Reincarnation Of The Strongest Sword God 2752

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2752 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2752 ซือเฟิงที่โครตจะบ้าคลั่ง

“นี่คือไพ่เด็ดที่แท้จริงของคุณงั้นหรอ ?” เมื่ออิลูซะรี่เวิร์ดูข้อมูลที่ปรากฎขึ้นตรงหน้าของเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

อันดับแรกก็ห้องเทเลพอร์ต จากนั้นก็หอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ตอนนี้ก็ป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กอีก ไม่เพียงแต่ความลับที่ซือเฟิงเปิดเผยออกมาแต่ละอย่างจะน่าทึ่ง แต่ทุกๆครั้งที่เขาเปิดเผยความลับแต่ละอย่างออกมา มันยังน่าทึ่งขึ้นเรื่อยๆด้วย

เมื่อมาถึงจุดนี้เธอก็เริ่มสงสัยแล้วว่าซือเฟิงยังมีความลับที่น่าอัศจรรย์ และไพ่ลับซ่อนอยู่อีกหรือไม่ เธอรู้สึกว่าที่เขาทำมาตลอดก็คือแค่รอให้ศัตรูเข้ามาหาเขาเพื่อที่เขาจะได้ใช้เป็นหินสำหรับก้าวให้สภาสิบแปดปีก

ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกโชคดีมากๆที่จักรพรรดิคริมสันไม่ได้เลือกจะต่อต้านสภาสิบแปดปีก ไม่งั้นผลที่ตามมามันคงจะยากที่จะจินตนาการเลย

“ก็อาจจะมั้งนะ ….” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่บอกฉันหน่อยสิว่าตอนนี้พวกคุณทั้งสองคนยังสนใจเรื่องนี้ไหม ?”

ในความเป็นจริง แม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็มีความรู้สึกต้องการป้อมปราการขนาดเล็กมากๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้แม้ว่าเขาจะมีแบบแปลนของมัน แต่เขาก็แทบจะไม่มีวัสดุที่จำเป็นในการสร้างมันเลย

ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องดึงสองกิลที่ร่ำรวยเข้ามาร่วมงานนี้ให้ได้

อิลูซะรี่เวิร์ดสูดหายใจเข้าลึกๆ และมองไปยังซือเฟิง ก่อนที่เธอจะกล่าวว่า “ไม่ต้องอ้อมค้อม บอกมาเลยว่าคุณต้องการจะทำอะไรบ้าง ….”

อันยีลดิ้งฮาร์ทพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด ตอนนี้เขาต้องการจะฟังแผนของซือเฟิงอย่างมาก

“คุณได้เห็นข้อมูลพื้นฐานของป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กแล้ว” ซือเฟิงกล่วด้วยรอยยิ้ม “ความมั่งคั่งและร่ำรวยที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างมันนั้นจัดว่ามหาศาลมากๆ แม้ว่าพวกเราจะทำการใช้ทุกอย่างที่มีในกิลทั้งสองคุณ แต่เราก็จะยังมีทรัพยากรไม่เพียงพอที่จะสร้างมัน”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ของซือเฟิง ทั้งอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทไม่ได้คิดจะหักล้างคำพูดนี้ของซือเฟิง ….

แม้ว่าซือเฟิงจะไม่ได้แสดงข้อกำหนดทั้งหมดในการสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กให้พวกเขาได้เห็น แต่แม้แต่คนโง่ก็สามารถจะบอกได้ว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กแบบนี้มันจะน่าสะพรึงกลัวมากแน่นอน และมันก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่มหาอำนาจในปัจจุบันจะสามารถจ่ายได้เลย

“ฉันไม่ได้ต้องการให้กิลทั้งสองของพวกคุณจ่ายค่าสร้างป้อมปราการ อย่างไรก็ตามฉันต้องการให้กิลทั้งสองของพวกคุณจ่ายด้วยคริสตัลเวทย์มนต์สองล้านชิ้น และเงินห้าล้านเหรียญทองสำหรับหุ้นของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ พวกคุณคิดว่าไง ?” ซือเฟิงกล่าว “เมื่อเราครอบครองหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เราจะสามารถเรียกเก็บค่าเข้าจากผู้เล่นคนอื่นๆได้ด้วย ตัวอย่างเช่นเราสามารถจะเรียกเก็บคริสตัลเวทย์มนต์สองชิ้น หรือเงินหนึ่งเหรียญทองต่อคนเป็นค่าเข้าได้ โดยกิลทั้งสองของคุณจะได้รับส่วนแบ่งคนละยี่สิบห้าเปอเซ็นต์ของผลกำไร”

“แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นฉันก็ต้องการหยิบยืมความช่วยเหลือจากกิลทั้งสองของพวกคุณก่อน ไม่งั้นมันคงจะยากที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ”

เมื่อซือเฟิงพูดจบ ทั้งอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทก็เงียบไปและเริ่มครุ่นคิด แผนของซือเฟิง และผลกำไรที่พวกเขาจะได้รับจากเรื่องนี้นั้นแน่นอนว่ามันน่าสนใจมาก อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาทำแบบนี้ มันก็จะเท่ากับว่าพวกเขาประกาศสงครามกับมหาอำนาจแทบทั้งหมดในทวีปด้านตะวันออกเลย และความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับมหาอำนาจแทบทั้งหมดนี้ก็จะอยู่ในจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้แน่นอน ….

แต่แน่นอนว่าถ้าแผนของซือเฟิงสำเร็จ ทั้งจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดของทวีปด้านตะวันออกแน่นอน

พูดง่ายๆว่านี่มันคือการพนันครั้งใหญ่ !!

ซือเฟิงไม่ได้แปลกใจมากนัก เมื่อได้เห็นปฎิกิริยาล่าสุดของทั้งสองคน

ในความเป็นจริง แผนที่เขาบอกทั้งสองไปนั้น มันเป็นเพียงแผนขั้นต้นเท่านั้น และเขาจะค่อยๆบอกแผนการขั้นต่อไปเป็นลำดับเรื่อยๆเมื่อเวลาเหมาะสม ซึ่งที่เขาเลือกจะทำแบบนี้ มันก็เป็นเพราะว่าเขากลัวว่าทั้งสองกิลจะปฎิเสธเขาซะก่อน โดยหากเป็นแบบนั้น สภาสิบแปดปีกจะไม่สามารถกลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงใน God domain ได้

การต้องผูกขาดหอคอยแห่งพันธสัญญาลับให้ได้นั้นเป็นเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่จะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถสร้างผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะท้ายที่สุดแล้วมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามนั้นจะสามารถใช้ได้เพียงเก้าครั้งเท่านั้นอย่างมากที่สุด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเมื่อใช้มรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามที่หามาได้ครบตามจำนวนที่กำหนดแล้ว มันก็จะหายไป และผู้เล่นก็จะต้องไปหาใหม่

ดังนั้นกิลจึงจำเป็นจะต้องส่งผู้เล่นเข้าไปสำรวจในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเรื่อยๆ เพราะท้ายที่สุดหากสภาสิบแปดปีกยึดครองหอคอยนี้ได้แค่เพียงช่วงสั้นๆ ข้อได้เปรียบเล็กน้อยที่พวกเขาจะได้รับ มันจะไม่ได้ทำให้กิลได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพเลย มันมีแต่การที่ต้องผูกขาดหอคอยแห่งนี้ได้เท่านั้น สภาสิบแปดปีกจึงจะสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงเพียงพอให้กับตัวเองใน God domain ได้

ตอนนี้เมื่อจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลได้เห็นแผนการขั้นต้นที่เขาต้องการจะบรรลุให้ได้ ทั้งสองกิลก็จะมีความมั่นใจในสภาสิบแปดปีกมากขึ้นแน่นอน

ในขณะเดียวกันอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ได้ติดต่อไปยังพวกระดับสูงของพวกเขาอย่างลับๆพร้อมกันเพื่อบอกถึงข้อเสนอของซือเฟิงให้พิจารณา

ในเวลานี้สภาสิบแปดปีกให้ตัวเลือกแก่พวกเขาสองทาง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต้องเลือกระหว่างตัวเลือกเหล่านี้ในตอนนี้

ทางเลือกแรกเลยคือเลิกให้ความร่วมมือเพิ่มเติม และมุ่งเน้นไปที่การหาผลประโยชน์บางส่วนจากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเท่านั้น แต่ในอนาคตกิลทั้งสองของพวกเขาก็จะไม่มีความเชื่อมโยงกับหอคอยนี้อีก เนื่องจากมันจะกลายเป็นพื้นที่การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจต่างๆแทน ทางเลือกที่สองคือร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกต่อไปโดยการผูกขาดหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเอาไว้ และตั้งตนเป็นศัตรูกับมหาอำนาจแทบทั้งหมดในทวีปด้านตะวันออก ซึ่งหากแผนของพวกเขาสำเร็จ กิลของพวกเขาก็จะได้รับทรัพยากรมากมาย และสามารถสร้างผู้เล่นขั้นสามขึ้นมาได้จำนวนมาก แต่หากพวกเขาล้มเหลว มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่กิลของพวกเขาจะมีสิทที่จะล่มสลาย

นี่มันคือการพนันที่พวกเขาต้อง ALL IN เททุกอย่างหมดหน้าตักอย่างแท้จริง

หลังจากพูดคุยกันนานกว่าสิบนาที อิลูซะรี่เวิร์ดและอันยีลดิ้งฮาร์ทก็วางสายจากพวกระดับสูงของพวกเขาพร้อมกัน และหันไปมองซือเฟิง

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม จักรพรรดิคริมสันตัดสินใจที่จะเล่นการพนันกับคุณในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามเรามีเงื่อนไขในการจะทำแบบนี้ ….” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวช้าๆ “หากคุณไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขของเราได้ เราก็ไม่สามารถจะเป็นหุ้นส่วนกันในเรื่องนี้ได้”

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฝั่งของฉันเองก็เช่นกัน” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “คราวนี้คุณกำลังเล่นกับไฟที่อันตรายมากๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่กิลของเราจะต้องลังเล”

“ว่ามาเลย” ซือเฟิงไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่ทั้งสองพูดมากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วข้อเสนอของเขานั้นมันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของกิลเลย

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้เดิมพันแบบนี้เช่นกัน กิลทั้งสองนั้นก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมกิลทั้งสองถึงไม่ได้ปฎิเสธข้อเสนอของเขาโดยทันที แต่พวกเขากับเลือกจะยอมรับข้อเสนอของเขา และเพิ่มเงื่อนไขที่จะทำให้ตัวเองมีโอกาสรอดมากขึ้น ขึ้นมาแทน อันที่จริงซือเฟิงก็คงจะคิดว่ามันน่าแปลกมากด้วยซ้ำ หากกิลทั้งสองไม่ทำเช่นนี้

“ฉันเดาว่าความต้องการของทั้งสองกิลเราน่าจะเหมือนกัน ….” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ช่วยไม่ได้ “ถ้าแผนของสภาสิบแปดปีกล้มเหลว จักรพรรดิคริมสันต้องการผลกำไรครึ่งหนึ่งของเมืองปีกสีเงิน”

อันยีลดิ้งฮาร์ทพยักหน้าให้กับคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด ราคาที่ซือเฟิงขอให้ทั้งสองกิลของพวกเขาจ่ายนั้นมันไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ หากแผนการล้มเหลวจริงๆ กิลของพวกเขาจะถึงคราวล่มสลายแน่นอน อย่างไรก็ตามหากพวกเขามีรายได้จากเมืองปีกสีเงิน พวกเขาก็น่าจะพอมีสิทประคับประคองให้ตัวเองอยู่รอดต่อไปได้บ้าง

“นั่นไม่มีปัญหา ….” ซือเฟิงตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เนื่องจากเขาได้เลือกจะเชิญให้ทั้งสองกิลมาเป็นพันธมิตรในการเดิมพันครั้งใหญ่ เขาจึงต้องจัดหาเส้นทางที่พอจะลงได้ไว้ให้กับทั้งสองกิลอยู่แล้ว ไม่งั้นใครกันจะกล้ามาเสี่ยงกับเขา ?
ท้ายที่สุดแม้ว่าจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลจะสามารถสร้างความได้เปรียบได้เล็กน้อยผ่านหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ แต่นั่นมันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับอนาคตอยู่ดี พวกเขาน่าจะรู้เรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตามหากพวกเขาร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก และทำแผนการนี้ได้สำเร็จ พวกเขาก็จะก้าวขึ้นไปอยู่เหนือกว่ามหาอำนาจต่างๆแน่นอน แม้ว่าพวกเขาอาจจะยังไม่สามารถจะเทียบกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ก็ตาม

ความเด็ดขาดของซือเฟิงนั้นทำให้อิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทตกตะลึงไปชั่วขณะ

ในความเห็นของพวกเขา เมืองปีกสีเงินนั้นเป็นเส้นชีวิตเส้นสุดท้ายสำหรับการล่าถอยของสภาสิบแปดปีก หากแผนการนี้ล้มเหลว และมันก็จัดว่าเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ด้วย และพูดกันตามตรง มันก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นในอนาคต ซึ่งมันอาจกล่าวได้ว่าตราบใดที่เมืองปีกสีเงินยังคงอยู่ สภาสิบแปดปีกก็ยังมีสิทจะอยู่รอดได้ใน God domain อย่างไรก็ตามซือเฟิงกับเลือกจะตกลงกับเงื่อนไขของพวกเขาอย่างไม่ลังเล

สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือ ซือเฟิงไม่เคยมองว่าเมืองปีกสีเงินหรือเมืองป่าหินนั้นมีความสำคัญใดๆเลย

ป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กต่างหากเป็นหนทางที่เขาจะใช้ไปต่อ !!!

แม้ว่าแผนของเขาในครั้งนี้จะล้มเหลว และเขาสามารถจะรวบรวมวัสดุสำหรับการก่อสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กได้เพียงเล็กน้อย แต่เขาก็จะยังคงสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา กิลเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนเมืองหลักกิลสามเมืองกับป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กหนึ่งแห่ง ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงแค่เมืองปีกสีเงินที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานในชีวิตนี้ของเขาเลย มากกว่านี้นิดหน่อยเขาก็ยังยอมรับได้

ต่อจากนั้นอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ได้ทำการเซ็นสัญญากับกิลกับซือเฟิง ในนามของตัวแทนของกิลตัวเอง ซึ่งสัญญาได้ระบุว่าจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อสนับสนุนสภาสิบแปดปีกในช่วงเวลานี้ และในช่วงเวลานี้ ทั้งสองกิลก็จะทำการจ่ายเงินห้าล้านเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์สองล้านชิ้นให้กับสภาสิบแปดปีก ในการแลกเปลี่ยนสภาสิบแปดปีกจะต้องสละรายได้ทั้งหมดของเมืองปีกสีเงินให้กับทั้งสอง หากแผนการนี้ล้มเหลว

เมื่ออิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ททำการเซ็นสัญญาไป พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่เป็นการเดิมพันที่น่ากลัวและบ้าคลั่งที่สุดที่พวกเขาเคยมีส่วนร่วมมาเลยในตลอดชีวิตของพวกเขา

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณต้องการจะให้เราทำอะไรต่อไป ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทถามซือเฟิง

เมื่อเซ็นสัญญาไปแล้ว กิลทั้งสองของพวกเขาก็จะเริ่มเคลื่อนไหวตามข้อตกลงที่ทำไว้กับซือเฟิง

ยิ่งไปกว่านั้นอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ยังอยากรู้อยากเห็นมากๆว่าซือเฟิงต้องการความแข็งแกร่งของกิลทั้งสองของพวกเขาไปทำไม แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าการสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กนั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าใด แต่ราคาของมันก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดจะทำงานร่วมกันแล้วสามารถจะจ่ายได้แน่นอน

“ตอนนี้กิลทั้งสองของคุณยังไม่ต้องทำอะไรมาก ให้มุ่งเน้นไปที่การปิดล้อมเมืองสกายสปริง และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับก่อน ในขณะเดียวกันก็ให้ส่งบรรดาสมาชิกที่เชื่อใจได้ไปสำรวจชั้นที่สามสิบหรือสูงกว่าขึ้นไปของหอคอยเพื่อรับเอามรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามมาให้ได้มากที่สุด” หลังจากครุ่นคิดเพิ่มเติม ซือเฟิงก็กล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ฉันยังต้องการให้พวกคุณทั้งสองกิลจัดทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหนึ่งร้อยคนติดตามฉันไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ….”

“ทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหนึ่งร้อยคน ?” คำพูดของซือเฟิงทำให้อันยีลดิ้งฮาร์ทตกใจ

การจะจัดทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหนึ่งร้อยคนนั้นไม่ใช่งานง่ายเลย แม้แต่กับจักรพรรดิคริมสันและอันยีลดิ้งโซลก็ตาม อย่างดีที่สุดพวกเขาก็จะสามารถดึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของตัวเองมาได้ราวเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนเท่านั้น

“คุณบอกเราได้ไหมว่า พวกเราจะต้องไปที่ไหนกัน ?” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดนั้นจัดเป็นเสาหลักของกิลพวกเขา หากพวกเขารวบรวมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจำนวนมากมาปฎิบัติการในที่เดียว ส่วนอื่นๆของกิลพวกเขาจะต้องรับภาระหนักมาก

ซือเฟิงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “เทือกเขาที่ถูกทำลาย !!!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด