Reincarnation Of The Strongest Sword God 2790

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2790 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2790 การต่อสู้ที่น่าตกตะลึง

ในขณะที่ประตูหินนี้มันเปิดออกมาได้เพียงครึ่งเดียว มันก็มีเสียงที่เย็นชาและน่ากลัวดังออกมาจากประตูหิน ซึ่งมันทำให้ซือเฟิง และคนอื่นๆ รวมไปถึงมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตัวสั่น

“เจ้ากิ้งก่าทองน้อยที่น่ารัก ไม่สิ นี่มันไม่ใช่ในโลกปกตินี่นา …. นี่มันน่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ !!! ไบเบิ้ลแห่งความมืดที่เสียหายงั้นหรอ ? โอเคเลย นี่มันยอดเยี่ยมมากๆ !!!”

คำพูดของปีศาจที่ดังออกมาจากประตูหินนั้นมันพุ่งเข้าสู่ความคิดและจิตใจของทุกคนโดยตรง

แม้ว่าเสียงนั้นมันจะฟังดูเหมือนไม่แยแสอะไร แต่แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากประตูหินในปัจจุบันมันก็ทำให้ทุกคนขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ และแม้แต่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่พวกเขาทั้งหมดล้วนหวาดกลัวก็ยังจ้องมองไปยังประตูหินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน

“ราชันปีศาจขั้นห้า ?” ซือเฟิงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันและพลังงานที่น่ากลัวที่หลั่งไหลออกมาจากประตูหินได้อย่างชัดเจน

ตามความคาดหวังของซือเฟิงนั้น เขาจะรู้สึกโอเคมากแล้วถ้าเขาสามารอัญเชิญเจ้าชายปีศาจที่มีความแข็งแกร่งเป็นลำดับต้นๆออกมาได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วไบเบิ้ลแห่งความมืดนี้มันยังคงไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้วัดจากแรงกดดันและพลังงานที่น่ากลัวที่หลั่งไหลออกมาจากประตูหิน สิ่งที่เขาอัญเชิญออกมามันจะต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้าชายปีศาจแน่นอน

และพูดกันตามตรง ปีศาจด้านหลังประตูหินนั้นน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขั้นห้าที่เขาเคยพบมา

“ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นมันไม่ใช่ของที่คุณจะสามารถถือครองได้ ชายหนุ่มตัวน้อย ส่งมันมาให้ฉัน !!! เพียงแค่คุณส่งมันมาให้ฉัน ฉันก็จะสามารถลงมาบนโลกนี้ได้อย่างแท้จริง และทำให้โลกนี้กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับตระกูลของฉันที่จะอาศัยอยู่ !!!”

สิ่งที่ปีศาจด้านหลังประตูหินทำนั้นก็เพียงแค่พูดเท่านั้น แต่มันกับทำให้ซือเฟิงรู้สึกว่าเขาเริ่มจะเสียการควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดในมือแล้ว และตอนนี้เขาก็รู้สึกราวกับว่าไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นกำลังต้องการจะบินเข้าไปหาปีศาจที่ด้านหลังประตู

สิ่งนี้มันทำให้ซือเฟิงตกตะลึงมากๆ เขาไม่เคยเห็นปีศาจที่สามารถจะต้านทานพลังของไบเบิ้ลแห่งความมืดได้มาก่อนเลย นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่มันพยายามจะเข้าควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดอีก ….

“ชายหนุ่มตัวน้อย ไม่ต้องกังวลไป เมื่อฉันได้รับไบเบิ้ลแห่งความมืด และได้ลงมาบนโลกอย่างสมบูรณ์พร้อมกับตระกูลของฉัน ฉันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตรอดไป …”

เมื่อเสียงนี้พูดจบ ซือเฟิงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าไบเบิ้ลแห่งความมืดในมือของเขานั้นได้ตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างมันกับเขา และตอนนี้มันก็ทำให้เขาต้องพยายามควบคุมมันด้วยพลังดิบที่เขามีเพียงอย่างเดียว

“ไอ้มนุษย์เวร !! แกกล้าจะอัญเชิญมันออกมาจริงๆ !!!” เห็นได้ชัดว่ามังกรทองหนุ่มนั้นตระหนักได้ถึงตัวตนของสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูหิน ซึ่งนี่ก็ทำให้มันก็อดไม่ได้ที่จะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวออกมาและพูดว่า “ตายไปซะ !! ฉันจะไม่ปล่อยให้แกอัญเชิญมันออกมาได้สำเร็จ !!!”

หลังจากมังกรทองหนุ่มพูดจบ มันก็อ้าปากของมันออก และวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสามชั้นก็ปรากฎขึ้นที่บริเวณปากของมัน

“ไม่ดีแล้ว ! มันจะใช้ลมหายใจมังกร !! ทุกรีบหลบเร็ว !!!” ซือเฟิงตกตะลึง และรีบออกคำสั่งทันที เมื่อเขาได้เห็นฉากตรงหน้า

ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะสามารถอัญเชิญปีศาจตัวนี้ออกมาได้สำเร็จไหม หรือว่าเขาจะสามารถควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดได้ไหม ตอนนี้เขาและทุกคนจะต้องเอาตัวรอดจากลมหายใจมังกรนี้ให้ได้ซะก่อน

พลังของลมหายใจมังกรขั้นสี่นั้นจะเทียบเท่ากับพลังการโจมตีที่ขั้นกลาง ของขั้นห้าแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสามเลย แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็จะตายลงทันที หากเผชิญกับมันโดยตรง !!! ทางเดียวที่พวกเขาทำได้ตอนนี้คือต้องหลบมันให้ได้

อย่างไรก็ตามมังกรทองหนุ่มนั้นรวบรวมมานาเพื่อใช้ลมหายใจมังกรได้เร็วเกินไป ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะทันได้ตอบสนองได้ลมหายใจมังกรก็ได้ก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์และถูกปล่อยให้พุ่งเข้ามาแล้ว ซึ่งมันรวดเร็วและมีระยะกลืนกินพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะหลบได้

เมื่อลมหายใจมังกรเคลื่อนผ่านพื้นที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ พวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันได้เปลี่ยนทุกอย่างในบริเวณที่มันเคลื่อนผ่านให้เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นขั้นสี่จะสามารถรับมือได้เลย

“มันจบแล้ว …” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปที่ลมหายใจมังกรที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความสิ้นหวัง ก่อนที่เขาจะหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม

ขณะที่คนอื่นๆนั้นถ้าไม่ได้มีท่าทีเป็นแบบไลอ้อนฮาร์ท พวกเขาก็จะมีใบหน้าที่บิดเบี้ยว หรือไม่ก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เดิมทีพวกเขานั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะต่อสู้กับมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ หลังจากที่ได้สัมผัสถึงพลังของสิ่งมีชีวิตที่ซือเฟิงกำลังทำการอัญเชิญมา แต่อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นลมหายใจมังกรที่โจมตีเข้ามานี้ พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าความคิดของพวกเขามันเป็นเรื่องตลก และทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ก็คือรอความตายเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ลมหายใจมังกรกำลังจะกลืนกินซือเฟิงและคนอื่นๆ มันก็มีกระแสมานาที่เย็นยะเยือกไหลออกมาจากประตูหินที่ตอนนี้เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง

“กิ้งก่าตัวน้อยคิดจะหยุดการมาของฉันงั้นหรอ ?!”

ทันใดนั้นมือขนาดยักษ์ก็ปรากฎขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้าซือเฟิง และคนอื่นๆ พลางคว้าลมหายใจมังกรเอาไว้ ก่อนจะบดขยี้ทำให้มันหายไปในทันที

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

ลมหายใจมังกรที่ทำลายได้ทุกสิ่งที่ขวางหน้ามันกับถูกหยุดเอาไว้ได้ง่ายๆ นี่ปีศาจด้านหลังประตูนี้แข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?!

อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิง เมื่อได้เห็นฉากนี้นั้น ใบหน้าของเขาไม่ได้ดูตกตะลึง หรือดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามมันกับมืดมนยิ่งกว่าเดิม

แม้ว่าประตูหินจะพึ่งเปิดได้เพียงครึ่งเดียว แต่ปีศาจด้านหลังประตูนั่นก็สามารถจะหยุดการโจมตีที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นกลาง ของขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย นี่มันเห็นได้ชัดเลยว่าปีศาจที่อยู่ด้านหลังประตูนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้า และมันไม่ใช่ราชันปีศาจทั่วไปแน่นอน

มันจะต้องเป็นหนึ่งในราชันปีศาจที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าของมันใน God domain

หากราชันปีศาจขั้นห้าแบบนี้ได้รับอนุญาติให้ลงมาในโลก God domain แบบสมบูรณ์จริงๆ แม้ว่ามันจะเป็นในสมัยโบราณก็ตาม แต่มันก็ยังจะนับว่าเป็นหายนะสำหรับทั้ง God domain แน่นอน

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ซือเฟิงและคนอื่นๆจะทันได้หายจากอาการที่พวกเขาเป็นอยู่ทั้งหมด มังกรทองหนุ่มก็ปรากฎตัวขึ้นเหนือหัวของพวกเขาอีกครั้ง โดยมีอักษรรูนสีทองปกคลุมไปทั่วร่างกายของมัน

“นี่มันยังแข็งแกร่งได้มากกว่านี้อีกงั้นหรอ ?!” ซือเฟิงมองไปที่มังกรทองหนุ่มที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาด้วยท่าทีตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตัวนี้มันแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดว่าเอาไว้มาก ตอนแรกพลังของมังกรทองหนุ่มก็สามารถจะเทียบเคียงได้กับสิ่งมีชีวิตขั้นห้าแล้ว แต่ตอนนี้มันกับเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสองเท่า ซึ่งในตอนนี้แม้ว่าเขาจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ทั้งหมดที่เขามี แต่เขาก็จะไม่สามารถรับมือกับการโจมตีต่อไปของมังกรทองหนุ่มได้แน่นอน

“ปีศาจที่น่ารังเกียจ !!! ฉันรู้ดีว่าคุณไม่สามารถจะใช้ความแข็งแกร่งของคุณได้อย่างเต็มที่หรอกเมื่อถูกอัญเชิญผ่านประตูนี้ นี่ไม่ต้องพูดถึงในตอนที่ประตูยังเปิดไม่ถึงครึ่งเลย !!! ฉันเชื่อว่าคุณจะรับการโจมตีของฉันได้อีกแค่ไม่กี่ครั้งหรอก และนี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าตราบใดที่ผู้อัญเชิญของคุณตายลง การอัญเชิญก็จะถูกยกเลิก และคุณก็จะต้องอยู่ในที่ของคุณต่อไปอีกตลอดกาล !!!”

มังกรทองหนุ่มมองไปที่ประตูหินด้วยแววตาดูถูก และเย้ยหยัน ก่อนที่มันจะเปิดปากของมันขึ้น และเตรียมจะใช้ลมหายใจมังกรอีกครั้ง

และในครั้งนี้ลมหายใจมังกรที่มังกรทองหนุ่มจะใช้นั้มันก็ดูน่ากลัวกว่าครั้งก่อนมากๆ เพราะตอนนี้ซือเฟิงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามานาโดยรอบบริเวณถูกดูดไปรวมรอบปากของมัน

ซึ่งในปัจจุบัน สถานการณ์นี้มันทำให้พวกผู้เล่นขั้นสามรู้สึกอัดอัดมากๆ และพวกเขาก็แทบไม่สามารถจะควบคุมมานาของตัวเองได้ สำหรับผู้เล่นขั้นสี่ พวกเขาดูดีกว่านิดหน่อย แต่ท้ายที่สุดแล้วพูดกันตามตรงในสถานการณ์แบบนี้ แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังไม่สามารถจะแสดงพลังการต่อสู้ของตัวเองออกมาได้ถึงครึ่งหนึ่งเลย ….

“นี่คือพลังที่แท้จริงของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่งั้นหรอ ?!” ไลอ้อนฮาร์ทรู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดในตอนนี้

มันเป็นเรื่องตลกชัดๆที่พวกเขาคิดจะมาท้าทายมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ ช่องว่างระหว่างชนชั้นสิ่งมีชีวิตของพวกเขามันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถทดแทนได้ด้วยผู้เล่นขั้นสี่ที่เลเวลนี้เพียงแค่เก้าคนเลย

ในเวลานี้ ซือเฟิงก็ได้เข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าทำไมเควสนี้ถึงอยู่ในระดับเทพนิยายที่อ่อนแอ และทำไม God domain ถึงยกย่องผู้ที่สามารถสังหารมังกรได้อย่างมาก

มันจะจัดเป็นปาฎิหาริย์มากจริงๆ ถ้าใครก็ตามที่อยู่ในขั้นเดียวกันกับมังกรสามารถรับมือกับมันได้ ไม่ต้องพูดถึงการฆ่ามันเลย ซึ่งหากพวกเขาที่อยู่ในขั้นสี่ตอนนี้ทำได้สำเร็จ ความสำเร็จของพวกเขามันก็เหมาะที่จะเรียกว่าตำนาน และเทพนิยายได้สบายๆเลย

Roar!

เมื่อสิ้นเสียงคำราม มังกรทองหนุ่มก็ได้ปล่อยลมหายใจมังกรพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

“กิ้งก่าตัวน้อย ตอนนี้คุณทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้ว !!!”

ตอนนี้ราชันปีศาจด้านหลังของประตูหินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวมากๆที่มังกรทองหนุ่มพยายามจะขัดขวางไม่ให้มันออกมาจากประตู

ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุดก็โผล่ออกมาจากประตูหิน ก่อนที่มันจะทำให้เกิดมือขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากพื้นดิน โดยมือขนาดยักษ์นี้มันใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ราวสี่ถึงห้าเท่า และมือนี้มันก็ดูเหมือนว่าจะสามารถจับตัวมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ราวกับเป็นของเล่นเลย

ตู้ม !

มือนี้ได้ทำการหยุดลมหายใจมังกรไว้อีกครั้ง ก่อนที่จะทำการคว้าตัวมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ไว้ทั้งตัว ซึ่งมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ก็ได้แต่พยายามคำรามและดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเท่านั้นเมื่อถูกจับด้วยมือนี้

หลังจากนั้นมือนี้ก็ได้ทำการจับมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรง

ตู้ม !

เพียงแค่ทุ่มครั้งเดียวนี้ มันก็ทำให้เกิดปล่องภูเขาไฟที่มีรัศมีหนึ่งพันหลา และลึกหนึ่งร้อยเมตร ผลกระทบจากเรื่องนี้มันได้ฆ่าทุกคนไปในทันที ยกเว้นก็แต่ซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆ และทีมฮีลเลอร์ที่ได้ดื่มโพชั่นเหล็กกล้าเข้าไป

แต่แม้ว่าซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆ และทีมฮีลเลอร์จะรอดมาได้ แต่ HP ของพวกเขาส่วนใหญ่ก็ลดลงไปเกือบสองในสาม ขณะที่มีบางคนที่ HP ถึงจุดวิกฤตใกล้ตายด้วยซ้ำ

และหลังจากฝุ่นที่คลุ้งไปทั่วจากการโจมตีนี้หายไป ร่างของมังกรทองหนุ่มที่ดูสะบักสะบอมก็ได้ถูกเปิดเผยให้เห็นออกมา ตัวมังกรทองหนุ่มนั้นพยายามที่จะลุกขึ้นยืน และในขณะที่มีเลือดท่วมไปทั่วร่างของมัน ตอนนี้ออร่าแห่งชีวิตของมันนั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด และ HP ของมันก็ลดลงมาเหลือหกสิบสามเปอเซ็นต์แล้ว

มังกรทองหนุ่มขั้นสี่นั้นบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของราชันปีศาจขั้นห้าด้านหลังประตูหิน ….

“แข็งแกร่งมากๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของราชันปีศาจที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้างั้นหรอ ?!!” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างตกตะลึง

เขาไม่นึกเลยว่าช่องว่างระหว่างพลังของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ กับราชันปีศาจที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้ามันจะแตกต่างกันมากขนาดนี้

ถ้าหากประตูหินนี้ไม่ได้ทำให้ราชันปีศาจตัวนี้อ่อนแอลง มังกรทองหนุ่มน่าจะตายภายในการโจมตีเดียวเลยด้วยซ้ำ !!!

อย่างไรก็ตาม หลังจากราชันปีศาจขั้นห้าตัวนี้ใช้พลังเมื่อครู่ไป การควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดของมันที่มันใช้พลังเข้ามาทดแทนและตัดการเชื่อมต่อของซือเฟิงกับไบเบิ้ลแห่งความมืดก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด จนซือเฟิงเริ่มสามารถกลับเข้ามาควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดได้ ดังนั้นซือเฟิงจึงได้เลือกที่จะใช้โอกาสนี้ยุติการอัญเชิญกลางคันทันที แม้ว่ามันจะมีราคาที่เขาต้องจ่ายในการทำแบบนี้ แต่เขาก็ยอม

เพราะท้ายที่สุดถ้าราชันปีศาจขั้นห้าที่แข็งแกร่งแบบนี้หลุดออกมา ทุกอย่างที่เขาทำมาตั้งแต่ต้นมันจะได้จบสิ้นลงแน่นอน การตายด้วยน้ำมือของปีศาจแบบนี้มันจะไม่จบลงด้วยการสูญเสียเลเวลแค่หนึ่งหรือสองเลเวล …. และอย่างดีที่สุดเขาก็อาจจะต้องกลายเป็นหุ่นชิดของราชันปีศาจขั้นห้าตัวนี้ตลอดไป ซึ่งมันจะทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลบไอดีทิ้งและเริ่มต้นใหม่ …. ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะปล่อยให้ราชันปีศาจขั้นห้าแบบนี้หลุดออกมาได้แน่นอน

“ไอ้พวกผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์ !!! ครั้งหน้าฉันจะทำให้พวกแกต้องจ่ายอย่างหนักเลยสำหรับเรื่องในวันนี้ !!!”

ราชันปีศาจส่งเสียงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ในขณะที่มันทำได้แค่เฝ้ามองประตูที่ค่อยๆปิดลง และไม่ว่ามันจะพยายามโจมตีหรือกระแทกประตูอย่างบ้าคลั่งแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถจะฝ่าประตูออกมาได้ โชคดีที่อักษรรูนและพลังต้องห้ามที่อยู่บนประตูนั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหยุดมันเอาไว้ไม่ให้ออกมาได้

ในท้ายที่สุดหลังจากผ่านไปราวยี่สิบวินาที ประตูหินนี้ก็ปิดสนิทและหายไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้มันก็เหลือเพียงแต่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่บาดเจ็บสาหัส ซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่แปดคน และทีมฮีลเลอร์เท่านั้นที่ยังอยู่

“คุณซือเฟิง เราจะเอายังไงกันดี ?” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปที่ประตูหินที่หายไปด้วยความรู้สึกลังเลเล็กน้อย

ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเขาควรจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อโจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ หรือหนี … เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่ามังกรทองหนุ่มขั้นสี่จะบาดเจ็บสาหัส และอยู่ในสถานะอ่อนแอ แต่มันก็ยังไม่แน่ว่าพวกเขาจะสามารถรับมือกับมันได้

“ยังจำเป็นต้องถามอีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงพูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ตอนนี้มันเป็นโอกาสเดียวที่ฉันคิดว่าเรามีสิทจะจัดการมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ หากเราพลาดโอกาสนี้ไป เราคงจะไม่มีโอกาสอื่นแล้ว ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ทอยากจะพลาดโอกาสนี้งั้นหรอ ?”

เมื่อซือเฟิงพูดจบ ไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา

ตอนนี้มันเป็นโอกาสดีที่สุดแล้วสำหรับพวกเขา ไม่งั้นพวกเขาคงต้องรอจนกว่าตัวเองจะไปถึงขั้นห้าก่อนจึงจะสามารถมาล่ามังกรแบบนี้ได้อีกครั้ง

“ไม่แน่นอน …” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวพลางมองไปยังมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตรงหน้าของเขาด้วยความมุ่งมั่น “งั้นเราก็รีบระดมโจมตีมันกันเลย อย่าปล่อยให้มันได้ฟื้นฟูตัวเองได้ !!!”

เมื่อไลอ้อนฮาร์ทกล่าวจบ เขาก็ยกโล่ของเขาขึ้น และวิ่งนำหน้าคนอื่นๆพุ่งเข้าใส่มังกร ขณะที่คนอื่นๆก็ตามเขามาอย่างกระชั้นชิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด