Reincarnation Of The Strongest Sword God 2775

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2775 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2775 ธุรกรรมที่มีมูลค่ามหาศาล

“สองคน ?”

ยู่หลัวมองไปยังซือเฟิงที่มองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าอย่างแปลกๆ

เนื่องจากมันไม่มีใครอยู่บริเวณที่ซือเฟิงมองไปเลย และสำหรับตัวเธอเอง แม้ว่าเธอจะขยายขอบเขตการรับรู้ของตัวเองในขอบเขตอนันต์ให้ไปถึงขีดสุดแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจ และการผันผวนใดๆของอากาศที่เป็นสัญญาณว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บริเวณที่ซือเฟิงมองเลย

ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้นั้นจะสามารถรับรู้ถึงความผันผวนของอากาศได้ ซึ่งพูดง่ายๆก็คือต่อให้สิ่งมีชีวิตนั้นใช้สกิลซ่อนตัว แต่พวกเขาก็จะยังคงมีการขยับ และหายใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบช้า หรือเร็วก็ตาม ซึ่งมันทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์สามารถสัมผัสได้ทันที แม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ตาม

แม้แต่แอสซาซินที่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด มันก็ยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใกล้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ได้ในระยะยี่สิบถึงสามสิบหลาโดยไม่ถูกตรวจพบ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะสามารถเข้ามาได้ในระยะสามสิบหลาห่างจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์เท่านั้นเต็มที่ ผู้เชี่ยวชาญระดับนี้จึงจะไม่รู้ตัว สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมน พวกเขาจะสามารถเข้าใกล้ในระยะยี่สิบหลาได้โดยที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์ไม่รู้ตัว แต่มันก็แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าซือเฟิงกำลังมองหาคนสองคนที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงยี่สิบหลา ซึ่งในระยะนี้นั้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ไม่น่าจะสามารถปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้

ไลอ้อนฮาร์ทหรี่ตามองซือเฟิงด้วยความระมัดระวังอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นชื่นชม

“ยอดเยี่ยม ! ตามที่คาดไว้จากผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเมืองหลักได้”

ในครั้งนี้เขาได้พาวินเชเซอร์ และคริมสันบีโลว์มาด้วยเพื่อลองทดสอบซือเฟิง คริมสันบีโลว์ นั้นอยู่ในอันดับสองในทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ในเรื่องการปกปิดตัวตนและซ่อนตัว โดยคริมสันบีโลว์นั้นได้ใช้โดเมนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในการช่วยปกปิดและซ่อนตัวตน แถมคริมสันบีโลว์ก็ยังสามารถปกปิดและซ่อนออร่าแห่งชีวิตได้ด้วยโพชั่นพิเศษ

ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่สามารถควบคุมโดเมนได้เลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่มีโดเมนของตัวเองก็ยังยากจะตรวจพบคริมสันบีโลว์ได้ ในระยะที่ใกล้กว่ายี่สิบหลา

แน่นอนว่าคริมสันบีโลว์ก็มีขีดจำกัดของตัวเอง โดยเธอจะสามารถเข้าใกล้เป้าหมายได้มากที่สุดราวสิบเจ็ดไม่ก็สิบหกหลา ซึ่งมันจัดว่าใกล้มากๆ และความสามารถนี้ของเธอ มันก็ทำให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ก็ยังอิจฉา

สำหรับวินเชเซอร์ เขาทรงพลังมากยิ่งกว่าคริมสันบีโลว์อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่เสร็จเรียบร้อย และได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่แล้ว การเข้าสู่สถานะ Stealth ของเขา มันไม่ได้เป็นเพียงการล่องหนหรือการปกปิดออร่าแห่งชีวิตอีกต่อไป แต่จริงๆแล้วมันเป็นการที่เขาได้เข้าสู่พื้นที่เงา ซึ่งพื้นที่เงานี้มันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อสภาพแวดล้อมและทุกอย่างโดยรวมเลย ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาจึงเป็นคนที่ไม่สามารถตรวจพบได้ เมื่อเข้าสู่สถานะนี้ ….

สำหรับระยะนั้นเขาก็สามารถขยับระยะเข้าใกล้ได้มากกว่าคริมสันบีโลว์อยู่นิดหน่อยเช่นกัน ซึ่งมันทำให้เขาอันตรายมากๆ ….

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับกำลังเรียกหาทั้งสองคนนั้นโดยตรง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือซือเฟิงนั้นได้ค้นพบตัวตนของคริมสันบีโลว์ และวินเชเซอร์แล้วแน่นอน

“บีโลว์ เชเซอร์ คุณสองคนออกมาได้แล้ว …” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปยังพื้นที่ว่างที่ซือเฟิงมองและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนและซ่อนอีกต่อไปแล้ว”

เมื่อไลอ้อนฮาร์ทกล่าวจบ มันก็มีร่างสองร่างค่อยๆปรากฎขึ้นบริเวณพื้นที่ว่างที่ซือเฟิงมองไปตั้งแต่แรก ซึ่งร่างสองร่างนั้นก็คือวินเชเซอร์ และคริมสันบีโลว์นั่นเอง โดยในเวลานี้ทั้งสองล้วนจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและประหลาดใจ

“ผู้บัญชาการ ก่อนหน้านี้ฉันได้ทำอะไรที่มันผิดธรรมชาติบ้างรึปล่าว ?” คริมสันบีโลว์อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามไลอ้อนฮาร์ท

เธอนั้นพยายามรักษาระยะและทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติที่สุด แต่กระนั้นซือเฟิงก็ยังคงค้นพบเธอ ซึ่งนี่มันทำให้เธอประหลาดใจมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผู้เล่นขั้นสี่นอกเหนือจากผู้บัญชาการค้นพบเธอในระยะนี้

“ไม่เลย คนๆนี้นั้นดูเหมือนจะเก่งกว่าที่เราคิดไว้มาก” ไลท์อ้อนฮาร์ทกล่าวพลางส่ายหัวเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะกระซิบกับคริมสันบีโลว์ว่า “ตั้งแต่นี้ไปคุณไม่ควรจะทำอะไรผลีผลามกับเขานะ”

ไม่เพียงแต่ชายตรงหน้าของเขาจะค้นพบคริมสันบีโลว์ ชายคนนี้ยังค้นพบวินเชเซอร์ด้วย ซึ่งแค่เรื่องนี้มันก็สามารถบอกได้แล้วว่าเขาไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าถ้าเลือกได้ไลอ้อนฮาร์ทก็ขอให้ทางเลือกในการเป็นศัตรูกันระหว่างพวกเขา เป็นทางเลือกสุดท้าย

คริมสันบีโลว์ และวินด์เชเซอร์พยักหน้าอย่างเงียบๆ

การสนทนาระหว่างทั้งสามคนนั้นเป็นไปเพียงช่วงสั้นๆสองถึงสามวินาที และในสายตาคนนอกพวกเขาก็เห็นแค่ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ ก่อนที่พวกเขาจะเห็นวินเชเซอร์ และคริมสันบีโลว์ปรากฎตัวออกมา และเดินผ่านไปอย่างช้าๆ

ในขณะที่ยู่หลัวซึ่งตอนนี้มายืนอยู่ข้างๆซือเฟิงแล้วก็มองไปที่ทั้งสองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“มันมีสองคนจริงๆ !!!”

เรื่องนี้ได้ทำลายโลกทัศน์ของเธอในเรื่องที่เธอคิดว่ารู้เกี่ยวกับการปกปิดและซ่อนตัวตนลงไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับยู่หลัวแล้ว ซือเฟิงนั้นมองไปที่ทั้งสองคนที่โผล่ออกมาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังมากขึ้นเล็กน้อย นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของสองคนนี้มันจัดว่าน่าทึ่งมากจริงๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาสามารถทะลุขีดจำกัดร่างมานาของเขาได้แล้ว และการรับรู้ของเขามันก็พัฒนาขึ้นมาก เขาก็คิดว่าเขาอาจจะตรวจไม่พบทั้งสองคนนี้ก็ได้

และหากทั้งสองคนนี้ไม่ได้มาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งวินเชเซอร์ เขาก็จะมีปัญหาในการจะรับมือกับเรื่องนี้แน่นอน

“เราไปที่ห้องรับรองเพื่อคุยกันต่อดีกว่า” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวแนะนำซือเฟิง

“โอเค” ซือเฟิงไม่ได้คัดค้านข้อเสนอนี้

เป้าหมายเดิมของเขาในการมายังโลกยุคโบราณของ God domain ก็คือการให้ได้มาซึ่งทรัพยากรจำนวนมาก ในขณะเดียวกันวิธีที่ดีที่สุดในการจะทำแบบนี้นั่นก็คือการร่วมมือกับผู้มีอำนาจท้องถิ่น เพราะท้ายที่สุดด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถรวบรวมทรัพยากรได้เร็วกว่าทำด้วยตัวเองมาก ในความเป็นจริงต้องบอกเลยว่าเขาจะสามารถเข้าถึงไอเทมที่ปกติไม่ปรากฎในตลาดได้ด้วย

การที่ไลอ้อนฮาร์ทได้ริเริ่มจะมาตามหาตัวเขาเองนั้นมันก็นับเป็นข่าวดีสำหรับซือเฟิง

ไลอ้อนฮาร์ทได้พาซือเฟิงและยู่หลัวไปยังห้องรับรองชั้นบนสุดที่เขาได้จองไว้

“ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท พูดสิ่งที่คุณต้องการมาตรงๆได้เลย มันจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาระหว่างเราทั้งสองฝ่าย” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขานั่งลงบนโซฟาตรงข้ามไลอ้อนฮาร์ท

“คุณนี่ช่างเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆแบล๊คเฟรม ….” ไลอ้อนฮาร์ทยิ้ม เมื่อเขาได้ยินคำพูดของซือเฟิง “ฉันเองก็คิดแบบเดียวกันกับคุณ งั้นในกรณีนี้ ฉันจะขอกล่าวตรงๆเลยแล้วกัน สกายแฟร์ต้องการจะซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำแห่งชีวิตทั้งหมดที่คุณจะขาย”

“ดูเหมือนว่าคุณจะมีความทะเยอทะยานมากทีเดียว ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท นี่คุณวางแผนที่จะผูกขาดเมืองอุกกาบาตเลยสินะ ?” ซือเฟิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของไลอ้อนฮาร์ท เขากล่าวต่ออย่างใจเย็นว่า “แน่นอนว่าเราสามารถทำข้อตกลงกันได้ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามฉันมีไอเทมทั้งสองอย่างนี้จำนวนมาก ฉันกลัวว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของคุณจะไม่สามารถรับซื้อมันไปได้ทั้งหมด”

ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบ วินเชเซอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของซือเฟฟิงก็หัวเราะ

“ไร้สาระน่า !! มันไม่มีอะไรในเมืองอุกกาบาตที่ทีมนักผจญภัยของเราไม่สามารถรับซื้อได้ทั้งหมด !!!” วินเชเซอร์กล่าว ก่อนที่เขาจะมองไปยังซือเฟิง และพูดต่อว่า “แน่นอนว่านั่นอยู่ภายใต้เงื่อนไขของราคาที่ยุติธรรม”

เมื่อได้ยินการยั่วยุของวินเชเซอร์ ซือเฟิงก็ส่ายหัวและยิ้ม “ความจริงแม้ฉันจะขายพวกมันในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อคริสตัลวิญญาณหนึ่งชิ้น พวกคุณก็ไม่สามารถจะรับซื้อมันได้ทั้งหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงน้ำแห่งชีวิตเลย”

เขามีคริสตัลแห่งวิญญาณอยู่ทั้งหมดสี่สิบสามชิ้น หากเขาขายมันในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อชิ้น ผลรวมทั้งหมดมันก็จะคิดเปป็นคริสตัลเวทย์มนต์ 6.45 ล้านชิ้น แม้ว่าโลกโบราณของ God domain จะอุดมไปด้วยทรัพยากร แต่กองกำลังของผู้เล่นก็ยังคงมีขอบเขตปฎิบัติที่จำกัดมากๆอยู่ในเมืองๆเดียว ดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถจ่ายมันทั้งหมดได้แน่นอน

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง วินเชเซอร์ซึ่งตอนแรกวางแผนจะยั่วยุและเย้ยหยันซือเฟิงต่อก็เงียบลงไป มันไม่มีทางที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่อย่างซือเฟิงจะไม่รู้เกี่ยวกับสถานะของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ และความมั่งคั่งที่พวกเขามีในเมืองอุกกาบาต ซึ่งการที่ซือเฟิงพูดแบบนี้ออกมา มันก็หมายความว่าเขามีความมั่นใจว่าไอเทมทั้งสองอย่างที่เขาจะขายนั้นมีเยอะกว่าความมั่งคั่งของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มาก นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าเขาอาจจะมีผู้สนับสนุนที่ทรงพลังอยู่เบื้องหลังอีก

ในขณะเดียวกัน หลังจากได้ยินคำตอบของซือเฟิงทั้งยู่หลัว และคริมสันบีโลว์ก็อ้าปากค้าง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะร่ำรวยขนาดนี้

พวกเขาได้ตรวจสอบข้อมูลของคริสตัลแห่งวิญญาณมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ดีว่ามันมีค่าและหาได้ยากมากๆ แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับพึ่งประกาศว่าสกายแฟร์จะไม่สามารถซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณทั้งหมดที่เขามีได้ ซึ่งมันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าซือเฟิงมีคริสตัลแห่งวิญญาณจำนวนมากอยู่ในมือ

นี่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนเดียวมีคริสตัลแห่งวิญญาณมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?

“คุณนี่ช่างเป็นคนที่พิเศษจริงๆแบล๊คเฟรม” ไลอ้อนฮาร์ทยิ้มขึ้นมาทันที และยิ่งไปกว่านั้นนี่มันยังเป็นรอยยิ้มที่จริงใจมาก “ฉันขอโทษคุณแทนคนของฉันด้วย ในขณะเดียวกันฉันก็หวังว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะสามารถสร้างความร่วมมือระยะยาวกับคุณได้ คุณคิดว่าไง ?”
“ฉันยอมรับว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของเรานั้นไม่สามารถจะนำคริสตัลเวทย์มนต์มาได้มากพอจะซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณทั้งหมดของคุณ อย่างไรก็ตามทีมนักผจญภัยของเราก็จัดเป็นกองกำลังผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดสามอันดับแรกของเมืองอุกกาบาต แม้ว่ารายได้ต่อวัน รวมทั้งกับที่เราเก็บสะสมมามันจะไม่ทำให้เราสามารถซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณและน้ำแห่งชีวิตทั้งหมดที่คุณมีในครั้งเดียว แต่ฉันก็มั่นใจว่าเราน่าจะซื้อทั้งหมดได้ในสิบสองครั้งหรือมากกว่านั้นนิดหน่อย”

“นอกจากนี้ฉันขอรับรองเลยว่า ไม่เพียงแต่เราจะซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณแต่ละชิ้นในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สองแสนชิ้น แต่เรายังจะรับประกันการทำธุรกรรมเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามล้านชิ้นต่อสัปดาห์ในทุกสัปดาห์ด้วย คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้แบล๊คเฟรม ?”

ยู่หลัวอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เมื่อได้ยินคำพูดของไลอ้อนฮาร์ท แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะมีความมั่งคั่งที่น่ากลัวแบบนี้ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆในโลกยุคปัจจุบันของ God domain ก็ยังดูจะห่างไกลจากทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มากๆ เมื่อพูดถึงการเก็บรวบรวมคริสตัลเวทย์มนต์

ยิ่งไปกว่านั้นไลอ้อนฮาร์ทยังเพิ่มราคาคริสตัลแห่งวิญญาณเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สองแสนชิ้นต่อชิ้นด้วย สกายแฟร์น่าจะเป็นผู้มีอำนาจกลุ่มเดียวในเมืองอุกกาบาตที่สามารถจะเสนอราคาแบบนี้ได้

ท้ายที่สุดแล้วที่นี่นั้น เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานนั้นมีราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์แค่ห้าแสนชิ้นเท่านั้น ในขณะที่อาวุธที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานจะมีมูลค่าเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ปประมาณหนึ่งล้านชิ้น และจากคำสัญญาของไลอ้อนฮาร์ทที่จะทำธุรกรรมเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นทุกสัปดาห์ มันก็หมายความว่าสกายแฟร์จะทำการแลกเปลี่ยนอาวุธที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานสามชิ้นทุกสัปดาห์ !!

“ผู้บัญชาการ ?” ในเวลานี้แม้แต่วินเชเซอร์ก็ยังตกตะลึงกับข้อเสนอของไลอ้อนฮาร์ท

ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์นั้นปฎิบัติการอยู่แค่ในพื้นที่รอบๆและใกล้เคียงเมืองอุกกาบาตเท่านั้น และแม้ว่ามันจะมีทรัพยากรมากมายอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หากจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ไลอ้อนฮาร์ทเสนอซือเฟิงจริงๆ ทีมนักผจญภัยของพวกเขาก็จะต้องรัดเข็มขัดและประเมินค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์อย่างเคร่งครัดเลย

“โอเค ฉันยินดีจะยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงทั้งหมดนี้” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็คิดว่าราคานี้มันน่าจะเป็นราคาที่ดีที่สุดที่เขาจะสามารถทำได้จากคริสตัลแห่งวิญญาณแล้ว และแม้ว่าการเอามันไปประมูลอาจจะทำให้เขาได้ราคามากกว่านี้ แต่มันก็จะมากกว่านี้ไม่มากนักแน่นอน “อย่างไรก็ตามก่อนหน้าจะเซ็นสัญญากันแบบเป็นทางการ ฉันจะขอทดสอบคุณหน่อยผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท เราสามารถจะยืนยันความมั่นคงในการทำธุรกรรมของเราได้โดยใช้ความสามารถของคุณเป็นเกณฑ์ คุณคิดว่าไง ?”

“ทดสอบผู้บัญชาการของเรา ?” คำพูดของซือเฟิงทำให้วินเชเซอร์โกรธ

สำหรับคริมสันบีโลว์ ใบหน้าของเธอเองก็บิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจเช่นกัน แม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังไม่กล้าจะทดสอบคุณสมบัติของผู้บัญชาการของพวกเขาเพื่อจะร่วมมือกันเลย แต่ตอนนี้คนนอกที่พวกเขาไม่ได้รู้ต้นกำเนิดใดๆอย่างซือเฟิงกับคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เห็นได้ชัดว่าในสายตาของซือเฟิงเขาไม่ได้มองทีมนักผจญภัยสกายแฟร์สูงมากนัก ….

อย่างไรก็ตามก่อนที่วินเชเซอร์ หรือคริมสันบีโลว์จะทันได้พูดอะไร ไลอ้อนฮาร์ทก็ยื่นมือส่งสัญญาณให้พวกเขาห้ามพูดอะไร ก่อนที่เขาจะมองไปยังซือเฟิงด้วยแววตาที่มุ่งมั่นและกล่าวว่า “คุณต้องการจะทดสอบยังไง แบล๊คเฟรม ?”

“ง่ายมาก แค่คุณรอดจากการโจมตีหนึ่งครั้งของฉันให้ได้ คุณก็จะผ่านการทดสอบ” ซือเฟิงกล่าวอย่างเด็ดขาด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด