆนั้นล้วนใฝ่ฝันที่จะมี ….

“ถูกต้อง นี่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับกิลที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากวิหารเทพสงคราม” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่ได้สนใจที่จะปกปิดความจริง “ด้วยโทเค่นนี้ ฉันสามารถจะออกคำสั่งแบนห้ามใช้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนต์ทุกอย่างในเมืองสกายสปริงเพื่อป้องกันการใช้เครื่องมือเทเลพอร์ตได้ ด้วยวิธีนี้ผู้เล่นจะสามารถทำได้แค่เดินเท่านั้น หากต้องการจะออกจากเมือง”

“นอกจากนี้เพื่อรักษาความลับเรื่องมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับไว้ กิลทั้งสามของเราควรพึ่งพาแค่สมาชิกกองกำลังหลักเท่านั้นในการตามล่าหามรดก และพูดกันตามตรงจะเริ่มต้นด้วยผู้เล่นจำนวนมากไหม มันก็ไม่สำคัญ เพราะทีมขั้นสามทั่วไปจะไม่สามารถอยู่รอดได้เลยในชั้นแรกๆที่มีมรดกดรอปอยู่ ไม่ต้องพูดถึงการค้นหามรดกทั้งหมด …. แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป อย่างไรก็ตามในระยะนี้ของเกม ฉันก็ต้องการจะซ่อนมันไว้ให้ได้นานที่สุด”

อิลูซะรี่เวิร์ดและอันยีลดิ้งฮาร์ทพยักหน้าเห็นด้วยกับซือเฟิงในเรื่องนี้ พวกเขาเองก็รู้สึกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้สิ่งต่างๆออกมาดีที่สุดสำหรับกิลทั้งสามของพวกเขา และตราบใดที่กิลของพวกเขาได้รับมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามมาครบแล้ว พวกเขาก็จะได้กลายเป็นผู้นำเหนือกิลอื่นๆอยู่แล้ว แถมท้ายที่สุดยิ่งพวกเขาเก็บความลับเรื่องนี้ได้นานเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น

“งั้นเราก็มาเซ็นสัญญากันเลย” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขาดึงสัญญาสองฉบับออกมายื่นให้กับกิลทั้งสอง

ในตอนแรกซือเฟิงก็ต้องการจะเชิญให้ศาลาลับมาเข้าร่วมพันธมิตรนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามศาลาลับเป็นกิลที่มุ่งเน้นไปในด้านธุรกิจ และมักจะแยกตัวออกมาจากการต่อสู้ระหว่างกิล ถ้าศาลาลับทำการปิดล้อมเมืองของ NPC ทั้งเมืองอย่างกระทันหัน มันจะสร้างความปั่นป่วนอย่างมาก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมันจะดูค่อนข้างผิดปกติมากๆ

ดังนั้นอันยีลดิ้งโซล และจักรพรรดิคริมสัน จึงเหมาะสมกว่ามากในการจะเลือกเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรในครั้งนี้ เพราะท้ายที่สุดตอนนี้ทั้งสองกิลนั้นก็อยู่ในสถานะที่อ่อนแอลง และการปิดล้อมเมืองของ NPC ทั้งเมืองเพื่อแสวงหาทรัพยากรเพิ่มเติมถือเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา และแม้ว่ามหาอำนาจอื่นๆจะพบว่าเป้าหมายของกิลคือหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ แต่มหาอำนาจส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าหอคอยนี้แค่ช่วยให้ผู้เล่นเก็บเลเวลได้ไวขึ้นเท่านั้น

สำหรับการจะปิดล้อมเมืองสกายสปริงอย่างถาวร ซือเฟิงไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นเลย

สภาสิบแปดปีกนั้นต้องการเงินทุนอย่างมาก แม้ว่าการปิดล้อมเมืองสกายสปริงเพื่อให้กิลมีความได้เปรียบอาจจะดีในระยะสั้น แต่หากทำไปตลอด มันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเพิ่มเติม โชคดีที่แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างรายได้จากผู้เล่นและมหาอำนาจต่างๆในขณะที่เมืองสกายสปริงถูกปิดล้อม แต่รายได้ที่เขาจะได้รับจากจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซล มันก็ยังคงจัดว่ามีอยู่มาก

เพราะท้ายที่สุดทั้งจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซล ล้วนมีสถานที่พักกิลอยู่ในเมืองปีกสีเงิน เมื่อเทียบกับการเทเลพอร์ตไปยังเมืองสกายสปริงจากเมือง NPC ของอาณาจักร และจักรวรรดิอื่นๆ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อยสี่เหรียญทอง การเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าหนึ่งเหรียญทองเพียงเล็กน้อยต่อคนในการเทเลพอร์ตจากเมืองปีกสีเงินไปยังเมืองสกายสปริงย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในขณะเดียวกันสภาสิบแปดปีกก็ได้จะรับผลกำไรครึ่งหนึ่งจากห้องเทเลพอร์ตของเมืองปีกสีเงิน ….

ในเวลานั้นสภาสิบแปดปีกก็จะมีรายได้อย่างมากจากค่าเทเลพอร์ต และค่าเข้าเมืองของจักรพรรดิคริมสัน กับอันยีลดิ้งโซล เพราะท้ายที่สุดทั้งสองกิลจะส่งผู้เล่นจำนวนมากเข้ามายังหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเพื่อเก็บเลเวลแน่นอน และรายได้พวกนี้ก็จะหักล้างการสูญเสียที่สภาสิบแปดปีกได้รับจากการทำการจำกัดไม่ให้ NPC เข้าเมืองลงไปได้

อย่างไรก็ตามการหาเงินจากทั้งสองกิลนั้นไม่ใช่แผนระยะยาว เนื่องจากทั้งสองกิลมีผู้เล่นและเงินที่จำกัด หลังจากนั้นอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือระหว่างกิลกับซือเฟิง ในนามของตัวแทนกิลของพวกเขา

เงื่อนไขนั้นง่ายมาก อันยีลดิ้งโซลและจักรพรรดิคริมสันจะช่วยทำการปิดล้อมเมืองสกายสปริงจากภายนอก และนอกเหนือจากสมาชิกกองกำลังหลักของกิลแล้ว สมาชิกคนอื่นๆของกิลทั้งสองยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับชั้นที่สามสิบหรือสูงกว่านั้นจนกว่าความลับของหอคอยจะถูกสาธารณชนค้นพบ

แล้วก็อันยีลดิ้งโซลกับจักรพรรดิคริมสันก็จะหารครึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นคริสตัลเวทย์มนต์ในการใช้เวทย์มนต์ออกคำสั่งแบนการใช้เวทย์มนต์ทุกอย่างในเมืองสกายสปริง

พูดกันตามตรง เงื่อนไขนี้มันทำให้ทั้งสองกิลจัดว่าเสียเปรียบค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมทั้งกำลังคนและทรัพยากร อย่างไรก็ตามอันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดก็ไม่ได้บ่นใดๆในเรื่องนี้ เนื่องจากท้ายที่สุดนั้น ซือเฟิงได้เปิดโอกาสให้ทั้งสองกิลของพวกเขาขึ้นมาอยู่เหนือกว่ามหาอำนาจอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากซึ่งพวกเขา สภาสิบแปดปีกก็ยังสามารถจะเป็นพันธมิตรกับมหาอำนาจอื่นๆได้ด้วย ในทางกลับกันกิลทั้งสองของพวกเขามีแต่สภาสิบแปดปีกเท่านั้น
หลังจากทั้งสามเซ็นสัญญากันเรียบร้อย อิลูซะรี่เวิร์ดและคนอื่นๆก็กลับไปที่กิลของตนทันทีเพื่อสรุปเรื่องสัญญาทั้งหมดนี้ให้กับผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆของกิลตนฟัง ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็จะเริ่มเตรียมการที่จำเป็นเพื่อปิดล้อมเมืองสกายสปริง และส่งคนของพวกเขาเข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ

เรื่องนี้นับมีความสำคัญสูงสุดกับทั้งสองกิล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องระมัดระวังในการกระทำแต่ละอย่างของพวกเขามากๆ นอกจากนี้มันก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการจะปิดล้อมเมืองสกายสปริง

ในทำนองเดียวกัน ซือเฟิงก็ได้ออกคำสั่งให้ไฟเออร์แดนซ์ ยู่หลาน และคนอื่นๆเตรียมพร้อมในเรื่องนี้เช่นกัน

หลังจากเห็นว่าไม่มีอะไรเหลือให้เขาทำแล้ว เขาจึงเลือกจะออฟไลน์ไปเพื่อพักผ่อน แม้ว่าการออนไลน์อยู่ในเกมเป็นเวลานานกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงจะไม่ทำให้เขาได้รับอัน
ตรายใดๆ แต่เขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายทุกวันในโลกแห่งความจริง

สำนักงานใหญ่หลักสภาสิบแปดปีก ห้องรับรองชั้นบนสุด :

เมื่อถึงเวลาที่ซือเฟิงกลับสู่โลกแห่งความจริง ดวงอาทิตย์ด้านนอกก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเวลาใกล้เที่ยง ….

“หัวหน้ากิล ในที่สุดหัวหน้าก็กลับออกมา” จู่ๆเหลียงจิงก็ติดต่อซือเฟิงเข้ามาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า “มิสมู่ฉินรอหัวหน้าอยู่ที่ห้องรับรองมาระยะหนึ่งแล้ว เธอบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อส่งมอบทุกสิ่งที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้เธอก็ยังจะมอบเงินทุนอัดฉีดให้สภาสิบแปดปีกสามร้อยล้านเครดิต โดยไม่มีพันธะใดๆด้วย”

สามร้อยล้านเครดิต !!!

ด้วยเงินจำนวนนี้ สภาสิบแปดปีกจะสามารถอยู่รอดได้ระยะหนึ่งเลย แม้ว่าจะไม่ทำการขายเหรียญทองเป็นเครดิตก็ตาม

“เธอมาเร็วจริงๆ ….” ซือเฟิงค่อนข้างประหลาดใจกับเรื่องนี้

เขาคาดเดาว่าเขาน่าจะต้องอีกสองถึงสามวัน เพราะท้ายที่สุดแล้วค่าตอบแทนที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นสัญญาไว้กับสภาสิบแปดปีกนั้นมันมีจำนวนมหาศาลมากๆ นอกจากนี้มันยังมีเรื่องของช่องเข้าสู่ Upper Zone อีกสามช่องด้วย และพูดกันตามตรงแค่การรวบรวมสารอาหารเหลวระดับ S ห้าสิบขวดที่เหลือตามที่ตกลงกันไว้ตอนแรก
ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ควรจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งในการรวบรวม

“หัวหน้าต้องการจะพบเธอตอนนี้เลยไหม ?” เหลียงจิงถาม

“แน่นอน” ซือเฟิงพยักหน้า “แต่อย่างไรก็ตามให้ฉันทำความสะอาดตัวเองก่อน ฉันจะรีบตรงไปที่นั่นทันทีที่ทำเสร็จ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด